ทันทีที่เข้ามา คุณหมอหลิวก็ตำหนิหลินเฟยอย่างไม่ไว้หน้าอิฐหน้าพรหม และตอนนี้ท่าทีของเธอก็ยิ่งแข็งกร้าวเป็นอย่างมากถึงขั้นที่ว่าถังรั่วเสวี่ยที่ไม่ค่อยจะต่อปากต่อคำกับใคร ยังอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า"คุณหมอท่านนี้ ไม่มีความแน่นอนในทุกสิ่ง คุณไม่สามารถตัดสินทักษะทางการแพทย์ของหลินเฟย เพียงแค่เห็นว่าอายุของเขายังน้อยแบบนี้""ที่หมู่บ้านเถาฮวา เขาได้ช่วยรักษาคนมาแล้วมากมาย คนแถวบ้านย่านนี้ต่างก็ยอมรับในความสามารถของหลินเฟยกันทั้งนั้น""แม้กระทั่งตัวฉันเองที่ก่อนหน้านี้ตาบอด เขาก็เป็นคนที่มารักษาให้หายขาด""คุณให้หลินเฟยทำการรักษาคุณท่านเจียงเถอะนะ""อีกอย่าง คุณท่านเจียงก็ไม่ได้ถูกหลินเฟยทำให้หมดสติไป เพียงแต่เมื่อครู่หลินเฟยได้นวดให้กับคุณท่านเจียง เพื่อทำให้คุณท่านเจียงหลับไปเสียก่อนก็เท่านั้น"คุณหมอหลิวไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย พร้อมพูดอย่างเด็ดขาดออกมาว่า"ฉันบอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้!""พวกคุณจะออกหรือไม่ออก? ถ้าไม่ออก ก็อย่าโทษที่ฉันจะให้คนไล่ตะเพิดออกไปก็แล้วกัน!""คุณ...หมอหลิว ทำไมคุณถึงไม่เชื่อหลินเฟยขนาดนี้ล่ะ?""ก่อนหน้านี้ที่ซี่โครงของฉันหัก หลินเฟยนี่แหละที่ช่วยรักษาให
"คุณ…" หมอหลิวถูกหลินเฟยตอกกลับจนเดือดปุดๆแต่เธอก็ไม่ค่อยเข้าใจแพทย์แผนจีนเท่าไหร่นัก จึงไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้นแม้ว่าจะไม่ค่อยชอบหลินเฟย แต่หมอหลิวก็ยังพุ่งความสนใจไปยังการฝังเข็มที่แสนจะน่าทึ่งของหลินเฟยอย่างควบคุมไม่ได้เธอรู้สึกว่าเทคนิคการฝังเข็มของหลินเฟยนั้น ชำนาญกว่าแพทย์แผนจีนอาวุโสทั้งหลายที่มีชื่อเสียงที่เธอได้เคยพบมาเสียอีกหมอหลิวคนนี้พูดถูก ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสแบบนี้ของเจียงกั๋วลี่ หากเป็นการฝังเข็มธรรม โดยไม่ใช้ยาอะไรช่วยเสริมมันก็เป็นเรื่องยากมากที่จะมีผลต่อการรักษาแต่ทว่าในขณะที่หลินเฟยได้ทำการฝังเข็ม เขาก็ได้ฉีดพลังจิตในตัวเข้าไปหล่อเลี้ยงอาการบาดเจ็บของเจียงกั๋วลี่ไปด้วยนอกจากนี้ เขายังได้อาศัยความทรงจำที่หลงอู่ได้ให้มา ทำการรักษาด้วยลมปราณอีกต่างหากดังนั้นการรักษากระดูกหักและอาการบาดเจ็บที่ปวดของเจียงกั๋วลี่โดยไม่ใช้ยาอะไรเสริม มันจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไรไม่นาน หลังจากที่สิบนาทีผ่านไปหลินเฟยก็ได้ทำการฝังเข็มเสร็จ โดยที่สีหน้าของเจียงกั๋วลี่ก็ค่อยๆ มีเลือดฝาดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ลมหายใจของเขายังสม่ำเสมอ และหัวใจก็เต้นเป็นจังหวะหลังจ
เธอเพิ่งจะสามสิบกว่าๆ อยู่ในช่วงที่ผิวพรรณขาวใสและเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ดูแล้วน่าเจริญตาเจริญใจเสียจริงๆ"ผมชื่อหลินเฟยครับ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ หมอหลิวอย่าได้ไปใส่ใจเลย"หลินเฟยโบกมือไปมา พร้อมพูดอย่างสบายๆเขาเหลือบมองดูหางตา จากนั้นก็มองอีกหน่อยและพูดต่อไปว่า"ยิ่งไปกว่านั้น หลายๆ เรื่องก็ต้องเห็นกับตาของตัวเองถึงจะเชื่อ หมอหลิวไม่เคยได้พบเห็น มันก็เป็นธรรมดาที่จะไม่เชื่อ""หมอหลิวรีบลุกขึ้นมาดีกว่านะ"หลินเฟยดูเหมือนจะไม่ใส่ใจสักเท่าไหร่แต่ทว่าหลิวเชี่ยนเชี่ยนกลับรู้สึกผิดมากไปกว่าเดิม เธอยิ่งก้มต่ำลงและพูดว่า "แม้จะพูดแบบนี้ แต่เมื่อครู่ฉันทำไม่ถูกจริงๆ""ฉันจำเป็นต้องขอโทษคุณจากใจจริง!"พอพูดจบ หลิวเชี่ยนเชี่ยนถึงได้ลุกขึ้น และพูดกับหลินเฟยด้วยแววตาที่อ้อนวอน"ไม่รู้ว่าหนุ่มน้อยจะสนใจมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในทีมงานโรงพยาบาลของเราหรือเปล่า?""ความจริงแล้ว พ่อของฉันเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่ะ""ขอแค่นายยอมตอบตกลง ฉันจะรายงานต่อคุณพ่อ ขอให้ท่านให้เงินเดือนคุณห้าล้านบาททุกปี ยิ่งไปกว่านั้น จะมีการจัดตั้งแผนกการแพทย์แผนจีนแยกต่างหากสำหรับนาย นอกจากพ่อของฉันแล้ว นายไม่จำเป็นต้อ
"หมอหลิว เกิดอะไรขึ้นกันแน่ คุณลุกขึ้นก่อนเถอะ ค่อยๆ พูด อย่าเพิ่งร้อนใจไป"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่กะทันหันแบบนี้หลินเฟยก็สงบสติอารมณ์ และดึงหลิวเชี่ยนเชี่ยนให้ลุกขึ้นในเวลานี้ สายตาของทุกคนที่อยู่ในวอร์ดต่างก็พุ่งความสนใจมายังหลิวเชี่ยนเชี่ยนที่กำลังตื่นตระหนกพร้อมกันเมื่อเห็นว่าจู่ๆ หลิวเชี่ยนเชี่ยนก็ได้พรวดพราดเข้ามาแบบนี้ เจียงกั๋วลี่ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่จะให้ของขวัญกับหลินเฟยต่อ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนนอกมารับรู้"หลินเฟย ถ้านายไม่รับปากที่จะช่วยพ่อของฉัน ฉันก็จะไม่ลุกขึ้น ขอร้องนายล่ะนะ…"หลิวเชี่ยนเชี่ยนที่เพิ่งจะถูกหลินเฟยดึงให้ลุกขึ้นจู่ๆ เธอก็คุกเข่าลงตรงหน้าหลินเฟยอีกครั้ง พร้อมกำชายเสื้อของหลินเฟยเอาไว้แน่น และพูดขอร้องอ้อนวอนออกมาซึ่งท่าทางแบบนี้ มันทำให้เจียงเฉินหยู่อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในตอนนี้เธอได้ยืนยันความสัมพันธ์กับหลินเฟยอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อเห็นว่าหลิวเชี่ยนเชี่ยนแทบจะสัมผัสถูกตัวของหลินเฟยแบบนี้ เธอก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อยนอกจากนี้ เจียงเฉินหยู่ยังรู้สึกว่าพฤติกรรมของหลิวเชี่ยนเชี่ยนแบบนี้ มันดูเห
พร้อมพูดถึงความไม่เป็นธรรมแบบนั้นออกมา"เสี่ยวเฟย เด็กผู้หญิงคนนั้นเสียเลือดมากเกินไป และไม่มีแหล่งเลือดที่เหมาะสมอีกต่างหาก นายมีวิธีใดบ้างที่จะช่วยเธอได้?"ถังรั่วเสวี่ยถามหลินเฟยด้วยความเป็นกังวล"น่าจะได้มั้งครับ ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน พวกเราลองเข้าไปดูเสียก่อน แล้วค่อยพูดก็แล้วกัน"แม้ว่าหลินเฟยจะไม่เคยพบสถานการณ์แบบนี้มาก่อนแต่ทว่าเขาได้รับการถ่ายทอดความทรงจำจากหลงอู่ ซึ่งในนั้นมีทักษะทางการแพทย์ที่น่าทึ่งมากมายหลินเฟยตั้งใจจะไปดูสถานการณ์ของเด็กผู้หญิงคนนั้นเสียก่อน เขาถึงจะลองทำการช่วยชีวิตเด็กผู้หญิงคนนั้นได้ยิ่งไปกว่านั้น จากที่ได้ฟังหลิวเชี่ยนเชี่ยนเล่ามา หลินเฟยก็สามารถคาดเดาได้ว่าญาติของเด็กผู้หญิงคนนั้นจะต้องเป็นจอมยุทธ์โบราณจากโลกซ่อนเร้นอย่างแน่นอนไม่อย่างนั้นแล้ว ทักษะการต่อสู้จะดีขนาดนั้นได้อย่างไรซึ่งในตอนนี้หลินเฟยก็กำลังรู้สึกสนใจคนกลุ่มนี้อยู่พอดีและเขาจะไม่พลาดการติดต่อแบบนี้ไปแน่"ขอบใจจริงๆ หลินเฟย ขอบใจจริงๆ ไม่ว่านายจะสามารถช่วยชีวิตเด็กผู้หญิงคนนั้นหรือพ่อของฉันได้หรือไม่ ฉันก็จะจดจำบุญคุณของนายไปตลอดชีวิต!"เมื่อเห็นว่าหลินเฟยรับปาก หลิ
"นายพูดอะไรน่ะ? ไอ้หนุ่ม ฉันว่านายกำลังรนหาที่ตายชัดๆ!"เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฟยแบบนี้แล้ว ชายวัยกลางคนที่อารมณ์ฉุนเฉียวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ได้ระเบิดเสียงคำรามออกมาทันที"หมัดทลายหิน!"หลังจากที่ปล่อยตัวของหลิวเชี่ยนเชี่ยนไปแล้วเขาก็ได้คำรามออกมาด้วยความโกรธ และหมัดทลายหินก็ได้กระหน่ำมาทางศีรษะของหลินเฟยราวกับห่าฝนที่บ้าคลั่ง!"ว้าย...หลินเฟย ระวัง!" หลิวเชี่ยนเชี่ยนกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก!เพราะเมื่อไม่นานมานี้ เธอได้เห็นชายวัยกลางคนคนนั้นสามารถโต้ตอบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสิบกว่าคนด้วยกระบวนท่านี้มาแล้ว!"หมอหลิว คุณไม่ต้องเป็นห่วงหลินเฟยหรอก เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเฟยเสียด้วยซ้ำ"เจียงเฉินหยู่ดูมั่นอกมั่นใจ และพูดอย่างแน่วแน่ขึ้นมาว่า"หมอหลิว รีบมาหาพวกเราเร็วเข้า คุณจะได้ไม่ต้องถูกลูกหลงเอาได้"ถังรั่วเสวี่ยพูดกระตุ้นด้วยความร้อนใจ"แต่คนคนนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ หลินเฟยเขา…"หลิวเชี่ยนเชี่ยนได้เห็นความแข็งแกร่งของชายวัยกลางคนมาแล้ว และเธอก็ไม่อยากจะเชื่อเลยเสียด้วยซ้ำ"เอะอะก็จะฆ่าคน!""หรือว่าในสายตาของคุณ ชีวิตคนมันไร้ค่าขนาดนั้นเลยเหรอ?"ในเวลาเดี
เขารีบถอยหลังไปยืนอยู่ข้างๆ และไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกจากนั้นชายชราในวัยหกสิบเศษๆ ก็ได้เดินเข้ามาหาหลินเฟยด้วยรอยยิ้ม พร้อมยกมือคารวะและโค้งคำนับให้กับเขา"สหายน้อง ข้ากับเจ้าเป็นคนในสำนักเดียวกัน อย่าให้ความเข้าใจผิดเล็กน้อยแค่นี้มาทำให้ส่วนรวมเสียความกลมเกลียวกันไปเลยนะ""ข้าโอวหยางเยี่ยนยอมคำนับขอโทษให้กับสหายน้องแทนโอวหยางชงลูกชายของข้า หวังว่าสหายน้องจะไม่ถือสาเอาความ""ไม่รู้ว่าท่านอาจารย์ของสหายน้องคือผู้ใด?""ต่อไปข้าจะได้พาลูกชายไปคารวะเพื่อเป็นการขอโทษสหายน้องถึงหน้าประตูสำนักด้วยตัวเอง!"หลินเฟยสามารถเข้าใจได้ว่าเขากำลังถามหยั่งเชิงภูมิหลังของตัวเองอยู่เดิมทีเขาก็ไม่อยากจะสนใจ แต่ในขณะนี้ น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนใจของหลงอู่ก็ได้ดังขึ้นมาในหัวของเขาว่า"หลินเฟย ข้าอยากได้หินวิญญาณที่คอของเขา เจ้าคิดหาวิธีเอามาให้ข้าหน่อยสิ"เมื่อหลินเฟยจ้องมอง เขาถึงได้พบว่าชายชรามีหินรูปไข่สีขาวนวลซึ่งถูกผูกไว้ด้วยเชือกสีแดงอยู่บนหน้าอก โดยที่ตัวหินนั้นได้เรืองแสงหลากสีที่จางๆ ออกมานี่ต้องเป็นหินวิญญาณที่หลงอู่พูดถึงอย่างแน่นอนหลินเฟยกลอกตา พร้อมตะคอกอย่างเย็นชาขึ้นมาว่า "ท
"คือว่า...สหายน้อง เจ้าแน่ใจหรือว่าสามารถช่วยชีวิตหลานสาวของข้าได้จริงๆ?""ขนาดหมอในโรงพยาบาลยังไม่สามารถช่วยชีวิตของเธอได้"เมื่อได้ยินแบบนี้ สองพ่อลูกก็รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมากทันใดนั้น พวกเขาก็พูดกับหลินเฟยด้วยน้ำเสียงที่หยั่งเชิงออกมาประเด็นก็คือด้วยอายุของหลินเฟยแบบนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัยขึ้นมา"จะมั่นใจหรือไม่ ฉันก็ไม่กล้ารับประกันเหมือนกัน ไม่ลองก็ไม่รู้""และถ้าฉันช่วยเด็กผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ได้ ฉันอยากให้พวกคุณช่วยตอบคำถามของฉันอีกสักข้อ"หลินเฟยคิดอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมพูดออกมา"ไม่มีปัญหา ขอเพียงสหายน้องสามารถช่วยชีวิตลูกสาวของข้าได้ อย่าว่าแต่จะตอบคำถามของสหายน้องเลย""ต่อให้ข้าจะต้องเป็นวัวเป็นควายคอยรับใช้สหายน้อง คนอย่างโอวหยางชงก็จะยอมทุกอย่าง!"โอวหยางชงรีบกำหมัดและพูดกับหลินเฟยในทันที"อ้อ? นี่คุณพูดจริงๆ เหรอ?"หลินเฟยปิ๊งไอเดียและพูดขึ้นมาเดิมทีเขาต้องการรับสมัครกลุ่มคนที่มีพลังแข็งแกร่งเพื่อใช้ในการป้องกันผู้คนในองค์กรแบล็คโกลฟส์ตอนนี้ดูเหมือนว่าโอวหยางชงที่ทั้งอยู่ในฐานะจอมยุทธ์โบราณและทาสของลูกสาวคนนี้ จะเป็นคนที่เขากำลังตามหาอยู่พอด
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได