Share

บทที่ 53

Author: คันธรส สุภาสนันท์
“พี่สะใภ้เป็นผู้หญิงเก่งกหล้า ผมเคยเจอเธอแค่สามครั้ง ทุกครั้งที่มองเธอจากระยะไกล ผมรู้สึกว่าเธอเย็นชาจนน่ากลัว”

“อีกอย่าง ตอนนี้ตำแหน่งของพี่สะใภ้คืออะไร? เธอเป็นซีอีโอหญิงที่มีชื่อเสียงในเจียงจง ที่มีมูลค่าถึงหนึ่งพันล้านบาท! ผมอาจจะพูดตรงเกินไป ในสายตาของเธอ พี่ก็เป็นเพียงแค่ตัวถ่วง หย่าแล้วก็ดี ต่อไปนี้ พี่ก็พักอยู่กับผมที่นี่ ผมจะเลี้ยงพี่เอง”

พูดจบ เหอเทาก็เทเบียร์ให้เซียวเป่ยหนึ่งแก้ว

เซียวเป่ยยิ้ม ยกแก้วเบียร์ขึ้น แล้วถอนหายใจ: “เหล่าเหอ แกว่า อำนาจกับตำแหน่งสถานะ มีความสำคัญมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”

เหอเทายิ้ม และพูดว่า “ผมไม่รู้ นั่นคือสิ่งที่คนใหญ่ๆโตๆเขาเล่นกัน ผมแค่ร่ำรวยพอตั้งหลักได้ก็พอแล้ว”

เซียวเป่ยชะงัก และหัวเราะสองครั้ง

“ใช่แล้ว พี่เป่ย พี่มีแพลนจะทำอะไรในอนาคต? ปรับปรุงตกแต่งร้านใหม่ หรือแพลนว่าทำอย่างอื่น?”

เหอเทาถาม

เซียวเป่ยส่ายหัว แล้วพูดว่า: “ตอนนี้ยังไม่รู้เลย อยากพักผ่อนสักพักสักระยะหนึ่งก่อน”

เหอเทายิ้ม แล้วพูด “ยุยงส่งเสริม”ว่า : “พี่เป่ย อย่าหาว่าผมพูดเลยนะพี่ ผมขอแนะนำให้พี่เปิดบริษัทยาหรือไม่ก็คลินิกการแพทย์อะไรประมาณนี้
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 54

    ในขณะที่พูด หลี่เซียวลี่ก็ยื่นแท็บเล็ตให้ซูหว่านใบหน้าของซูหว่านบูดบึ้ง รีบรับแท็บเล็ตมาดูสักพักหนึ่ง ขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ทำไมถึงได้มีความคิดเห็นในเชิงลบมากมายขนาดนี้”“ทั้งหมดเป็นเพราะไอ้คนสารเลวเซียวเป่ยนั่น! เขาได้โพสต์ศาสตร์การฝังเข็มที่ใช้ร่วมกับยาเม็ดโกลเด้นกาเพื่อใช้รักษาโรคบางอย่างบนฟอรัมทางการแพทย์ของประเทศ จากนั้น ความคิดเห็นที่เคลือบแคลงสงสัยต่างๆที่เกี่ยวกับยาเม็ดโกลเด้นกาที่บริษัทของพวกเราได้เผยแพร่ออกไปก็ได้ปรากฏอยู่บนฟอรัม ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง โพสต์นั้นก็ถูกส่งต่อไปยังแพลตฟอร์มหลักๆต่างๆ”“สิ่งที่น่าขยะแขยงยิ่งกว่านั้นก็คือ ด้านล่างเป็นวิดีโอที่เซียวเป่ยช่วยรักษาคุณเว่ยในวิลล่าก่อนหน้านี้”“ตอนนี้ ชาวเน็ตได้วิพากษ์วิจารณ์แบบเสียๆหายๆใต้วิดีโอเกี่ยวยาเม็ดโกลเด้นกา โดยบอกว่าบริษัทของพวกเราผลิตยาปลอมที่เป็นอันตรายต่อผู้คน!”หลี่เซียวลี่อธิบายด้วยความโกรธ คำพูดของเธอ เต็มไปด้วยความโกรธที่มีต่อเซียวเสี่ยวเป่ยซูหว่านอ่านความคิดเห็นเชิงลบที่เกี่ยวกับปิงฉิ้นกรุ๊ปบนแพลตฟอร์มหลักต่างๆ แล้วพูดทันทีว่า: “แจ้งคนในแผนกประชาสัมพันธ์ รีบลดความคิดเห็นเชิงลบให้เหลือน้อยท

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 55

    “จริงเหรอ? งั้นก็ขอบคุณประธานฉินมาก นอกจากนี้ ขอแสดงความยินดีกับประธานฉินที่จะได้สาวงามกลับมาไว้ในอ้อมแขนล่วงหน้า”เป็นเลขาเหรอ?นั่นไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของเธอสิ่งที่เธอต้องการ ก็คือความสำเร็จที่โดดเด่นกว่าคนอื่น!และจะกลายเป็นดอกไม้ที่ทรงอำนาจที่หายากในแวดวงธุรกิจเจียงจง!ใครบ้างที่จะไม่อยากปีนขึ้นไป?หลังจากวางสายแล้ว หลี่เซียวลี่ก็เหลือบมองออฟฟิศของซีอีโออย่างมีเลศนัย แล้วเดินออกจากห้องน้ำอีกฝั่งของโทรศัพท์ปลายสายฉินเฟิงนั่งบนโซฟา มีคนโอบกอดซ้ายขวา มือข้างหนึ่งคีบซิการ์ มือข้างหนึ่งถือไวน์ตรงด้านหน้า มีชายคนหนึ่งที่มีใบหน้าดุร้าย ผิวออกจะคล้ำๆนั่งอยู่บนตัว มีจิตอันเย็นยะเยือกและรังสีอำมหิตอันน่าสะพรึงกลัวซ่อนอยู่บนโต๊ะยังมีกองธนบัตรวางซ้อนกองกันเป็นตับๆ ดูเหมือนว่าจะมีมูลค่าเป็นสิบล้านบาทฉินเฟิงสูบซิการ์ ด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาบนใบหน้า: “เหลากุ่ย ทำงานได้ไม่เลวเลย แต่สิ่งที่ฉันอยากจะซื้อในคืนนี้ก็คือมือทั้งสองข้างของเขา แค่เผาร้านของเขา คงจะยังไม่เพียงพอ”เหล่ากุ่ยแสยะยิ้ม เผยรอยเลวร้ายอันเย็นชาออกมา น้ำเสียงต่ำทุ้มแหบแห้ง แล้วพูดว่า: “ประธานฉิน

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 56

    เมื่อทั้งสองได้ยินดังนั้น ก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว แล้วตะโกนว่า “ไม่ไม่ไม่ พวกเราจะไม่พูด ไม่พูด...”“ดีมาก” เซียวเป่ยยิ้มแย้ม นั่งลงอีกครั้ง แล้วถามว่า “บอกมานะ ว่าใครใช้พวกแกมา?”“เหลากุ่ย... เหลา เหลา เหลากุ่ย!”หนึ่งในนั้นรีบตะโกนพูดอย่างตะกุกตะกัก เพราะกลัวว่าจะพูดช้าไปก้าวหนึ่ง แล้วจะถูกเซียวเป่ยเหยียบเข่าจนเละ“ใช่ใช่ใช่ พี่กุ่ย พี่กุ่ยให้พวกเรามา”อีกคนหนึ่งก็ไม่ยอมน้อยหน้า แย่งตะโกนว่า “เขาให้พวกเรามาตัดมือทั้งสองข้างของคุณ แลกกับเงินหนึ่งล้านบาท”“เงินหนึ่งล้านบาท ซื้อมือทั้งสองข้างของฉันงั้นเหรอ?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และพูดอย่างเย็นชาว่า: “ฉันน่าจะไม่เคยทำให้คนที่พวกแกเรียกว่าเหล่ากุ่ยขุ่นเคืองใจนะ?”ทั้งสองคนส่ายหัว และพูดอย่างคลุมเครือว่า: “พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกเราทำงานเสร็จก็รับเงิน รายละเอียดต่างๆ คุณต้องถามพี่กุ่ยเองแล้ว”“เขาอยู่ที่ไหน?”เซียวเป่ยเอ่ยปากถาม ด้วยนัยน์ย์ตาที่แฝงไปด้วยความเย็นชา “ไม่รู้ ที่อยู่ของพี่กุ่ยมักจะเอาแน่เอานอนไม่ได้ เวลาติดต่อพวกเรา ก็ติดต่อผ่านทางโทรศัพท์” อีกคนเอ่ยปากพูดเซียวเป่ยพยักหน้า ยื่นมือออกมาแล้วพ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 57

    “เด็กเวร มาเร็วเหมือนกันนี่ คนของฉันอยู่ที่ไหน?”เหลากุ่ยถามด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดเซียวเป่ยเอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋า แล้วเดินไปด้วยสีหน้าที่นิ่งสงบ กวาดสายตามองไปที่ลูกสมุนทั้งหลายที่อยู่ในห้องส่วนตัวหนึ่งรอบ พอยืนยันตำแหน่ง และอาวุธที่พวกเขาสามารถใช้ได้ในตอนนี้แล้ว จึงเข้าไปนั่งที่ตรงหน้าเหลากุ่ย นั่งไขว่ห้าง ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า: “ถูกฉันมัดเอาไว้แล้ว”“เพี้ยะ!”เหลากุ่ยเอาตบมือไปที่บนโต๊ะกาแฟด้วยความโกรธ และตะคอกว่า: “ไอ้เด็กเวร! กล้าแตะต้องคนของฉัน ไม่ว่าแกจะเป็นใคร ไม่ว่าจะเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ คืนนี้อย่าคิดว่าจะเดินออกไปจากที่นี่ได้ !”ทันทีที่พูดจบ ลูกสมุนเจ็ดถึงแปดคนที่อยู่รอบๆ ก็รายล้อมเข้ามาพร้อมด้วยรังสีอำมหิต และสีหน้าที่ดุร้าย ขณะเดียวกันก็ดึงกริชที่ส่องแสงวาววับอันน่ากลัวออกมาจากระหว่างเอวของพวกเขาเซียวเป่ยไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เขามัวแต่รินไวน์หนึ่งแก้วให้กับตัวเอง ดื่มเข้าไปหนึ่งอึก แล้วถามกลับไปว่า: “เหลากุ่ยใช่มั้๊ย? พวกเราน่าจะไม่เคยบาดหมางใจกันนะ?ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็ มีคนอยู่เบื้องหลังคุณใช่มั้๊ย ”“ให้โอกาสคุณหนึ่งครั้ง บอกฉันม

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 58

    เซียวเป่ยยิ้มอย่างเย็นชา แล้วนั่งอย่างสงบนิ่งตรงที่เหลากุ่ยเคยนั่งก่อนหน้านี้ พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า: “ตอนนี้จะบอกมาได้หรือยัง?"เหลากุ่ยกลืนน้ำลายอึกๆ แล้วพูดอย่างลำบากใจว่า: “ลูกพี่เซียว ใช่ว่าผมจะไม่อยากพูด แต่ผมพูดไม่ได้ ทำอาชีพอย่างพวกเรา มีกฎเกณฑ์ข้อนี้อยู่”“ถ้าผมบอกไป ก็อย่าคิดว่าจะอยู่ที่เจียงจงได้อีกต่อไป”“ลูกพี่เซียวได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ.....ต่อไปให้ผมเป็นวัวเป็นม้ารับใช้ ตอบแทนลูกพี่เซียวไม่ได้เหรอ?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และพูดอย่างไม่พอใจว่า: “จำไว้ ต่อจากนี้ไป กฎเกณฑ์ของฉันถึงจะเป็นกฎเกณฑ์ที่แท้จริง!”“ถ้าไม่บอก ฉันก็จะฆ่าแกเดี๋ยวนี้เลย!”“ฉันให้เวลาแกสามนาที คิดไตร่ตรองให้ชัดเจน”กึกกึก!เหลากุ่ยสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว เพราะสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันท่วมท้นที่มาจากตัวของเซียวเป่ยไอ้หนุ่มคนนี้ กล้าฆ่าคนจริงๆหรือ?เหลากุ่ยสมองตื้อ เหงื่อเย็นที่อยู่มุมหน้าผาก ไหลลงมาทีละหยดเวลา ผ่านไปนาทีต่อนาทีตอนที่เหลากุ่ยใกล้จะยืดหยัดไม่ไหว ต้านทานต่อกลิ่นอายไอความกดดันสุดขีดที่อยู่บนตัวของเซียวเป่ยไม่ได้ ประตูห้องส่วนตัวก็ได้ถูกผลักออกอีกครั

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 59

    เมื่อเซียวเป่ยได้ยินดังนี้ ก็ส่ายหัว และพูดอย่างเย็นชาว่า: “ไม่ปล่อย”คิ้วของอู๋อวิ๋นเหอขมวดกันอย่างเย็นชา แล้วพูดตำหนิไปว่า: “พูดเตือนดีๆไม่ชอบชอบให้ใช้กำลังบีบบังคับงั้นเหรอ?”“แล้วไงล่ะ” เซียวเป่ยพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา เหลากุ่ยที่นอนอยู่บนพื้น ก็ตกใจมากจนฉี่ราด!ไอ้หนุ่มคนนี้ บ้าไปแล้ว!แม้แต่ท่านอาจารย์อู๋อวิ๋นเหอก็ไม่อยู่ในสายตา?รู้มั้๊ยว่า ในเจียงจง อู๋อวิ๋นเหอแค่พูดลอยๆ ก็สามารถทำให้คนตายโดยที่ไม่รู้ตัวได้แล้วเขากล้าดียังไงถึงทำแบบนี้?แต่ว่า เหลากุ่ยก็ยิ้มเยาะเย้ยอยู่ในใจในเมื่อทำให้ท่านอาจารย์อู๋ขุ่นเคืองใจ นั่นก็หมายความว่า ไอ้เด็กเวรเซียวเป่ยนี่จะไม่สามารถเดินออกไปแบบยังมีชีวิตได้สีหน้าของอู๋อวิ๋นเหอดำคล้ำลง เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งสุดขีด ตะโกนด้วยความเกรี้ยวโกรธว่า: “พ่อหนุ่ม! บ้าบิ่นเกินไปไม่ใช่เรื่องดี! พ่อหนุ่มคิดว่าความรู้ผิวเผินที่ตนเองเรียน กับความสามารถเท่าหางอึ่งที่ตนเองมี ก็จะสามารถทำเป็นโอหังมองไม่เห็นหัวผู้อื่นได้แล้วเหรอ? หลักการเหนือฟ้ายังมีฟ้าเหนือคนยังมีคน? พ่อหนุ่มไม่เข้าใจเหรอ?”“วั

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 60

    กึกๆ!เมื่อเห็นอู๋อวิ๋นเหอถูกเซียวเป่ยตบพลิกคว่ำลงกับพื้นด้วยฝ่ามือเดียว มุมปากของเหลากุ่ยก็กระตุก อ้าปากค้างตาเบิกโพลง!เขาจ้องมองไปที่เซียวเป่ยที่ร่างกายสูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเซื่องซึม อกสั่นขวัญแขวนและหวาดกลัว นั่นเป็นท่านอาจารย์อู๋จากสำนักวิทยายุทธ์เทียนเหลยเชียวนะ!แต่กลับถูกคู่ต่อสู้ตบลอยกระเด็นออกไปด้วยฝ่ามือเดียว...แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะสู้กลับได้เลยแม้แต่น้อย!ไอ้เด็กคนนี้ เป็นใครมาจากไหนกันนะ?จิตอันหนาวเย็น ไล่ไปจากแต่ก้นกบ ไปจนถึงยอดหัวกระโหลกของเหลากุ่ยเกือบจะวินาทีต่อมา น้ำเสียงราวกับว่าเป็นเทพแห่งความความตายของเซียวเป่ยก็ดังขึ้น: “ตอนนี้ แกจะพูดได้หรือยัง?”อึกๆ!เหลากุ่ยกลืนน้ำลายอย่างแรง สั่นสะท้านไปทั้งตัว ทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้น เอาหัวโขกพื้นดังพลั่กๆแล้วตะโกนว่า “ยอดฝีมือได้โปรดเมตตาด้วย ผมพูด ผมพูด...”“ ประธานฉินฉินเฟิงแห่งหลินซื่อกรุ๊ปสั่งให้ผมทำ เขาให้เงินผมสิบล้านบาท เพื่อซื้อมือทั้งสองข้างของคุณ”ในขณะนี้ เหลากุ่ยหวาดกลัวจริงๆเป็นความหวาดกลัวที่ออกมาจากในใจ“ฉินเฟิง?” เซียวเป่ยขมวดคิ้วที่แท้คนที่อยู่เบื้องหลั

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 61

    ซูหว่านเอาโทรศัพท์มือถือตบลงไปบนโต๊ะ พ่นลมหายใจออกทางปาก พูดอย่างเย็นชาว่า “ ฉันรู้แล้ว ยังมีเรื่องอะไรอีกมั้ย?”“มีค่ะ”หลี่เซียวลี่กล่าว พร้อมดึงเอกสารฉบับหนึ่งออกจากมาอ้อมแขน พูดอย่างวิตกกังวลว่า “นี่คือเอกสารความร่วมมือกับถังซินกรุ๊ป อีกฝ่ายค้างชำระเงินพวกเรามาเป็นเวลาสามเดือนแล้ว หากยังเอาเงินกลับคืนมาไม่ได้อีก บริษัทของพวกเราอาจจะต้องขาดทุนกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท”ซูหว่านขมวดคิ้วโครงการความร่วมมือกับถังซินกรุ๊ป ทำให้เธอลำบากใจมาเป็นเวลาสามเดือนแล้วจริงๆอีกฝ่ายค้างชำระเงินมาโดยตลอด เงินลงทุนของโครงการ ปิงฉิ้นกรุ๊ปสำรองจ่ายไปก่อนทั้งหมดไปขอให้ชำระเงินหลายครั้งแล้ว แต่กลับถูกอีกฝ่ายหาเหตุผลต่างๆนานามาปฏิเสธตลอดซูหว่านกล้าโกรธแต่ไม่กล้าเอ่ยปาก ยังไงซะถังซินกรุ๊ปก็เป็นบริษัทใหญ่ เป็นบริษัทชั้นนำในเจียงจง ซึ่งเป็นบริษัทของตระกูลถังท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลถังผู้นั้น เป็นคนที่เด็ดขาดมาก!“ลองคิดหาวิธี นัดหมายกับผู้จัดการที่รับผิดชอบของพวกเขาอีกครั้ง ฉันจะไปเจรจาด้วยตนเอง” ซูหว่านกล่าว“ได้ค่ะ” หลี่เซียวลี่ตอบรับ“ประธานซูคะ ประธานฉินบอกว่า ตอนบ่ายหก

Latest chapter

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 475

    ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 474

    สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 473

    เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 472

    พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 471

    “หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 470

    “พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 469

    หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 468

    “พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย

  • แค้นรักแพทย์อัจฉริยะ   บทที่ 467

    ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status