Share

บทที่ 0189

Author: อันอี่หราน
แน่นอนว่าราชเลขากรมขุนนางต้องจัดงานปักปิ่นของบุตรสาวตนเองให้ยิ่งใหญ่ เมื่อหลายวันก่อนจึงได้ส่งคำเชิญไปยังตระกูลขุนนางทั้งหลายที่เมืองหลวง

เสิ่นเป่าเยี่ยนจึงได้ตื่นนอนขึ้นมาตั้งแต่เช้าโดยมีสาวรับใช้ข้างกายคอยปรนนิบัติเปลี่ยนชุด และหวีผมให้

“ และตอนนี้ที่โถงด้านหน้าก็ถูกเตรียมเอาไว้จนเพียบพร้อมแล้ว ในยามนี้ใต้เท้าเสิ่นกำลังพาบุตรชายของตนเองมาต้อนรับแขกอยู่ที่ประตูหน้าจวน และในเวลานี้พ่อบ้านก็วิ่งเข้ามาอยู่ที่ข้างกายของใต้เท้าเสิ่นอย่างรีบร้อน “นายท่าน มีคนของพระราชวังมาขอรับ”

ผู้คนพากันตกตะลึงไปชั่วขณะ มีแต่คนเอ่ยว่าคุณหนูตระกูลเสิ่นได้รับความโปรดปรานจากคนในพระราชวัง นึกไม่ถึงว่าแค่งานปักปิ่นธรรมดา ๆ พระราชวังก็ยังส่งคนมา

จิ่นซินพากลุ่มนางกำนัลเดินเข้ามาแต่ไกล ๆ ผู้ที่เคยเห็นพระสนมเฉินกุ้ยเฟยก็แน่นอนว่าจะต้องจำนางได้จึงเอ่ยออกมาอย่างตกใจ “ถึงกลับเป็นแม่นางจิ่นซินคนข้างกายของพระสนมเฉินกุ้ยเฟย”

และจิ่นซินก็คารวะใต้เท้าเสิ่นด้วยมารยาทเพรียมพร้อม

ใต้เท้าเสิ่นจึงรีบเอ่ยด้วยความเกรงใจ “กลับทำให้แม่นางลำบากมาที่นี่แล้ว แน่นางรีบเข้าไปด้านในเถิด”

ในเมื่อจิ่นซินมาก็แสดงถึงหน้าตาของราชวงศ์ด
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Vilaykan Sengxayyasith
เรื่องนี้สนุกมากๆเลยชอบ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0190

    และในยามนี้หลินอินบุตรสาวของรองเสนาบดีกรมขุนนางที่อยู่ในมุม ๆ หนึ่ง แม้ว่าใบหน้าจะมีรอยยิ้มที่ดีอกดีใจประดับอยู่แต่มือทั้งสองข้างกลับกำเข้าหากันแน่น และสายตาทั้งคู่ที่มองไปยังเสิ่นเป่าเยี่ยนก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้นเหตุใดตนถึงได้ต่ำกว่านางขั้นหนึ่งเสมอ ?บิดาของนางคือราชเลขากรมขุนนาง แต่บิดาของตนเป็นเพียงแค่รองเสนาบดีกรมขุนนางตนไปมาหาสู่กับนางตั้งแต่เด็กก็อยู่ต่ำกว่านางหนึ่งขั้น บิดาชอบกำชับตนเองเสมอว่าให้อยู่ร่วมกับเสิ่นเป่าเยี่ยนให้ดี ๆ แต่เสิ่นเป่าเยี่ยนมักจะทำตัวราวกลับว่าเป็นคนใจกว้างอยู่เสมอ แต่เสิ่นเป่าซวงแต่ไหนแต่ไรก็ทำตัวอวดดี และไม่เคยมองตนเองอยู่ในสายตา ตนจะไปอยู่กับพี่สาวน้องสาวสองคนนั้นได้อย่างไร ?อีกอย่าง ทั้ง ๆ ที่ตนชอบหานซีสือก่อน เพียงแต่หานซีสือ และเสิ่นเป่าเยี่ยนได้เจอหน้ากันไม่กี่ครั้งกลับมีความรู้สึกให้กันเสิ่นเป่าเยี่ยนผู้นั้นช่างโชคดีเสียจริง ถึงกลับได้รับพระราชทานสมรสจากฝ่าบาทแล้วตนจะไปแย่งกับนางได้อย่างไร ?คิดได้ถึงตรงนี้ ความคิดชั่วร้ายก็พุ่งขึ้นมาภายในสมองของหลินอิน ถ้าหากว่าเสิ่นเป่าเยี่ยนตายงานสมรสนี้ก็จะเป็นโมฆะในทันที ถึงตอนนั้นตนเองถึงจะแต่งงาน

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0191

    เพียงแต่เขายังพูดไม่ทันจบ กลับถูกพระสนมหนิงเฟยขัดขึ้นกะทันหัน “ไม่ ข้าไม่ได้ลืม”ในขณะที่พระสนมหนิงเฟยกล่าววาจานี้ นางรู้สึกประหม่าจริงๆ หลายวันมานี้นางดื่มด่ำอยู่กับความอ่อนโยนของฮ่องเต้ต้าฉู่ จึงเกิดความรู้สึกหวั่นไหวต่อเขาไปชั่วขณะ นางถึงขั้นคิดว่า มิสู้ให้กำเนิดทายาทและใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่ในวังหลังแบบนี้ต่อไปทว่าชายชุดดำที่ปรากฏตัวออกมาในวันนี้ได้เตือนนางขึ้นมาอีกครั้งว่า นางไม่สามารถมีชีวิตอย่างสงบสุขได้นับตั้งแต่ที่นางเลือกเข้าวังมาในวันนั้น ชีวิตของนางก็ไม่มีทางสงบสุขอีกแล้วฉับพลันในน้ำเสียงก็เย็นชาขึ้นไปหลายส่วน “เจ้าไม่ต้องห่วง เด็กคนนี้ข้าจะจัดการให้เรียบร้อยเอง”เพียงแต่ความเย็นชาของพระสนมหนิงเฟยกลับมิอาจกล่อมชายชุดดำคนนั้นได้ ตรงข้ามยิ่งกระตุ้นทำให้เขาโมโหมากขึ้น ในขณะที่พระสนมหนิงเฟยยังไม่ทันได้ตอบสนอง ก็ถูกเขาบีบกรามแน่น ความเจ็บถาโถมเข้าใส่ตัวพระสนมหนิงเฟยทันที ทำให้นางยื่นมือออกไปดึงแขนของผู้ชายคนนั้น ทว่าการกระทำนี้ กลับยิ่งทำให้เขาโกรธเกรี้ยวมากขึ้น “เสิ่นหนิง!”เขาขานชื่อของพระสนมหนิงเฟยเสียงต่ำ พลางเชยคางพระสนมหนิงเฟยให้สูงขึ้น ก่อนฉีกผ้าคลุมหน้าสีดำของตั

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0192

    เพียงแต่จิ่นซินกล่าวด้วยความทอดถอนใจอีกครั้งว่า “ได้ยินว่าตอนนี้พระสนมหนิงเฟยไม่ยอมออกมาจากในตำหนัก และร้องไห้อย่างเจ็บปวดใจอย่างมาก!”จิ่นอวี้กล่าวคล้อยตาม “เป็นลูกคนแรก พระสนมหนิงเฟยย่อมรู้สึกเสียใจอยู่แล้ว แม้อวิ๋นผิงคนนั้นจะไม่รู้ความ แต่พระสนมหนิงเฟยกลับปฏิบัติดีต่อเรามาตลอด”ลู่ซิงหว่านฟังสองคนนี้คุยกันก็อดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ [ท่านแม่คงไม่คิดแบบนี้หรอกมั้ง? แต่ข้ากลับมองว่าพระสนมหนิงเฟยไม่ใช่คนดีอะไร ท่านแม่อย่าไหลไปตามสาวใช้ทั้งสองของท่านเชียวนะ]แต่พระสนมเฉินกุ้ยเฟยกลับส่ายหน้าอย่างยิ้มๆ “พวกเจ้าสองคน ยังคงมองอย่างตื้นเขินนัก!”คำพูดที่ออกมาจากปาก ยังเทียบกับหวานหว่านที่มองออกไม่ได้เลย แต่จะว่าไปแล้ว หวานหว่านของเราเป็นถึงเซียนตัวน้อยอายุหลายร้อยปีเชียว!จิ่นซินกับจิ่นอวี้กลับยังสงสัยไม่เข้าใจ ทว่าพระสนมเฉินกุ้ยเฟยไม่ได้พูดอะไร แค่สั่งให้จิ่นซินไปเรียกหลานอิ่งมาแล้วสั่งว่า “เจ้าไปจับตาดูทางฝั่งพระสนมหนิงเฟยไว้”เมื่อหลานอิ่งรับคำสั่งเสร็จก็เหาะเหินจากไปแต่จิ่นซินกลับยิ่งไม่เข้าใจ “เหตุใดจู่ๆ พระสนมถึงได้ระวังพระสนมหนิงเฟยขึ้นมาล่ะเพคะ?” “หากอวิ๋นผิงคนนั้นไม่ได้รับก

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0193

    หมอหลวงหลินมองไปทางพระสนมเฉินกุ้ยเฟยอีกครั้ง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พระสนมก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาอีกแล้ว หากพระสนมอยากออกไปเดินข้างนอก ก็สามารถไปได้เลยพะย่ะค่ะ”หมอหลวงหลินสัมผัสได้ถึงความยินดีที่ออกมาจากใจของคนในห้องนี้ได้ ย่อมดีใจแทนพวกนาง “เช่นนั้นกระหม่อมขอตัวลาก่อน บัดนี้พระสนมอาการดีขึ้นแล้ว กระหม่อมจะไปแจ้งฝ่าบาทที่ห้องทรงอักษรเสียหน่อยพ่ะย่ะค่ะ” “ลำบากหมอหลวงหลินแล้ว” พระสนมเฉินกุ้ยเฟยอดแย้มยิ้มขึ้นไม่ได้ก่อนจะจัดแจงเสื้อผ้า แล้วพาลู่ซิงหว่านมุ่งไปยังตำหนักหนิงเหอแม้ฮ่องเต่ต้าฉู่จะรังเกียจพระสนมหนิงเฟยเพราะเรื่องของอวิ๋นผิงเล็กน้อย แต่ทว่าตอนนี้นางสูญเสียลูกคนแรกของตัวเองไป ฮ่องเต้ต้าฉู่เองก็เสียใจอยู่บ้าง จึงมุ่งตรงไปยังตำหนักหนิงเหอ เพื่อปลอบใจนางสักหน่อยแต่กลับเจอเข้ากับพระสนมเฉินกุ้ยเฟยที่ถูกปฏิเสธอยู่นอกประตูเข้าพอดีครั้นเห็นพระสนมเฉินกุ้ยเฟย ฮ่องเต้ต้าฉู่รีบย่างสามขุมเข้าไป ไม่รอให้นางได้ทำความเคารพก็ดึงมือนางขึ้นมา “ได้ยินหมอหลวงหลินบอกว่าตอนนี้เจ้าดีขึ้นมากแล้ว”พระสนมเฉินกุ้ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อน “วันนี้ลุกขึ้นมาตอนเช้าก็รู้สึกว่าร่างกายคล่องแคล่วขึ้นไม่น้อย หม

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0194

    ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ไม่กล้าเข้าไปปลอบอีก ได้แต่เดินตามหลังพระสนมเฉินกุ้ยเฟยและพูดว่า "ชิงเหยียนพูดถูก เจ้าพักฟื้นให้หายดีก่อนเถิด ลูกน่ะต่อไปยังมีใหม่ได้"แต่พระสนมหนิงเฟยกลับไม่ตอบ ยังคงซบไหล่ของพระสนมเฉินกุ้ยเฟยน้ำตาไหลโดยไร้เสียงลู่ซิงหว่านมองฮ่องเต้ต้าฉู่อย่างดูถูกอีกครั้ง[เสด็จพ่อต้องเป็นห่วงนางมากแน่ ๆ เลยใช่ไหม?][น่าเสียดายที่ท่านแม่ของข้าเป็นคนอ่านคนไม่ออกมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เลยดูความรู้สึกสับซ้อนของพวกท่านไม่ออก][ไม่สู้เสด็จพ่อบอกท่านแม่ไปเลยดีกว่า บอกท่านแม่หลบให้หน่อย]คําพูดของลู่ซิงหว่านทำให้พระสนมเฉินกุ้ยเฟยนั่งไม่ติด คิดอยู่ว่าสู้สละที่นั่งให้ฮ่องเต้ต้าฉู่จะดีกว่ากระมัง!แต่นี้ในใจของหวานหว่านตัวเองเป็นคนอ่านคนไม่ออกแบบนี้หรือ?และประโยคนี้ของลู่ซิงหว่านก็ทำลายท่าทีที่อ่อนโยนของฮ่องเต้ต้าฉู่หมดสิ้นเช่นกัน ในห้องเงียบสงักไปชั่วขณะเหลือเพียงเสียงร้องไห้ของพระสนมหนิงเฟยพระสนมหนิงเฟยไม่คิดว่าสองคนนี้จะมาเยี่ยมตัวเองพร้อมกัน บอกว่าจะมาปลอบใจตัวเอง แต่ตอนนี้ทั้งสองกลับมายืนนิ่งกันอยู่ สวรรค์คิดอะไรกันแน่ถึงได้จับสองคนนี้มาอยู่ด้วยกัน!และในตอนนี้บังเอิญเมิ่งฉวนเต๋อก็มา

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0195

    เมื่อนึกมาถึงตรงนี้คิ้วของพระสนมหนิงเฟยก็ยิ่งขมวดแน่นขึ้นอีก นางจึงสั่งให้อวิ๋นจูไปตรวจสอบเรื่องที่พระสนมเฉินกุ้ยเฟยป่วย ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องบังเอิญจริงก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าพระสนมเฉินกุ้ยเฟยแกล้งป่วยเพื่อหลีกเลี่ยงตัวเองจริง ๆ ก็เกรงว่านางจะสงสัยตัวเองแล้ว เช่นนั้นคนคนนี้จะปล่อยไว้ไม่ได้เด็ดขาดแต่พอพระสนมหนิงเฟยเพิ่งใช้ให้อวิ๋นจูออกไป ชุนหลานก็เดินเข้ามาว่าบอกว่า “พระสนม สนมเล่อกุ้ยเหรินมาเพคะ”สนมเล่อกุ้ยเหรินหรือ? พระสนมหนิงเฟยอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วอีกขึ้นมาอีก นางมาทำอะไรนอกจากจากที่ได้คุยกันอยู่บ้างตอนเพิ่งเข้าวัง หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบกันอีกเลยนางเพียงแต่เอ่ยปากบอกอย่างอ่อนแรงว่า “เชิญสนมเล่อกุ้ยเหรินเข้ามาเถอะ”ชุนหลานเป็นคนที่ช่างสังเกตคําพูดและสีหน้าของคนเสมอมา เมื่อเห็นว่าพระสนมหนิงเฟยดูเหมือนจะไม่พอใจ จึงเอ่ยปากถามว่า "ถ้าพระสนมรู้สึกเหนื่อยล้า ให้บ่าวไปไล่เล่อกุยเหรินออกไปก่อนดีไหมเพคะ"พระสนมหนิงเฟยกลับส่ายหัว "ไม่ต้องหรอก"สนมเล่อกุ้ยเหรินเป็นคนตรงไปตรงมามาตลอด นิสัยแบบนี้ถ้าอยู่ที่บ้านตัวเองต้องเป็นที่ชื่นชอบของผู้ใหญ่อย่างยิ่ง แต่ตอนนี้นางแต่งงานแล้ว แล้วยิ่งแต่งเ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0196

    ทางด้านในห้องทรงอักษรตอนนี้ รัชทายาทและเสนาบดีหลินกําลังรอการกลับมาของฮ่องเต้ต้าฉู่ทางด้านฮ่องเต้ต้าฉู่ ในที่สุดก็หนีออกจากตำหนักหนิงเหอได้สักที และกำลังเดินทางไปที่ห้องทรงอักษรระหว่างที่เดินก็ถามเมิ่งฉวนเต๋อไปพลางว่า "เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีเรื่องอันใด?""ได้ยินองค์รัชทายาทบอกว่าเป็นข่าวจากติ๋งกั๋วโหว แต่ไม่ได้บอกรายละเอียด บอกเพียงว่าให้รายงานฝ่าบาท" เมิ่งฉวนเต๋อรีบอธิบายว่า "ฝั่งเสนาบดีหลินเห็นบอกว่าเป็นจดหมายจากแคว้นต้าลี่"ในใจของฮ่องเต้ต้าฉู่ก็จะรู้แล้วว่าเรื่องอะไรจึงก้าวเท้าเร็วขึ้น"เสด็จพ่อพะย่ะค่ะ วันนี้หลังออกจากท้องพระโรงหม่อมฉันได้รับจดหมายลับจากติงกั๋วโหวว่าเหอเหลียนเหรินซินได้ติดต่อเขามา ติ้งกั๋วโหวจึงส่งจดหมายมาถามว่า จะร่วมมือกับเขาหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ" องค์รัชทายาททราบว่าฮ่องเต้งานราชยุ่ง แถมตอนนี้ในวังหลังก็มีเรื่องมากมาย เลยไม่ทำให้เสียเวลา มาถึงก็เข้าเรื่องทันทีฮ่องเต้ต้าฉู่พยักหน้า "เรื่องนี้เจ้าเป็นผู้รับผิดชอบโดยมีอำนาจเต็มมาแต่แรกอยู่แล้ว เจ้าจัดการเองได้เลย"ตอนนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้มอบงานหลายอย่างในมือให้องค์รัชทายาทเป็นคนจัดการ การจัดการงานขององค์รัชทายาทสอดคล

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0197

    "ก็มีแต่ท่านเสนาบดีที่พึ่งพาได้ ถ้าหากได้รับความช่วยเหลือจากท่าน เราสองพี่น้องก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยในแคว้นเยว่เฟิง""ตอนนี้ข้ากับพี่ชายไม่มีข้อเรียกร้องอื่นใด แค่หวังว่าจะได้ใช้ชีวิตที่สงบสุขมั่นคงและมั่งคั่ง"เหอเหลียนจูลี่พูดแค่ไม่กี่คํา เฮ่อปาขุยก็ใจอ่อน เขาดึงนางเข้ามาในอ้อมแขนและพูดอย่างใจกว้างว่า "เจ้าวางใจได้ ในเมื่อเจ้าเป็นผู้หญิงของข้าแล้ว ตอนนี้มีแค่ฮ่องเต้ที่อยู่เหนือข้าเท่านั้น ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าต้องลำบากแน่นอน"เหอเหลียนจูลี่ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา ดวงตาของนางฉายแววคิดร้ายดังนั้นเมื่อตอบคําถามเกี่ยวกับเหอเหลียนเหิงซิน คําตอบของเฮ่อปาขุยก็มีความเห็นแก่ตัวมากขึ้น "ฝ่าบาท แม้ว่าตอนนี้เหอเหลียนเหรินซินจะไม่มีที่พึ่งแล้ว แต่ตอนนี้แผ่นดินสงบสุขดี เราจะใช้กำลังหรือฆ่าฟันเขาไม่ได้แล้ว สู้เอาเขามาทำงานให้ตัวเองดีกว่านะพ่ะย่ะค่ะ"เมื่อได้ยินอย่างนั้นเหอเหลียนเหิงซินก็ขมวดคิ้ว คําพูดนี้ไม่สอดคล้องกับนิสัยที่มุทะลุของลุงเขา จึงเกิดความสงสัยในใจจากนั้นจึงลองใจเขาต่อว่า "แล้วท่านลุงเห็นว่าควรทำอย่างไร?""กระหม่อมคิดว่า ฝ่าบาทน่าจะพระราชทานจวนอ๋องเหรินให้แก่เหอเหลีย

Latest chapter

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0640

    พูดถึงตรงนี้องครักษ์เงามังกรก็ถอนหายใจ “เพียงแต่อีกฝ่ายล้วนเป็นนักรบที่ตายแล้ว ไม่ได้เหลือผู้รอดชีวิตไว้”[แม่เจ้าโว้ย ทหารพลีชีพหนึ่งร้อยคน นี่มันฐานะอะไรเนี่ย][ดูเหมือนว่าชีวิตของเสด็จพ่อมีค่ามากจริงๆ สามารถทําให้อีกฝ่ายส่งทหารพลีชีพได้หนึ่งร้อยคน]เรื่องนี้เป็นไปตามที่คาดไว้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมไม่ตําหนิองครักษ์เงามังกร จึงออกคําสั่งให้คนขับรถม้าเดินทางต่อไป ต้องไปถึงสถานที่ปลอดภัยถึงจะดําเนินการต่อได้ภายในรถม้าก็เงียบกริบเช่นกันในที่สุดสนมเยว่กุ้ยเหรินก็ลองเอ่ยปาก “ฝ่า...นายท่าน ฮูหยิน คือว่า...”ซ่งชิงเหยียนเหมือนเพิ่งนึกถึงสนมเยว่กุ้ยเหรินที่ขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ดึงนางขึ้นมา “วางใจเถอะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ มิน่าเล่าสนมเยว่กุ้ยเหรินถึงอยู่ในวังมาเจ็ดแปดปีก็ไม่มีทายาทสักคน เกรงว่าโอกาสที่ฝ่าบาทจะโปรดปรานนางก็มีน้อยมากในรถม้าคันเดียวมีกันแค่สี่คน ตัวเองยังสามารถลืมนางได้อย่างสนิทใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็จัดเสื้อผ้าให้ตนเอง แล้วอุ้มลู่ซิงหว่านเข้ามาในอ้อมกอดของตน หยอกล้อนางว่า “หวานหว่าน ตกใจหรือเปล่า?”ลู่ซิงหว่านเอื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0639

    เพราะว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก ทุกคนต่างก็เปลี่ยนคําเรียกขานกัน จึงสามารถปกป้องฝ่าบาทได้อย่างทั่วถึง“ปกป้องนายท่าน!” เว่ยเฉิงดึงกระบี่ออกจากฝักกระบี่ของตัวเอง แล้วพูดกับฮ่องเต้ต้าฉู่ที่อยู่บนรถม้า “นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง คนขอวเราข้าล้วนเลือกคนที่มีวรยุทธ์สูงทั้งนั้น ต้องสามารถปกป้องนายท่านและฮูหยินให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอนขอรับ”“ได้” เสียงทุ้มต่ำของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังขึ้น ทําให้เว่ยเฉิงรู้สึกสบายใจขึ้นหลายส่วนซ่งชิงเหยียนก็กุมมือของสนมเยว่กุ้ยเหรินในเวลานี้ และพยักหน้าให้นางเพื่อแสดงให้เห็นว่านางสบายใจได้ลู่ซิงหว่านกลับไม่กลัวอย่างที่สนมเยว่กุ้ยเหรินคิดแม้กระทั่งนางยังตบแขนสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ ปากก็พึมพําว่า “ไม่กลัว”สนมเยว่กุ้ยเหรินรู้สึกอับอายขายหน้าจริงๆ [ว้าว ทําไมมันน่าตื่นเต้นจัง][เสด็จพ่อและท่านแม่ต้องสู้ๆ นะ! เสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฉู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนิทานหรอกหรือ! โชว์ฝีมือให้หวานหว่านดูหน่อย ให้หวานหว่านดูบ้าง!]ซ่งชิงเหยียนกุมหน้าผากอย่างพูดไม่ออกโชคดีที่เป็นเสียงในใจ ฝ่าบาทจึงไม่ได้ยิน หวานหว่านเอ๋ย เจ้ามีกี่หัวให้ถูกตัดกันล่ะเนี่ย!แม้แต่ฮ่องเต้ต้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0638

    ฮ่องเต้ต้าฉู่และคณะเดินทางลงใต้ต่อ แล้วเลือกที่พักต่อไปก่อนออกเดินทาง อัครมหาเสนาบดีและคนอื่นๆ ได้กําหนดสถานที่ตั้งหลักสําหรับฝ่าบาทตามทางแล้ว ล้วนเป็นอำเภอที่เจริญรุ่งเรืองแต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้รูปแบบการเดินทางแล้ว ตอนนี้เป็นการเยี่ยมเยือนส่วนตัวแล้วประการที่สองคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในอําเภอไถจินซึ่งจําเป็นต้องป้องกันดังนั้นฮ่องเต้ต้าฉู่จึงปรึกษากับเว่ยเฉิงและซ่งชิงเหยียน เปลี่ยนเส้นทางและเลือกเมืองอื่นๆ เพื่อพักระหว่างทาง เพื่อสํารวจประเพณีท้องถิ่นดูว่าสถานที่อื่นๆ ก็มีพฤติกรรมที่หลอกลวงและปกปิดเช่นเดียวกับอําเภอไถจินหรือไม่ดังที่หวานหว่านกล่าวไว้ อําเภอไถจินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้ยังเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ แล้วอําเภออื่นๆ ล่ะซ่งชิงเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่ซิงหว่านก็พูดก่อน[ได้สิ ๆ ! ออกมาเที่ยวเล่นก็ต้องเที่ยวเล่นไปทั่วอยู่แล้ว ถ้าทุกที่ถูกคนจับตามองอยู่ จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ][ทําไมไม่ให้ผู้บัญชาการเว่ยเลือกสถานที่เล็กๆ หน่อย พวกเราไปเดินเล่นกัน ยังไงก็ต้องรับรองความปลอดภัยของเสด็จพ่อนะ!][ออกมาห้าวันแล้ว แต่ก็ยังปลอดภัยอยู่ เดิมคิดว่าจะถูกลอบสังหารในวันแรกท

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0637

    “ตอนนี้เกรงว่าพระมเหสีคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสส่งองค์หญิงหกออกจากตําหนักจิ่นซิ่ว” สนมหลานพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งพระสนมหลานเฟยพูดได้ไม่ผิด เดิมทีเสิ่นหนิงก็ไม่ยอมรับองค์หญิงหกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นคนออกปากเอง นางจึงปฏิเสธไม่ได้ไม่สู้ครั้งนี้วางแผนซ้อนแผน ส่งองค์หญิงหกออกไปก็แล้วกันพระสนมหลานเฟยพาจิ่นซินไปที่ตําหนักหรงเล่อแม้แต่ไทเฮาที่อาศัยอยู่ในวังหลังมานานขนาดนี้ เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าของจิ่นซิน ก็อดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวน“จิ่นซิน” ไทเฮาจับมือจิ่นซินปลอบ “พระสนมของเจ้าไม่อยู่ มีเรื่องอะไรเจ้าก็บอกแม่นมซูได้เลย ข้าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง”จิ่นซินกลับมีสมองอย่างหาได้ยาก เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ “บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ ไทเฮาเพคะ จิ่นซินเป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้เป็นนายอารมณ์ไม่ดี จะตีจะด่าสักหน่อยก็สมควรแล้วเพคะ”แม้ว่าไทเฮารู้ว่าคําพูดของจิ่นซินเป็นคําพูดที่สุภาพ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของนาง บวกกับบาดแผลบนใบหน้าของนาง ก็เห็นถึงความอดทนและความคับข้องใจอย่างชัดเจนจึงหันไปมองพระสนมหลานเฟย “ในเมื่อชิงเหยียนไม่อยู่ ช่วงนี้ให้จิ่นซินอยู่ในวังของเจ้าเถอะ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0636

    เมื่อได้ยินจิ่นซินกล้าที่จะเถียงตนเอง องค์หญิงหกก็โกรธทันที“เจ้าคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” องค์หญิงหกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจิ่นซินย่อมคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย แต่ร่างกายยังคงตั้งตรงตอนนี้นางจึงอยู่ในระดับเดียวกันกับองค์หญิงหกองค์หญิงหกรีบก้าวเท้าไปข้างหน้าและตบหน้าจิ่นซินหนึ่งฉาด “เจ้าบ่าวรับใช้บังอาจนัก แม้แต่นายของเจ้ายังไม่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าเถียงข้าหรือ?”พูดถึงตรงนี้ ราวกับไม่คลายความโกรธ หันไปมองอิงหงที่อยู่ข้างๆ อีกครั้ง “ตบปากนางให้ข้าที!”อิงหงกลับขดตัวไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าถึงอย่างไรจิ่นซินก็เป็นคนข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟย แม้ว่านายของนางจะเป็นองค์หญิงหก แต่ว่า...เมื่อเห็นอิงหงไม่ขยับตัว องค์หญิงหกก็ยื่นขาออกไปเตะที่ขาของนาง “เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ?”อิงหงกัดฟัน ในที่สุดก็เดินมาตรงหน้าจิ่นซินแล้วเริ่มลงมือเมื่อเห็นใบหน้าของจิ่นซินแดงและบวมขึ้นในที่สุด องค์หญิงหกจึงเอ่ยปากให้อิงหงหยุดมือ แต่ยังคงไม่คลายความโกรธ “เจ้าคุกเข่าตรงนี้ให้ข้าสองชั่วยาม หากคุกเข่าไม่ถึงสองชั่วยาม ข้าจะตบเจ้าอีก!”พูดจบก็พาอิงหงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองในเวลานี้อวิ๋นหลานที่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0635

    พูดจบก็ยิ้มให้เสิ่นผิงอีก “การสอบระดับกลางปีหน้า ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่เมืองหลวง”ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ แต่คนนี้ ในเมื่อหวานหว่านบอกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เมื่อพบแล้ว ก็ไม่อาจไม่ยุ่งได้พูดจบก็เดินก้าวยาวๆ ออกไปเสิ่นผิงเพิ่งได้สติหลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่จากไปแล้ว “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ทําเรื่องใหญ่อีกครั้ง ในใจย่อมมีความสุขมากคนทั้งกลุ่มจึงเก็บสัมภาระอีกครั้งและเดินทางต่อฮ่องเต้ต้าฉู่เดินเที่ยวชมวิวตลอดทาง มีความสุขมากแต่หลังจากที่เขาจากไป ในวังก็มีคนก่อความวุ่นวายขึ้นคนแรกที่ก่อความวุ่นวายขึ้นก็คือองค์หญิงหกที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในวังจิ่นซิ่วจิ่นซินอยู่ในตําหนักชิงอวิ๋นเพียงลําพัง ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทํา ทั้งวันจึงไม่มีอะไรทําดังนั้นวันนี้ ตําหนักชิงอวิ๋นกลับมีคนที่จิ่นซินคาดไม่ถึงคนหนึ่งมา อวิ๋นหลานเมื่อเห็นอวิ๋นหลานมา จิ่นซินก็รีบเข้าไปต้อนรับ “พี่หญิงอวิ๋นหลานมาได้อย่างไรกัน?”จะว่าไปตําหนักจิ่นซิ่วกับตําหนักชิงอวิ๋นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งต่อหน้าอะไรกันแต่จิ่นซินและจินอวี้ในตําหนักชิงอวิ๋นต่างก็รู้ว่าเมื่อฮองเฮายังเป็นพ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0634

    เขาเป็นฮ่องเต้และเข้าใจวิธีการใช้คนเป็นอย่างดีคนอย่างเสิ่นผิงเป็นดาบที่แหลมคม ต้องให้ผู้ถือดาบควบคุมให้ดีเรื่องต่อไปนั้นง่ายมากฮ่องเต้ต้าฉู่สั่งให้เว่ยเฉิงออกหน้าเพื่อปลอบขวัญราษฎรทั้งหมด ส่วนตัวเขาเองก็พาเสิ่นผิงกลับไปที่จวนนายอำเภออีกครั้งครั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงตั้งใจพาลู่ซิงหว่านมาอยู่ข้างกายถึงอย่างไรเขาก็มีความคิดแบบนี้มานานแล้ว อยากจะพาลู่ซิงหว่านไปประชุมเช้าด้วยแต่เมื่อนึกถึงคนแก่คร่ำครึกลุ่มนั้น เพื่อลดความยุ่งยากให้กับลู่ซิงหว่านและซ่งชิงเหยียนสองแม่ลูก ในที่สุดเขาก็ยกเลิกความคิดนี้แต่ตอนนี้อยู่ข้างนอกมันไม่เหมือนกันแล้ว สิ่งที่ควรใช้ก็ต้องใช้ให้ดีเมื่อเห็นฮ่องเต้ต้าฉู่กําลังอุ้มเด็กคนหนึ่ง เสิ่นผิงก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นฮ่องเต้ เขาเป็นแค่ข้าน้อยธรรมดาคนหนึ่ง จะกล้าเอ่ยปากได้อย่างไรจนกระทั่งทั้งสองนั่งลง ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงเอ่ยปากถามว่า “คุณชายเสิ่นแม้จะสวมเสื้อผ้าธรรมดา แต่ดูแล้วก็สง่างาม ไม่รู้ว่าพ่อเจ้าเป็นใครกัน”เสิ่นผิงกลับส่ายหน้า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านพ่อเป็นใคร ข้าน้อยอาศัยอยู่กับท่านแม่ที่อําเภอไถจิ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0633

    [นี่เป็นขบวนเสด็จของฝ่าบาท พวกเจ้ายังกล้าขัดขวางอีกหรือ?]ส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เปิดม่านรถออกอย่างเงียบๆ และมองออกไปด้านนอกตอนนี้ที่หน้ารถของพวกเขา มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกําลังคุกเข่าอยู่ เป็นธรรมดาที่มีชาวบ้านทยอยกันเดินมาทางนี้ลู่ซิงหว่านตาไว มองปราดเดียวก็เห็นคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุด เป็นชายที่คุยกับพวกเขาเมื่อวาน“เสด็จพ่อ พี่ชาย” ลู่ซิงหว่านชี้นิ้วไปยังคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุดฮ่องเต้ต้าฉู่หันมองลู่ซิงหว่านอย่างสงสัย แล้วมองไปข้างหน้าคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเขาคิดไปคิดมา ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ลุกขึ้นและออกจากรถม้าไป“ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี” ทุกคนคุกเข่าลงและตะโกนถวายบังคมชายที่อยู่ด้านหน้าสุดกลับเอ่ยปากก่อน “ข้าน้อยเสิ่นผิง ถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”พูดจบ เสิ่นผิงก็เงยหน้าขึ้น มองตรงไปที่ฮ่องเต้ต้าฉู่ “ก่อนหน้านี้ที่ฝ่าบาททรงมอบเงินเหล่านั้นให้ข้าน้อย ข้าน้อยก็รู้สึกว่าฝ่าบาทต้องเป็นผู้มีบุญญาธิการแน่นอน นึกไม่ถึงว่าจะเป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน”พูดถึงตรงนี้ เสิ่นผิงก็โขกหัวลงไปอีกครั้ง “ฝ่าบาททรงเมตตากรุณายิ่งนัก เป็นความโชคดีของราษฎรในใต้หล้าเหลือเกินพ่ะย่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0632

    ฮ่องเต้ต้าฉู่จัดการเรื่องนี้เสร็จ ก็เสียเวลาไปบ้าง ได้แต่พักค้างคืนหนึ่งคืนก่อนแล้วค่อยออกเดินทางอีกครั้งในวันถัดไปเท่านั้นค่ำคืนนี้ พวกฮ่องเต้ต้าฉู่กลับไม่ได้ไปพักที่โรงเตี๊ยมหรือเรือนรับรองใดๆ อีก แต่พักอยู่ในที่ว่าการอําเภอโดยตรงตอนนี้ไม่มีงานราชการที่ต้องจัดการ หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว ก็รู้สึกเบื่อมาก“เว่ยเฉิง” ฮ่องเต้ต้าฉู่ชะโงกหน้าไปถาม “ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของอําเภอเทียนจินนี้เป็นอย่างไร?”พูดถึงตรงนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ยืนขึ้น “ไม่สู้เรียกหวงกุ้ยเฟยมาดีกว่า ให้ออกไปเดินเล่นด้วยกัน”บังเอิญจริงๆ ซ่งชิงเหยียนและพรรคพวกก็กําลังเดินมาทางนี้เช่นกัน“นายท่าน” เยวี่ยกุ้ยเหรินเดิมทีก็มีนิสัยร่าเริงอยู่แล้ว เมื่อก่อนอยู่ต่อหน้าฝ่าบาทและพระสนมหวงกุ้ยเฟยยังไม่กล้าปล่อยมากนัก หลายวันมานี้คุ้นเคยกันแล้ว ย่อมมีชีวิตชีวามากขึ้น “พระ...ฮูหยินเรียกข้าออกไปเดินเล่นด้วยกัน นายท่านจะไปด้วยหรือไม่เจ้าคะ?”เมื่อได้ยินสนมเยว่กุ้ยเหรินเรียกซ่งชิงเหยียนแบบนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็อึ้งไปชั่วขณะเขาจับตาซ่งชิงหย่านอย่างว่างเปล่า ราวกับว่าเขาสามารถเห็นใบหน้าของซ่งชิงหย่าผ่านใบหน้าของนางเมื่อฮ่องเต

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status