จางหยวนเดินเข้าไป: "พี่สะใภ้ชิวจวี๋ มาหาผมมีธุระอะไรไหม?""มีธุระจริง ๆ นั่นแหละ นายตามฉันมาก่อน!" สายตาของหลี่ชิวจวี๋เป็นประกายอย่างแปลประหลาดรอให้ทั้งสองคนเข้าไปในห้องโถง หลี่ชิวจวี๋ก็ให้จางหยวนรออยู่ที่ห้องโถงสองสามนาที จากนั้นก็กลับไปที่ห้องของตัวเองจางหยวนทำได้แค่รออยู่ตรงนั้นด้วยความสงสัย ขณะเดียวกันก็ครุ่นคิดว่าหลี่ชิวจวี๋กำลังคิดทำอะไรอยู่กันแน่ผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่ชิวจวี๋เปิดประตูห้องแล้วเดินออกมาเธอเรียกขึ้นมาเบา ๆ: "อาหยวน!"จางหยวนหันหน้ามองไปด้วยสัญชาตญาณแต่ภาพที่อยู่ตรงหน้า กลับทำให้เขานิ่งอึ้งไปในทันทีหลี่ชิวจวี๋เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว!พูดให้ถูกก็คือ เธอถอดเสื้อผ้าที่อยู่บนตัวออกจนหมด และสวมแค่ชุดชั้นในเท่านั้น!อีกทั้งนั่นไม่ใช่ชุดชั้นในธรรมดา แต่ยังเป็นชุดชั้นในแบบแหวกกลางทรงแหจับปลา!จางหยวนตกตะลึงทันทีหลี่ชิวจวี๋สวมชุดแบบนี้ ไม่ต่างจากการที่ไม่ได้สวมใส่อะไรเลยไม่สิ! มีเสน่ห์ยิ่งกว่าไม่ใส่อะไรเลยซะอีก!ดังคำกล่าวที่ว่า กอดปี่ปิดหน้าครึ่งหนึ่ง ความสวยที่วับแวม ถึงจะดึงดูดคนมากที่สุดจางหยวนรู้สึกได้ถึงความร้อนรุ่มในท้องน้อยที่เพิ่มขึ้นสูงเขาแตกต่า
หลี่ชิวจวี๋กลอกตาใส่เขา: "ยังต้องพูดอีกเหรอ! ไอ้สารเลวนั่นเป็นผู้ชายที่เสร็จไว!"หลังจากนั้น ทั้งสองกอดกันและพูดความลับมากมายจนะกระทั่วสี่ทุ่มกว่า จางหยวนจึงได้คิดที่จะกลับบ้านไปด้วยความอาลัยอาวรณ์จะยื้อเวลาต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นพ่อแม่จะเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าจางหยวนจะกลับไป หลี่ชิวจวี๋เต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ แต่เมื่อคิดว่าในอนาคตทั้งคู่ยังมีโอกาสอยู่ด้วยกันอีก เธอถึงได้ปล่อยวางจางหยวนกลับมาถึงบ้าน ก็ไม่ได้พูดเรื่องของเขากับหลี่ชิวจวี๋ออกไปเรื่องแบบนี้ปิดบังพ่อแม่เอาไว้จะค่อนข้างดีกว่าในเมื่อความคิดของคนรุ่นก่อน กับความคิดของวัยรุ่นมักจะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง!เช้าวันรุ่งขึ้น จางหยวนไปที่ในตัวเมืองเป็นเพื่อนหลี่ชิวจวี๋ตามที่นัดไว้ และช่วยเธอทำเอกสารหย่าร้างตอนแรกเจ้าหน้าที่ยังคิดว่า จางหยวนกับหลี่ชิวจวี๋เป็นสามีภรรยาที่จะหย่าร้างกันแต่ในตอนที่พวกเขาได้รับรู้ว่า ทั้งสองคนไม่ใช่สามีภรรยากัน สีหน้าก็เปลี่ยนไปแปลกประหลาดขึ้นมาทันทีวัยรุ่นสมัยนี้ เล่นสนุกกันอย่างเปิดเผยขนาดนี้เลยเหรอ?คิดไม่ถึงว่าจะมาที่สำนักงานทะเบียนเพื่อช่วยทำเอกสารหย่าร้างให้กิ๊กนี่แทบอยากจ
พูดให้ถูกต้องก็คือ เขายังไม่เคยไปเปิดห้องที่โรงแรมกับผู้หญิง!แต่ว่าในเมื่อหลี่ชิวจวี๋อยากไป งั้นก็ทำตามที่เธอต้องการก็พอแล้ว!จางหยวนไม่มีทางพูดแน่นอนว่า อันที่จริงเขาก็อยากไปเปิดประสบการณ์ดูว่าโรงแรมคู่รักเป็นอย่างไรทั้งสองคนเห็นพ้องต้องกัน จึงเดินไปทางโรงแรมคู่รักในทันทีจางหยวนกลับไม่รู้ สายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ในมุมมืด มองดูพวกเขาเดินเข้าไปในโรงแรมคู่รักอยู่ตลอด!อีกหนึ่งช่วงบ่ายแห่งการนัวเนียกัน...รอให้ทั้งสองคนเดินออกมาจากโรงแรมคู่รัก หลี่ชิวจวี๋ก็ขาอ่อนไปหมดแล้ว ทำได้แค่เพียงพิงร่างกายของจางหยวนเอาไว้โชคดีที่ตอนนี้มีคนไม่มากนัก ไม่อย่างนั้นให้คนอื่นเห็นหลี่ชิวจวี๋เป็นแบบนี้ ไม่แน่อาจจะคิดไปถึงไหนแล้วก็ได้จางหยวนก็ได้วางมาดสักครั้ง เขาไม่ได้เลือกนั่งรถประจำทาง แต่เรียกรถแท็กซี่กลับหมู่บ้านเพียงแค่ค่าแท็กซี่ ก็ใช้เงินไปสองร้อยห้าสิบบาทแล้วทั้งสองมาถึงหน้าหมู่บ้านก็ลงจากรถ ไม่ได้ให้คนขับรถแท็กซี่ไปส่งพวกเขาถึงหน้าประตูบ้านเรียกรถแท็กซี่กลับบ้าน สำหรับคนในชนบทนั้นเป็นการฟุ่มเฟือยอย่างมากจริง ๆเงินที่เรียกแท็กซี่หนึ่งครั้ง เพียงพอที่จะนั่งรถประจำทางได้
อย่าดูว่าคนสมัยนี้โฆษณาว่ากินหมั่นโถวแป้งข้าวโพดแล้วสุขภาพแข็งแรง ก็คิดว่ากินแป้งข้าวโพดแล้วดีมากจริง ๆนั่นเป็นการมุ่งเป้าไปที่คนในเมืองที่บำรุงร่างกายจนมากเกินไปคนแก่ที่ผอมเหลือแต่กระดูกอย่างผู้เฒ่าเกา ก็จะต้องกินหมั่นโถวแป้งสีขาวที่ย่อยง่าย"นายคืออาหยวนใช่ไหม? อายุเยอะแล้ว เพิ่งจะนึกชื่อของนายขึ้นได้!" ในตอนนี้ผู้เฒ่าเกาคลายความเจ็บปวดลงเล็กน้อยแล้ว จากนั้นก็ยิ้มพูดขึ้นมาหลังจากเห็นสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของผู้เฒ่าเกา จางหยวนกลับยิ้มไม่ออก ทำได้เพียงฝืนยิ้มออกมาบ้านผู้เฒ่าเกาน่าจะยากจนที่สุดในหมู่บ้านแล้ว!"ผู้เฒ่าความจำไม่เลวเลยนะครับ! ผมเอง! อ่อใช่ผู้เฒ่า ครอบครัวคุณไม่มีโควต้าผู้ยากไร้หรือว่าห้าสิทธิเหรอครับ?" จางหยวนฝืนยิ้มถามขึ้นผู้เฒ่าเกาส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มเจื่อน ๆ: "ไม่มี ครอบครัวยากไร้มาไม่ถึงฉัน สำหรับห้าสิทธิ...เห้อ! ฉันยังมีลูกสาว! จึงไม่นับอยู่ในห้าสิทธิ!"ในรอยยิ้มขมขื่นของเขา จางหยวนสามารถดูออกได้ว่า ลูกสาวที่ผู้เฒ่าเกาพูดถึงนั้น มีหรือไม่มีก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจางหยวนเคร่งขรึมอยู่หลายวินาที และพูดขึ้นกะทันหัน"ผู้เฒ่า อาการเอวเคล็ดของคุณ ผมช่วยฝังเข็มสัก
แต่ลูกสาวแท้ๆ ที่เขาเลี้ยงมา กลับไม่ใส่ใจพ่อแท้ ๆ อย่างเขาเลยด้วยซ้ำ!หลายปีมานี้ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากจางเอ้อร์หนิว ผู้เฒ่าเกาอาจจะกระโดดแม่น้ำฆ่าตัวตายไปนานแล้วจางหยวนจับมือของผู้เฒ่าเกาแล้วตบเบา ๆ: "เอาเป็นว่า ผู้เฒ่าทำตามที่ผมบอก แต่ละวันกินของดี ๆ หน่อย และก็กินแคลเซียมกับวิตามินให้ตรงเวลา เวลาปกติก็ตากแดดให้มากหน่อย""ผมรับรองว่า ใช้เวลาไม่นาน อาการบาดเจ็บที่เอวของคุณก็จะดีขึ้น! อ่อใช่ จำไว้ว่าอย่าทำงานใช้แรงเยอะ มีงานที่ต้องใช้แรงเยอะก็ให้เอ้อร์หนิวช่วย! ผมจะไปบอกกับเขาเอาไว้!"ผู้เฒ่าเกาได้ยินแบบนี้ก็เช็ดน้ำตา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ"อาหยวน ขอบคุณนายมากๆ! นายและเอ้อร์หนิว พวกนายสองคนเป็นคนดี เป็นคนดีมาก ๆ เลย!"ขณะที่เขาพูดผู้เฒ่าเกาก็ถอนหายใจ: "ฉันก็เกลียดตัวเองเหมือนกัน ถ้าฉันรู้ว่าลูกสาวของฉันไม่กตัญญู ตอนนั้นฉันควรจะมีลูกชายอีกคน! ลูกชายดีกว่าอีก!""นั่นก็ไม่แน่! ผู้เฒ่าคุณลืมเรื่องของตาเฟิงกับเฟิงเฮ่อลูกชายของเขาแล้วเหรอ? อันที่จริงมีลูกสาวหรือลูกชายก็เหมือนกัน เพียงแค่กตัญญูก็เป็นลูกชายลูกสาวที่ดี!" จางหยวนยิ้มบางแล้วพูดออกมาเขาไม่ได้มีความคิ
จางหยวนมีความเห็นอกเห็นใจแต่ท้ายที่สุดแล้วเขากับผู้เฒ่าเกาก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน ทำได้เพียงช่วยเหลือทางด้านการเงินและการรักษาให้กับเขาในระดับหนึ่งถ้าหากมีแม่พระอยู่ตรงนี้ อาจจะต้องขอร้องให้จางหยวนมาปรนนิบัติอาหารการกินผู้เฒ่าเกาทุก ๆ วัน แถมยังต้องช่วยเขาเก็บกวาดทำงานบ้านสำหรับคำขอที่แปลกประหลาดของแม่พระ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่ยอมรับปาก!ทำเรื่องดีมีขีดจำกัดพลังงานของมนุษย์ก็มีจำกัดเช่นกันจางหยวนปรนนิบัติพ่อแม่ของตัวเองก็ยังไม่ทันเลย จะมีเวลาวิ่งแจ้นไปปรนนิบัติคนอื่นได้อย่างไร?หลิวรั่วหลันช่วยหยิบแคลเซียมที่ดีที่สุดให้จางหยวนสองขวด และก็หยิบวิตามินดีอีกสองขวดจากนั้นเธอครุ่นคิด และก็หยิบวิตามินซีสองขวดออกมาจากในตู้ยาอีก"ผู้อาวุโสท่านนั้นกินแต่หมั่นโถวแป้งข้าวโพดกับผักดองทุกวัน จะต้องขาดวิตามินซีแน่นอน เอาไปให้เขากินสองขวดเถอะ!" หลิวรั่วหลันยื่นให้จางหยวนจางหยวนพยักหน้า: "ทั้งหมดเท่าไหร่?""ไม่เอาเงิน! คุณช่วยผู้อาวุโสท่านนั้นได้ ฉันจะช่วยบ้างไม่ได้เหรอ? ถือว่าฉันช่วยเหลือเขาตามกำลังที่มีแล้วกัน!" หลิวรั่วหลันพูดด้วยท่าทางแสร้งโมโหเดิมทีเธอเกิดมาหน้าตาสวยอยู่แล้ว ท่าทางแ
จางหยวนอดขมวดคิ้วไม่ได้: "เกากุ้ยอิงแต่งงานออกไปไม่ไกลไม่ใช่เหรอ? เท่าที่ผมจำได้ สามีของเธอก็เป็นคนในเมืองหลิ่วซู่!""ไม่ไกลอยู่แล้ว! ห่างจากหมู่บ้านของพวกเรามากสุดก็แค่เจ็ดกิโลเมตร! อยากจะกลับมาก็กลับมาได้ทุกเมื่อ! เพียงแค่เธอไม่ยอมกลับมาเองก็เท่านั้น!" หวังฮุ่ยถอนหายใจจากนั้น ครอบครัวของจางหยวนก็เข้าสู่ความเงียบสงัดพวกเขาต่างเห็นใจกับสถานการณ์ของผู้เฒ่าเกาแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ พวกเขาเป็นแค่คนนอก เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ในตอนนี้จู่ ๆ จางต้าซานก็พูดขึ้นว่า: "อาหยวน ลูกบอกว่าผู้เฒ่าเการ่างกายไม่แข็งแรงไม่ใช่เหรอ? ไม่อย่างนั้นลูกเอาน้ำผึ้งสร้างกระดูกไปให้เขาสักสองขวดไหม?"คำพูดของพ่อทำให้จางหยวนนึกขึ้นได้แม้ว่าผู้เฒ่าเกาจะไม่ได้มีโรคอะไร แต่เขากลับสามารถดื่มน้ำผึ้งสร้างกระดูกเพื่อเพิ่มสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้นี่นา!"ได้ครับ พ่อ! ครั้งที่แล้วผมทำน้ำผึ้งสร้างกระดูกเอาไว้สองสามขวดพอดี พรุ่งนี้จะนำไปให้ผู้เฒ่าเกาสักสองขวด!" จางหยวนพยักหน้าหลังทานอาหารเย็นเสร็จ จางหยวนก็หาข้ออ้างออกไปเดินเล่น ความเป็นจริงกลับแอบมาที่ในบ้านของหลี่ชิวจวี๋อย่าเข้าใจผิด เขาไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อ
จางหยวนกล้าดื่มนมแพะที่เพิ่งบีบออกมาโดยตรง นั่นเป็นเพราะร่างกายของเขาแข็งแรง ระบบทางเดินอาหารดีเยี่ยมแต่เปลี่ยนเป็นผู้เฒ่าเกาผู้สูงอายุที่ร่างกายอ่อนแอแบบนี้ถ้าหากกล้าดื่มนมแพะที่เพิ่งบีบออกมาโดยตรง เกรงว่าดื่มเสร็จคงได้กุมท้องวิ่งไปที่ห้องน้ำพูดแล้วก็บังเอิญ ในตอนนี้ประตูบ้านเสิ่นซิ่วอวิ๋นเปิดออกกะทันหัน คนที่เปิดประตูก็คือเสิ่นซิ่วอวิ๋นทั้งสองมองหน้ากัน ในดวงตาของจางหยวนแฝงไปด้วยความประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าจะเจอกับเสิ่นซิ่วอวิ๋นที่เปิดประตูโดยบังเอิญแบบนี้ในตอนที่เขาอยากจะยิ้มทักทายกับเสิ่นซิ่วอวิ๋น เสิ่นซิ่วอวิ๋นกลับถลึงตาโตทันที จากนั้นก็ปิดประตูทันที!รอยยิ้มบนใบหน้าของจางหยวนแข็งทื่อทันทีนี่มันเกิดอะไรขึ้น?ครั้งที่แล้วเขายังช่วยเสิ่นซิ่วอวิ๋นให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือปีศาจของอวี๋เหล่าจิ่วอยู่เลย ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนก็เปลี่ยนไปสนิทสนมกว่าเมื่อก่อนเล็กน้อยถึงขั้นที่ว่า เสิ่นซิ่วอวิ๋นก็เริ่มเรียกเขาว่า "อาหยวน" แล้วแต่ไม่ได้เจอหน้ากันช่วงหนึ่ง เสิ่นซิ่วอวิ๋นทำไมเมื่อเห็นเขาก็ถลึงตาใส่เขา ถึงขั้นที่ไม่อยากทักทาย?จางหยวนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่ว่ากลางวั