อิทัง เม ญาตินัง โหนตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าเถิด ขอญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุขด้วยเถิด
สาธุ
หญิงสาวในชุดผ้าถุงเสื้อลูกไม้สีขาวดูดีมีระเบียบเหมาะสำหรับการเข้าไปนั่งฟังธรรมในเขตอภัยทานใกล้บ้าน หญิงสาววางที่กรวดน้ำลงสองฝ่ามือเรียวพนมไหว้หลังจากเธอได้กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับสามีที่ล่วงลับไปนานหลายปีอีกทั้งบิดามารดาที่ด่วนจากลาขึ้นไปอยู่บนสวรรค์กันหมด
"จะกลับแล้วเหรอนารี ไม่อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนหรือลูก"เสียงของคนในหมู่บ้านดังขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวกำลังจัดข้าวของใส่ตะกร้าเตรียมตัวพร้อมจะกลับบ้าน วันนี้เป็นวันพระใหญ่ชาวบ้านจะนัดรวมตัวกันมาทำบุญซึ่ง'นารี'ก็คือหนึ่งในนั้น
"วันนี้จะมีพ่อค้ามาดูผลทุเรียนจ้ะป้าว่ามันจะตัดขายได้หรือเปล่า ฉันเลยต้องรีบกลับขอโทษด้วยนะจ๊ะที่ไม่ได้อยู่ทานข้าวด้วย"
"ไม่เป็นอะไรถ้าอย่างนั้นเอ็งไปเถอะ"
"ฉันไปก่อนนะจ๊ะป้า"นารีกล่าวลาคนบนศาลา ก่อนเธอจะเดินลงมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มหลังจากที่เธอได้ทำบุญอุทิศกุศลส่วนบุญไปให้กับผู้ที่ล่วงลับไปนาน
กริ๊ง กริ๊ง
เสียงแตรจักรยานคันเก่าดังขึ้นไปตลอดถนนสายหลัก ใบหน้าอ่อนหวานมีเสน่ห์ของนารีส่งยิ้มทักทายให้กับคนรู้จักตลอดทั้งเส้นทาง
"อ้าว หนูนารีกลับมาจากวัดแล้วเหรอจ๊ะ"
"จ้ะป้า หนูไปทำบุญให้พ่อกับแม่และพี่เข้มมา"นารีชะลอรถจักรยานเทียบกับส่วนยางพาราของป้ายุพินซึ่งห่างออกไปเพียงไม่ถึงหนึ่งกิโลก็จะถึงสวนยางพาราของเธอซึ่งตอนนี้คงมีเหล่าบรรดาลูกจ้างกำลังเก็บน้ำยางสดเตรียมเอาไปขาย
"หนูนารีนี่เป็นคนดีจริง ๆ ยังสาวยังแซ่แต่พอถึงวันพระทีไรก็มักจะเข้าวัดทำบุญไม่เหมือนเด็กสาวสมัยนี้ที่เอาแต่เที่ยวเล่นไม่สนใจงานไม่สนหลักสอนของพระพุทธศาสนา"
"..."
"ป้าได้ข่าวว่านางต้นอ้อมันกำลังจะแต่งงานเรอะ ไปได้ผัวอยู่กรุงเทพคงจะสบายมากเลยสินะ"
"ก็คงจะเป็นอย่างนั้นจ้ะป้า เห็นว่าจะลงมาหาหนูจะเอาการ์ดแต่งงานมาแจกอยู่เหมือนกัน"
"มันไปได้ผัวรวยป้าก็ดีใจกับมัน ตั้งแต่ที่แม่กับพ่อของมันตายมันก็กลายเป็นคนปากกัดตีนถีบตั้งแต่ยังเล็ก"นารีพยักหน้าเห็นด้วย ชีวิตของต้นอ้อปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อย ซึ่งในตอนนั้นชีวิตของเธอกับต้นอ้อก็ไม่ต่างกันจนถึงวันที่สองเพื่อนสนิทต่างจะต้องพากันแยกย้ายเดินตามเส้นทางที่สวรรค์ลิขิตเอาไว้
หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกต้นอ้อตัดสินใจกำเงินก้อนสุดท้ายเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อไปหางานทำหลังจากสูญเสียครอบครัวซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายอย่างมารดาไปด้วยโรคชรา
'ติดต่อกลับมาหากันบ้างนะ'น้ำเสียงสั่นเครือของนารีดังขึ้น สองเพื่อนสนิทยืดกอดร่ำลากันอยู่ที่ชานชาลารถไฟ ใบหน้าของสองเพื่อนซี้เพื่อนสนิทเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาเมื่อต้นอ้อตัดสินใจลาบ้านเกิดจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีหนีความลำบากมุ่งหน้าไปหางานทำในเมืองกรุงศรีวิไล
'ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ลืมแกเลยนารี แกเป็นทั้งเพื่อนและเป็นผู้มีพระคุณกับชีวิตของฉัน'นารีพยักหน้า เธอล้วงบางสิ่งบางอย่างออกมาจากที่ซ่อนเอาไว้ ต้นอ้อน้ำตาไหลเมื่อเพื่อนสนิทหยิบเงินแบงก์ร้อยหลายใบยัดใส่ฝ่ามือของเธอไว้
'เก็บเงินนี่ไว้นะ นี่เป็นเงินเก็บที่ฉันไปรับจ้างเก็บน้ำยางมา ฉันให้แกเอาไปไว้ใช้'
'ไม่ ฉันรับไว้ไม่ได้'
'รับไว้เถอะ เงินนี้ฉันตั้งใจจะมอบมันให้แก'ต้นอ้อส่ายหน้าน้ำตาไหลพรากก่อนเธอจะพุ่งเข้าไปกอดเพื่อนรัก
'ดูแลตัวเองให้ดี ๆ ด้วยนะ แล้วก็อย่าลืมเขียนจดหมายส่งมาหาฉันบ้าง ฉันยังเป็นเพื่อนรักของแกเสมอ ต้นอ้อ'
'ฉันก็รักแก นารี เพื่อนรัก'หลังจากนั้นเป็นต้นมา นารีกับต้นอ้อก็ไม่เคยได้ติดต่อกันเพราะต่างฝ่ายต่างยุ่งอยู่กับการดิ้นรนใช้ชีวิตของตนเอง
นารีเด็กสาวมีใบหน้าและผิวพรรณสะสวยเธอได้ตกลงปลงใจคบหาและอยู่กันกับสามีอย่างเข้มเป็นเวลาสามปีหลังจากที่เธอเรียนจบมหาวิทยาลัย แต่ชีวิตคู่ของเธอชั่งโชคร้ายเมื่อสามีอย่างเข้มต้องมาประสบอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งเสียหลักเสียชีวิตคาที่ ทำให้นารีที่ยังสาวยังแซ่ต้องกลายมาเป็นแม่หม้ายสาวจนถึงทุกวันนี้
"นี่ค่ะคุณนารี ค่าน้ำยางสำหรับเดือนนี้"หลังจากที่นารีจูงรถจักรยานเข้ามาจอดใต้ถุนของบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ ลูกน้องที่เธอจ้างมาเก็บน้ำยางในสวนยางของเธอก็เดินดิ่งตรงมาพร้อมกับยื่นเงินในส่วนของเธอให้
"ขอบใจมากนะจ๊ะ แล้วนี่จะกลับกันแล้วเหรอ"
"จ้ะ"
"เงาะกับมังคุดที่ฉันเอาใส่ถุงเตรียมเอาไว้เอาใส่รถไปแล้วใช่ไหม"
"เอาไปแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ"
"ไม่เป็นไรจ้ะ เดินทางกลับดี ๆ นะ"ลูกจ้างยกมือขึ้นพนมไหวก่อนจะโบกมือลา
นารีถือตะกร้าที่ใส่ปิ่นโตเดินมานั่งยังแคร่ไม้ไผ่ซึ่งอยู่ใต้ถุนบ้าน สายตาก้มมองเงินก้อนใหญ่ในมือซึ่งเป็นรายได้ของการขายน้ำยางพาราในเดือนนี้
หลังจากที่เข้มสามีของเธอได้ด่วนจากไปเขาได้ทิ้งทรัพย์สินซึ่งเป็นบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ อีกทั้งยังมีสวนยางพาราและสวนผลไม้ไว้ให้ไม่ทำให้นารีเมียรักต้องไปตกระกำลำบาก เงินจากการขายน้ำยางในแต่ละเดือนทำให้นารีมีกินมีใช้ไม่ขัดสนและไหนจะยังสวนผลไม้ซึ่งตอนที่สามีอยู่เขาได้ปลูกต้นทุเรียนเอาไว้หลายสิบต้นจนมันเกิดเป็นผลผลิตให้เธอเอาไว้ขายพอให้เธอได้มีเงินเก็บออมเอาไว้
แม้นารีจะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวดำรงการใช้ชีวิตอย่างเศรษฐกิจพอเพียงแต่น้อยนักที่จะรู้ว่าเธอก็คือเศรษฐินีดี ๆ คนหนึ่งนี่เอง
ครืด ครืด
เสียงมือถือที่ดังขึ้นทำให้นารีสะดุ้งหลุดออกจากห้วงภวังค์ความคิด ใบหน้าสวยสะคราญตายิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรมา
"สวัสดีจ้ะต้นอ้อ เดินทางเป็นยังไงบ้าง"
"ก็ดี แต่เมื่อก้นเป็นบ้า"
"แล้วนี่ถึงไหนกันแล้ว"
"อยู่เพชรบุรี กำลังจะแวะซื้อขนมหม้อแกงไปฝากคนสวยแถวนั้น อาจจะถึงบ้านแกตอนใกล้ค่ำ"
"พอดีเลย เดี๋ยวฉันจะเตรียมมือเย็นเอาไว้ให้อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม"
"อาหารทุกอย่างที่แกเป็นคนทำฉันกินได้หมด จริงด้วยสิ ทำอาหารรสชาติอ่อน ๆ ไว้สักสองสามอย่างด้วยนะ เผื่อว่าหนุ่ม ๆ เขาจะทานไม่ได้"หญิงสาวไม่ลืมแบ่งปันน้ำใจให้กับสองพี่น้องที่ติดสอยห้อยตามเธอมาด้วย
"ได้สิ แค่นี้ก่อนนะพอดีว่าพ่อค้าที่เขาจะม
าติดต่อขอซื้อทุเรียนมากันแล้ว"
"โอเค"
ใบหน้าของนารีเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นพ่อค้ารับซื้อทุเรียนเดินลงมาจากรถ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเธอกำลังจะได้รับเงินจากผลผลิตของทุเรียนในปีนี้จำนวนหลายบาทกันเลยทีเดียว"ยิ้มหวานมาแต่ไกลแบบนี้ผมก็ละลายแย่เลยสิครับ""คุณเสกก็พูดไปเรื่อย ว่าแต่ราคาทุเรียนช่วงนี้เป็นยังไงบ้างคะ""ช่วงนี้ราคากำลังคงที่ครับ กิโลร้อยยี่สิบจากสวน ไม่ทราบว่ารอบนี้คุณนารีจะขายแบบกิโลหรือว่าจะให้ผมรับเหมาดีครับ""ลองคำนวณกันก่อนดีกว่าค่ะ ทุเรียนปีนี้ดันติดผลเยอะเสียด้วยสิ"นี่คงเป็นทางออกที่ดีสำหรับทั้งสองฝ่ายซึ่งคำตอบในการซื้อขายผลทุเรียนในปีนี้เป็นที่น่าพอใจ นารีมองเอกสารการซื้อขายในมือตัวเลขจำนวนเจ็ดหลักทำให้เธอมีกำลังใจหายเหนื่อยจากการบำรุงรักษามันมาเป็นอย่างดี"ผมจะเริ่มตัดวันนี้เลยนะครับ ช่วงนี้มีหลายรายที่ผมไปมัดจำเอาไว้""ได้เลยค่ะ"นารีพยักหน้าเธอหันไปมองลูกน้องของพ่อค้าทุเรียนซึ่งกำลังทยอยเดินลงมาจากรถพร้อมกับอุปกรณ์การเก็บเกี่ยวผลทุเรียนหมับ"อื้อ คุณเสกคะ อย่าค่ะ"ริมฝีปากของนารีสั่นระริกทันทีเมื่อปลายจมูกคมของพ่อค้าซื้อทุเรียนกำลังซุกไซร้ซอกคอขาวของเธอ บรรยากาศโดยรอบเงียบวังเวงเมื่อลูกน้องของพ่อค้าซื้
บรืนปึก"นารี""ต้นอ้อ"สองเพื่อนสาวต่างโผเข้ากอดกันด้วยความคิดถึงทันทีเมื่อรถคันหรูของอัคคีเล่นเข้ามาจอดอยู่ตรงหน้าบ้านเรือนไทย ต้นอ้อดีใจจนเนื้อเต้นเธอรีบเปิดประตูลงมาจากรถเมื่อเห็นว่านารีเพื่อนสนิทสมัยเด็กกำลังยืนรอเธออยู่ตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน"ฮึก คิดถึง คิดถึงมาก""คิดถึงเหมือนกัน ไม่เอาสิไม่ร้อง"นารีดันร่างเล็กของเพื่อนรักออก เธอบรรจงเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของต้นอ้อด้วยความอ่อนโยนอย่างเบามือ แต่ดูเหมือนว่าเธอยิ่งเช็ดสักเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ยิ่งปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาไม่หยุด จนอัคคีว่าที่สามีของต้นอ้อต้องรีบเดินมาดูแลว่าที่ภรรยา"ตัวเล็กหยุดร้องไห้ก่อนนะครับคนดี""ฮึก ก็คนมันคิดถึงเพื่อนนี่คะ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี"ต้นอ้อปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวก ๆ ก่อนเธอจะหันมาแนะนำสามีและพี่ชายของสามีให้เพื่อนรักอย่างนารีได้รู้จัก"นารี นี่คุณอัคคีว่าที่เจ้าบ่าวของเราเอง""สวัสดีค่ะคุณอัคคี""สวัสดีครับ"นารียิ้มทักทายชายหนุ่มร่างสูงใหญ่มีใบหน้าหล่อเหลาพ่วงตำแหน่งว่าที่สามีเพื่อนด้วยความเป็นมิตร ซึ่งอัคคีเองก็หันมาส่งยิ้มทักทายด้วยความเป็นมิตรเช่นเดียวกัน"ส่วนคุณคนนั้นคือคุณเมฆา พี่ชายของคุณอัคคี"แววตาอ่
"ดูเหมือนว่านารีจะสนิทสนมกับผู้ชายคนนั้นจังเลยนะ"ต้นอ้อเปิดปากถามขึ้นทันทีหลังจากนารีเดินกลับมาร่วมรับประทานอาหาร ใบหน้าสวยมีรอยยิ้มสร้างความขุ่นเคืองให้ชายหนุ่ม เมฆามองหน้าสวยของนารีอย่างไม่ละสายตา"คุณเสกเขามาติดต่อขอซื้อทุเรียนกับเราหลายปีแล้วล่ะ ตั้งแต่พี่เข้มยังไม่เสียเลยด้วยซ้ำ""มิน่า ถึงได้ดูสนิทกัน ว่าแต่เรื่องพี่เข้มฉันเสียใจกับแกด้วยนะ""ขอบใจมากนะ"นารีหันมาตักอาหารใส่จานของเธอ อีกทั้งยังแบ่งปันไปถึงจานอาหารของเมฆา"ทานเยอะ ๆ นะคะ ในครัวยังมีอีกเยอะ"เพียงแค่ได้ยินน้ำเสียงอ่อนหวานจากเธอก็ทำให้เขาใจอ่อนยวบอย่างน่าอัศจรรย์ ความขุ่นเคืองในเมื่อครู่นั้นหายเป็นปลิดทิ้งต้นอ้อหันมามองหน้าสามีเมื่อต้นขาของเธอได้รับแรงสะกิด อัคคีส่งสายตาให้เธอมองไปยังใบหน้าของเมฆาที่ดูเปลี่ยนไปเมื่อเห็นว่านารีหันมาเอาใจใส่"ห้องน้ำ อยู่ด้านล่างนะต้นอ้อ แกอาบได้ใช่ไหม""ฉันสบายมาก""ดีแล้วล่ะ ว่าแต่แกจะเอาผ้าถุงไหมฉันจะได้ไปเอามาให้""ก็ดีเหมือนกัน"นารีเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเองก่อนจะกลับออกมาอีกครั้งพร้อมกับผ้าถุงสีสดมีลวดลายสวยงาม "ขอบใจมากนะ"ต้นอ้อยื่นมือไปรับ พลางจัดเก็บเสื้อผ้าที่ขนมาจากก
ภายในห้องน้ำใต้ถุนบ้านในยามพลบค่ำมีสองร่างของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังโอบกอดกัน ร่างกายของทั้งคู่นั้นแนบชิดอิงกายจนแทบไม่มีช่องว่างให้ลมผ่าน เสียงกระสันซ่านยามเมื่อทั้งคู่ขยับกายเข้าหากันดังเล็ดลอดออกมาจากห้องน้ำตับ! ตับ! ตับ!สองฝ่าเท้าของนารีซึ่งกำลังเดินลงบันไดมาหยุดชะงัก บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัดทำให้เธอได้ยินเสียงอันน่าอัศจรรย์ซึ่งดังมาจากภายในห้องน้ำได้อย่างชัดเจน"อ๊าส์ ต้นอ้อ""อื้อ เบา ๆ สิคะคุณอัคคี เดี๋ยวก็มีใครผ่านมาได้ยิน"น้ำเสียงแหบพร่าของหญิงสาวเอ่ยปรามเพราะกลัวว่าพี่ชายของสามีและเพื่อนสาวของเธอจะเดินมาได้ยิน แต่ดูเหมือนว่ามันคงจะไม่ทันการเมื่อในตอนนี้นั้นนารีกำลังยืนหน้าแดงก่ำอยู่ตรงตีนบันไดเสียงครางกระสันทำให้ร่องกลางกายของเธอเริ่มผลิตน้ำหวานออกมา ใบหน้าสวยแดงซ่านความต้องการตีตื้นขึ้นมาจุกอก นารีสะบัดศีรษะเธอโอบผ้าถุงเอาไว้สองฝ่าเท้าเรียวรีบใส่รองเท้าก่อนเธอจะก้าวไปยังห้องน้ำซึ่งทำด้วยสังกะสีที่อยู่ใกล้กับสวนผลไม้"อ๊าส์"นารีไม่รอช้าเมื่อเธอก้าวขาเข้ามาอยู่ในห้องน้ำ หญิงสาวรีบปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างกาย เต้านมขนาดใหญ่ลอยเด่นยามเมื่อเธอถอดเสื้อตัวสวยออกตามด้วยผ้าถุงลาย
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ"ต้นนี้หมดแล้วครับคุณนารี"เสียงเข้มของคนงานตัดทุเรียนดังขึ้นมาจากบนต้นทุเรียน นารีเงยหน้ามองพลางใช้หลังมือปาดเหงื่อตามกรอบหน้าสวยก่อนจะวางกระสอบสีน้ำตาลเข้มลงกับพื้นวันนี้เธอตื่นแต่เช้าตรู่และไม่รอช้ารีบต่อสายให้คนงานกรีดยางมาช่วยตัดทุเรียนโดยมีเธออาสาเป็นคนยืนรับลูกทุเรียนอยู่ใต้โคนต้น ทุเรียนจำนวนหลายร้อยลูกถูกวางเรียงรายรอให้พ่อค้ามารับ ขโมยแถวนี้ยิ่งชุมยามฤดูผลไม้คนไร้ที่พึ่งพาเสาะแสวงหาลักขโมยเล็กขโมยน้อยตามบ้านเรือนเพื่อนำเอาไปขาย ซึ่งช่วงนี้ทุเรียนราคาโลละเป็นร้อยย่อมเป็นที่หมายปองของพวกหัวขโมยธรรมดา นารีจึงใช้เวลาว่างโทรเรียกคนงานของตัวเองให้มาช่วยเพื่อจะได้เสร็จไว ๆ"ฉันฝากพวกนายจัดการทางนี้ต่อด้วยนะ""ได้ครับคุณนารี"เหล่าคนงานต่างพากันแยกย้ายไปทำตามหน้าที่ ส่วนนารีก็พาร่างอันเหนื่อยหอบเดินกลับมาที่บ้านหญิงสาวสวมชุดเสื้อและกางเกงขายาวแปลงร่างเป็นชาวสวนเดินกลับมาถึงบ้านไม้ ก็เห็นร่างสูงใหญ่ของอัคคีและเมฆากำลังยืนอยู่ตรงบันไดไร้เงาของต้นอ้อเพื่อนรัก"อรุณสวัสดิ์ครับคุณนารี""อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณอัคคี ตื่นกันนานแล้วเหรอคะ""พึ่งตื่นครับ แล้วนี่คุณนารีหายไปไหนมา
"ส่งมาเลยค่ะ"ชายหนุ่มในชุดลำลองธรรมดายืนมองหญิงสาวซึ่งกำลังขนย้ายทุเรียนจำนวนหลายร้อยลูกขึ้นรถกระบะ เธอทำมันด้วยความคล่องแคล่วและชำนาญจนเขาเองยังรู้สึกทึ่งไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะมีความสามารถถึงขนาดนี้เธอทำงานหนักจริงพอ ๆ กับผู้ชายอกสามศอกอย่างพวกเขา แม้เธอจะเหนื่อยมีเม็ดเหงื่อออกตามร่างกายแต่เธอก็ไม่คิดจะบ่นเลยสักคำติ๊ด ติ๊ด ติ๊ดเสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้นทำให้เมฆาที่กำลังยืนดูหญิงสาวทำงานรู้สึกหัวเสียเมื่อมีคนโทรมาขัดจังหวะ"มีอะไร"น้ำเสียงห้วน ๆ กรอกตามสายเมื่อเห็นว่าอัคคีน้องชายตัวดีของเขาโทรมา เมฆาเดินเลี่ยงออกมาเพื่อไม่ให้การคุยโทรศัพท์ของเขารบกวนเวลาทำงานของเธอ"เป็นยังไงบ้าง ทางนั้น""ก็ไม่ยังไง แต่ก็ไม่ได้เลวร้าย""อย่าบอกนะว่ามึงจับคุณนารีกดลงบนเตียงไปแล้ว"อัคคีตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจทำให้เมฆาถึงกับกลอกตามองบน"ยัง""โล่งไป""มึงจะกลัวอะไร""หึ มึงนี่แหละตัวดีที่พวกกูต้องกลัว อย่าพึ่งรีบทำอะไรล่ะ เธอไม่ใช่คนที่มึงจะเล่น ๆ ด้วยนะ"เมฆารับฟังในสิ่งที่น้องชายพูด พลางหันหน้าไปมองยังร่างเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อของนารีซึ่งเธอกำลังยืนช่วยลูกน้องคนงานขนย้ายทุเรียนขึ้นท้ายรถ
"ไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้เลยอะ"เสียงเล็กงอแงคล้ายกับเด็กของต้นอ้อดังขึ้นในระหว่างที่ทั้งสี่กำลังนั่งทานอาหารเย็นท่ามกลางบรรยากาศอันแสนร่มรื่นของบ้านไม้หลังใหญ่ ใบหน้าสวยของว่าที่เจ้าสาวเริ่มหงิกงอเมื่อวันพรุ่งนี้เธอต้องเดินทางกลับเพื่อเตรียมตัวไปจัดงานแต่งงานซึ่งจะถูกจัดขึ้นภายในอีกไม่ช้า "ฉันยังไม่หายคิดถึงนารีเลย""ไม่งอแงสิครับที่รัก""ก็ต้นอ้อยังอยากอยู่เที่ยว ยังไม่หายคิดถึงเพื่อนเลยนี่"นารีส่ายหน้าไปมาเมื่อเพื่อนสาวเกิดอาการงอแงเหมือนเด็กน้อยไม่ได้ดั่งใจ"เอาเป็นว่าถ้าฉันจัดการธุระทางนี้เสร็จจะรีบขึ้นไปหาแกที่กรุงเทพดีไหม""แต่""ไม่เอาสิต้นอ้อ เกรงใจคุณอัคคีกับคุณเมฆาเขาบ้าง เขาคงต้องรีบกลับไปทำงาน"ต้นอ้อชะงักว่าที่เจ้าสาวเม้มริมฝีปากแน่น ต้นอ้อพยักหน้าจำยอมแม้ว่าอันที่จริงแล้วเธออยากจะอยู่เที่ยวที่นี่ต่ออีกสักสองสามวัน"ไว้ฉันจะรีบขึ้นไปหาแกที่กรุงเทพนะ""โอเค ว่าแต่แกเถอะจะไปยังไง""แกไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันหาทางไปเองได้""นั่งเครื่องเอาไหม เดี๋ยวฉันออกค่าตั๋วให้""มะ...""เดี๋ยวพี่ให้คนมารับคุณนารีเอง"น้ำเสียงเรียบนิ่งของเมฆาดังขึ้นทำให้นารีซึ่งกำลังอ้าปากเตรียมปฏิเสธเป็นอ
เมฆากัดฟันข่มอารมณ์เมื่อต้องจากลาหญิงสาวกลับมาทำหน้าที่ของเขาในช่วงเช้าของวันต่อมา ซึ่งไม่ต่างจากนารีเธอยืนชะเง้อคอมองรถคันหรูของเพื่อนสาวขับออกไป'ฉันจะรอเธอนะนารี'นี่คือคำสุดท้ายที่ต้นอ้อได้พูดกับเธอเอาไว้ก่อนจะก้าวขาขึ้นรถแล้วขับออกไปหญิงสาวใจวูบโหวง เธอหมุนตัวเดินกลับขึ้นไปบนบ้านเพื่อจัดการทำธุระส่วนตัวให้เสร็จเพราะยังมีงานที่เธอยังต้องทำต่อ แต่เมื่อเธอก้าวขาผ่านห้องนอนของเมฆา สองฝ่าเท้าเรียวของหม้ายสาวเป็นอันต้องหยุดชะงักดวงตากลมโตจ้องมองไปยังบางสิ่งบางอย่างที่วางอยู่บนเตียงนอนซับในสีดำของบุรุษวางอยู่บนเตียงนอนสีขาวสะอาดตาราวกับว่าอีกฝ่ายต้องการวางให้เด่นสะดุดสายตาเพื่อง่ายต่อการมองเห็น คราบน้ำสีขาวขุ่นยังสดใหม่ราวกับว่ามันพึ่งจะถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อในไม่นานมานี้ทำเอานารีใจเต้นไม่เป็นจังหวะ กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ลอยโชยเข้ามาแตะจมูกสาวทำเอาหม้านสาวใจเต้นผิดจังหวะเธอกำลังคิดว่าเมฆากำลังทิ้งสิ่งของชิ้นนี้ไว้ให้เธอดูต่างหน้า เช่นเดียวกับช่องทางติดต่อที่เขาได้ขอเธอเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนตึก ตึก ตึกเสียงรองเท้าหนังสีดำดังกระทบพื้นยามเมื่อผู้สวมใส่ก้าวขาเดินเข้ามาภายในบริษัทยักษ์ให
"พ่อขอให้ลูกทั้งสองครองคู่กันอย่างมีความสุข หนักนิดเบาหน่อยก็ขอให้อภัยซึ่งกันและกัน อยู่ครองคู่ไปนานแสนนานจนยามแก่เฒ่า""ขอบคุณค่ะ""ขอบคุณครับ"คู่บ่าวสาวก้มกราบลงบนปลายเท้าของบิดา "ส่วนแม่ก็ขอให้ลูกทั้งสองครองรักกันอย่างยาวนาน ถ้าหากวันไหนมีเรื่องที่ทำให้ทั้งสองไม่เข้าใจกันก็ขอให้ทั้งสองลองหันหน้าเข้าหาเพื่อปรับความเข้าใจ อย่าได้ดึงใครเข้ามาทำลายความรักของลูกทั้งสองคนได้""...""แล้วอีกอย่างนะ เมฆา"คุณหญิงเปรมสุดาหันมามองหน้าลูกชายคนโตด้วยแววตาจริงจัง"ครับคุณแม่""แม่อยากอุ้มหลาน"ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มก่อนชายหนุ่มจะหันไปมองหน้าภรรยาคนสวยด้วยแววตาหวานเชื่อม"เดือนหน้าคุณพ่อกับคุณแม่รอรับฟังข่าวดีได้เลยครับ"ชายหนุ่มคุยโม้เพราะเขามั่นใจในฝีมือของตัวเองมากพอ"ให้มันแน่เถอะไอ้เสือ ตอนนี้พ่อกำลังรอฟังข่าวดีจากคู่ของแกกับหนูนารีอยู่ อย่ายอมแพ้คู่ของเจ้าอัคคีมันล่ะ""รอรับขวัญหลานแฝดได้เลยครับพ่อ"เพียะ"แฝดอะไรกันค่ะ แค่คนเดียวยังไม่มีน้ำยา"นารีอดหมั่นไส้ไม่ได้กับความโอ้อวดของสามี"ฮ่า ๆ เอาล่ะ พ่อกับแม่ต้องขอตัวก่อน เชิญลูกสองคนตามสบายเลยนะ""อย่าลืมนะเมฆา แม่ขอหลานสาว""จัดไปแบบคูณสองเลยค
"เป็นยังไงบ้างเมื่อคืน หนักเลยใช่ไหม"นารีถามต้นอ้อเมื่อทั้งคู่เดินลงมาจากห้องพักปล่อยให้สองชายหนุ่มได้พักผ่อน นารีกวาดสายตาดูสภาพของต้นอ้อซึ่งดูอิดโรยตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยรักและไหนจะลักษณะท่าทางการเดินแปลก ๆ"ทั้งคืน ระบบไปหมดทั้งตัว""ไม่ต่างกัน"สองสาวอยู่ในชุดว่ายน้ำเซ็กซี่นั่งลงบนเก้าอี้อาบแดดข้างสระว่ายน้ำของโรงแรมในเวลาเกือบเที่ยง ดวงตากลมโตซุกซนของทั้งคู่กวาดมองหุ่นล่ำกล้ามแน่นน่ากินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ"เมื่อคืนคุณอัคคีไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน กว่าจะได้นอนก็เกือบสว่าง"ต้นอ้อบ่นอุบ ศึกรักของชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกอ่อนแรงแต่ก็ยังสามารถปลีกตัวออกมาจากห้องพักได้ เพราะคืนนี้เธอคงได้รับแรงกระแทกอันหนักหน่วงจากเขาอีกเป็นแน่"ของเธอแค่เกือบ แต่ของฉันนี่สิ เช้าตรู่เลยจ้า""แล้วเธอมีแรงลุกขึ้นมาชวนฉันมาว่ายน้ำอีก?""เปล่า ฉันก็แค่ชวนเธอมานั่งพักเพื่อผ่อนคลาย เธอคิดเหรอว่าคืนนี้สองหนุ่มจะปล่อยให้เราสองคนได้ก้าวขาลงจากเตียง"เสียงหวานเอ่ยพูดกับเพื่อนสาว แต่สายตาของนารีกำลังไล่มองตามแผ่นหลังแข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินผ่านไป"น้อย ๆ หน่อย เดี๋ยวคุณเมฆามาเห็นเข้า
ตับ! ตับ! ตับ!ร่างของทั้งสองไร้ซื้อเสื้อผ้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่ในเวลาค่ำ แรงกระหน่ำซอยยังคงถี่ยิบเรียกเสียงครวญครางจากทั้งสองได้เป็นอย่างดีแม้เวลาจะผ่านมาหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าทั้งคู่จะหยุดโรมรัน ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรับผลัดกันรุกอย่างไม่มีใครยอมใครแม้จะเสียเรี่ยวแรงไปมากแต่ความต้องการอันเปี่ยมล้นก็ไม่สามารถทำให้ทั้งคู่หยุดกิจกรรมนี้ได้"อ๊าส์ คุณเมฆาขา นารีเสียวไม่ไหวแล้ว อ๊าย"เสียงหวานร้องบอกอีกทั้งยังเด้งเอวสวนลำกายซึ่งกำลังขยับเข้าออกในช่องทางรักเปียกชื้นของเธออย่างดุดัน"ผัวก็เสียวเหมือนกันครับเมีย อ๊าส์ เอามันเป็นบ้า""แรง ๆ เลยค่ะ เมียรับไหว กระแทกแรง ๆ เลย"ตับ! ตับ! ตับ!"แบบนี้แรงพอไหมครับ อ๊าส์ ซี๊ด"คำขอของหญิงสาวชายหนุ่มยอมทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน ฝ่ามือประคองร่างเด้งสะโพกสอดลำกายเข้าใส่จากทางด้านหลังอย่างดุเดือดเผ็ดมัน"โอ้ว ซี๊ด"หญิงสาวครางเสียงหลงเมื่อชายหนุ่มตอบแทนเธออย่างถึงอกถึงใจ ก่อนเธอจะจัดการดันร่างออกพลิกตัวของชายหนุ่มให้นอนราบลงบนเตียง เพียงแค่เสี้ยววินาที นารีปีนขึ้นไปนั่งคร่อมจัดการกดสะโพกครอบครองแก่นกาย"โอ้ว คนดี"เมฆาครวญครางด้วยความเ
"แม่ดีใจด้วยนะลูก ที่หนูกับลูกชายของแม่ตกลงปลงใจที่จะร่วมสร้างครอบครัวด้วยกัน""พ่อก็เหมือนกัน ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าลูกชายของพ่ออย่างเมฆาคิดจะสร้างครอบครัวเหมือนกับคนอื่นเขา พ่อต้องขอบคุณหนูนารีมากนะที่เข้ามาทำให้ลูกชายของพ่อกับแม่ได้รู้จักกับคำว่าความรัก"สองสามีภรรยาอย่างคุณรังสรรค์และคุณหญิงเปรมสุดารู้สึกยินดีกับความรักของทั้งคู่ ทั้งสองอ้าแขนต้อนรับนารีให้เข้ามาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน"หนูต้องขอขอบคุณ คุณพ่อและคุณแม่มาก ๆ เลยนะคะที่ทั้งรักและเอ็นดูหนู"ฝ่ามือคู่เล็กเย็นเฉียบแต่ก็มีฝ่ามือใหญ่ของเมฆาคอยกอบกุมให้ความอบอุ่นอยู่ไม่ห่าง ภาพที่ทั้งคู่หันมาส่งยิ้มให้กับเป็นภาพที่น่ายินดีสำหรับคนที่ได้พบเห็น"แล้วนี่จะจัดงานแต่งกันเมื่อไหร่ ให้แม่ช่วยไปดูฤกษ์ให้เอาไหม""เอาตามที่คุณแม่กับนารีเห็นสมควรเลยก็ได้ครับ ผมยังไงก็ได้""...""คนดีอยากจัดงานแบบไหนบอกผมได้เลยนะ ผมพร้อมที่จะทำให้คุณทุกอย่าง"คุณรังสรรค์หันไปมองหน้าภรรยาคู่ชีวิตเมื่อท่านได้ฟังน้ำเสียงอ่อนโยนบวกกับการเอาใจใส่ของลูกชายซึ่งไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเคยได้รับนอกเสียจากคนในครอบครัว"นารียังไงก็ได้ค่ะ หนูแล้วแต่คุณแม่""พูดแล้วนะ
"สวัสดีค่ะคุณเมฆา"เสียงพนักงานสาวกล่าวทักทายลูกชายของประธานบริษัทใหญ่พ่วงด้วยตำแหน่งลูกชายเจ้าของร้านจิวเวลรี่แห่งนี้"แหวนที่สั่งทำได้หรือยัง""เสร็จแล้วค่ะ รอสักครู่นะคะ"พนักงานกระตือรือร้นรีบเข้าไปนำแหวนเพชรซึ่งชายหนุ่มได้จัดการสั่งทำเอาไว้มาให้เจ้าตัวได้เชยชม"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม"นารีเอ่ยถามพลางกวาดสายตามองดูรอบร้านซึ่งเต็มไปด้วย เพชร อัญมณีราคาแพงที่เธอไม่มีปัญญาซื้อมัน"ผมขอร้องล่ะคนดี เลิกแทนตัวเองแบบนี้สักทีได้ไหม"เธอไม่สนใจคำพูดของเขา นารีหันมองไปทางอื่นก่อนที่เธอจะไปสะดุดตาเข้ากับกับสร้อยทองคำขาวมีจี้เพชรรูปหัวใจ ซึ่งสิ่งที่เธอกำลังสนใจอยู่ในสายตาของเมฆาทั้งหมด"แหวนที่คุณเมฆาสั่งทำได้แล้วค่ะ"ผู้จัดการร้านเป็นคนนำแหวนเพชรมาให้เมฆาด้วยตนเอง แหวนเพชรน้ำงามสีขาวถูกเจียระไนอย่างประณีตจากชั่งฝีมือดี แหวนวงนี้มีมูลค่ามหาศาลตามความสวยงามของมันซึ่งเขานั้นได้ทุ่มทุนก้อนใหญ่ด้วยความเต็มใจดวงตาคมกริบสีเข้มมีความพึงพอใจเมื่อได้เห็นผลงานที่เขาเป็นคนออกแบบจัดการเพื่องานนี้โดยเฉพาะ และตอนนี้มันก็ได้มาอยู่ตรงหน้าเขาเรียบร้อย"นี่ค่ะ""ครับ"เมฆาดึงแหวนเพชรวงสวยออกมาจากกล่อง เขาคุกเข่าลงนั
"เอาชุดทั้งหมดนี้ แล้วให้คนจัดส่งไปตามที่อยู่นี้""ค่ะ คุณเมฆา"พนักงานสาวรีบตอบรับก่อนลูกชายเจ้าของห้างสรรพสินค้าเดินโอบร่างอ่อนแรงของหญิงสาวออกมา ใบหน้าสวยแสดงถึงความเหนื่อยล้าเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ช่วงล่างของเธอได้ถูกเมฆาจัดหนักจัดเต็มจนขาสั่น"ให้ผมอุ้มไหมครับ""พอเลยค่ะ คืนนี้นารีไม่ให้คุณทำอะไรแบบนี้แล้ว""ได้ยังไงกันครับ ผมยังไม่...""ไม่อะไรคะ"น้ำเสียงเรียบนิ่งของหญิงสาวทำเอาเมฆารีบปิดปาก ดวงตาคมกริบคู่นั้นทำให้เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มันขัดใจเธอ"คืนนี้ผมจะให้นารีได้นอนพักก็ได้""มันก็คงต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะค่ะ ถ้าคุณไม่ยอมปล่อยให้นารีนอนพักเห็นทีทริปไปเที่ยวก็คงได้ล่ม"ช่วงล่างของเธอถูกใช้งานหนักติดต่อกันหลายวัน น้ำเมือกใสที่เขาปลดปล่อยเข้าใส่ช่องทางรักของเธอนั้นยังคงเอ่อนองอยู่ภายด้านในทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัว"นารีอยากเข้าห้องน้ำค่ะ""เชิญทางนี้ครับคนสวยของผม"เมฆาเดินโอบร่างเพรียวบางของหญิงสาวไปยังทิศทางของห้องน้ำโดยที่มีสายตาคู่หนึ่งคอยมองตามแผ่นหลังของทั้งคู่อยู่ไม่ไกล"คุณรอนารีอยู่ตรงนี้นะคะ"เมฆาพยักหน้าเขาปล่อยให้เธอได้เข้าไปจัดการธุระภายในห้องน้ำตามลำพังแกร๊กห
"ขับรถดี ๆ สิคะ"เสียงหวานต่อว่าในขณะที่ทั้งสองนั่งอยู่บนรถในระหว่างการเดินทางไปห้างสรรพสินค้านารีในตำแหน่งคนนั่งข้างคอยหลีกเลี่ยงฝ่ามือใหญ่ซึ่งมักจะเข้ามาจับลูบคลำไปตามร่างกายของเธออยู่เป็นประจำ"คุณเมฆา อย่าเล่นสิคะ""ผมแค่อยากอยู่ใกล้นารี""ตอนนี้เราสองคนตัวก็แทบจะติดกันอยู่แล้วนะคะ พอเลยนารีไม่เล่นกับคุณด้วยแล้ว"ใบหน้าสวยเริ่มงองำเมื่อชายหนุ่มเอาแต่เล่นจนไม่ระวังในขณะที่เขากำลังขับรถ"ผมไม่เล่นแล้วก็ได้ คุณอย่าโกรธผมเลยนะครับ"เมฆาประสานฝ่ามือใหญ่เข้าหาฝ่ามือเรียวสวย ความอบอุ่นแผ่ซ่านทำให้นารีคลี่ยิ้มออกมาตั้งแต่ที่เธอได้รู้จักกับเมฆาเขาทำให้เธอมีความสุขอยู่เสมอ เธอสามารถยิ้มได้ทุกครั้งยามเมื่ออยู่ใกล้ อัตราหัวใจที่เต้นแรงมันกำลังบอกว่าเธอนั้นได้ตกหลุมรักชายหนุ่มเป็นเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมฆาเข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ทำให้เธอรู้สึกขาดหาย เขาทำให้ชีวิตของเธอกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แม้ทั้งคู่จะรู้จักกันภายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่ความสัมพันธ์ ความรู้สึกของเขาและเธอนั้นได้เดินทางข้ามผ่านกันไปไกล ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ปล่อยตัวปล่อยใจ ปล่อยร่างกายให้เขาได้เชยชมห้างสรรพสินค้า"จะซื้อเสื้อผ้า
เช้าอันแสนสดใสปลุกให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่น ร่างกายของเธอรู้สึกปวดเมื่อยทันทีเมื่อเธอขยับตัว เพราะเมื่อคืนกว่าเมฆาจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระเวลาก็ผ่านเข้าสู่วันใหม่ไปหลายชั่วโมง"หายไปไหนนะ"หญิงสาวกวาดสายตามองหาร่างสูงใหญ่เมื่อเธอไม่เห็นเขานอนอยู่บนเตียง พลันหูของเธอก็ได้ยินเสียงพูดคุยดังมาจากทางด้านนอก นารีจึงไม่รอช้ารีบก้าวขาลงจากเตียงตอนนี้เธอรู้สึกเหนียวไปทั่วทั้งตัวต้องการอาบน้ำชำระร่างกายอย่างเร่งด่วน"ฉันจะเดินทางไปพักผ่อนกับคุณนารี ถ้ามีงานอะไรด่วนนายก็จัดการแทนฉันก็แล้วกัน""ได้ครับคุณเมฆา""เรื่องภายในบริษัทคุณพ่อท่านจะเข้ามาช่วยดูแลก่อนในตอนที่ฉันไม่อยู่ ฝากนายดูแลท่านด้วย""ได้ครับ""ออกไปได้"ลูกน้องคนสนิทรับคำสั่งจากเจ้านายก่อนจะเดินออกไปจากห้องพักของโรงแรมร่างสูงใหญ่มีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันท่อนล่างเอาไว้หันกลับมาสนใจกับกล่องใส่อาหารตรงหน้า หลังจากจัดการเรื่องอาหารมื้อเช้าเสร็จเขาก็รีบถือถุงเสื้อผ้าและของใช้เข้าไปในห้องนอนแกร๊ก"ตื่นนานแล้วเหรอครับ""ตื่นได้สักพักแล้วค่ะ"เป็นจังหวะเดียวกับที่หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ ตามเนื้อตัวของเธอมีหยดน้ำเกาะไปตามร่างกายยิ่งทำให้ชวนมองมาก
ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน มีสองร่างกำลังนอนกันกลมอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่ ร่างเปลือยเปล่าของทั้งคู่มีผ้าห่มผืนใหญ่ปกคลุมเอาไว้ภายในห้องนอนยังคงมืดทึบเมื่อมีผ้าม่านสีดำผืนใหญ่คอยบดบังแสงของดวงอาทิตย์จากภายนอกไม่ให้สาดส่องเข้ามา"อื้อ"ร่างเล็กส่งเสียงครางในลำคอพลางขยับตัวเข้าหาความอบอุ่นจากอ้อมแขนแกร่ง เพียงแค่คนในอ้อมกอดขยับตัวก็ทำเอาชายหนุ่มผู้มีประสาทสัมผัสดีเปิดเปลือกตาขึ้นมองก็เห็นร่างของนารีซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของเขา มุมปากหยักกระตุกยิ้ม ใบหน้าสวยใสไร้เครื่องสำอางวางแนบไปกับแผ่งอกแกร่งโดยมีท่อนแขนของเขาใช้แทนหมอนเพื่อให้เธอได้รองหนุนนอนมาตลอดทั้งคืนยามเธอตื่นก็ไม่ต่างอะไรจากแม่เสือสาวที่ทำให้เขากระวนกระวายใจได้ตลอดเวลา และยามเมื่อเธอหลับตานารีก็ไม่ต่างอะไรจากลูกแมวตัวน้อยที่คอยทำให้เขาลุ่มหลง เอ็นดูเธอตลอดเวลายิ่งกวาดสายตามองใบหน้าสวย ยิ่งทำให้เมฆาตระหนักได้ว่าเธอคือสิ่งที่มีค่าที่เขาจะไม่มีวันปล่อยให้เธอหายออกไปจากชีวิตของตัวเองโดยเด็ดขาด ยิ่งเข้าใกล้เธอยิ่งทำให้เขาถลำลึกมอบหัวใจไปให้เธอจนหมดทั้งดวง เขารู้สึกหึง รู้สึกหวงยามเมื่อเธอเข้าใกล้หรือส่งยิ้มให้ชายอื่นใด ความไม่พึ