“หนูว่าเหตุผลมันต้องมากกว่านี้ เฮียครามช่วยบอกหนูหน่อยสิว่าทำไม” แก้มหอมถามขึ้นเพราะมันคงมีมากกว่านี้กับแค่ไม่ใช่สเปคมันไม่ใช่เหตุผลที่ดีนักหรอก“ทำไมอะไรของเธอ” แน่นอนฟ้าครามสงสัยไม่น้อยเพราะสำหรับเหตุผลฟ้าครามก็บอกไปหมดแล้วไม่มีอะไรมากไปกว่านี้“หนูอ่อยขนาดนี้แล้วทำไมเฮียครามถึงไม่สนใจหนู”“เด็กกะโปโลอย่างเธอ ให้ตายยังไงฉันก็ไม่มีทางสนใจ”อีกหนึ่งเหตุผลที่ฟ้าครามไม่สนใจแก้มหอมนั่นเพราะยัยเด็กคนนี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กกะโปโล ที่วันๆเอาแต่เล่นสนุก อยากเอาชนะและทำทุกวิถีทางให้ตัวของฟ้าครามสนใจเธอในแบบที่เธอต้องการและอยากให้เป็น“กรี๊ด ! แล้วเราจะได้เห็นดีกันเฮียคราม”แก้มหอมโมโหไม่น้อย เธอเกลียดที่สุดกับคำคำนี้ ในเมื่อเฮียครามว่ากันขนาดนี้หลังจากนี้เธอก็จะทำให้เห็นว่าเธอไม่ใช่เด็กกะโปโลตามแบบที่เขาพูด“เห็นดีอะไรของเธอ” ฟ้าครามถามออกไปเพราะเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าสิ่งที่แก้มหอมพูดออกมามันหมายความว่าอะไร“ตอนแรกก็ตั้งใจจะเลิกอ่อยเลิกยั่วและเลิกยุ่งตามคำพูดแต่ตอนนี้…”“หมายความว่ายังไง”“หนูไม่ใช่เด็กกะโปโลและหนูก็ไม่ชอบให้ใครมาดูถูก” แก้มหอมตอบกลับไปตามตรงที่บอกว่าเกลียดคำคำนี้เพราะเธอ
“แล้วหลังจากนี้ก็เตรียมรับมือกับหนูดีๆเพราะหนูเด็ดกว่าที่เฮียครามคิด” แก้มหอมพูดขึ้นทันทีแก้มหอมมั่นใจว่าเธอมีดีมากกว่านี้และสามารถทำให้ฟ้าครามสนใจได้ เธอยังไม่ได้เอาอะไรมาใช้อีกเยอะ สกิลการอ่อยการยั่วผู้ชายมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับแก้มหอมยิ่งฟ้าครามดูถูกและว่าเธอแบบนี้ มันก็ยิ่งทำให้เธอฮึกเหิมและมีกำลังใจที่อยากจะเอาชนะ พุ่งชนกับฟ้าครามที่ทำตัวขวางโลกเอาแต่พูดว่าเธอมันก็แค่เด็กกะโปโล“ถ้าเธอเด็ดฉันคงสนใจเธอไปแล้ว”“ขนาดไม่เด็ดยังทำของเฮียครามขึ้น หากหนูเด็ดหนูก็มั่นใจว่าเฮียครามคง…”แก้มหอมยกยิ้มและหยุดพูดไปเสียดื้อๆ เธอตั้งใจทำแบบนี้เพื่อให้ฟ้าครามคิดไปต่างๆนานา จินตนาการว่าคำพูดของเธอมันสื่อถึงอะไร“คงอะไร”“คงอดใจที่จะเอาหนูไม่ไหว”“ฝันหรอ”“ฝันไม่ฝันเดี๋ยวก็รู้กันเพราะหนูอยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าของฉายาตัวพ่อวิศวฯจะมีน้ำยามากแค่ไหน”แค่แก้มหอมลูบนิดลูบหน่อย แก่นกายความเป็นชายของฟ้าครามก็ขยายใหญ่เต็มตัวโชว์ลำแข็งๆแล้วแบบนี้จะไม่ให้แก้มหอมคิดเข้าข้างตัวเองได้ยังไงถึงปากบอกไม่สนใจแต่ลึกๆในใจกลับรู้สึกกับการกระทำ มันไม่ยากหรอกหากจะทำให้สนใจและรู้สึกในเรื่องนี้ไปพร้อมๆกัน“คืนนี้ขอตัว
“กูเคยคิดแต่กูก็กลัวว่ามันจะเป็นไปตามเกมของเด็กนั่น”ในตอนนี้แก้มหอมไม่ต่างอะไรกับคนที่กำลังเล่นเกม เล่นเกมเพื่อเอาชนะด่านที่มีตัวของฟ้าครามเป็นอุปสรรค“เป็นแล้วยังไง ในเมื่อมันก็แฟร์”แน่นอนมันแฟร์มาก ในเมื่อแก้มหอมก็ต่างอยากทำให้ฟ้าครามสนใจ หากฟ้าครามจะเล่นกลับก็คงไม่มีอะไรเสียหาย“น้องแก้มหอมอยากให้มึงสนใจ มึงก็สนใจแล้วเล่นด้วยเอาให้หลาบจำไปเลยว่าไม่ควรมาเล่นกับมึง”“กูกลับไปคิดก่อนแล้วกันเพราะสำหรับกูเด็กคนนี้น่ารำคาญฉิบหาย” ฟ้าครามตอบกลับไปตามตรง เขายังคงยืนยันคำเดิมที่เคยพูดไว้ว่าแก้มหอมรวมถึงผู้หญิงคนอื่นล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญ“จะคิดอะไรเยอะแยะ ในเมื่อน้องมันสนใจมึงขนาดนี้”“เพราะสนใจกูขนาดนี้ไง กูจึงไม่ควรทำอะไรกลับไปเพราะอาจจะทำให้อีกคนรู้สึกมากกว่าเดิม”แน่นอนว่าฟ้าครามเป็นห่วงความรู้สึกของยัยเด็กแก้มหอมเพราะตอนนี้ฟ้าครามไม่รู้ว่าความรู้สึกจริงๆของแก้มหอมคืออะไร การจะทำอะไรตอบโต้จึงต้องติดเยอะๆเพราะบางครั้งมันอาจจะมีผลต่อความรู้สึกของแก้มหอมได้“ลองดูเพราะสุดท้าย มึงอาจจะรู้สึกเหมือนที่น้องแก้มหอมรู้สึกกับมึง”“ไม่มีทาง”“เอ้อ ! ไอ้ครามแล้วเมื่อคืนตอนที่น้องแก้มหอมกล
“งั้นเริ่มแผนแรกไม่มีค่าหอที่บ้านมีปัญหาเรื่องเงินทำให้ตอนนี้ไม่มีที่อยู่” จูนพูดขึ้นทันทีเพราะแผนนี้ก็ดูเข้าท่าดีไม่หยอก“แผนแบบนี้เขาจะเชื่อหรอ” แก้มหอมถามกลับไปตามตรงเพราะมันดูออกว่าเป็นเรื่องโกหกและคนอย่างเฮียครามมีหรอที่จะรู้ไม่ทันในเรื่องนี้“ในเมื่อเขาจะเล่นเกมกันแก ต่อให้เชื่อหรือไม่เชื่อถ้าอยากชนะยังไงก็ต้องให้แกไปอยู่ด้วย”สำหรับมะม่วงเธอเชื่อแบบนี้ ถึงขั้นลงเดิมพันต่อให้เชื่อหรือไม่เชื่อหากอยากเอาชนะจริงๆคนอย่างเฮียครามก็คงไม่ปิดโอกาสการทำเกมในครั้งนี้“Game On” แก้มหอมพูดขึ้นทันทีเพราะคำพูดของเพื่อนๆมีเหตุผลและตอนนี้มันก็ถึงเวลาแล้วที่เกมอ่อยครั้งนี้จะเริ่มขึ้น“บีบน้ำตาซะแก้มหอม ฉันจะเปิดประตูแล้ว”“ได้ยัง” หลังจากที่บีบน้ำตาให้ไหลลงบนใบหน้าสวย แก้มหอมก็ไม่รอช้าที่จะถามขึ้นเรียนนิเทศศาสตร์ทั้งที ขึ้นชื่อเรื่องพวกนี้เป็นไหนๆหากบีบน้ำตาไม่ได้หรือแม้แต่โกหกในเรื่องนี้ไม่เนียนก็คงต้องพิจารณาตัวเองเอาเสียหน่อย“ได้แล้ว เริ่มเลยมะม่วง”“ฮึก…ฮือ !”ทันทีเมื่อมะม่วงเปิดประตู แก้มหอมก็ส่งเสียงร้องไห้ทำตัวสะอื้นให้สมจริงประหนึ่งตัวเธอกำลังร้องไห้อยู่ น้ำตาก็ไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย“
“ฉันไม่คิดว่าเฮียครามจะยอมง่ายแบบนี้” แก้มหอมพูดขึ้นเพราะมันผิดคาดมาก เธอคิดว่าเฮียครามจะอะไรมากกว่านี้แต่สุดท้ายกลับยอมเสียดื้อๆ“เพราะพี่ค่ายกระซิบอะดิ” จูนตอบกลับมาทันทีหากพี่ค่ายไม่กระซิบ เธอมั่นใจว่าคนอย่างเฮียครามไม่มีทางยอม ให้ทายพี่ค่ายก็คงกระซิบเกี่ยวกับเรื่องการเดิมพันของพวกเขามันจึงทำให้เฮียครามยอมโดยง่ายดาย“แต่สี่วันมันน้อยเกินไปนะแก้มหอม”แน่นอนว่าสี่วันน้อยมาก เผลอๆสี่วันนี้แก้มหอมเพื่อนสนิทของเธอคงไม่ได้เริ่มอะไรเลย อีกทั้งเกมเดิมพันของพวกเฮียครามก็มีเวลาตั้งสามเดือน“ฉันไม่ยอมย้ายออกหรอก ฉันจะอยู่ยาวๆ” แก้มหอมตอบกลับไปตามตรง ในเมื่อมีโอกาสมีหรอที่แก้มหอมจะไม่คว้าไว้ ถึงตอนนั้นก็ค่อยหาเหตุผลอะไรมาอ้างมาลองรับก็แล้วกัน“แต่แกก็แสดงดีนะแก้มหอม ตีบทแตกมากบอกว่าพ่อแม่โดนโกงแต่ที่ไหนได้ตอนนี้พวกท่านคงนั่งนับเงินเป็นเศรษฐีบ่อกุ้ง”“เพื่อความสมจริงไงแต่ก็เสียดายที่คอนโดของเฮียครามมีสองห้อง”“หยุดเลย แกต้องค่อยเป็นค่อยไปสิ”“ว่าแต่คอนโดเฮียครามอยู่ที่ไหนนะ ฉันไม่ทันได้ฟัง”“คอนโดเอฟเอ็ม”“เดี๋ยวนะ เอฟเอ็มนี่มัน…”“คอนโดหรูย่ายมหาวิทยาลัยที่ฉันอยู่ไงพวกแก”เพราะคอนโดที่เฮียครา
“คนหวงของอย่างไอ้คราม หากไม่รู้สึกอะไรคุณไม่มีทางได้มาเหยียบที่นี่หรอก ทำให้ได้แล้วกันผมรอต้อนรับคุณเป็นพี่สะใภ้” เมฆหมอกพูดออกมาทันทีเพราะส่วนตัวแล้วรู้นิสัยของพี่ชายตัวเองดีแต่ก็ผิดคาดไปหน่อยที่ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แฟนสาวของพี่ชาย“คุณเมฆหมอกกำลังทำให้หนูคิดเข้าข้างตัวเอง” แก้มหอมตอบกลับไปตามตรงเพราะคำพูดของคุณฟ้าครามทำเธอยิ้มหน้าบานไม่เป็นตัวเอง“เรียกพี่เมฆก็พอ เอาเป็นว่าวันนี้พี่ขอตัวก่อนและก็อย่างที่บอกพี่รอต้อนรับเราเป็นพี่สะใภ้”แน่นอนว่าเมฆหมอกมั่นใจไม่น้อยเพราะหากไม่มีความสำคัญหรือไม่สนใจจริงๆน้องแก้มหอมคนนี้ก็คงไม่ได้มาอยู่ที่นี่ ทุกอย่างเกินความคาดหมายของเมฆหมอกมาก“หนูก็หวังว่าหนูจะได้เป็นนะคะ”“ฮ่าๆ พี่ไปก่อนไว้เจอกัน”“กลับดีๆค่ะ ยังไงก็ขอรบกวนอาศัยอยู่ห้องพี่สักระยะ”“ครับ” เมฆหมอกตอบรับไว้เพียงแค่นี้ก็เดินออกไปจากห้อง เหลือเพียงแก้มหอมที่ตรงเข้ามาในห้องนอนที่ถูกเปิดประตูทิ้งไว้ก่อนจะจัดการจัดข้าวของของตัวเอง“จัดของยังไม่เสร็จหรือยังไง” ฟ้าครามที่เดินเข้ามาในคอนโดของตัวเองก็ไม่รอช้าที่ถามขึ้นเพราะเมื่อมองเข้าไปในห้องของน้องชาย เขาก็เห็นว่าแก้มหอมกำลังก้มหน้าก้มตาจัดของโด
“เฮียครามอยากกินอะไรไหม เดี๋ยวหนูทำให้กินถือว่าตอบแทนที่เฮียครามให้หนูมาอยู่ด้วย”ในตอนนี้แก้มหอมเองก็อยากตอบแทนอะไรบ้าง ไหนๆในตอนนี้เธอก็แกล้งทำตัวน่าสงสารแล้ว หากจะตอบแทนผู้มีพระคุณอย่างเฮียครามก็คงไม่แปลกอะไรที่สำคัญแก้มหอมก็มั่นใจในเสน่ห์ปลายจวักของตัวเองไม่น้อย หากได้ทำอาหารให้เฮียครามกินเผลอๆเขาอาจจะติดตามคำโบราณที่เคยว่าไว้ก็ได้ที่ว่า…เสน่ห์ปลายจวักมัดใจชาย“อย่างเธอทำอาหารเป็นหรอ”ฟ้าครามแทบจะไม่เชื่อ เขาไม่คิดเลยว่ายัยเด็กแก้มหอมคนนี้จะทำอาหารเป็นเพราะเจ้าตัวดูแรงๆเป็นคนที่ไม่เหมาะกับอะไรพวกนี้เลยด้วยซ้ำ“เห็นหนูแรดๆแบบนี้แต่งานบ้านงานเรือนหนูไม่เคยขาดนะเฮียคราม คุณสมบัติของหนูพร้อมเป็นสะใภ้สุดๆ”“แต่คงไม่ใช่สำหรับฉัน”สำหรับฟ้าครามการจะหาคนเข้ามาเป็นคู่ชีวิตของเพียงรักกันและเข้าใจกันมันก็พอแล้ว เรื่องงานบ้านงานเรือนรวมถึงการทำอาหารมันไม่ใช่ปัจจัยสำคัญเพราะของพวกนี้จ้างเขาทำและซื้อได้“เฮ้อ ! เฮียครามอยากกินอะไรคะ”“เธอทำแค่ของเธอแล้วกันเพราะฉันไม่หิว”“หรือเฮียครามไม่ไว้ใจหนู”เป็นจริงตามที่แก้มหอมพูดออกมาเพราะฟ้าครามไม่ไว้ใจเลยสักนิด กลัวว่ายัยเด็กแก้มหอมคนนี้จะใส่อะไรที่
“เอาเป็นว่าหนูรู้ทุกอย่างและรู้ด้วยว่าเฮียครามกับเพื่อนๆลงเดิมพันเรื่องหนูเอาไว้” แก้มหอมพูดขึ้นทันทีเพราะในตอนนี้เธอจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ก็ไม่ได้“แก้มหอม” ฟ้าครามได้แต่เอ่ยปากเรียกแก้มหอมด้วยความกังวล เขากลัวไม่น้อยกลัวว่ายัยเด็กแก้มหอมจะรู้สึกแย่กับการที่มารับรู้อะไรแบบนี้“แต่หนูไม่โกรธหรอกค่ะเพราะหนูเองก็ลงเดิมพันไว้กับตัวเอง” แก้มหอมตอบกลับไปเพราะเธอไม่โกรธจริงๆเฮียครามอยากลงเดิมพันอะไรกับเพื่อนก็ตามใจเพราะแก้มหอมก็ลงเดิมพันกับตัวเองว่าตัวเธอสามารถทำให้ผู้ชายอย่างเฮียครามสนใจได้หรือเปล่า“หมายความว่าอะไร”“เฮียครามอยากเอาชนะหนู ส่วนหนูเองก็อยากเอาชนะเฮียครามเช่นกัน หากถามว่าเอาชนะเรื่องไหนก็คงไม่พ้นเรื่องของร่างกายจริงไหมคะ”แน่นอนว่าที่แก้มหอมคิดเป็นแบบนี้เพราะเรื่องร่างกายมันคือที่สุด แก้มหอมไม่ปฏิเสธว่าเธออยากได้เฮียครามอยากให้เฮียครามสนใจเธอ ในตอนนี้เธอจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ความต้องการของเธอสำเร็จ“ไม่”ฟ้าครามปฏิเสธทันควันเพราะเขาไม่ได้คิดอะไรแบบนี้ ถึงจะรู้สึกกับการที่แก้มหอมยั่วแก้มหอมอ่อยแต่ฟ้าครามก็ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย“เฮียครามไม่ได้คิดแบบหนูหรอ”“ฉันแค่ต้องการจะทำ
หลายปีผ่านไป“ไหนแฝดมาหาพี่เฟรชเร็ว” พี่สาวคนสวยอย่างเฟรชพูดขึ้นพร้อมกับกวักมือเรียกน้องชายของตัวเอง“พี่เฟรช ! มาแล้วๆ” สองแฝดพูดขึ้นพร้อมกับพร้อมเผยท่าทางดีใจออกมาจนคนเป็นพี่ยิ้มกว้าง“เย๊ย ! แฝดของพี่เฟรชเก่งมากๆ” อดไม่ได้ที่เฟรชจะเอ่ยชมน้องชายฝาแฝดเพราะเจ้าแฝดพวกนี้เชื่อฟังคนเป็นพี่สาวไปหมดทุกอย่าง“คุณแม่น้อยใจได้ไหมคะ ตอนคุณแม่เรียกก็ไม่ค่อยจะมาหาหรอก” แก้มหอมที่นั่งมองการกระทำของลูกๆก็ได้แต่พูดขึ้นเป็นจริงตามที่เธอพูดออกไป ทุกวันนี้เธอน้อยใจเจ้าแฝดชะมัดเพราะเจ้าแฝดไม่ค่อยจะฟังเธอสักเท่าไหร่ มีอะไรก็พี่สาวของเขาที่เหมือนจะเชื่อฟังและรักกันดี เห็นแบบนี้เธอก็ดีใจอยู่หรอกแต่มันก็อดที่จะน้อยใจลูกไม่ได้ ให้ตายเถอะ !“โอ๋ๆนะคะคุณแม่ เดี๋ยวหลังจากนี้เฟรชจะจัดการสองแฝดให้เอง” ลูกสาวคนสวยที่เห็นใบหน้าสวยของคุณแม่เศร้าลงก็ได้แต่เดินมาหา สองมือเล็กอ้าออกสวมกอดคุณแม่เอาไว้เป็นการให้กำลังใจ“คุณแม่น้อยใจจริงๆ”“แฝดต้องไม่ดื้อรู้ไหม หากคุณแม่เรียกต้องรีบมาเลยนะเข้าใจไหม”สุดท้ายพี่สาวคนสวยก็ต้องหันมาพูดกับสองแฝดเพราะทุกคนในบ้านรู้ดีว่าสองแฝดเชื่อพี่สาวมากกว่าอะไร ทุกครั้งหากมีเรื่องอะไรก็ต้อ
“คุณพ่อขาไหนบอกจะให้เฟรชอุ้มแฝดคนแรก” ลูกสาวคนสวยอย่างเฟรชพูดขึ้นทันทีเพราะตอนนี้คุณพ่อกับคุณแม่กำลังอุ้มแขนอยู่ในอ้อมแขน ต่างกับเด็กน้อยคนนี้ที่อ้อมแขนว่างเปล่า“คุณพ่อขอโทษค่ะคนสวย พี่เฟรชนั่งบนเตียงกับคุณแม่เร็วเดี๋ยวพ่อจะเอาแฝดให้อุ้ม”ลูกสาวคนสวยทำตามคำพูดของคุณพ่ออย่างว่าง่าย ร่างเล็กของเด็กน้อยวัยสามขวบเศษปีนขึ้นมาบนเตียงกว้างของคุณแม่ นั่งด้วยท่าทางเรียบร้อยเพื่อเตรียมอุ้มน้องชายของตัวเอง“อุ้มสองคนได้ไหมคะ”“ไม่ได้ค่ะ พี่เฟรชต้องอุ้มทีละคนไม่งั้นน้องจะตก” แก้มหอมพูดขึ้นเพราะเธอมั่นใจดีว่าลูกสาวของเธออุ้มน้องสองคนในอ้อมแขนไม่ได้“เฟรชไม่อยากให้น้องตกค่ะ” ลูกสาวคนสวยตอบกลับมาตามตรงเพราะหากแฝดตกก็คงเจ็บไม่น้อย คนเป็นพี่อย่างเธอก็คงปวดใจมากๆ“งั้นรับน้องเกรทจากคุณแม่ไปนะคะ”“คนนี้น้องเกรทหรอคะ”“ใช่ค่ะ คนนี้เป็นแฝดพี่หรือน้องชายคนที่หนึ่งน้องของพี่เฟรช”“น้องน่ารักจังเลย แก้มแดงมากๆ” เฟรชพูดขึ้นพร้อมยกยิ้มให้กับน้องชาย ใบหน้าของลูกสาวคนสวยฉายแววความสุขออกมาอย่างปกปิดไม่อยู่ฟ้าครามและแก้มหอมที่กำลังมองอยู่ก็ได้แต่ยกยิ้มกับภาพที่เห็นเพราะภาพนี้เป็นภาพที่มีความสุขมาก“พี่เฟรชหอมน้อ
“สามคนกำลังดีนะแก้มหอม” ฟ้าครามพูดขึ้นเพราะฟ้าครามอยากมีลูกสามคน ในจำนวนสามคนฟ้าครามคิดว่าเป็นจำนวนที่พอดีและเหมาะที่สุด“เฮียครามจะมีน้ำยาหรือเปล่า”แก้มหอมสงสัยเป็นอย่างมาก การมีลูกคงไม่ใช่เรื่องง่ายและมีถึงสามคนก็คงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ“ฉันมีแน่แต่เธอจะไหวไหมหากฉันจะมีสามคนจริงๆ”“ถามได้ไหมคะทำไมถึงอยากมีสามคน”ในตอนนี้แก้มหอมอยากรู้เหตุผลเพราะแก้มหอมไม่คิดว่าฟ้าครามจะอยากมีจำนวนที่เยอะแบบนี้ ในใจคิดว่าคงแค่สองเพราะฟ้าครามก็มีพี่น้องแค่สองคนหากรวมตัวเอง“เพราะฉันมีน้องชายแค่คนเดียวคือไอ้เมฆ เวลาทะเลาะกันก็ไม่มีคนกลางเลยอยากให้มีคนกลางไว้ห้าม”“ส่วนหนูเป็นลูกคนเดียว บางครั้งก็เหงาเลยอยากมีลูกสองคนไว้เป็นเพื่อนกันเวลาใช้ชีวิตและทำอะไร”แน่นอนว่าฟ้าครามเริ่มคิดมากกับคำพูดของแก้มหอมเพราะตัวเขากับแก้มหอมดันคิดไม่เหมือนกันและหากแก้มหอมยืนยันอยากจะมีแค่สองคน ยังไงฟ้าครามก็ต้องจำยอมเพราะแก้มหอมคือคนที่อุ้มท้อง คือคนที่ต้องเสียสละร่างกายและอะไรหลายๆอย่าง ฟ้าครามไม่กล้าเห็นแก่ตัวอยากจะมีลูกมากมายโดยไม่สนใจความคิดของแก้มหอมหรอกนะ“แค่สองคนหรอ”“หนูอยากมีแค่สองคนนะแต่ในเมื่อเฮียครามอยากมีสาม ไว้
“แต่เฮียครามไม่มีของที่อยากได้จริงๆหรอคะ” แก้มหอมถามขึ้นเธออยากซื้อของขวัญแสดงความยินดีให้กับคนรักแต่เธอเพียงไม่รู้จะซื้ออะไรเพราะเฮียครามมีครบทุกอย่าง เธอเลยเลือกที่จะถามออกไป“อยากได้เธอ ถึงตอนนั้นเธอตามใจฉันได้หรือเปล่า “ฟ้าครามตอบกลับมาตามตรงเพราะของขวัญชิ้นเดียวที่ตัวเขาอยากได้ก็คงไม่พ้นแก้มหอม“หนูไม่เคยตามใจเฮียครามด้วยหรอ หากเฮียครามอยากได้หนู มีหรอที่หนูจะขัด”เป็นจริงตามที่แก้มหอมพูดเพราะเมื่อไหร่ที่ฟ้าครามอยาก แก้มหอมไม่เคยขัดได้เลยเพียงฟ้าครามจับนิดลูบหน่อยแก้มหอมก็เคลิบเคลิ้มไปกับทุกๆ สัมผัส“ก็ไม่”“เรื่องแบบนี้ไม่เห็นต้องถามเลย”“เธอว่าหากเราย้ายจากคอนโดไปอยู่บ้านมันจะดีกว่านี้ไหม” เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาฟ้าครามคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้วแต่ก็พึ่งมีโอกาสที่จะถามแก้มหอมในตอนนี้“บ้านไหนคะ บ้านเฮียครามหรอ” แก้มหอมถามกลับไปเพราะคงไม่มีบ้านไหนได้อีกแล้วนอกจากบ้านของเฮียครามหากเป็นบ้านของเธอก็คงไม่ใช่เพราะอยู่ภาคใต้ของประเทศค่อนข้างห่างไกลเมืองหลวงอย่างกรุงเทพพอสมควร“ไม่หรอกแต่เป็นบ้านของเราสองคน”“เฮียคราม” แก้มหอมตกใจไม่น้อยกับคำพูดที่ได้ยิน หากเฮียครามพูดว่าบ้านของเราสองคน
“เข้าใจแล้วครับแต่ยังไงผมก็จะจัดมาให้เหมาะสม” ฟ้าครามพูดขึ้นเพราะเรื่องสินสอดหากไม่มีฟ้าครามก็ไม่ยอม ฟ้าครามอยากให้เกียรติแก้มหอมและครอบครัวในส่วนนี้ิ“เฮ้อ ! คุยกันเหมือนจะแต่งเร็วๆนี้ หนูยังเรียนไม่จบนะ” แก้มหอมพูดขึ้นเพราะเรื่องแต่งงานคงใช้เวลาอีกสักพักแต่คุณพ่อคุณแม่ของเธอดันคุยกันราวกับว่าจะแต่งเร็วๆนี้“เรียนไม่จบแล้วแต่งก่อนไม่ได้หรือยังไง”ฟ้าครามคงไม่รอถึงสามปีหรอก เขาคิดไว้แล้วว่าหากคุณพ่อคุณแม่ของแก้มหอมอนุญาต เขาก็จะไม่รอช้าที่จะไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ให้มาสู่ขอและจัดงานให้เร็วที่สุด“อยากแต่งก็ให้คุณพ่อคุณแม่มาขอนะเฮียคราม”“เร็วๆนี้แน่นอน” ฟ้าครามตอบกลับไปตามตรงเพราะมันคงไม่นานเกินรอ ฟ้าครามอยากเป็นเจ้าของแก้มหอมเต็มตัวแล้วถึงตอนนี้จะมีสถานะคำว่าแฟนแต่มันเทียบไม่ได้เลยหากฟ้าครามกับแก้มหอมได้เป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย“พ่อลูกเขยมาคุยกับแม่ทีตะ” คุณแม่เมื่อเห็นว่าจบเรื่องแล้วก็ได้แต่ชวนลูกเขยอย่างฟ้าครามมาคุยนอกบ้านเพราะเธอมีเรื่องจะคุยกับลูกเขยคนนี้เป็นการส่วนตัว“อิคุยไอ้ไหร คุยตรงนี้แหละ” คุณพ่อที่ไม่เห็นด้วยก็ได้แต่ห้ามปรามเพราะเขาอยากรู้ว่าภรรยาผู้เป็นที่รักจะคุยอ
“ลงมาสักที รู้มั้งม้ายว่านั่งรอนานจังแล้ว”เมื่อเห็นฟ้าครามลงมา คุณพ่อก็ไม่รอช้าพูดขึ้นเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนในห้องนอนลูกสาวทำตัวของเขานอนไม่หลับ อยากจะไปเคาะประตูห้องให้รู้แล้วรู้รอด“เอ่อ…คุณพ่อมีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ” ฟ้าครามถามกลับไปเพราะตื่นเช้ามา มีคุณพ่อมานั่งรอพูดคุยแบบนี้เขาเองก็กังวลไม่น้อย“ทำไอ้ไหรไว้ยังอิถามเหลยเหอ”“ใจเย็นๆตะพี่ อิทำไหรคิดถึงสาวนุ้ยมั้ง” คุณแม่ได้แต่เดินเข้ามาห้ามปราม มือเล็กลูบแขนแกร่งของสามีเพื่อหวังให้ใจเย็นลงมากกว่านี้“เพราะคิดถึงสาวนุ้ยนี่แหละ พี่ถึงอิแหลงกับมัน” คุณพ่อตอบกลับมาตามตรงเพราะเขาคิดถึงและนึกถึงลูกสาวมากเลยอยากจะคุยเรื่องนี้ไม่รู้แล้วรู้รอด“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณพ่อ”“มาๆ ตามมาคุยนอกบ้าน”คุณพ่อรู้ดีว่าตัวเขาคงเสียงดังเพราะฉะนั้นแล้วควรออกไปคุยข้างนอกคงจะดีที่สุดเพราะกลัวว่าลูกสาวจะตื่นหากได้ยินเสียงโวยวายของตัวเอง“คะ…ครับ”“รู้มั้งม้ายว่าแรกคืนทำไอ้ไหร”“เอ่อ…คือว่า”แน่นอนว่าฟ้าครามอั้มอึ้งไม่รู้จะตอบอะไรออกไป การที่คุณพ่อถามแบบนี้ฟ้าครามมั่นใจว่าเสียงการกระทำต่างๆของเมื่อคืนคงเล็ดลอดออกมา“ลูกผู้ชายทำแล้วต้องกล้ารับ”“ผ
“อยู่นี่แล้วทำไมโดนตัวนิดหน่อยไม่ได้ ปกติเธอแทบจะคลานเข้ามาหาฉัน” ฟ้าครามถามขึ้นพร้อมกับเริ่มใช้มือลูบไล้ไปตามร่างกายสวย ใบหน้าหล่อก้มลงคลอเคลียกับลำคอขาวเพื่อสูดดมความหอม“ก็ที่นี่บ้านหนู ทำอะไรก็เกรงใจพ่อกับแม่” แก้มหอมตอบกลับไปตามตรงเพราะห้องของเธอไม่เก็บเสียง จะทำอะไรก็เกรงใจคุณพ่อคุณแม่กลัวว่าจะได้ยิน“ไม่เสียงดังหรอกน่า”“แต่หนูจะเสียงดัง”เพราะแก้มหอมรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่สามารถเก็บเสียงของตัวเองไว้ได้ เฮียครามไม่ใช่คนปรานีในเรื่องเซ็กซ์ หากได้ทำหรือได้กระแทกก็จะใส่สุดเต็มแรงจนเธอแทบจะตายทุกครั้ง“ฉันอยาก”“ไม่เอาหน่าเฮียคราม” แก้มหอมได้แต่เอ่ยห้ามปรามเพราะสถานที่มันไม่เหมาะ รู้ดีว่าเธอกับเฮียครามห่างหายเรื่องพวกนี้มาหลายวันแล้วแต่จะทำยังไงได้ในเมื่อสถานที่มันไม่อำนวย“ให้รางวัลผัวหน่อยไม่ได้หรือยังไง อุตส่าห์เอาชนะใจคุณพ่อตาได้เลยนะ”“ห้องไม่เก็บเสียง “” เธอก็กลั้นเสียงเอาไว้สิ”“กลั้นไม่ได้หรอก เฮียครามกระแทกใส่แต่ละครั้งแรงจะตายไป”คำพูดของแก้มหอมเพิ่มอารมณ์ความอยากให้ฟ้าครามได้อย่างดี ใครจะคิดว่าเพียงคำพูดประโยคเดียวจะทำให้ฟ้าครามรู้สึกไม่เป็นตัวเองแบบนี้“เธอกำลังทำให้ฉันอด
“คุณพ่ออยากให้ผมพิสูจน์ตัวเองไม่ใช่หรอครับ” ฟ้าครามถามขึ้นเพราะที่ทำอยู่ในตอนนี้ก็เพราะพิสูจน์ตัวเองให้คุณพ่อเห็นและมั่นใจในตัวเขา“เห็นแล้ว”แน่นอนว่าคุณพ่อเห็นและรับรู้ทุกอย่าง ทุกความคิดที่เคยคิดเกี่ยวกับคนกรุงเทพมันหายไปหมดเมื่อได้เจอคนรักของลูกสาวเพราะผู้ชายคนนี้มีแต่ความจริงใจและจริงจังกับทุกอย่าง“เห็นแล้วแล้วเป็นยังไงบ้างครับ พอเปิดใจให้ผมได้ยัง”“ถ้าไม่เปิดใจอิได้เรียกว่าคุณพ่อเหอ”“ขอบคุณครับคุณพ่อ”ใบหน้าหล่อยกยิ้มออกมาด้วยความดีใจเพราะฟ้าครามเองก็ทำทุกอย่างเพื่อคำคำนี้ คำว่าเปิดใจที่คุณพ่อพูดออกมา ตอนนี้ฟ้าครามเหมือนยกภูเขาออกจากอก ความกลัวและความกังวลที่มีอยู่ในใจมลายหายสิ้น“บ่อแรกสูบน้ำเหม็ดแล้วพร้อมลงบ่อยัง”“พร้อมครับ” ฟ้าครามตอบกลับไปตามตรงเพราะเขาพร้อมจริงๆ อันที่จริงมันก็เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดีไม่น้อยและฟ้าครามก็พร้อมจะเรียนรู้ทุกอย่าง“คุณพ่อจะไม่ลงกับผมจริงๆหรอครับ”“ไม่ลง”“อะ…อ้าว แล้วผมลงกับใครครับ”“คนงานจังหู้เหม็ด เขาก็ลงกันลุย”“เข้าใจแล้วครับแล้วแต่เธอไม่ลงกับฉันจริงๆหรอแก้มหอม”สุดท้ายฟ้าครามก็หันหน้ากลับมาถามแก้มหอมเพราะคุณพ่อไม่ลงแล้ว เขาเองก็อยากมีแก้
“แก้มหอมตื่นได้แล้ว เด็กดีของฉันตื่นได้แล้วนะ” ฟ้าครามที่ถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องนอนของแก้มหอมก็เขย่าตัวอีกคนเบาๆ“อื้อ…เฮียครามทำไมรีบปลุกหนูจัง” แก้มหอมงัวเงียขึ้นมาพร้อมกับบิดขี้เกียจทำเอาฟ้าครามถึงกับยกยิ้มกับความน่าเอ็นดู“คนเต็มบ้านเธอแล้ว ฉันต้องรีบตื่นไปช่วยงานพ่อเธอ”“ให้ตายสิ ! หนูลืมเลยเดี๋ยวหนูเปลี่ยนชุดก่อนนะ” แก้มหอมพูดขึ้นพร้อมกับดีดตัวขึ้นจากเตียงเธอลืมไปสนิทเลยว่าวันนี้ที่บ้านจับกุ้งต้องตื่นเช้า ให้ตายสิ ! ตอนนี้ที่บ้านคงวุ่นวายพอตัว“แล้วฉันใส่ชุดนี้ได้ไหม”“ไม่ได้เลยเฮียคราม”เป็นจริงตามที่แก้มหอมพูดออกมาเพราะชุดกับเฮียครามติดแบรนด์เนมและราคาไม่ใช่เล่นๆ หากเลอะโคลนก็คงน่าเสียดายไม่น้อย“ทำไมล่ะ ฉันว่ามันโอเคนะ”“ลงโคลนนะเฮียคราม เสื้อแบรนด์หรูขนาดนี้โดนโคลนคงเสียดายแย่”“แล้วให้ฉันใส่ชุดอะไร ฉันไม่มีเสื้อผ้าอื่นๆหรอกนะ”เสื้อผ้าของฟ้าครามก็มีแค่นี้และมีแต่แบบนี้ หากไม่ให้เขาใส่เสื้อผ้าตัวเองเขาจะใส่อะไรได้อีกเพราะฟ้าครามไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าธรรมดามาเลยเอาจริงๆมันก็ธรรมดานั่นแหละ เป็นเสื้อผ้าที่ฟ้าครามใส่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว“เสื้อผ้าพ่อหนู เดี๋ยวหนูไปหามาให้”“