เมื่อฮั่วเจิ้งซานได้ยินดังนี้ ก็ตกใจจนขนลุกชูชัน รีบเอาหัวกระแทกพื้นแล้วตะโกนว่า: “ปรมาจารย์เซียวผู้สูงส่ง ปรมาจารย์เซียวได้โปรดช่วยชีวิตของกระผมด้วย ขอแค่แก้ไขปัญหาได้ จะให้กระผมทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น"เจียงฉิงถือโอกาสนี้พูดว่า “ลุงลงฮั่วคะ คุณเซียวต้องการแค่สมุนไพรไม่กี่ชนิดเท่านั้น”“ถ้าตระกูลฮั่วของกระผมมี จะมอบให้กับคุณเซียวทั้งหมดเลย! ขอเพียงแค่คุณเซียวช่วยชีวิตกระผม ช่วยกระผมขจัดภัยพิบัติอันนองเลือดนี้”ฮั่วเจิ้งซานพูดอย่างร้อนรน เขาหวาดกลัวจริงๆถ้าไม่ใช่เพราะคุณเซียว คืนนี้เขาคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย!เซียวเป่ยยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า: “หัวหน้าตระกูลฮั่วได้โปรดลุกขึ้น ถ้าคุณสามารถหาสมุนไพรทั้งสามให้ผมได้ ผมก็จะช่วยคุณขจัดภัย”พอฮั่วเจิ้งซานได้ยินดังนี้ ก็รีบลุกขึ้นยืน และพูดอย่างตื่นเต้นว่า: “เชิญปรมาจารย์เซียวพูดได้เลยครับ”เซียวเป่ยบอกไปตามตรงว่า: “หญ้าเทียนเซียน เห็ดหลินจือเนื้อ และดอกเจตภูตแดง ยิ่งอายุมากเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น”ฮั่วเจิ้งซานชะงักไปครู่หนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย และพูดว่า: “ปรมาจารย์เซียว บอกตามตรงว่า ที่บ้านตระกูลฮั่วของกระผมมีหญ้าเที
“อืม”เจียงฉิงยิ้มเล็กน้อยอย่างสุภาพ แล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะไม่รบกวนพวกคุณแล้ว”พูดจบ เจียงฉิงก็เดินจากไปทีนี้เซียวเป่ยจึงถามว่า: “คุณรอผมอยู่ตลอดเวลาเลยเหรอ?”“ใช่ค่ะ” กู้กู่โย่เสวี่ยยิ้มอย่างสวยงาม เอามือมือเล็กๆไขว้ไว้ที่ด้านหลังไร้เดียงสามาก และน่ารักสุดๆอีกทั้งยังไม่สูญเสียเสน่ห์ของผู้หญิงวัยบรรลุนิติภาวะซึ่งแตกต่างจากท่าทางที่แข็งกร้าวตอนที่อยู่ในเลานจ์ก่อนหน้านี้ อย่างกับเป็นคนละคนเลย“ใช่แล้ว คุณเซียว คืนพรุ่งนี้จะมีงานปาร์ตี้บนเรือสำราญ ซึ่งจัดโดยกลุ่มคนรวยรุ่นที่สองบางกลุ่มในท้องถิ่นเจียงจง ไม่รู้ว่าคุณสนใจเข้าร่วมมั้๊ย?” กู้โย่เสวี่ยถามพร้อมกะพริบตาอันสวยงามเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งยังไงซะพรุ่งนี้ก็ไม่มีอะไรทำ จะไปร่วมงานก็ได้ก็ให้คิดซะว่าเป็นการผ่อนคลายอารมณ์ หลังจากการหย่าร้าง“ได้” เซียวเป่ยพยักหน้า...“จริงเหรอ? เยี่ยมมากเลย” กู้โย่เสวี่ยพูดด้วยความตื่นเต้น และกระโดดไปสองครั้งกระต่ายขาวตัวใหญ่สองตัวที่อยู่ตรงหน้าอก แกว่งเขย่าไปมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีอิทธิพลต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก จนทำให้เซียวเป่ยต้อ
เซียวเป่ยตะลึงเป็นคำถามที่ร้ายแรงจนอาจถึงตายได้อีกแล้ว!คืนนี้เกิดอะไรขึ้น ผู้หญิงเหล่านี้ถึงได้ชอบถามคำถามที่ร้ายแรงอาจถึงตายได้เหล่านี้เซียวเป่ยลังเลเล็กน้อย จากนั้นยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า: “ประธานซู คุณล้อเล่นกับผมหรือเปล่า?”“พวกเราหย่าร้างกันแล้ว ถ้าต้องช่วย ก็คงจะไม่ใช่ผมที่ช่วยหรอกมั้๊ง”“ผมคิดว่า ฉินเฟิงนั่นคงจะยินดีเป็นอย่างมาก”หลังจากพูดไปไม่กี่ประโยค ซูหว่านก็เสยคางขึ้น นัยน์ย์ตาแดงก่ำ จ้องมองไปที่เซียวเป่ยทั้งน้ำตา เหมือนอยากจะดูว่าชายคนนี้กำลังพูดความจริงหรือความเท็จเซียวเป่ยก็มองดูซูหว่านโดยที่ไม่หลบเหลี่ยงเลยแม้แต่น้อย พวกเขาสบสายตากันหลังจากนั้นไม่นาน ซูหว่านก็หัวเราะเยาะตัวเอง หันหลังกลับไป แอบเช็ดน้ำตา และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ฉันเข้าใจแล้ว”จากนั้น เธอก็หายใจเข้าลึกๆ หันกลับมา เผชิญหน้ากับเซียวเป่ย ริมฝีปากเผยรอยยิ้มอันอบอุ่นและใจกว้าง ยื่นมืออันขาวบริสุทธิ์ของเธอออกมา แล้วพูดว่า: “เซียวเป่ย เรามาทำความรู้จักใหม่เถอะ ฉันชื่อซูหว่าน ซูหว่านจากปิงฉิ้นกรุ๊ป”เซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกฝืนใจเป็นอย่างมากยื่นมือออกไป ไปจับ
หลี่เซียวลี่หันกลับมาแล้วถามว่า: “ประธานซู คืนพรุ่งนี้มีปาร์ตี้ล่องเรือสำราญ เป็นงานปาร์ตี้ที่จัดโดยคนรวยรุ่นที่สองทายาทเศรษฐีที่มีทั้งเงินและอำนาจในท้องถิ่นเจียงจง ประธานฉินให้ฉันถามคุณว่า อยากจะไปด้วยกันมั้๊ย?“ปาร์ตี้ล่องเรือสำราญเหรอ?ช่างเถอะ ฉันไม่ชอบบรรยากาศแบบนั้น.” ซูหว่านส่ายหัวปฏิเสธหลี่เซียวหลี่กลับพูดว่า: “ประธานซู นี่เป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะได้หาเส้นสายนะ หากคุณได้รู้จักผู้คนมากขึ้น มันจะเป็นประโยชน์ต่อคุณ และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาของบริษัทนะ”“อืม……”ซูหว่านลังเลใจเมื่อหลี่เซียวลี่เห็นดังนี้ จึงรีบพูดไปว่า: “ เอาล่ะประธานซู ฉันจะช่วยคุณตอบตกลงไปก่อน”พูดจบ ไม่ว่าซูหว่านจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หลี่เซียวลี่ก็พูดกับโทรศัพท์มือถือด้วยรอยยิ้มว่า: “ประธานฉินคะ คืนพรุ่งนี้พวกเราจะไปแน่นอนค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะคะ”จากนั้น ก็วางสายโทรศัพท์ หลี่เซียวลี่ก็เหลือบมองเซียวเป่ยในกระจกมองหลัง แล้วพูดแขวะว่า: “ดูสิ นี่คือความแตกต่างระหว่างคนเรามนุษย์! ไม่เหมือนคนบางคน ไม่มีอะไรดีสักอย่าง!"เซียวเป่ยขมวดคิ้ว โต้กลับไปว่า: “มันก็แค่ปาร์ตี้ล่องเรือสำราญก็เท่านั้น”
“พี่เป่ย ระวังตัวด้วย!” เหอเทา และเพื่อนบ้านอีกหลายคนที่หน้าประตูตะโกนบอกด้วยความเป็นห่วงซูหว่านตะลึงงันอยู่กับที่ จ้องมองไปที่แผ่นหลังของเซียวเป่ยที่กำลังพุ่งเข้าไประหว่างที่งุนงงอยู่นั้น ดูเหมือนว่าเธอจะมองเห็นเซียวเป่ยผู้ยอมทำทุกอย่างเพื่อตนเองเมื่อสามปีก่อนบนรถ หลี่เซียวลี่ก็ลงมาจากรถ และพูดจาเหยียดหยามว่า: “มันก็เป็นแค่ร้านผุพังร้านหนึ่ง ถึงขั้นต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ?”ซูหว่านขมวดคิ้ว และถามอย่างเย็นชาว่า: “เรื่องนี้ เป็นฝีมือเธอกับฉินเฟิงใช่มั้๊ย? มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ!"“ประธานซู คุณสงสารเขาเหรอ? คุณอย่าลืมว่า คุณกับเขาได้หย่ากันแล้ว! ในงานปาร์ตี้คืนนี้ เขาทำคุณเกือบตาย และเกือบทำให้ปิงฉิ้นกรุ๊ปต้องล้มละลายนะ”“เผาร้านเล็กๆของเขา มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”“คุณรอดูได้เลย หากไม่มีร้านเล็กๆนี่ เขาจะต้องมาขอให้พวกเราช่วยเขาแน่นอน”หลี่เซียวลี่หัวเราะเยาะเหมือนมั่นใจว่าชนะซูหว่านทำเสียงฮึดฮัดใส่ และก้าวเท้าวิ่งเข้าไปในร้านหลี่เซียวลี่รีบจับเธอเอาไว้ แล้วถามอย่างงุนงงว่า: “ประธานซู คุณจะไปทำอะไร?"“ฉันจะเข้าไปดูหน่อย” ซูหว่านตอบหลี่เซียวลี่ตะคอก: “ปร
“พี่สะใภ้เป็นผู้หญิงเก่งกหล้า ผมเคยเจอเธอแค่สามครั้ง ทุกครั้งที่มองเธอจากระยะไกล ผมรู้สึกว่าเธอเย็นชาจนน่ากลัว”“อีกอย่าง ตอนนี้ตำแหน่งของพี่สะใภ้คืออะไร? เธอเป็นซีอีโอหญิงที่มีชื่อเสียงในเจียงจง ที่มีมูลค่าถึงหนึ่งพันล้านบาท! ผมอาจจะพูดตรงเกินไป ในสายตาของเธอ พี่ก็เป็นเพียงแค่ตัวถ่วง หย่าแล้วก็ดี ต่อไปนี้ พี่ก็พักอยู่กับผมที่นี่ ผมจะเลี้ยงพี่เอง”พูดจบ เหอเทาก็เทเบียร์ให้เซียวเป่ยหนึ่งแก้วเซียวเป่ยยิ้ม ยกแก้วเบียร์ขึ้น แล้วถอนหายใจ: “เหล่าเหอ แกว่า อำนาจกับตำแหน่งสถานะ มีความสำคัญมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหอเทายิ้ม และพูดว่า “ผมไม่รู้ นั่นคือสิ่งที่คนใหญ่ๆโตๆเขาเล่นกัน ผมแค่ร่ำรวยพอตั้งหลักได้ก็พอแล้ว”เซียวเป่ยชะงัก และหัวเราะสองครั้ง“ใช่แล้ว พี่เป่ย พี่มีแพลนจะทำอะไรในอนาคต? ปรับปรุงตกแต่งร้านใหม่ หรือแพลนว่าทำอย่างอื่น?”เหอเทาถามเซียวเป่ยส่ายหัว แล้วพูดว่า: “ตอนนี้ยังไม่รู้เลย อยากพักผ่อนสักพักสักระยะหนึ่งก่อน”เหอเทายิ้ม แล้วพูด “ยุยงส่งเสริม”ว่า : “พี่เป่ย อย่าหาว่าผมพูดเลยนะพี่ ผมขอแนะนำให้พี่เปิดบริษัทยาหรือไม่ก็คลินิกการแพทย์อะไรประมาณนี้
ในขณะที่พูด หลี่เซียวลี่ก็ยื่นแท็บเล็ตให้ซูหว่านใบหน้าของซูหว่านบูดบึ้ง รีบรับแท็บเล็ตมาดูสักพักหนึ่ง ขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ทำไมถึงได้มีความคิดเห็นในเชิงลบมากมายขนาดนี้”“ทั้งหมดเป็นเพราะไอ้คนสารเลวเซียวเป่ยนั่น! เขาได้โพสต์ศาสตร์การฝังเข็มที่ใช้ร่วมกับยาเม็ดโกลเด้นกาเพื่อใช้รักษาโรคบางอย่างบนฟอรัมทางการแพทย์ของประเทศ จากนั้น ความคิดเห็นที่เคลือบแคลงสงสัยต่างๆที่เกี่ยวกับยาเม็ดโกลเด้นกาที่บริษัทของพวกเราได้เผยแพร่ออกไปก็ได้ปรากฏอยู่บนฟอรัม ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง โพสต์นั้นก็ถูกส่งต่อไปยังแพลตฟอร์มหลักๆต่างๆ”“สิ่งที่น่าขยะแขยงยิ่งกว่านั้นก็คือ ด้านล่างเป็นวิดีโอที่เซียวเป่ยช่วยรักษาคุณเว่ยในวิลล่าก่อนหน้านี้”“ตอนนี้ ชาวเน็ตได้วิพากษ์วิจารณ์แบบเสียๆหายๆใต้วิดีโอเกี่ยวยาเม็ดโกลเด้นกา โดยบอกว่าบริษัทของพวกเราผลิตยาปลอมที่เป็นอันตรายต่อผู้คน!”หลี่เซียวลี่อธิบายด้วยความโกรธ คำพูดของเธอ เต็มไปด้วยความโกรธที่มีต่อเซียวเสี่ยวเป่ยซูหว่านอ่านความคิดเห็นเชิงลบที่เกี่ยวกับปิงฉิ้นกรุ๊ปบนแพลตฟอร์มหลักต่างๆ แล้วพูดทันทีว่า: “แจ้งคนในแผนกประชาสัมพันธ์ รีบลดความคิดเห็นเชิงลบให้เหลือน้อยท
“จริงเหรอ? งั้นก็ขอบคุณประธานฉินมาก นอกจากนี้ ขอแสดงความยินดีกับประธานฉินที่จะได้สาวงามกลับมาไว้ในอ้อมแขนล่วงหน้า”เป็นเลขาเหรอ?นั่นไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของเธอสิ่งที่เธอต้องการ ก็คือความสำเร็จที่โดดเด่นกว่าคนอื่น!และจะกลายเป็นดอกไม้ที่ทรงอำนาจที่หายากในแวดวงธุรกิจเจียงจง!ใครบ้างที่จะไม่อยากปีนขึ้นไป?หลังจากวางสายแล้ว หลี่เซียวลี่ก็เหลือบมองออฟฟิศของซีอีโออย่างมีเลศนัย แล้วเดินออกจากห้องน้ำอีกฝั่งของโทรศัพท์ปลายสายฉินเฟิงนั่งบนโซฟา มีคนโอบกอดซ้ายขวา มือข้างหนึ่งคีบซิการ์ มือข้างหนึ่งถือไวน์ตรงด้านหน้า มีชายคนหนึ่งที่มีใบหน้าดุร้าย ผิวออกจะคล้ำๆนั่งอยู่บนตัว มีจิตอันเย็นยะเยือกและรังสีอำมหิตอันน่าสะพรึงกลัวซ่อนอยู่บนโต๊ะยังมีกองธนบัตรวางซ้อนกองกันเป็นตับๆ ดูเหมือนว่าจะมีมูลค่าเป็นสิบล้านบาทฉินเฟิงสูบซิการ์ ด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาบนใบหน้า: “เหลากุ่ย ทำงานได้ไม่เลวเลย แต่สิ่งที่ฉันอยากจะซื้อในคืนนี้ก็คือมือทั้งสองข้างของเขา แค่เผาร้านของเขา คงจะยังไม่เพียงพอ”เหล่ากุ่ยแสยะยิ้ม เผยรอยเลวร้ายอันเย็นชาออกมา น้ำเสียงต่ำทุ้มแหบแห้ง แล้วพูดว่า: “ประธานฉิน
ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ
เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย
พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ
“หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที
“พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั
หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ
“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย
ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?