“พี่วินเป็นยังไงบ้างคะ?! ฮึก! ตอนนี้พี่ชายของลีเป็นยังไงบ้าง?!”วราลีวิ่งเข้ามาหยุดที่หน้าห้องไอซียูทั้งน้ำตา ก่อนหน้านี้เธอนั่งรถออกไปหาปรีติ ทว่าได้รับสายจากนรีนาถว่าวริศมีอาการชักรุนแรงจนหมอต้องพาตัวเข้าห้องไอซียูเป็นการด่วน ตอนที่วิ่งมาก็สะดุดขาตัวเองล้มกระแทกพื้นจนหัวเข่าและข้อศอกถลอกจนเลือดออก แต่แค่นั้นไม่อาจทำให้วราลีเจ็บจนไปต่อไม่ไหวได้ ลุกขึ้นมาแล้ววิ่งต่อ“หมอยังไม่ออกมาเลยคุณลี คุณวินติดเชื้อรุนแรง…ชักไม่หยุดเลย” นีรนาถเอ่ยบอกด้วยใบหน้าเศร้าหมอง แค่วริศเกิดอาการแทรกซ้อนก็หนักพอแล้ว ยังต้องมาเห็นสภาพน่าสงสารของวราลีอีก“ฮึก! ทำไมเป็นแบบนี้! ทำไม…ทุกอย่างมันต้องมาลงที่ลีแบบนี้! พี่วินจะเป็นอะไรไหมที่นาถ? ฮึก! พี่ชายของลี…เขาจะทรมานไหมคะ?!” ทุกครั้งที่เกิดเรื่องกับพี่ชาย วราลีจะอ่อนแอมากที่สุด เป็นเรื่องเดียวที่ทำให้เธอเสียน้ำตาได้ ทั้งที่พยายามอดทนและเข้มแข็งมาตลอด แต่ดูเหมือนว่าเธอจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว“คุณลีใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ รอคุณหมอออกมาก่อนจะดีกว่านะ”“ฮึก! ที่ทำอยู่ตอนนี้ ลีทรมานพี่วินหรือเปล่า? พี่วินเขาไม่อยากอยู่กับลีแล้วใช่ไหมพี่นาถ?” ไม่ใช่ว่าไม่เคยคิด เรื่องที่พยายา
18มันลบล้างกันไม่ได้“ทำไมล่ะ? ทำไมลีถึงต้องคืนเงินให้สองคนนั้น? ทำไมลีถึงต้องขอเงินจากคุณมาฟรี ๆ ด้วย? ลีไม่ใช่ขอทาน! พี่ป่านสมควรต้องชดใช้ให้ลี! ส่วนศรัยฉัตร…ลีไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาโอนเงินมาทำไม!”“ถ้าบอกว่าไม่ใช่ขอทาน! ก็โอนเงินไปคืนซะ! จะเอาเท่าไร? พูดมาว่าจะเอาเงินเท่าไร! ผมจะให้คุณเอง!”“ลีเพิ่งบอกไปว่าไม่ใช่ขอทาน แต่คุณทิวาก็ยังจะทำเหมือนลีเป็น! รับเงินจากคุณมาฟรี ๆ แบบนั้นแหละที่เรียกว่าขอทาน!” วราลีไม่เข้าใจว่าทิวากรเป็นอะไร ทำไมเขาจะต้องเดือดดาลกับเรื่องนี้ แต่พอคิดดูแล้ว มันอาจมีเหตุผล “อ๋อ…หรือว่าคุณไม่อยากให้คนอื่นมาควบคุมลีได้ใช่ไหม? คุณอยากเป็นคนเดียวที่ข่มเหงลีใช่ไหม?”“จะคิดยังไงก็เรื่องของคุณ แต่ทำตามคำสั่งผม…โอนเงินไปคืนสองคนนั้น!”“ไม่!”“วราลี! รู้ตัวไหมว่าทำอะไรอยู่?! รู้ตัวไหมว่าสองคนนั้นเอาเรื่องนี้ไปแจ้งความได้…พวกเขาจะสร้างเรื่องมาทำให้คุณกลายเป็นคนผิด! เป็นพวกรีดไถเงินจากเขา! ถึงตอนนั้นคุณคือคนที่จะเดือดร้อน!”“พี่ป่านไม่กล้าทำหรอก เพราะถ้าเขาทำ…ลีจะบอกทุกคนว่าเขาคือต้นเหตุให้พี่ชายลีกระโดดตึกฆ่าตัวตาย! เจ็ดปีที่แล้วมันเป็นข่าวดังไปทั่ว! ที่พี่ป่านยอมโอนเงินม
วราลีตื่นขึ้นมาพบว่าเงินสามแสนใบบัญชีหายไปแล้ว มีหลักฐานว่าใครบางคนโอนเงินในบัญชีของเธอกลับคืนไปให้ปานชีวาและศรัยฉัตร ซ้ำร้ายกว่านั้นคือตอนนี้ทุกช่องทางในโซเชียลของเธอนั้นโดนชาวเน็ตมาถล่มยับ ไม่มีสักคอมเมนท์เดียวที่เข้าข้างเธอ มันแตกต่างจากเมื่อวานราวฟ้ากับเหว พอได้รับสายจากรสาก็พบคำตอบ เพราะไลฟ์ของศรัยฉัตรที่มาพร้อมน้ำตาและคำตอแหล กระแสเลยตีกลับมาเล่นงานวราลีรสาจัดการนัดทนายความให้มาเจอกับวราลี อ้างว่าเป็นทนายเพื่อประชาชนที่พร้อมยื่นมาเข้ามาช่วยและจะตามไล่ฟ้องร้อง สืบค้นพวกคอมเมนท์ที่มาต่อว่าเธอเสีย ๆ หาย ๆ อีกทั้งยังจะฟ้องศรัยฉัตรด้วยข้อหามากมาย ทนายความขอเวลาสองอาทิตย์ในการทำงาน เขาให้คำมั่นกับวราลีว่าเธอจะต้องหลุดพ้นจากกระแสสังคมนี้ได้อย่างดีแน่นอน แต่วราลีไม่อยากจะสนใจอะไรอีกแล้ว วันทั้งนั้นเธอต้องมานั่งคุยกับทนาย ที่จริงเธอไม่ได้สนใจอยากจะฟ้องใครทั้งนั้น เธอแค่อยากหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้พี่ชาย แต่ตอนนี้เงินหายไปหมด แล้วคนที่บอกจะจ่ายสี่แสนสำหรับค่าย่ำยีความรู้สึกเธอ ก็หายเข้าไปในกลีบเมฆเสร็จจากเรื่องทนายความวราลีก็มาที่โรงพยาบาล ตั้งใจว่าจะมาขอเลื่อนจ่ายเงินเดือนให้นีรนา
19สัญญาทางใจทิวากรเข้าใกล้ความเป็นไปได้มากขึ้นอีกนิด ขณะนี้กำลังเดินทางไปจันทบุรีพร้อมกับปานชีวา โดยมีนายสิน คนรถที่ไว้ใจขับรถให้ แน่นอนว่าที่จริงทิวากรขับไปเองได้ จันทบุรีไม่ได้ไกลอะไรแต่ที่ไม่ยอมขับเองก็เป็นเพราะไม่อยากอยู่กับหญิงสาวแบบสองต่อสอง ทั้งเขาและเธอนั่งอยู่ที่เบาะหลังรถด้วยกัน หญิงสาวชวนคุยมาตลอดทาง ขณะที่ชายหนุ่มกำลังเปิดสไลด์โครงการนิว เอราผ่านไอแพดเครื่องใหญ่“ช่วงนี้ป่านวุ่นวายมากเลยค่ะ ตั้งแต่ที่มีข่าวของศรัยขึ้นมา” ได้โอกาสปานชีวาก็เริ่มเข้าเรื่อง วันนี้ไม่ได้คิดจะไปเดตกับชายหนุ่มเพียงอย่างเดียว แต่เธอตั้งใจว่าจะมาแก้ตัวเรื่องข่าว กลัวเขาจะคิดว่าเธอเป็นพวกชอบรังแกคนที่มีน้อยกว่า ที่จริงปานชีวาก็ไม่ได้อยากเอาสลิปที่เธอโอนเงินให้วราลีไปให้ศรัยฉัตรใช้เป็นเครื่องมือ แต่เพราะดาราสาวซักไซ้ไม่หยุดว่าทำไมเธอถึงทำตัวเหมือนรู้จักวราลีมาก่อน ปานชีวาจนปัญญา โดนเพื่อนต้อนจนมุมเลยต้องบอกความจริงไปว่าเคยรู้จักกันมาก่อน เพราะพี่ชายของวราลีมาทำงานให้เธอ แน่นอนว่าต่อให้สารภาพแต่มันก็เป็นคำสารภาพที่โกหกอยู่ดี“ครับ” ทิวากรทำเป็นรับรู้ ตอนนี้ทนายความคงกำลังตามเก็บหลักฐานอยู่ ล่าสุดที่
วราลีใช้เวลาอ่านสัญญาการเป็นนางแบบของเกิรล์ พาวเวอร์อยู่พักใหญ่ พออ่านจบก็หยิบปากกามาเซ็นชื่อตัวเองลงไปอย่างไม่ต้องคิดเยอะ สัญญาไม่ได้มีอะไรมากมาย เธอก็แค่ต้องใส่ชุดชั้นในถ่ายรูป ถ่ายคลิปวิดีโอเพื่อโปรโมตสินค้า ค่าจ้างไม่เลว ที่จริงถือว่าดีมาก ซึ่งสัญญาเป็นแบบปีต่อปี…โดยวราลีจะได้รับงานถ่ายแบบและเดินแบบกับทางแบรนด์ตลอดระยะสัญญา นี่ไม่ใช่สัญญาการเป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้วสำหรับเธอ ซึ่งก็ใช่ว่าวราลีจะต้องทำแค่นั้น…เมื่อเซ็นสัญญาแล้วเธอจะต้องเข้าร่วมแคมเปญของทางแบรนด์ด้วย นั่นก็คือการช่วยเหลืองานในมูลนิธิที่สนับสนุนและคอยช่วยเหลือผู้หญิงที่ด้อยโอกาสหรือถูกทำร้าย“ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคุณลีนะคะ รับรองว่าจะต้องสนุกแน่ ร่วมงานกับเรา คุณได้บุญด้วยนะรู้ไหม…รายได้หลังจากหักต้นทุนทุกอย่างแล้ว เรามีการแบ่งเงินไปบริจาคให้มูลนิธิสำหรับผู้หญิงที่เป็นเหยื่อด้วยนะคะ” มินตรา เจ้าของแบรนด์เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม เธอคนนี้เป็นสาวสวยวัยสามสิบสอง เป็นดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียง เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง แถมยังแต่งงานกับผู้ชายรักเดียวใจเดียว เป็นถึงเจ้าของโรงแรมใหญ่ระดับห้าดาวอย่างปราณ“ว่าแต่ลีจะได้เร
20ร้ายลึกกลับมาจากจันทบุรีทิวากรก็ตรงมาที่เพนท์เฮาส์ทันที ไม่ได้เจอหน้าใครบางคนแล้วเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง พอมาถึงก็ได้เห็นคนตัวเล็กในชุดเสื้อใน กางเกงใน ไม่เชิงว่าเปลือย แต่ก็โป๊ได้ใจ ยืนโพสต์ท่าแปลก ๆ อยู่ที่หน้ากระจกในห้องแต่งตัว เธอคงไม่ได้ยินเสียงการมาถึงของเขา แอบมองอยู่พักใหญ่ เดี๋ยวก็ยกแขน เดี๋ยวก็ยกขา เอียงซ้ายที ขวาที เขาไม่เข้าใจว่าเธอกำลังทำอะไร เวลาแบบนี้มันใช่เวลาที่มาทำเรื่องไร้สาระไหม? ทำไมไม่ไปตามเรื่องกับทนายความ คิดบ้างไหมว่าหากเขาไม่ได้มาตามจี้ ตามเรื่องให้อยู่ลับหลัง ป่านนี้ก็คงไม่มีอะไรคืบหน้า“ทำอะไรของคุณ?” ทนมองไม่ไหว เลยเดินเข้าไปถามเสียเลย“คะ?!” วราลีตกใจไม่น้อย รีบหันหาผ้าขนหนู หวังจะเอามาบดบังเรือนร่าง แต่คนตัวสูงกลับคว้าข้อมือเอาไว้เสียก่อน“จะไปถ่ายแบบโป๊หรือไง?” ถามได้ตรงจุด แต่ถามเพราะความไม่รู้ และคิดไม่ถึงว่าคำตอบมันใกล้เคียง“ไม่ต้องยุ่ง! ปล่อยลี!” เธอยังโกรธอยู่มาก กับสิ่งที่เขาทำเมื่อวันก่อน และก็ใช่…ต่อให้เขาจะช่วยค่ารักษาพยาบาลของพี่ชายมันก็ลบล้างการกระทำเลวทรามนั้นไม่ได้ และใช่อีกเหมือนกัน ต่อให้เธอจะขายตัวให้เขา ต่อให้จะเคยนอนกับเขามาแล้วไม
วราลีทำหน้าอยากตายจะขึ้นมาทันทีเมื่อหันไปเห็นปานชีวาเดินควงแขนมากับทิวากร และเมื่อปานชีวาได้เห็นวราลีกับปรีติ เธอเองก็ทำหน้าไม่ถูกเหมือนกัน หันมองคนข้าง ๆ ที่เดินทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้“เจอสองคนนั้นอีกแล้ว นี่ทิวารู้มาก่อนหรือเปล่าว่าพวกเขามาที่นี่?”“ไม่รู้ครับ ผมจะรู้ได้ยังไง” ยักไหล่ตอบ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตอนมาถึงหน้าร้านแล้วขอตัวจากปานชีวาแล้วเดินหลีกออกมาคุยโทรศัพท์ นั่นก็เพื่อโทรเช็กให้แน่ใจว่าปรีติกับวราลีอยู่ที่ร้านนี้แน่ เขาเดาเอาไว้ไม่มีผิดว่าที่วราลีบอกว่ามีธุระ นั่นคือการออกมาเจอปรีติ แล้วก็เดาได้อย่างแม่นยำว่าญาติของเขาจะต้องพอเธอมาที่นี่“เจอกันอีกแล้วนะปลื้ม” ปานชีวาจำใจต้องทักทายเพื่อนสมัยเรียน ก่อนจะหันมามองหน้าวราลี “ลีเองก็เหมือนกัน เจอกันอีกแล้ว”“นั่งสิ ๆ” ปรีติขยับตัวให้ทิวากรมานั่งข้าง ๆ ขณะที่วราลีก็จำใจต้องขยับให้ปานชีวา “สองคนนี้นี่ยังไง? เดตกันแล้วเหรอ?”“คิดว่าไงล่ะ?” เป็นปานชีวาที่ถามกลับ“เอาจริงดิ?” ปรีติหันถามญาติตัวเองที่ตอนนี้เอาแต่จ้องหน้าวราลีไม่วางตา “คบกันแล้วจริงดิ?”“ให้คุณป่านตอบดีกว่า” ทิวากรไม่อยากเป็นคนตอบว่าใช่ เพราะความสัมพันธ์นี้ไม่ได้เกิดจากค
21ผมไม่มีวันรักคุณแม้แต่วันเสาร์ก็ยังเป็นวันที่ทิวากรเข้ามาทำงานที่บริษัท ทว่าจิตใจเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เอาแต่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขาสงสัย เขาตั้งคำถาม ว่าเขาทำไมตัวเองถึงไม่สามารถละสายตาไปจากวราลีได้ แล้วทำไมเธอที่บอกว่าอยากได้ความรักจากเขา ถึงไม่มองหน้าเขาเลย ทำไมเธอถึงเอาแต่โกรธเขาอยู่ได้ ไม่ว่าจะพูดอะไร ทำไมมันถึงไม่เข้าหูเธอเลยสักอย่าง แล้วทั้งที่รู้ว่าเขาสั่งห้ามไปเจอกับปรีติ ทำไมเธอถึงยังไม่เจออยู่อีกมันมีคำถามว่าทำไมวิ่งวุ่นอยู่เต็มหัวเขาไปหมดก็ไม่รู้ คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก ว่าทำไมหลายวันมานี้วราลีถึงกวนใจเขาไม่หยุด เขารู้สึกกังวลและไม่สบายตัวเวลาที่อยู่ห่างจากเธอ รู้สึกเหมือนอยากรีบทำงานให้มันจบ ๆ แล้วรีบกลับบ้าน แต่พอกลับไปที่บ้านก็รู้สึกว่ามีที่อื่นที่อยากไปมากกว่า สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวต้องไปที่เพนท์เฮาส์ แต่ไปแล้วกลับต้องมาทะเลาะกับเธอ เขาไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่“คุณทิวากรคะ” รสาเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าโต๊ะทำงาน ได้ยินชื่อตัวเองทิวากรก็สามารถหลุดออกจากภวังค์แห่งความคิดได้ “วันนี้ช่วงบ่ายรสาคงต้องเข้าไปพบคุณศรัยฉัตรพร้อมทนายความค่ะ”“ได้เรื่องว่ายังไงบ
พอแดดร่มลมตก สามคนพ่อ แม่ ลูกก็ออกมานั่งที่ริมชายหาด คุณแม่คอยนั่งมองลูกสาวขี่หลังคุณพ่อ พากันวิ่งเล่นไปมาอยู่ริมทะเล เป็นภาพที่เธอเคยวาดฝันเอาไว้ ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นจริงขึ้นมาได้ มองออกไปยังสองคนที่เธอรักเท่าชีวิต ที่ตรงนี้…บนพื้นที่ดินของพ่อแม่ คิดแล้วน้ำตาแห่งความสุขและความคิดถึงก็รื้นขึ้นมา“พ่อขา…แม่ขา…พี่วิน อยู่ข้างบนนั้นเป็นยังไงกันบ้างคะ? ตอนนี้ลีสบายดีมากเลยนะ ยังคิดถึงทั้งสามคนอยู่เสมอนะ ไม่ต้องห่วงอะไรอีกแล้วนะรู้ไหม ลีมีความสุขมาก ได้กินอย่างดี ได้นอนหลับอย่างดี ไม่ต้องทำงานเหนื่อยเหมือนเมื่อก่อน คุณทิวาเขาดูแลลีกับลูกเป็นอย่างดีเลยนะคะ” แหงนหน้ามองท้องฟ้า น้ำตาก็ไหลริน คนที่จากไปแล้วยังอยู่ในหัวใจและความทรงจำของเธอเสมอ และเมื่อคิดถึงพวกเขาก็ต้องมีน้ำตาอยู่ทุกครั้ง แต่มันคือน้ำตาแห่งความคิดถึง“หม่ามี๊! มาเล่นกันเถอะ!” เสียงลูกน้อยตะโกนมาแต่ไกล วราลีก็รีบปาดน้ำตาแล้วลูกขึ้นไปหาทันที “เดินไปตรงโน้น! ด่าดี๊พาจะกายไปตรงโน้น”“ตรงไหนคะ?” ทิวากรมองตามมือที่น้องสกายชี้นิ้วไป ขณะที่ส่งมือตัวเองไปรอรับมือภรรยาสาวมากุมไว้“ตรงโน้นค่ะ ตรงที่มีท้องฟ้ากับทะเลเชื่อมต่อกัน”“โถ่ลูก…เ
32พ่อ แม่ ลูก“พ่อชื่อทิวากรแปลว่าพระอาทิตย์ แม่ชื่อวราลีแปลว่าพระจันทร์ อย่างนั้นลูกก็ต้องชื่อดวงดาวสิ อยู่บนท้องฟ้าเหมือนกัน”อีกสองเดือนลูกจะคลอดแล้วแต่พ่อกับแม่ยังเถียงกันเรื่องตั้งชื่อลูกไม่จบ คนเป็นพ่อดูเหมือนจะชอบของโบราณเป็นพิเศษ ฟังเพลงเก่าไม่พอยังสรรหาชื่อเก่า ๆ ของคนยุคก่อนมาตั้งให้ลูกอีก นวดเท้าให้เมียไปเขาก็พูดชื่อลูกไป เงยหน้าแหงนมองทางนั้นที ทางนี้ทีแต่ไม่คิดจะหันมองหน้าเมียที่ตอนนี้ทำตาเขียวใส่เขาอยู่“หรือจะชื่อดวงดารา?”“พอได้ไหมคะที่รัก? จะดวงดาวหรือดวงดาราน่ะ ไม่ใช่ว่าไม่ดีหรอกนะแต่ว่าลองหาดูสิ…ลีว่าคนล่าสุดเด็กที่ชื่อดวงดาวตอนนี้น่าจะอายุสี่สิบไปแล้ว” ก็ไม่อยากจะบู้บี้คนชื่อดวงดาว แต่นี่มันยุคไหนแล้ว…ตั้งไปแบบนั้นลูกสาวเธอได้ร้องไห้ไม่หยุดเพราะอายเพื่อนที่โรงเรียนพอดี ตอนเด็กน่ะไม่เท่าไร แต่พอโตขึ้นมาล่ะก็โดนล้อแน่ ๆ“ก็แล้วที่รักจะตั้งชื่อว่าอะไรล่ะ? ลูกเราจะคลอดอยู่อีกไม่กี่วัน…ตอนนี้ยังหาชื่อไม่ได้เลย” เมียท้องโตขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังไม่ยอมหยุดเดิน พอเดินมาก็ปวดเท้า เขาต้องมานวดให้ก่อนนอนทุกคืน แต่ก็นวดด้วยความเต็มใจ เพราะวันนี้ได้รู้ว่าลูกในท้องนั้นเป็นลูกสาว มั
“ครางดังขนาดนี้ลูกต้องตื่นแล้วล่ะ”“งื้อ! แบบนั้นน่าอาย…” พอคิดว่าไม่อยู่กันสองต่อสองแต่มีลูกน้อยในท้องอยู่ด้วย วราลีก็อดจะเขินอายขึ้นมาไม่ได้ “ลูกจะรู้ไหมว่าพ่อกับแม่ทำอะไรกันอยู่?”“ไว้ผมจะถามตอนเขาคลอดออกมา”“งื้อ! อ๊ะ! คุณทิวา…ฮื่อ…อย่าหยุดนะคะ อ๊ะ! ลีเสียวมากเลย…เสียวเหมือนจะเสร็จ” วราลีเกร็งหนักเพราะความกระสันเสียว เธอร้องขอให้เขาทำต่อไป ครวญครางออกมาด้วยน้ำเสียงกระเส่าสั่น แน่นอนอยู่แล้วว่าทิวากรไม่คิดจะหยุด ที่ผ่านมาให้เธอบำเรอสุขให้เขามามาก ต่อจากนี้ไปเขาเป็นคนบำเรอเธอเอง “อื้อ! อ๊ะ! ใกล้แล้วค่ะ อ๊าห์! คุณทิวา…อื้อ! อึก!”“จุ๊บ! ชอบตอนคุณครางเสร็จ” จูบแก้มเธอพร้อมรอยยิ้มชอบใจที่ทำให้เมียเสร็จได้ เมื่อก่อนไม่เคยจะพูดว่าชอบอะไร แต่เดี๋ยวนี้ล่ะพูดเอาไม่หยุด เดี๋ยวชอบนั่น เดี๋ยวชอบนี่ บอกตลอดเหมือนกลัวเธอจะไม่รับรู้“อึก! เลียให้ลี…” วราลีไม่เขินอายแล้ว เอาจริง ๆ ลูกไม่รู้หรอกว่าพ่อกับแม่ทำอะไรกันอยู่ ร้องขอให้เขาทำแบบนั้น…ทำแบบที่เคยทำ “นะคะ เลียตรงนั้นให้ลีหน่อย”“อ้อนผมอีก”“คุณทิวาขา…ลีอยากเสร็จอีกแล้ว ช่วยเลียให้ลีหน่อยได้ไหมคะ?” เขาอยากให้เธออ้อน เธอก็อ้อน…ก็ตอนนี้มีสิ่งที่
31ขอบคุณที่เกิดมาบนโลกใบนี้อีลี! ไอ้ลี! อีนังชั้นต่ำวราลี!คำจิกหัวเรียกที่โดนมาเกือบทั้งชีวิตถูกแทนที่ด้วยคำว่าคุณวราลี อนันต์ธีรกุล ภรรยาสาวคนสวยของทิวากร อาจพูดได้ว่าเมื่อสถานะเปลี่ยน ชีวิตก็เปลี่ยนตามไปด้วย วราลีไม่ต้องคอยเอาใจใคร ไม่ต้องก้มหัวทำตัวนอบน้อมให้กับใครอีกต่อไปแล้ว ทุกคนพากันยกย่องเธอ ยกเธอขึ้นให้อยู่สูง ทว่าเธอเกลียดวัฒนธรรมแบบนั้นเป็นเมียทิวากรผู้ยิ่งใหญ่แล้วยังไง?มีเงินมากกว่าแล้วยังไง…สุดท้ายก็มีวันต้องตายจากโลกใบนี้เหมือนกันทุกคนอยู่ดี กินน้อย กินเยอะ กินหรู กินแพง กินเข้าไปแล้วก็อิ่ม อิ่มแล้วก็ถ่ายออกมาเป็นก้อนเหมือนกันหมด สิ่งที่วราลีตั้งใจว่าจะไม่ทำก็คือสิ่งที่เธอโดนมาทั้งชีวิต อะไรที่เคยต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติด้วย เธอจะทำ จะให้เกียรติ จะพูดจาดี ๆ จะมองว่าทุกคนก็มีคุณค่าความเป็นมนุษย์ไม่ต่างจากเธอเมื่องานแต่งงานสุดอลังการจบลงคุณสามีก็พาภรรยาสาวของเขากลับมาที่บ้าน บ้านซึ่งเธอไม่เคยรู้ว่าเป็นยังไง บ้านที่เขาไม่เคยเปิดต้อนรับใครหน้าไหนแม้กระทั่งพิมพ์ประภาผู้เป็นแม่ พอมาถึงก็พาเธอเดินชมรอบตัวบ้าน ช่างเป็นบ้านหลังใหญ่ที่กว้างขวางและปลอดโปร่ง ทว่าไร้ชีวิตชีวา ก
รสากลับไปได้สักพักปรีติที่ได้รู้เรื่องก็ตามมาเยี่ยม เขาบอกกับวราลีว่าหากเธอจะตอบรับความรักของทิวากรเขาก็เข้าใจ และหากว่าสุดท้ายเธอจะลาคลอด หรือแม้แต่ลาออกเขาก็ยินดียอมรับการตัดสินใจของเธอ เขาทิ้งท้ายไว้เพียงแค่ว่าเขายังชอบที่ได้มีเธออยู่ในชีวิต จะในฐานะเพื่อนหรือพี่สะใภ้ เขาก็ยินดีทั้งนั้น และเขาไม่ได้เกลียดอะไรทิวากร แค่ยังโกรธที่ญาติเวรตะไลมันชอบวางท่าหวงก้างใส่เขาก็เท่านั้นกระทั่งปรีติขอตัวกลับไปได้พักใหญ่แล้วทิวากรก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา วราลีนั่งเฝ้าเขาไม่ยอมห่าง กุมมือหนาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย อดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากการกระทบกระแทกที่เกิดขึ้นในวันนี้มันไปโดนเส้นประสาทสำคัญจนทำให้เขาไม่ฟื้นหรือกลายเป็นคนไข้ติดเตียงเธอจะทำยังไง ต้องมาเลี้ยงเขาไปทั้งชีวิตหรือ? ไม่เอาด้วยหรอก คอยดูสิว่าถ้าเขาไม่ฟื้นขึ้นมาล่ะก็…เธอทิ้งเขาแน่ จะทิ้งจริง ๆ ด้วย“อื้อ!” คิดได้ไม่เท่าไร คนนอนหลับก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมเสียงอู้อี้“ฟื้นแล้วเหรอ?”“ลี…”“ฮึก! ค่อย ๆ ลุกค่ะ ค่อย ๆ นะ” วราลีรีบเข้าไปช่วยเขาปรับท่านั่ง ดึงหมอนขึ้นมารองรับแผ่นหลังของเขาไว้“ทำไมร้องไห้อีกแล้ว?” ตื่นมาก็ได้เห็นน้ำตาเธอเลย นิ่วหน้าไม่ชอบใจ เคยเห็
30จะรักษาไว้อย่างดีทิวากรตีรถจากหัวหินมาถึงกรุงเทพภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงเศษ เหยียบคันเร่งแบบไม่คิดชีวิตเพราะอยากไปรับเมียให้ทันเที่ยงคืน เขาบอกไว้แล้วว่าเธอคือเป้าหมายสำคัญสูงสุดในชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจะทิ้งงานไปเลย ยังไงเขาก็ยังต้องรับผิดชอบหน้าที่การงาน พอจัดการปัญหาเสร็จก็รีบบึ่งมาถึงที่ โชคดีที่มาทัน เวลาสี่ทุ่มบาร์ยังไม่ปิด รีบเข้ามาข้างในทำตัวเป็นลูกค้า เพื่อรอเมียกลับบ้าน วันนี้เขาไม่ได้เจอเธอมาทั้งวัน คิดถึงจนใจจะขาด พอได้เจอก็อยากจะเข้าไปกอดไปหอมให้หายคิดถึง แต่แค่เดินเข้ามาในบาร์…เขากลับต้องยืนนิ่งมองเหตุการณ์วุ่นวายตรงหน้า“ดื่มไม่ได้จริง ๆ ค่ะคุณลูกค้า เวลานี้เป็นเวลาทำงาน…พนักงานไม่ได้รับการอนุญาตให้ดื่ม” ไฟความเป็นผัวมันพลุ่งพล่านเมื่อทิวากรได้เห็นภาพที่ไม่ต้องการจะเห็นไปอีกตลอดชีวิต คือภาพเมียเขาต้องมาคอยก้มหัวเอาใจใคร เวลานี้วราลีกำลังถูกพวกเมาแล้วหื่นลวนลามทางสายตาและคำพูด มันยื่นแก้วเหล้าให้เธอ คะยั้นคะยอให้เธอดื่ม“ดื่มหน่อยเถอะน่ะ ฉันเป็นลูกค้านะ ฉันอนุญาตแล้วใครจะมาว่าอะไรเธอได้? ดื่ม! ฉันสั่งให้เธอดื่ม!”“ดื่มไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ต้องขอประทานโทษคุณลูกค้าด้วย
ทิวากรโยนงานของตัวเองให้คนอื่นทำ จะรับพิจารณาเฉพาะเรื่องที่สำคัญมากเท่านั้น เพราะตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาก็คือการตามเมียตามลูก เขามาส่งวราลีที่บาร์ แล้วก็นั่งเฝ้าเธออยู่ในร้าน แม้ว่าเธอจะไล่แล้วไล่อีกแต่เขาก็ไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น วันนี้เขารู้ว่าปรีติติดงานที่บริษัทก็เลยไม่ได้เข้ามาที่ร้าน เพราะแบบนั้นก็แปลว่าทางสะดวก ไม่มีหมาตัวอื่นมาวนเวียนอยู่ใกล้เมียเขาแล้ว“ผมทำเอง” เห็นวราลียกถาดรองแก้วเตรียมเอาออกมาจัดเรียก ทิวากรก็รีบเข้าไปแย่งถาดมาถือไว้เอง ที่จริงมันก็ไม่ได้หนักอะไร รู้ว่ายังไงวราลีก็ยกไหวอยู่แล้ว แต่ไม่ได้…เขาจะไม่ให้เธอทำงานใช้แรงงานอีกต่อไปแล้ว“นี่คุณยังไม่กลับไปอีกเหรอ?”“จะรอรับคุณกลับด้วยกัน ให้ยกไปไหนครับ?” เขาพูดครับกับเธอแทบทุกคำ แบบนี้ต่อไปคงได้ตำแหน่งคนกลัวเมียไปครอง“ยกไปไว้ตรงนั้น” วราลีชี้ไปยังพื้นที่หลังเคาน์เตอร์บาร์ ก่อนจะหันไปหยิบไม้ถูพื้นเตรียมจะถูพื้นต่อ แต่ยังไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นทิวากรก็รีบเข้ามาแย่งไม้ถูพื้นจากมือเธอไป“ผมทำเองครับ คุณไปนั่งพักเถอะนะ เดี๋ยวผมจะถูพื้น เช็ดกระจก จัดโต๊ะทั้งหมดนี่เอง”“งั้นไปล้างห้องน้ำด้วยเลยสิ”“โอเคครับ” เธอประชด
29ผมจะเป็นคนที่เหนื่อยเองตุบ!วราลีเปิดประตูห้องออกมาในตอนสิบเอ็ดโมงของวันใหม่ ตกใจไม่น้อยที่ได้เห็นทิวากรนั่งสัปหงกอยู่หน้าห้อง พอเปิดประตูตัวเขาที่หลับไม่รู้เรื่องก็ทิ้งตัวลงไปนอนที่พื้น เมื่อคืนเธอไล่ให้เขากลับไป ก็คิดว่าเขากลับไปแล้ว…ไม่รู้เลยว่าที่แท้ชายหนุ่มมานั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องแบบนี้“ลี…” เขางัวเงียลืมตาขึ้นมา พอเห็นเธอก็ยิ้มดีใจ รีบคว้าถุงอะไรสักอย่างลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมันให้เธอ“อะไรคะ? แล้วทำไมคุณไม่กลับไปนอนที่บ้าน? มานั่งหลับอยู่หน้าห้องลีทำไม?”“ในถุงมีโจ๊กหมูพิเศษแบบใส่ไข่แล้วก็มีของกินสำหรับบำรุงครรภ์” ทิวากรเฝ้าวราลีตั้งแต่เมื่อคืน โทรไปสั่งงานรสาตอนตีสอง บอกว่าอยากได้หนังสือที่ให้ความรู้เรื่องการดูแลแม่ตั้งครรภ์ สั่งตอนตีสอง! แล้วบอกว่าอยากได้ตอนตีสาม! เป็นงานที่ยากไม่น้อยแต่รสาก็หาให้จนได้ เขาเลยได้นั่งอ่านหนังสือรอเวลาหกโมงเช้า เพื่อที่จะได้ออกไปซื้อโจ๊ก แต่ไม่คิดว่าวราลีจะออกจากห้องมาในตอนสิบเอ็ดโมง“ลีกินมื้อเช้าไปแล้วค่ะ นี่จะออกไปทำงาน แล้วนั่นหนังสืออะไร?” เห็นหนังสือวางอยู่ที่พื้น ก็อดจะสงสัยไม่ได้“หนังสือความรู้เรื่องแม่ตั้งครรภ์ ตอนนี้ผมรู้แล้วนะว่าช่วงเ
ติ๊งต่อง!เสียงกริ่งหน้าห้องที่ดังขึ้นมาในเวลาตีหนึ่งครึ่งทำเอาวราลีสะดุ้ง รีบปาดน้ำตาแล้วออกไปที่ประตู ส่องตาแมวแล้วก็ได้เห็นว่ารปภ. ของคอนโดยืนอยู่ด้านหน้า“มีอะไรหรือเปล่าคะ?” เปิดประตูห้องออกมาถาม ทว่ากลับต้องชะงักงันเมื่อรปภ.หันไปมองทางด้านขวาแล้วเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ “คุณทิวากร?!”“ผมเอง…ผมรอคุณนานมาก ทำไมกลับดึกขนาดนี้ รู้ไหมว่ากลับดึก ๆ มันอันตราย? ผมซื้อกวยจั๊บเจ้าที่คุณชอบมาด้วยนะ” ทิวากรจ้างให้รปภ. กดกริ่งให้ เพราะรู้ว่าถ้าเขากดเองไม่มีทางที่วราลีจะยอมเปิดประตู เขามารอเธอตั้งแต่สี่ทุ่ม ไม่คิดเลยว่าเธอจะกลับดึกขนาดนี้ แล้วที่รู้ว่าเธออยู่ที่นี่ก็มาจากพนักงานเสิร์ฟร้านนั่นแหละ“มาทำไมคะ? ใครบอกว่าลีอยากกินกวยจั๊บ?! กลับไปเถอะ!” วราลีทำท่าจะปิดประตูห้องใส่หน้าทิวากร ทว่าเขาเอาตัวเองเข้ามาแทรกไว้ได้ทันเวลา“อย่างน้อยก็ขอผมเข้าห้องน้ำหน่อย! รอคุณนานมาก…ผมปวดฉี่จะราดแล้วลี”“ไม่! ไปเข้าที่อื่นสิ! ห้องน้ำยามก็มี!”“ไม่ครับ ผมไม่ใช้ห้องน้ำร่วมกับใครยกเว้นกับคุณ โอ๊ย! ฉี่จะราดแล้วลี…ขอผมเถอะนะ”“ไม่ได้! ออกไปนะ! บอกให้ออกไปไง!” ยังไงก็ให้เขาเข้าห้องน้ำไม่ได้เด็ดขาด เพราะที่ตรว