เขาชื่นชมอยู่ในใจ จากนั้นจางหยวนก็อธิบายว่า: "ผมไม่ได้เป็นหวัด ผมแค่อยากจะเตรียมยาแก้หวัด"เมื่อรู้ว่าจางหยวนมาเพื่อซื้อยาแก้หวัด และไม่ต้องการเข้ารับการรักษา หลิวรั่วหลันก็พยักหน้า"คุณรอเดี๋ยวนะ ฉันจะเอายาแก้หวัดที่ขายดีที่สุดมาให้คุณ! นี่คือยาจีน ที่สามารถเสริมภูมิคุ้มกันได้!"“พอรู้ว่าตนเองเป็นหวัด ก็ให้ชงหนึ่งซอง แล้วจะได้ผลดีมาก!”หลิวรั่วหลันพลางพูด พลางหายาที่อยู่ในเคาน์เตอร์กระจก แต่ก็ไม่พบยาแก้หวัดนั้นเลยเธอจึงหันหลังกลับมา ก้มลงไปเปิดตู้ยาด้านหลังเพื่อเอายาออกมาอย่างที่ทุกคนรู้ ท่าเป็นแบบนี้ บั้นท้ายอันอวบอั๋นของเธอ จะต้องอยู่ในสายตาของจางหยวนอย่างแน่นอน!อันที่จริงแล้ว เสื้อผ้าที่หลิวรั่วหลันใส่นั้นไม่ได้รัดรูปมากแต่เป็นกางเกงแบบยืดหยุ่นที่หลวมมากแต่พอกางเกงยืดหยุ่นแบบนั้นอยู่บนร่างกายของหลิวรั่วหลัน มันก็จะกลายเป็นกางเกงรัดรูปไปโดยปริยาย!จากมุมที่จางหยวนมอง ความยืดหยุ่นของกางเกงนั้นทำให้เกิดเป็นเส้นโค้งที่สมบูรณ์แบบ แบบพาโนรามาที่เห็นได้อย่างเต็มตายาแก้หวัดที่หลิวรั่วหลันต้องการนั้นอยู่ในส่วนลึกของตู้ เพื่อที่จะได้หยิบยาแก้หวัดถึง เธอจึงต้องก้มตัวลงมากขึ้น
“ จางหยวน หวังว่าใบสั่งยาที่นายออกให้ จะรักษาวัวของฉันได้!”ซึ่งแตกต่างจากพ่อของเธอจางจิ่ง จางหลินไว้วางใจในตัวจางหยวน อย่างหาคำอธิบายไม่ได้เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เป็นเช่นนี้ก่อนหน้านี้ที่จางหยวนเตือนจางหลินว่า วัวบ้านของเธอป่วย จางหลินไม่เชื่อเลย และคิดว่าจางหยวนกำลังสาปแช่งวัวของเธออยู่แต่ไม่รู้ว่าทำไม ตอนนี้เธอกลับเป็นคนที่ไว้วางใจจางหยวนมากที่สุดแม้แต่จางหลินเองก็ไม่ได้สังเกตเห็น อันที่จริงท่าทีที่เธอมีต่อจางหยวนเปลี่ยนไปตั้งแต่ ตอนที่เดินทางด้วยรถบัสในครั้งนั้น!จางหยวนไม่ได้หาโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับเธอตลอดทั้งวัน เหมือนชายหนุ่มคนอื่นๆที่อยู่รอบตัวจางหลินแม้กระทั่ง จางหยวนจงใจอยู่ห่างจากจางหลินจึงทำให้ จางหลินจึงรู้สึกว่าจางหยวนแตกต่างจากคนที่น่ารำคาญที่อยู่รอบตัวเธอเหล่านั้น!คืนนั้น จางหลินเกิดฝันขึ้นมาเธอฝันถึงวัวที่อยู่ในโรงวัว หลังจากกินยาตามใบสั่งยาที่จางหยวนออกให้แล้ว วัวทุกตัวก็น้ำลายฟูมปากแล้วล้มตายไปในทันที!ความฝันนี้ทำให้จางหลินสะดุ้งตื่นขึ้นมา!จางหลินลุกขึ้นนั่งบนเตียง ศีรษะเต็มไปด้วยเหงื่อ แม้แต่เสื้อผ้าของเธอก็เปียกไปด้วยเมื่อนึกถึงความฝันของตน
แต่จางหยวน!ใช้ยาเพียงโดสเดียว ก็สามารถทำให้วัวที่ถูกตัดสินประหารชีวิตไปแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้ง!ถ้าสัตวแพทย์ทั้งสองไม่เดินตามแนวทางของสัตวแพทย์ตะวันตก พวกเขาคงจะไหว้จางหยวนเป็นอาจารย์ไปแล้ว!แพทย์แบ่งออกเป็นการแพทย์แผนจีนและการแพทย์แผนตะวันตก สัตวแพทย์ก็แบ่งออกเป็นการแพทย์แผนจีนและการแพทย์แผนตะวันตกด้วยสัตวแพทย์แผนตะวันตกจะใช้ยาสำเร็จรูปและยาปฏิชีวนะต่างๆรักษาโรคให้สัตว์ เฉกเช่นเดียวกับการแพทย์แผนตะวันตกสัตวแพทย์แผนจีนไมีความแตกต่างกัน พวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ แต่ใช้สมุนไพรจีนในการรักษาสัตว์แทนแน่นอนว่า สัตวแพทย์แผนจีนก็ใช้ยาจีนสำเร็จรูปเช่นเดียวกันยาจีนสำเร็จรูปจะสกัดส่วนประกอบของสมุนไพรจีนออกมา เพื่อจะได้สะดวกใช้งานในยามคับขันแม้ว่าประสิทธิภาพของยาจะแย่กว่าสมุนไพรจีน แต่ก็สะดวกกว่ามากในเวลานี้ จางหลินที่อยู่ด้านข้างกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า:“พ่อคะ ตอนนี้พ่อไม่รู้สึกเศร้าใจกับชากล่องนั้นแล้วใช่ไหม? ชาเพียงแค่กล่องเดียวสามารถรักษาวัวให้หายได้ ช่างคุ้มจริงๆ!”สิ่งที่จางจิ่งกำลังคิดอยู่ในขณะนี้คล้ายกับสิ่งที่จางหลินกำลังคิดไม่ว่าชาจะแพงแค่ไหน ก็ไม่สามารถมีค่าเท่า
“ใช่แล้ว อาหยวน พวกเราไม่ควรขโมยของของคนอื่นนะ ไม่ว่าเราจะยากจนแค่ไหน พวกเราจะต้องมีปณิธาน!” หวังฮุ่ยรีบพูดอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินดังนี้จางหยวนก็ยิ้ม: "พ่อกับแม่เข้าใจผิดแล้ว! ชานี้ผมไม่ได้ขโมยมา แต่จางจิ่งมอบให้ผมเป็นค่าตอบแทน! ค่าตอบแทนที่ผมรักษาวัวที่บ้านของเขาหาย!"“อะไรนะ? ค่าตอบแทนที่รักษาวัวหาย? อาหยวนลูกสามารถรักษาโรคให้วัวได้ด้วยเหรอ?” สองสามีภรรยาต่างก็พากันตกใจก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่า จางหยวนสามารถรักษาได้แค่ไก่เท่านั้น!คิดไม่ถึงว่า จางหยวนจะรู้วิธีการรักษาวัวจริงๆแม้ว่าวัวและไก่จะเป็นสัตว์เลี้ยงทั่วไปในครัวเรือนของคนชนบท แต่มูลค่าทางเศรษฐกิจของพวกมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงการรักษาโรคให้ไก่ไม่ใช่ทักษะขั้นสูงเท่าไหร่นักแต่การรักษาโคนั้นไม่เหมือนกัน!ในชนบท ถ้าสามารถรักษาสัตว์อย่างหมูและวัวได้ ก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นสัตวแพทย์!สองสามีภรรยาจะยังไงก็คิดไม่ถึงว่า จางหยวนจะสามารถรักษาวัวได้จริงๆ!เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่ประหลาดใจของพ่อแม่ จางหยวนจึงพูดว่า: "ผมเคยบอกพ่อกับแม่แล้วไม่ใช่เหรอครับ? ตอนที่ผมทำงานอยู่ข้างนอก ผมเคยเรียนวิธีการรักษาโรคให้สัตว์ ดังนั้นผมจึงสา
โชคดีที่ฟ้ามีตาถ้าเทพธิดาผู้ไม่มีใครเทียบได้ตนนั้นรู้ว่า หลังจากที่จางหยวนได้รับถ่ายทอดวิชาแล้ว ได้กลายเป็นสัตวแพทย์ที่มีชื่อเสียงจางหยวนไม่สามารถรับประกันได้ว่า เทพธิดาผู้ที่ไม่มีใครเทียบได้ตนนั้นจะมาคิดบัญชีกับเขาในความฝันเพราะความโกรธหรือเปล่า!การสืบทอดวิชาของเทพธิดาที่ไม่มีใครเทียบได้ มุ่งเน้นศาสตร์การแพทย์ที่รักษาผู้คนเป็นหลักส่วนเนื้อหาในการรักษาสัตว์นั้น เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น!แม้ว่าจะจนใจสักแค่ไหน แต่ชื่อเสียงของเขาได้แพร่กระจายออกไปแล้ว จางหยวนจึงทำได้แค่จำใจยอมรับมันดูสิ ยังไม่ทันจะได้สองวัน ก็มีคนมาเรียกเขาไปรักษาหมูเลี้ยงที่บ้านแล้วตอนแรกจางหยวนไม่อยากไปแต่อีกฝ่ายดันรู้จักกับพ่อของเขาจางต้าซาน ว่ากันว่าทั้งสองคนเคยร่วมงานกันมาก่อนด้วยความสัมพันธ์นี้ จางหยวนจึงยากที่จะปฏิเสธแต่อีกฝ่ายรู้จักให้เกียรติ ขับรถตู้มารับจางหยวนตั้งแต่เช้าตรู่หลังจากที่จางหยวนไปที่บ้านของอีกฝ่าย และตรวจหมูแล้วก็พบว่าเป็นโรคปากและเท้าเปื่อยทั่วไปถ้าสัตวแพทย์ทั่วไปพบเจอกับโรคนี้อารจะรักษายากเล็กน้อย แต่สำหรับจางหยวนแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องขี้ประติ๋วหลังจากจางหยวนออกใบสั่งยาให
จากนั้นมืออีกข้างหนึ่งของเขาก็กลายเป็นหมัดอันหนักหน่วง จากนั้นก็ทุบไปที่จางหยวนอย่างแรงภายใต้ความเจ็บปวดที่เกิดจากกระตุ้น ทำให้หมัดนี้ของหม่าเหล่าซานเป็นหมัดที่แข็งแกร่งที่สุดในชีวิตของเขา!สีหน้าของจางหยวนเต็มไปด้วยความเย็นชา ในอีกมุมหนึ่งเขาดีใจที่ตนเองกลับมาได้ทันเวลาในอีกมุมหนึ่ง เขาเกลียดหม่าเหล่าซานที่ใช้กลโกงในการต่อสู้!ก่อนหน้านี้จางหลินเคยเตือนจางหยวนว่า หม่าเหล่าซานวางแผนที่จะแก้แค้นเขาแต่จางหยวนไม่ได้สนใจ เพราะด้วยฝีมือของเขา ไม่มีอะไรที่จะต้องเกรงกลัวหม่าเหล่าซานเลยแม้ว่าหม่าเหล่าซานจะพากลุ่มอันธพาลมาซุ่มโจมตีตน จางหยวนก็ไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย!แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ หม่าเหล่าซานใช้กลโกงในการต่อสู้ โดยการพาคนมาทุบตีข้าวของที่บ้านของตน!แม้กระทั่ง อยากจะรังแกหลี่ชิวจวี๋ในช่วงเวลากลางวันแสกๆ!จางหยวนไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าเขามาช้ากว่านี้อีกสักหน่อย จะเกิดอะไรขึ้นหากหลี่ชิวจวี๋ถูกหม่าเหล่าซานข่มเหงรังแก โดยมีสาเหตุมาจากเขา จางหยวนคงจะไม่สบายใจไปตลอดชีวิต!เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ สายตาของเขาก็เยือกเย็นลงเรื่อยๆเมื่อเผชิญหน้ากับหมัดอันหนักหน่วงของหม่าเหล่าซาน
ทันทีที่จางหยวนพูดคำนี้ออกไป หม่าเหล่าซานที่อยู่บนพื้นก็แทบจะช็อกตายทันทีสองตัวเลือกนี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกไหนก็ฟังดูน่ากลัวมากทั้งนั้น!ยืนไม่ได้ตลอดชีวิต ก็เหมือนกับคนพิการ ต้องให้คนคอยดูแลไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงได้ตลอดชีวิตก็น่ากลัวไม่แพ้กัน นั่นก็หมายความว่าเขาจะต้องกลายเป็นขันที!เดี๋ยวก่อน!จางหยวนบอกว่าไม่สามารถยืนได้ตลอดชีวิต คงจะไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นใช่ไหม?ถ้าเป็นแบบนั้น สองตัวเลือกนี้ก็เหมือนกันน่ะสิ?หม่าเหล่าซานตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือด และพูดอย่างสั่นเทาว่า: " จางหยวน ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้ว! ฉันขอร้องนายล่ะ ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย ไว้ชีวิตฉันด้วย!"“ไว้ชีวิตนาย? ตอนที่นายทุบตีไก่ของพวกเราจนตาย ทำไมไม่พูดว่าไว้ชีวิตพวกมัน? เมื่อกี้ตอนที่อยากจะรังแกพี่สะใภ้ชิวจวี๋ เมื่อกี้ ทำไมไม่พูดว่าเมตตาเธอ” จางหยวนพูดอย่างเย็นชาพอได้ยินจางหยวนออกหน้าแทนตน ในนัยน์ตาของหลี่ชิวจวี๋ก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจเธอรู้สึกว่าทุกอย่างที่เธอทำลงไปนั้นคุ้มค่าแล้ว!ก่อนหน้านี้หม่าเหล่าซานและแก๊งของเขามาทำลายข้าวของที่บ้านของจางหยวน ได้ข่มขู่เพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงด้วยเพื่อนบ้า
แต่จางหยวนไม่ได้ปล่อยหม่าเหล่าซานไปง่ายๆเขาจ้องหม่าเหล่าซานอย่างเย็นชา: "ขาข้างนี้ของนาย ต้องใช้เงินซื้อ!"“ฉันซื้อ! ฉันจะเอาเงินมาซื้อมัน!” หม่าเหล่าซานรีบตะโกนอย่างรวดเร็วจางหยวนหันไปมองหวังฮุ่ยแม่ของเขากับหลี่ชิวจวี๋: "แม่ครับ พี่สะใภ้ชิวจวี๋ ทั้งสองคนช่วยคำนวณหน่อยว่าไอ้สารเลวพวกนี้ทำลายข้าวของไปกี่ชิ้น! แล้วให้หม่าเหล่าซานจ่ายเงินชดเชยเป็นสามเท่าของมูลค่าสิ่งของ!"สักพักหนึ่ง จางหยวนก็กล่าวต่อว่า: "เมื่อกี้นี้พี่สะใภ้ชิวจวี๋ถูกหม่าเหล่าซาน หม่าเหล่าซานทำให้ตกใจ หม่าเหล่าซานต้องชดเชยค่าสูญเสียทางจิตให้พี่สะใภ้ชิวจวี๋! หนึ่งหมื่นห้าพันบาท!"เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยวน หวังฮุ่ยและหลี่ชิวจวี๋ก็อดหัวเราะไม่ได้หม่าเหล่าซานที่อยู่บนพื้นกลับมีสีหน้าที่ซีดเผือดครั้งนี้ฉันจะต้องเสียเงินครั้งใหญ่แล้ว!หลังจากนั้นไม่นาน หวังฮุ่ยและหลี่ชิวจวี๋ก็คำนวณเสร็จข้าวของที่หม่าเหล่าซานทุบเสียหายราคาเกือบหนึ่งหมื่นบาท คิดเป็นเงินสามเท่าก็คือสามหมื่นบาทรวมค่าเสียหายทางจิตใจของหลี่ชิวจวี๋แล้ว ยอดรวมคือสี่หมื่นห้าพันบาทหลังจากที่ได้ยินตัวเลขที่ทั้งสองคนรายงานแล้ว จางหยวนก้มหน้าแล้วมองไปที่