หากเป็นแบบนั้นจริง เกรงว่าบ้านหลังละสามแสนที่กำลังสร้างอยู่นี่ อาจไม่ใช่ของจางหยวนเพียงคนเดียว แต่เป็นของทั้งเธอและจางหยวน! แต่ความคิดแบบนี้ผุดขึ้นในสมองเพียงแวบเดียวแล้วสวีเจียวเจียวก็กัดฟันพูดออกมาเสียงแข็งว่า “ถึงจะสร้างบ้านราคาสามแสนได้แล้วจะอย่างไร ก็ยังเป็นคนบ้านนอกอยู่ดี! ฉันจะต้องแต่งเข้าเมือง! แต่งกับคนที่อยู่ในเมืองและมีบ้าน!” พูดจบ สวีเจียวเจียวก็ตะโกนไปยังห้องของบิดาว่า “ท่านพ่อ! ท่านพ่อรอไว้เลยนะ! ลูกจะหาแฟนที่เก่งกว่าจางหยวนร้อยเท่าพันเท่าให้ได้!” สวีฉางชุนที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ในห้อง ได้ยินเช่นนั้นก็ฮึดฮัดออกมา ในสายตาของเขา ความคิดของลูกสาวดูผิดเพี้ยนไปเสียหมด คนบ้านนอกจะต้องด้อยกว่าคนในเมืองเสมอไปหรือ? ในเมืองก็มีคนจนที่ต้องประหยัดกินประหยัดใช้จำนวนมาก ถึงจะมีบ้านอยู่ในเมือง ก็ยังต้องผ่อนบ้านกันเป็นสิบปี ดูจางหยวนสิ บ้านราคาสามแสน สร้างได้ง่ายดายขนาดนี้ หมายความว่าอย่างไร? หมายความว่าเขามีฝีมือและความมั่นใจที่จะหาเงินก้อนโตมาได้ไง! กล้าใช้เงินสามแสนสร้างบ้าน ก็แสดงให้เห็นว่าเขามีความมั่นใจว่าจะหาเงินอีกสามแสนบาทมาได้! คิดได้เช่นนั้น สวีฉางชุนก็สู
จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ถูกต้อง ประธานฉู่ ผมเจอโสมป่าอีกต้นหนึ่ง อายุราวสิบสองปี!”“จริงหรือ” น้ำเสียงของฉู่เสวี่ยเยี่ยนเต็มไปด้วยความประหลาดใจถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยชอบจางหยวนเท่าใดนักแต่โสมป่าที่จางหยวนจัดหาให้กลับเป็นโสมป่าที่มีสรรพคุณทางยาดีที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น“แต่ประธานฉู่ คราวนี้ผมไม่ได้จะคุยแค่เรื่องการค้าโสมป่าอย่างเดียว ผมอยากคุยกับคุณอีกเรื่องด้วย!” จางหยวนพูดพร้อมรอยยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉู่เสวี่ยเยี่ยนทางปลายสายก็ค่อนข้างประหลาดใจ “การค้าอะไร หรือว่านอกจากโสมป่าแล้ว คุณยังมีสมุนไพรหายากอื่นๆ จะมาขายให้ฉัน?”เมื่อพิจารณาถึงคุณภาพของโสมป่าที่จางหยวนส่งมา หากเขามีสมุนไพรหายากอื่นๆ ฉู่เสวี่ยเยี่ยนก็อยากจะซื้อมาด้วยสำหรับคนรวยอย่างเธอ เงินหลักหมื่นหรือหลักแสนไม่ใช่เรื่องใหญ่หากจะใช้เงินหลักแสเพื่อแลกกับสมุนไพรหายากที่มีสรรพคุณโดดเด่น ฉู่เสวี่ยเยี่ยนก็ย่อมไม่ปฏิเสธจางหยวนกระแอมแล้วพูดว่า “ไม่ใช่แบบนั้น ตอนนี้ผมเพาะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์ที่เลี้ยงด้วยสมุนไพรจีนอยู่จำนวนหนึ่ง การค้าที่อยากจะพูดคุยคือการค้าเกี่ยวกับไก่ฟีนิกซ์น่ะ”“ไก่ฟีนิกซ์หรือว่าไก่ป่า?” ฉู่เสวี่ยเย
สำหรับราคาไก่ฟีนิกซ์ จางหยวนจงใจตั้งราคาสูงเกินจริงไปเล็กน้อยอันที่จริงแล้ว ราคาที่เขาพอใจอยู่ที่ประมาณหนึ่งร้อยถึงหนึ่งร้อยห้าสิบ ต้นทุนของไก่ฟีนิกซ์ไม่ได้ต่ำเลย รวมทั้งลูกไก่ ผงสมุนไพร อาหาร และอื่นๆ โดยเฉลี่ยแล้ว ต้นทุนต่อตัวของไก่ฟีนิกซ์ก็ประมาณสี่สิบถึงห้าสิบแล้ว ด้วยต้นทุนที่สูงขนาดนี้ ราคาขายก็ไม่ควรต่ำกว่าหนึ่งร้อยสิ ยิ่งไปกว่านั้น หากรสชาติของไก่ฟีนิกซ์อร่อยตรงตามสูตรเฟิ่งหมิงฉีซานบรรยายไว้จริงๆ ไม่ต้องพูดถึงตัวละร้อย แม้จะขายตัวละหนึ่งร้อยยี่สิบสาม หรือแม้แต่หนึ่งร้อยห้าสิบก็ไม่เกินไป! เหตุผลที่จางหยวนตั้งราคาตัวละสองร้อย ก็เพื่อสะดวกในการต่อรองราคาหลังจากพบกับฉู่เสวี่ยเยี่ยน ถึงแม้จางหยวนจะไม่ได้เรียนรู้วิธีทำการค้า แต่เขาก็เข้าใจหลักการง่ายๆ ข้อหนึ่งคือ การขายของต้องให้ผู้ซื้อมีช่องว่างในการต่อรอง และไม่ว่าจะตั้งราคาต่ำแค่ไหน หรือถึงขั้นต่ำลงไปถึงราคาต่ำสุดที่คาดหวังไว้ ฝ่ายตรงข้ามก็จะต่อรองราคาอย่างไม่ปรานีหากไม่ให้เขาต่อรองราคา ผู้ซื้อจะรู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบเมื่อเห็นว่าหลังจากที่ตนตั้งราคาไปแล้ว ฉู่เสวี่ยเยี่ยนที่อยู่ปลายสายไม่พูดอะไร จางหยวนจึ
“ไก่ฟีนิกซ์? ที่แท้ก็เป็นเพราะไก่ฟีนิกซ์นี่เอง!” หวังฮุ่ยร้องออกมาด้วยความประหลาดใจต่อมาใบหน้าของเธอก็ปรากฏความประหลาดใจ “หรือว่าไก่ที่เลี้ยงด้วยยาจีนจะตุ๋นออกมาหอมขนาดนี้?”จางหยวนชี้ไปที่เนื้อไก่ในหม้อที่สุกแล้วและพูดว่า “อร่อยหรือไม่ ก็ลองชิมดูสิ!”หวังฮุ่ยรีบใช้ทัพพีตักเนื้อชิ้นโตขึ้นมา ไม่ได้กินเอง แต่กลับตักใส่ถ้วยแล้วส่งให้จางหยวนจากนั้นเธอก็ใช้ตะเกียบคีบเนื้อไก่ชิ้นเล็กชิ้นหนึ่งมาเป่าสองสามที และค่อยๆ กินเมื่อเนื้อไก่เข้าปาก เธอเคี้ยวเพียงไม่กี่ที หวังฮุ่ยก็ตกตะลึงเนื้อไก่เพิ่งตุ๋นสุกใหม่ๆ แต่กลับเหมือนกับตุ๋นด้วยหม้อดินนานหลายชั่วโมงไม่! ยังดีกว่าเนื้อไก่ที่ตุ๋นเสียอีก!แทบไม่ต้องเคี้ยวเลย เข้าปากแล้วละลายเลย!รสชาติที่หอมหวานนั้นเหนือกว่าเนื้อไก่ทุกชนิดที่หวังฮุ่ยเคยกินมา แม้แต่ไก่บ้านที่เลี้ยงเองก็ยังอร่อยสู้ไม่ได้!และที่สำคัญคือ ไม่เหนียวเลย!ในขณะนี้ ไม่เพียงแต่หวังฮุ่ยจะตกตะลึง จางหยวนก็ตกตะลึงกับรสชาติอันยอดเยี่ยมของไก่ฟีนิกซ์เช่นกันเขาสาบานได้เลยว่า นี่คือไก่ตุ๋นที่อร่อยที่สุดที่เขาเคยกินมา!ไก่มีสองวิธีในการทำ คือการผัด ซึ่งเน้นที่เนื้อเหนียวและรสชา
จางหยวนแค่ต้องการให้สวีเจียวเจียวได้เห็นฟาร์มเลี้ยงไก่ที่เธอภาคภูมิใจ เขาก็เปิดได้เช่นกัน!เช้าวันรุ่งขึ้น จางหยวนออกจากอ้อมอกของหลี่ชิวจวี๋ไวมาก และท่ามกลางเสียงบ่นของอีกฝ่าย เขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างรีบเร่ง และมุ่งหน้าไปยังฟาร์มเลี้ยงผึ้งเขาต้องการฆ่าไก่ฟีนิกซ์หนึ่งตัวก่อน!การส่งไก่ให้ฉู่เสวี่ยเยี่ยน ต้องไม่ใช่ไก่เป็นๆ แน่นอน จางหยวนจะทำไก่ให้ก่อน แล้วค่อยส่งให้ฉู่เสวี่ยเยี่ยนจะดีกว่าระหว่างย้ายบ้าน จางหยวนก็ย้ายไก่ฟีนิกซ์มาที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้งด้วยบังเอิญว่าทางทิศตะวันตกของฟาร์มเลี้ยงผึ้ง มีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ เดิมทีเป็นพื้นที่ที่เหล่าเฟิงโถวเตรียมไว้รอเฟิงเฮ่อกลับใจและเพิ่มรังผึ้ง แต่เฟิงเฮ่อทำให้เหล่าเฟิงโถวผิดหวังที่ดินผืนนี้จึงปล่อยว่างมาตลอดเมื่อมาถึงฝูงไก่ฟีนิกซ์ จางหยวนเลือกไก่ฟีนิกซ์ตัวที่อ้วนที่สุด นำออกมาเชือดคอ และเอาเลือดออกสำหรับเด็กชนบท การฆ่าไก่เป็นเพียงทักษะพื้นฐานที่สุดแต่หากเปลี่ยนเป็นคนในเมือง พวกเขากลัวแม้แต่จับมีดฆ่าไก่ด้วยซ้ำขณะที่ไก่กำลังถูกเอาเลือดออก จางหยวนก็เอาอาหารไปป้อนไก่ฟีนิกซ์เขาตัดสินใจแล้ว ต่อไปเมื่อซื้ออาหารสัตว์ เขาจะซื้ออาหารส
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพูดมาถึงขนาดนี้ จางหยวนก็พยักหน้ารับ เขาหยิบโสมป่าออกมาให้ผู้จัดการสาวตรวจสอบก่อน อีกฝ่ายดูเหมือนจะคุ้นเคยกับโสมป่าเป็นอย่างดี เมื่อรับมาดูก็พยักหน้าด้วยความพอใจ “ดีมากๆ! โสมป่าอายุสิบสองปีเต็ม! หากผลลัพธ์ออกมาดีอย่างที่ประธานฉู่บอกจริงๆ ราคาหนึ่งแสนสองก็คุ้มค่าแน่นอน!” จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้ม “ผลลัพธ์ก็เหมือนกับโสมป่าสองต้นที่ขายให้ประธานฉู่ครั้งก่อน! ต่อไปเรามาคุยเรื่องการค้าอย่างที่สองกันเถอะ!” พูดพลาง จางหยวนก็หยิบไก่ฟีนิกซ์ที่หั่นเป็นชิ้นๆ ออกมาจากกระเป๋าผ้าที่พกติดตัวมา แล้วส่งให้ผู้จัดการสาวที่อยู่ตรงหน้า “ผู้จัดการต่งนี่คือการค้าอย่างที่สองที่ผมอยากคุยกับประธานฉู่ ไก่ฟีนิกซ์! ไก่ชนิดนี้เลี้ยงด้วยสมุนไพรจีน ทั้งรสชาติดีและกลิ่นหอมมาก!” ผู้จัดการสาวเหลือบมองไก่ฟีนิกซ์บนโต๊ะ แล้วหันมองจางหยวน และฉายแววเย้ยหยันแฝงอยู่ในดวงตา ในฐานะผู้ติดตามประธานฉู่เสียนมายาวนานที่สุด เธอรู้ดีว่าประธานฉู่ให้ความสำคัญกับโรงแรมเทียนเหอมากเพียงใดวัตถุดิบทุกชนิดที่โรงแรมเทียนเหอใช้ จะต้องเป็นวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง นี่คือเหตุผลว่าทำไมอาหารของโรงแรมเทียนเหอถึงมีรสชาติ
ขณะพูด ผู้จัดการสาวเหลือบมองไก่ฟีนิกซ์ในมือด้วยสายตาเหยียดหยาม อยากจะโยนทิ้งไปเสียจริงๆ แต่พอคิดดูอีกทีก็นึกเสียดาย ให้เหล่าหลี่ยามเฝ้าประตูบ้านพักตากอากาศยังดีเสียกว่าเหล่าหลี่ก็เป็นคนชนบทเหมือนกับจางหยวน น่าจะพูดจาภาษาเดียวกัน ผู้จัดการสาวเหลือบมองร้านดิคอส และแสดงสีหน้าเย้ยหยันออกมารุนแรงขึ้น ก่อนจะก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว จางหยวนไม่รู้ถึงการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของผู้จัดการสาวแต่เขาก็รู้สึกลางๆ ว่า ผู้จัดการสาวคนนี้แม้ภายนอกจะดูอ่อนโยน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่คนแบบนั้น “ก็แค่ผู้จัดการคนหนึ่ง จะกลัวอะไรนักหนา ขอแค่ฉู่เสวี่ยเยี่ยนได้ลิ้มลองไก่ฟินิกซ์เข้าไป เธอต้องติดต่อกลับมาแน่นอน!” จางหยวนพูดกับตัวเอง ตอนนั้นเขายังไม่รู้ว่า ผู้จัดการสาวจะเอาไก่ฟินิกซ์ของเขาไปให้ยามเฝ้าประตูบ้านพักตากอากาศ หรือถึงขั้นคิดโยนทิ้งถังขยะเลยด้วยซ้ำ หากรู้เรื่องนี้ จางหยวนคงจะโกรธจนวิ่งออกไปตบผู้จัดการสาวคนนั้นแน่! ผู้จัดการสาวกลับไปที่บ้านพักตากอากาศ แล้วโยนไก่ฟินิกซ์ให้เหล่าหลี่ยามเฝ้าประตู เหล่าหลี่ได้รับไก่มากินฟรีๆ ก็ดีใจมาก จึงตัดสินใจว่าคืนนี้จะนำไปต้มกินก่อนครึ่งตัว ส่วนอีกครึ่งตัว เ
จางหยวนพยายามเค้นรอยยิ้มออกมา “ไม่เป็นไรนะ พี่หวัง พี่ดูแลเรื่องสร้างบ้านไปก่อนนะ ผมมีธุระนิดหน่อย!”หลังจากอำลาหวังต้าเหลยแล้ว จางหยวนก็เดินไปยังฟาร์มเลี้ยงผึ้งด้วยสีหน้าเคร่งขรึมก่อนหน้านี้ เขายังคุยโอ้อวดกับพ่อแม่ว่าการเข้าเมืองครั้งนี้จะต้องตกลงเรื่องขายไก่ฟีนิกซ์ได้แน่เขานึกไม่ถึงว่าฉู่เสวี่ยเยี่ยนจะมีท่าทีแบบนี้!จางหยวนยังคงรู้สึกงุนงง เนื้อไก่ฟินิกซ์นุ่มอร่อยขนาดนี้ ทำไมฉู่เสวี่ยเยี่ยนถึงไม่รู้สึกอะไรเลย?แต่แล้วเขาก็ปฏิเสธความคิดนี้ไปแม้ฉู่เสวี่ยเยี่ยนจะรับรสไม่ได้ แต่พ่อครัวที่ทำอาหารให้เธอก็รับรสไม่ได้ด้วยหรือ?ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อวานหวังฮุ่ยมารดาของเขาตุ๋นไก่ กลิ่นหอมอันเข้มข้นนั้นแทบไม่มีสิ่งใดมากลบกลิ่นได้เลย!หากพ่อครัวทั้งรับรสและดมกลิ่นไม่ออก ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสังเกตไม่เห็นความพิเศษของไก่ฟินิกซ์จางหยวนคิดไปคิดมา ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมฉู่เสวี่ยเยี่ยนถึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้แต่ข้อความของอีกฝ่ายก็ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจมาก ที่บอกว่าอย่ามารบกวนเธอคิดถึงตรงนี้ จางหยวนก็อดฮึดฮัดออกมาไม่ได้“ฉู่เสวี่ยเยี่ยน ของดีอยู่ตรงหน้าเธอ แต่เธอไม่รู้จักค่า! หากเป็นแบบนี้ ต่
เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์
"ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่
หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท
พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต
ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน
ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค
จินฟานฮึดฮัดออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรต่อแผนการรักษาของเขาก็เป็นแบบนี้แม้ว่าจะมียาสำหรับสัตว์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม เป็ดที่รอดชีวิตได้ก็เป็นเพียงเป็ดที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่านั้นส่วนพวกเป็ดที่ป่วยหนัก ก็ต้องปล่อยให้รอความตายไปจ้าวลี่ซานคิดครุ่นดูแล้วก็เห็นด้วย จึงให้จ้าวเจียซินไปจับเป็ดป่วยมาแต่จินเฟินกลับอาสาเสียเอง เดินไปที่โรงเลี้ยงเป็ด แล้วจับเป็ดป่วยหนักที่สุดมาสองตัวสิ่งที่จินเฟินอยากเห็นที่สุดก็คือ จางหยวนฆ่าเป็ดทั้งสองตัวตายคาที่เช่นนั้น เขาก็จะใช้โอกาสนี้ให้จ้าวลี่ซานสั่งซื้อยาสำหรับสัตว์เพิ่มอีกสองกล่องได้เมื่อเห็นเป็ดทั้งสองตัวที่ป่วยจนแทบไม่มีแรงดิ้น จ้าวลี่ซานก็ทำหน้าแปลกๆจ้าวเจียซินกลับยิ้มเย้ยหยัน “จับเป็ดป่วยที่ใกล้ตายมาใช่หรือไม่ แต่ไม่เป็นไรหรอก! พี่หยวนจะรักษาเป็ดทั้งสองตัวให้หายได้......ใช่หรือไม่”พูดถึงตรงนี้ จ้าวเจียซินก็รู้ตัวว่าพูดออกไปเช่นนี้อาจไม่เหมาะ จึงรีบหันไปถามความเห็นของจางหยวนจางหยวนพยักหน้ายิ้ม “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เป็ดทั้งสองตัวยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาให้หายได้!”จากนั้นเขาใช้ช้อนเล็กตักยาจากอ่างลายครามหน
เห็นเช่นนั้น จางหยวนก็ยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่! อาจ้าวและผู้เชี่ยวชาญจินท่านนี้ อย่ารีบร้อนไปเลย การสั่งซื้อก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก! จะลองดูหรือไม่ว่าผมจะรักษาเป็ดพวกนี้อย่างไร?”“หึ! ไม่สนใจ! ผมไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว!” จินฟานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจางหยวนจ้องมองจินฟาน “อาจ้าวตัดสินใจจะสั่งซื้อยาของคุณแล้ว อย่างไรเสียผู้เชี่ยวชาญจินจะไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อยเลยหรือ?” จ้าวเจียซินเข้าใจและพูดต่อ “ใช่! ซื้อยาของคุณ แล้วคุณยังไม่ให้เกียรติขนาดนี้ ประเดี๋ยวผมจะลองติดต่อบริษัทยายี่ห้ออื่นทางออนไลน์ พวกเขาคงจะนำเข้ายาจากต่างประเทศได้เช่นกัน!”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นอย่างที่จ้าวเจียซินพูดจริงๆ และไปหาบริษัทยายี่ห้ออื่น วันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยว “เอาล่ะ! ถ้าเช่นนั้น ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่จ้าว!” จินฟานพูดด้วยท่าทางใจกว้างจากนั้น ทุกคนก็เดินไปยังอ่างที่จางหยวนเตรียมไว้ เมื่อเห็นยาสมุนไพรในอ่าง และปูนขาวที่โรยอยู่ด้านบน จ้าวลี่ซานอดถามไม่ได้ว่า “พี่หยวน ข้างในนี้คืออะไรหรือ?”จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อันนี้คือยาสมุนไพรบดเป็นผง ประกอบด้วยไฉหู เทียนหมา
แม้ว่าเขาจะพยายามกระซิบเสียงเบา แต่ทั้งจางหยวนและจ้าวเจียซินก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างก็เห็นรอยยิ้มในสายตาของกันและกัน ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ที่แท้จินฟานก็เป็นแค่คนเขลาแต่จ้าวลี่ซานกลับตกใจกับคำพูดของจินฟาน รีบถามเขาเหมือนจะคว้าเอาหญ้าแพรกมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ผู้เชี่ยวชาญจิน คุณมีวิธีรักษาโรคระบาดในเป็ดได้หรือไม่ หากเป็ดของผมตายหมด ผมคงขาดทุนมากแน่!” เมื่อเห็นว่าหลอกล่อจ้าวลี่ซานได้ จินฟานก็ยิ้มออกมา “จริงๆ แล้ว การรักษาโรคระบาดในเป็ดก็ไม่ยาก! บริษัทของเรานำเข้ายาสำหรับสัตว์ชนิดหนึ่งมาจากต่างประเทศ! สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดได้มากเลย!” “ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่หากเป็ดได้รับยานี้ เชื่อว่าน่าจะมีเป็ดรอดชีวิตจำนวนมาก!” จ้าวลี่ซานรีบถามว่า “แล้วตอนนี้มียาหรือไม่” “ตอนนี้ยังไม่มี! แต่หากคุณจ้าวลี่ซานโอนเงินเข้าบริษัทวันนี้ ผมสามารถให้บริษัทเร่งจัดส่งได้ภายในวันเดียวกัน!” จินฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม แผนของเขาเรียบง่ายมากคือต้องการให้จ้าวลี่ซานซื้อยาที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดชุดนั้น จินฟานไม่ได้โอ้อวด ยานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดไ