Share

บทที่ 0299

Author: อันอี่หราน
เมื่อเห็นท่าทีของเผยฉู่เยี่ยน ซ่งชิงเหยียนก็อดหัวเราะไม่ได้

นั่นยิ่งทำให้เผยฉู่เยี่ยนใบหน้าแดงก่ำมากขึ้น

จิ่นอวี้พยายามกลั้นยิ้มก่อนจะรับตัวลู่ซิงหว่านกลับมา “ลำบากซื่อจื่อเผยแล้ว”

เมื่อเห็นลู่ซิงหว่านนอนหลับสนิท ทุกคนจึงไม่กล้าพูดคุยอีก นางเซียวสั่งพ่อบ้านให้จัดเตรียมอาหารค่ำไว้ จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายไปยังเรือนของตน

ในขณะที่ซ่งชิงเหยียนกลับติดตามบิดาและพี่ชายไปยังห้องหนังสือ ซ่งชิงฉี่คิดจะเปิดกล่องกระบี่ดู แต่กลับถูกซ่งชิงเหยียนกดมือเอาไว้

ซ่งชิงฉี่เงยหน้ามองดูน้องสาวด้วยความฉงน เห็นแววตานางมีความแน่วแน่

ซ่งชิงเหยียนจึงได้เอ่ยปาก “ท่านพ่อ พี่ใหญ่ ทุกวันนี้จวนติ้งกั๋วโหวอยู่ในแคว้นต้าฉู่ ก็นับว่าเป็นไม้ใหญ่ที่ต้องลมแรงแล้ว”

ได้ยินคำพูดของซ่งชิงเหยียนเช่นนี้ ทั้งคู่ต่างเงียบกริบ

ผ่านไปครู่ใหญ่ ติ้งกั๋วโหวจึงได้เอ่ยปาก “เหตุเพราะข้าเกษียณออกมากระมัง”

“ฝ่าบาทแม้ไม่ใช่ฮ่องเต้ที่มีนิสัยหวาดระแวงผู้อื่น แต่หากบ้านเราถูกปองร้าย แล้วมีคนคอยทูลยุยงใส่ไคล้ทุกวัน ก็เกรงว่าอาจไม่ค่อยดีนัก”

เห็นน้องสาวสีหน้าเคร่งเครียด ซ่งชิงฉี่จึงหันไปมองนาง

“วันหน้าพี่ใหญ่อยู่ในกองทัพ ยังต้องระวังให้มาก
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0300

    ทั้งคู่ยังไม่ทันได้เข้าเรือน ด้านหลังก็มีเสียงของพ่อบ้านจ้าวดังแว่วมา “ช้าก่อนท่านรอง”ทุกคนต่างหันไปมองพ่อบ้านจ้าว“ท่านรอง ท่านโหวเชิญท่านไปพบที่ห้องหนังสือ” พ่อบ้านจ้าวคารวะด้วยความนอบน้อม ก่อนจะเอ่ยปาก“ถ้าเช่นนั้น เจ้าพาเยว่เส้ากลับไปก่อนเถิด” ซ่งจางอิงหันไปบอกกัวหรู “พี่ใหญ่คงมีธุระกับข้ากระมัง”ปกติติ้งกั๋วโหวไม่ค่อยจะมายุ่งเกี่ยวกับซ่งจางอิง วันนี้กลับให้เขาไปพบที่ห้องหนังสือ เห็นทีคงมีเรื่องสำคัญเป็นแน่“อาเขยค่อยๆ เดินเจ้าค่ะ” กัวเยว่เส้ารู้ว่าซ่งจางอิงมีงานต้องทำอีก จึงรีบคารวะซ่งจางอิงพยักหน้าแล้วเดินจากไปว่าไปแล้ว เขาไม่ชอบหน้าพี่ภรรยากัวผิงยิ่งนัก เพราะในสายตาเขา กัวผิงได้เป็นถึงราชเลขากรมคลัง เพราะมีเส้นสายคอยผลักดันต่างหากทั่วเมืองหลวงใครๆ ก็รู้ ว่ากัวผิงเป็นศิษย์เอกของเสนาบดีชุย และเสนาบดีชุยก็เป็นคนเสนอชื่อเขาต่อฮ่องเต้เองแม้ว่าตนก็อาศัยอิทธิพลของพี่ชายกว่าจะมีตำแหน่งอย่างทุกวันนี้ แต่ก็ยังไม่ชอบคนเหล่านี้อยู่ดีแต่ก็ยอมรับว่า บุตรสาวของกัวผิงผู้นี้ ได้รับการอบรมสั่งสอนมาดี ทั้งรู้จักวางตัว กิริยามารยาทก็อ่อนโยนน่ารักและเขาก็รู้ถึงจุดประสงค์ที่ฮูหยินพ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0301

    ซ่งจางอิงเพียงแค่ส่ายหัวเล็กน้อยและกล่าวว่า"ข้าไม่เป็นไรหรอก แต่พี่ใหญ่สมควรพักผ่อนบ้าง""สิ่งที่ข้าพูดในวันนี้ก็คือ ถึงแม้ว่าข้าจะลาออกจากตำแหน่ง" ติ้งกั๋วโหวจ้องมองไปที่ซ่งจางอิง"ลูกหลานในบ้านเราหลายคนเป็นขุนนางในราชสำนัก ประจวบกับสถานะของชิงเหยียน บัดนี้จวนโหวจึงอยู่ในจุดที่เป็นเป้าสายตาอันตรายมากที่สุดจริงๆ""ทั้งภายในและภายนอก การกระทำจะต้องถูกต้อง เหล่าพวกบ่าวไพร่ในบ้านก็ต้องถูกควบคุมให้ดี อย่าให้ใครมาจับผิดจวนติ้งกั๋วโหวได้""ยิ่งไปกว่านั้นห้ามรับของขวัญเด็ดขาด"ซ่งจางอิงรู้ดีว่าประโยคสุดท้ายนี้พาดพิงถึงตัวเขา จึงหดคอเล็กน้อย "ทราบแล้วขอรับ พี่ใหญ่""ส่วนครอบครัวสายรองก็เหมือนกัน ครอบครัวสายหลักและครอบครัวสายรองของพวกเราเป็นหนึ่งเดียวกัน มีเกียรติและอับอายร่วมกัน"คำพูดสุดท้ายของติ้งกั๋วโหว ทว่ากลับทำให้ซ่งจางอิงถึงกับนิ่งอึ้งไป เขานึกมาตลอดว่าครอบครัวสายรองเป็นเพียงส่วนประกอบของครอบครัวสายหลักเท่านั้น จะมาพูดถึงการเป็นครอบครัวเดียวกันที่ไหนแต่บัดนี้เมื่อได้ยินคำพูดนี้จากพี่ใหญ่ มันทำให้เขารู้สึกถึงอารมณ์บางอย่างที่เอ่อล้นขึ้นมาในใจ จนถึงกับรู้สึกน้ำตาคลอ ทว่าติ้งกั๋วโ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0302

    ขณะที่ซ่งจางอิงเดินเหม่อลอยเข้าไปในเรือน โดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นกัวอวี๋ที่กำลังรอตัวเขาอยู่ "เกิดอะไรขึ้น?" กัวอวี๋เห็นเขาเป็นเช่นนั้น จึงรีบเดินเข้ามาหา แต่คำตำหนิก็ไม่ได้หลุดออกจากปาก นางรู้ว่าติ้งกั๋วโหวเรียกหาสามีของนาง เพราะเขาคงทำเรื่องผิดอะไรและจะต้องเป็นเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่แน่ๆเพราะว่าติ้งกั๋วโหวมีเมตตาต่อซ่งจางอิงน้องชายผู้นี้มาโดยตลอด หากไม่มีเรื่องสำคัญอะไรจริงๆ ก็คงไม่เรียกตัวเขาไป ซ่งจางอิงราวกับไม่ได้ยินเสียงของกัวอวี๋ ยังคงเดินต่อไปจนกระทั่งมือทั้งสองข้างของกัวอวี๋สัมผัสที่แขนของเขา เขาจึงสะดุ้งได้สติอย่างแรงและหันไปมองกัวอวี๋ "ฮูหยิน"เมื่อเห็นใบหน้าซีดขาวของซ่งจางอิง ในใจของกัวอวี๋ก็ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้น ปราศจากท่าทางหยิ่งยโสเหมือนเมื่อก่อน "ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้น?"ซ่งจางอิงไม่พูดอะไร เพียงแค่ตบมือของกัวอวี๋ เพื่อปลอบโยนจนกระทั่งเข้ามาในหห้องตำรา ซ่งจางอิงถึงได้พูดว่า "วันนี้ใต้เท้าจ้าวของราชเลขากรมพิธีการใต้เท้าจ้าวนำดาบเล่มหนึ่งมาให้ข้า ข้าจึงมอบให้พี่ใหญ่ไป"กัวอวี๋ก็ไม่ได้คิดว่ามีปัญหาอะไร การส่งของขวัญระหว่างตระกูลผู้ดีนั้น ก็ถือเป็นเรื่องปกติซ่งจางอ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0303

    ซ่งชิงเหยียนส่ายหัว "ฝ่าบาททราบแค่เพียงมีองครักษ์เงาคอยคุ้มครองข้าก็จริง แต่พระองค์ไม่รู้ว่ามีกี่คนและไม่เคยพบพวกเขา""จิ่นอวี้ก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง ฝ่าบาทอาจจะเข้าใจผิดว่าคนที่คอยคุ้มครองข้าคือนางก็เป็นได้"ติ้งกั๋วโหวพยักหน้า "เจ้าเองควรเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ให้ตัวเองบ้าง"ยังไม่รอให้ซ่งชิงเหยียนตอบ พ่อบ้านจ้าวที่อยู่ด้านนอกก็เคาะประตู "นายท่านขอรับ แม่นางจิ่นซินคนสนิทของพระสนมมาขอรับ"เมื่อซ่งชิงเหยียนได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้ามองท่านพ่อและพี่ใหญ่ หมุนตัวออกไปและผลักประตู ทว่ากลับกับจิ่นซินที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล "พระสนมเพคะ องค์หญิงตื่นแล้ว ใครอุ้มก็ร้องไห้งอแง บ่าวถึงได้มาหาพระสนมเพคะ""พวกเรากลับกันเถิด" อย่างไรก็ตามเรื่องทางนี้ก็ได้จัดการเรียบร้อยแล้ว ซ่งชิงเหยียนหันกลับไปมองท่านพ่อ จากนั้นก็ตามจิ่นซินกลับไปที่เรือนอวิ๋นชูเรือนอวิ๋นชูเป็นเรือนที่ซ่งชิงเหยียนเคยพักอาศัยเมื่อตอนอยู่กับครอบครัวเดิม เมื่อซ่งชิงเหยียนมาถึงประตูของเรือนอวิ๋นชู ก็เห็นจิ่นอวี้ที่กำลังอุ้มลู่ซิงหว่านที่กำลังงอแงเดินมาทางประตูซ่งชิงเหยียนได้ยินเสียงลู่ซิงหว่านบ่นพึมพำมาแต่ไกล[ท่านแม่ทิ้งข้าไว้คนเ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0304

    ทันใดนั้นนางก็ลุกขึ้น จากนั้นโผเข้ากอดในอ้อมอกของนางเซียว "พอแล้วๆ" นางเซียวเห็นนางเป็นเช่นนั้น ก็เพียงแค่ลูบหลังของนางเบาๆ "ไม่ชอบแม่พูดมากอีกแล้วใช่ไหม?""ใช่ที่ไหนล่ะเจ้าคะ" ซ่งชิงเหยียนพูดเสียงออดอ้อน แต่ก็ยังคงซุกอยู่ในอ้อมกอดของนางเซียวโดยไม่ยอมลุกขึ้น "เป็นแม่คนแล้วหนา..."นางเซียวยังพูดไม่ทันจบ ซ่งชิงเหยียนก็ลุกขึ้นพรวดอย่างรวดเร็ว "ข้ายังมีอีกเรื่องหนึ่งที่จะบอกท่านแม่เจ้าค่ะ""ท่านแม่ยังจำได้ไหมว่าวันนี้ท่านอารองส่งดาบเล่มนั้นให้ท่านพ่อ?""จำได้สิ" นางเซียวพยักหน้า "ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก น่าจะเป็นดาบที่ดีเล่มหนึ่ง"ถึงแม้ว่านางเซียวจะไม่เข้าใจเรื่องการต่อสู้ แต่สามีผู้แข็งกระด้างของนางผู้นี้ เมื่อก่อนเคยพูดถึงเรื่องราวในสนามรบกับนางเป็นประจำ ดังนั้นนางจึงได้เรียนรู้มาบ้างเล็กน้อยลู่ซิงหว่านที่อยู่ด้านข้างพอได้ยินท่านแม่พูดถึงดาบเล่มนั้น ก็รีบลุกขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมองไปที่ซ่งชิงเหยียนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น [ในที่สุดท่านแม่ก็พูดถึงดาบเล่มนั้นแล้ว หรือว่าแม่จะค้นพบปัญหาที่ซ่อนอยู่ในดาบเล่มนั้นแล้ว?][ดาบเล่มนี้จะเป็นดาบที่มีปัญหาจริงๆ หรื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0305

    นางเซียวถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกจากนั้นซ่งชิงเหยียนก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาอีก จึงทำท่าบ่นพึมพำคนเดียวว่า "แต่เอาจริงๆ ท่านอารองหน้าตาก็ไม่เหมือนท่านปู่เลย สมองก็สู้ท่านพ่อไม่ได้ ลูกที่มาจากพ่อเดียวกัน เหตุใดถึงต่างกันขนาดนี้"ทันทีที่ลู่ซิงหว่านได้ยินคำพูดนี้ก็กระตือรือร้น [เมื่อครู่ข้าได้บอกท่านแม่ไปแล้วไม่ใช่หรือ ว่าเดิมทีซ่งจางอิงผู้นี้ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของท่านปู่ซ่ง จะเหมือนเขาได้อย่างไร!][โอ้ข้าลืมไปว่า นี่เป็นเพียงความคิดในใจของข้าเท่านั้น ท่านแม่คงไม่ได้ยินหรอก!][น่าเสียดาย ข้าต้องพูดให้เป็นได้เร็วๆ หน่อยเถิด!]นี่แหละคือเจตนาของซ่งชิงเหยียน ตัวนางมักจะผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ด้วยความช่วยเหลือจากหว่านหว่าน ดังนั้นเด็กที่ฉลาดเช่นนี้อย่างหว่านหว่าน หากเกิดความสงสัยแล้ว วันข้างหน้าจะไม่เกิดความบาดหมางกับตัวเองหรอกหรือการเล่นละครแบบนี้ อาจช่วยลบความสงสัยของหว่านหว่านได้นางเซียวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จนในที่สุดก็พูดออกมา "เรื่องนี้เป็นเรื่องนานมาแล้ว ในเมื่อเจ้าถาม ข้าก็จะบอกเจ้า""เพียงแต่ห้ามบอกผู้อื่นเด็ดขาด เรื่องนี้ตอนนี้มีแค่ข้ากับท่านพ่อของเจ้ารู้กันสองคนเท่านั้น"

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0306

    วันที่ซ่งชิงเหยียนออกจากวัง ในวังก็เกิดเรื่องขึ้นองค์หญิงใหญ่ที่ไม่ได้เข้าวังมาเป็นเวลานาน ก็ได้เข้าวังในวันนี้ และบังเอิญคลาดกับรถม้าของซ่งชิงเหยียนที่อยู่นอกประตูวังพอดีเรื่องแรกที่เข้าวัง ก็คือมุ่งตรงไปยังตําหนักหรงเล่อ“เสด็จย่า” ลู่ซิงรั่วโผเข้าสู่อ้อมกอดของไทเฮาด้วยความดีใจ “ซิงรั่วไม่ได้พบท่านนานแล้วเพคะ”ทําให้แม่นมซุนที่อยู่ข้างๆ ตกใจ รีบเข้าไปประคององค์หญิงใหญ่ “โอ๊ย องค์หญิงเพคะ ตอนนี้พระองค์ก็ตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว ต้องระวังหน่อยถึงจะได้นะเพคะ”ไทเฮาได้ยินเช่นนั้นก็รีบดึงร่างของลู่ซิงรั่วให้ตรง “เป็นอย่างไรบ้าง? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”องค์หญิงใหญ่กลับเอนกายพิงอกของไทเฮาไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่เป็นไรเพคะเสด็จย่า ซิงรั่วย่อมรู้จักหนักเบาเพคะ”“ทําไมวันนี้ถึงมีเวลาเข้าวังล่ะ” ไทเฮาเห็นว่านางไม่เป็นอะไร ก็ช่วยรวบผมที่ข้างขมับให้นางเบาๆ ยิ้มพลางพูดว่า “ไม่ได้เจอเจ้าครึ่งเดือนแล้ว”“หลายวันมานี้แค่รู้สึกว่าร่างกายค่อนข้างหนัก ก็เลยเลี้ยงร่างกายอยู่ที่บ้านน่ะเพคะ” ลู่ซิงรั่วพูดเบาๆ และปลอบโยนไทเฮาอีกครั้ง "เสด็จย่าโปรดวางใจ ตอนนี้หม่อมฉันดีขึ้นมากแล้วเพคะ""ดีจริงๆ เหรอ จะให

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0307

    หลายวันก่อนหลังจากที่องค์หญิงห้าได้รับการสั่งสอนจากเสด็จแม่ของตนแล้ว ก็มีความซื่อสัตย์มากขึ้นมากแล้ว เพียงเข้าไปทักทายอย่างนอบน้อม “พี่หญิงใหญ่เพคะ”องค์หญิงหกก็ทําความเคารพอยู่ข้างๆ อย่างไม่เต็มใจ “พี่หญิงใหญ่เพคะ”ลู่ซิงรั่วไม่มีทางคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กน้อยเหล่านี้อยู่แล้ว เพียงแค่ยิ้มพลางพูดว่า “ตอนนี้พวกเจ้าสองคนรู้ความมากขึ้นแล้ว รีบไปทําความเคารพเสด็จย่าเถอะ ข้าจะออกจากวังแล้ว”เมื่อก่อนตอนอยู่ในวังองค์หญิงใหญ่ดูแลน้องชายน้องสาวเหล่านี้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด เมื่อเห็นนางกําลังจะออกจากวัง ลู่ซิงยุ่นก็ดูเหมือนอาลัยอาวรณ์ไม่น้อย “พี่หญิงใหญ่จะออกจากวังแล้ว”“อืม” ลู่ซิงรั่วก้าวไปข้างหน้าและลูบหัวนาง “รีบกลับไปหาเสด็จย่าพร้อมกับซิงซิงเถอะ”พูดจบก็หันหลังเดินออกไปนอกวังและด้านหลังของนาง ลู่ซิงหุยมองลู่ซิงรั่วด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด ลู่ซิงยุ่นหันกลับมาเห็นสีหน้าขององค์หญิงหก จึงรีบดึงนาง “น้องหก”ลู่ซิงหุยกลับมีความคิดบางอย่างในใจ และไม่ได้พูดกับลู่ซิงยุ่นมากนัก “ท่านไปที่ตำหนักของเสด็จย่าเองเถอะ ข้ายังมีธุระ”พูดจบก็มุ่งหน้าไปตําหนักฉางชิวโดยไม่หันกลับมามองลู่ซิงยุ่นถอนหายใจและม

Latest chapter

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0640

    พูดถึงตรงนี้องครักษ์เงามังกรก็ถอนหายใจ “เพียงแต่อีกฝ่ายล้วนเป็นนักรบที่ตายแล้ว ไม่ได้เหลือผู้รอดชีวิตไว้”[แม่เจ้าโว้ย ทหารพลีชีพหนึ่งร้อยคน นี่มันฐานะอะไรเนี่ย][ดูเหมือนว่าชีวิตของเสด็จพ่อมีค่ามากจริงๆ สามารถทําให้อีกฝ่ายส่งทหารพลีชีพได้หนึ่งร้อยคน]เรื่องนี้เป็นไปตามที่คาดไว้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมไม่ตําหนิองครักษ์เงามังกร จึงออกคําสั่งให้คนขับรถม้าเดินทางต่อไป ต้องไปถึงสถานที่ปลอดภัยถึงจะดําเนินการต่อได้ภายในรถม้าก็เงียบกริบเช่นกันในที่สุดสนมเยว่กุ้ยเหรินก็ลองเอ่ยปาก “ฝ่า...นายท่าน ฮูหยิน คือว่า...”ซ่งชิงเหยียนเหมือนเพิ่งนึกถึงสนมเยว่กุ้ยเหรินที่ขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ดึงนางขึ้นมา “วางใจเถอะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ มิน่าเล่าสนมเยว่กุ้ยเหรินถึงอยู่ในวังมาเจ็ดแปดปีก็ไม่มีทายาทสักคน เกรงว่าโอกาสที่ฝ่าบาทจะโปรดปรานนางก็มีน้อยมากในรถม้าคันเดียวมีกันแค่สี่คน ตัวเองยังสามารถลืมนางได้อย่างสนิทใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็จัดเสื้อผ้าให้ตนเอง แล้วอุ้มลู่ซิงหว่านเข้ามาในอ้อมกอดของตน หยอกล้อนางว่า “หวานหว่าน ตกใจหรือเปล่า?”ลู่ซิงหว่านเอื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0639

    เพราะว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก ทุกคนต่างก็เปลี่ยนคําเรียกขานกัน จึงสามารถปกป้องฝ่าบาทได้อย่างทั่วถึง“ปกป้องนายท่าน!” เว่ยเฉิงดึงกระบี่ออกจากฝักกระบี่ของตัวเอง แล้วพูดกับฮ่องเต้ต้าฉู่ที่อยู่บนรถม้า “นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง คนขอวเราข้าล้วนเลือกคนที่มีวรยุทธ์สูงทั้งนั้น ต้องสามารถปกป้องนายท่านและฮูหยินให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอนขอรับ”“ได้” เสียงทุ้มต่ำของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังขึ้น ทําให้เว่ยเฉิงรู้สึกสบายใจขึ้นหลายส่วนซ่งชิงเหยียนก็กุมมือของสนมเยว่กุ้ยเหรินในเวลานี้ และพยักหน้าให้นางเพื่อแสดงให้เห็นว่านางสบายใจได้ลู่ซิงหว่านกลับไม่กลัวอย่างที่สนมเยว่กุ้ยเหรินคิดแม้กระทั่งนางยังตบแขนสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ ปากก็พึมพําว่า “ไม่กลัว”สนมเยว่กุ้ยเหรินรู้สึกอับอายขายหน้าจริงๆ [ว้าว ทําไมมันน่าตื่นเต้นจัง][เสด็จพ่อและท่านแม่ต้องสู้ๆ นะ! เสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฉู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนิทานหรอกหรือ! โชว์ฝีมือให้หวานหว่านดูหน่อย ให้หวานหว่านดูบ้าง!]ซ่งชิงเหยียนกุมหน้าผากอย่างพูดไม่ออกโชคดีที่เป็นเสียงในใจ ฝ่าบาทจึงไม่ได้ยิน หวานหว่านเอ๋ย เจ้ามีกี่หัวให้ถูกตัดกันล่ะเนี่ย!แม้แต่ฮ่องเต้ต้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0638

    ฮ่องเต้ต้าฉู่และคณะเดินทางลงใต้ต่อ แล้วเลือกที่พักต่อไปก่อนออกเดินทาง อัครมหาเสนาบดีและคนอื่นๆ ได้กําหนดสถานที่ตั้งหลักสําหรับฝ่าบาทตามทางแล้ว ล้วนเป็นอำเภอที่เจริญรุ่งเรืองแต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้รูปแบบการเดินทางแล้ว ตอนนี้เป็นการเยี่ยมเยือนส่วนตัวแล้วประการที่สองคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในอําเภอไถจินซึ่งจําเป็นต้องป้องกันดังนั้นฮ่องเต้ต้าฉู่จึงปรึกษากับเว่ยเฉิงและซ่งชิงเหยียน เปลี่ยนเส้นทางและเลือกเมืองอื่นๆ เพื่อพักระหว่างทาง เพื่อสํารวจประเพณีท้องถิ่นดูว่าสถานที่อื่นๆ ก็มีพฤติกรรมที่หลอกลวงและปกปิดเช่นเดียวกับอําเภอไถจินหรือไม่ดังที่หวานหว่านกล่าวไว้ อําเภอไถจินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้ยังเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ แล้วอําเภออื่นๆ ล่ะซ่งชิงเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่ซิงหว่านก็พูดก่อน[ได้สิ ๆ ! ออกมาเที่ยวเล่นก็ต้องเที่ยวเล่นไปทั่วอยู่แล้ว ถ้าทุกที่ถูกคนจับตามองอยู่ จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ][ทําไมไม่ให้ผู้บัญชาการเว่ยเลือกสถานที่เล็กๆ หน่อย พวกเราไปเดินเล่นกัน ยังไงก็ต้องรับรองความปลอดภัยของเสด็จพ่อนะ!][ออกมาห้าวันแล้ว แต่ก็ยังปลอดภัยอยู่ เดิมคิดว่าจะถูกลอบสังหารในวันแรกท

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0637

    “ตอนนี้เกรงว่าพระมเหสีคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสส่งองค์หญิงหกออกจากตําหนักจิ่นซิ่ว” สนมหลานพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งพระสนมหลานเฟยพูดได้ไม่ผิด เดิมทีเสิ่นหนิงก็ไม่ยอมรับองค์หญิงหกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นคนออกปากเอง นางจึงปฏิเสธไม่ได้ไม่สู้ครั้งนี้วางแผนซ้อนแผน ส่งองค์หญิงหกออกไปก็แล้วกันพระสนมหลานเฟยพาจิ่นซินไปที่ตําหนักหรงเล่อแม้แต่ไทเฮาที่อาศัยอยู่ในวังหลังมานานขนาดนี้ เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าของจิ่นซิน ก็อดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวน“จิ่นซิน” ไทเฮาจับมือจิ่นซินปลอบ “พระสนมของเจ้าไม่อยู่ มีเรื่องอะไรเจ้าก็บอกแม่นมซูได้เลย ข้าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง”จิ่นซินกลับมีสมองอย่างหาได้ยาก เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ “บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ ไทเฮาเพคะ จิ่นซินเป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้เป็นนายอารมณ์ไม่ดี จะตีจะด่าสักหน่อยก็สมควรแล้วเพคะ”แม้ว่าไทเฮารู้ว่าคําพูดของจิ่นซินเป็นคําพูดที่สุภาพ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของนาง บวกกับบาดแผลบนใบหน้าของนาง ก็เห็นถึงความอดทนและความคับข้องใจอย่างชัดเจนจึงหันไปมองพระสนมหลานเฟย “ในเมื่อชิงเหยียนไม่อยู่ ช่วงนี้ให้จิ่นซินอยู่ในวังของเจ้าเถอะ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0636

    เมื่อได้ยินจิ่นซินกล้าที่จะเถียงตนเอง องค์หญิงหกก็โกรธทันที“เจ้าคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” องค์หญิงหกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจิ่นซินย่อมคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย แต่ร่างกายยังคงตั้งตรงตอนนี้นางจึงอยู่ในระดับเดียวกันกับองค์หญิงหกองค์หญิงหกรีบก้าวเท้าไปข้างหน้าและตบหน้าจิ่นซินหนึ่งฉาด “เจ้าบ่าวรับใช้บังอาจนัก แม้แต่นายของเจ้ายังไม่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าเถียงข้าหรือ?”พูดถึงตรงนี้ ราวกับไม่คลายความโกรธ หันไปมองอิงหงที่อยู่ข้างๆ อีกครั้ง “ตบปากนางให้ข้าที!”อิงหงกลับขดตัวไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าถึงอย่างไรจิ่นซินก็เป็นคนข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟย แม้ว่านายของนางจะเป็นองค์หญิงหก แต่ว่า...เมื่อเห็นอิงหงไม่ขยับตัว องค์หญิงหกก็ยื่นขาออกไปเตะที่ขาของนาง “เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ?”อิงหงกัดฟัน ในที่สุดก็เดินมาตรงหน้าจิ่นซินแล้วเริ่มลงมือเมื่อเห็นใบหน้าของจิ่นซินแดงและบวมขึ้นในที่สุด องค์หญิงหกจึงเอ่ยปากให้อิงหงหยุดมือ แต่ยังคงไม่คลายความโกรธ “เจ้าคุกเข่าตรงนี้ให้ข้าสองชั่วยาม หากคุกเข่าไม่ถึงสองชั่วยาม ข้าจะตบเจ้าอีก!”พูดจบก็พาอิงหงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองในเวลานี้อวิ๋นหลานที่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0635

    พูดจบก็ยิ้มให้เสิ่นผิงอีก “การสอบระดับกลางปีหน้า ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่เมืองหลวง”ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ แต่คนนี้ ในเมื่อหวานหว่านบอกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เมื่อพบแล้ว ก็ไม่อาจไม่ยุ่งได้พูดจบก็เดินก้าวยาวๆ ออกไปเสิ่นผิงเพิ่งได้สติหลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่จากไปแล้ว “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ทําเรื่องใหญ่อีกครั้ง ในใจย่อมมีความสุขมากคนทั้งกลุ่มจึงเก็บสัมภาระอีกครั้งและเดินทางต่อฮ่องเต้ต้าฉู่เดินเที่ยวชมวิวตลอดทาง มีความสุขมากแต่หลังจากที่เขาจากไป ในวังก็มีคนก่อความวุ่นวายขึ้นคนแรกที่ก่อความวุ่นวายขึ้นก็คือองค์หญิงหกที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในวังจิ่นซิ่วจิ่นซินอยู่ในตําหนักชิงอวิ๋นเพียงลําพัง ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทํา ทั้งวันจึงไม่มีอะไรทําดังนั้นวันนี้ ตําหนักชิงอวิ๋นกลับมีคนที่จิ่นซินคาดไม่ถึงคนหนึ่งมา อวิ๋นหลานเมื่อเห็นอวิ๋นหลานมา จิ่นซินก็รีบเข้าไปต้อนรับ “พี่หญิงอวิ๋นหลานมาได้อย่างไรกัน?”จะว่าไปตําหนักจิ่นซิ่วกับตําหนักชิงอวิ๋นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งต่อหน้าอะไรกันแต่จิ่นซินและจินอวี้ในตําหนักชิงอวิ๋นต่างก็รู้ว่าเมื่อฮองเฮายังเป็นพ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0634

    เขาเป็นฮ่องเต้และเข้าใจวิธีการใช้คนเป็นอย่างดีคนอย่างเสิ่นผิงเป็นดาบที่แหลมคม ต้องให้ผู้ถือดาบควบคุมให้ดีเรื่องต่อไปนั้นง่ายมากฮ่องเต้ต้าฉู่สั่งให้เว่ยเฉิงออกหน้าเพื่อปลอบขวัญราษฎรทั้งหมด ส่วนตัวเขาเองก็พาเสิ่นผิงกลับไปที่จวนนายอำเภออีกครั้งครั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงตั้งใจพาลู่ซิงหว่านมาอยู่ข้างกายถึงอย่างไรเขาก็มีความคิดแบบนี้มานานแล้ว อยากจะพาลู่ซิงหว่านไปประชุมเช้าด้วยแต่เมื่อนึกถึงคนแก่คร่ำครึกลุ่มนั้น เพื่อลดความยุ่งยากให้กับลู่ซิงหว่านและซ่งชิงเหยียนสองแม่ลูก ในที่สุดเขาก็ยกเลิกความคิดนี้แต่ตอนนี้อยู่ข้างนอกมันไม่เหมือนกันแล้ว สิ่งที่ควรใช้ก็ต้องใช้ให้ดีเมื่อเห็นฮ่องเต้ต้าฉู่กําลังอุ้มเด็กคนหนึ่ง เสิ่นผิงก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นฮ่องเต้ เขาเป็นแค่ข้าน้อยธรรมดาคนหนึ่ง จะกล้าเอ่ยปากได้อย่างไรจนกระทั่งทั้งสองนั่งลง ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงเอ่ยปากถามว่า “คุณชายเสิ่นแม้จะสวมเสื้อผ้าธรรมดา แต่ดูแล้วก็สง่างาม ไม่รู้ว่าพ่อเจ้าเป็นใครกัน”เสิ่นผิงกลับส่ายหน้า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านพ่อเป็นใคร ข้าน้อยอาศัยอยู่กับท่านแม่ที่อําเภอไถจิ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0633

    [นี่เป็นขบวนเสด็จของฝ่าบาท พวกเจ้ายังกล้าขัดขวางอีกหรือ?]ส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เปิดม่านรถออกอย่างเงียบๆ และมองออกไปด้านนอกตอนนี้ที่หน้ารถของพวกเขา มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกําลังคุกเข่าอยู่ เป็นธรรมดาที่มีชาวบ้านทยอยกันเดินมาทางนี้ลู่ซิงหว่านตาไว มองปราดเดียวก็เห็นคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุด เป็นชายที่คุยกับพวกเขาเมื่อวาน“เสด็จพ่อ พี่ชาย” ลู่ซิงหว่านชี้นิ้วไปยังคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุดฮ่องเต้ต้าฉู่หันมองลู่ซิงหว่านอย่างสงสัย แล้วมองไปข้างหน้าคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเขาคิดไปคิดมา ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ลุกขึ้นและออกจากรถม้าไป“ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี” ทุกคนคุกเข่าลงและตะโกนถวายบังคมชายที่อยู่ด้านหน้าสุดกลับเอ่ยปากก่อน “ข้าน้อยเสิ่นผิง ถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”พูดจบ เสิ่นผิงก็เงยหน้าขึ้น มองตรงไปที่ฮ่องเต้ต้าฉู่ “ก่อนหน้านี้ที่ฝ่าบาททรงมอบเงินเหล่านั้นให้ข้าน้อย ข้าน้อยก็รู้สึกว่าฝ่าบาทต้องเป็นผู้มีบุญญาธิการแน่นอน นึกไม่ถึงว่าจะเป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน”พูดถึงตรงนี้ เสิ่นผิงก็โขกหัวลงไปอีกครั้ง “ฝ่าบาททรงเมตตากรุณายิ่งนัก เป็นความโชคดีของราษฎรในใต้หล้าเหลือเกินพ่ะย่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0632

    ฮ่องเต้ต้าฉู่จัดการเรื่องนี้เสร็จ ก็เสียเวลาไปบ้าง ได้แต่พักค้างคืนหนึ่งคืนก่อนแล้วค่อยออกเดินทางอีกครั้งในวันถัดไปเท่านั้นค่ำคืนนี้ พวกฮ่องเต้ต้าฉู่กลับไม่ได้ไปพักที่โรงเตี๊ยมหรือเรือนรับรองใดๆ อีก แต่พักอยู่ในที่ว่าการอําเภอโดยตรงตอนนี้ไม่มีงานราชการที่ต้องจัดการ หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว ก็รู้สึกเบื่อมาก“เว่ยเฉิง” ฮ่องเต้ต้าฉู่ชะโงกหน้าไปถาม “ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของอําเภอเทียนจินนี้เป็นอย่างไร?”พูดถึงตรงนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ยืนขึ้น “ไม่สู้เรียกหวงกุ้ยเฟยมาดีกว่า ให้ออกไปเดินเล่นด้วยกัน”บังเอิญจริงๆ ซ่งชิงเหยียนและพรรคพวกก็กําลังเดินมาทางนี้เช่นกัน“นายท่าน” เยวี่ยกุ้ยเหรินเดิมทีก็มีนิสัยร่าเริงอยู่แล้ว เมื่อก่อนอยู่ต่อหน้าฝ่าบาทและพระสนมหวงกุ้ยเฟยยังไม่กล้าปล่อยมากนัก หลายวันมานี้คุ้นเคยกันแล้ว ย่อมมีชีวิตชีวามากขึ้น “พระ...ฮูหยินเรียกข้าออกไปเดินเล่นด้วยกัน นายท่านจะไปด้วยหรือไม่เจ้าคะ?”เมื่อได้ยินสนมเยว่กุ้ยเหรินเรียกซ่งชิงเหยียนแบบนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็อึ้งไปชั่วขณะเขาจับตาซ่งชิงหย่านอย่างว่างเปล่า ราวกับว่าเขาสามารถเห็นใบหน้าของซ่งชิงหย่าผ่านใบหน้าของนางเมื่อฮ่องเต

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status