แชร์

บทที่ 0306

ผู้เขียน: อันอี่หราน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-31 18:00:00
วันที่ซ่งชิงเหยียนออกจากวัง ในวังก็เกิดเรื่องขึ้น

องค์หญิงใหญ่ที่ไม่ได้เข้าวังมาเป็นเวลานาน ก็ได้เข้าวังในวันนี้ และบังเอิญคลาดกับรถม้าของซ่งชิงเหยียนที่อยู่นอกประตูวังพอดี

เรื่องแรกที่เข้าวัง ก็คือมุ่งตรงไปยังตําหนักหรงเล่อ

“เสด็จย่า” ลู่ซิงรั่วโผเข้าสู่อ้อมกอดของไทเฮาด้วยความดีใจ “ซิงรั่วไม่ได้พบท่านนานแล้วเพคะ”

ทําให้แม่นมซุนที่อยู่ข้างๆ ตกใจ รีบเข้าไปประคององค์หญิงใหญ่ “โอ๊ย องค์หญิงเพคะ ตอนนี้พระองค์ก็ตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว ต้องระวังหน่อยถึงจะได้นะเพคะ”

ไทเฮาได้ยินเช่นนั้นก็รีบดึงร่างของลู่ซิงรั่วให้ตรง “เป็นอย่างไรบ้าง? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”

องค์หญิงใหญ่กลับเอนกายพิงอกของไทเฮาไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่เป็นไรเพคะเสด็จย่า ซิงรั่วย่อมรู้จักหนักเบาเพคะ”

“ทําไมวันนี้ถึงมีเวลาเข้าวังล่ะ” ไทเฮาเห็นว่านางไม่เป็นอะไร ก็ช่วยรวบผมที่ข้างขมับให้นางเบาๆ ยิ้มพลางพูดว่า “ไม่ได้เจอเจ้าครึ่งเดือนแล้ว”

“หลายวันมานี้แค่รู้สึกว่าร่างกายค่อนข้างหนัก ก็เลยเลี้ยงร่างกายอยู่ที่บ้านน่ะเพคะ” ลู่ซิงรั่วพูดเบาๆ และปลอบโยนไทเฮาอีกครั้ง "เสด็จย่าโปรดวางใจ ตอนนี้หม่อมฉันดีขึ้นมากแล้วเพคะ"

"ดีจริงๆ เหรอ จะให
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0307

    หลายวันก่อนหลังจากที่องค์หญิงห้าได้รับการสั่งสอนจากเสด็จแม่ของตนแล้ว ก็มีความซื่อสัตย์มากขึ้นมากแล้ว เพียงเข้าไปทักทายอย่างนอบน้อม “พี่หญิงใหญ่เพคะ”องค์หญิงหกก็ทําความเคารพอยู่ข้างๆ อย่างไม่เต็มใจ “พี่หญิงใหญ่เพคะ”ลู่ซิงรั่วไม่มีทางคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กน้อยเหล่านี้อยู่แล้ว เพียงแค่ยิ้มพลางพูดว่า “ตอนนี้พวกเจ้าสองคนรู้ความมากขึ้นแล้ว รีบไปทําความเคารพเสด็จย่าเถอะ ข้าจะออกจากวังแล้ว”เมื่อก่อนตอนอยู่ในวังองค์หญิงใหญ่ดูแลน้องชายน้องสาวเหล่านี้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด เมื่อเห็นนางกําลังจะออกจากวัง ลู่ซิงยุ่นก็ดูเหมือนอาลัยอาวรณ์ไม่น้อย “พี่หญิงใหญ่จะออกจากวังแล้ว”“อืม” ลู่ซิงรั่วก้าวไปข้างหน้าและลูบหัวนาง “รีบกลับไปหาเสด็จย่าพร้อมกับซิงซิงเถอะ”พูดจบก็หันหลังเดินออกไปนอกวังและด้านหลังของนาง ลู่ซิงหุยมองลู่ซิงรั่วด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด ลู่ซิงยุ่นหันกลับมาเห็นสีหน้าขององค์หญิงหก จึงรีบดึงนาง “น้องหก”ลู่ซิงหุยกลับมีความคิดบางอย่างในใจ และไม่ได้พูดกับลู่ซิงยุ่นมากนัก “ท่านไปที่ตำหนักของเสด็จย่าเองเถอะ ข้ายังมีธุระ”พูดจบก็มุ่งหน้าไปตําหนักฉางชิวโดยไม่หันกลับมามองลู่ซิงยุ่นถอนหายใจและม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-01
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0308

    เวินชุนได้ยินเสียงฝีเท้าก็เงยหน้าขึ้นอย่างตื่นตระหนก เมื่อเห็นว่าเป็นองค์รัชทายาท ก็ราวกับคว้าฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ รีบก้าวไปข้างหน้าแล้วคุกเข่าคลานไปก้าวหนึ่ง “องค์รัชทายาท...องค์รัชทายาทเพคะ"ลู่จิ่นเหยาไม่สนใจจะพูดอะไรมาก รีบก้าวไปข้างหน้า อุ้มลู่ซิงรั่วที่ยังนอนอยู่บนพื้นขึ้นมา แล้วหันหลังเดินไปที่ตําหนักซิงหยางแม้ว่าฝีเท้าจะเร็ว แต่ก็ไม่มีความตื่นตระหนกแม้แต่น้อยแต่องค์รัชทายาทจะไม่ตื่นตระหนกได้อย่างไร? แค่พยายามทําให้ตัวเองมั่นคงเท่านั้น“จงผิง ไปเชิญหมอหลวง” หลังจากลู่จิ่นเหยาหันหลังไป เขาก็ออกคําสั่งกับจงผิง“พ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท” จงผิงวิ่งเหยาะๆ ไปยังสำนักหมอหลวงทันทีในขณะที่องค์รัชทายาทอุ้มองค์หญิงใหญ่ขึ้นมา เวินชุนก็ลุกขึ้นจากพื้นและเดินตามหลังองค์หญิงใหญ่อย่างระมัดระวังเวินชุนติดตามอยู่ข้างกายองค์หญิงใหญ่ตั้งแต่เล็ก เป็นสาวใช้ที่ไว้ใจได้มากที่สุด ก่อนออกจากบ้านวันนี้นางยังขอร้ององค์หญิงครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้อายุครรภ์ก็มากแล้ว ออกไปข้างนอกต้องพาคนไปด้วยหลายคน แต่องค์หญิงใหญ่เป็นคนที่เคยชินกับความเป็นอิสระมาโดยตลอด เวินชุนจึงยอมตามใจนางไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-02
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0309

    “พ่ะย่ะค่ะ” จงผิงรับพระบัญชาขององค์รัชทายาท จึงคิดจะหันหลังจากไป แต่พอนึกถึงคําเตือนของพระสนมหวงกุ้ยเฟยที่กําชับไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ก็หันตัวกลับไปอีก “พระองค์มิสู้ไปหากององครักษ์ลับสักองค์หนึ่ง จะได้เร็วหน่อยพ่ะย่ะค่ะ”“ก็ดี”การที่องค์หญิงใหญ่หกล้มในวังไม่ใช่เรื่องเล็ก เรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่ววังอย่างรวดเร็วตําหนักซิงหยางอยู่ใกล้กับตำหนักหลงเซิงของฮ่องเต้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ใส่ใจองค์หญิงใหญ่ผู้เป็นบุตรสาวคนนี้มาก เมื่อได้ยินข่าวนี้เขาก็วางฎีกาทั้งหมดในมือลง แล้วมุ่งตรงไปที่ตําหนักซิงหยางทันทีในเวลานี้ลู่ซิงรั่วได้ดื่มยาโดยเวินชุนและนอนลงหลับไปแล้ว“ซิงรั่วเป็นอย่างไรบ้าง?” ฮ่องเต้ต้าฉู่มาถึงก่อนเสียงรัชทายาทรีบรับคําพลางมองไป “เสด็จพ่อ ซิงรั่วได้พักผ่อนแล้ว”ฮ่องเต้ต้าฉู่ลดเสียงลง “เป็นอย่างไรบ้าง?”หมอจ้าวที่อยู่ข้างๆ กําลังรีบก้าวไปข้างหน้า “กราบทูลฝ่าบาท หลายวันก่อนองค์หญิงใหญ่ดูเหมือนจะรักษาครรภ์ไม่มั่นคงมาระยะหนึ่งแล้ว วันนี้ก็ล้มลงบนพื้นอีก ครรภ์นี้...”นิสัยของฮ่องเต้ต้าฉู่กลับไม่อ่อนโยนเหมือนองค์รัชทายาท เขารู้ดีว่าซิงรั่วตั้งครรภ์ครั้งนี้ไม่ง่าย จึงโกรธขึ้นมาทันที “พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0310

    ทันใดนั้น ลู่ซิงหุยก็ได้ยินเสียงฝีเท้ามากมายเข้ามาใกล้ประตูตําหนัก“องค์รัชทายาท องค์หญิงหกกําลังพักผ่อนอยู่เพคะ” ลู่ซิงหุยได้ยินเสียงของสาวใช้ข้างกายเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังขึ้น ลู่ซิงหุยได้ยินเสียงประตูตําหนักเปิดออกอีกครั้งร่างที่ขดตัวอยู่ในผ้าห่มของนางถอยหลังไปหลายก้าว ราวกับไม่กล้าเผชิญหน้ากับคนที่มานางกลัว นางกลัวมากเมื่อครู่นางแค่รู้สึกหัวร้อนขึ้นมาจริงๆ นึกถึงว่าพี่หญิงใหญ่ได้รับความรักจากเสด็จพ่อ และหลังจากที่เสด็จแม่สิ้นพระชนม์แล้ว เสด็จพ่อก็ไม่เคยสนใจตนเองอีกเลยนึกถึงว่าตอนนี้พระสนมหวงกุ้ยเฟยมีฐานะสูงส่ง นางวางยาพิษลู่ซิงหว่านไม่สําเร็จและถูกกักบริเวณอยู่หลายวัน ตอนนี้ในเมื่อพี่หญิงใหญ่เข้าวังแล้ว นางก็ต้องให้คนเหล่านี้รู้ถึงความร้ายกาจของนางนางจึงวิ่งกลับไปที่ตําหนักฉางชิว อุ้มแมวที่เสด็จแม่เลี้ยงไว้ตอนยังมีชีวิตอยู่ออกมานางรู้ว่าพี่สาวคนโตกลัวแมวมากที่สุดแต่นางไม่อยากทําร้ายลูกของพี่สาวคนโต“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” ลู่ซิงหุยพยายามปลอบใจตัวเอง “ลูกของพี่หญิงใหญ่อาจจะไม่เป็นไร อาจจะแค่หกล้มเบาๆ เท่านั้น”แต่สีหน้าเจ็บปวดของลู่ซิงรั่วกลับแวบเข้ามาในหัวไม่หยุดในเวลา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0311

    เจิ้งจงมาพูดก็คือเรื่องที่องค์หญิงใหญ่ถูกแมวตกใจจนล้มที่หน้าประตูวัง ตอนนี้ทารกในครรภ์ไม่มั่นคงกําลัรักษาครรภ์ที่ตําหนักซิงหยางอยู่เมื่อนึกถึงท่าทางตื่นตระหนกของลู่ซิงหุย ลู่จิ่นเฉินก็ยืนยันได้ว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับลู่ซิงหุยแน่นอน“ไม่ ไม่ พี่หญิงใหญ่หกล้มเอง” ลู่ซิงกลัวมากและรีบปฏิเสธแต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นเพียงเด็กอายุห้าหกขวบเท่านั้น ไหนเลยจะทนต่อการข่มขู่ขององค์ชายสามได้ เพียงประโยคเดียวก็สารภาพไปซะแล้ว“ข้าบอกเมื่อไหร่ว่าเจ้าหญิงใหญ่หกล้ม” เมื่อองค์ชายสามได้ยินเช่นนี้ เขาก็มองไปที่ลู่ซิงหุยอย่างเยือกเย็นลู่ซิงหุยปิดปากตัวเองทันที ไม่กล้าพูดอะไรอีกองค์ชายสามคร้านที่จะพูดอะไรอีก สะบัดแขนเสื้อจากไปลู่ซิงหุยถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อครู่นางกลัวมากจริงๆ กลัวว่าพี่สามจะตีตัวเองจนตายจริงๆแต่สิ่งที่นางคาดไม่ถึงก็คือ ต่อไปยังมีสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่ารอนางอยู่องค์ชายสามเมื่อออกมาก็กลับตําหนัก แต่คิดไปคิดมาก็ออกคําสั่งกับเจิ้งจงที่อยู่ข้างกายสองสามประโยค พอได้รับคําสั่งเจิ้งจงก็รีบวิ่งเหยาะๆ จากไปส่วนองค์ชายสามก็ชะงักเท้า หันหลังกลับไปยังตําหนักซิงหยางเมื่อองค์ชายส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0312

    แม้ว่าฉยงหัวจะไม่ชอบคนอย่างองค์ชายสาม แต่ก็ไม่สร้างปัญหาให้พระสนมหวงกุ้ยเฟยแน่นอนนางทําความเคารพอย่างเรียบร้อย พลางยิ้มกล่าวว่า “ทูลองค์ชายสาม บ่าวเป็นหมอหญิงของตําหนักชิงอวิ๋นเพคะ”ไม่รอให้องค์ชายสามตอบ ฉยงหัวก็มององค์รัชทายาทอีกครั้ง “องค์รัชทายาท ตอนนี้องค์หญิงใหญ่ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว บ่าวขอตัวกลับตําหนักชิงอวิ๋นก่อนนะเพคะ”องค์รัชทายาทย่อมรับคําด้วยรอยยิ้มแต่องค์ชายสามกลับมองแผ่นหลังของฉยงหัวที่จากไป มุมปากเผยรอยยิ้มออกมา “คิดไม่ถึงว่าตําหนักของพระสนมเฉินจะมีหมอหญิงที่เก่งกาจเช่นนี้”รัชทายาทไม่ตอบคําถามเขา เพียงถามกลับว่า “น้องสามรู้เรื่องที่ซิงรั่วได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร?”เรื่องนี้ไม่ได้แพร่งพรายออกไป เพื่อไม่ให้ไทเฮารับรู้จึงจงใจปกปิดเรื่องอีก แต่องค์ชายสามกลับรู้เรื่อง ย่อมได้แต่รู้จากซิงหุยเท่านั้นองค์ชายสามย่อมไม่ยอมรับอยู่แล้ว “เป็นสาวใช้ที่รับใช้ข้างกายข้า นางเดินผ่านมาจากทางด้านนั้น เลยพบเสด็จพี่กำลังพาพี่หญิงใหญ่กลับวังพอดีพ่ะย่ะค่ะ”องค์รัชทายาทพยักหน้าและไม่ถามอะไรอีกทางด้านฮ่องเต้ต้าฉู่กลับตําหนักหลงเฉิงแล้ว แน่นอนว่าไม่ได้อยู่ว่าง เขาสั่งให้องครักษ์เงามัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0313

    “พวกเจ้าสองพี่น้องกตัญญูเสียเหลือเกินนะ” ฮ่องเต้ต้าฉู่ก้าวฉับๆ เดินเข้ามา สายตาคมกริบราวกับใบมีด ทําให้ผู้คนไม่กล้ามองตรงๆฮ่องเต้ต้าฉู่กลับมองพวกเขาอย่างไม่ไยดี เดินไปนั่งลงข้างไทเฮา เห็นสายตาร้อนรนของไทเฮา ก็รีบปลอบใจว่า “เสด็จแม่วางใจ หมอหญิงในตำหนักของชิงเหยียนเก่งกาจมาก ตอนนี้ฝังเข็มให้ซิงรั่วแล้ว นางไม่เป็นไรแล้วพ่ะย่ะค่ะ”"จริงเหรอ? เจ้าอย่าโกหกข้านะ” ไทเฮารู้ว่าคนเหล่านี้จะต้องปิดบังตนอย่างแน่นอน "ข้าต้องไปดูซิงรั่วที่ตําหนักซิงหยางหน่อยถึงจะได้"ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับยิ้มพลางดึงไทเฮาไว้ “เสด็จแม่ กระหม่อมพูดความจริงพ่ะย่ะค่ะ จิ่นเหยาเพิ่งออกจากตำหนักหลงเซิง บอกว่าหากพักฟื้นสามวันก็จะหายเป็นปกติพ่ะย่ะค่ะ”“ตอนนี้ทางจิ่นเหยาเตรียมรถม้าส่งซิงรั่วกลับจวนแล้ว”ไทเฮาได้ยินเช่นนั้นก็ไม่พอใจ “ทําไมต้องกลับจวนด้วย? พักฟื้นที่ตำหนักสามวันไม่ได้หรือไงกัน?“เป็นซิงรั่วที่ยืนกรานจะกลับไป” ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับส่ายหน้าอย่างจนใจ “เสด็จแม่ก็รู้นิสัยของเด็กคนนั้นดี จิ่นเหยาจะเถียงนางได้อย่างไรกันล่ะพ่ะย่ะค่ะ ได้แต่ปูรถม้าให้ดี แล้วหาคนขับรถม้าที่มีฝีมือเพื่อขับส่งนางกลับไป”“ก็ดี” ไทเฮาพยักหน้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-04
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0314

    ฮ่องเต้ต้าฉู่เห็นสายตาที่ไร้เดียงสาของนาง ในใจก็ยิ่งรังเกียจมากยิ่งขึ้นเขาไม่อยากมองนางอีก หันกลับไปมองไทเฮาที่อยู่ข้างกาย น้ำเสียงอ่อนโยนลง “เสด็จแม่ ซิงหุยดื้อรั้นเกเรมาตลอด ตอนนี้แม่ของนางก็ไม่อยู่แล้วไม่มีคนอบรมสั่งสอน ขอเสด็จแม่โปรดใส่ใจด้วยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อลู่ซิงได้ยินคําพูดของฮ่องเต้ต้าฉู่ หัวใจของนางก็แตกสลายเป็นสองท่อน แต่นางไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่ภาวนาให้เสด็จย่าไม่รับปาก“ก็ดี” คําพูดที่ไทเฮาพูดออกมาทําให้ลู่ซิงหุยผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง “ซิงหุยยังเด็กอยู่ ไม่มีคนดูแลย่อมไม่ได้”“เสด็จแม่ก็ไม่จําเป็นต้องเปลืองความคิดกับนางมากนัก” ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับไม่สนใจแม้แต่น้อย “ยังต้องดูแลร่างกายของตัวเองก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ”แล้วหันไปมองลู่ซิงหุยที่คุกเข่าอยู่บนพื้น “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าไปคัดลอกพระคัมภีร์ที่ตําหนักเหยียนหัววันละสองชั่วยาม ถือว่าเป็นการขอพรภาวนาให้ลูกในท้องของพี่สาวเจ้า”สองชั่วยาม? เสด็จพ่อเสียสติไปแล้วหรือ?ลู่ซิงหุยกําลังจะเอ่ยปากโต้แย้ง กลับถูกองค์ชายสามที่คุกเข่าอยู่ด้านข้างดึงชายเสื้อไว้ลู่ซิงหันหน้ากลับไปมอง กลับเห็นพี่สามกําลังขมวดคิ้วและส่ายหัวให้นาง ดวงตา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-04

บทล่าสุด

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0640

    พูดถึงตรงนี้องครักษ์เงามังกรก็ถอนหายใจ “เพียงแต่อีกฝ่ายล้วนเป็นนักรบที่ตายแล้ว ไม่ได้เหลือผู้รอดชีวิตไว้”[แม่เจ้าโว้ย ทหารพลีชีพหนึ่งร้อยคน นี่มันฐานะอะไรเนี่ย][ดูเหมือนว่าชีวิตของเสด็จพ่อมีค่ามากจริงๆ สามารถทําให้อีกฝ่ายส่งทหารพลีชีพได้หนึ่งร้อยคน]เรื่องนี้เป็นไปตามที่คาดไว้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมไม่ตําหนิองครักษ์เงามังกร จึงออกคําสั่งให้คนขับรถม้าเดินทางต่อไป ต้องไปถึงสถานที่ปลอดภัยถึงจะดําเนินการต่อได้ภายในรถม้าก็เงียบกริบเช่นกันในที่สุดสนมเยว่กุ้ยเหรินก็ลองเอ่ยปาก “ฝ่า...นายท่าน ฮูหยิน คือว่า...”ซ่งชิงเหยียนเหมือนเพิ่งนึกถึงสนมเยว่กุ้ยเหรินที่ขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ดึงนางขึ้นมา “วางใจเถอะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ มิน่าเล่าสนมเยว่กุ้ยเหรินถึงอยู่ในวังมาเจ็ดแปดปีก็ไม่มีทายาทสักคน เกรงว่าโอกาสที่ฝ่าบาทจะโปรดปรานนางก็มีน้อยมากในรถม้าคันเดียวมีกันแค่สี่คน ตัวเองยังสามารถลืมนางได้อย่างสนิทใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็จัดเสื้อผ้าให้ตนเอง แล้วอุ้มลู่ซิงหว่านเข้ามาในอ้อมกอดของตน หยอกล้อนางว่า “หวานหว่าน ตกใจหรือเปล่า?”ลู่ซิงหว่านเอื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0639

    เพราะว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก ทุกคนต่างก็เปลี่ยนคําเรียกขานกัน จึงสามารถปกป้องฝ่าบาทได้อย่างทั่วถึง“ปกป้องนายท่าน!” เว่ยเฉิงดึงกระบี่ออกจากฝักกระบี่ของตัวเอง แล้วพูดกับฮ่องเต้ต้าฉู่ที่อยู่บนรถม้า “นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง คนขอวเราข้าล้วนเลือกคนที่มีวรยุทธ์สูงทั้งนั้น ต้องสามารถปกป้องนายท่านและฮูหยินให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอนขอรับ”“ได้” เสียงทุ้มต่ำของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังขึ้น ทําให้เว่ยเฉิงรู้สึกสบายใจขึ้นหลายส่วนซ่งชิงเหยียนก็กุมมือของสนมเยว่กุ้ยเหรินในเวลานี้ และพยักหน้าให้นางเพื่อแสดงให้เห็นว่านางสบายใจได้ลู่ซิงหว่านกลับไม่กลัวอย่างที่สนมเยว่กุ้ยเหรินคิดแม้กระทั่งนางยังตบแขนสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ ปากก็พึมพําว่า “ไม่กลัว”สนมเยว่กุ้ยเหรินรู้สึกอับอายขายหน้าจริงๆ [ว้าว ทําไมมันน่าตื่นเต้นจัง][เสด็จพ่อและท่านแม่ต้องสู้ๆ นะ! เสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฉู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนิทานหรอกหรือ! โชว์ฝีมือให้หวานหว่านดูหน่อย ให้หวานหว่านดูบ้าง!]ซ่งชิงเหยียนกุมหน้าผากอย่างพูดไม่ออกโชคดีที่เป็นเสียงในใจ ฝ่าบาทจึงไม่ได้ยิน หวานหว่านเอ๋ย เจ้ามีกี่หัวให้ถูกตัดกันล่ะเนี่ย!แม้แต่ฮ่องเต้ต้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0638

    ฮ่องเต้ต้าฉู่และคณะเดินทางลงใต้ต่อ แล้วเลือกที่พักต่อไปก่อนออกเดินทาง อัครมหาเสนาบดีและคนอื่นๆ ได้กําหนดสถานที่ตั้งหลักสําหรับฝ่าบาทตามทางแล้ว ล้วนเป็นอำเภอที่เจริญรุ่งเรืองแต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้รูปแบบการเดินทางแล้ว ตอนนี้เป็นการเยี่ยมเยือนส่วนตัวแล้วประการที่สองคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในอําเภอไถจินซึ่งจําเป็นต้องป้องกันดังนั้นฮ่องเต้ต้าฉู่จึงปรึกษากับเว่ยเฉิงและซ่งชิงเหยียน เปลี่ยนเส้นทางและเลือกเมืองอื่นๆ เพื่อพักระหว่างทาง เพื่อสํารวจประเพณีท้องถิ่นดูว่าสถานที่อื่นๆ ก็มีพฤติกรรมที่หลอกลวงและปกปิดเช่นเดียวกับอําเภอไถจินหรือไม่ดังที่หวานหว่านกล่าวไว้ อําเภอไถจินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้ยังเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ แล้วอําเภออื่นๆ ล่ะซ่งชิงเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่ซิงหว่านก็พูดก่อน[ได้สิ ๆ ! ออกมาเที่ยวเล่นก็ต้องเที่ยวเล่นไปทั่วอยู่แล้ว ถ้าทุกที่ถูกคนจับตามองอยู่ จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ][ทําไมไม่ให้ผู้บัญชาการเว่ยเลือกสถานที่เล็กๆ หน่อย พวกเราไปเดินเล่นกัน ยังไงก็ต้องรับรองความปลอดภัยของเสด็จพ่อนะ!][ออกมาห้าวันแล้ว แต่ก็ยังปลอดภัยอยู่ เดิมคิดว่าจะถูกลอบสังหารในวันแรกท

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0637

    “ตอนนี้เกรงว่าพระมเหสีคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสส่งองค์หญิงหกออกจากตําหนักจิ่นซิ่ว” สนมหลานพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งพระสนมหลานเฟยพูดได้ไม่ผิด เดิมทีเสิ่นหนิงก็ไม่ยอมรับองค์หญิงหกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นคนออกปากเอง นางจึงปฏิเสธไม่ได้ไม่สู้ครั้งนี้วางแผนซ้อนแผน ส่งองค์หญิงหกออกไปก็แล้วกันพระสนมหลานเฟยพาจิ่นซินไปที่ตําหนักหรงเล่อแม้แต่ไทเฮาที่อาศัยอยู่ในวังหลังมานานขนาดนี้ เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าของจิ่นซิน ก็อดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวน“จิ่นซิน” ไทเฮาจับมือจิ่นซินปลอบ “พระสนมของเจ้าไม่อยู่ มีเรื่องอะไรเจ้าก็บอกแม่นมซูได้เลย ข้าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง”จิ่นซินกลับมีสมองอย่างหาได้ยาก เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ “บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ ไทเฮาเพคะ จิ่นซินเป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้เป็นนายอารมณ์ไม่ดี จะตีจะด่าสักหน่อยก็สมควรแล้วเพคะ”แม้ว่าไทเฮารู้ว่าคําพูดของจิ่นซินเป็นคําพูดที่สุภาพ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของนาง บวกกับบาดแผลบนใบหน้าของนาง ก็เห็นถึงความอดทนและความคับข้องใจอย่างชัดเจนจึงหันไปมองพระสนมหลานเฟย “ในเมื่อชิงเหยียนไม่อยู่ ช่วงนี้ให้จิ่นซินอยู่ในวังของเจ้าเถอะ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0636

    เมื่อได้ยินจิ่นซินกล้าที่จะเถียงตนเอง องค์หญิงหกก็โกรธทันที“เจ้าคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” องค์หญิงหกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจิ่นซินย่อมคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย แต่ร่างกายยังคงตั้งตรงตอนนี้นางจึงอยู่ในระดับเดียวกันกับองค์หญิงหกองค์หญิงหกรีบก้าวเท้าไปข้างหน้าและตบหน้าจิ่นซินหนึ่งฉาด “เจ้าบ่าวรับใช้บังอาจนัก แม้แต่นายของเจ้ายังไม่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าเถียงข้าหรือ?”พูดถึงตรงนี้ ราวกับไม่คลายความโกรธ หันไปมองอิงหงที่อยู่ข้างๆ อีกครั้ง “ตบปากนางให้ข้าที!”อิงหงกลับขดตัวไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าถึงอย่างไรจิ่นซินก็เป็นคนข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟย แม้ว่านายของนางจะเป็นองค์หญิงหก แต่ว่า...เมื่อเห็นอิงหงไม่ขยับตัว องค์หญิงหกก็ยื่นขาออกไปเตะที่ขาของนาง “เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ?”อิงหงกัดฟัน ในที่สุดก็เดินมาตรงหน้าจิ่นซินแล้วเริ่มลงมือเมื่อเห็นใบหน้าของจิ่นซินแดงและบวมขึ้นในที่สุด องค์หญิงหกจึงเอ่ยปากให้อิงหงหยุดมือ แต่ยังคงไม่คลายความโกรธ “เจ้าคุกเข่าตรงนี้ให้ข้าสองชั่วยาม หากคุกเข่าไม่ถึงสองชั่วยาม ข้าจะตบเจ้าอีก!”พูดจบก็พาอิงหงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองในเวลานี้อวิ๋นหลานที่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0635

    พูดจบก็ยิ้มให้เสิ่นผิงอีก “การสอบระดับกลางปีหน้า ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่เมืองหลวง”ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ แต่คนนี้ ในเมื่อหวานหว่านบอกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เมื่อพบแล้ว ก็ไม่อาจไม่ยุ่งได้พูดจบก็เดินก้าวยาวๆ ออกไปเสิ่นผิงเพิ่งได้สติหลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่จากไปแล้ว “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ทําเรื่องใหญ่อีกครั้ง ในใจย่อมมีความสุขมากคนทั้งกลุ่มจึงเก็บสัมภาระอีกครั้งและเดินทางต่อฮ่องเต้ต้าฉู่เดินเที่ยวชมวิวตลอดทาง มีความสุขมากแต่หลังจากที่เขาจากไป ในวังก็มีคนก่อความวุ่นวายขึ้นคนแรกที่ก่อความวุ่นวายขึ้นก็คือองค์หญิงหกที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในวังจิ่นซิ่วจิ่นซินอยู่ในตําหนักชิงอวิ๋นเพียงลําพัง ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทํา ทั้งวันจึงไม่มีอะไรทําดังนั้นวันนี้ ตําหนักชิงอวิ๋นกลับมีคนที่จิ่นซินคาดไม่ถึงคนหนึ่งมา อวิ๋นหลานเมื่อเห็นอวิ๋นหลานมา จิ่นซินก็รีบเข้าไปต้อนรับ “พี่หญิงอวิ๋นหลานมาได้อย่างไรกัน?”จะว่าไปตําหนักจิ่นซิ่วกับตําหนักชิงอวิ๋นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งต่อหน้าอะไรกันแต่จิ่นซินและจินอวี้ในตําหนักชิงอวิ๋นต่างก็รู้ว่าเมื่อฮองเฮายังเป็นพ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0634

    เขาเป็นฮ่องเต้และเข้าใจวิธีการใช้คนเป็นอย่างดีคนอย่างเสิ่นผิงเป็นดาบที่แหลมคม ต้องให้ผู้ถือดาบควบคุมให้ดีเรื่องต่อไปนั้นง่ายมากฮ่องเต้ต้าฉู่สั่งให้เว่ยเฉิงออกหน้าเพื่อปลอบขวัญราษฎรทั้งหมด ส่วนตัวเขาเองก็พาเสิ่นผิงกลับไปที่จวนนายอำเภออีกครั้งครั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงตั้งใจพาลู่ซิงหว่านมาอยู่ข้างกายถึงอย่างไรเขาก็มีความคิดแบบนี้มานานแล้ว อยากจะพาลู่ซิงหว่านไปประชุมเช้าด้วยแต่เมื่อนึกถึงคนแก่คร่ำครึกลุ่มนั้น เพื่อลดความยุ่งยากให้กับลู่ซิงหว่านและซ่งชิงเหยียนสองแม่ลูก ในที่สุดเขาก็ยกเลิกความคิดนี้แต่ตอนนี้อยู่ข้างนอกมันไม่เหมือนกันแล้ว สิ่งที่ควรใช้ก็ต้องใช้ให้ดีเมื่อเห็นฮ่องเต้ต้าฉู่กําลังอุ้มเด็กคนหนึ่ง เสิ่นผิงก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นฮ่องเต้ เขาเป็นแค่ข้าน้อยธรรมดาคนหนึ่ง จะกล้าเอ่ยปากได้อย่างไรจนกระทั่งทั้งสองนั่งลง ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงเอ่ยปากถามว่า “คุณชายเสิ่นแม้จะสวมเสื้อผ้าธรรมดา แต่ดูแล้วก็สง่างาม ไม่รู้ว่าพ่อเจ้าเป็นใครกัน”เสิ่นผิงกลับส่ายหน้า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านพ่อเป็นใคร ข้าน้อยอาศัยอยู่กับท่านแม่ที่อําเภอไถจิ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0633

    [นี่เป็นขบวนเสด็จของฝ่าบาท พวกเจ้ายังกล้าขัดขวางอีกหรือ?]ส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เปิดม่านรถออกอย่างเงียบๆ และมองออกไปด้านนอกตอนนี้ที่หน้ารถของพวกเขา มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกําลังคุกเข่าอยู่ เป็นธรรมดาที่มีชาวบ้านทยอยกันเดินมาทางนี้ลู่ซิงหว่านตาไว มองปราดเดียวก็เห็นคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุด เป็นชายที่คุยกับพวกเขาเมื่อวาน“เสด็จพ่อ พี่ชาย” ลู่ซิงหว่านชี้นิ้วไปยังคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุดฮ่องเต้ต้าฉู่หันมองลู่ซิงหว่านอย่างสงสัย แล้วมองไปข้างหน้าคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเขาคิดไปคิดมา ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ลุกขึ้นและออกจากรถม้าไป“ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี” ทุกคนคุกเข่าลงและตะโกนถวายบังคมชายที่อยู่ด้านหน้าสุดกลับเอ่ยปากก่อน “ข้าน้อยเสิ่นผิง ถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”พูดจบ เสิ่นผิงก็เงยหน้าขึ้น มองตรงไปที่ฮ่องเต้ต้าฉู่ “ก่อนหน้านี้ที่ฝ่าบาททรงมอบเงินเหล่านั้นให้ข้าน้อย ข้าน้อยก็รู้สึกว่าฝ่าบาทต้องเป็นผู้มีบุญญาธิการแน่นอน นึกไม่ถึงว่าจะเป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน”พูดถึงตรงนี้ เสิ่นผิงก็โขกหัวลงไปอีกครั้ง “ฝ่าบาททรงเมตตากรุณายิ่งนัก เป็นความโชคดีของราษฎรในใต้หล้าเหลือเกินพ่ะย่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0632

    ฮ่องเต้ต้าฉู่จัดการเรื่องนี้เสร็จ ก็เสียเวลาไปบ้าง ได้แต่พักค้างคืนหนึ่งคืนก่อนแล้วค่อยออกเดินทางอีกครั้งในวันถัดไปเท่านั้นค่ำคืนนี้ พวกฮ่องเต้ต้าฉู่กลับไม่ได้ไปพักที่โรงเตี๊ยมหรือเรือนรับรองใดๆ อีก แต่พักอยู่ในที่ว่าการอําเภอโดยตรงตอนนี้ไม่มีงานราชการที่ต้องจัดการ หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว ก็รู้สึกเบื่อมาก“เว่ยเฉิง” ฮ่องเต้ต้าฉู่ชะโงกหน้าไปถาม “ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของอําเภอเทียนจินนี้เป็นอย่างไร?”พูดถึงตรงนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ยืนขึ้น “ไม่สู้เรียกหวงกุ้ยเฟยมาดีกว่า ให้ออกไปเดินเล่นด้วยกัน”บังเอิญจริงๆ ซ่งชิงเหยียนและพรรคพวกก็กําลังเดินมาทางนี้เช่นกัน“นายท่าน” เยวี่ยกุ้ยเหรินเดิมทีก็มีนิสัยร่าเริงอยู่แล้ว เมื่อก่อนอยู่ต่อหน้าฝ่าบาทและพระสนมหวงกุ้ยเฟยยังไม่กล้าปล่อยมากนัก หลายวันมานี้คุ้นเคยกันแล้ว ย่อมมีชีวิตชีวามากขึ้น “พระ...ฮูหยินเรียกข้าออกไปเดินเล่นด้วยกัน นายท่านจะไปด้วยหรือไม่เจ้าคะ?”เมื่อได้ยินสนมเยว่กุ้ยเหรินเรียกซ่งชิงเหยียนแบบนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็อึ้งไปชั่วขณะเขาจับตาซ่งชิงหย่านอย่างว่างเปล่า ราวกับว่าเขาสามารถเห็นใบหน้าของซ่งชิงหย่าผ่านใบหน้าของนางเมื่อฮ่องเต

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status