เรื่องราวของฮั่วซินยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องบนอินเทอร์เน็ตเพื่อลดกระแสความร้อนแรง ฮั่วจิ้นเฉิงจึงจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของฮั่วกรุ๊ปก่อนกำหนด โดยเป็นงานควบการนำเสนอผลการวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับหุ่นยนต์นาโนด้วยต้องยอมรับเลยกลยุทธ์ของฮั่วจิ้นเฉิงนั้นรวดเร็วและแม่นยำอย่างยิ่ง ที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ของฮั้วกรุ๊ปมาลดกระแสความร้อนแรงของข่าวฉาวฮั่วซินในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ หุ้นของตระกูลฮั่วก็เริ่มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ"โอ้โฮ อย่างที่คาดไว้เลย กลยุทธ์ของฮั่วจิ้นเฉิงนี่สุดยอดจริง ๆ"เจี่ยงอีอีอดไม่ได้ที่จะกล่าวชื่นชมจู้หว่านอี้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็แสดงความเห็น "เป็นกลยุทธ์ทั่วไปของกลุ่มทุนนิยม ฉันได้ยินมาว่าฮั่วซินถูกส่งตัวไปต่างประเทศแล้ว ในระยะเวลาอันสั้นนี้ เธอคงไม่กลับมาสร้างความวุ่นวายอีก""หึ ผู้หญิงคนนี้มีความคิดที่สกปรก ทำเรื่องเกินเลยมากมาย พูดตามตรง ฉันคิดว่าฮั่วจิ้นเฉิงเมตตาเธอมากเกินไปด้วยซ้ำ""ยังไงนั่นก็น้องสาวแท้ ๆ ของเขา คงไม่ลงโทษกันถึงตายหรอก"ทั้งสองพูดคุยกันและหันไปมองหลีเกอจู้หว่านอี้บอกว่า "ที่รัก ต่อให้ฮั่วซินหนีไปแล้วก็ยังหนีไม่พ้นความอับอายขายหน้
หลีเกออดไม่ได้ที่จะถามนั่นคือจุดประสงค์ที่ฟู่ซิวเป่ยมาในวันนี้"ตอนนี้กี่เพ้าชุดนี้ถูกเก็บรักษาอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ แต่คืนนี้จะถูกนำออกมาประมูลการกุศล ขายทอดออกไป"เมื่อพูดจบเจี่ยงอีอีเป็นคนแรกที่ตื่นเต้น "รออะไรอยู่ล่ะ ไม่ว่าจะราคาเท่าไหร่ก็ตาม เราต้องประมูลมาให้ได้"จู้หว่านอี้เห็นด้วยเช่นกัน"ดูแล้วกี่เพ้าชุดนี้ต้องมีประโยชน์สำหรับแฟชั่นโชว์ครั้งนี้มาก เราต้องทำยังไงก็ได้ให้ได้มันมา"สายตาของหลีเกอไม่ละไปจากภาพถ่ายชุดกี่เพ้าตรงหน้าเลยเธอเงยหน้ามองฟู่ซิวเป่ย “พี่ซิวเป่ยคะ เอาตามนี้เลย""ได้ งั้นคืนนี้ผมจะไปกับคุณ”เจี่ยงอีอีและจู้หว่านอี้ตอบรับ "พวกเราไปด้วย"...หนึ่งทุ่มตรงสถานที่จัดงานประมูลการกุศลครั้งนี้คือสมาคมการค้าปินเฉิงแห่งที่หนึ่ง เวลานี้ผู้คนคึกคักมาก คนที่สามารถเข้าร่วมงานประมูลการกุศลครั้งนี้ได้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นบุคคลชั้นสูงของปินเฉิงเจี่ยงอีอีและจู้หว่านอี้แต่งตัวอย่างประณีต สวมชุดเพื่อนซี้สีเดียวกันทันทีที่พวกเธอปรากฏตัวก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย"นั่นไม่ใช่เจ้าของร้านแบรนด์เนมชื่อดังในปินเฉิงหรอกเหรอ? เธอก็มาที่นี่ด้วย!""คนที่อยู่ข้างเธ
หานเสวี่ยเอ้อร์เคยผ่านงานใหญ่มาแล้วนับไม่ถ้วน แม้ว่าฟู่ซิวเป่ยจะไม่ให้เกียรติเธอเลย แต่เธอก็ไม่โกรธเคือง กลับพูดต่อไปว่า "เข้าใจค่ะ เข้าใจค่ะ ประธานฟู่คงจะลืมไป ฉัน หานเสวี่ยเอ้อร์ เราเคยเจอกันที่งานเปิดตัวเอฟแอลกรุ๊ป"ฟู่ซิวเป่ยถึงจะได้ยินอย่างนั้น แต่ก็ยังไม่มีความทรงจำใด ๆ"โอ้ ขอโทษด้วยครับ ผมจำไม่ได้เลย"คำพูดนี้ตรงไปตรงมาเกินไปสื่อถึงการปฏิเสธอย่างชัดเจนหานเสวี่ยเอ้อร์เห็นดังนั้นก็ได้แต่ยิ้มแห้งหลีเกอที่อยู่ข้าง ๆ อดขำไม่ได้ นึกไม่ถึงว่าฟู่ซิวเป่ยจะเป็นผู้ชายเถรตรงขนาดนี้ มีสาวสวยอยู่ตรงหน้า แต่กลับไม่สะทกสะท้านเลยสักนิดขณะเดียวกันที่หน้าประตู ฮั่วจิ้นเฉิงสวมชุดสูทสีดำล้วนซึ่งตัดเย็บพิเศษปรากฏตัวขึ้นที่นี่เช่นกันช่วงเวลาที่ผ่านมา ชื่อเสียงของตระกูลฮั่วตกต่ำลงอย่างมากเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูลฮั่วกลับคืน เขาจึงต้องเข้าร่วมงานประมูลการกุศลครั้งนี้ด้วยเหตุผลหลักทั้งเพื่อร่วมงานการกุศล บริจาคเพื่อการกุศล และต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อกู้คืนความประทับใจอันดีของสาธารณชนที่มีต่อตระกูลฮั่ว"ประธานฮั่ว! ยินดีต้อนรับครับ! เชิญทางนี้..." ฝ่ายผู้จัดงานเห็นฮั่วจิ้นเฉิง บุคค
"นาฬิการาคาหลักแสน กลับถูกประมูลไปในราคาสองล้าน! เหลือจะเชื่อเลย""ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครประมูล นั่นคุณหนูหลีไงล่ะ เงินเยอะจนใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด""สองล้านสำหรับเธอมันก็แค่เศษเงิน ไม่ได้มีค่าอะไรเลย""..."หานเสวี่ยเอ้อร์เย้ยหยันดูถูกเมื่อได้ยินเสียงซุบซิบของคนรอบข้าง จากนั้นก็ยกป้ายขึ้นอีกครั้ง"สามล้าน!"พิธีกรตื่นเต้น "เยี่ยมครับ คุณผู้หญิงท่านนี้ประมูลที่สามล้าน!"หลีเกอไม่สนใจ ยกป้ายขึ้นอีกครั้ง “ห้าล้าน!""โอ้โฮ! ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?! นาฬิกาเรือนนี้ถูกประมูลแข่งกันในราคาสูงขนาดนี้เชียว!""สงสัยคงรวยจนไม่เห็นคุณค่าของเงินละมั้ง!""พวกคุณจะไปรู้อะไร เอาเข้าจริงเงินทั้งหมดก็จะถูกนำไปบริจาคเพื่อการกุศล ยิ่งบริจาคมากหน่อยก็เท่ากับทำบุญมาก""..."ฟู่ซิวเป่ยมองหลีเกอด้วยความสงสัย แล้วพูดเสียงเบา "พอแล้วคุณ!"ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าหลีเกออยากประมูลนาฬิกาเรือนนี้ไปทำไม แต่ราคาปัจจุบันก็สูงเกินกว่ามูลค่าจริงของนาฬิกาไปมากแต่หลีเกอกลับปลอบใจเขา"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ซิวเป่ย!"ทันทีที่หลีเกอพูดจบ หานเสวี่ยเอ้อร์ก็ตะโกนราคาอีกครั้ง "หกล้าน!"เธอพูดประโยคนี้โดยไม่กะพริบตาเลยสักนิด
“รายการต่อไปคือชุดกี่เพ้า สมบัติตกทอดจากสมัยสาธารณรัฐ ออกแบบโดยมีแรงบันดาลใจมาจากเครื่องลายครามสีน้ำเงินและสีขาว มีอายุหลายสิบปี ควรค่าแก่การสะสม กี่เพ้าชุดนี้มีราคาเปิดประมูลเริ่มต้นที่ 500,000 หยวนครับ”“550,000...”“600,000...”“700,000...”“...”ในไม่ช้า ชุดกี่เพ้าก็ถูกประมูลไปจนถึงราคาหนึ่งล้านหยวนหลีเกอเห็นจังหวะที่เหมาะสมจึงเสนอราคา “1,500,000 หยวน!”ผู้คนรอบข้างเห็นว่าเป็นหลีเกอ จึงพากันวางป้ายไม่ประมูลต่อแต่ไม่คาดคิดว่าในเวลานี้ ฮั่วจิ้นเฉิงกลับยกป้ายในมือขึ้นมา “1,800,000 หยวน!”นี่เป็นครั้งแรกที่ฮั่วจิ้นเฉิงเสนอราคาในคืนนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาต้องการแย่งชุดกี่เพ้านี้ไปจากหลีเกอ“โห นี่มันฉากอะไรกันเนี่ย ฮั่วจิ้นเฉิงกับหลีเกอใช้เงินสู้กันเหรอ?”“อดีตภรรยา ปะทะ อดีตสามี ดูซิว่าใครจะเหนือกว่ากัน?”“ฉันเริ่มรู้สึกตื่นเต้นแล้วล่ะ!”“...”หลีเกอไม่คิดว่าฮั่วจิ้นเฉิงจะเสนอราคา คิ้วของเธอขมวดเข้าหากัน จากนั้นก็ประมูลตามไปติด ๆ “2,200,000 หยวน”ฮั่วจิ้นเฉิงยกป้ายต่อเนื่อง “3,000,000 หยวน!”ราวกับเขาเองก็จะไม่หยุดจนกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการจุดประสงค์หนึ่งที่ฮั่
หลีเกอไม่ได้ให้ความสนใจเธอหยิบบัตรเครดิตของตัวเองออกมาเมื่อหลีเกอหยิบบัตรเครดิตส่งให้พนักงาน ฟู่ซิวเป่ยที่อยู่ข้างหลังกลับรีบเสนอตัวก่อน“ใช้ใบนี้แล้วกัน...”หลีเกอรีบปฏิเสธ“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ซิวเป่ย ฉันจ่ายเองได้...”ฟู่ซิวเป่ยกลับคลี่ยิ้ม“ระหว่างเรา ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันขนาดนั้น คิดเสียว่ากี่เพ้าชุดนี้เป็นของขวัญที่ผมตั้งใจให้ หวังว่าหลังจากนี้กิจการของคุณจะรุ่งเรือง งานแสดงแฟชั่นโชว์ครั้งนี้เป็นกระแสโด่งดังไปทั่ว”“ไงนะ?” หลีเกอตกตะลึงตั้งท่าจะพูดอะไรต่อฟู่ซิวเป่ยไม่ให้โอกาสเธอปฏิเสธ หยิบบัตรเครดิตยื่นให้พนักงานโดยตรงยี่สิบล้านหยวนถูกตัดชำระออกจากบัตรไปอย่างง่ายดายแลกมาด้วยชุดกี่เพ้าเครื่องลายครามหลีเกอยังคงลังเลอยู่บ้าง พี่ซิวเป่ยใจดีกับเธอเกินไปแล้วหรือเปล่านะ?พนักงานจัดการแพ็กชุดกี่เพ้าให้อย่างเรียบร้อยแล้วนำมาให้หลีเกอเมื่อครู่นี้ตอนอยู่บนเวที แค่มองจากระยะไกลก็รู้สึกทึ่งมากแล้วตอนนี้เมื่อมันถูกวางอยู่ตรงหน้า หลีเกอกลับละสายตาไปไม่ได้เลยลายปักและฝีเย็บแต่ละเข็มแต่ละเส้นด้ายล้วนมีความเป็นเอกลักษณ์สูงมาก ฝีมือการเย็บปักถักร้อยบ่งบอกถึงกลิ่นอายของยุคส
ฮั่วจิ้นเฉิงพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้แสร้งทำเป็นไม่สนใจอะไรเขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา"กี่เพ้าชุดนี้สวยดี..."หลีเกอรู้สึกได้ถึงความรู้สึกพิเศษที่ฮั่วจิ้นเฉิงมีต่อกี่เพ้าชุดนี้ เธอจึงถามกลับ "ประธานฮั่วเองก็สนใจกี่เพ้าชุดนี้ด้วยเหรอคะ?"ฮั่วจิ้นเฉิงไม่ได้อธิบายอะไรมากนักเขาเพียงพูดว่า "ของดี ใคร ๆ ก็ชอบ เท่านั้นเอง"หลีเกอสังเกตเห็นว่าเขาดูเหมือนจะมีเรื่องราวอะไรในใจแต่เธอก็ไม่คิดให้ความสนใจอะไรมาก"ถ้าอย่างนั้นต้องขอบคุณประธานฮั่วที่ยอมเสียสละให้ค่ะ"พูดจบ หลีเกอก็เตรียมตัวจะจากไปฮั่วจิ้นเฉิงไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงเฝ้ามองเธอก้าวเดินจากไปใครจะรู้วินาทีถัดมาหานเสวี่ยเอ้อร์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลกลับหน้าด้านเดินเข้ามาหา "ประธานฮั่วคะ พอจะให้ฉันยืมเงินสักสามล้านได้ไหมคะ?"ฮั่วจิ้นเฉิงหันกลับมามองไปที่หานเสวี่ยเอ้อร์ซึ่งสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวังแววตาของเขาฉายแววเย้ยหยันสุดท้ายก็ตอบกลับไปว่า "ผมไม่มีนิสัยชอบให้ใครยืมเงิน"การปฏิเสธที่ชัดเจนแบบนี้ทำให้หานเสวี่ยเอ้อร์ถึงกับหน้าชาแต่ตอนนี้เธอไม่มีเงินเพียงพอแม้แต่หนึ่งล้านเพื่อจ่ายราคาประมูลสุดท้ายก็ถูกเจ้าหน
จนกระทั่งวันซ้อมใหญ่ก่อนถึงวันงานจริงเธอถึงได้รู้เรื่องนี้จากปากของเจี่ยงอีอี"ที่รัก ฉันได้ยินมาว่าสถานที่จัดงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากฮั่วกรุ๊ป ท่านประธานฮั่วจิ้นเฉิงจะเข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์วันพรุ่งนี้ด้วย และจะกล่าวสุนทรพจน์เปิดงานด้วยตัวเอง"หลีเกอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย"ฮั่วกรุ๊ปหันมาทำงานการกุศลตั้งแต่เมื่อไหร่?"เจี่ยงอีอีพูดแดกดันอย่างไม่เกรงใจ "คงเป็นเพราะเรื่องฉาวของฮั่วซินเมื่อครั้งก่อนแน่ ๆ การกระทำของหล่อนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของตระกูลฮั่วในระดับหนึ่ง ที่เขาทำแบบนี้ก็เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงน่ะสิ"หลีเกอร้องอ๋อออกมาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเธอเป็นแค่นักออกแบบหลักของงาน ภารกิจของเธอคือทำให้เสื้อผ้าทุกชุดในงานแฟชั่นโชว์พรุ่งนี้สามารถจัดแสดงได้อย่างราบรื่น"ที่รัก เธอว่า หรือฮั่วจิ้นเฉิงจะรู้ว่าเธอเป็นนักออกแบบหลักของงานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ ถึงได้จงใจเอาตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมกับงาน?"ซึ่งความจริงก็เป็นอย่างนั้น"อีอี เธอคิดมากเกินไปแล้วมั้ง?"ฮั่วจิ้นเฉิงเป็นคนแบบไหนไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเธออีกแล้วเขาไม่เคยสนใจเรื่องใด ๆ ของเธอเลย แล้วจะทำเรื่องที่แหวกขนบสามัญสำนึกแบ