"การนับลำดับญาติจะสับสนไม่ได้!""เพียงแต่เมื่อครู่คนเยอะ หลานเขินอายเกินกว่าจะเรียกปู่หลินต่อหน้าทุกคนได้ คุณปู่หลินอย่าถือสาหลานเลยนะครับ!""หากท่านไม่ยกโทษให้กับหลาน หลานก็จะไม่ลุกขึ้น!"แม้ว่าเซียวจ้านขวางจะรู้สึกคับข้องใจอยู่บ้าง แต่หากเขาคิดในทางกลับกันต่อให้เขาจะไม่ทำให้หลินเฟยขุ่นเคือง หากยึดตามลำดับญาติ เมื่อเขาพบกับหลินเฟย เขาก็ยังต้องโขกศีรษะโค้งคำนับอยู่ดีโดยความขุ่นเคืองในใจได้หายไปมากกว่าครึ่งแล้วยิ่งไปกว่านั้นการคุกเข่าโขกศีรษะเพื่อขอโทษ คือสิ่งที่ปู่ของเขาเอ่ยออกมา เขาคงไม่กล้าที่จะไม่คุกเข่า!"คุณชายเซียว ผมเข้าใจดี คุณคุกเข่าขอโทษผมก็เพราะเห็นแก่หน้าของคุณท่านหวาง""จริงๆ แล้ว ผมไม่ได้มีความแค้นใดๆ กับคุณเลย""หากคุณไม่ซักไซ้ ผมก็จะไม่ถือสาเอาความเช่นกัน เพียงแต่ว่า คุณต้องอบรมแฟนของคุณให้ดีๆ""ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะนะ""ต่อไปเวลาเราพบกัน คุณเรียกผมว่าหลินเฟย หรือสหายหลินก็พอแล้ว"หลินเฟยหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับดึงเซียวจ้านขวางให้ลุกขึ้นจากพื้นพอพูดจบ หลินเฟยก็หันตัวกลับและเดินออกจากห้องโถงด้านหลังไป"คุณปู่หลิน คุณปู่หลิน เดี๋ยวก่อน!""ทางด้านคุณปู่และ
"เอ่อ...ได้ครับพี่เซียว""อันที่จริงก็แค่เข้าใจผิดกัน ทำความเข้าใจแล้วก็ไม่มีปัญหา"เมื่อเห็นเซียวอวิ๋นอิงจริงใจแบบนี้ หลินเฟยก็ทำได้เพียงพยักหน้าตอบรับเท่านั้นจากนั้น โทรศัพท์ก็ได้กลับมาอยู่ในมือของคุณท่านหวางอีกครั้ง"สหายหลิน ฉันไม่รู้ว่าวันนี้เป็นงานหมั้นของคุณ เวลาสั้นๆ แบบนี้ฉันก็ขับออกจากตัวเมืองไม่ทันด้วยสิ เอาแบบนี้ดีไหม วันหลังถ้ามาที่ตี้ตู คุณก็พาน้องสะใภ้มาด้วยก็แล้วกัน""ถึงเวลานั้น ฉันจะชดเชยให้สหายหลินและน้องสะใภ้ หวังว่าจะไม่ตำหนิฉันนะ""พี่หวาง เรื่องนี้ผมก็แจ้งไม่ทันด้วยเหมือนกัน…"หลินเฟยคุยกับคุณท่านหวางอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็วางสาย และเดินเข้าไปที่ห้องโถงใหญ่"คุณปู่หลิน คุณปู่หลิน เดี๋ยวตอนที่ออกไป ผมยังเรียกคุณว่าสหายหลินเหมือนเดิม หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะครับ!""อีกอย่าง เรื่องที่ผมคุกเข่าเมื่อกี้ คุณก็อย่าได้บอกใครเลยนะ!""ได้โปรด!"เซียวจ้านขวางรีบวิ่งตาม กดเสียงให้ต่ำลงและพูดกับหลินเฟยที่อยู่ข้างๆ"ไม่มีปัญหา ผมจะไม่พูดเรื่องนี้ เพียงแต่ว่าผมเคยพูดแล้วไม่ใช่เหรอว่า ต่อไปคุณอย่าเรียกผมว่าคุณปู่อีกเลย ฟังแล้วมันดูแปลกๆ"ความโกรธของหลินเฟยหายไปนา
"ไม่มีปัญหาครับคุณหลิน หากพวกเขาไม่ยอมนำเงินออกมา ผมก็มีวิธีจัดการที่ดีอยู่"อู๋เจิ้นกั๋วรีบรับปากด้วยสีหน้าที่จริงจังทันที"แสนล้าน...แสนล้าน...""คุณหลินครับ ครอบครัวของเรามีเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านเท่านั้น หากให้หนึ่งแสนล้านกับคุณแล้ว มันจะไม่เป็นการฆ่าครอบครัวเหวินเหรินเลยหรือครับ?""คุณหลินครับ ขอร้องคุณหลินเถอะนะคับ เราชดเชยห้าหมื่นล้านจะได้ไหม?"เมื่อตู้ซ่าวคังได้ยินตัวเลขแสนล้านแบบนั้นแล้ว เขาก็รู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมากซึ่งคงไม่ต้องพูดถึงเหวินเหรินอวี่ที่มาจากครอบครัวชั้นที่สองแต่อย่างใดพวกเขาคุกเข่าลงไปอีกครั้ง พร้อมกับโขกหัวเพื่อขอความเมตตาจากหลินเฟย"ฮึ่ม สหายหลินให้พวกคุณชดใช้เป็นเงินแสนล้าน พวกคุณก็ยังไม่ยอม?""ไม่สำนึกจริงๆ!""จะรอให้พวกเราบีบครอบครัวชั้นที่สองของพวกคุณจนล้มละลายก่อนใช่ไหม พวกคุณถึงจะยอมควักเงินให้สหายหลินได้?"ในเวลานี้ ก็มีลมหนาวได้พัดเข้ามาอย่างหนักและก็เป็นเซียวจ้านขวางที่เดินเข้ามาหลังจากคุยสายเสร็จจากนั้นก็พูดกับเหวินเหรินอวี่และคนอื่นๆ อย่างเย็นชา"ไม่...ไม่ ไม่ คุณชายเซียว ไม่ต้องให้คุณลงมือ เรายินดี เรายินดีจ่ายเงินแสนล้านให้!"
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในตอนนี้เจียงเจี้ยนเย่จะมีความสุขมากแค่ไหน!ไม่ใช่เพราะว่าเขาสามารถพัฒนาความร่วมมือกับเจ้าสัวใหญ่ในย่านธุรกิจของเมืองตี้ตู จนนำผลประโยชน์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดมาสู่ตระกูลเจียงได้แต่เป็นเพราะเส้นสายทั้งหมดที่หลินเฟยมีในวันนี้ มันได้เกินความคาดหมายของเขาเสียต่างหากระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนที่เขาและหลินเฟยไม่ได้เจอกัน!หลินเฟยก็ได้ก้าวกระโดดไปถึงขนาดนี้แล้ว!ซึ่งแม้แต่เจียงเจี้ยนเย่ที่ทุ่มเทให้กับการบริหารมานานหลายปีก็ไม่สามารถเทียบเทียมได้!และหลินเฟยก็อายุยังน้อย อนาคตและความสำเร็จของเขาคงไม่หยุดอยู่แค่นี้อย่างแน่นอน!ยิ่งไปกว่านั้นคนที่โดดเด่นมากคนนี้กำลังจะกลายเป็นว่าที่ลูกเขาของเขา และต่อไปก็จะเป็นลูกเขาของเขาอย่างสมบูรณ์แบบอีกต่างหาก!แล้วเจียงเจี้ยนเย่จะไม่มีความสุขได้อย่างไร!แม้กระทั่งคำพูดที่ป่าวประกาศไปก่อนหน้านี้ น้ำเสียงของเจียงเจี้ยนเย่ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก!"เสี่ยวเฟย อามีอะไรจะพูดกับนายสักหน่อย…"ช่วงเวลาก่อนที่เจียงเจี้ยนเย่จะได้พูดอะไรออกมาถังรั่วเสวี่ยที่อยู่มุมห้องราวกับคนล่องหนนั้นจู่ๆ เธอก็ได้พูดกับหลินเฟย
ราวกับเดินออกมาจากแสงเจิดจำรัสอย่างไงอย่างงั้น!"คุณเจียง...นี่ผม ผมฝันไปหรือเปล่า?""เราสองคนจะหมั้นกันจริงๆ เหรอ?"ในชั่วขณะหนึ่ง หลินเฟยจ้องมองเธออย่างหลงใหล ราวกับตกอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน มีความรู้สึกไม่สมจริงสักเท่าไหร่หลังจากกลืนน้ำลายลงไป เขาก็พูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว"ต่างก็ร่ำลือกันว่าคุณเจียงเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองเจียงหนานที่หาได้ยาก ดูแล้ววันนี้จะสมคำร่ำลือจริงๆ!""ช่างงดงามจริงๆ ไร้ที่ติ เป็นผลงานโบแดงของพระเจ้า เทพธิดาชัดๆ!""ด้วยความงามแบบนี้ หากเป็นสมัยก่อนคงจะเป็นที่จับจองของเหล่าลูกขุนมูลนาย หรือคนใหญ่คนโตอย่างแน่นอนเลยล่ะ!"เจ้าสัวหลายคนที่อยู่ในงาน รวมไปถึงเหล่าบรรดาคุณชายน้อยใหญ่ต่างก็พูดพร่ำความในใจออกมาอย่างไม่รู้ตัว!แม้กระทั่งถังรั่วเสวี่ยที่อยู่ข้างๆ หลินเฟยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกละอายใจขึ้นมาแต่อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเธอก็สามารถดึงสติออกมาจากความตกตะลึงนั้นได้ พร้อมผลักหลินเฟยและพูดขึ้นมาว่า"เสี่ยวเฟย นายอย่ามัวตกตะลึงอยู่ นี่คืองานหมั้นของนานและคุณเจียงจริงๆ!""รีบลุกขึ้นเร็วเข้า แล้วเดินไปบนเวทีพร้อมกับคุณเจียง อย่ามัวนั่งเซ่ออยู่อย่างนี้!"
"หือ? หัวหน้าเจียง ฉัน...ฉันก็ต้องขึ้นไปด้วยหรือคะ?"ถังรั่วเสวี่ยบีบนิ้วของตัวเองอย่างประหม่า และมองไปยังทิศทางที่หลินเฟยอยู่อย่างไม่รู้ตัว"สหายหลินเป็นเด็กกำพร้า คุณถังดูแลจนเขาเติบใหญ่มาด้วยความลำบาก หากคุณไม่นั่ง ใครในโลกนี้ก็คงไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมานั่งได้แล้วล่ะครับ""คุณถัง รีบมานั่งเถอะครับ"เจียงเจี้ยนเย่มองออกว่าถังรั่วเสวี่ยค่อนข้างจะตื่นเต้นเขาจึงค่อยๆ พูดอย่างนิ่งๆ ออกมา"อาเล็ก คุณอาขึ้นมานั่นเถอะนะ"หลินเฟยยืนอยู่บนโพเดียมสูง และพูดกับถังรั่วเสวี่ยด้วยสายตาที่เป็นกังวล"ป้าถังคะ คุณป้าอย่าได้เป็นกังวล รีบขึ้นมาเถอะค่ะ งานหมั้นของฉันกับหลินเฟย จะขาดสักขีพยานอย่างคุณป้าไปได้อย่างไรล่ะคะ?"หลังจากนั้นเจียงเฉินหยู่ก็พูดด้วยรอยยิ้มที่แสนหวานตามมาติดๆ"ได้ อาเล็กจะขึ้นไปนะ"แม้ว่าถังรั่วเสวี่ยจะยังคงรู้สึกตื่นเต้นเอาเสียมากๆแต่เธอก็ยังรวบรวมความกล้า และเดินขึ้นสู่เวทีพร้อมกับเจียงเจี้ยนเย่หลังจากนั่งลงบนเก้าอี้ไม้หนานมู่สีทองแล้วนั้นเมื่อสัมผัสได้ถึงถังรั่วเสวี่ยที่หัวใจยังเต้นรัว พร้อมลมหายใจที่ถี่ๆขณะที่หลินเฟยกำลังส่งสายตาไปปลอบโยนเธอในเวลานี้ จู่
เสียงของเขาไม่ได้ดังมากนัก แต่มันกลับกะทันหันและมีการคุกคามปะปนอยู่ ซึ่งดูไม่เข้ากับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อยดังนั้น มันจึงดึงดูดให้ทุกสายตาจับจ้องมาที่เขาเป็นอันดับแรกเมื่อมองเห็นชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยรังสีอำมหิตคนนั้นแล้วท่าทางของเจียงเจี้ยนเย่และเจียงเฉินหยู่ก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด!แกร็ก เจียงเจี้ยนเย่อดไม่ได้ที่จะกำหมัดจนเสียงดังแกร็กๆ ขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว!แม้แต่เจียงเฉินหยู่ที่กำลังจับมือของหลินเฟยก็อดไม่ได้ที่จะสั่นขึ้นมาเล็กน้อย"คุณเจียง เขาเป็นใครงั้นเหรอ?""คุณรู้จักเขาหรือเปล่า?"เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้แล้ว หลินเฟยก็รู้สึกไม่ค่อยจะสบายใจ จึงกระซิบถามเจียงเฉินหยู่เบาๆแต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้หลินเฟยรู้สึกประหลาดใจก็คือว่า ดูเหมือนเจียงเฉินหยู่จะหวาดกลัวต่ออะไรบางอย่าง และไม่ได้ตอบคำถามหลินเฟยแต่อย่างใด!ซึ่งเมื่อมองสายตาที่ชั่วร้ายของชายหนุ่มคนนั้น มันยิ่งทำให้หลินเฟยรู้สึกสับสนยิ่งกว่าเดิมมาก!ในเวลาเดียวกัน เหล่าบรรดาเจ้าสัวและคุณชายน้อยใหญ่ต่างก็ได้มองสำรวจมาที่ชายหนุ่มชั่วร้ายนี้ด้วยเช่นกันแต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้จักใบหน้านี้ และดูไ
ท่าทางของเขาเผยให้เห็นความสุดวิสัยเป็นอย่างยิ่งขณะที่พูด ฝ่ามือของเขาก็ได้จับไหล่ของหลินเฟยเอาไว้แน่นจนกระทั่งหลินเฟยพยักหน้าตอบรับอย่างไม่เต็มใจขึ้นมาเจียงเจี้ยนเย่ถึงได้รู้สึกโล่งใจ จากนั้นก็คลายมือออกจากไหล่ของหลินเฟย และพูดกับเจียงเฉินหยู่ด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า"เฉินหยู่ ลูกดูแลคุณหลินและคุณถังให้ดีๆ เดี๋ยวพ่อก็กลับมาแล้ว"พอพูดจบ เจียงเจี้ยนเย่ถึงได้ค่อยๆ เดินลงมาจากโพเดียมและเดินไปยังทิศทางที่ชายหนุ่มชั่วร้ายได้ยืนอยู่"พ่อคะ…"เจียงเฉินหยู่ขยับเท้าคิดจะเดินตามไปหรือขวางเจียงเจี้ยนเย่เอาไว้ตามสัญชาตญาณแต่ท้ายที่สุด เธอก็หยุดยั้งความคิดนี้เอาไว้เธอยืนอยู่ข้างๆ หลินเฟย จับมือของเขาเอาไว้แน่นด้วยความตึงเครียดและวิตกกังวล"คุณเจียง ทำไมคุณและลุงเจียงถึงได้...กลัวเขาขนาดนี้?"หลินเฟยอดไม่ได้ที่จะกระซิบถามข้างหูของเจียงเฉินหยู่ขึ้นมา"หลินเฟย ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาพูด รอให้มีโอกาส ฉันจะอธิบายกับคุณอย่างละเอียด คุณเชื่อฟังคำพูดของพ่อฉัน อย่าถามอะไรอีกเลยนะ!"เจียงเฉินหยู่ไม่ได้ตอบ เพียงแต่พูดกับหลินเฟยด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคืองใจและหวาดกลัวเท่านั้น"โอเค งั้นผมยังไม่
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได