เสน่หามนตรา
บทที่ 3 - เชคฮบราฮิม
"วันนี้เรามีภาระกิจที่ไหนบ้าง ราชิต" ทายาทผู้นำรัฐเอ่ยถามเลขาคนสนิทถึงภาระกิจที่ต้องทำ ตามที่ท่านผู้นำรัฐมอบหมายให้
"ท่านจะต้องต้อนรับแขกคนสำคัญด้วยตนเองที่สนามบินครับ...และเลี้ยงรับรองในมื้อเย็น เป็นอันเสร็จภาระกิจของวันนี้ครับ" ราชิตร่ายยาวถึงภาระกิจที่เชคฮบราฮิมต้องทำ
"ทานข้าวอย่างนั้นหรือ...ใครกันแขกสำคัญ เรื่องนี้เราไม่เห็นรู้ล่วงหน้า"
"ท่านผู้นำสั่งมาแบบกระทันหันครับ ต้องขออภัยที่รายงานช้า" ราชิตเลขาคนสนิทโค้งคำนับอย่างนอบน้อมเป็นการขอโทษขอโพย แต่แท้จริงแล้วราชิตทำโดยคำสั่งท่านผู้นำรัฐต่างหากที่สั่งเข้มไว้ เพราะหากบอกกล่าวล่วงหน้าบุตรชายทายาทคงปฏิเสธภาระกิจนี้เป็นแน่
เชคฮบราฮิม ทายาทลำดับต่อไปต่อจากท่านผู้นำแห่งรัฐชาร์จาห์ ที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรอาหรับบนอ่าวเปอร์เซีย ที่มีประชากรนับหลายแสนคน เป็นจุดศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมที่มั่งคั่ง ผู้คนมากมายทั้งนักธุรกิจชาวต่างชาติและนักธุรกิจในอาหรับ ที่ต้องการร่วมลงทุนกับธุรกิจของชาร์จาห์ แต่ก็ไม่ง่ายนักเลยที่เชคฮบราฮิมผู้เคร่งครัดและมีแบบแผนจะยอมร่วมลงทุนด้วยง่าย ๆ หากผลที่ได้นั้นไม่มากพอจนเป็นที่น่าพอใจ
เชคฮบราฮิม ผู้ที่ทรงเสน่ห์ด้วยมาดขรึม แววตาดุดันคมเฉี่ยวดุจพญาเหยี่ยวที่เฉิดฉายบนท้องฟ้า เป็นที่ต้องตาของหญิงสาวชาวอาหรับ แต่ทุกนางกลับถูกเชคฮบราฮิมนั้นปฏิเสธ เพียงเพราะยังไม่อยากผูกมัดกับหญิงใด หากไม่ใช่คนที่หมายตาและถูกใจจริง ๆ
<br/>
**บุคคลในภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด***
^^^^^^^^^^^^^^^
...ผืนแผ่นดินอาหรับที่อาบล้อมด้วยความงดงามทางวัฒนธรรมและสิ่งก่อสร้างตระกานตา สายตาคมของม่านฟ้ามองตึกสูงระฟ้า และสิ่งรอบกายอย่างสนอกสนใจ เธอชื่นชอบและหลงใหลที่นี่เสียแล้ว
"เดี๋ยวคืนนี้เราจะพักกันที่โรงแรม Burj Al Arab(บุรจอัลอาหรับ) กันนะครับ เป็นโรงแรมที่หรูหราระดับเจ็ดดาวและเป็นสัญลักษณ์แห่งดูไบ" เสียงเข้มสุขุมดังขึ้น เมื่อหันมองไปก็เป็นเสียงของครรชิตที่เปร่งออกมาเพื่อบอกกล่าวลูกทัวร์
((ว้าว))
"ทำไม...?" ม่านฟ้าจ้องมองไปยังครรชิตด้วยความสงสัย และส่งสายตาอย่างเป็นคำถามเมื่อครรชิตนั้นมองมาและส่งยิ้มให้
"ผมขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ...ผมชื่อครรชิต เป็นคนดูแลทุกท่านตลอดทริปนี้ และ...เป็นเจ้าของบริษัททัวร์นี้ครับ"
((ว้าว)) เสียงโห่ร้องของลูกทัวร์ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อครรชิตแนะนำตัวจบลง แน่นอนสิเพราะครรชิตหนุ่มหน้าตาดีจะเป็นคนดูแลและบริการพาเที่ยว สาวที่ไหนจะไม่กรี๊ดจริงไหม ?
การจัดทริปท่องเที่ยวที่แสนจะพิเศษ เรียกได้ว่าระดับราชนิกูลเลยทีเดียว ด้วยราคาทัวร์ต่อคนนั้นเหยียบแสนกว่าบาทและลูกทัวร์แค่ไม่กี่คนเท่านั้น ก็ไม่แปลกหากเจ้าของบริษัทฯ จะลงมาดูแลความเรียบร้อยเอง
ม่านฟ้าที่ได้แต่ยืนมองครรชิตด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ท่ามกลางเสียงตื่นเต้นของสาว ๆ หลายคน ใช่แล้วล่ะสาวๆ เพราะทริปนี้ไม่มีคนแก่หรือเด็กสักคน แต่ม่านฟ้าหาได้สนใจไม่ แค่ตกใจกับการได้ยินและรับรู้ครั้งแรกเท่านั้น ทุกอิริยาบถจึงเข้าสู่ปกติดังเดิม
เมื่อผู้นำทัวร์ชี้แจงรายละเอียดห้องพัก คู่ที่ต้องนอนร่วมกันตลอดทั้งทริปและทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งหมดจึงมุ่งตรงสู่โรงแรมที่พัก ม่านฟ้าเกิดอาการประหม่าและตื่นเต้นแต่เก็บอาการ เธอจ้องมองรูปภาพของโรงแรมในฝันและตอนนี้มันกำลังจะกลายเป็นความจริง
ความหรูหราตระการตาภายในโรงแรมจนแทบไม่อยากละสายตา ความสวยงามที่ฉาบแต่งอย่างอลังการ ม่านฟ้าเดินก้าวขาอย่างช้า ๆ สายตาก็กวาดมองโดยรอบอย่างตะลึงในความสวยงาม และสิ่งก่อสร้างนี้ โดยที่เธอนั้นไม่ได้มองทางสักนิด เพราะหลงใหลกับสิ่งตรงหน้าจนไม่อาจละสายตาลงได้
"สวยจริง ๆ" สายตาคมแหงนมองพื้นเพดานสีทอง ถูกตกแต่งด้วยไฟระย้าสวยงามพวงใหญ่ ตุ๊กตาพลทหารน่ารักยืนเรียงเป็นชั้น ๆ จนม่านฟ้านั้นอดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องมาถ่ายรูปเก็บไว้ในความทรงจำ "โอ๊ะ!..." ด้วยความไม่ทันระวัง ม่านฟ้าถอยหลังเพื่อมุมถ่ายรูปที่ต้องการ จนแผ่นหลังบางนั้นชนกระทบเข้ากับของแข็งบางอย่าง "ขอโทษค่ะ" ม่านฟ้ารีบก้มหัวและพูดขอโทษเป็นภาษาอังกฤษทันทีตามวิสัยของคนไทยที่มักนอบน้อมเสมอไม่ว่าอยู่ที่ใด
ชายตรงหน้าที่มีใบหน้าคมเข้ม หล่อเหลา ในแบบฉบับชาวตะวันออกกลาง เปรียบเหมือนมนตราที่สะกดม่านฟ้าให้จ้องมองอย่างไม่อาจละสายตาได้อย่างกับโดนมนตร์ดำสะกดไว้...ไร้เสียงตอบกลับจากฝ่ายตรงข้ามแม้ม่านฟ้าจะเอ่ยขอโทษออกไป มีเพียงสายตาคมดุดันเท่านั้นที่มองมา
"ขอโทษอีกครั้ง...ฉันไม่ได้ตั้งใจ" ม่านฟ้ากล่าวเป็นภาษาอังกฤษอีกครั้งเมื่อดึงสติกลับมา "คุณคะ...อ๊ะ!!" มือบางยื่นออกไปหวังจะสะกิดชายตรงหน้า เพราะม่านฟ้าพูดออกไปหลายประโยคแต่กลับไร้น้ำเสียงโต้ตอบกลับมา มีเพียงสายตาคมที่มองมายังเธอเท่านั้น มือบางหวังสัมผัสเพื่อให้ให้ชายตรงหน้าโต้ตอบ เพราะเขานั้นนิ่งเหลือเกินอย่างกับหยุดหายใจ แต่ก็โดนชายชุดสูทสีดำปัดมือบางนั้นออกไปอย่างแรง
ชายคนนั้นเพ่งสายตาคมไปมองชายชุดดำที่ยืนขนาบข้าง พูดเสียงเข้มแต่ม่านฟ้าฟังไม่ออกด้วยภาษาที่เขาใช้กันนั้นไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เธอจึงได้แต่ยืนมองอย่างงง ๆ
((คุณม่านฟ้า)) เสียงเรียกชื่อที่ดังขึ้นทำให้ม่านฟ้าเบนสายตาไปยังต้นเสียง ครรชิตที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งมายังเธอก่อนจะหยุดยืนข้าง ๆ และมองชายคนนั้นที่ยืนอยู่ก่อนหน้า ม่านฟ้างงว่าทำไมเขาไม่พูดอะไรหรือเดินจากไปสักที หรือเขาเคืองโกรธที่เธอนั้นเผลอชนเขาเข้า
"คุณครรชิต คือฉันชนเขาค่ะ แต่....อ้าว~~~" ม่านฟ้ากำลังแถลงเหตุการณ์เล่าสู่ครรชิตฟัง หวังให้ครรชิตถามไถ่ให้ แต่ไหนเลยชายคนนั้นกลับเดินจากไปทันทีทั้งที่ก่อนหน้าก็นิ่งอยู่นาน แต่ก็ช่างเถอะเขาไม่เอาเรื่องก็ดีถมไปแล้ว
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณม่านฟ้า" ครรชิตเอ่ยถาม
"ไม่เป็นไรค่ะ" ม่านฟ้าตอบกลับ
"พอดีผมจะมาตาม...บัดดี้ที่จะนอนห้องเดียวกับคุณม่านฟ้ารอเข้าห้องพักอยู่ครับ"
"อ่อ...ขอโทษนะคะ ฉันเดินเพลินไปหน่อย"
"ไม่เป็นไรครับ...ไปกันเถอะเดี๋ยวผมเดินไปส่ง"
"ขอบคุณค่ะ" ม่านฟ้าส่งยิ้มให้ครรชิตและเอ่ยขอบคุณ ทันทีที่รอยยิ้มหวานผุดขึ้นบนใบหน้าเสลา ครรชิตนั้นปลื้มปริ่ม ยิ้มกริ่มในใจ รอยยิ้มหวานสดใสที่มองทีไรเป็นต้องทำให้หัวใจครรชิตนั้นสั่นไหวทุกครา
เสน่หามนตราบทที่ 4 - ต้องการ...สายตาคมที่ยืนมองเหตุการณ์ในมุมลับตา การเสวนาระหว่างหญิงสาวที่เขาเพิ่งชนอยู่ในสายตาของเชคฮบราฮิมตลอดหลังจากที่เขานั้นเดินออกมา เชคฮบราฮิมดั่งถูกสาปให้นิ่งดั่งหินเมื่อเห็นใบหน้าหวานเสลา ดุจนางพญา ดวงตาคมของม่านฟ้าที่มองหน้าสบตาเขามันตราตรึงติดในดวงตาอย่างน่าจดจำ...^นางฟ้าเดินดิน^ เขาตราหน้าเธอในใจ"มีอะไรพึงพอใจหรือครับท่าน" ราชิตเลขาคนสนิทเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าคนเป็นนายอมยิ้มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หากสิ่งนั้นไม่ถูกใจจริง ๆ"เราพอใจหญิงนางนั้น" เชคฮบราฮิมเอ่ยบอก"ท่านหมายถึงใครหรือครับ""นางฟ้าเดินดินคนนั้น" คำพูดที่ทำเอาเลขาอย่างราชิตถึงกับงวยงงเมื่อเจ้านายพร่ำบอก "คนที่ชนเราตอนเข้ามา" เชคฮบราฮิมขยายความเมื่อเห็นแล้วว่าคนสนิทไม่เข้าใจ "เราต้องการเธอคนนั้น!" เสียงเข้มแผดดังอย่างมุ่งมั่น"แต่กระผมเกรงว่า...""อยากได้ก็คืออยากได้!...ไปสืบมาว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน" เสียงราชิตต้องหลบคืนกลับสู่ลำคอเมื่อเจ้านายแผดเสียงกังวาลดังลั่นยิ่งกว่าระฆัง ทายาทท่านผู้นำแห่งรัฐชาร์จาห์ที่ใครต่อใครนั้นเกรงขาม ด้วยสมญานามที่ก้องไปทั่วว่าดุดันและเด็ดขาดที่สุด สิ่งไหนที่เชค
เสน่หามนตราบทที่ 5 - ปราบพยศ...ร่างกายสมส่วนเดินย่างกรายตามหลังราชิตตามคำเชิญของเชคฮบราฮิมที่ต้องการพบเธอ กว่าราชิตจะเอ่ยชวนได้ จนเธอนั้นยินยอมตามเขามา ตามที่นายเหนือหัวต้องการก็เล่นหมดน้ำลายไปหลายลิตร กว่าเธอนั้นจะยอมตามมาแต่โดยดีด้วยการยื่นข้อเสนอบางอย่างให้แก่เธอ นั่นคือค่าเสียเวลาต่อนาที แต่เธอคนนี้ก็แสนจะระวังตัวเองเป็นอย่างดี แต่เจตนาของราชิตแค่สนองให้นายเหนือหัวเท่านั้น ไม่ได้คิดปองร้ายเธอแม้แต่น้อย"นายท่านรอพบคุณด้านในครับ"ราชิตบอกทันทีเมื่อเดินมาหยุดตรงประตูห้องรับรองบานใหญ่สุดหรูภายในโรงแรมที่ตกแต่งสุดตระการตาระดับเจ็ดดาว"ฉันยังสงสัย...นายท่านของคุณต้องการพบฉันทำไม หรือโกรธที่ฉันเดินชน แต่ฉันก็ขอโทษไปแล้วนะ" ม่านฟ้ายืนกอดอกร่ายยาวอย่างหงุดหงิดแต่ก็จำยอมเดินเข้าไป เมื่อราชิตเปิดประตูให้ ไม่ได้เห็นแก่เงินค่าเสียเวลาหรอกนะ...ถ้าไม่มากพอ! ^○^"ชริ!...ไม่มีปากหรือไงนะ" ม่านฟ้าไม่วายหันไปแขวะราชิตด้วยคำพูดภาษาไทยอย่างอารมณ์เสียและหงุดหงิด ก่อนจะเดินผ่านหน้าราชิตเข้าไป...ห้องพักสุดหรูอลังการสีทอง เฟอร์นิเจอร์หรูหราตั้งตระหง่านจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ชายร่างสูงกำยำล่ำสันนั่งม
เสน่หามนตราบทที่ 6 - แกล้ง"ผมถามว่าต้องการเท่าไหร่" เชคฮบราฮิมยังคงพูดวนซ้ำเช่นเดิมอย่างกลั่นแกล้ง ท่าทางของม่านฟ้าเวลาเคืองโกรธโมโห มันดูน่ามอง น่าเสน่หามากสำหรับชายหนุ่ม จนเขานั้นอดใจแทบไม่ได้ อยากจะจัดการเธอให้สาสมกับคำด่าทอที่สาดใส่เขาเสียจริงเชียว แม่นางฟ้าเดินดิน"ฉันไม่ได้ขายตัวนะ ไอ้บ้า!" ม่านฟ้าคนหน้านิ่งต้องหัวเสียหงุดหงิด เมื่อชายหนุ่มคิดเอาแต่มองเธอในแง่ลบ และพร่ำพูดแค่คำเดิม ๆ ออกมา"นี่คุณ ฉันเสียเวลาไร้สาระกับคุณมามากพอแล้วนะ" และม่านฟ้าเริ่มป่วยการที่จะพูดต่อเมื่อเชคฮบราฮิมเอาแต่ถามแบบเดิมๆ วกวนจนเริ่มเอือมระอา ต้องเริ่มลดน้ำหนักเสียงอ่อนลงอย่างหน่าย ๆ"ผมจะจ่ายค่าเสียเวลาให้ตามที่ราชิตเสนอให้แต่แรกที่เจรจากับคุณ" ให้ตายเถอะปกติเชคฮบราฮิมไม่เคยต้องพูดประโยคยาวขนาดนี้มาก่อน แต่กับม่านฟ้าเขาต้องเปลืองน้ำลายแค่ไหน"เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ..." ม่านฟ้าเชิดหน้าพูดออกมาอย่างขึงขัง"ทานข้าวกับผมสักครั้งหน่อยเป็นไร...ม่านฟ้า""เอ๋...คุณรู้ชื่อฉันได้ยังไง " ดวงตาคมสีนิลเบิกกว้างทันใดเมื่อชื่อที่เธอไม่เคยบอกเขาสักครั้งแต่เขานั้นกลับพูดมันออกมา"ไม่มีอะไรที่ผมอยากรู้แล้ว
เสน่หามนตราบทที่ 7 - รุก! ( NC 10%)เมื่อสิ้นคำพูดที่ เชคฮ บราฮิม กล่าวลั่น ม่านฟ้าก็แย้งขึ้นทันที "แล้วคุณจะทนทำไม...รู้จักกันไหม ? ก็เปล่าเลย" ม่านฟ้าแย้งขึ้นทันควัน"หนึ่ง..." เสียงเข้มนับเลขเป็นภาษาอังกฤษ สายตาคมจ้องมองม่านฟ้าอย่างไม่ละสายตา ขาแกร่งค่อย ๆ ขยับเข้ามาทีละก้าว จนสาวเจ้าต้องก้าวถอยหลังให้ออกห่าง"........" ความรู้สึกหวาดระแวงเมื่อสายตาชายหนุ่มเอาแต่จ้องมอง "จา จะทำอะไร""สอง..." ขาแกร่งขยับเข้าหาช้า ๆ ไม่ได้สนใจคำถามม่านฟ้าสักนิด"นี่คุณ! ขยับออกไปนะ...อ๊ะ!" แผ่นหลังบางกระทบกับผนังห้อง วงแขนแกร่งกักกั้นเธอไว้ทันทีอย่างไม่รีรอ"หึ" รอยยิ้มร้ายมุมปากผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้ม เมื่อเห็นแล้วว่าม่านฟ้าไร้หนทางหลีกหนี"อะ ออกไปนะ" เสียงพูดติดขัดอย่างหวาดระแวง รอยยิ้มร้ายที่เหมือนแอบแฝงอะไรบางอย่าง จนม่านฟ้านั้นเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย"ไม่อยากจะใช้กำลังบังคับ""งั้นก็หลบและปล่อยฉันสิ""..............." ใบหน้าคมสันเลื่อนเข้ามาใกล้อย่างช้า ๆ อีกทั้งสายตายังจ้องมองหน้าหญิงสาวไม่วางตา ทำเอาม่านฟ้านั้นใจเต้นโครมครามอย่างไม่อาจหักห้ามได้เมื่อมองใบหน้าคมนี้ในระยะประชิด เขาดูมีเสน่ห์ แว
เสน่หามนตราบทที่ 8 - ตั้งใจเชคฮ บราฮิมรับตัวม่านฟ้าที่ไร้เรี่ยวแรงจะยืน ยกอุ้มตัวสาวขึ้นแนบอกก่อนจะพาเดินไปแล้ววางเธอนั่งนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหรูขลิบทอง ท่ามกลางอาหารมากมายละลานตา เวลานี้เธอควรทานอาหารได้แล้ว...ท่ามกลางบรรยากาศที่สว่างไสวด้วยแสงเทียนสีนวล บนโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลายเมนู ใบหน้าสวยเสลาเมื่อกระทบกับเสียงเทียนช่างดูตราตรึง น่าค้นหาสายตาคมของเชคฮ บราฮิมจ้องมองอย่างไม่ลดละท่ามกลางความเงียบไร้เสียงสนทนา ม่านฟ้าที่ต้องจำยอมทานมื้อเย็นกับเชคฮบราฮิมผู้สูงศักดิ์ด้วยเม็ดเงินจำนวนมากสำหรับเธอที่เขาเสนอให้นอกจากค่าเสียเวลาต่อนาทีแล้ว เธอยังได้อีกหนึ่งหมื่นดอลล่าตามที่เชคฮ บราฮิมเสนอ..."อาหารถูกปากไหม" เชคฮบราฮิมเอ่ยถามเมื่อนานแล้วบนโต๊ะอาหารมีแต่ความเงียบสงัด"ค่ะ" คำตอบแสนสั้นแต่รับรู้ได้ ม่านฟ้าตอบแค่นั้นและหันไปสนใจอาหารตรงหน้าต่อ เพราะเหตุการณ์ก่อนหน้ามันตอกย้ำว่าศักดิ์ศรีและความสาวของเธอ ถูกพังทลายลงด้วยฝีมือผู้ชายตรงหน้า เธอโกรธ!"อยากได้อะไรเพิ่มไหม" เชคฮ บราฮิม สรรค์หาคำถามอีกครั้ง เมื่อม่านฟ้าเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาตักข้าวเข้าปากอย่างเดียว โดยไม่สนใจเหลียวมองเขาเลย
เสน่หามนตราบทที่ 9 - มารหัวใจเมื่อเสียงปริศนาภาษาอังกฤษดังขึ้นทั้งม่านฟ้าและครรชิต จึงเบนสายตาไปยังเจ้าของเสียง ชายหนุ่มรูปร่างสูง กำยำล่ำสัน ในชุดสูทสีเข้มกำลังเดินมุ่งตรงมาประชิดในการสนทนาของคนทั้งสอง พร้อมกับคนสนิทอย่างราชิตที่ติดสอยห้อยตามตูดมาไม่ห่างกาย "คุณม่านฟ้ารู้จักเขาเหรอครับ"("ไม่ค่ะ/รู้") ม่านฟ้าและบราฮิมพูดขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดแนะ"ฉันไม่รู้จักเขาค่ะ" ม่านฟ้าตอบปฏิเสธโดยไม่มองหน้าเชคฮ บราฮิมสักนิด"ทำไมจะไม่รู้...เมื่อกี้เรายังทานข้าวด้วยกัน" เชคฮ บราฮิมสวนขึ้นทันที และเขาก็รู้ว่าตอนนี้ม่านฟ้านั้นโกรธและไม่พอใจเขาอยู่ และที่ตามมาก็หวังจะมาดูให้แน่ใจว่าเธอถึงห้องพักอย่างปลอดภัย แต่ไหนเลยถึงมาเจอม่านฟ้ากับชายที่คนนี้ จึงทำให้เขานั้นต้องแสดงตัว"นี่คุณ!" ม่านฟ้าแผดเสียงดังใส่อย่างเหลืออดใส่เชคฮ บราฮิม ที่ยืนหน้านิ่งมองไปที่ครรชิตอย่างไม่วางตา"ก็จริง ผมพูดผิดตรงไหน" เชคฮ บราฮิมยังคงพูดต่อโดยเจตนานั้นไม่ได้อยากทำให้ม่านฟ้าโกรธ เขาแค่ต้องการเเสดงตัวให้ครรชิตรู้เท่านั้น...คนฉลาดอย่างเขามีหรือจะมองครรชิตไม่ออกว่าคิดยังไงกับม่านฟ้า ผีเห็นผีเท่านั้นถึงจะเข้าใจ...ครรชิตที
บทที่ 1สาธารณะรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อาณาเขตดินแดนในฝันที่ใครหลายคนนั้นอยากไปเหยียบสักครั้งในชีวิต ด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ความมั่งคั่งของผู้คนและเศรษฐกิจที่รุ่งเรือง ความตระการตาของตึกราบ้านช่อง วัฒนธรรมที่น่าศึกษาและสิ่งสวยงามของประเทศนี้ที่แตกต่างและหรูหรา"สวยจัง" เสียงหวานของม่านฟ้าหญิงสาววัยสร้างตัวที่ได้แต่นั่งมองรูปภาพ ชื่นชมทัศนียภาพแค่ภาพนิ่ง อยากให้สักวันมันเป็นความจริง ว่าเธอนั้นจะได้มีโอกาสสัมผัส ผืนทะเลทราย ที่ร้อนระอุแต่มันก็มีความงามในแบบของตัวมันเอง ที่ทำให้ม่านฟ้านั้นหลงใหล อยากจะไปสักครั้งม่านฟ้า เป็นสาวโสดตัวคนเดียว ไร้ญาติพี่น้อง พ่อแม่ตายจากตั้งแต่เธอยังเด็ก มีเพียงยายคนเดียวที่ชุบเลี้ยงเธอมา แต่ต้องมาจากลาไปอย่างไม่มีวันกลับเมื่อปีที่แล้วด้วยโรคชรา ม่านฟ้าเป็นคนใจแข็ง เธอเลือกคบคน น้อยนักที่ใครจะกล้าเข้าหาเพราะหน้าตา ท่าทางเธอนั้นดูเย็นชา ม่านฟ้าชอบอิสระ ชอบท่องเที่ยว ชอบถ่ายรูป มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง แต่แอบดื้อเงียบ มีความมั่นใจในตัวเอง กล้าได้กล้าเสียม่านฟ้าทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มีเพื่อนที่สนิทกันแค่ไม่กี่คน เพราะเธอนั้นเลือกที่คบ มันมีสาเหตุให้เธอเป็น
บทที่ 2 - ครรชิตท้องฟ้าที่แสนสดใส แสงแดดเจิดจ้าร้อนระอุจนแสบผิวของเมืองไทย สาวไทยผิวสองสีกำลังย่างกรายเรียวขายาวสวยเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้เธอจะไปทำตามฝันที่ตั้งใจ ม่านฟ้าทำการลาพักร้อนด้วยสิทธิ์ที่เธอนั้นมี วันนี้เธอจะได้เหยียบผืนดินที่ใฝ่ฝันมานาน"เดินทางดีๆ นะแก" เอยเพื่อนสนิทมาส่งม่านฟ้ายังสนามบินเพื่อเดินทางไปยังที่หมาย สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์"ขอบใจนะเอย...ที่มาส่ง" ม่านฟ้าขยับเข้าไปกอดเอยอย่างขอบคุณ"เที่ยวให้สนุกนะแก...ฝันกำลังเป็นจริงแล้ว""อืม...ฝากดูแลบ้านด้วยนะ รดน้ำต้นไม้ให้ด้วย" ม่านฟ้าละกอดจากเอย และเอ่ยฝากฝังดูแลบ้านที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ยายทิ้งไว้ให้ก่อนลาลับจากโลกไปเสียงเครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าที่แสนกว้างใหญ่ไพศาล แพก้อนเมมฆสีขาวสะอาดตาหนากระทบกับแสงแดดจ้า ส่องประกายระยิบระยับ เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติช่างสรรค์สร้างขึ้นมาเสียจริง สายตาคมจ้องมองความงามบนท้องฟ้ารอยยิ้มและหัวใจเต้นตุบ ๆ...บริษัททัวร์ที่ม่านฟ้าเลือกใช้บริการก็ดูแลดีเสียจริง การเดินทางที่ไร้คนรู้จัก ก็ไม่ยักจะเป็นอุปสรรคต่อม่านฟ้าเลยสักนิด"สวัสดีครับ" เสียงหนึ่งดังขึ้นจนเธอต้องละ
เสน่หามนตราบทที่ 9 - มารหัวใจเมื่อเสียงปริศนาภาษาอังกฤษดังขึ้นทั้งม่านฟ้าและครรชิต จึงเบนสายตาไปยังเจ้าของเสียง ชายหนุ่มรูปร่างสูง กำยำล่ำสัน ในชุดสูทสีเข้มกำลังเดินมุ่งตรงมาประชิดในการสนทนาของคนทั้งสอง พร้อมกับคนสนิทอย่างราชิตที่ติดสอยห้อยตามตูดมาไม่ห่างกาย "คุณม่านฟ้ารู้จักเขาเหรอครับ"("ไม่ค่ะ/รู้") ม่านฟ้าและบราฮิมพูดขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดแนะ"ฉันไม่รู้จักเขาค่ะ" ม่านฟ้าตอบปฏิเสธโดยไม่มองหน้าเชคฮ บราฮิมสักนิด"ทำไมจะไม่รู้...เมื่อกี้เรายังทานข้าวด้วยกัน" เชคฮ บราฮิมสวนขึ้นทันที และเขาก็รู้ว่าตอนนี้ม่านฟ้านั้นโกรธและไม่พอใจเขาอยู่ และที่ตามมาก็หวังจะมาดูให้แน่ใจว่าเธอถึงห้องพักอย่างปลอดภัย แต่ไหนเลยถึงมาเจอม่านฟ้ากับชายที่คนนี้ จึงทำให้เขานั้นต้องแสดงตัว"นี่คุณ!" ม่านฟ้าแผดเสียงดังใส่อย่างเหลืออดใส่เชคฮ บราฮิม ที่ยืนหน้านิ่งมองไปที่ครรชิตอย่างไม่วางตา"ก็จริง ผมพูดผิดตรงไหน" เชคฮ บราฮิมยังคงพูดต่อโดยเจตนานั้นไม่ได้อยากทำให้ม่านฟ้าโกรธ เขาแค่ต้องการเเสดงตัวให้ครรชิตรู้เท่านั้น...คนฉลาดอย่างเขามีหรือจะมองครรชิตไม่ออกว่าคิดยังไงกับม่านฟ้า ผีเห็นผีเท่านั้นถึงจะเข้าใจ...ครรชิตที
เสน่หามนตราบทที่ 8 - ตั้งใจเชคฮ บราฮิมรับตัวม่านฟ้าที่ไร้เรี่ยวแรงจะยืน ยกอุ้มตัวสาวขึ้นแนบอกก่อนจะพาเดินไปแล้ววางเธอนั่งนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหรูขลิบทอง ท่ามกลางอาหารมากมายละลานตา เวลานี้เธอควรทานอาหารได้แล้ว...ท่ามกลางบรรยากาศที่สว่างไสวด้วยแสงเทียนสีนวล บนโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลายเมนู ใบหน้าสวยเสลาเมื่อกระทบกับเสียงเทียนช่างดูตราตรึง น่าค้นหาสายตาคมของเชคฮ บราฮิมจ้องมองอย่างไม่ลดละท่ามกลางความเงียบไร้เสียงสนทนา ม่านฟ้าที่ต้องจำยอมทานมื้อเย็นกับเชคฮบราฮิมผู้สูงศักดิ์ด้วยเม็ดเงินจำนวนมากสำหรับเธอที่เขาเสนอให้นอกจากค่าเสียเวลาต่อนาทีแล้ว เธอยังได้อีกหนึ่งหมื่นดอลล่าตามที่เชคฮ บราฮิมเสนอ..."อาหารถูกปากไหม" เชคฮบราฮิมเอ่ยถามเมื่อนานแล้วบนโต๊ะอาหารมีแต่ความเงียบสงัด"ค่ะ" คำตอบแสนสั้นแต่รับรู้ได้ ม่านฟ้าตอบแค่นั้นและหันไปสนใจอาหารตรงหน้าต่อ เพราะเหตุการณ์ก่อนหน้ามันตอกย้ำว่าศักดิ์ศรีและความสาวของเธอ ถูกพังทลายลงด้วยฝีมือผู้ชายตรงหน้า เธอโกรธ!"อยากได้อะไรเพิ่มไหม" เชคฮ บราฮิม สรรค์หาคำถามอีกครั้ง เมื่อม่านฟ้าเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาตักข้าวเข้าปากอย่างเดียว โดยไม่สนใจเหลียวมองเขาเลย
เสน่หามนตราบทที่ 7 - รุก! ( NC 10%)เมื่อสิ้นคำพูดที่ เชคฮ บราฮิม กล่าวลั่น ม่านฟ้าก็แย้งขึ้นทันที "แล้วคุณจะทนทำไม...รู้จักกันไหม ? ก็เปล่าเลย" ม่านฟ้าแย้งขึ้นทันควัน"หนึ่ง..." เสียงเข้มนับเลขเป็นภาษาอังกฤษ สายตาคมจ้องมองม่านฟ้าอย่างไม่ละสายตา ขาแกร่งค่อย ๆ ขยับเข้ามาทีละก้าว จนสาวเจ้าต้องก้าวถอยหลังให้ออกห่าง"........" ความรู้สึกหวาดระแวงเมื่อสายตาชายหนุ่มเอาแต่จ้องมอง "จา จะทำอะไร""สอง..." ขาแกร่งขยับเข้าหาช้า ๆ ไม่ได้สนใจคำถามม่านฟ้าสักนิด"นี่คุณ! ขยับออกไปนะ...อ๊ะ!" แผ่นหลังบางกระทบกับผนังห้อง วงแขนแกร่งกักกั้นเธอไว้ทันทีอย่างไม่รีรอ"หึ" รอยยิ้มร้ายมุมปากผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้ม เมื่อเห็นแล้วว่าม่านฟ้าไร้หนทางหลีกหนี"อะ ออกไปนะ" เสียงพูดติดขัดอย่างหวาดระแวง รอยยิ้มร้ายที่เหมือนแอบแฝงอะไรบางอย่าง จนม่านฟ้านั้นเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย"ไม่อยากจะใช้กำลังบังคับ""งั้นก็หลบและปล่อยฉันสิ""..............." ใบหน้าคมสันเลื่อนเข้ามาใกล้อย่างช้า ๆ อีกทั้งสายตายังจ้องมองหน้าหญิงสาวไม่วางตา ทำเอาม่านฟ้านั้นใจเต้นโครมครามอย่างไม่อาจหักห้ามได้เมื่อมองใบหน้าคมนี้ในระยะประชิด เขาดูมีเสน่ห์ แว
เสน่หามนตราบทที่ 6 - แกล้ง"ผมถามว่าต้องการเท่าไหร่" เชคฮบราฮิมยังคงพูดวนซ้ำเช่นเดิมอย่างกลั่นแกล้ง ท่าทางของม่านฟ้าเวลาเคืองโกรธโมโห มันดูน่ามอง น่าเสน่หามากสำหรับชายหนุ่ม จนเขานั้นอดใจแทบไม่ได้ อยากจะจัดการเธอให้สาสมกับคำด่าทอที่สาดใส่เขาเสียจริงเชียว แม่นางฟ้าเดินดิน"ฉันไม่ได้ขายตัวนะ ไอ้บ้า!" ม่านฟ้าคนหน้านิ่งต้องหัวเสียหงุดหงิด เมื่อชายหนุ่มคิดเอาแต่มองเธอในแง่ลบ และพร่ำพูดแค่คำเดิม ๆ ออกมา"นี่คุณ ฉันเสียเวลาไร้สาระกับคุณมามากพอแล้วนะ" และม่านฟ้าเริ่มป่วยการที่จะพูดต่อเมื่อเชคฮบราฮิมเอาแต่ถามแบบเดิมๆ วกวนจนเริ่มเอือมระอา ต้องเริ่มลดน้ำหนักเสียงอ่อนลงอย่างหน่าย ๆ"ผมจะจ่ายค่าเสียเวลาให้ตามที่ราชิตเสนอให้แต่แรกที่เจรจากับคุณ" ให้ตายเถอะปกติเชคฮบราฮิมไม่เคยต้องพูดประโยคยาวขนาดนี้มาก่อน แต่กับม่านฟ้าเขาต้องเปลืองน้ำลายแค่ไหน"เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ..." ม่านฟ้าเชิดหน้าพูดออกมาอย่างขึงขัง"ทานข้าวกับผมสักครั้งหน่อยเป็นไร...ม่านฟ้า""เอ๋...คุณรู้ชื่อฉันได้ยังไง " ดวงตาคมสีนิลเบิกกว้างทันใดเมื่อชื่อที่เธอไม่เคยบอกเขาสักครั้งแต่เขานั้นกลับพูดมันออกมา"ไม่มีอะไรที่ผมอยากรู้แล้ว
เสน่หามนตราบทที่ 5 - ปราบพยศ...ร่างกายสมส่วนเดินย่างกรายตามหลังราชิตตามคำเชิญของเชคฮบราฮิมที่ต้องการพบเธอ กว่าราชิตจะเอ่ยชวนได้ จนเธอนั้นยินยอมตามเขามา ตามที่นายเหนือหัวต้องการก็เล่นหมดน้ำลายไปหลายลิตร กว่าเธอนั้นจะยอมตามมาแต่โดยดีด้วยการยื่นข้อเสนอบางอย่างให้แก่เธอ นั่นคือค่าเสียเวลาต่อนาที แต่เธอคนนี้ก็แสนจะระวังตัวเองเป็นอย่างดี แต่เจตนาของราชิตแค่สนองให้นายเหนือหัวเท่านั้น ไม่ได้คิดปองร้ายเธอแม้แต่น้อย"นายท่านรอพบคุณด้านในครับ"ราชิตบอกทันทีเมื่อเดินมาหยุดตรงประตูห้องรับรองบานใหญ่สุดหรูภายในโรงแรมที่ตกแต่งสุดตระการตาระดับเจ็ดดาว"ฉันยังสงสัย...นายท่านของคุณต้องการพบฉันทำไม หรือโกรธที่ฉันเดินชน แต่ฉันก็ขอโทษไปแล้วนะ" ม่านฟ้ายืนกอดอกร่ายยาวอย่างหงุดหงิดแต่ก็จำยอมเดินเข้าไป เมื่อราชิตเปิดประตูให้ ไม่ได้เห็นแก่เงินค่าเสียเวลาหรอกนะ...ถ้าไม่มากพอ! ^○^"ชริ!...ไม่มีปากหรือไงนะ" ม่านฟ้าไม่วายหันไปแขวะราชิตด้วยคำพูดภาษาไทยอย่างอารมณ์เสียและหงุดหงิด ก่อนจะเดินผ่านหน้าราชิตเข้าไป...ห้องพักสุดหรูอลังการสีทอง เฟอร์นิเจอร์หรูหราตั้งตระหง่านจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ชายร่างสูงกำยำล่ำสันนั่งม
เสน่หามนตราบทที่ 4 - ต้องการ...สายตาคมที่ยืนมองเหตุการณ์ในมุมลับตา การเสวนาระหว่างหญิงสาวที่เขาเพิ่งชนอยู่ในสายตาของเชคฮบราฮิมตลอดหลังจากที่เขานั้นเดินออกมา เชคฮบราฮิมดั่งถูกสาปให้นิ่งดั่งหินเมื่อเห็นใบหน้าหวานเสลา ดุจนางพญา ดวงตาคมของม่านฟ้าที่มองหน้าสบตาเขามันตราตรึงติดในดวงตาอย่างน่าจดจำ...^นางฟ้าเดินดิน^ เขาตราหน้าเธอในใจ"มีอะไรพึงพอใจหรือครับท่าน" ราชิตเลขาคนสนิทเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าคนเป็นนายอมยิ้มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หากสิ่งนั้นไม่ถูกใจจริง ๆ"เราพอใจหญิงนางนั้น" เชคฮบราฮิมเอ่ยบอก"ท่านหมายถึงใครหรือครับ""นางฟ้าเดินดินคนนั้น" คำพูดที่ทำเอาเลขาอย่างราชิตถึงกับงวยงงเมื่อเจ้านายพร่ำบอก "คนที่ชนเราตอนเข้ามา" เชคฮบราฮิมขยายความเมื่อเห็นแล้วว่าคนสนิทไม่เข้าใจ "เราต้องการเธอคนนั้น!" เสียงเข้มแผดดังอย่างมุ่งมั่น"แต่กระผมเกรงว่า...""อยากได้ก็คืออยากได้!...ไปสืบมาว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน" เสียงราชิตต้องหลบคืนกลับสู่ลำคอเมื่อเจ้านายแผดเสียงกังวาลดังลั่นยิ่งกว่าระฆัง ทายาทท่านผู้นำแห่งรัฐชาร์จาห์ที่ใครต่อใครนั้นเกรงขาม ด้วยสมญานามที่ก้องไปทั่วว่าดุดันและเด็ดขาดที่สุด สิ่งไหนที่เชค
เสน่หามนตราบทที่ 3 - เชคฮบราฮิม"วันนี้เรามีภาระกิจที่ไหนบ้าง ราชิต" ทายาทผู้นำรัฐเอ่ยถามเลขาคนสนิทถึงภาระกิจที่ต้องทำ ตามที่ท่านผู้นำรัฐมอบหมายให้"ท่านจะต้องต้อนรับแขกคนสำคัญด้วยตนเองที่สนามบินครับ...และเลี้ยงรับรองในมื้อเย็น เป็นอันเสร็จภาระกิจของวันนี้ครับ" ราชิตร่ายยาวถึงภาระกิจที่เชคฮบราฮิมต้องทำ"ทานข้าวอย่างนั้นหรือ...ใครกันแขกสำคัญ เรื่องนี้เราไม่เห็นรู้ล่วงหน้า""ท่านผู้นำสั่งมาแบบกระทันหันครับ ต้องขออภัยที่รายงานช้า" ราชิตเลขาคนสนิทโค้งคำนับอย่างนอบน้อมเป็นการขอโทษขอโพย แต่แท้จริงแล้วราชิตทำโดยคำสั่งท่านผู้นำรัฐต่างหากที่สั่งเข้มไว้ เพราะหากบอกกล่าวล่วงหน้าบุตรชายทายาทคงปฏิเสธภาระกิจนี้เป็นแน่เชคฮบราฮิม ทายาทลำดับต่อไปต่อจากท่านผู้นำแห่งรัฐชาร์จาห์ ที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรอาหรับบนอ่าวเปอร์เซีย ที่มีประชากรนับหลายแสนคน เป็นจุดศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมที่มั่งคั่ง ผู้คนมากมายทั้งนักธุรกิจชาวต่างชาติและนักธุรกิจในอาหรับ ที่ต้องการร่วมลงทุนกับธุรกิจของชาร์จาห์ แต่ก็ไม่ง่ายนักเลยที่เชคฮบราฮิมผู้เคร่งครัดและมีแบบแผนจะยอมร่วมลงทุนด้วยง่าย ๆ หากผลที่ได้นั้นไม่มากพอจนเป็นท
บทที่ 2 - ครรชิตท้องฟ้าที่แสนสดใส แสงแดดเจิดจ้าร้อนระอุจนแสบผิวของเมืองไทย สาวไทยผิวสองสีกำลังย่างกรายเรียวขายาวสวยเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้เธอจะไปทำตามฝันที่ตั้งใจ ม่านฟ้าทำการลาพักร้อนด้วยสิทธิ์ที่เธอนั้นมี วันนี้เธอจะได้เหยียบผืนดินที่ใฝ่ฝันมานาน"เดินทางดีๆ นะแก" เอยเพื่อนสนิทมาส่งม่านฟ้ายังสนามบินเพื่อเดินทางไปยังที่หมาย สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์"ขอบใจนะเอย...ที่มาส่ง" ม่านฟ้าขยับเข้าไปกอดเอยอย่างขอบคุณ"เที่ยวให้สนุกนะแก...ฝันกำลังเป็นจริงแล้ว""อืม...ฝากดูแลบ้านด้วยนะ รดน้ำต้นไม้ให้ด้วย" ม่านฟ้าละกอดจากเอย และเอ่ยฝากฝังดูแลบ้านที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ยายทิ้งไว้ให้ก่อนลาลับจากโลกไปเสียงเครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าที่แสนกว้างใหญ่ไพศาล แพก้อนเมมฆสีขาวสะอาดตาหนากระทบกับแสงแดดจ้า ส่องประกายระยิบระยับ เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติช่างสรรค์สร้างขึ้นมาเสียจริง สายตาคมจ้องมองความงามบนท้องฟ้ารอยยิ้มและหัวใจเต้นตุบ ๆ...บริษัททัวร์ที่ม่านฟ้าเลือกใช้บริการก็ดูแลดีเสียจริง การเดินทางที่ไร้คนรู้จัก ก็ไม่ยักจะเป็นอุปสรรคต่อม่านฟ้าเลยสักนิด"สวัสดีครับ" เสียงหนึ่งดังขึ้นจนเธอต้องละ
บทที่ 1สาธารณะรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อาณาเขตดินแดนในฝันที่ใครหลายคนนั้นอยากไปเหยียบสักครั้งในชีวิต ด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ความมั่งคั่งของผู้คนและเศรษฐกิจที่รุ่งเรือง ความตระการตาของตึกราบ้านช่อง วัฒนธรรมที่น่าศึกษาและสิ่งสวยงามของประเทศนี้ที่แตกต่างและหรูหรา"สวยจัง" เสียงหวานของม่านฟ้าหญิงสาววัยสร้างตัวที่ได้แต่นั่งมองรูปภาพ ชื่นชมทัศนียภาพแค่ภาพนิ่ง อยากให้สักวันมันเป็นความจริง ว่าเธอนั้นจะได้มีโอกาสสัมผัส ผืนทะเลทราย ที่ร้อนระอุแต่มันก็มีความงามในแบบของตัวมันเอง ที่ทำให้ม่านฟ้านั้นหลงใหล อยากจะไปสักครั้งม่านฟ้า เป็นสาวโสดตัวคนเดียว ไร้ญาติพี่น้อง พ่อแม่ตายจากตั้งแต่เธอยังเด็ก มีเพียงยายคนเดียวที่ชุบเลี้ยงเธอมา แต่ต้องมาจากลาไปอย่างไม่มีวันกลับเมื่อปีที่แล้วด้วยโรคชรา ม่านฟ้าเป็นคนใจแข็ง เธอเลือกคบคน น้อยนักที่ใครจะกล้าเข้าหาเพราะหน้าตา ท่าทางเธอนั้นดูเย็นชา ม่านฟ้าชอบอิสระ ชอบท่องเที่ยว ชอบถ่ายรูป มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง แต่แอบดื้อเงียบ มีความมั่นใจในตัวเอง กล้าได้กล้าเสียม่านฟ้าทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มีเพื่อนที่สนิทกันแค่ไม่กี่คน เพราะเธอนั้นเลือกที่คบ มันมีสาเหตุให้เธอเป็น