แชร์

บทที่ 0299

ผู้แต่ง: อันอี่หราน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อเห็นท่าทีของเผยฉู่เยี่ยน ซ่งชิงเหยียนก็อดหัวเราะไม่ได้

นั่นยิ่งทำให้เผยฉู่เยี่ยนใบหน้าแดงก่ำมากขึ้น

จิ่นอวี้พยายามกลั้นยิ้มก่อนจะรับตัวลู่ซิงหว่านกลับมา “ลำบากซื่อจื่อเผยแล้ว”

เมื่อเห็นลู่ซิงหว่านนอนหลับสนิท ทุกคนจึงไม่กล้าพูดคุยอีก นางเซียวสั่งพ่อบ้านให้จัดเตรียมอาหารค่ำไว้ จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายไปยังเรือนของตน

ในขณะที่ซ่งชิงเหยียนกลับติดตามบิดาและพี่ชายไปยังห้องหนังสือ ซ่งชิงฉี่คิดจะเปิดกล่องกระบี่ดู แต่กลับถูกซ่งชิงเหยียนกดมือเอาไว้

ซ่งชิงฉี่เงยหน้ามองดูน้องสาวด้วยความฉงน เห็นแววตานางมีความแน่วแน่

ซ่งชิงเหยียนจึงได้เอ่ยปาก “ท่านพ่อ พี่ใหญ่ ทุกวันนี้จวนติ้งกั๋วโหวอยู่ในแคว้นต้าฉู่ ก็นับว่าเป็นไม้ใหญ่ที่ต้องลมแรงแล้ว”

ได้ยินคำพูดของซ่งชิงเหยียนเช่นนี้ ทั้งคู่ต่างเงียบกริบ

ผ่านไปครู่ใหญ่ ติ้งกั๋วโหวจึงได้เอ่ยปาก “เหตุเพราะข้าเกษียณออกมากระมัง”

“ฝ่าบาทแม้ไม่ใช่ฮ่องเต้ที่มีนิสัยหวาดระแวงผู้อื่น แต่หากบ้านเราถูกปองร้าย แล้วมีคนคอยทูลยุยงใส่ไคล้ทุกวัน ก็เกรงว่าอาจไม่ค่อยดีนัก”

เห็นน้องสาวสีหน้าเคร่งเครียด ซ่งชิงฉี่จึงหันไปมองนาง

“วันหน้าพี่ใหญ่อยู่ในกองทัพ ยังต้องระวังให้มาก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0300

    ทั้งคู่ยังไม่ทันได้เข้าเรือน ด้านหลังก็มีเสียงของพ่อบ้านจ้าวดังแว่วมา “ช้าก่อนท่านรอง”ทุกคนต่างหันไปมองพ่อบ้านจ้าว“ท่านรอง ท่านโหวเชิญท่านไปพบที่ห้องหนังสือ” พ่อบ้านจ้าวคารวะด้วยความนอบน้อม ก่อนจะเอ่ยปาก“ถ้าเช่นนั้น เจ้าพาเยว่เส้ากลับไปก่อนเถิด” ซ่งจางอิงหันไปบอกกัวหรู “พี่ใหญ่คงมีธุระกับข้ากระมัง”ปกติติ้งกั๋วโหวไม่ค่อยจะมายุ่งเกี่ยวกับซ่งจางอิง วันนี้กลับให้เขาไปพบที่ห้องหนังสือ เห็นทีคงมีเรื่องสำคัญเป็นแน่“อาเขยค่อยๆ เดินเจ้าค่ะ” กัวเยว่เส้ารู้ว่าซ่งจางอิงมีงานต้องทำอีก จึงรีบคารวะซ่งจางอิงพยักหน้าแล้วเดินจากไปว่าไปแล้ว เขาไม่ชอบหน้าพี่ภรรยากัวผิงยิ่งนัก เพราะในสายตาเขา กัวผิงได้เป็นถึงราชเลขากรมคลัง เพราะมีเส้นสายคอยผลักดันต่างหากทั่วเมืองหลวงใครๆ ก็รู้ ว่ากัวผิงเป็นศิษย์เอกของเสนาบดีชุย และเสนาบดีชุยก็เป็นคนเสนอชื่อเขาต่อฮ่องเต้เองแม้ว่าตนก็อาศัยอิทธิพลของพี่ชายกว่าจะมีตำแหน่งอย่างทุกวันนี้ แต่ก็ยังไม่ชอบคนเหล่านี้อยู่ดีแต่ก็ยอมรับว่า บุตรสาวของกัวผิงผู้นี้ ได้รับการอบรมสั่งสอนมาดี ทั้งรู้จักวางตัว กิริยามารยาทก็อ่อนโยนน่ารักและเขาก็รู้ถึงจุดประสงค์ที่ฮูหยินพ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0301

    ซ่งจางอิงเพียงแค่ส่ายหัวเล็กน้อยและกล่าวว่า"ข้าไม่เป็นไรหรอก แต่พี่ใหญ่สมควรพักผ่อนบ้าง""สิ่งที่ข้าพูดในวันนี้ก็คือ ถึงแม้ว่าข้าจะลาออกจากตำแหน่ง" ติ้งกั๋วโหวจ้องมองไปที่ซ่งจางอิง"ลูกหลานในบ้านเราหลายคนเป็นขุนนางในราชสำนัก ประจวบกับสถานะของชิงเหยียน บัดนี้จวนโหวจึงอยู่ในจุดที่เป็นเป้าสายตาอันตรายมากที่สุดจริงๆ""ทั้งภายในและภายนอก การกระทำจะต้องถูกต้อง เหล่าพวกบ่าวไพร่ในบ้านก็ต้องถูกควบคุมให้ดี อย่าให้ใครมาจับผิดจวนติ้งกั๋วโหวได้""ยิ่งไปกว่านั้นห้ามรับของขวัญเด็ดขาด"ซ่งจางอิงรู้ดีว่าประโยคสุดท้ายนี้พาดพิงถึงตัวเขา จึงหดคอเล็กน้อย "ทราบแล้วขอรับ พี่ใหญ่""ส่วนครอบครัวสายรองก็เหมือนกัน ครอบครัวสายหลักและครอบครัวสายรองของพวกเราเป็นหนึ่งเดียวกัน มีเกียรติและอับอายร่วมกัน"คำพูดสุดท้ายของติ้งกั๋วโหว ทว่ากลับทำให้ซ่งจางอิงถึงกับนิ่งอึ้งไป เขานึกมาตลอดว่าครอบครัวสายรองเป็นเพียงส่วนประกอบของครอบครัวสายหลักเท่านั้น จะมาพูดถึงการเป็นครอบครัวเดียวกันที่ไหนแต่บัดนี้เมื่อได้ยินคำพูดนี้จากพี่ใหญ่ มันทำให้เขารู้สึกถึงอารมณ์บางอย่างที่เอ่อล้นขึ้นมาในใจ จนถึงกับรู้สึกน้ำตาคลอ ทว่าติ้งกั๋วโ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0302

    ขณะที่ซ่งจางอิงเดินเหม่อลอยเข้าไปในเรือน โดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นกัวอวี๋ที่กำลังรอตัวเขาอยู่ "เกิดอะไรขึ้น?" กัวอวี๋เห็นเขาเป็นเช่นนั้น จึงรีบเดินเข้ามาหา แต่คำตำหนิก็ไม่ได้หลุดออกจากปาก นางรู้ว่าติ้งกั๋วโหวเรียกหาสามีของนาง เพราะเขาคงทำเรื่องผิดอะไรและจะต้องเป็นเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่แน่ๆเพราะว่าติ้งกั๋วโหวมีเมตตาต่อซ่งจางอิงน้องชายผู้นี้มาโดยตลอด หากไม่มีเรื่องสำคัญอะไรจริงๆ ก็คงไม่เรียกตัวเขาไป ซ่งจางอิงราวกับไม่ได้ยินเสียงของกัวอวี๋ ยังคงเดินต่อไปจนกระทั่งมือทั้งสองข้างของกัวอวี๋สัมผัสที่แขนของเขา เขาจึงสะดุ้งได้สติอย่างแรงและหันไปมองกัวอวี๋ "ฮูหยิน"เมื่อเห็นใบหน้าซีดขาวของซ่งจางอิง ในใจของกัวอวี๋ก็ยิ่งเป็นกังวลมากขึ้น ปราศจากท่าทางหยิ่งยโสเหมือนเมื่อก่อน "ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้น?"ซ่งจางอิงไม่พูดอะไร เพียงแค่ตบมือของกัวอวี๋ เพื่อปลอบโยนจนกระทั่งเข้ามาในหห้องตำรา ซ่งจางอิงถึงได้พูดว่า "วันนี้ใต้เท้าจ้าวของราชเลขากรมพิธีการใต้เท้าจ้าวนำดาบเล่มหนึ่งมาให้ข้า ข้าจึงมอบให้พี่ใหญ่ไป"กัวอวี๋ก็ไม่ได้คิดว่ามีปัญหาอะไร การส่งของขวัญระหว่างตระกูลผู้ดีนั้น ก็ถือเป็นเรื่องปกติซ่งจางอ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0303

    ซ่งชิงเหยียนส่ายหัว "ฝ่าบาททราบแค่เพียงมีองครักษ์เงาคอยคุ้มครองข้าก็จริง แต่พระองค์ไม่รู้ว่ามีกี่คนและไม่เคยพบพวกเขา""จิ่นอวี้ก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง ฝ่าบาทอาจจะเข้าใจผิดว่าคนที่คอยคุ้มครองข้าคือนางก็เป็นได้"ติ้งกั๋วโหวพยักหน้า "เจ้าเองควรเตรียมทางหนีทีไล่ไว้ให้ตัวเองบ้าง"ยังไม่รอให้ซ่งชิงเหยียนตอบ พ่อบ้านจ้าวที่อยู่ด้านนอกก็เคาะประตู "นายท่านขอรับ แม่นางจิ่นซินคนสนิทของพระสนมมาขอรับ"เมื่อซ่งชิงเหยียนได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้ามองท่านพ่อและพี่ใหญ่ หมุนตัวออกไปและผลักประตู ทว่ากลับกับจิ่นซินที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล "พระสนมเพคะ องค์หญิงตื่นแล้ว ใครอุ้มก็ร้องไห้งอแง บ่าวถึงได้มาหาพระสนมเพคะ""พวกเรากลับกันเถิด" อย่างไรก็ตามเรื่องทางนี้ก็ได้จัดการเรียบร้อยแล้ว ซ่งชิงเหยียนหันกลับไปมองท่านพ่อ จากนั้นก็ตามจิ่นซินกลับไปที่เรือนอวิ๋นชูเรือนอวิ๋นชูเป็นเรือนที่ซ่งชิงเหยียนเคยพักอาศัยเมื่อตอนอยู่กับครอบครัวเดิม เมื่อซ่งชิงเหยียนมาถึงประตูของเรือนอวิ๋นชู ก็เห็นจิ่นอวี้ที่กำลังอุ้มลู่ซิงหว่านที่กำลังงอแงเดินมาทางประตูซ่งชิงเหยียนได้ยินเสียงลู่ซิงหว่านบ่นพึมพำมาแต่ไกล[ท่านแม่ทิ้งข้าไว้คนเ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0304

    ทันใดนั้นนางก็ลุกขึ้น จากนั้นโผเข้ากอดในอ้อมอกของนางเซียว "พอแล้วๆ" นางเซียวเห็นนางเป็นเช่นนั้น ก็เพียงแค่ลูบหลังของนางเบาๆ "ไม่ชอบแม่พูดมากอีกแล้วใช่ไหม?""ใช่ที่ไหนล่ะเจ้าคะ" ซ่งชิงเหยียนพูดเสียงออดอ้อน แต่ก็ยังคงซุกอยู่ในอ้อมกอดของนางเซียวโดยไม่ยอมลุกขึ้น "เป็นแม่คนแล้วหนา..."นางเซียวยังพูดไม่ทันจบ ซ่งชิงเหยียนก็ลุกขึ้นพรวดอย่างรวดเร็ว "ข้ายังมีอีกเรื่องหนึ่งที่จะบอกท่านแม่เจ้าค่ะ""ท่านแม่ยังจำได้ไหมว่าวันนี้ท่านอารองส่งดาบเล่มนั้นให้ท่านพ่อ?""จำได้สิ" นางเซียวพยักหน้า "ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก น่าจะเป็นดาบที่ดีเล่มหนึ่ง"ถึงแม้ว่านางเซียวจะไม่เข้าใจเรื่องการต่อสู้ แต่สามีผู้แข็งกระด้างของนางผู้นี้ เมื่อก่อนเคยพูดถึงเรื่องราวในสนามรบกับนางเป็นประจำ ดังนั้นนางจึงได้เรียนรู้มาบ้างเล็กน้อยลู่ซิงหว่านที่อยู่ด้านข้างพอได้ยินท่านแม่พูดถึงดาบเล่มนั้น ก็รีบลุกขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมองไปที่ซ่งชิงเหยียนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น [ในที่สุดท่านแม่ก็พูดถึงดาบเล่มนั้นแล้ว หรือว่าแม่จะค้นพบปัญหาที่ซ่อนอยู่ในดาบเล่มนั้นแล้ว?][ดาบเล่มนี้จะเป็นดาบที่มีปัญหาจริงๆ หรื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0305

    นางเซียวถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกจากนั้นซ่งชิงเหยียนก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาอีก จึงทำท่าบ่นพึมพำคนเดียวว่า "แต่เอาจริงๆ ท่านอารองหน้าตาก็ไม่เหมือนท่านปู่เลย สมองก็สู้ท่านพ่อไม่ได้ ลูกที่มาจากพ่อเดียวกัน เหตุใดถึงต่างกันขนาดนี้"ทันทีที่ลู่ซิงหว่านได้ยินคำพูดนี้ก็กระตือรือร้น [เมื่อครู่ข้าได้บอกท่านแม่ไปแล้วไม่ใช่หรือ ว่าเดิมทีซ่งจางอิงผู้นี้ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของท่านปู่ซ่ง จะเหมือนเขาได้อย่างไร!][โอ้ข้าลืมไปว่า นี่เป็นเพียงความคิดในใจของข้าเท่านั้น ท่านแม่คงไม่ได้ยินหรอก!][น่าเสียดาย ข้าต้องพูดให้เป็นได้เร็วๆ หน่อยเถิด!]นี่แหละคือเจตนาของซ่งชิงเหยียน ตัวนางมักจะผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ด้วยความช่วยเหลือจากหว่านหว่าน ดังนั้นเด็กที่ฉลาดเช่นนี้อย่างหว่านหว่าน หากเกิดความสงสัยแล้ว วันข้างหน้าจะไม่เกิดความบาดหมางกับตัวเองหรอกหรือการเล่นละครแบบนี้ อาจช่วยลบความสงสัยของหว่านหว่านได้นางเซียวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จนในที่สุดก็พูดออกมา "เรื่องนี้เป็นเรื่องนานมาแล้ว ในเมื่อเจ้าถาม ข้าก็จะบอกเจ้า""เพียงแต่ห้ามบอกผู้อื่นเด็ดขาด เรื่องนี้ตอนนี้มีแค่ข้ากับท่านพ่อของเจ้ารู้กันสองคนเท่านั้น"

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0306

    วันที่ซ่งชิงเหยียนออกจากวัง ในวังก็เกิดเรื่องขึ้นองค์หญิงใหญ่ที่ไม่ได้เข้าวังมาเป็นเวลานาน ก็ได้เข้าวังในวันนี้ และบังเอิญคลาดกับรถม้าของซ่งชิงเหยียนที่อยู่นอกประตูวังพอดีเรื่องแรกที่เข้าวัง ก็คือมุ่งตรงไปยังตําหนักหรงเล่อ“เสด็จย่า” ลู่ซิงรั่วโผเข้าสู่อ้อมกอดของไทเฮาด้วยความดีใจ “ซิงรั่วไม่ได้พบท่านนานแล้วเพคะ”ทําให้แม่นมซุนที่อยู่ข้างๆ ตกใจ รีบเข้าไปประคององค์หญิงใหญ่ “โอ๊ย องค์หญิงเพคะ ตอนนี้พระองค์ก็ตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว ต้องระวังหน่อยถึงจะได้นะเพคะ”ไทเฮาได้ยินเช่นนั้นก็รีบดึงร่างของลู่ซิงรั่วให้ตรง “เป็นอย่างไรบ้าง? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”องค์หญิงใหญ่กลับเอนกายพิงอกของไทเฮาไม่ยอมลุกขึ้น “ไม่เป็นไรเพคะเสด็จย่า ซิงรั่วย่อมรู้จักหนักเบาเพคะ”“ทําไมวันนี้ถึงมีเวลาเข้าวังล่ะ” ไทเฮาเห็นว่านางไม่เป็นอะไร ก็ช่วยรวบผมที่ข้างขมับให้นางเบาๆ ยิ้มพลางพูดว่า “ไม่ได้เจอเจ้าครึ่งเดือนแล้ว”“หลายวันมานี้แค่รู้สึกว่าร่างกายค่อนข้างหนัก ก็เลยเลี้ยงร่างกายอยู่ที่บ้านน่ะเพคะ” ลู่ซิงรั่วพูดเบาๆ และปลอบโยนไทเฮาอีกครั้ง "เสด็จย่าโปรดวางใจ ตอนนี้หม่อมฉันดีขึ้นมากแล้วเพคะ""ดีจริงๆ เหรอ จะให

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0307

    หลายวันก่อนหลังจากที่องค์หญิงห้าได้รับการสั่งสอนจากเสด็จแม่ของตนแล้ว ก็มีความซื่อสัตย์มากขึ้นมากแล้ว เพียงเข้าไปทักทายอย่างนอบน้อม “พี่หญิงใหญ่เพคะ”องค์หญิงหกก็ทําความเคารพอยู่ข้างๆ อย่างไม่เต็มใจ “พี่หญิงใหญ่เพคะ”ลู่ซิงรั่วไม่มีทางคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กน้อยเหล่านี้อยู่แล้ว เพียงแค่ยิ้มพลางพูดว่า “ตอนนี้พวกเจ้าสองคนรู้ความมากขึ้นแล้ว รีบไปทําความเคารพเสด็จย่าเถอะ ข้าจะออกจากวังแล้ว”เมื่อก่อนตอนอยู่ในวังองค์หญิงใหญ่ดูแลน้องชายน้องสาวเหล่านี้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด เมื่อเห็นนางกําลังจะออกจากวัง ลู่ซิงยุ่นก็ดูเหมือนอาลัยอาวรณ์ไม่น้อย “พี่หญิงใหญ่จะออกจากวังแล้ว”“อืม” ลู่ซิงรั่วก้าวไปข้างหน้าและลูบหัวนาง “รีบกลับไปหาเสด็จย่าพร้อมกับซิงซิงเถอะ”พูดจบก็หันหลังเดินออกไปนอกวังและด้านหลังของนาง ลู่ซิงหุยมองลู่ซิงรั่วด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด ลู่ซิงยุ่นหันกลับมาเห็นสีหน้าขององค์หญิงหก จึงรีบดึงนาง “น้องหก”ลู่ซิงหุยกลับมีความคิดบางอย่างในใจ และไม่ได้พูดกับลู่ซิงยุ่นมากนัก “ท่านไปที่ตำหนักของเสด็จย่าเองเถอะ ข้ายังมีธุระ”พูดจบก็มุ่งหน้าไปตําหนักฉางชิวโดยไม่หันกลับมามองลู่ซิงยุ่นถอนหายใจและม

บทล่าสุด

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0631

    หลังจากมองส่งชายผู้นั้นจากไปแล้ว ความเคร่งขรึมจึงเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮ่องเต้ต้าฉู่ “เว่ยเฉิง ถือป้ายคําสั่ง ไปโยกย้ายทหาร”เว่ยเฉิงกลับเป็นห่วงความปลอดภัยของฮ่องเต้ต้าฉู่“เจ้าแค่ไปก็พอ!” ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับยืนกรานอย่างยิ่ง “ข้างกายข้ามีองครักษ์เงามังกร ไม่เป็นไรหรอก”ดังนั้นในเวลานี้ คนที่เคาะประตูอยู่นอกจวนตระกูลจิ้นก็คือกลุ่มของฮ่องเต้ต้าฉู่เดิมทีเขาอยากจะไปคนเดียว แต่ภายใต้การยืนยันของซ่งชิงเหยียน ในที่สุดก็ไปด้วยกันทั้งสามคนถึงอย่างไรความสามารถในการได้ยินของลู่ซิงหว่านในตอนนี้ก็ยอดเยี่ยมจริงๆ อีกทั้งมีชิงเหยียนอยู่ หากมีอันตรายจริงๆ นางก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เมื่อเห็นคนที่มา ใต้เท้าจิ้นก็ตกใจจนยืนตัวตรง ไม่ได้พูดอะไรอยู่นานทําไมฝ่าบาทถึงกลับมาอีก“ใต้เท้าจิ้น” ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับทําความเคารพใต้เท้าจิ้นอย่างเป็นกลาง “ข้าน้อยลู่เหยา อยากมาทํามาหากินที่อําเภอไถจิน หวังว่าใต้เท้าจิ้นจะสะดวก เงินทองอะไร ล้วนคุยกันได้”ใต้เท้าจิ้นรีบคํานับกลับ เขาจะกล้ารับการคํานับจากฝ่าบาทได้อย่างไรมองซ่งชิงเหยียนที่อุ้มเด็กอยู่ข้างๆ อีกครั้ง คิดว่านี่คงเป็นพระสนมหวงกุ้ยเฟยและองค์หญิ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0630

    “เว่ยเฉิง” ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็รู้สึกไม่สบายใจจริงๆ จึงเลิกม่านรถขึ้นแล้วมองไปที่เว่ยเฉิงที่อยู่ข้างๆ “หาพวกคนบ้านนอกมาสอบถามดูว่าใต้เท้าจิ้นเป็นคนอย่างไรกันแน่”เว่ยเฉิงมองตามสายตาของฮ่องเต้ต้าฉู่ไป จริงดังคาด ตอนนี้ที่นามีราษฎรจํานวนไม่น้อยกําลังไถนาอยู่แม้จะสงสัย แต่ก็รับพระบัญชาจากฝ่าบาทแล้วเดินไปข้างหน้าไม่นานนัก เว่ยเฉิงก็พาคนคนหนึ่งเดินกลับมา “นายท่าน ชายผู้นี้บอกว่ามีเรื่องจะพูด”ชายผู้นั้นคุกเข่าลงด้วยเสียงดัง"ตุบ"[โอ้ แม่เจ้า พื้นที่นี่ไม่เรียบเลยนะ ไม่เจ็บเหรอเนี่ย]“นายท่านท่านนี้คิดว่าคงมาจากเมืองหลวง ไม่ทราบว่านายท่านอยากรู้อะไรหรือขอรับ?”ฮ่องเต้ต้าฉู่ลังเลอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดก็เอ่ยปาก “ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากทําธุรกิจเล็กๆ ที่อําเภอไถจินแห่งนี้ ไม่รู้ว่านายอําเภออย่างพวกเจ้าเป็นอย่างไร ก็เลยอยากลองสอบถามดู”ลู่ซิงหว่านเห็นได้อย่างชัดเจนว่าใบหน้าของน้องชายผู้นั้นมีความผิดหวังอยู่ชั่วขณะหนึ่งเดิมทีเขาคิดว่าคนนี้เป็นขุนนางใหญ่อะไรในเมืองหลวง ได้รับคําสั่งให้มาตรวจสอบใต้เท้าจิ้นนึกไม่ถึงว่าจะเป็นแค่ครอบครัวพ่อค้าเท่านั้น แต่ก็ยังพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “นายท่านดู

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0629

    เสียงของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังมาก ดึงดูดสายตาของผู้คนมาไม่น้อยแม้แต่ลู่ซิงหว่านก็ยังอดหวาดกลัวไม่ได้[โอ้ เสด็จพ่อของข้า ท่านคิดว่ายังอยู่ในวังหรือ? ท่านทําตัวเงียบๆ หน่อยที่ข้างนอกได้ไหม?][ข้ากับท่านท่านแม่ยังอยากกลับไปเมืองหลวงอย่างปลอดภัยนะ][จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา ทําไมต้องตามเสด็จพ่อออกมาด้วย คงไม่ได้ถูกลอบสังหารอีกแล้วใช่ไหม?]ส่วนซ่งชิงเหยียนก็รีบหยิบตะเกียบของตัวเองขึ้นมา คีบอาหารให้ฮ่องเต้ต้าฉู่ “ข้ารู้ว่านายท่านคิดถึงอาหารที่บ้านแล้ว แต่ไม่กินไม่ได้นะเจ้าคะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่เข้าใจความหมายของแม่ลูกคู่นี้ จึงหยิบตะเกียบขึ้นมา ค่อยๆ กินอาหารในจานสนมเยว่กุ้ยเหรินยืนมองอยู่ด้านข้างจนตาค้างใครบอกว่าพระสนมหวงกุ้ยเฟยพระสนมมีนิสัยหยาบกระด้าง เห็นได้ชัดว่านางเป็นคนละเอียดรอบคอบขนาดนี้นางดูเหมือนจะเข้าใจทันทีว่าทําไมนางถึงเข้าวังมาหลายปีและยังไม่ได้รับการแต่งตั้งเลื่อนยศสักทีก็ตัวเองไม่สมควรจริงๆ นั่นแหละ!ทําไมพระสนมถึงได้เก่งขนาดนี้ทางด้านบู๊สามารถนําทหารไปรบได้ ส่วนด้านเหวิน... เหวินสามารถเกลี้ยกล่อมฮ่องเต้ได้ภายหลังฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ได้ส่งเว่ยเฉิงไปตรวจสอบใต้เท้าจิ้นที่อ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0628

    ซ่งชิงเหยียนมองไปที่ฮ่องเต้ต้าฉู่ สีหน้าของเขาดูไม่ดีจริงๆ จากนั้นก็หันหน้าไปตบมือสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ “เป็นเรื่องในอดีตแล้ว ไม่ต้องเอ่ยถึงอีกแล้วล่ะ”“เจ้าสนิทกับเล่อกุ้ยเหรินได้ดีที่สุด ตอนนี้ครรภ์ของนางเป็นอย่างไรบ้าง?”ต้องบอกว่าความกังวลของสนมเล่อกุ้ยเหรินนั้นไม่ผิด สนมเยว่กุ้ยเหรินถือได้ว่าเป็นคนที่ปากไม่มีหูรูดจริงๆ แต่ก็เป็นคนที่ไม่คิดมากสําหรับเรื่องที่ซ่งชิงเหยียนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา นางไม่สนใจแม้แต่น้อย รับเรื่องไว้แล้วก็พูดต่อจุดแรกของพวกเขาอยู่ที่ตําหนักนอกเมืองแห่งหนึ่งที่ชานเมืองฮ่องเต้ต้าฉู่เตรียมที่จะเก็บสัมภาระบางส่วนที่นี่ แล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องแต่งกายของพ่อค้าทั่วไป ค่อยเดินทางลงใต้ต่อไปทางด้านลู่ซิงหว่านอาจอยากลงใต้เพื่อไปเที่ยวเล่น แต่ถึงอย่างไรฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เป็นฮ่องเต้ ความคิดของเขาคืออยากดูว่าการเก็บเกี่ยวของราษฎรในปีนี้เป็นอย่างไร ชีวิตเป็นอย่างไรมากกว่ากลยุทธ์การช่วยเหลือราษฎรที่นําโดยองค์รัชทายาทก่อนหน้านี้ได้บรรลุผลจริงหรือไม่ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อราษฎรสงบสุข ใต้หล้านี้ถึงจะสงบสุขได้หลังจากเดินทางอย่างเรียบง่ายแล้ว ความเร็วของรถม้าก็เร็วขึ้น

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0627

    “คุณหนูเดินทางลงใต้ในครั้งนี้ จึงให้หลานอิ่งและจวี๋อิ่งติดตามไปตลอดทาง” เพราะทุกครั้งที่ซ่งชิงเหยียนออกจากวัง นางมักจะถูกลอบสังหารเสมอ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่าอย่างฮ่องเต้ต้าฉู่ เหม่ยอิ่งจึงไม่วางใจ“ส่วนข้าน้อยก็อยู่ในวัง คอยจับตาดูอยู่ในวังแทนคุณหนู” แทนที่จะบอกว่าจับตาในวัง ไม่สู้บอกว่าจับตาฮองเฮาจะดีกว่า “ไม่ว่าเรื่องอะไร ข้าน้อยจะแจ้งให้คุณหนูทราบทันที”พูดถึงตรงนี้เหมยอิ่งก็หันไปมองจู๋อิ่งอีกครั้ง “สําหรับจู๋อิ่ง เรื่องที่เผยซื่อจื่อถูกลอบสังหารก่อนหน้านี้ ยังคงหาเบาะแสไม่ได้ ถือโอกาสนี้ให้จู๋อิ่งเดินทางไปยังแคว้นต้าหลี่ด้วยตนเอง”ซ่งชิงเหยียนพยักหน้าและพอใจมากกับการจัดการของเหมยอิ่ง[ว้าว เหมยหลานจู๋จวี๋ที่อยู่ข้างกายท่านแม่นี่สิถึงเป็นสี่มหาพิทักษ์][ท่านแม่บอกมาสิว่า สหายเคียงบ่าที่เก่งกาจแบบนี้มีจุดจบหนึ่งศพสองชีวิตในนิทานได้ยังไงล่ะเนี่ย][แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว! ตอนนี้พวกเราเก่งมากเลย!]สองวันต่อมาในตอนฟ้าเพิ่งจะสาง รถของฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เตรียมพร้อมอยู่ที่ประตูวังแล้วพระสนมทั้งหลายย่อมต้องมาส่ง แม้แต่สนมเล่อกุ้ยเหรินและสนมเหยาผินที่กําลังตั้งครรภ์ก็ม

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0626

    สืบไปสืบมา กลับไม่ได้ผลอะไรเลยทางฝั่งตระกูลหาน ไม่ว่าจะเป็นตําหนักชิงอวิ๋น หรือตำหนักหลงเซิง แม้กระทั่งตําหนักจิ่นซิ่วของฮองเฮา ก็ยังส่งของขวัญมากมายไปให้หานซีเยว่ถึงอย่างไรหานซีเยว่ก็เกิดเรื่องในวังหลวง และก็เพื่อซ่งชิงเหยียนด้วยเนื่องจากไม่วางใจ ซ่งชิงเหยียนจึงให้จิ่นอวี้พาฉยงหัวไปที่จวนตระกูลหานอีกครั้ง อย่างไรก็ต้องดูว่าอาการบาดเจ็บของหานซีเยว่หายดีเป็นเช่นไร นางถึงจะวางใจ“ขอบพระทัยในความห่วงใยของพระสนมหวงกุ้ยเฟยเพคะ” ตอนนี้หานซีเยว่ไม่เป็นอะไรแล้ว สีหน้าฮูหยินหานก็ดีขึ้นมากแล้ว “บุตรสาวข้าแค่บาดเจ็บทางผิวหนังเท่านั้น ไม่จําเป็นต้องให้พระสนมก่อความวุ่นวายเช่นนี้”แต่จิ่นอวี้ต้องทําตามคําสั่งของซ่งชิงเหยียน จึงให้ฉยงหัวตรวจดูหานซีเยว่อีกครั้งตอนนี้ทั้งในวังและนอกวังต่างก็รู้ว่าข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟยมีหมอหญิงที่มีความสามารถคนหนึ่ง ฝีมือการรักษายอดเยี่ยมมาก ฮูหยินหานย่อมปรารถนาเป็นอย่างยิ่งไม่นาน ฉยงหัวก็ออกมาจากห้องด้านใน มองไปทางฮูหยินหาน “ตอนนี้คุณหนูหานไม่เป็นอะไรแล้ว แม้มีดสั้นจะปักเข้าไปแล้ว แต่ยังดีที่เส้นเอ็นและกระดูกไม่บาดเจ็บ แค่ครึ่งเดือนนี้ พยายามอย่าให้คุ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0625

    นอกจากตําหนักชิงอวิ๋นที่ยุ่งวุ่นวายแล้ว ย่อมมีตําหนักจิ่นซิ่วที่ยุ่งวุ่นวายตามไปด้วยตอนนี้ทุกคนในตําหนักต่างก็รู้กันหมดแล้วว่าวันนี้คุณหนูตระกูลหานเข้าวังมาเยี่ยมเยียนพระสนมหวงกุ้ยเฟย คิดไม่ถึงว่าจะพบมือสังหารที่นอกตําหนักชิงอวิ๋นแต่คุณหนูตระกูลหานที่ปกป้องพระสนมหวงกุ้ยเฟยอย่างสุดจิตสุดใจ กลับถูกมีดแทงแทนนางโชคดีที่คุณหนูตระกูลหานโชคดีมาก ไม่ได้โดนทําร้ายจุดสําคัญเมื่อได้ยินข่าวนี้ ไป๋หลิงที่กําลังมาพร้อมกับลู่ซิงหุยก็ลุกขึ้นยืนทันที ขมวดคิ้วและมองไปข้างนอกและลู่ซิงหุยก็ตระหนักได้ในทันทีว่านี่เป็นฝีมือของไป๋หลิงจริงๆ นางต้องการแก้แค้นตําหนักชิงอวิ๋นเพื่อตัวเองจริงๆ คิดถึงตรงนี้ ลู่ซิงก็สั่งให้อิงหงออกไป แล้วดึงไป๋หลิงมาอีกครั้ง“พี่หญิงไป๋หลิง” ลู่ซิงหุยลองหยั่งเชิงอย่างเงียบๆ “จะมีใครพบท่านไหม?”ไป๋หลิงกลับตกใจกับคําถามอย่างกะทันหันขององค์หญิงหก มองนางอย่างประหลาดใจ จากนั้นเพียงแค่ยิ้มแล้วย่อตัวลงข้างองค์หญิงหก “องค์หญิงวางใจเถิด ไม่มีใครสืบสาวราวเรื่องได้หรอกเพคะ”พระสนมเต๋อเฟยเคยทิ้งคนกลุ่มหนึ่งไว้เบื้องหลัง ล้วนซ่อนอยู่ในวังหลังแห่งนี้ พวกเจาล้วนไม่มีพ่อแม่ไม่มีอะไรต

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0624

    พอเห็นฉยงหัว รัชทายาทก็รีบก้าวขึ้นไปและถามว่า “แม่นางฉยงหัว ซีเยว่เป็นอย่างไรบ้าง?”เมื่อรู้ว่าซ่งชิงเหยียนเคารพและให้ความสําคัญกับฉยงหัว แม้จะรีบร้อน องค์รัชทายาทก็ยังเกรงใจนางมาก[ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านแม่ ข้าบอกแล้วว่าพี่ฉงหัวเก่งที่สุด!][พี่ฉยงหัวได้ถอนพิษของพี่หญิงตระกูลหานแล้ว แม้แต่บาดแผลก็รักษาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พี่หญิงตระกูลหานพ้นขีดอันตรายแล้ว][แค่รอตื่นมาก็พอ]ซ่งชิงเหยียนและฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินความในใจของลู่ซิงหว่าน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่องค์รัชทายาทกลับไม่ได้ยิน ยังคงมองฉยงหัวด้วยสายตาร้อนแรง รอคอยคําตอบของนาง“ทูลองค์รัชทายาทเพคะ” ฉยงหัวกอดลู่ซิงหว่านแล้วย่อตัวลงเล็กน้อย “แม่นางหานสบายดี ใช้เวลาเพียงหนึ่งก้านธูปก็ตื่นแล้วเพคะ”ซ่งชิงเหยียนก็รีบเข้าไปรับลู่ซิงหว่าน “ฉยงหัว ลําบากเจ้าแล้ว”“พระสนมหวงกุ้ยเฟยเกรงใจแล้ว เป็นหน้าที่ของบ่าวเพคะ” พระสนมหวงกุ้ยเฟยปฏิบัติต่อนางอย่างดีเช่นนี้ นางย่อมต้องตอบแทนอย่างสุดความสามารถเดิมทีฮ่องเต้ต้าฉู่กําลังพูดคุยกับองค์รัชทายาทอยู่ในห้องเรียน และอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ดังนั้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้ พ่อลูกสองคนจึงมา

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0623

    เมื่อรู้สึกถึงความโกรธของฝ่าบาท เมิ่งเฉวียนเต๋อรีบรับคําและหันหลังจากไปส่วนเสิ่นหนิงก็หลบไปหลบมา สุดท้ายก็หนีไม่พ้นความโกรธของฮ่องเต้ต้าฉู่ “ในเมื่อฮองเฮาอยู่ ก็ไม่จําเป็นต้องให้ข้าพูดมาก ในวังหลังเกิดเรื่องวุ่นวายแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าเป็นฮองเฮา ควรทบทวนตัวเองให้ดี”เสิ่นหนิงรู้สึกหมดคําพูดเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับตน ใครใช้ให้นังซ่งชิงเหยียนนี่ล่วงเกินคนอื่นไปทั่ว ทําไมไม่เห็นมีใครมาลอบสังหารคนอื่นเลย!แต่ใบหน้านางกลับทําได้เพียงคุกเข่าลงไปอย่างนอบน้อม “ฝ่าบาทตรัสถูกต้องแล้วเพคะ หม่อมฉันคิดอยู่ว่า ถ้านางกํานัลคนนี้ไม่ใช่คนของวังหลวง ก็แสดงว่าแต่ละตําหนักย่อมมีคนอื่นปะปนเข้ามา”“หม่อมฉันคิดว่าควรตรวจสอบคนรับใช้ทั้งหมดในวังหลัง” พูดถึงตรงนี้เสิ่นหนิงก็หยุดชะงัก “แค่ยุ่งยากนิดหน่อย”ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับเห็นด้วยกับความคิดเห็นของนางอย่างหาได้ยาก “ไปตรวจสอบตอนนี้เลย มีคนตายแล้ว ยังจะพูดว่ายุ่งยากหรือไม่ยุ่งยากอีก”“พระมเหสี” ระหว่างทางที่ออกจากตําหนักชิงอวิ๋น เยว่หรานก็เผยความไม่พอใจต่อฮ่องเต้ “พระมเหสีเหตุใดต้องทนเช่นนี้ด้วยเพคะ”เสิ่นหนิงกลับถอนหายใจยาวช่างเถอะ อดทนอีกไม่กี่เ

DMCA.com Protection Status