แชร์

บทที่ 8 คะนึงถึง (2)

ผู้เขียน: เทียนสื่อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-02 20:15:40

"ท่านตา…อยู่นี่เองหรือ" ฟู่ซูหนิงฉีกยิ้มประดักประเดิด จากนั้นก็แปรเป็นโอบกอดสองตายายคนละฝั่ง จากนั้นเอ่ยอู้อี้ "หนิงเอ๋อร์มิได้เที่ยวเตร็ดเตร่จนหลงลืมเวลาใดเลยเจ้าค่ะ หนิงเอ๋อร์ก็แค่ แค่..."

นัยน์ตาดอกท้อลดมองสมุนไพรในมือ "อ่า...หนิงเอ๋อร์ แค่รู้สึกเมื่อยล้าเล็กน้อย เพราะหมอนั่น…เอ่อ คุณชายฉือ เอาแต่เดินเชื่องช้าเป็นเต่า หากหนิงเอ๋อร์เป็นบุรุษคงแบกเขาขึ้นหลังไปเสียตั้งนานแล้ว จะได้กลับถึงเรือนโดยเร็ว อีกอย่าง หนิงเอ๋อร์ก็กลับถึงหุบเขาร้อยโอสถตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตก เพียงแต่กำลังแวะเก็บสมุนไพรพวกนี้เพื่อนำมาผสมเครื่องอาบน้ำให้สดชื่นเท่านั้นเองเจ้าค่ะ"

ฟู่ซูหนิงผละห่างผู้เฒ่าทั้งสอง จากนั้นแสดงหลักฐานในมือไปเบื้องหน้า กระนั้นก็ยังถูกมือเหี่ยวย่นทว่ายังแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้าเคาะกะโหลกไปหนึ่งครา

"โอ๊ย!"

"นี่แน่...คราวหลังอย่าทำให้ตากับยายเป็นห่วงเช่นวันนี้อีก"

"เจ้าค่ะทราบแล้ว ท่านตาก็...ท่านเอาแต่เคาะกะโหลกหนิงเอ๋อร์เช่นนี้ สมองไหล ความรู้หดหายจะทำอย่างไรเจ้าคะ หลานของท่านยิ่งฉลาดหลักแหลมอยู่มิรู้หรือ"

ผู้เป็นยายขำพรืด หลานของนาง

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 9 หุบเขาผีสิง (1)

    ครึ่งเดือนผันผ่าน ณ ย่านการค้าเมืองเทียนหลันบริเวณริมท่าน้ำล้วนคึกคักไปด้วยบรรดาผู้คน มีทั้งชาวบ้านในพื้นที่และกลุ่มพ่อค้าต่างเมืองเดินกระทบไหล่กันให้ควักแผงลอยไม้ไผ่ต่างวางของขายเรียงรายเป็นทิวแถว บ้างขายพืชผัก บ้างขายเครื่องประดับ รวมถึงอาหารทั้งคาวและหวานละลานตาเต็มไปหมดเพราะเมืองเทียนหลันนั้นโอบล้อมไปด้วยแม่น้ำขนาดมหึมาอันเป็นเหตุให้เมืองเทียนหลันแห่งทิศบูรพาอุดมสมบูรณ์มากพร้อมด้วยพืชพรรณธัญญาหารหากนึกย้อนกลับไปเมื่อครึ่งเดือนก่อนพื้นที่แห่งนี้เกือบจมดิ่งอยู่ใต้ท้องสมุทร ยามถึงกลางฤดูหยี่สุ่ยฝนฟ้ามักเทกระจาดลงมาพร้อมลมพายุดั่งสวรรค์กำลังพิโรธ ทว่าประสบปัญหาได้ไม่นานก็ได้รับการแก้ไขจากเหออ๋องอย่างทันท่วงที จึงสามารถพลิกวิกฤติให้กลับมามั่งคั่งได้อีกครั้งแท้จริงวิธีแก้ปัญหาข้างต้นล้วนมาจากแนวความคิดขององค์ชายหกฉืออิ้งเทียน แม้ตัวเขาไม่อยู่เพราะเกิดเหตุไม่คาดฝันซึ่งมิได้เปิดเผยให้ใครทราบ กระนั้นเขาก็ยังส่งเหล่าทหารกล้าในสังกัดเข้ามาช่วยเหลือ ชาวเมืองเทียนหลันมิอาจนิ่งนอนใจจึงรวบรวมกำลังพลเข้าช่วยขุดลอกอ่างเก็บน้ำแหล่งใหม่เช่นเดีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-03
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 9 หุบเขาผีสิง (2)

    เด็กน้อยส่ายศีรษะทว่ากลับมีสีหน้าเศร้าสลด"เจ้ามิได้ป่วย แต่ดูสีหน้าของเจ้ากลับมิสู้ดีเท่าใด" แท้จริงเขามองเห็นเพียงเลือนราง ทว่าเขากำลังจับพิรุธจากน้ำเสียงของอีกฝ่ายเด็กคนนี้กำลังมีปัญหาครอบครัวเด็กน้อยแหงนหน้าขึ้นแช่มช้า แววตาแข็งกร้าวเมื่อครู่ไหวระริกแดงก่ำ จากท่าทีหยาบคายแข็งกระด้างก็แปรเปลี่ยนเฉกเช่นพลิกฝ่ามือ"พี่ชาย ข้ามิได้ป่วยจริง ๆ ขอรับ ทว่าน้องข้า น้องสาวข้า…"จู่ ๆ ไหล่แคบก็ไหวสะท้าน ชายหนุ่มเห็นอาการไม่สู้ดีของอีกฝ่าย เขาจึงเอื้อมมือขึ้นตบเปาะแปะไปยังลาดไหล่เล็กหนึ่งครา "เป็นลูกผู้ชาย ห้ามร้อง ต้องแข็งแกร่งเข้าใจหรือไม่"เด็กชายพยักหน้าหงึกหงัก "ขอรับ ตะ...แต่ หากข้าทำงานให้ท่าน ท่านจะให้เงินข้าจริง ๆ หรือ"ชายหนุ่มพยักหน้า "แน่นอน ข้าให้เจ้าทั้งหมด""จริง ๆ นะขอรับ""อืม...พี่ชายไม่เคยหลอกใคร เมื่อครู่เจ้าบอกว่าเจ้ามีน้องสาว แล้วพ่อแม่เล่า""ขอรับข้ามีน้องสาว แต่พ่อแม่ไม่มีแล้ว…" เสียงเล็กเงียบไปครู่หนึ่ง เสี่ยวไป๋เอ่ยต่อ "ยามนี้น้องสาวของข้าป่วยหนัก ข้าไม่ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-04
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 10 ค่ายกลโอสถพิษ

    ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางฟู่ซูหนิงก็ตั้งใจออกไปเก็บสมุนไพรตามปกติ อีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาลงจากหุบเขาเพื่อไปช่วยเหลือชาวบ้านบางส่วนซึ่งไม่ได้รับโอกาสให้ขึ้นมาเยือนหุบเขาร้อยโอสถ การลงเขาแต่ละครั้งจะลงไปในตัวตนของหมอนิรนามก็เพียงเท่านั้นด้วยเหตุนี้โอสถทุกแขนงจำต้องมีอย่างครบครันเดิมทีฟู่ซูหนิงมักถูกกำชับให้อยู่เฝ้าที่เรือนไม้ไผ่ ท่านตาและท่านยายของนางจะเป็นฝ่ายลงไปเอง แม้ท่านตาของนางอายุแปดสิบปี ส่วนท่านยายอายุเจ็ดสิบห้า ทว่าทั้งสองยังร่างกายแข็งแรงกว่าคนแก่ชราทั่วไปนักการเดินเท้าและอยู่ท่ามกลางพืชสมุนไพรนับว่าเป็นยาวิเศษอย่างแท้จริงกรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง"ท่านตา เสียงกระดิ่งเจ้าค่ะ มีคนต้องการความช่วยเหลือ""เดี๋ยวตาออกไปดูเอง""ไม่ต้องเจ้าค่ะ อย่างไรข้าก็ต้องออกไปอยู่แล้ว ซ้ำท่านยังต้องเตรียมสัมภาระอีกมาก ให้หนิงเอ๋อร์ไปเองเจ้าค่ะแล้วจะเร่งกลับมานะเจ้าคะ""แต่เจ้าเทียวไปเทียวมาคงนับว่าลำบากแย่"ฟู่ซูหนิงฉีกยิ้มกว้าง "ท่านตา... เอาอีกแล้วนะเจ้าคะ พวกท่านอายุมากกว่าข้าตั้งกี่สิบปียังเทียวไปเทีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-05
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 11 ผู้เหมาะสมกับตำแหน่งอ๋องขั้นหนึ่ง (1)

    "ท่านตาเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ"ฟู่ซูหนิงเคร่งเครียดเมื่อเห็นสีหน้าของเด็กหญิงเริ่มซีดขาว ลมหายใจที่พ่นออกมาก็ผะแผ่วลงทุกขณะต่งควนส่ายศีรษะ "เด็กคนนี้ป่วยเรื้อรัง ป่วยมานานเกินไป นางไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่โลกใบนี้นานนัก""...ท่านตาหมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ""ดูเหมือนว่านางอาจอยู่ได้ไม่เกินคืนนี้"ฟู่ซูหนิงตัวแข็งค้างดั่งถูกฟาดด้วยสายอสนีเคราะห์เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ น่าสงสารเพียงนี้ ยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตหรือมีโอกาสเติบโตเฉกเช่นคนอื่นก็ต้องลาโลกแล้วอย่างนั้นหรือ แม้นางไม่อยากเชื่อแต่ท่านตาของนางมีญาณหยั่งรู้ ข้อนี้นางไม่อาจปฏิเสธความจริงได้เลย"...ท่านตา ท่านตาเจ้าคะ แต่ว่าเรา เราเป็นหมอเทวดา ผู้ใดก็ว่าอย่างนั้น ข้าว่ายังมีหนทางหรือไม่ บางทีญาณของท่านอาจผิดพลาดก็ได้เจ้าค่ะ" ฟู่ซูหนิงละล้าละลัง นัยน์ตาดอกท้อแดงก่ำเพราะรู้สึกเวทนาสองพี่น้องจับใจระหว่างเดินทางกลับเรือนไม้ไผ่ ฟู่ซูหนิงซักประวัติของสองพี่น้องแล้วยิ่งฟังก็ยิ่งหดหู่ เด็กชายมีนามว่าเสี่ยวไป๋อายุสิบขวบ ส่วนเด็กหญิงนามว่าเสี่ยวยี่ อายุเพียงเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-06
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 11 ผู้เหมาะสมกับตำแหน่งอ๋องขั้นหนึ่ง (2)

    "น้องหก พี่สี่ของเจ้าไม่อยู่แล้ว ส่วนข้าเป็นพี่ห้า ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ยิ่ง ผลงานล้วนโดดเด่นไม่เป็นรองใคร เจ้ายังคิดว่าตนเองจะได้รับตำแหน่งชินอ๋องนี่อีกหรือ"วันนี้ฉืออิ้งเทียนแต่งกายด้วยเครื่องแบบผ้าไหมลายคราม บนศีรษะสวมกวานทองคำ ดวงตาของเขาผูกปิดด้วยผ้าแพรสีขาว"พี่ห้า ที่ข้ามาร่วมพิธีวันนี้ก็เพียงทำตามกฎมณเฑียรเท่านั้น ส่วนตำแหน่งที่ว่าก็สุดแล้วแต่เสด็จพ่อมิใช่หรือ""ฮ่า ฮ่า เช่นนี้เอง แต่เจ้ากลายเป็นองค์ชายพิการตาบอดไปแล้ว น้องหกเจ้าไม่มาสักคน เสด็จพ่อก็คงไม่เอาผิดกระมัง อย่าได้คร่ำเคร่งถึงเพียงนั้นเลย" ฉือเจิ้นหยู่เหยียดยิ้ม มือหยาบระคายวางลงบนบ่าของฉืออิ้งเทียน เขาออกแรงตบเปาะแปะพลางแสร้งถอนหายใจ องค์ชายคนอื่น ๆ ที่ยืนเรียงแถวต่างส่ายศีรษะในความผยองพองขนและมั่นอกมั่นใจของคนผู้นี้ เป็นเพียงโอรสตำแหน่งผินแต่กลับมิเคยเจียมกะลาหัว"พี่หก อย่าไปใส่ใจเขาเลย ข้าจะรอชมเศษใบหน้าที่กระจายเกลื่อนพื้นของเขา แม้ท่านมิได้ตำแหน่งชินอ๋อง แต่ข้าคิดว่าเขาเองก็คงไม่ได้"ฉืออิ้งเทียนยิ้มบาง "น้องแปด ไม่ต้องเป็นกังวล"องค์ชายแปดเป็นโอรสจากสนมตำแหน่งเฟยอีก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-07
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 12 ออกเดินทาง (1)

    หนึ่งสัปดาห์ก่อนพิธีแต่งตั้งชินอ๋อง"ฉืออิ้งเทียนถวายบังคมเสด็จพ่อ""อิ้งเทียน เจ้านั่งลงเถิด""พ่ะย่ะค่ะ"ยามนี้พวกเขาอยู่ในห้องรับรองส่วนตัวของฉืออิ้งเทียน หลังจากพบกุ้ยเฟยเป็นที่เรียบร้อย ฮ่องเต้ก็มีเรื่องต้องพูดคุยกับฉืออิ้งเทียนเป็นการส่วนตัว"อิ้งเทียน ดวงตาของเจ้าไม่อาจรักษาได้เลยอย่างนั้นหรือ""เสด็จพ่อไม่ต้องกังวลพระทัย ลูกว่าจะไปเข้าเฝ้าเพื่อกราบทูลอยู่พอดีพ่ะย่ะค่ะ"ฮ่องเต้ฉือเจียฉีพยักหน้า แม้นใบหน้าดูเคร่งขรึม ทว่าภายในใจของเขาก็แอบประหวั่น หากโอรสผู้มากความสามารถดวงตามืดบอดจริง เขาคงมิอาจมอบตำแหน่งชินอ๋องให้ได้ ขุนนางทุกฝ่ายจะต้องคัดค้านภายในระบบราชวงศ์จะต้องอลหม่านเป็นแน่ความสัมพันธ์ฉันพี่น้องในบรรดาองค์ชายองค์หญิงหามีใครจริงใจเท่าสองพี่น้องตำหนักกุ้ยเฟยแล้วฮ่องเต้ฉือเจียฉีต้องแสร้งปิดตาข้างหนึ่งมาโดยตลอด เพราะถึงอย่างไรองค์ชายองค์หญิงเหล่านั้นก็ล้วนเป็นบุตรของตนด้วยกันทั้งสิ้นทว่าเขารู้จักนิสัยโอรสคนที่หกที่ถือกำเนิดจากซิ่วกุ้ยเฟยดี ฉืออิ้งเทียนเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-08
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 12 ออกเดินทาง (2)

    โชคดียิ่งที่เด็กชายสามารถคว้าราวบันไดไม้ไผ่ไว้ทันท่วงที เสี่ยวไป๋ผินมองฟู่ซูหนิงอย่างรู้สึกผิด หัวใจของเขาเต้นดังอึกทึกดั่งถูกตีกระหน่ำ เสี่ยวไป๋คลี่ยิ้มแห้งขอด"ท่านอาจารย์...ศิษย์ไม่เป็นอันใดขอรับ""ใจหายใจคว่ำหมด ระวังด้วย" ฟู่ซูหนิงโล่งอก เมื่อครู่คิดว่าศิษย์ของตนจะหัวร้างข้างแตกเข้าเสียแล้วฟู่หรงเข้ามาก็ทันได้เห็นเหตุการณ์พอดี "ตายจริง ไป๋เอ๋อร์ เจ้าระวังหน่อย อยู่กับอาจารย์เจ้ามากเกินไปหรือไร จึงติดนิสัยป้ำเป๋อจากนาง""อ้าว...ท่านยายเจ้าคะ ไฉนโยงมาถึงข้ากันเล่า หลานสาวของท่านออกจะเรียบร้อยเฉกเช่นผ้ายับที่พับไว้มิรู้หรือเจ้าคะ"ฟู่หรงอมยิ้ม หญิงชราส่ายหน้าน้อย ๆ "ผ้ายับแล้วนับว่าเรียบร้อยได้หรือ"ฟู่ซูหนิงหัวเราะคิกคัก "เรียบร้อยสิเจ้าคะ ถึงอย่างไรก็ยังพับนะเจ้าคะ"หญิงชราลดกายลงนั่งขนาบข้างฟู่ซูหนิง "หนิงเอ๋อร์ เจ้าไม่เคยออกจากหุบเขาร้อยโอสถเลยนับสิบเจ็ดปี ยามนี้ท่านตาของเจ้าเห็นดีเห็นงามให้เจ้าออกไป หากเจ้าอยากอยู่ที่นี่ต่อยายจะไปคุยกับตาของเจ้าให้เอง อีกอย่างข้าไม่ค่อยวางใจ ถึงเจ้ามีศิษย์เป็นชาย แต่เขายังเด็กมากนัก หากจู่ ๆ เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 1 จิตวิญญาณตื่นในคืนฝนพรำ (1)

    ทั่วบริเวณหุบเขาร้อยโอสถ ซึ่งเต็มไปด้วยพืชสมุนไพรหลากหลายชนิดล้วนเปียกชุ่มไปด้วยหยดน้ำพราวระยับ เพราะยามนี้สายฝนกำลังเทกระหน่ำดุจสวรรค์ร่ำไห้ ผืนนภาอันเคยสว่างเจิดจ้าแปรเปลี่ยนเป็นอึมครึมแผ่กลิ่นอายน่าหวาดเกรงเสียงสายฟ้าหวดสะบั้นเฉกเช่นอสนีเคราะห์ ภายในถ้ำแสนอนธการซ้ำยังอับชื้นพลันปรากฏสตรีร่างระหงนอนไร้สติเพียงลำพัง ความเย็นเยียบกำลังกัดลึกกร่อนกระดูกเสียจนหนาวเหน็บ เรือนร่างที่แน่นิ่งมานานจึงเริ่มขยับไหวพร้อมลมหายใจกระเพื่อมถี่ แค่ก แค่ก"หนาวจัง..." เสียงที่เคยสดใสแหบแห้งระคนสั่นเครือ เปลือกตาบางเปิดปรือขึ้นแช่มช้า ครั้นได้สตินางจึงดันกายของตนเพื่อพิงผนังผิวหยาบ อ้อมแขนยกขึ้นโอบกอดเรือนร่างตนหวังคลายความเย็นเยียบ พลางกวาดสายตาสำรวจสรรพสิ่งท่ามกลางความมืดมัว หญิงสาวขยับแขนเพื่อตรวจสอบทีละฝั่งด้วยสีหน้าฉงนสนเท่ห์ "นี่เรายังไม่ตายอีกหรือ" ฟู่ซูหนิงถอนหายใจด้วยความรู้สึกปลดปลง นางจำได้ว่าถูกบั่นศีรษะสิ้นใจไปแล้วตั้งแต่อยู่ในวังหลวง โทษฐานวางยาพิษฮ่องเต้ คาดไม่ถึงว่ายามนี้ฟู่ซูหนิงได้หวนกลับมาในคืนฝนพรำเมื่อคราที่ตนอายุสิบหกหนาวอีกครั้งเหตุใดนางจึงไร้ท่าทีตื่นตระหนกเมื่อทราบว่าต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20

บทล่าสุด

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 12 ออกเดินทาง (2)

    โชคดียิ่งที่เด็กชายสามารถคว้าราวบันไดไม้ไผ่ไว้ทันท่วงที เสี่ยวไป๋ผินมองฟู่ซูหนิงอย่างรู้สึกผิด หัวใจของเขาเต้นดังอึกทึกดั่งถูกตีกระหน่ำ เสี่ยวไป๋คลี่ยิ้มแห้งขอด"ท่านอาจารย์...ศิษย์ไม่เป็นอันใดขอรับ""ใจหายใจคว่ำหมด ระวังด้วย" ฟู่ซูหนิงโล่งอก เมื่อครู่คิดว่าศิษย์ของตนจะหัวร้างข้างแตกเข้าเสียแล้วฟู่หรงเข้ามาก็ทันได้เห็นเหตุการณ์พอดี "ตายจริง ไป๋เอ๋อร์ เจ้าระวังหน่อย อยู่กับอาจารย์เจ้ามากเกินไปหรือไร จึงติดนิสัยป้ำเป๋อจากนาง""อ้าว...ท่านยายเจ้าคะ ไฉนโยงมาถึงข้ากันเล่า หลานสาวของท่านออกจะเรียบร้อยเฉกเช่นผ้ายับที่พับไว้มิรู้หรือเจ้าคะ"ฟู่หรงอมยิ้ม หญิงชราส่ายหน้าน้อย ๆ "ผ้ายับแล้วนับว่าเรียบร้อยได้หรือ"ฟู่ซูหนิงหัวเราะคิกคัก "เรียบร้อยสิเจ้าคะ ถึงอย่างไรก็ยังพับนะเจ้าคะ"หญิงชราลดกายลงนั่งขนาบข้างฟู่ซูหนิง "หนิงเอ๋อร์ เจ้าไม่เคยออกจากหุบเขาร้อยโอสถเลยนับสิบเจ็ดปี ยามนี้ท่านตาของเจ้าเห็นดีเห็นงามให้เจ้าออกไป หากเจ้าอยากอยู่ที่นี่ต่อยายจะไปคุยกับตาของเจ้าให้เอง อีกอย่างข้าไม่ค่อยวางใจ ถึงเจ้ามีศิษย์เป็นชาย แต่เขายังเด็กมากนัก หากจู่ ๆ เ

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 12 ออกเดินทาง (1)

    หนึ่งสัปดาห์ก่อนพิธีแต่งตั้งชินอ๋อง"ฉืออิ้งเทียนถวายบังคมเสด็จพ่อ""อิ้งเทียน เจ้านั่งลงเถิด""พ่ะย่ะค่ะ"ยามนี้พวกเขาอยู่ในห้องรับรองส่วนตัวของฉืออิ้งเทียน หลังจากพบกุ้ยเฟยเป็นที่เรียบร้อย ฮ่องเต้ก็มีเรื่องต้องพูดคุยกับฉืออิ้งเทียนเป็นการส่วนตัว"อิ้งเทียน ดวงตาของเจ้าไม่อาจรักษาได้เลยอย่างนั้นหรือ""เสด็จพ่อไม่ต้องกังวลพระทัย ลูกว่าจะไปเข้าเฝ้าเพื่อกราบทูลอยู่พอดีพ่ะย่ะค่ะ"ฮ่องเต้ฉือเจียฉีพยักหน้า แม้นใบหน้าดูเคร่งขรึม ทว่าภายในใจของเขาก็แอบประหวั่น หากโอรสผู้มากความสามารถดวงตามืดบอดจริง เขาคงมิอาจมอบตำแหน่งชินอ๋องให้ได้ ขุนนางทุกฝ่ายจะต้องคัดค้านภายในระบบราชวงศ์จะต้องอลหม่านเป็นแน่ความสัมพันธ์ฉันพี่น้องในบรรดาองค์ชายองค์หญิงหามีใครจริงใจเท่าสองพี่น้องตำหนักกุ้ยเฟยแล้วฮ่องเต้ฉือเจียฉีต้องแสร้งปิดตาข้างหนึ่งมาโดยตลอด เพราะถึงอย่างไรองค์ชายองค์หญิงเหล่านั้นก็ล้วนเป็นบุตรของตนด้วยกันทั้งสิ้นทว่าเขารู้จักนิสัยโอรสคนที่หกที่ถือกำเนิดจากซิ่วกุ้ยเฟยดี ฉืออิ้งเทียนเ

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 11 ผู้เหมาะสมกับตำแหน่งอ๋องขั้นหนึ่ง (2)

    "น้องหก พี่สี่ของเจ้าไม่อยู่แล้ว ส่วนข้าเป็นพี่ห้า ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ยิ่ง ผลงานล้วนโดดเด่นไม่เป็นรองใคร เจ้ายังคิดว่าตนเองจะได้รับตำแหน่งชินอ๋องนี่อีกหรือ"วันนี้ฉืออิ้งเทียนแต่งกายด้วยเครื่องแบบผ้าไหมลายคราม บนศีรษะสวมกวานทองคำ ดวงตาของเขาผูกปิดด้วยผ้าแพรสีขาว"พี่ห้า ที่ข้ามาร่วมพิธีวันนี้ก็เพียงทำตามกฎมณเฑียรเท่านั้น ส่วนตำแหน่งที่ว่าก็สุดแล้วแต่เสด็จพ่อมิใช่หรือ""ฮ่า ฮ่า เช่นนี้เอง แต่เจ้ากลายเป็นองค์ชายพิการตาบอดไปแล้ว น้องหกเจ้าไม่มาสักคน เสด็จพ่อก็คงไม่เอาผิดกระมัง อย่าได้คร่ำเคร่งถึงเพียงนั้นเลย" ฉือเจิ้นหยู่เหยียดยิ้ม มือหยาบระคายวางลงบนบ่าของฉืออิ้งเทียน เขาออกแรงตบเปาะแปะพลางแสร้งถอนหายใจ องค์ชายคนอื่น ๆ ที่ยืนเรียงแถวต่างส่ายศีรษะในความผยองพองขนและมั่นอกมั่นใจของคนผู้นี้ เป็นเพียงโอรสตำแหน่งผินแต่กลับมิเคยเจียมกะลาหัว"พี่หก อย่าไปใส่ใจเขาเลย ข้าจะรอชมเศษใบหน้าที่กระจายเกลื่อนพื้นของเขา แม้ท่านมิได้ตำแหน่งชินอ๋อง แต่ข้าคิดว่าเขาเองก็คงไม่ได้"ฉืออิ้งเทียนยิ้มบาง "น้องแปด ไม่ต้องเป็นกังวล"องค์ชายแปดเป็นโอรสจากสนมตำแหน่งเฟยอีก

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 11 ผู้เหมาะสมกับตำแหน่งอ๋องขั้นหนึ่ง (1)

    "ท่านตาเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ"ฟู่ซูหนิงเคร่งเครียดเมื่อเห็นสีหน้าของเด็กหญิงเริ่มซีดขาว ลมหายใจที่พ่นออกมาก็ผะแผ่วลงทุกขณะต่งควนส่ายศีรษะ "เด็กคนนี้ป่วยเรื้อรัง ป่วยมานานเกินไป นางไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่โลกใบนี้นานนัก""...ท่านตาหมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ""ดูเหมือนว่านางอาจอยู่ได้ไม่เกินคืนนี้"ฟู่ซูหนิงตัวแข็งค้างดั่งถูกฟาดด้วยสายอสนีเคราะห์เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ น่าสงสารเพียงนี้ ยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตหรือมีโอกาสเติบโตเฉกเช่นคนอื่นก็ต้องลาโลกแล้วอย่างนั้นหรือ แม้นางไม่อยากเชื่อแต่ท่านตาของนางมีญาณหยั่งรู้ ข้อนี้นางไม่อาจปฏิเสธความจริงได้เลย"...ท่านตา ท่านตาเจ้าคะ แต่ว่าเรา เราเป็นหมอเทวดา ผู้ใดก็ว่าอย่างนั้น ข้าว่ายังมีหนทางหรือไม่ บางทีญาณของท่านอาจผิดพลาดก็ได้เจ้าค่ะ" ฟู่ซูหนิงละล้าละลัง นัยน์ตาดอกท้อแดงก่ำเพราะรู้สึกเวทนาสองพี่น้องจับใจระหว่างเดินทางกลับเรือนไม้ไผ่ ฟู่ซูหนิงซักประวัติของสองพี่น้องแล้วยิ่งฟังก็ยิ่งหดหู่ เด็กชายมีนามว่าเสี่ยวไป๋อายุสิบขวบ ส่วนเด็กหญิงนามว่าเสี่ยวยี่ อายุเพียงเ

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 10 ค่ายกลโอสถพิษ

    ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางฟู่ซูหนิงก็ตั้งใจออกไปเก็บสมุนไพรตามปกติ อีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาลงจากหุบเขาเพื่อไปช่วยเหลือชาวบ้านบางส่วนซึ่งไม่ได้รับโอกาสให้ขึ้นมาเยือนหุบเขาร้อยโอสถ การลงเขาแต่ละครั้งจะลงไปในตัวตนของหมอนิรนามก็เพียงเท่านั้นด้วยเหตุนี้โอสถทุกแขนงจำต้องมีอย่างครบครันเดิมทีฟู่ซูหนิงมักถูกกำชับให้อยู่เฝ้าที่เรือนไม้ไผ่ ท่านตาและท่านยายของนางจะเป็นฝ่ายลงไปเอง แม้ท่านตาของนางอายุแปดสิบปี ส่วนท่านยายอายุเจ็ดสิบห้า ทว่าทั้งสองยังร่างกายแข็งแรงกว่าคนแก่ชราทั่วไปนักการเดินเท้าและอยู่ท่ามกลางพืชสมุนไพรนับว่าเป็นยาวิเศษอย่างแท้จริงกรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง"ท่านตา เสียงกระดิ่งเจ้าค่ะ มีคนต้องการความช่วยเหลือ""เดี๋ยวตาออกไปดูเอง""ไม่ต้องเจ้าค่ะ อย่างไรข้าก็ต้องออกไปอยู่แล้ว ซ้ำท่านยังต้องเตรียมสัมภาระอีกมาก ให้หนิงเอ๋อร์ไปเองเจ้าค่ะแล้วจะเร่งกลับมานะเจ้าคะ""แต่เจ้าเทียวไปเทียวมาคงนับว่าลำบากแย่"ฟู่ซูหนิงฉีกยิ้มกว้าง "ท่านตา... เอาอีกแล้วนะเจ้าคะ พวกท่านอายุมากกว่าข้าตั้งกี่สิบปียังเทียวไปเทีย

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 9 หุบเขาผีสิง (2)

    เด็กน้อยส่ายศีรษะทว่ากลับมีสีหน้าเศร้าสลด"เจ้ามิได้ป่วย แต่ดูสีหน้าของเจ้ากลับมิสู้ดีเท่าใด" แท้จริงเขามองเห็นเพียงเลือนราง ทว่าเขากำลังจับพิรุธจากน้ำเสียงของอีกฝ่ายเด็กคนนี้กำลังมีปัญหาครอบครัวเด็กน้อยแหงนหน้าขึ้นแช่มช้า แววตาแข็งกร้าวเมื่อครู่ไหวระริกแดงก่ำ จากท่าทีหยาบคายแข็งกระด้างก็แปรเปลี่ยนเฉกเช่นพลิกฝ่ามือ"พี่ชาย ข้ามิได้ป่วยจริง ๆ ขอรับ ทว่าน้องข้า น้องสาวข้า…"จู่ ๆ ไหล่แคบก็ไหวสะท้าน ชายหนุ่มเห็นอาการไม่สู้ดีของอีกฝ่าย เขาจึงเอื้อมมือขึ้นตบเปาะแปะไปยังลาดไหล่เล็กหนึ่งครา "เป็นลูกผู้ชาย ห้ามร้อง ต้องแข็งแกร่งเข้าใจหรือไม่"เด็กชายพยักหน้าหงึกหงัก "ขอรับ ตะ...แต่ หากข้าทำงานให้ท่าน ท่านจะให้เงินข้าจริง ๆ หรือ"ชายหนุ่มพยักหน้า "แน่นอน ข้าให้เจ้าทั้งหมด""จริง ๆ นะขอรับ""อืม...พี่ชายไม่เคยหลอกใคร เมื่อครู่เจ้าบอกว่าเจ้ามีน้องสาว แล้วพ่อแม่เล่า""ขอรับข้ามีน้องสาว แต่พ่อแม่ไม่มีแล้ว…" เสียงเล็กเงียบไปครู่หนึ่ง เสี่ยวไป๋เอ่ยต่อ "ยามนี้น้องสาวของข้าป่วยหนัก ข้าไม่ม

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 9 หุบเขาผีสิง (1)

    ครึ่งเดือนผันผ่าน ณ ย่านการค้าเมืองเทียนหลันบริเวณริมท่าน้ำล้วนคึกคักไปด้วยบรรดาผู้คน มีทั้งชาวบ้านในพื้นที่และกลุ่มพ่อค้าต่างเมืองเดินกระทบไหล่กันให้ควักแผงลอยไม้ไผ่ต่างวางของขายเรียงรายเป็นทิวแถว บ้างขายพืชผัก บ้างขายเครื่องประดับ รวมถึงอาหารทั้งคาวและหวานละลานตาเต็มไปหมดเพราะเมืองเทียนหลันนั้นโอบล้อมไปด้วยแม่น้ำขนาดมหึมาอันเป็นเหตุให้เมืองเทียนหลันแห่งทิศบูรพาอุดมสมบูรณ์มากพร้อมด้วยพืชพรรณธัญญาหารหากนึกย้อนกลับไปเมื่อครึ่งเดือนก่อนพื้นที่แห่งนี้เกือบจมดิ่งอยู่ใต้ท้องสมุทร ยามถึงกลางฤดูหยี่สุ่ยฝนฟ้ามักเทกระจาดลงมาพร้อมลมพายุดั่งสวรรค์กำลังพิโรธ ทว่าประสบปัญหาได้ไม่นานก็ได้รับการแก้ไขจากเหออ๋องอย่างทันท่วงที จึงสามารถพลิกวิกฤติให้กลับมามั่งคั่งได้อีกครั้งแท้จริงวิธีแก้ปัญหาข้างต้นล้วนมาจากแนวความคิดขององค์ชายหกฉืออิ้งเทียน แม้ตัวเขาไม่อยู่เพราะเกิดเหตุไม่คาดฝันซึ่งมิได้เปิดเผยให้ใครทราบ กระนั้นเขาก็ยังส่งเหล่าทหารกล้าในสังกัดเข้ามาช่วยเหลือ ชาวเมืองเทียนหลันมิอาจนิ่งนอนใจจึงรวบรวมกำลังพลเข้าช่วยขุดลอกอ่างเก็บน้ำแหล่งใหม่เช่นเดีย

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 8 คะนึงถึง (2)

    "ท่านตา…อยู่นี่เองหรือ" ฟู่ซูหนิงฉีกยิ้มประดักประเดิด จากนั้นก็แปรเป็นโอบกอดสองตายายคนละฝั่ง จากนั้นเอ่ยอู้อี้ "หนิงเอ๋อร์มิได้เที่ยวเตร็ดเตร่จนหลงลืมเวลาใดเลยเจ้าค่ะ หนิงเอ๋อร์ก็แค่ แค่..."นัยน์ตาดอกท้อลดมองสมุนไพรในมือ "อ่า...หนิงเอ๋อร์ แค่รู้สึกเมื่อยล้าเล็กน้อย เพราะหมอนั่น…เอ่อ คุณชายฉือ เอาแต่เดินเชื่องช้าเป็นเต่า หากหนิงเอ๋อร์เป็นบุรุษคงแบกเขาขึ้นหลังไปเสียตั้งนานแล้ว จะได้กลับถึงเรือนโดยเร็ว อีกอย่าง หนิงเอ๋อร์ก็กลับถึงหุบเขาร้อยโอสถตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตก เพียงแต่กำลังแวะเก็บสมุนไพรพวกนี้เพื่อนำมาผสมเครื่องอาบน้ำให้สดชื่นเท่านั้นเองเจ้าค่ะ"ฟู่ซูหนิงผละห่างผู้เฒ่าทั้งสอง จากนั้นแสดงหลักฐานในมือไปเบื้องหน้า กระนั้นก็ยังถูกมือเหี่ยวย่นทว่ายังแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้าเคาะกะโหลกไปหนึ่งครา"โอ๊ย!""นี่แน่...คราวหลังอย่าทำให้ตากับยายเป็นห่วงเช่นวันนี้อีก""เจ้าค่ะทราบแล้ว ท่านตาก็...ท่านเอาแต่เคาะกะโหลกหนิงเอ๋อร์เช่นนี้ สมองไหล ความรู้หดหายจะทำอย่างไรเจ้าคะ หลานของท่านยิ่งฉลาดหลักแหลมอยู่มิรู้หรือ"ผู้เป็นยายขำพรืด หลานของนาง

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 8 คะนึงถึง (1)

    ฟู่ซูหนิงเดินเลาะเส้นทางลัดมาจนถึงหุบเขาร้อยโอสถ ใบหน้างดงามบูดบึ้งด้วยความหัวเสีย นางอุตส่าห์พรางตัวอย่างแนบเนียน ยังถูกซื่อจื่อไก่แจ้ตัวปัญหาจับได้เขากล้าใช้อุบายหยาบช้าเรื่องพิษในตำนานมาลวงหลอกหมอผู้ชาญฉลาดเช่นนางได้อย่างเจ็บแสบ พบกันคราวหน้า นางจะเอาคืนให้สาสม"ซื่อจื่อจอมกะล่อน ถึงกับใช้อุบายสกปรกเพื่อล่อลวงข้า" ฟู่ซูหนิงยกแขนเสื้อของตนเพื่อดอมดมซ้ายขวา พลางเป่าลมหายใจลงบนฝ่ามือกลิ่นสุราอบอวลจนชวนให้เวียนศีรษะ ฟู่ซูหนิงเดินวนไปมาบริเวณพืชสมุนไพรที่ตนและท่านตาท่านยายช่วยกันปลูกเอาไว้ บ้างเป็นไม้เลื้อย บ้างเป็นบุปผา สีสันละลานตาเรียงรายอย่างเป็นระเบียบนัยน์ตาดอกท้อกวาดมองครู่หนึ่งก็เปล่งประกายวาวระยับเมื่อพบสมุนไพรที่ตนต้องการ"อ่า...เจอเสียที หลบอยู่ตรงนี้เองรึ ให้ข้าตามหาจนหัวหมุน"ร่างระหงยอบกายลงเด็ดป๋อเหอ [1] มาสี่ห้าใบ จากนั้นเคี้ยวหยุบหยับด้วยสีหน้าเริงรื่น ฟู่ซูหนิงลองพ่นลมหายใจอีกครั้งเพื่อตรวจสอบผลลัพธ์"อืม...หอมสดชื่น เท่านี้ท่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status