โดนผู้หญิงรายล้อมเช่นนี้ หวังฮุ่ยก็ยิ้มไม่หุบ วันนี้เธอยิ้มมากกว่าที่เคยยิ้มมาทั้งชีวิตเสียอีก“น้องสาวตระกูลหลี่ อย่าพูดอย่างนั้นเลย! ถึงลูกชายฉันจะเริ่มมีหน้ามีตา แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้สาวๆอยากแต่งงานด้วยขนาดนั้นหรอก” หวังฮุ่ยพูดด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน“แหม! พี่สะใภ้ก็อย่าถ่อมตัวหน่อยเลย! ลูกชายพี่สะใภ้ทั้งสูง ทั้งหล่อ แล้วยังหาเงินเก่งอีกต่างหาก! ถือว่าเป็นหนุ่มที่ดีที่สุดในหมู่บ้านเลยก็ว่าได้!”“ใช่เลย! เสียดายที่ฉันไม่มีลูกสาว มิเช่นนั้นฉันจะให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายพี่สะใภ้แน่!”“ฉันมีลูกสาวคนเล็กอยู่ แต่เพิ่งจะอายุสิบห้าเอง จะให้หมั้นกับลูกชายพี่สะใภ้ตอนนี้ จะเร็วไปหรือไม่”“อายุสิบห้าไม่น้อยแล้วนะ! สมัยก่อนแต่งงานตอนอายุสิบเอ็ดสิบสองก็มี!”“……”เห็นว่าผู้หญิงกลุ่มนั้นพูดคุยนอกเรื่องไปไกลแล้วหวังฮุ่ยจึงรีบหยุดยั้ง“อย่าเลย! ลูกชายฉันอายุยี่สิบกว่าแล้ว หากจะแต่งงานก็ต้องแต่งกับหญิงสาวที่อายุยี่สิบขึ้นไปสิ!” หวังฮุ่ยรีบพูดขึ้นมาผู้หญิงที่เพิ่งพูดว่าจะให้ลูกสาววัยสิบห้าหมั้นหมายกับจางหยวนก็หน้าเสียทันทีแต่เธอก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้นอกกลุ่มคน มีสายตาอาฆาตแค้นจ้องมองหวังฮุ
ได้ยินเช่นนั้น สวีฉางชุนก็อุทานด้วยความไม่พอใจ “ทำไม ก็เพราะลูกสาวคนเก่งของเธอนั่นแหละ!” พอได้ยินว่าไฟลามมาถึงตัวเอง เสี่ยวเจียวเจียวที่อยู่ในห้องโถงก็เบ้ปากทันที “ท่านพ่อ เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย ลูกก็ทำตามที่ท่านพ่อสั่ง ไม่ได้ออกไปไหนเลยตั้งแต่กลับมาบ้านสองวันนี้” หนิวอ้ายชุนพยักหน้า “ถูก! เจียวเจียวช่วงนี้เรียบร้อยมาก!” “เรียบร้อย? หึ! เธอยังไม่รู้อีกหรือ ได้ข่าวมาจากหมู่บ้านเซี่ยวานแล้ว! จางหยวนกำลังสร้างบ้านหลัง ราคาสามแสนเลยนะ!” สวีฉางชุนหัวเราะเยาะ พอได้ยินถึงตรงนี้ ทั้งหนิวอ้ายชุนและลูกสาวก็ตกตะลึง “อะไรนะ? บ้านสามแสนหรือ พ่อเจียวเจียว ไม่ได้ล้อเล่นกันใช่หรือไม่ บ้านของจางหยวนจนขนาดนั้น จะสร้างบ้านสองแสนยังไม่ไหวเลย แล้วจะสร้างบ้านสามแสนได้ยย่างไร” หนิวอ้ายชุนพูดด้วยความตกตะลึง เสี่ยวเจียวเจียวก็กระโดดขึ้นมาและตะโกน “ใช่เลย! ลูกไปดูที่หมู่บ้านเซี่ยวานมาแล้ว! บ้านเขายังเป็นบ้านดินอยู่เลย จะสร้างบ้านสามแสนได้อย่างไร!” “ถูกต้อง ครั้งก่อนจางหยวนหยิบเงินออกมาสองแสนต่อหน้าทุกคน แต่นั้นแค่เงินสองแสน จะว่าจางหยวนไม่มีเงินสามแสนก็ไม่ใช่! ถึงแม้เขาจะมีเงินสามแสน ก็ย่อมไม่กล้า
หากเป็นแบบนั้นจริง เกรงว่าบ้านหลังละสามแสนที่กำลังสร้างอยู่นี่ อาจไม่ใช่ของจางหยวนเพียงคนเดียว แต่เป็นของทั้งเธอและจางหยวน! แต่ความคิดแบบนี้ผุดขึ้นในสมองเพียงแวบเดียวแล้วสวีเจียวเจียวก็กัดฟันพูดออกมาเสียงแข็งว่า “ถึงจะสร้างบ้านราคาสามแสนได้แล้วจะอย่างไร ก็ยังเป็นคนบ้านนอกอยู่ดี! ฉันจะต้องแต่งเข้าเมือง! แต่งกับคนที่อยู่ในเมืองและมีบ้าน!” พูดจบ สวีเจียวเจียวก็ตะโกนไปยังห้องของบิดาว่า “ท่านพ่อ! ท่านพ่อรอไว้เลยนะ! ลูกจะหาแฟนที่เก่งกว่าจางหยวนร้อยเท่าพันเท่าให้ได้!” สวีฉางชุนที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ในห้อง ได้ยินเช่นนั้นก็ฮึดฮัดออกมา ในสายตาของเขา ความคิดของลูกสาวดูผิดเพี้ยนไปเสียหมด คนบ้านนอกจะต้องด้อยกว่าคนในเมืองเสมอไปหรือ? ในเมืองก็มีคนจนที่ต้องประหยัดกินประหยัดใช้จำนวนมาก ถึงจะมีบ้านอยู่ในเมือง ก็ยังต้องผ่อนบ้านกันเป็นสิบปี ดูจางหยวนสิ บ้านราคาสามแสน สร้างได้ง่ายดายขนาดนี้ หมายความว่าอย่างไร? หมายความว่าเขามีฝีมือและความมั่นใจที่จะหาเงินก้อนโตมาได้ไง! กล้าใช้เงินสามแสนสร้างบ้าน ก็แสดงให้เห็นว่าเขามีความมั่นใจว่าจะหาเงินอีกสามแสนบาทมาได้! คิดได้เช่นนั้น สวีฉางชุนก็สู
จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ถูกต้อง ประธานฉู่ ผมเจอโสมป่าอีกต้นหนึ่ง อายุราวสิบสองปี!”“จริงหรือ” น้ำเสียงของฉู่เสวี่ยเยี่ยนเต็มไปด้วยความประหลาดใจถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยชอบจางหยวนเท่าใดนักแต่โสมป่าที่จางหยวนจัดหาให้กลับเป็นโสมป่าที่มีสรรพคุณทางยาดีที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น“แต่ประธานฉู่ คราวนี้ผมไม่ได้จะคุยแค่เรื่องการค้าโสมป่าอย่างเดียว ผมอยากคุยกับคุณอีกเรื่องด้วย!” จางหยวนพูดพร้อมรอยยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉู่เสวี่ยเยี่ยนทางปลายสายก็ค่อนข้างประหลาดใจ “การค้าอะไร หรือว่านอกจากโสมป่าแล้ว คุณยังมีสมุนไพรหายากอื่นๆ จะมาขายให้ฉัน?”เมื่อพิจารณาถึงคุณภาพของโสมป่าที่จางหยวนส่งมา หากเขามีสมุนไพรหายากอื่นๆ ฉู่เสวี่ยเยี่ยนก็อยากจะซื้อมาด้วยสำหรับคนรวยอย่างเธอ เงินหลักหมื่นหรือหลักแสนไม่ใช่เรื่องใหญ่หากจะใช้เงินหลักแสเพื่อแลกกับสมุนไพรหายากที่มีสรรพคุณโดดเด่น ฉู่เสวี่ยเยี่ยนก็ย่อมไม่ปฏิเสธจางหยวนกระแอมแล้วพูดว่า “ไม่ใช่แบบนั้น ตอนนี้ผมเพาะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์ที่เลี้ยงด้วยสมุนไพรจีนอยู่จำนวนหนึ่ง การค้าที่อยากจะพูดคุยคือการค้าเกี่ยวกับไก่ฟีนิกซ์น่ะ”“ไก่ฟีนิกซ์หรือว่าไก่ป่า?” ฉู่เสวี่ยเย
สำหรับราคาไก่ฟีนิกซ์ จางหยวนจงใจตั้งราคาสูงเกินจริงไปเล็กน้อยอันที่จริงแล้ว ราคาที่เขาพอใจอยู่ที่ประมาณหนึ่งร้อยถึงหนึ่งร้อยห้าสิบ ต้นทุนของไก่ฟีนิกซ์ไม่ได้ต่ำเลย รวมทั้งลูกไก่ ผงสมุนไพร อาหาร และอื่นๆ โดยเฉลี่ยแล้ว ต้นทุนต่อตัวของไก่ฟีนิกซ์ก็ประมาณสี่สิบถึงห้าสิบแล้ว ด้วยต้นทุนที่สูงขนาดนี้ ราคาขายก็ไม่ควรต่ำกว่าหนึ่งร้อยสิ ยิ่งไปกว่านั้น หากรสชาติของไก่ฟีนิกซ์อร่อยตรงตามสูตรเฟิ่งหมิงฉีซานบรรยายไว้จริงๆ ไม่ต้องพูดถึงตัวละร้อย แม้จะขายตัวละหนึ่งร้อยยี่สิบสาม หรือแม้แต่หนึ่งร้อยห้าสิบก็ไม่เกินไป! เหตุผลที่จางหยวนตั้งราคาตัวละสองร้อย ก็เพื่อสะดวกในการต่อรองราคาหลังจากพบกับฉู่เสวี่ยเยี่ยน ถึงแม้จางหยวนจะไม่ได้เรียนรู้วิธีทำการค้า แต่เขาก็เข้าใจหลักการง่ายๆ ข้อหนึ่งคือ การขายของต้องให้ผู้ซื้อมีช่องว่างในการต่อรอง และไม่ว่าจะตั้งราคาต่ำแค่ไหน หรือถึงขั้นต่ำลงไปถึงราคาต่ำสุดที่คาดหวังไว้ ฝ่ายตรงข้ามก็จะต่อรองราคาอย่างไม่ปรานีหากไม่ให้เขาต่อรองราคา ผู้ซื้อจะรู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบเมื่อเห็นว่าหลังจากที่ตนตั้งราคาไปแล้ว ฉู่เสวี่ยเยี่ยนที่อยู่ปลายสายไม่พูดอะไร จางหยวนจึ
“ไก่ฟีนิกซ์? ที่แท้ก็เป็นเพราะไก่ฟีนิกซ์นี่เอง!” หวังฮุ่ยร้องออกมาด้วยความประหลาดใจต่อมาใบหน้าของเธอก็ปรากฏความประหลาดใจ “หรือว่าไก่ที่เลี้ยงด้วยยาจีนจะตุ๋นออกมาหอมขนาดนี้?”จางหยวนชี้ไปที่เนื้อไก่ในหม้อที่สุกแล้วและพูดว่า “อร่อยหรือไม่ ก็ลองชิมดูสิ!”หวังฮุ่ยรีบใช้ทัพพีตักเนื้อชิ้นโตขึ้นมา ไม่ได้กินเอง แต่กลับตักใส่ถ้วยแล้วส่งให้จางหยวนจากนั้นเธอก็ใช้ตะเกียบคีบเนื้อไก่ชิ้นเล็กชิ้นหนึ่งมาเป่าสองสามที และค่อยๆ กินเมื่อเนื้อไก่เข้าปาก เธอเคี้ยวเพียงไม่กี่ที หวังฮุ่ยก็ตกตะลึงเนื้อไก่เพิ่งตุ๋นสุกใหม่ๆ แต่กลับเหมือนกับตุ๋นด้วยหม้อดินนานหลายชั่วโมงไม่! ยังดีกว่าเนื้อไก่ที่ตุ๋นเสียอีก!แทบไม่ต้องเคี้ยวเลย เข้าปากแล้วละลายเลย!รสชาติที่หอมหวานนั้นเหนือกว่าเนื้อไก่ทุกชนิดที่หวังฮุ่ยเคยกินมา แม้แต่ไก่บ้านที่เลี้ยงเองก็ยังอร่อยสู้ไม่ได้!และที่สำคัญคือ ไม่เหนียวเลย!ในขณะนี้ ไม่เพียงแต่หวังฮุ่ยจะตกตะลึง จางหยวนก็ตกตะลึงกับรสชาติอันยอดเยี่ยมของไก่ฟีนิกซ์เช่นกันเขาสาบานได้เลยว่า นี่คือไก่ตุ๋นที่อร่อยที่สุดที่เขาเคยกินมา!ไก่มีสองวิธีในการทำ คือการผัด ซึ่งเน้นที่เนื้อเหนียวและรสชา
จางหยวนแค่ต้องการให้สวีเจียวเจียวได้เห็นฟาร์มเลี้ยงไก่ที่เธอภาคภูมิใจ เขาก็เปิดได้เช่นกัน!เช้าวันรุ่งขึ้น จางหยวนออกจากอ้อมอกของหลี่ชิวจวี๋ไวมาก และท่ามกลางเสียงบ่นของอีกฝ่าย เขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างรีบเร่ง และมุ่งหน้าไปยังฟาร์มเลี้ยงผึ้งเขาต้องการฆ่าไก่ฟีนิกซ์หนึ่งตัวก่อน!การส่งไก่ให้ฉู่เสวี่ยเยี่ยน ต้องไม่ใช่ไก่เป็นๆ แน่นอน จางหยวนจะทำไก่ให้ก่อน แล้วค่อยส่งให้ฉู่เสวี่ยเยี่ยนจะดีกว่าระหว่างย้ายบ้าน จางหยวนก็ย้ายไก่ฟีนิกซ์มาที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้งด้วยบังเอิญว่าทางทิศตะวันตกของฟาร์มเลี้ยงผึ้ง มีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ เดิมทีเป็นพื้นที่ที่เหล่าเฟิงโถวเตรียมไว้รอเฟิงเฮ่อกลับใจและเพิ่มรังผึ้ง แต่เฟิงเฮ่อทำให้เหล่าเฟิงโถวผิดหวังที่ดินผืนนี้จึงปล่อยว่างมาตลอดเมื่อมาถึงฝูงไก่ฟีนิกซ์ จางหยวนเลือกไก่ฟีนิกซ์ตัวที่อ้วนที่สุด นำออกมาเชือดคอ และเอาเลือดออกสำหรับเด็กชนบท การฆ่าไก่เป็นเพียงทักษะพื้นฐานที่สุดแต่หากเปลี่ยนเป็นคนในเมือง พวกเขากลัวแม้แต่จับมีดฆ่าไก่ด้วยซ้ำขณะที่ไก่กำลังถูกเอาเลือดออก จางหยวนก็เอาอาหารไปป้อนไก่ฟีนิกซ์เขาตัดสินใจแล้ว ต่อไปเมื่อซื้ออาหารสัตว์ เขาจะซื้ออาหารส
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพูดมาถึงขนาดนี้ จางหยวนก็พยักหน้ารับ เขาหยิบโสมป่าออกมาให้ผู้จัดการสาวตรวจสอบก่อน อีกฝ่ายดูเหมือนจะคุ้นเคยกับโสมป่าเป็นอย่างดี เมื่อรับมาดูก็พยักหน้าด้วยความพอใจ “ดีมากๆ! โสมป่าอายุสิบสองปีเต็ม! หากผลลัพธ์ออกมาดีอย่างที่ประธานฉู่บอกจริงๆ ราคาหนึ่งแสนสองก็คุ้มค่าแน่นอน!” จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้ม “ผลลัพธ์ก็เหมือนกับโสมป่าสองต้นที่ขายให้ประธานฉู่ครั้งก่อน! ต่อไปเรามาคุยเรื่องการค้าอย่างที่สองกันเถอะ!” พูดพลาง จางหยวนก็หยิบไก่ฟีนิกซ์ที่หั่นเป็นชิ้นๆ ออกมาจากกระเป๋าผ้าที่พกติดตัวมา แล้วส่งให้ผู้จัดการสาวที่อยู่ตรงหน้า “ผู้จัดการต่งนี่คือการค้าอย่างที่สองที่ผมอยากคุยกับประธานฉู่ ไก่ฟีนิกซ์! ไก่ชนิดนี้เลี้ยงด้วยสมุนไพรจีน ทั้งรสชาติดีและกลิ่นหอมมาก!” ผู้จัดการสาวเหลือบมองไก่ฟีนิกซ์บนโต๊ะ แล้วหันมองจางหยวน และฉายแววเย้ยหยันแฝงอยู่ในดวงตา ในฐานะผู้ติดตามประธานฉู่เสียนมายาวนานที่สุด เธอรู้ดีว่าประธานฉู่ให้ความสำคัญกับโรงแรมเทียนเหอมากเพียงใดวัตถุดิบทุกชนิดที่โรงแรมเทียนเหอใช้ จะต้องเป็นวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง นี่คือเหตุผลว่าทำไมอาหารของโรงแรมเทียนเหอถึงมีรสชาติ
เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์
"ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่
หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท
พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต
ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน
ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค
จินฟานฮึดฮัดออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรต่อแผนการรักษาของเขาก็เป็นแบบนี้แม้ว่าจะมียาสำหรับสัตว์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม เป็ดที่รอดชีวิตได้ก็เป็นเพียงเป็ดที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่านั้นส่วนพวกเป็ดที่ป่วยหนัก ก็ต้องปล่อยให้รอความตายไปจ้าวลี่ซานคิดครุ่นดูแล้วก็เห็นด้วย จึงให้จ้าวเจียซินไปจับเป็ดป่วยมาแต่จินเฟินกลับอาสาเสียเอง เดินไปที่โรงเลี้ยงเป็ด แล้วจับเป็ดป่วยหนักที่สุดมาสองตัวสิ่งที่จินเฟินอยากเห็นที่สุดก็คือ จางหยวนฆ่าเป็ดทั้งสองตัวตายคาที่เช่นนั้น เขาก็จะใช้โอกาสนี้ให้จ้าวลี่ซานสั่งซื้อยาสำหรับสัตว์เพิ่มอีกสองกล่องได้เมื่อเห็นเป็ดทั้งสองตัวที่ป่วยจนแทบไม่มีแรงดิ้น จ้าวลี่ซานก็ทำหน้าแปลกๆจ้าวเจียซินกลับยิ้มเย้ยหยัน “จับเป็ดป่วยที่ใกล้ตายมาใช่หรือไม่ แต่ไม่เป็นไรหรอก! พี่หยวนจะรักษาเป็ดทั้งสองตัวให้หายได้......ใช่หรือไม่”พูดถึงตรงนี้ จ้าวเจียซินก็รู้ตัวว่าพูดออกไปเช่นนี้อาจไม่เหมาะ จึงรีบหันไปถามความเห็นของจางหยวนจางหยวนพยักหน้ายิ้ม “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เป็ดทั้งสองตัวยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาให้หายได้!”จากนั้นเขาใช้ช้อนเล็กตักยาจากอ่างลายครามหน
เห็นเช่นนั้น จางหยวนก็ยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่! อาจ้าวและผู้เชี่ยวชาญจินท่านนี้ อย่ารีบร้อนไปเลย การสั่งซื้อก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก! จะลองดูหรือไม่ว่าผมจะรักษาเป็ดพวกนี้อย่างไร?”“หึ! ไม่สนใจ! ผมไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว!” จินฟานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจางหยวนจ้องมองจินฟาน “อาจ้าวตัดสินใจจะสั่งซื้อยาของคุณแล้ว อย่างไรเสียผู้เชี่ยวชาญจินจะไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อยเลยหรือ?” จ้าวเจียซินเข้าใจและพูดต่อ “ใช่! ซื้อยาของคุณ แล้วคุณยังไม่ให้เกียรติขนาดนี้ ประเดี๋ยวผมจะลองติดต่อบริษัทยายี่ห้ออื่นทางออนไลน์ พวกเขาคงจะนำเข้ายาจากต่างประเทศได้เช่นกัน!”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นอย่างที่จ้าวเจียซินพูดจริงๆ และไปหาบริษัทยายี่ห้ออื่น วันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยว “เอาล่ะ! ถ้าเช่นนั้น ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่จ้าว!” จินฟานพูดด้วยท่าทางใจกว้างจากนั้น ทุกคนก็เดินไปยังอ่างที่จางหยวนเตรียมไว้ เมื่อเห็นยาสมุนไพรในอ่าง และปูนขาวที่โรยอยู่ด้านบน จ้าวลี่ซานอดถามไม่ได้ว่า “พี่หยวน ข้างในนี้คืออะไรหรือ?”จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อันนี้คือยาสมุนไพรบดเป็นผง ประกอบด้วยไฉหู เทียนหมา
แม้ว่าเขาจะพยายามกระซิบเสียงเบา แต่ทั้งจางหยวนและจ้าวเจียซินก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างก็เห็นรอยยิ้มในสายตาของกันและกัน ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ที่แท้จินฟานก็เป็นแค่คนเขลาแต่จ้าวลี่ซานกลับตกใจกับคำพูดของจินฟาน รีบถามเขาเหมือนจะคว้าเอาหญ้าแพรกมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ผู้เชี่ยวชาญจิน คุณมีวิธีรักษาโรคระบาดในเป็ดได้หรือไม่ หากเป็ดของผมตายหมด ผมคงขาดทุนมากแน่!” เมื่อเห็นว่าหลอกล่อจ้าวลี่ซานได้ จินฟานก็ยิ้มออกมา “จริงๆ แล้ว การรักษาโรคระบาดในเป็ดก็ไม่ยาก! บริษัทของเรานำเข้ายาสำหรับสัตว์ชนิดหนึ่งมาจากต่างประเทศ! สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดได้มากเลย!” “ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่หากเป็ดได้รับยานี้ เชื่อว่าน่าจะมีเป็ดรอดชีวิตจำนวนมาก!” จ้าวลี่ซานรีบถามว่า “แล้วตอนนี้มียาหรือไม่” “ตอนนี้ยังไม่มี! แต่หากคุณจ้าวลี่ซานโอนเงินเข้าบริษัทวันนี้ ผมสามารถให้บริษัทเร่งจัดส่งได้ภายในวันเดียวกัน!” จินฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม แผนของเขาเรียบง่ายมากคือต้องการให้จ้าวลี่ซานซื้อยาที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดชุดนั้น จินฟานไม่ได้โอ้อวด ยานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดไ