เนื่องจากอวี๋ซินฮุ่ยอยู่ที่บ้านอยู่ในลำดับที่เก้า ดังนั้นมีคนมากมายเรียกเข่าว่าอวี๋เหล่าจิ่วอวี๋เหล่าจิ่วเป็นคนโสดมีอายุที่มีชื่อเสียงในชุมชนอายุสี่สิบต้น ๆ แล้วยังโสดอยู่!ว่ากันว่าในอดีตอวี๋เหล่าจิ่วมีคู่หมั้ยคนหนึ่งแต่หลังจากที่ทั้งสองคนหมั้นกันได้ไม่นาน คู่หมั้นของเขาก็หนีไปกับผู้ชายอื่นแล้ว!ตั้งแต่นั้นมา อวี๋เหล่าจิ่วก็ใช้เหล้าแก้ความโศกเศร้า ทำให้การงานที่ดีหายไปหมด ตัวเองก็กลายเป็นคนขี้เมาอย่าดูว่าอวี๋เหล่าจิ่วเพิ่งจะสี่สิบต้น ๆ แต่ดูแล้วกลับแก่เป็นพิเศษ เป็นเหมือนกับคนอายุใกล้หกสิบปีแล้ว!ตกงาน คนก็หน้าตาแก่ แถมยังขี้เมา มีคนยอมแต่งงานกับเขาถึงจะแปลก!เมื่อเป็นแบบนี้ อวี๋เหล่าจิ่วกลายเป็นคนโสดที่มีชื่อเสียงในหมู่บ้าน แม้แต่ชื่อเดิมของเขาก็ไม่มีคนจำได้เมื่อครู่จางหยวนเพิ่งเดินออกจากบ้านของเสิ่นซิ่วอวิ๋นได้ไม่ไกล ก็ถูกอวี๋เหล่าจิ่วเรียกเข้ามาในซอยจางหยวนไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีอะไร่อคนขี้เมาแบบนี้ เมื่ออ้าปากก็เรียกเขาว่าเหล่าอวี๋ได้ยินจางหยวนเรียกเขาว่าเหล่าอวี๋ อวี๋เหล่าจิ่วก็ไม่ได้โกรธ เพียงแค่ยิ้มแก้ง ๆ ถามจางหยวน“อาหยวน เมื่อครู่คุณไปไหนมา?”จางหยวนกำลัง
ในเมื่อเสิ่นซิ่วอวิ๋นไม่ใช่สาวแกร่งบริสุทธิ์ และก็แอบเล่นสนุกกับจางหยวนได้งั้นเขาก็ทำได้เช่นกันใช่ไหม...คิดแบบนี้ อวี๋เหล่าจิ่วก็เลียริมฝีปากที่แห้งผาก มาเคาะหน้าประตูบ้านของเสิ่นซิ่วอวิ๋น"มาแล้ว! ยังมีธุระอะไรอีกไหม?" ในลานบ้านมีเสียงไพเราะของเสิ่นซิ่วอวิ๋นดังขึ้นเธอยังคิดว่า เป็นจางหยวนวกกลับมากะทันหันแต่เมื่อเสิ่นซิ่วอวิ๋นเดินไปถึงประตูใหญ่และมองออกไปข้างนอกผ่านช่องประตูถึงได้พบว่าคนที่ยืนอยู่ด้านนอกนั้นไม่ใช่จางหยวนแต่เป็นอวี๋เหล่าจิ่วคนโสดมีอายุที่มีชื่อเสียงในชุมชน!"คุณเองเหรอ? อวี๋เหล่าจิ่ว คุณมาทำอะไรที่บ้านฉัน?" เสิ่นซิ่วอวิ๋นระแวงขึ้นมาทันทีอวี๋เหล่าจิ่วกลับหัวเราะหึหึ: "แม่หม้ายเสิ่น ผมมีธุระอยากจะมาคุยกับคุณ คุณเปิดประตูให้ผมเข้าไปก่อน!"ความคิดของเขานั้นง่ายมาก ในเมื่อเสิ่นซิ่วอวิ๋นภายนอกดูปกติ ลับหลังกลับเป็นผู้หญิงร่านงั้นเขาก็ทำอย่างเปิดเผย ใช้วิธีขืนบังคับคว้าเสิ่นซิ่วอวิ๋นเอาไว้ได้สำเร็จ!อย่างไรแม่หม้ายคนนี้ก็คือผู้หญิงร่าน เพียงแค่มีอะไรกับเธอ ถึงเวลาเธอก็จะยินยอมอย่างว่าง่ายไม่แน่ ต่อไปยังจะสามารถให้แม่หม้ายสาวกลายเป็นคู่หลับนอนระยะยาวได้ด
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋เหล่าจิ่วที่ไม่ยอมแพ้ถึงได้ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอแล้วจากไปครั้งนี้ไม่สามารถทำสำเร็จได้ ในใจของอวี๋เหล่าจิ่วก็ไม่ยอมแพ้ทำไมจางหยวนสามารถเข้าบ้านเสิ่นซิ่วอวิ๋นได้ อีกทั้งยังเดินออกมาทั้งที่มุมปากมีคราบนมติดอยู่แต่เขาอวี๋เหล่าจิ่ว กลับถูกเสิ่นซิ่วอวิ๋นปฏิเสธอยู่นอกประตู!ชีวิตที่โสดมาหลายปี ทำให้สภาพจิตใจของอวี๋เหล่าจิ่วเริ่มบิดเบี้ยว!เขาแอบทำการตัดสินใจ ว่าจะต้องหาโอกาสจัดการเสิ่นซิ่วอวิ๋นให้ได้!อวี๋เหล่าจิ่วในตอนนี้ เห็นเสิ่นซิ่วอวิ๋นเป็นผู้หญิงชั้นต่ำที่อยากจะมีชู้ไปแล้วอวี๋เหล่าจิ่วคิดว่าเพียงแค่คว้าเสิ่นซิ่วอวิ๋นมาอยู่ในมือได้ และทรมานอย่างดุดันสักยก อีกฝ่ายก็จะคล้ายตามอย่างว่าง่ายเป็นเพราะเธอก็คือ "ผู้หญิงร่านที่หื่นกระหาย" ยังไงล่ะ!ขณะเดียวกัน จางหยวนเพิ่งจะกลับถึงบ้าน ก็ได้รับสายที่คาดคิดไม่ถึงเป็นฉู่เสวี่ยเยี่ยนที่โทรมา!"ประธานฉู่ โทรหาผมมีธุระอะไรครับ?" จางหยวนถามทั้งที่รู้อยู่แล้วฉู่เสวี่ยเยี่ยนหาเขา 99% เป็นเพราะโสมป่า!เป็นอย่างที่คิด ฉู่เสวี่ยเยี่ยนพูดเสียงทุ้มต่ำ"จางหยวน ช่วงนี้คุณหาโสมป่าเจอไหม? ถ้าหากหาเจอ จะต้องขายให้ฉัน
เพียงแต่นี่เป็นแค่ตำนานเท่านั้นบนโลกนี้จะมีภูตโสมได้อย่างไรล่ะ?ในหัวสมองเต็มไปด้วยความสงสัย จางหยวนลงจากเขา และทำการตัดสินใจแล้วว่า จะต้องหา "โสมป่าที่วิ่งหนีได้" ต้นนั้นเจอแน่นอนเมื่อถึงช่วงเช้าวันต่อมา จางหยวนก็ขึ้นไปที่หลังเขาเช่นเดิมครั้งนี้เขาไม่ได้เดินสะเปะสะปะ แต่เลือกตำแหน่งหนึ่งเป็นใจกลาง และก็แผ่รังสีไปรอบ ๆ เหมือนกับแหล่งกำเนิดแสงนี่ก็คือวิธีที่ดีที่จางหยวนคิดออกเมื่อคืนนี้!ไม่ว่าโสมป่าต้นนั้นจะเคลื่อนที่ไปเองได้หรือไม่แต่เพียงแค่มันยังอยู่ที่หลังเขา ก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือของเขาเมื่อเคลื่อนที่เป็นแนวรัศมีไปในทุกทิศทางแบบนี้ เชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน ก็จะได้กลิ่นหอมของโสมป่า!ถึงเวลาถ้าหากหาโสมป่าเจอ ก็ไม่ใช่ความฝันแล้ว!ใช้วิธีนี้ตามหาตลอดช่วงเช้าจนกระทั่งตอนเที่ยงพระอาทิตย์ลอยอยู่บนฟ้า แดดร้อนแผดเผา จางหยวนยังคงไม่พบร่องรอยของโสมป่าเขาแทบจะยอมแพ้แล้วโสมป่าต้นนี้ผิดปกติจริง ๆ!หาไม่เจอก็ช่างเถอะ!อย่างมากก็แค่โทรหาฉู่เสวี่ยเยี่ยนเพื่อพูดขอโทษและชี้แจงอย่างไรซะฉู่เสวี่ยเยี่ยนธุรกิจครอบครัวใหญ่โต ต่อให้ซื้อโสมป่าจากเขาไม่ได้ ก็สามารถซื้อโสมป่าได้จากช่องทา
มองดูแมวดำน้อยกินอย่างมูมมาม จู่ ๆ ในใจของจางหยวนก็มีความสะเทือนใจเล็กน้อยเมื่อตอนที่เขายังเด็ก ในอดีตครอบครัวของพวกเขาก็เคยเลี้ยงแมวตัวหนึ่ง เป็นแมวลายสลิดแมวลายสลิดตัวนั้นจับหนูเก่งอย่างมาก มันจับหนูได้บ่อย ๆและเป็นเพราะมีแมวลายสลิดอยู่ ที่บ้านของจางหยวนจึงไม่มีหนูกล้ามาด้วยซ้ำแต่น่าเสียดายที่ ภายหลังแมวลายสลิดไม่รู้ว่ากินหนูที่ถูกวางยาพิษของบ้านไหน จึงตายเพราะยาเบื่อหนู!ตอนนั้นจางหยวนอุ้มศพที่แข็งทื่อของแมวลายสลิดร้องไห้อยู่เป็นเวลานานมากตั้งแต่นั้นมาครอบครัวของเขาก็ไม่เคยเลี้ยงแมวอีกเลยและเหตุที่ไม่เลี้ยงแมว ไม่ใช่ว่าเพราะในบ้านไม่มีหนูแล้ว แต่เป็นเพราะจางหยวนไม่อยากเห็นแมวที่เขาเลี้ยงถูกวางยาตายอีก!ตอนนี้ บนตัวของแมวดำน้อยตัวนี้ จางหยวนกลับเห็นเงาของแมวลายสลิดในอดีตตัวนั้น!แมวลายสลิดตัวนั้นเมื่อตอนเล็ก ๆ กินของก็เป็นแบบนี้กลัวว่าจะถูกคนอื่นแย่งชิงไป มันจะมักจะคร่ำครวญเพื่อปกป้องอาหารของมันเสมอในตอนนี้แมวดำตัวน้อยกินไส้กรอกจนหมด และร้องเหมียว ๆ เสียงเล็กไปทางจางหยวนขณะนี้ จางหยวนได้ตัดสินใจอย่างหนึ่ง เขาต้องการรับเลี้ยงแมวดำตัวน้อยตัวนี้!รอให้จางหยวนลงจากเ
แค่ดื่มกาแฟไม่กี่แก้ว กลับจะต้องใช้จ่ายเงินหนึ่งพันห้าร้อยบาท นี่ไม่เห็นคุณค่าเงินเกินไปหน่อยไหม?เงินหนึ่งพันห้าร้อยบาท ก็เกือบจะซื้อรถจักรยานสามล้อได้แล้วหนึ่งคัน!จางหยวนยืนยันที่จะเปลี่ยนสถานที่นัดมอบเป็นร้านเคเอสซีที่อยู่ข้างซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ที่นี่มีน้ำให้ดื่มมีของให้กิน ราคาไม่กี่สิบบาทก็สามารถกินอิ่มได้ แต่ดีกว่าร้านกาแฟมากผ่านไปสิบกว่านาที ที่มุมอับของร้านเคเอสซีฉู่เสวี่ยเยี่ยนมองไปที่กาแฟสำเร็จรูปตรงหน้าเธอ และยังมีโค้กแก้วใหญ่กับเฟร้นฟรายตรงหน้าจางหยวนด้วยสีหน้าประหลาดใจ"คุณต้องเลือกทำการแลกเปลี่ยนที่นี่ให้ได้เลยเหรอ? อันที่จริงพวกเราสามารถไปแลกเปลี่ยนกันที่ร้านกาแฟนได้นะ!" ฉู่เสวี่ยเยี่ยนพูดเสียงเบาต่อให้นั่งอยู่ในมุมอับ เธอก็ยังสัมผัสได้ว่า มีสายตาเร่าร้อนมองมาจากทิศทางต่าง ๆผู้หญิงสวยที่มีออร่าเย็นชาอย่างฉู่เสวี่ยเยี่ยน ปกติหาเจอได้ยากในเคเอสซีเมื่อครู่ตอนที่เธอเข้าประตูมา ไม่รู้ว่าดึงดูดสายตาของผู้ชายมากมายแค่ไหนแม้แต่คู่รักที่หลงใหลในความรัก ก็ทะเลาะกันเสียงเบาเพราะเธอด้วยเหตุนี้ ฉู่เสวี่ยเยี่ยนจึงรู้สึกพูดไม่ออกอย่างมากเธอไม่ชอบสถานที่ที่คนมากมาย
"ประธานฉู่ คุณเป็นอะไรไหม?" จางหยวนรีบถามเธอฉู่เสวี่ยเยี่ยนขมวดคิ้วแน่น และโบกมือเล็กน้อย: "ฉัน...ฉันไม่เป็นไร!"แต่ท่าทางของเธอ กลับไม่เหมือนกับที่ท่าทางสบายดี!จางหยวนรีบเดินเข้าไป และจับข้อมือของเธอเอาไว้ภายใต้สายตาตกตะลึงของฉู่เสวี่ยเยี่ยน“คุณ! คุณทำอะไร?” ฉู่เสวี่ยเยี่ยนอุทานจางหยวนพูดด้วยเสียงทุ้ม: "อย่าพูด ผมจับชีพจรให้คุณอยู่!!"ฉู่เสวี่ยเยี่ยนรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น เธอคิดไม่ถึงว่าจางหยวนยังจะรู้จักการจับชีพจร!แต่ว่าไม่นานนักฉู่เสวี่ยเยี่ยนก็ไม่มีอารมณ์จะคิดมากแล้ว เพราะว่าท้องน้อยของเธอเจ็บรุนแรงยิ่งขึ้นหลังจากจับชีพจร จางหยวนก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยเขาวินิจฉัยโรคออกมาได้แล้วว่าฉู่เสวี่ยเยี่ยนเป็นอะไร!แต่โรคที่เธอเป็นนั้น ก็ไม่เหมือนกับสภาพของชีพจรของโรคนี้!อยากจะหายดีโดยสิ้นเชิง เกรงว่าจะวุ่นวายอย่างมาก!ตอนนี้สีหน้าของฉู่เสวี่ยเยี่ยนก็ดีขึ้นเยอะ ช่วงระยะที่เจ็บมากที่สุดได้ผ่านไปแล้วเมื่อมองดูสีหน้าซีดเซียวของเธอ สีหน้าของจางหยวนกลับเปลี่ยนเคร่งขรึมเล็กน้อย“ประธานฉู่ โรคนี้ของคุณ…”"อาการป่วยของฉันฉันรู้ดี เรื่องนี้คุณไม่ต้องสนใจแล้ว!" ฉู่เสวี่ยเย
เพียงแต่ เทียบกับพูดว่าถูกทำให้โมโห ไม่สู้พูดว่าครึ่งหนึ่งก็ทำให้รู้สึกเขินอาย!ขณะที่รู้สึกละอายใจและโมโห ฉู่เสวี่ยเยี่ยนก็แอบรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยเช่นกันอาการที่จางหยวนกล่าวถึงนั้นเหมือนกับโรคที่เธอเป็นทุกประการ!ฉู่เสวี่ยเยี่ยนเป็นโรคที่เรียกว่าช็อกโกแลตซีสต์อีกทั้งยังไม่ใช่ช็อกโกแลตซีสต์ธรรมดาทั่วไปแต่เป็นชนิดที่มีการเปลี่ยนแปลงของโรคก่อนหน้านั้นเธอเคยพบแพทย์แผนจีนและแพทย์ตะวันตกมานับไม่ถ้วนแต่กลับไม่สามารถรักษาโรคซับซ้อนแบบนี้ได้!คิดไม่ถึงว่า หนุ่มชนบทที่เชย ๆ เฉิ่ม ๆ ตรงหน้าคนนี้ นึกไม่ถึงว่าจะพึ่งพาแค่การจับชีพจรก็สามารถวินิจฉัยอาการป่วยของเธอออกมาได้ในตอนนี้ สายตาที่ฉู่เสวี่ยเยี่ยนมองจางหยวน มีความผิดปกติเล็กน้อยเห็นเธอไม่พูดจา จางหยวนก็เอ่ยปากต่อ"ประธานฉู่ คุณเป็นโรคนี้ คนอื่นอาจจะรักษาไม่หาย แต่ผมกลับมีวิธีรักษา!"เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หากไม่กี่นาทีที่แล้ว ฉู่เสวี่ยเยี่ยนคงจะหัวเราะเยาะแน่นอนโรคที่แพทย์แผนจีนและแพทย์ตะวันตกผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็ยังไม่สามารถรักษาได้ นายที่เป็นวัยรุ่นจะรักษาได้เหรอ?นี่ถือพูดจาไร้สาระไม่ใช่เหรอ!แต่จางหยวนใช้การจับชีพจร ก็ส
เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์
"ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่
หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท
พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต
ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน
ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค
จินฟานฮึดฮัดออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรต่อแผนการรักษาของเขาก็เป็นแบบนี้แม้ว่าจะมียาสำหรับสัตว์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม เป็ดที่รอดชีวิตได้ก็เป็นเพียงเป็ดที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่านั้นส่วนพวกเป็ดที่ป่วยหนัก ก็ต้องปล่อยให้รอความตายไปจ้าวลี่ซานคิดครุ่นดูแล้วก็เห็นด้วย จึงให้จ้าวเจียซินไปจับเป็ดป่วยมาแต่จินเฟินกลับอาสาเสียเอง เดินไปที่โรงเลี้ยงเป็ด แล้วจับเป็ดป่วยหนักที่สุดมาสองตัวสิ่งที่จินเฟินอยากเห็นที่สุดก็คือ จางหยวนฆ่าเป็ดทั้งสองตัวตายคาที่เช่นนั้น เขาก็จะใช้โอกาสนี้ให้จ้าวลี่ซานสั่งซื้อยาสำหรับสัตว์เพิ่มอีกสองกล่องได้เมื่อเห็นเป็ดทั้งสองตัวที่ป่วยจนแทบไม่มีแรงดิ้น จ้าวลี่ซานก็ทำหน้าแปลกๆจ้าวเจียซินกลับยิ้มเย้ยหยัน “จับเป็ดป่วยที่ใกล้ตายมาใช่หรือไม่ แต่ไม่เป็นไรหรอก! พี่หยวนจะรักษาเป็ดทั้งสองตัวให้หายได้......ใช่หรือไม่”พูดถึงตรงนี้ จ้าวเจียซินก็รู้ตัวว่าพูดออกไปเช่นนี้อาจไม่เหมาะ จึงรีบหันไปถามความเห็นของจางหยวนจางหยวนพยักหน้ายิ้ม “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เป็ดทั้งสองตัวยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาให้หายได้!”จากนั้นเขาใช้ช้อนเล็กตักยาจากอ่างลายครามหน
เห็นเช่นนั้น จางหยวนก็ยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่! อาจ้าวและผู้เชี่ยวชาญจินท่านนี้ อย่ารีบร้อนไปเลย การสั่งซื้อก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก! จะลองดูหรือไม่ว่าผมจะรักษาเป็ดพวกนี้อย่างไร?”“หึ! ไม่สนใจ! ผมไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว!” จินฟานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจางหยวนจ้องมองจินฟาน “อาจ้าวตัดสินใจจะสั่งซื้อยาของคุณแล้ว อย่างไรเสียผู้เชี่ยวชาญจินจะไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อยเลยหรือ?” จ้าวเจียซินเข้าใจและพูดต่อ “ใช่! ซื้อยาของคุณ แล้วคุณยังไม่ให้เกียรติขนาดนี้ ประเดี๋ยวผมจะลองติดต่อบริษัทยายี่ห้ออื่นทางออนไลน์ พวกเขาคงจะนำเข้ายาจากต่างประเทศได้เช่นกัน!”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นอย่างที่จ้าวเจียซินพูดจริงๆ และไปหาบริษัทยายี่ห้ออื่น วันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยว “เอาล่ะ! ถ้าเช่นนั้น ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่จ้าว!” จินฟานพูดด้วยท่าทางใจกว้างจากนั้น ทุกคนก็เดินไปยังอ่างที่จางหยวนเตรียมไว้ เมื่อเห็นยาสมุนไพรในอ่าง และปูนขาวที่โรยอยู่ด้านบน จ้าวลี่ซานอดถามไม่ได้ว่า “พี่หยวน ข้างในนี้คืออะไรหรือ?”จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อันนี้คือยาสมุนไพรบดเป็นผง ประกอบด้วยไฉหู เทียนหมา
แม้ว่าเขาจะพยายามกระซิบเสียงเบา แต่ทั้งจางหยวนและจ้าวเจียซินก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างก็เห็นรอยยิ้มในสายตาของกันและกัน ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ที่แท้จินฟานก็เป็นแค่คนเขลาแต่จ้าวลี่ซานกลับตกใจกับคำพูดของจินฟาน รีบถามเขาเหมือนจะคว้าเอาหญ้าแพรกมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ผู้เชี่ยวชาญจิน คุณมีวิธีรักษาโรคระบาดในเป็ดได้หรือไม่ หากเป็ดของผมตายหมด ผมคงขาดทุนมากแน่!” เมื่อเห็นว่าหลอกล่อจ้าวลี่ซานได้ จินฟานก็ยิ้มออกมา “จริงๆ แล้ว การรักษาโรคระบาดในเป็ดก็ไม่ยาก! บริษัทของเรานำเข้ายาสำหรับสัตว์ชนิดหนึ่งมาจากต่างประเทศ! สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดได้มากเลย!” “ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่หากเป็ดได้รับยานี้ เชื่อว่าน่าจะมีเป็ดรอดชีวิตจำนวนมาก!” จ้าวลี่ซานรีบถามว่า “แล้วตอนนี้มียาหรือไม่” “ตอนนี้ยังไม่มี! แต่หากคุณจ้าวลี่ซานโอนเงินเข้าบริษัทวันนี้ ผมสามารถให้บริษัทเร่งจัดส่งได้ภายในวันเดียวกัน!” จินฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม แผนของเขาเรียบง่ายมากคือต้องการให้จ้าวลี่ซานซื้อยาที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดชุดนั้น จินฟานไม่ได้โอ้อวด ยานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดไ