Share

บทที่ 29 บททดสอบแห่งสวรรค์ (1)

last update Last Updated: 2025-04-05 20:15:01

เป็นเวลาเจ็ดวันที่ฉืออิ้งเทียนและฟู่ซูหนิงยังคงอยู่สะสางเรื่องอลหม่านในหมู่บ้านฮุ่ยเหอจนสิ้น ส่วนเหอหยางยังต้องกลับไปที่เมืองเทียนหลันจึงมิได้อยู่ต่อ ยามนี้เหอหยางและฉืออิ้งเทียนต่างล่วงรู้สถานะอันแท้จริงของกัน เหอหยางจึงวางใจว่าฟู่ซูหนิงต้องปลอดภัยอย่างแน่นอนเมื่ออยู่กับฉืออิ้งเทียน ทว่ากลับเป็นสิ่งที่ทำให้ซื่อจื่อเช่นเขาช่างหงุดหงิดใจยิ่ง เนื่องจากเขาเป็นถึงซื่อจื่อแห่งเมืองเทียนหลัน ยังต้องแบกความรับผิดชอบไว้บนบ่าอีกมาก จึงต้องจำใจกลับไปทำหน้าที่ของตนอย่างเสียไม่ได้  

ทั้งที่ฉืออิ้งเทียนพยายามกุมตัวผู้ร้ายไว้ยังสถานที่ลับ ก็ยังถูกค้นพบ ดูเหมือนหมู่บ้านฮุ่ยเหอกลายเป็นแหล่งกบดานของเหล่ากบฏแล้วจริง ส่งผลให้ชายที่เขาคุมขังยังไม่ได้รับการไต่สวนก็ถูกวางยาพิษจนตัวตาย 

ฉืออิ้งเทียนส่งรายงานทั้งหมดไปให้องค์รัชทายาท สามวันถัดมากลับมีราชโองการมาถึงเขา ในราชโองการระบุว่าฟู่ซูหนิงเป็นหมอหญิงที่ช่วยเหลือเขาจนดวงตาหายเป็นปกติ เพราะฉืออิ้งเทียนและฟู่ซูหนิงร่วมมือกันคืนความสุขสงบให้หมู่บ้านฮุ่ยเหอ จึงหมายเรียกตัวหมอหญิงฟู่และชินอ๋องกลับวังหลวง

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 29 บททดสอบแห่งสวรรค์ (2)

    ความอลหม่านในการร่ำลาและมอบข้าวของสิ้นสุดลง ฟู่ซูหนิงต้องปาดเหงื่อไปหลายครั้ง กว่าจะได้ออกเดินทางเวลาก็ล่วงเลยเข้ายามซื่อ [1] ฉืออิ้งเทียนให้องครักษ์ของเขาเตรียมรถม้าไว้สำหรับฟู่ซูหนิงและเสี่ยวไป๋"หนิงเอ๋อร์ เสี่ยวไป๋ พวกเจ้าเหนื่อยหรือไม่"ฟู่ซูหนิงยังนั่งหน้าบูดบึ้งไม่พูดไม่จา ฟู่ซูหนิงพยายามปะติดปะต่อว่าตนทำพลาดที่ตรงใด ไฉนยังถูกเรียกตัวเข้าวัง บุญคุณหรือบำเหน็จนางไม่ต้องการสักนิด อยู่ ๆ ก็ใช้ราชโองการบีบบังคับนางอย่างไม่เต็มใจ โอรสแห่งสวรรค์นี่ช่างเอาแต่ใจเฉกเช่นกฎของสวรรค์ที่ถีบส่งวิญญาณของนางให้มาเผชิญด่านเคราะห์พอกันจริงเชียวเสี่ยวไป๋เห็นฟู่ซูหนิงไม่ตอบฉืออิ้งเทียน เขาจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้น "ท่านอ๋อง พวกเราไม่เหนื่อยเลยพ่ะย่ะค่ะ""เหนื่อยจะแย่" ฟู่ซูหนิงขยับปากเสียงมุบมิบ โดยไม่รู้เลยว่าฉืออิ้งเทียนได้ยินชัดเจนเชียวเสี่ยวไป๋หน้าเจื่อนลงพลางส่งยิ้มแห้งขอดยิ่งกว่าบ่อน้ำร้าง"ได้ เช่นนั้นเราก็พักเสียหน่อย" ฉืออิ้งเทียนยกมือเพื่อให้ขบวนเดินทางหยุดลงฟู่ซูหนิงขมวดคิ้ว วันนี

    Last Updated : 2025-04-06
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 30 หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง (1)

    การเดินทางกลับวังหลวงจำต้องล่าช้าไปอีกสองสามวัน เพราะฟู่ซูหนิงยังไม่ได้สติ แม้นางถูกพิษทว่าฟู่ซูหนิงได้รับโอสถสลายพิษอย่างทันท่วงที นับว่าโชคดีที่โอสถนี้สามารถสลายพิษได้ทุกชนิด ถึงมิอาจทำให้อาการดีขึ้นในชั่วพริบตาก็ตาม"เสี่ยวไป๋ ไปพักเถิด ข้าจะดูแลอาจารย์เจ้าให้เอง""แต่ว่า...""ไม่ต้องแต่แล้ว วันนี้เจ้ายังไม่ได้ทานข้าวทานปลาเลยมิใช่หรือ เจ้าฝังเข็มให้นาง และใช้ยาสลายพิษให้จนครบแล้ว ไฉนต้องเป็นกังวลเพียงนี้""ท่านอ๋อง พิษถูกสลายหมดแล้วก็จริง แต่เหตุใดอาจารย์จึงยังไม่ได้สติหรือว่ากระหม่อมพลาดสิ่งใดไป" เสี่ยวไป๋ก้มหน้างุด เขาเป็นลูกศิษย์เพียงหนึ่งเดียวของฟู่ซูหนิง แต่ทว่าฝีมือช่างอ่อนด้อยยิ่ง อาจารย์เพียงคนเดียวก็รักษาไม่ได้ขาสูงย่างกรายมาหยุดยืนเบื้องหน้าเด็กหนุ่มที่เอาแต่โทษตัวเอง"เสี่ยวไป๋ เจ้าดูสีหน้าอาจารย์ของเจ้าให้ดี ข้าว่ายามนี้นางกำลังนอนฝันหวานอยู่มากกว่า"เสี่ยวไป๋เหลือบมองใบหน้าซึ่งเดิมทีซีดขาวเริ่มซับสีชมพูระเรื่อก็เริ่มมีรอยยิ้มแห่งความหวัง "จริงด้วยพ่ะย่ะค่ะ" เด็กหนุ่มเร่งร

    Last Updated : 2025-04-07
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 30 หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง (2)

    ฟู่ซูหนิงยู่หน้า ทว่านางมิอาจตอบโต้ ยามนี้แก้มของนางโป่งพองเพราะโจ๊กเมื่อครู่ ฟู่ซูหนิงเคี้ยวหยุบหยับด้วยสีหน้ามู่ทู่ ทว่าแก้มตุ่ย ๆ เช่นนี้ช่างทำให้ฉืออิ้งเทียนรู้สึกเอ็นดูนางเป็นอย่างยิ่ง"อร่อยหรือไม่""ก็งั้น ๆ เพคะ" ฟู่ซูหนิงเบือนหน้าหนี นางจำรสมือของเขาได้ นี่เขาถึงขั้นลงแรงทำโจ๊กให้นางด้วยตนเองเลยหรือจู่ ๆ ใบหน้าเกลี้ยงเกลาก็พลอยขึ้นสีชมพูระเรื่อเมื่อหวนนึกถึงภาพวันเก่า ฉืออิ้งเทียนสวามีนางในกาลก่อนมักดูแลเอาใจใส่ฟู่ซูหนิงเช่นนี้เสมอ"เป็นอะไร ไข้ขึ้นหรือ" ฉืออิ้งเทียนใช้หลังมืออังหน้าผากฟู่ซูหนิงอย่างถือวิสาสะ"ทำอะไรน่ะเพคะ" จากใบหน้าชมพูก็พลิกผันเป็นแดงก่ำไปจนถึงใบหู"ก็ข้าเห็นเจ้าหน้าแดง คิดว่าไข้ขึ้นเสียอีก ดูสิแดงไปทั้งตัวแล้ว""ปะ...เปล่าเสียหน่อย เป็นเพราะโจ๊กฝีมือท่านไม่ได้เรื่องต่างหาก"ฉืออิ้งเทียนตัวแข็งทื่อ เขายังไม่ได้บอกนางด้วยซ้ำว่าตนเป็นคนทำ ตอนเสี่ยวไป๋ดูแลนางเองก็ยังไม่ได้สติ แล้วฟู่ซูหนิงทราบได้อย่างไรว่านี่คือรสมือใคร เดิมทีเขาไม่เคยเข้าครัวทำอาหารให้ผู้ใดทานด้วยซ้ำ กระทั่งองครักษ์ทั้งสองของเขายังงง

    Last Updated : 2025-04-08
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 31 ศึกนอกมิน่าหวาดหวั่นเท่าศึกใน

    ทันทีที่ขบวนของชินอ๋องกลับถึงราชวัง องครักษ์ของไท่จื่อก็เร่งเข้ามารายงานทันที"ทูลท่านอ๋อง องค์ไท่จื่อให้เชิญเสด็จพระองค์ไปยังห้องบรรทมของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ"ฉืออิ้งเทียนนิ่วหน้า "เหตุใดต้องไปพบเสด็จพ่อที่ห้องบรรทม""ท่านอ๋อง องค์ไท่จื่อทูลว่าจะเป็นคนตรัสเรื่องนี้กับพระองค์เองพ่ะย่ะค่ะ"ฉืออิ้งเทียนมิได้ถามให้มากความอีก เขาพยักหน้าด้วยความเข้าใจ จากนั้นจึงนำขบวนตามหลังองครักษ์ไท่จื่อไป ฟู่ซูหนิงนั่งอยู่ในรถม้า นางสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เหตุการณ์คล้ายวันนั้นมิมีผิด เขาถูกเชิญให้ไปพบฝ่าบาทที่ห้องบรรทม ตอนที่กลับจากพานางเที่ยวชมรอบเมือง ฉืออิ้งเทียนรับปากนางจะเร่งกลับมาแต่เขาก็หายตัวไปหลายชั่วยาม ฟู่ซูหนิงถูกรายล้อมด้วยทหารนับสิบ พร้อมกับโดนยัดเยียดข้อหาวางยาพิษฮ่องเต้ตอนนี้ต่างกันก็เพียง นางยังมิได้เป็นชายาชินอ๋อง และไม่ได้ออกไปเที่ยวชมความงามนอกเมืองแต่อย่างใด ทว่าฟู่ซูหนิงก็ยังมิอาจวางใจอยู่ดี อกด้านซ้ายกระเพื่อมไหวครึกโครม ใบหน้าเกลี้ยงเกลาซีดขาวเสียจนเสี่ยวไป๋รู้สึกผิดสังเกต"ท่านอาจารย์ เป็นอะไรไปขอรับ"&

    Last Updated : 2025-04-09
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 32 ความลับที่ล่วงรู้มานาน

    ฟู่ซูหนิงเห็นฉืออิ้งเทียนกลับมาเร็วดังว่า ก็เผลอฉีกยิ้มกว้างอย่างนึกลืมตัว"ท่านอ๋อง มาแล้วหรือเพคะ""หนิงเอ๋อร์ ข้ามีเรื่องรบกวนเจ้า ไปกับข้าครู่เดียวได้หรือไม่""เรื่องใดเพคะ"ฉืออิ้งเทียนเหลียวมองเสี่ยวไป๋ซึ่งนั่งอยู่ข้างกายฟู่ซูหนิง แม้เขาไว้ใจเด็กหนุ่ม กระนั้นเรื่องนี้ควรรู้น้อยคนที่สุดจึงนับว่าดีเสี่ยวไปผินหน้ามองฟู่ซูหนิงนางพยักหน้าเบาเสี่ยวไป๋ก็ทราบความประสงค์ของอาจารย์ทันใด เด็กหนุ่มจึงออกไปรอกับองครักษ์ที่ด้านนอก"พระองค์ตรัสมาเถิดเพคะ""เสด็จพ่อประชวรหนัก ข้าไม่กล้าเดาส่งเดชว่าเสด็จพ่อโดนพิษ กระทั่งหมอหลวงของที่นี่ยังตรวจไม่พบ ทุกคนเข้าใจว่าเกิดจากโรคระบาด"ฟู่ซูหนิงครุ่นคิด เมื่อชาติก่อนฟู่ซูหนิงไม่ได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบอาการของฮ่องเต้แต่อย่างใดจึงไม่รู้ว่าฮ่องเต้ถูกพิษอะไรกันแน่ ยามนี้นางได้เข้าวังหลวงอีกครั้งก็ดีเช่นกัน หากฮ่องเต้ถูกพิษจริง นางจะต้องลากคอคนผู้นั้นมารับโทษที่ตนก่อเสีย"เพคะ หม่อมฉันจะลองดู"..ณ ตำหนักกุ้ยเฟย"กุ

    Last Updated : 2025-04-10
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 33 เอาเปรียบ (1)

    ภายในห้องทำงานของชินอ๋องซึ่งมีการจุดโคมไฟเพื่อให้ความสว่างขึ้นแล้ว เพราะอยู่ในช่วงยามฮ่าย [1] ร่างกำยำเปลื้องอาภรณ์ส่วนบนออก เผยให้เห็นแผ่นหลังกว้าง ภายใต้ความองอาจกลับปรากฏบาดแผลฉกรรจ์ขนาดกว้างทั้งรอยเก่าและใหม่เกาซีละเลงยาสมานแผลลงบนรอยบากที่ปริออกจนโลหิตซึมด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง ส่วนเติ้งเหวยยืนมองอย่างห่วงใยอยู่ไม่ห่างเกาซี "ท่านอ๋อง เหตุใดจึงไม่บอกท่านหมอฟู่ว่าพระองค์ถูกพิษตอนช่วยนางในวันก่อนเดินทางพ่ะย่ะค่ะ"ฉืออิ้งเทียนนั่งปรับลมปราณในกาย "เรื่องเล็กน้อยเพียงนี้ ข้าตั้งใจปกป้องนางเอง อีกอย่างข้าไม่อยากให้หนิงเอ๋อร์ต้องลำบากใจเพราะข้า""แต่บาดแผลนี่ลึกมาก ดูเหมือนจะยิ่งลุกลามเพราะติดเชื้อ ถึงได้รับการถอนพิษแล้วก็ยากจะหายในเร็ววัน ไม่เช่นนั้นเราตามหมอหลวงดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ""ไม่ต้อง ข้าไม่เป็นไร พวกเจ้าทำราวกับข้าจะตายวันตายพรุ่ง ข้าไม่อยากให้เป็นเรื่องเอิกเกริกบานปลายหากศัตรูล่วงรู้ว่ายามนี้ข้าบาดเจ็บก็จะเกิดช่องโหว่ให้พวกมันหาทางเข้ามาเล่นงานได้ ในวังหลวงไม่ม

    Last Updated : 2025-04-11
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 33 เอาเปรียบ (2)

    ฉืออิ้งเทียนอึ้งงันชั่วขณะ มือของเขาไพล่อยู่ทางเบื้องหลังด้วยท่วงท่าสบายอารมณ์ ริมฝีปากได้รูปยกขึ้นจาง ๆ "บาดแผลเล็กน้อย เจ้าไม่ต้องกังวล ไม่กี่วันก็คงหาย""แต่เมื่อครู่ หม่อมฉันได้ยินว่า พระองค์ได้บาดแผลตั้งแต่อยู่ที่หมู่บ้านฮุ่ยเหอเพราะช่วยเหลือหม่อมฉัน พระองค์กำลังมีเรื่องปิดบังหม่อมฉันหรือเพคะ"ฉืออิ้งเทียนถอนหายใจแผ่ว เดิมทีเขาไม่คิดให้นางล่วงรู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ เขาไม่อยากให้ฟู่ซูหนิงต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง เรื่องคอขาดบาดตายนี้ให้เป็นหน้าที่ของเขาที่ปกป้องคุ้มครองนางแต่เพียงผู้เดียวก็พอ"บาดแผลเล็กน้อยจริง ๆ"ฟู่ซูหนิงเริ่มหน้างอ นางสับเท้าเข้ามาใกล้เขา มือเรียวปลดผ้าคลุมไหล่ลง จากนั้นเขย่งปลายเท้าตวัดคลุมให้บุรุษร่างสูงดังเดิม "ท่านคิดว่าตนเองเป็นเทพเซียนหรืออย่างไร ท่านเจ็บไม่ได้ร้องไห้ไม่เป็นงั้นหรือ ไปเพคะ เข้าไปด้านในหม่อมฉันขอดูบาดแผลพระองค์หน่อย หากเล็กน้อยจริง ผ่านมาเนิ่นนานเพียงนี้ทำไมถึงยังไม่หายอีก"นัยน์ตาคมลดมองสตรีตัวเล็กซึ่งกำลังออกคำสั่งกับเขา ยังไม่เคยมีผู้ใดกล้ากระทำกิริยาเช่นนี้กับเขามาก่อน กระนั้นมันก

    Last Updated : 2025-04-12
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 34 แม่สวามีเมื่อชาติก่อน (1)

    แม้ฟู่ซูหนิงรู้สึกโมโหที่ถูกฉืออิ้งเทียนขโมยจูบ แต่เพราะนางก็เผลอใจไปกับเขาจึงไม่อยากติดใจเอาความ ถือเสียว่าตอบแทนที่เขาช่วยชีวิตก็แล้วกัน อย่าหวังได้ใจว่าจะมีครั้งต่อไปฟู่ซูหนิงกลับมาสนใจบาดแผลซึ่งเรื้อรังมานานบนแผ่นหลังกว้าง คาดไม่ถึงว่ารอยกลางหลังของเขาจะใหญ่โตจนน่าหวาดผวา ระหว่างนั่งทำแผลก็มิได้มีบทสนทนาใดเพิ่ม ทว่าความเงียบงันกลับเป็นเหตุให้คนทั้งสองได้ยินเสียงหัวใจของตนที่กำลังกระเพื่อมขึ้นลงอย่างบ้าระห่ำ ฉืออิ้งเทียนไม่อยากคาดคั้นฟู่ซูหนิงไปมากกว่านี้ เขาเพียงเดินมาส่งนางกลับหอนอนอย่างเงียบ ๆ ก็เพียงเท่านั้นต้นยามเหม่า [1] ร่างระหงนอนกระสับกระส่ายบิดกายไปมาไม่เป็นอันหลับนอนเพราะฟู่ซูหนิงเอาแต่นึกถึงคำพูดที่ฉืออิ้งเทียนสารภาพว่าชมชอบนางตลอดทั้งคืน หนำซ้ำเขายังฝากรสสัมผัสจากริมฝีปากเอาไว้เสียจนฟู่ซูหนิงเจียนคลั่ง พลันเลิกผ้าคลุมผ้าราวคนเสียสติตลอดทั้งราตรีก๊อก ก๊อกเช้าแล้วหรือนี่ เฮ้อ...ยังไม่ได้นอนเลย ขอบตาคงดำเป็นหมีแพนด้าไปแล้วแหงฟู่ซูห

    Last Updated : 2025-04-13

Latest chapter

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 43 อดีตที่เสมือนกระจกสะท้อนความจริง (1)

    รถม้าของราชวังเคลื่อนมาจอดที่หน้าตำหนักชินอ๋อง ฟู่ซูหนิงและเสี่ยวไป๋กำลังจะออกเดินทาง นัยน์ตาดอกท้อกวาดมองตำหนักชินอ๋องอย่างนึกอาลัย ชาติก่อนฟู่ซูหนิงอาศัยอยู่ในฐานะพระชายา ส่วนตอนนี้นางได้อาศัยบังแดดบังฝนในฐานะหมอแม้ใจไม่อยากจากไปแต่นางและเขาล้วนเลือกเดินคนละเส้นทางตั้งแต่แรกแล้ว"หมอฟู่"สตรีผู้สวมอาภรณ์งามสง่ากำลังมุ่งหน้ามาหานาง ฟู่ซูหนิงยอบกายค้อมศีรษะ"ถวายพระพรกุ้ยเฟยเพคะ"ขนาบข้างกุ้ยเฟยยังมีรั่วรั่วซึ่งยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับประคองอยู่ไม่ห่าง"กุ้ยเฟย ดูนางสิเพคะ รั่วรั่วบอกนางแล้วให้รอท่านพี่อิ้งเทียนฟื้นก่อนหมอฟู่ก็ไม่ฟัง"ฟู่ซูหนิงหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก รั่วรั่วถึงขั้นไปเชิญกุ้ยเฟยเพื่อมายื้อนางเชียวหรือ ช่างขัดกับรั่วรั่วในเมื่อก่อนยิ่งนัก"หมอฟู่ เจ้าเป็นหมอติดตามลูกของข้ามิใช่หรือ ยามนี้เขายังไม่ได้สติ เจ้านึกจะไปก็ไปนึกจะมาก็มาง่ายดายปานนี้เชียวหรือ" ซิ่วกุ้ยเฟยเปล่งวาจาวางอำนาจ แท้จริงในใจของซิ่วกุ้ยเฟยต้องการขอบคุณฟู่ซูหนิงมากกว่า แต่เพราะตนเป็นคนใหญ่คนโตก็ต้องวางท่าใ

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 42 บทสรุปที่เลือก (2)

    เสียงแหลมเล็กดังจากทางเบื้องหลัง ฟู่ซูหนิงหมุนกายกลับตามเสียงร้องเรียก ส่วนองครักษ์ทั้งสองไม่อยากสอดมือเข้ายุ่งจึงขอตัวผละจาก"ท่านหญิงรั่วรั่ว มีเรื่องใดหรือเจ้าคะ"รั่วรั่วรู้สึกประดักประเดิดเล็กน้อย นางหันรีหันขวาง ท่าทีวางไม้วางมือรู้สึกเก้งก้างไปหมด "เอ่อ...ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า สะดวกสักครู่หรือไม่"ฟู่ซูหนิงเลิกคิ้วด้วยความฉงน นางไม่เคยเห็นรั่วรั่วในมุมของสาวน้อยขี้กังวลเช่นนี้มาก่อน "มีสิ่งใดก็ว่ามาเถิดเจ้าค่ะ"จู่ ๆ สตรีผู้สูงศักดิ์หน้าตาจิ้มลิ้มก็เดินเข้ามาจับมือฟู่ซูหนิงทั้งสองฝั่ง รั่วรั่วพยายามรวบรวมความกล้า "หมอฟู่ ข้ามาวันนี้ ก็เพียงอยากขอโทษเจ้า ที่เมื่อก่อนข้าริษยาและชอบต่อว่าเจ้า"เปลือกตาบางกะพริบถี่อย่างไม่เชื่อสายตารั่วรั่วเอียงคอมอง "เป็นอะไรไปเล่า เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ ข้ามิได้มีอุบายใดนะ""ท่านหญิง ท่านกินยาผิดขนานหรือ"รั่วรั่วหน้างอง้ำ ใบหน้าของนางจิ้มลิ้มน่าเอ็นดูยิ่ง หากนางมิใช่ท่านหญิงผู้เอาแต่ใจก็คงจะดีไม่น้อย "เหตุใดพูดจาเช่นนี้กัน ข้าอุตส่าห์สำนึกได้แล้วเชียว"ฟู่ซูหนิงเลิกคิ้ว "อะไรเจ้าคะ

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 42 บทสรุปที่เลือก (1)

    การจับกุมหลิวเฟยเกือบทำให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่ นับว่าโชคดียิ่งที่ฉืออิ้งเทียนเตรียมกำลังทหารปิดล้อมโรงน้ำชาแห่งนั้นเอาไว้ แม้เขาได้รับบาดเจ็บจนหมดสติ ทว่าองครักษ์ทั้งสองและไท่จื่อ และฉือเจิ้นหยู่สามารถกวาดล้างเหล่ากบฏ ได้จนสิ้นซาก ทุกอย่างล้วนเป็นการวางแผนอย่างรอบคอบของชินอ๋องหลิวเฟย เย่อ๋อง และหัวหน้าหมอหลวงชุยว่านเหวิน ถูกคุมขังอยู่ในคุกหลวงสามวันเพื่อทำการไต่สวนต่อเรื่องราวทั้งหมด ทั้งสองคนร่วมกันวางแผนเพื่อขุดบ่อน้ำมันท้ายหมู่บ้านฮุ่ยเหอมาช้านาน หนำซ้ำยังทำร้ายผู้บริสุทธิ์โดยเฉพาะผู้ที่ล่วงรู้ถึงแหล่งขุดเจาะ เพราะเหตุนี้บุรุษในหมู่บ้านฮุ่ยเหอ ที่มักออกหาของป่าเพื่อเลี้ยงชีพ หากบังเอิญพบสถานที่มรณะนั้นเข้าก็ถูกปลิดชีวิตตายทั้งหมดทำให้หลงเหลือเพียงสตรีอ่อนแอ คนแก่ชรา และเด็ก เย่อ๋องจึงวางแผนให้หมู่บ้านเกิดโรคระบาด หากชาวบ้านล้มตายจนหมด หมู่บ้านฮุ่ยเหอก็จะถูกทิ้งร้างและไม่มีรายงานส่งเข้าวังหลวง จนถูกหลงลืมในที่สุดแผนการทั้งหมดพังครืนไม่เป็นท่า เพราะอยู่ ๆ ก็มีหมอเช่นฟู่ซูหนิงยื่นมือเข้าช่วย ครั้นจะเร่งกำจัดก็เกรงจะเกิดเรื่องใหญ่ ก

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 41 ข้าขอโทษ

    ฮ่องเต้ฉือเจียฉีใจเต้นระส่ำ ร่างกายสั่นเทา ดวงตาแดงก่ำ อารมณ์ยามนี้ทั้งโกรธแค้นและเจ็บปวดฉือเจิ้นหยู่คุกเข่าค้อมศีรษะ "เสด็จพ่อ องค์ชายสามคิดกบฏยึดบัลลังก์มังกร หมายช่วงชิงลัญจกรของพระองค์ เขาสังหารทหารกล้าไปนับร้อยชีวิต ทว่าชินอ๋องระแคะระคายเกรงว่าวังหลวงจะเกิดจลาจล จึงได้วางกองกำลังเพื่อดูสถานการณ์โดยให้ลูกเป็นทัพหน้า เพราะองค์ชายสามกระทำความผิดฐานก่อกบฏ การประหัตประหารนี้ก็นับว่าสมควรแล้ว ถูกต้องหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"ฮ่องเต้ฉือเจียฉีอึ้งงัน การที่เขามากภรรยาหลายบุตรมันช่างยุ่งเหยิงและแสนเจ็บปวดนักมือหยาบระคายเอื้อมลูบศีรษะฉือเจิ้นหยู่แผ่วเบา "เจิ้นหยู่ เป็นพ่อที่ละเลยเจ้า ทั้งที่เจ้าปกป้องบ้านเมืองมาโดยตลอด ข้าไม่รู้เลยว่าเจ้าจะรู้จักรักผองพี่น้อง ลูกพ่อ..." ฮ่องเต้เหลียวมองรัชทายาท และฉืออิ้งเทียนร่วมด้วย "พวกเจ้าล้วนแล้วแต่เหมาะสมกับการเป็นโอรสของข้า เจิ้นหยู่ อิ้งเทียน พวกเจ้าตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดและเฉียบขาดยิ่ง เรื่องวันนี้คนเลวจะต้องถูกลงทัณฑ์โทษทัณฑ์ที่ลู่ถงได้รับก็สาสมแล้ว"ฮ่องเต้ฉือเจียฉีกัดฟันกรอด "จับตัวพวกมันไปตัดหัวให้หมด!"

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 40 เปิดโปง (2)

    ทุกคนต่างให้ความสนใจฟู่ซูหนิง และแน่นอนฉืออิ้งเทียนทราบว่าฟู่ซูหนิงลอบให้การรักษาซีผินอย่างลับ ๆ กระทั่งเขาสืบทราบความจริงว่าซีผินมิใช่ศัตรูตัวจริง ซีผินก็แค่ริษยาแต่ไม่เคยคิดกระทำการชั่วช้าหมายเอาชีวิตเขาแต่อย่างใด ทว่าคนที่สุขุมเยือกนิ่งกลับร้ายกาจที่สุด ฉืออิ้งเทียนจึงทราบว่าทั้งหมดเป็นแผนของหลิวเฟยและโอรสของเขา องค์ชายสามฉือลู่ถงซีผินเอ่ยต่อ "ขอบคุณหมอฟู่ หากไม่ได้ท่าน ข้าคงตายไปนานแล้ว"ฟู่ซูหนิงหลุกหลิก แท้จริงนางก็มิได้ต้องการให้ใครมาขอบคุณ นางเองก็อยากรู้ว่าคนร้ายตัวจริงจะใช่คนที่นางคิดหรือไม่หลิวเฟยตวัดตามองฟู่ซูหนิงฉับ "เจ้านี่มัน! หอกข้างแคร่ของข้าทุกเรื่อง"ฉืออิ้งเทียนสาวเท้าเข้ามาบังหน้าฟู่ซูหนิงไว้ในบัดดล ฟู่ซูหนิงเอ่ยเสียงแผ่ว "ท่านอ๋องกังวลมากเกินไปแล้วเพคะ""ข้าไม่อนุญาตให้ใครทำร้ายเจ้า กระทั่งสายตาก็ไม่ได้!!"นัยน์ตาดอกท้อแดงก่ำ ฟู่ซูหนิงมองตามแผ่นหลังกว้างของบุรุษเบื้องหน้าด้วยจิตใจสับสน เสียงใสเปล่งวาจาเบาหวิว "ขอบพระทัยเพคะ"ซีผินบอกเล่าวีรกรรมต่ำช้าของหลิวเฟยต่อไป "วันนั้นที่ฝ่าบาทประชวรหนัก ข้าเข้าไปยังห้องบร

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 40 เปิดโปง (1)

    ห้องรับรองพิเศษของโรงน้ำชา ณ ย่านกลางเมือง เดิมทีใช่ใครจะเข้าออกสถานที่แห่งนี้ได้โดยง่าย ทว่าคนเฝ้าทางเข้าเพียงหยิบมือไหนเลยจะสู้ทหารกล้าผู้เจนสนามรบ ขณะที่ด้านในมิได้ระแคะระคายใด พวกเขาก็แฝงกายเข้าไปอย่างง่ายดาย"นายหญิง พวกเราได้วางกู่พิษชนิดพิเศษไว้ในห้องเครื่องของตำหนักชินอ๋องเป็นที่เรียบร้อย ทุกคนที่นั่นจะยอมรับว่าตำหนักชินอ๋องก่อกบฏทุกประการ"การรับพิษกู่เข้าสู่ร่างกายจะส่งผลให้ทุกคนกลายเป็นหุ่นเชิด หากผู้สั่งการประสงค์ให้ทำสิ่งใดคนเหล่านั้นก็จะทำตามโดยไร้สติ ฟู่ซูหนิงลอบฟังก็กำหมัดแน่น หากยามนั้นผู้อาวุโสฟางซินไม่ยื่นมือเข้าช่วย ชาวบ้านคงไม่ต่างจากศพเดินได้ ประหนึ่งผีดิบดี ๆ นี่เอง โชคดีที่นางยังเก็บจินฉานเอาไว้ [1] เพราะต้องการศึกษาต่อ ไม่เช่นนั้นจวนชินอ๋องต้องถึงกาลวิบัติแน่แท้ก่อนออกมาฟู่ซูหนิงย้อนกลับไปเก็บกวาดของสกปรกเหล่านั้นทั้งหมด เพราะนางลอบมองการกระทำของมือสังหารอยู่นานจึงเห็นว่าเขาลอบวางกู่พิษในห้องเครื่องจริงฉืออิ้งเทียนยังแอบชื่นชมฟู่ซูหนิงเป็นมิได้ ขณะที่เขาเป็

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 39 ทรยศหัวใจตน (2)

    ฟู่ซูหนิงใจเต้นโครมคราม นางกลัวเหลือเกิน กลัวตัวเองจะตัดใจจากเขาไม่ได้ข้าไม่อยากคุยกับท่าน ข้าขี้เกียจรบกับแม่สามี กับสตรีนับสิบ ท่านไม่เข้าใจบ้างหรือ ฉืออิ้งเทียนฟู่ซูหนิงทำได้เพียงระบายความอัดอั้นภายในใจ ฉืออิ้งเทียนหัวรั้นเพียงนี้ หากนางไม่เต็มใจอยู่กับเขา เขาเองก็คงตามตื๊อนางไม่เลิกรา ฟู่ซูหนิงไม่รู้ควรทำเช่นไร ครั้นคิดจะมีสามีให้จบ ๆ ไป แต่ใครจะสามารถแต่งงานกับบุรุษที่ตนไม่ได้รักลงกันเล่า ตลกร้ายเกินไปหน่อยแล้วมือสังหารสองนายมีระแคะระคายอยู่บ้างที่การคุ้มกันของตำหนักฮ่องเต้หละหลวม แต่ด้วยความเร่งร้อนหวังจบภารกิจของตนโดยเร็ว จึงมิได้จับสังเกตใดอีกย่ามคู่ใจของฟู่ซูหนิงถูกวางทิ้งไว้ข้างเตากำยาน มือสังหารทั้งสองลอบวางยาพิษชนิดที่ว่าสูดดมเข้าไปภายในครึ่งชั่วยามก็สามารถคร่าชีวิตคนได้ทันที โชคดีที่ทุกคนได้รับยาสลายพิษของฟู่ซูหนิง กระทั่งทุกอย่างเป็นไปตามแผนการที่วางไว้ มือสังหารทั้งสองก็กระโจนหายไปท่ามกลางความมืดมิดเติ้งเหวยและเกาซีรับหน้าที่ติดตามมือสังหารทั้งสอง ส่วนฟู่ซูหนิงและฉืออิ้งเทียน รุดเข้ามาในห้องบรรทม ทั้งสอ

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 39 ทรยศหัวใจตน (1)

    บทสนทนาอ้างถึงของสำคัญที่ฟู่ซูหนิงพกติดกาย ฟู่ซูหนิงครุ่นคิด เดิมนางมิได้มีของล้ำค่าใด ก็คงมีเพียงย่ามสะพายข้างที่พกติดกายเสมอ"ท่านอ๋อง ย่ามพกยังอยู่ที่ห้องหม่อมฉันเพคะ"ฉืออิ้งเทียนพยักหน้า เขาเร่งร้อนจะพานางกลับไปเอา แต่ฟู่ซูหนิงส่ายศีรษะ ฉืออิ้งเทียนงุนงง "ทำไมถึงห้ามข้า""เราตามพวกเขาไปเถิดเพคะ หนามยอกต้องเอาหนามบ่งมิใช่หรือ เช่นนั้นก็ให้พวกเขาเอาไป เราตามไปเงียบ ๆ ก็เพียงพอแล้ว"ฉืออิ้งเทียนจึงพาฟู่ซูหนิงลอบตามชายผู้บุกรุกไป และแน่นอนฟู่ซูหนิงจงใจเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายกระทำตามอำเภอใจ ถุงผ้าของฟู่ซูหนิงถูกสับเปลี่ยน นัยน์ตาดอกท้อหรี่ลงพิจารณาบุรุษที่สวมอาภรณ์สาวใช้ทั้งสองแล้วจึงจิ๊ปาก"สองคนนี้แอบแฝงตัวเข้ามากับขบวนนางกำนัลซีผินเมื่อช่วงบ่ายเพคะ""เมื่อบ่ายข้าก็เห็นความผิดปกติ ดูเหมือนตอนนั้นพวกมันยังไม่คิดลงมือ ข้าต้องการรู้ว่าแท้จริงนายพวกมันเป็นใคร จึงเล่นละครตามน้ำไปก่อน"ฟู่ซูหนิงตัวแข็งทื่อ แท้จริงเขาก็รู้ทุกเรื่อง แสร้งเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสื้อจริงงั้นหรือ"ท่านอ๋อง ท่านคงมิได้สงสัยซีผินกระมังเพคะ"

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 38 คนเนรคุณ (2)

    ต้นยามสวี [1] "เรื่องที่ให้สืบ คืบหน้าถึงไหนแล้ว""ทูลท่านอ๋อง ที่ตลาดกลางเมือง มีโรงน้ำชาหนึ่ง..." เติ้งเหวยโน้มกระซิบเสียงแผ่ว ฉืออิ้งเทียนฟังอย่างตั้งใจฉืออิ้งเทียนพยักหน้าหลังจากได้ยินสิ่งที่เติ้งเหวยรายงานทั้งหมด "ดูเหมือนต้องเร่งสะสางเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ยืดเยื้อมาหลายปีข้าเกรงทุกอย่างจะสายเกินไป""พ่ะย่ะค่ะ"บุรุษทั้งสามสวมเครื่องแต่งกายสีเข้ม ขาสูงเดินลัดเลาะเพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยโดยรอบตำหนัก จนมาถึงตำหนักกุ้ยเฟย ฉืออิ้งเทียนสังเกตเห็นความผิดปกติบริเวณหางตา เขาเห็นคนร่างเล็กสวมเครื่องแต่งกายปกปิดมิดชิด กำลังทำลับ ๆ ล่อ ๆ เมียงมองนางกำนัลผู้หนึ่งบริเวณห้องเครื่องเกาซีหมายเข้าจับกุมอีกฝ่าย ทว่าฉืออิ้งเทียนกลับปรามเอาไว้ "ไม่ต้อง แยกกันไปคนละทาง ข้าดูแล้วคนผู้นี้มาเพียงลำพัง ซ้ำยังไร้วรยุทธ์""พ่ะย่ะค่ะ"องครักษ์ทั้งสองจึงแยกย้ายไปตามคำสั่ง ฉืออิ้งเทียนเยื้องย่างไปทางด้านหลังร่างปริศนาด้วยฝีเท้าเบาหวิว มีดพกถูกดึงออกจากฟัก มือแกร่งคว้าหมับปิดริมฝีปากคนเบื้องหน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status