ในห้องโถงของวิลล่าตระกูลหลี่หลี่เซียงเหลียนเดินเข้ามาจากประตู ด้วยสีหน้าท่าทางที่ไม่พอใจ และถามว่า: “พี่ใหญ่คะ แล้วไอ้เด็กเซียวเป่ยคนนั้นล่ะ ทำไมพี่ถึงไม่จับเขามา?”หลี่จ้านเทียนจิบชาไปหนึ่งจิบ แล้วพูดอย่างใจสงบนิ่งว่า: “ไม่ต้องห่วง พี่ได้กระจายข่าวออกไปแล้ว หากไอ้เด็กที่ชื่อเซียวเป่ยยังห่วงใยอดีตภรรยาของเขาอยู่ คิดว่าอีกไม่นาน เขาจะต้องมาขอโทษขอโพยตระกูลหลี่ของพวกเราด้วยตนเองแน่”“จริงเหรอ? เยี่ยมไปเลย!เมื่อถึงเวลา น้องจะแล่เนื้อของเขาออกมาทีละชิ้นๆ!”หลี่เซียงเหลียนกล่าวพร้อมกัดฟัน ในนัยน์ตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง!ถ้าไม่ใช่เพราะเซียวเป่ย เธอคงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดที่แสนโหดร้ายเช่นนี้!ทุกครั้งที่นึกถึงสิ่งที่เธอประสบในวันนั้น หลี่เซียงเหลียนจะเต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดชังอย่างท่วมท้น!ในฐานะที่เป็นคุณหนูสามของตระกูลหลี่ในเมืองหลวงแห่งมณฑล ได้รับการเอาใจใส่มาตั้งแต่เด็ก และเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของตระกูลหลี่ตั้งแต่เด็ก จึงไม่มีใครกล้ารังแกเธอเป็นแบบนี้มาสี่สิบกว่าปีแล้วแต่หลี่เซียงเหลียนคิดไม่ถึงว่า วันนี้จะมีไอ้เด็กเหลือขอที่มุทะลุวู่วาม กล้าทำกับเธอแบบนั้
หลี่จ้านเทียนหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วกล่าวว่า “มีความกล้าหาญไม่เบานี่ ถึงได้กล้ามาที่บ้านตระกูลหลี่ของฉันตามลำพัง พอดีเลยฉันจะได้ไม่ต้องไปตามหาแกให้มันวุ่นวาย”“ซูหว่านอยู่ที่ไหน?” เซียวเป่ยขี้เกียจฟังหลี่จ้านเทียนพูดพร่ำเพรื่อ จึงกล่าวถามอย่างเย็นชาหลี่เซียงเหลียนแสดงตัวออกมา เอามือประสานไว้ที่หน้าอก กล่าวด้วยรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจและดุร้ายว่า: “เมียเก่าของแกน่ะเหรอ ฉันให้ผู้ชายสิบคนปรนนิบัติเธออยู่ ตอนนี้เธอคงกำลังจะเพลิดเพลินอยู่”ทันทีที่พูดเหล่านี้ออกมา สีหน้าของเซียวเป่ยก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก มีเสียงตูมดังขึ้นบนร่างกาย และมีรัศมีอันน่าสะพรึงกลัวก็ปะทุออกมา!“คุณว่าอะไรนะ?!”เซียวเป่ยตะคอกถามด้วยความโกรธหลี่เซียงเหลียนตะโกนว่า: “ทำไม ฟังไม่เข้าใจเหรอ? หรือว่าจะให้ฉันพูดอีกครั้ง!ฉันให้ผู้ชายสิบคนปรนนิบัติเมียเก่าของแกอยู่ ตอนนี้คงจะกำลังทำสงครามกันอยู่ แน่นอนว่า ฉันยังจ้างผู้กำกับมากฝีมือมาด้วยนะ เพื่อทำการถ่ายทำให้เมียเก่าของแกโดยเฉพาะ จากนั้นก็ทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ แล้วนำไปฉายทั่วทั้งเมืองเจียงจง ให้ทุกคนได้ดู ท่าทางตอนที่เมียเก่าของแกสำส่อนล่อนจ้อน ฮ่าฮ่าฮ่า!”หลี่เซียงเห
เซียวเป่ยมองดูหมัดที่พุ่งเข้ามา ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง จากนั้นก็ชกออกไป ด้วยนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาทันที!เมื่อเห็นเซียวเป่ยปล่อยหมัด หลี่จ้านเทียนก็เกรี้ยวโกรธเป็นอย่างมาก!“ไอ้เด็กจองหอง!กล้าต่อสู้กับฉันเหรอ ช่างไม่รู้ดีชั่วจริงๆ!”หลี่จ้านเทียนตะคอกด้วยความโกรธ และเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นทันที หมัดของเขาราวกับว่าเป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ ทะลุผ่านกำแพงเสียง แล้วกระแทกไปที่เซียวเป่ยปัง!เสียงอู้อี้อันน่าตกตะลึง ราวกับฟ้าร้อง ดังก้องไปทั่วทั้งวิลล่าตระกูลหลี่“เยี่ยม! พี่ชาย ชกเขาให้ตายด้วยหมัดเดียวไปเลย!”หลี่เซียงเหลียนกำหมัดแล้วตะโกนจากทางด้านหลัง ด้วยความตื่นเต้นเป็นอย่างมากราวกับว่า เธอได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่เซียวเป่ยถูกพี่ชายชกจนนอนกองอยู่กับพื้นแล้วแต่ทว่า วินาทีต่อมา ภาพเหตุการณ์อันน่าทึ่งก็เกิดขึ้น!ในสายตาของหลี่เซียงเหลียน และบอดี้การ์ดตระกูลหลี่ที่เข้ามาหา หลี่จ้านเทียนถูกต่อยจนกระเด็นถอยหลังกลับไป!พอถอยหลังกลับไปได้สิบกว่าก้าว หลี่จ้านเทียนก็ยั่งเท้าเหยียบเข้าไปในหญ้า เพื่อตั้งท่าถอยหลังให้มั่นคง!และบนพื้นที่อยู่ตรงหน้า มีรอยเท้าลึกสามนิ้วสิบกว่ารอยเท้า!หลี่จ้
“เซียว เซียวเป่ย... ฉันร้อนเหลือเกิน ฉันทนไม่ไหวแล้ว... ช่วยฉันด้วย...”ซูหว่านเสียสติไปอย่างสิ้นเชิง ยื่นมือออกมา และเริ่มร้องขอความช่วยเหลือชายที่แข็งแกร่งทั้งสิบคนก็หัวเราะอย่างลามกจกเปรตมากยิ่งขึ้น“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันบอกแล้วว่า ยานี้สุดยอดมาก”“คิดไม่ถึงว่า ประธานซูที่มีภาพลักษณ์ที่บริสุทธิ์สง่างาม จะเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ขนาดนี้”“พี่ชายทั้งหลาย ให้ผมจัดการก่อนไหม?”จากนั้น ชายฉกรรจ์คนหนึ่งก็เดินไปหาซูหว่าน แล้วฉีกกระโปรงที่อยู่บนตัวของซูหว่านออก เผยให้เห็นผิวพรรณที่ทั้งแดงทั้งขาวราวหิมะเป็นบริเวณกว้างแม้ว่าจิตใต้สำนึกของซูหว่านจะยังคงต่อต้าน ยังคงดิ้นรน และยังคงตะโกนว่าอย่า แต่ว่า ตอนนี้เธออ่อนแอปวกเปียกเป็นอย่างยิ่งตอนที่ชายฉกรรจ์กำลังจะเอื้อมมือไปแตะที่หน้าอกของซูหว่าน ก็มีเสียงปัง ประตูห้องเล็กๆก็ถูกเตะเปิดออกชายฉกรรจ์หลายคนที่ยืนอยู่หลังประตู ก็ถูกพลังอันร้ายกาจเตะลอยกระเด็นออกไป กระแทกปังปังไปที่บนพื้นและกำแพง กระอักเลือดแล้วเสียชีวิตทันที!หลังจากนั้น ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ ก็เดินเข้ามาจากประตูในขณะนั้น เซียวเป่ยเหมือนพญายมราชที่มาจากข
ผู้บัญชาการ?เมื่อได้ยินสรรพนามนี้ หลี่จ้านเทียนก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว!เขาหันกลับไป ก็เห็นรถจี๊ปทหารหลายสิบคันวิ่งเข้ามาในวิลล่าของตระกูลหลี่!และมาพร้อมกับ กองทัพขนาดใหญ่นับพันนาย!ที่ติดอาวุธครบมือ!สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ บนตัวของนักรบเหล่านี้ ไม่ได้สวมชุดเครื่องแบบรบธรรมดา แต่เป็นชุดเครื่องแบบมังกรบินสีฟ้า!ตรงไหล่และบนหน้าอกของชุดเครื่องแบบทั้งหมด จะมีตราสัญลักษณ์มังกรบินสีทอง!เครื่องแบบรบมังกรบิน!นักรบแห่งกองทัพทหารมังกรบิน!ในขณะนั้น สีหน้าของหลี่จ้านเทียนเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก รูม่านตาของเขาหดลง และจ้องมองไปที่นักรบเกือบพันนายของกองทัพทหารมังกรบิน!ทำไมกองทัพทหารมังกรบินถึงปรากฏตัวที่วิลล่าของตระกูลหลี่?นี่คือกองทัพทหาร ที่ทำให้ข้าศึกแตกพ่าย และไม่มีคำว่าพ่ายแพ้!และเป็นกองทัพทหารที่แข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของผู้บัญชาการเทพมังกรบิน!ทหารเทพมังกรบินนับแสน สามารถเอาชนะกองกำลังทหารห้าแทนนายจากแปดประเทศได้!โอ้สวรรค์!ว่าแต่ กองทัพทหารเหล่านี้ ควรจะเฝ้าปกป้องอยู่ชายแดนไม่ใช่เหรอ?ทำไมถึงได้ปรากฏตัวที่วิลล่าตระกูลหลี่ในเมืองหลวงแห่งมณฑล?ก่อนที่ห
วันนี้ แม้ว่ามังกรทมิฬจะยืนอยู่ที่นี่ แล้วฉันสั่งสอนนาย เขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะปฏิเสธสักคำ!หลี่จ้านเทียนคลานขึ้นมา มุมปากมีเลือดออกมา เอามือกุมท้องเอาไว้ จ้องมองกวนเฟยหลงด้วยสายตาที่ไม่พอใจ และถามว่า: “กระผมไม่เข้าใจ ผมไปทำอะไรให้ผู้บัญชาการเทพมังกรบินขุ่นเคืองเหรอ ถึงได้เหยียดหยามกระผมแบบนี้!”กวนเฟยหลงหัวเราะเยาะเย้ย แล้วกล่าวว่า “ไม่เข้าใจเหรอ?ดีมาก เดี๋ยวนายก็จะเข้าใจแล้ว”พอกวนเฟยหลงพูดจบ เขาก็ขี้เกียจจะไปดูหลี่จ้านเทียนจากนั้นก็หันหน้าไปมองเซียวเป่ยที่กำลังอุ้มซูหว่านอยู่ ขมวดคิ้ว แล้วเดินไปหาเขา และพูดอย่างไม่พอใจว่า: “ไอ้คนแซ่เซียว เศษสวะแค่คนเดียว นายถึงขั้นต้องโทรศัพท์หาฉันด้วยตนเอง แล้วให้ฉันมาช่วยนายจัดการเหรอ?”“นายรู้ไหมว่า แต่ละวันฉันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ เพื่อนาย ฉันต้องบินมาจากชายแดน ทำให้งานของฉันล่าช้าไปตั้งหลายเรื่อง นายจะตอบแทนฉันยังไง?” กวนเฟยหลงถามด้วยรอยยิ้มเซียวเป่ยกลอกตาใส่เขา แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า: “จะพูดอะไรก็พูดมา”กวนเฟยหลงก็รีบเข้าไปทันที เขาโอบแขนของเซียวเป่ยเอาไว้ ต่อหน้าหลี่จ้านเทียน ต่อหน้ายอดทหารแปดร้อยนายที่หลี่จ้านเทียนและทหารกองทัพมัง
เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และพูดอย่างสงบนิ่งว่า: “ผมจะไปรู้ได้ยังไง?”“นี่ท่าทีอะไรของคุณเนี่ย? คุณทำให้ตระกูลหลี่ขุ่นเคืองใจ จนทำให้ประธานซูถูกจับตัวมา ตอนนี้ยังจะมาทำท่าทางที่ดูไม่แยแสอีก คุณนี่มันเลวจริงๆ!” หลี่เซียวลี่พูดด้วยความโกรธ และชี้หน้าด่าเซียวเป่ยสีหน้าของเซียวเป่ยเปลี่ยนไป กล่าวพร้อมขมวดคิ้วว่า “คุณไม่เห็นหรือว่าผมพาซูหว่านออกมาจากบ้านของตระกูลหลี่”หลี่เซียวลี่ชะงักไปครู่หนึ่ง ขมวดคิ้ว แล้วตำหนิทันทีว่า: “มันเกี่ยวอะไรกับคุณ! เห็นได้ชัดว่าประธานฉินใช้เส้นสาย ตระกูลหลี่ถึงได้ยอมปล่อยคน ไม่อย่างนั้น คุณคิดว่าคุณจะนำตัวประธานซูออกมาได้อย่างปลอดภัยเหรอ?”“ตระกูลหลี่อยากฆ่าคุณใจจะขาด!ถ้าคุณเดินดุ่มๆเข้าไปแบบนี้ ไม่ตายก็คงจะโดนถลกหนัง! ถ้าไม่ได้เป็นเพราะประธานฉิน คุณจะยังยืนอยู่ที่นี่ ทะเลาะกับฉันเหมือนอย่างตอนนี้ ได้อีกไหม?”เซียวเป่ยขมวดคิ้วลึกขึ้นเรื่อยๆ หัวเราเยอะเย้ย แล้วพูดว่า “คุณว่าอะไรนะ? ผมสามารถออกมาจากตระกูลหลี่ เพราะเส้นสายของฉินเฟิง?”“ถูกต้อง! ถ้าไม่ใช่ฉัน นายคงตายไปแล้ว!” ในเวลานี้ฉินเฟิงลุกขึ้นมา แล้วจ้องมองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธเคือง
เซียวเป่ยพ่นลมหายใจออกมาทางปากอย่างจนใจ แล้วกล่าวว่า “ใช่ฉินเฟิงหรือเปล่า พวกคุณรู้ดีว่ากว่าผมเสียอีก ตระกูลฉิน ไม่มีพลังอำนาจมากพอ ที่จะสามารถทำให้ตระกูลหลี่ปล่อยคนได้หรอก?”“หุบปาก! ถ้าไม่ใช่เสี่ยวฉิน จะเป็นเศษสวะที่ไม่มีความสามารถอะไรอย่างแกเหรอ!”หยางเหม่ยหลันดุด่าหลี่เซียวลี่กล่าวอย่างเหยียดหยามว่า: “เซียวเป่ย คุณมาเร็วขนาดนี้ ก็เพื่อจะมาแย่งความดีความชอบ แสดงความดีต่อหน้าประธานซู ให้ประธานซูเปลี่ยนใจมาหาคุณ และทำลายงานแต่งงานของเธอกับประธานฉินในวันมะรืนนี้ใช่ไหม? อย่าคิดว่าฉันจะไม่รู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่!”เมื่อได้ยินดังนี้ ซูหว่านที่เดิมทีมีสีหน้าที่แย่อยู่แล้ว ก็มีสีหน้าที่แย่มากยิ่งขึ้นเธอคิดไม่ถึงว่า เซียวเป่ยจะเป็นคนเช่นนี้!“เซียวเป่ย คุณไม่มีอะไรจะอธิบายเลยเหรอ?” ซูหว่านถามเซียวเป่ยเลิกคิ้ว พ่นลมหายใจออกมาทางปากอย่างช่วยไม่ได้: “ผมไม่มีอะไรจะต้องอธิบาย ถ้าคุณเต็มใจที่จะเชื่อเขา ผมก็ไม่มีอะไรจะพูด”“ผมแค่อยากจะบอกคุณว่า ตระกูลฉินไม่มีพลังมากพอที่จะหยุดตระกูลหลี่ได้!”“ครั้งนี้สามารถช่วยชีวิตออกมาได้ เป็นเพราะผมติดต่อผู้บัญชาการเทพมังกรบิน”ทันทีที่พูดเหล่านี้ออ
ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ
เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย
พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ
“หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที
“พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั
หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ
“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย
ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?