Share

รับผิดชอบ

last update Huling Na-update: 2024-12-06 21:48:58

เปรมยุดาเดินนำการันต์เข้ามาภายในบ้าน พอเข้ามาถึงด้านในริมฝีปากกระจับก็เม้มจนเป็นเส้นตรง ป้าจันนั่งดูทีวีอย่างสบายใจไม่ทุกข์ร้อนกับการกลับบ้านผิดเวลาของเธอเลยสักนิด

“ป้า มีแขกมาบ้าน” 

“อ้าว เอ็งกลับมาแล้วรึ! แล้วนั่น...”

นางจันเอ่ยถามหลานสาวด้วยน้ำเสียงปกติ 

“สวัสดีครับ ขอโทษที่มารบกวนโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า”

ผู้มีอายุน้อยกว่ายกมือไหว้หญิงร่างอวบอ้วนแสดงสีหน้าตกใจกับการปรากฏตัวของตน แม้อยากจะคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเปรมยุดาเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ทว่าปฏิกิริยาเฉยเมยต่อหลานสาวของนางจันชวนให้คิดไปอีกทาง 

“สะ...สวัสดีจ้ะ คุณมาเที่ยวแถวนี้ก็เลยแวะมาเหรอ ว่าแต่เอ็งทำไมไม่ได้ยินเสียงรถล่ะ”

รับไหว้ชายหนุ่มหลังจากที่ปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้แล้วก็หันมาทางหลานสาว ปกติจะได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าเข้ามาจอดข้างใน 

“เปล่าครับ ผมไม่ได้มาเที่ยวแต่มาทำธุระที่นี่ บังเอิญเจอเปรมกำลังถูกทำร้ายอยู่ทางเข้าหมู่บ้าน ดีที่ผมมาช่วยไว้ได้ทันไม่งั้นเธอคงเจ็บมากกว่านี้”

การันต์ตอบนางจันเสียงเรียบ

ดวงตาสีดำสนิทวางอยู่ที่เดิมเพื่อค้นหาบางอย่างในสายตาเรียวรีของหญิงตรงหน้า หากว่าการปรากฏตัวครั้งนี้ของลูกชายกำนันนางมีส่วนรู้เห็นด้วยเขาคงปล่อยไปไม่ได้ ทว่านอกจากความตกใจก็ไม่มีแววเจ้าเล่ห์แฝงอยู่ในนั้น

ถ้าอย่างนั้นท่าทีเฉยเมยของผู้เป็นป้าที่มีต่อหลานสาวอาจจะเกิดจากไร้ความผูกพันกันตั้งแต่แรก ที่ได้เข้ามาอยู่ร่วมชายคาก็เป็นเพราะปฏิเสธไม่ได้! 

“ที่เอ็งกลับบ้านช้าเพราะเกิดเรื่องหรอกเหรอยัยเปรม ป้าก็นึกว่าเอ็งทำงานล่วงเวลาเสียอีก แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า”

หันมาสำรวจเนื้อตัวหลานสาว พอสังเกตอย่างละเอียดถึงเห็นว่าข้อมือเล็กมีรอยแดงจาง ๆ แล้วตรงแขนก็มีรอยขูดจากของแข็ง ใบหน้าอวบอ้วนก็ปรากฏร่องรอยของความห่วงใย

เปรมยุดาวางสีหน้าไม่ถูกกับอากัปกิริยาของผู้เป็นป้าแววตาห่วงใยมีต่อตนเองยอมรับว่าไม่สนิทใจ ไม่รู้ว่าที่แสดงออกมาเป็นเพราะมีแขกอยู่ด้วยหรือเพราะมีใจเป็นห่วงจริงไหม หากแต่ทว่าการกระทำของท่านที่ผ่านมาให้ยอมรับเป็นอย่างหลังไม่ได้จริง ๆ 

“ลูกชายกำนันเป็นคนทำค่ะ เขาไม่ยอมเลิกรังควานเปรมสักทีถ้าแบบนี้คงต้องใช้กฎหมายเล่นงานแล้ว” 

“ไม่ได้! เอ็งก็รู้ว่าถ้ามีเรื่องกับพ่อกำนันจะเป็นยังไง เอ็งจะอยู่บ้านเราอย่างสงบสุขได้เหรอ” 

“เพราะเอาแต่กลัวอยู่อย่างนี้พวกเขาถึงได้ใจ คิดว่าจะทำอะไรใครก็ได้ยังไงก็ไม่มีความผิดงั้นเหรอคะ เปรมไม่ทันให้พวกเขารังแกอยุ่แบบนี้หรอกนะป้า ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม”

“ยัยเปรม! แกจะมีปัญญาที่ไหนไปสู้กับเขา แค่ตัวเองก็เอาตัวให้รอดก่อน!” 

บทจะไม่ยอมใครเปรมยุดาก็สู้หัวชนฝา เธอสงบเสงี่ยมเรียบร้อยไม่มีปากเสียงคนก่อนหายไป สิ่งแวดล้อมหล่อหลอมเด็กคนหนึ่งให้เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวหรือ

การันต์เลือกจะปิดปากเงียบในตอนแรกเพื่อจะหาช่องว่างให้ตัวเองเข้าไปมีบทบาทระหว่างสองป้าหลาน พอสบโอกาสจึงเริ่มทันที

“ขอโทษนะครับ ผมขอพูดอะไรหน่อยได้ไหมเรื่องที่คุณป้ากลัวและเปรมยุดาต้องเผชิญ ผมสามารถหาทางออกให้ได้โดยที่ไม่มีใครได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้อีก สนใจจะฟังข้อเสนอของผมหรือเปล่า” 

พอเป็นเรื่องเกี่ยวกับกำนันเทพนางจันก็กลัวจนหลงลืมไปว่าภายในบ้านยังมีอีกคนนั่งอยู่อีกฟากหนึ่ง 

“คุณเป็นคนนอกพื้นที่จะช่วยอะไรพวกเราได้ อย่าเข้ามายุ่งจะดีกว่า”

รีบปฏิเสธเสียงแข็งไม่ยอมรับความคิดเห็นจากคนนอก อีกนัยหนึ่งก็เพราะกลัวว่าสิ่งที่ตนเองสร้างไว้จะถูกเปิดเผยออกมา ถึงเวลานั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน 

“แค่อาช่วยหนูจากผู้ชายคนนั้นก็ซาบซึ้งใจแล้วค่ะ”

เปรมยุดายกมือไหว้คุณอาใจดีอีกครั้ง เธอไม่อยากดึงใครเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวายที่ผู้เป็นป้าก่อเอาไว้ จากคำขู่ของทิมก่อนไปยังก้องอยู่ในหัวหากคนนอกพื้นที่อย่างเขาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ อาจจะเป็นอันตรายต่อตัวเขาได้ 

การันต์ยกยิ้มให้กับสองป้าหลานที่ค้านความคิดเห็นของตนเอง

หนึ่งไม่อยากให้ยุ่งด้วยเหตุผลใดเขาย่อมรู้ดี แต่อีกหนึ่งสายตาใสซื่อฉายแววกระวนกระวายใจนี่สิ กำลังกระตุกหัวใจของเขาเข้าอย่างแรง

เป็นห่วงไม่เข้าเรื่องเสียจริงเด็กน้อย’ ชายหนุ่มถอนสายตาเอื้ออาทรออกจากใบหน้าจิ้มลิ้ม 

วางสีหน้าเรียบเฉยมาทางเจ้าของร่างอวบอ้วน

“ถ้าผมกลัวอิทธิพลของคนที่นี่ก็คงจะไม่มานั่งอยู่ตรงนี้ ต่อให้เก่งกาจมาจากไหนถ้าทำตัวอยู่เหนือกฎหมายก็ไม่ควรใช้ชีวิตที่สุขสบาย คุณป้าคิดอย่างนั้นไหมครับ” 

“ฉัน...ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูด ความรู้ฉันมีน้อยให้ตีความหมายอะไรพวกนี้ไม่ได้หรอก เอาเป็นว่าฉันขอบใจที่ช่วยยัยเปรมเอาไว้ถ้าเสร็จธุระแล้วก็กลับเถอะ ประเดี๋ยวมืดค่ำจะเดินทางลำบาก” 

จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าชายหนุ่มผู้นี้น่ากลัวเกินไป สายตาคมกริบจ้องมองราวกับเครื่องสแกนจับเท็จของตำรวจ หากรั้งอยู่นานคงหลุดปากพูดถึงความผิดของตัวจนหมดเป็นแน่ นางจันครุ่นคิดหวาดหวั่นอยู่ในใจ

เปรมยุดากลอกดวงตากลมโตไปมาระหว่างผู้ใหญ่ทั้งสอง ให้คลางแคลงกับคำพูดของคุณอาตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อครู่แล้ว คนในหมู่บ้านเห็นแล้วหลบเลี่ยงกลัวอิทธิพล แต่เขาทั้งที่รู้ว่านั่นเป็นลูกชายใคร มีอำนาจในพื้นที่มากแค่ไหนถูกข่มขู่กลับไม่มีท่าทีเกรงกลัว ซ้ำยังขู่ทางนั้นกลับจนรีบหลบไปทำให้เธอสงสัยเหลือเกิน ว่าไม่กลัวจริงหรือมีอะไรซ่อนอยู่โดยที่ตนเองไม่รู้กันแน่ 

“ผมคงกลับไปตอนนี้ไม่ได้เพราะยังทำธุระไม่เสร็จครับ”

“ธุระของคุณไม่ได้อยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือ”

“ผมไม่ได้บอกว่าไม่ใช่นี่ครับ”

“หมายความว่ายังไง?”

การันต์ไม่ตอบคำถามของนางจันในทันที เขาหันไปยิ้มบาง ๆ ให้กับเปรมยุดา จากนั้นก็เปิดกระเป๋าถือใบใหญ่ล้วงซองเอกสารสีน้ำตาลวางลงตรงหน้าหญิงวัยกลางคน

“ผมจะใช้หนี้ทั้งหมดที่คุณป้าติดกำนันเทพ รวมถึงหนี้สินอื่น ๆ ของคุณป้าด้วย”

“อากาน!” เปรมยุดาเรียกคนตัวสูงเสียงแผ่ว 

“ครับ?” 

“หมายความว่ายังไงคะที่ว่าใช้หนี้แทน” 

“อารู้ทุกอย่างหมดแล้วทั้งเรื่องเรียนแล้วก็งานของเรา รวมถึงหนี้สินของคุณป้าด้วย” บอกอย่างไม่ปิดบังอยากให้เธอรู้ว่าเขามาด้วยความตั้งใจตั้งแต่แรกเริ่ม 

“คุณรู้...แล้วรู้ได้ยังไง?”

นางจันยิ่งกว่าเปรมยุดาเสียอีก สีหน้าซีดเผือดไร้เลือดหล่อเลี้ยง ปากสั่นระริกด้วยความตื่นตระหนกกลัวความผิดจะพาตัวเองเข้าไปอยู่ในคุกในตาราง

“ผมขอไม่บอกรายละเอียดแล้วกันครับ เอาเป็นว่าผมรู้ว่าที่ผ่านมาเธอเจอกับอะไรบ้างก็พอ”

สบตาหญิงอวบอ้วนไม่หลบหลีกซึ่งสะท้อนแววตื่นกลัวออกมาชัดเจน เท่านี้ก็พอรู้แล้วว่าข้อมูลที่เขามีอยู่ในมือเป็นความจริง

ซึ่งเจ้าตัวรู้ดีที่สุด!

นางจันด้วยความกลัวความผิดของตัวเองจึงบีบมือที่ประสานกันแน่นเนื้อตัวสั่นเทา หลุบดวงตาสั่นไหวลงต่ำไม่กล้าแม้จะหันไปหาหลานสาวที่เอาแต่นั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ ทั้งที่ผู้ชายตรงหน้าไม่แสดงถึงการคุกคามหรือข่มขู่ใด ๆ แต่ภายในจิตใจของคนมีอายุนั้นหวาดระแวงไปหมด ความกลัวเกาะกุมหัวใจจนเหงื่อกาฬแตกผลัก 

เปรมยุดาสับสนงุนงงกับเรื่องราวทั้งหมด ชีวิตเธอพลิกผันกลับไปกลับมา กระเด้งกระดอนขึ้นลงจนหัวหมุนยิ่งกว่าลูกบอลที่ถูกโยนอยู่กลางสนาม

ป้าที่เป็นสายเลือดแท้ ๆ ผลักไสเธอลงไปในบ่อเต็มไปด้วยโคลนค่อย ๆ ดูดเธอลงไปใต้ตมนั้นช้า ๆ กับอีกคนที่ไม่มีแม้แต่สายเลือดเดียวกัน เป็นเพียงรุ่นน้องของพ่อแต่กลับฉุดเธอขึ้นมาจากบ่อโคลนตม

ทว่าพอเป็นสีหน้าของป้าแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้...

การันต์มองเห็นแววตาของเด็กสาวใสซื่อคนเดิมกลับคืนมา เนื้อแท้ของเธอเป็นคนจิตใจอ่อนโยนเช่นดั่งบุพการีทั้งสอง ทว่าเป็นเพราะถูกผู้เป็นป้าซึ่งไม่เคยมีครอบครัวและยังมีหนี้สินรุงรังเข้ามาดูแล จึงทำให้เปรมยุดาแข็งกระด้างจนต้องสร้างภูมิให้กับตัวเอง 

“เรื่องในวันนี้จะไม่แพร่งพรายออกไปไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ตาม คุณป้ายังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเพียงแต่ว่าเปรมยุดาจะต้องไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป” 

Kaugnay na kabanata

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   ย้ายที่อยู่

    นางจันคิดใคร่ครวญถึงข้อเสนอของชายหนุ่ม พินิจดวงตาคมกล้าสีดำสนิทไร้แววล้อเล่นและความเจ้าเล่ห์เฉกเช่นผู้นำท้องถิ่นอย่างกำนันเทพ แล้วจึงหันไปหาหลานสาวตกอยู่ในสภาพมอมแมมอีกทั้งรอยขีดข่วนจนช้ำตามลำตัว‘ช่างน่าละอายใจเหลือเกิน’ ความผิดจากการกระทำที่เห็นแก่ตัวกระแทกหัวใจคนเป็นป้าจนจุกในอก เปรมยุดาเป็นหลานสาวแท้ ๆ แต่ตนกลับปกป้องอะไรไม่ได้ เพราะความขลาดกลัวต่ออำนาจบวกกับความละโมบในทรัพย์สินของน้องชาย จึงทำให้หลงหน้ามืดตามัวเอาเงินทองมากมายมาเป็นของตนเอง ปล่อยให้เด็กสาวตัวเล็ก ๆ ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดด้วยตัวเอง น้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นจากดวงตาเล็ก...“ป้าผิดไปแล้วจริง ๆ เปรมเอ๊ย...เอ็งไม่ควรตกอยู่ในสภาพนี้ ควรจะมีโอกาสที่ดีเหมือนลูกหลานคนอื่นเขา ฮึก ๆ ป้าขอโทษนะลูก ป้ามันเห็นแก่ตัว ตายไปจะสู้หน้าพ่อกับแม่เอ็งได้ยังไง ฮือ...”หน้าผากเหี่ยวย่นแตะหลังมือแดงก่ำของหลานสาว กว่าจะคิดได้ก็เกือบทำให้เด็กน้อยผู้อาภัพคนนี้ตายทั้งเป็นอาทิตย์ต่อมา...เขตสัตหีบเข้าสู่ช่วงเวลาบ่ายคล้อย การันต์เดินทางกลับมาถึงบ้านพร้อมกับเปรมยุดา “ห้องอาอยู่ชั้นสองฝั่งซ้ายมือ ส่วนของเราอยู่อีกฝั่งมีระเบียงด้านนอกเปิดออกไ

    Huling Na-update : 2024-12-06
  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   เรื่องน่าอาย

    “ไหน ๆ ก็มาแล้วจะเสียเวลาไปซื้อที่อื่นอีกทำไม” ให้เหตุผลกับคนขี้เกรงใจ ปกติผู้หญิงต้องเลือกใช้ของที่ดีไม่ใช่เหรอ ไม่ได้จะดูแคลนของตลาดนัดเพียงแต่ว่าเขาต้องการให้เปรมยุดาใช้ของแบรนด์นี้มากกว่า “หนูไม่เสียเวลาค่ะ เดินไปไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงแล้ว” อุตส่าห์หาเหตุผลมาเลี่ยง ไม่ใช่แค่เพราะเรื่องราคาแต่ระหว่างที่เลือกชุดชั้นในด้วยนี่สิ ครั้นจะบอกให้เขายืนรออยู่หน้าร้านก็จะกระไรอยู่ในเมื่อข้างในมีที่ให้นั่งรอ!“แต่อาอยากให้ซื้อที่นี่!” “แต่ว่ามันแพง”“แพงแล้วอาให้เราจ่ายเหรอ”“ก็นั่นแหละค่ะ เพราะเป็นเงินของอาไง ลองคิดดูซื้อร้านนี้ชุดละตั้งเกือบพัน สู้เอาไปซื้อที่ตลาดนัดพันหนึ่งได้ตั้งหลายชุด”การันต์เส้นขมับเต้นตุบ ๆ กรามแกร่งขบเข้าหากันเมื่อได้ฟังคำพูดของคนกำลังอธิบายคอเป็นเอ็น ปกติพูดน้อยทว่าคราวนี้พูดจนหน้าดำหน้าแดงแค่เพราะเรื่องราคาเนี่ยนะ“.....”“เปรมยุดา!”ผู้รับอุปการะเอ่ยเสียงเข้ม เมื่อเธอยังเอาแต่เงียบเพราะอยากให้ใช้ของที่ดีถึงได้พามาทั้งที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อน กลับถูกปฏิเสธในความหวังดี นัยน์ตาสีดำสนิทกดลงต่ำในระดับใบหน้าของคนตัวเล็กกว่าเรียบนิ่ง ทำยังไงดี! เธอกำลังทำให้คุณอาไม่พอใจ

    Huling Na-update : 2024-12-06
  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   โลกใบใหม่

    กำลังคิดอะไรของแกการันต์! สิ่งที่อยู่ในหัวถูกสลัดออกไปหลังจากปล่อยให้ตนเองเผลอไผลกับภาพน่าหลงใหลของเปรมยุดา นึกตำหนิอารมณ์วาบหวามของตนเมื่อใกล้ชิดกับคนในอุปการะทั้งที่ไม่ควรเลยสักนิด หรือเป็นเพราะขาดเรื่องบนเตียงมานานถึงได้มีความรู้สึกพวกนี้ขึ้นมา!ลำแขนใหญ่คลายออกจากเอวคอดเมื่อปรับอารมณ์ของตนให้กลับมาเป็นปกติดังเดิม“คราวหน้าก็ระวังกว่านี้หน่อยเกิดไปชนคนอื่นเข้าจะเป็นอันตราย” ปากก็เตือนด้วยความเป็นห่วง ในหัวกลับคิดว่าหากเป็นคนอื่นที่ประคองโอบเจ้าของร่างเล็กนี้...“หนูจะระวังให้มากกว่านี้ค่ะอากาน”สิ้นคำนั้นการันต์ก็ยื่นมือออกไปจับข้อแขนเรียวแล้วก้าวไปยังอาคารของผู้บริหารของมหาวิทยาลัยเซนต์เจมส์วันเปิดเทอม...ข้างอาคารคณะบริหารธุรกิจมีนักศึกษาทั้งหญิงและชายนั่งเกาะกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนาน หลังจากไปพักผ่อนตลอดช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา พวกเขาเหล่านี้ล้วนเป็นลูกคุณหนูถูกครอบครัวสปอยล์เอาใจมาตั้งแต่เด็ก ความเป็นอยู่ไม่ได้ลำบากอย่างเช่นหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งปลีกตัวออกมานั่งห่างจากคนอื่น ๆ หลายโต๊ะกั้นเอาไว้แม้ตอนนี้เธอจะถูกชุบเลี้ยงอย่างดีจากผู้มีพระคุณทว่าเปรมยุดาก็ไม่เคยลืมว่าแท้จริงแล้วตนเองม

    Huling Na-update : 2024-12-06
  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   เอาใจ

    CEO หนุ่มผู้สุขุมลุ่มลึกหลุดมาดเพียงเพราะเรื่องแค่นี้? เหมือนไม่ใช่ตัวเขาเลยสักนิด‘ช่างเป็นคนไม่แยกแยะเอาเสียเลยนะไอ้กาน!’ ฉุกคิดได้ว่าตนทำไม่ถูก เปรมยุดาอยู่ในวัยเรียนแล้วพึ่งจะเริ่มกับสังคมใหม่ ๆ ควรจะปล่อยให้เธอได้อยู่กับเพื่อนบ้าง! “ไม่ต้องหรอกนัดกันแล้วก็ไปทานให้อร่อย เงินพอหรือเปล่าต้องการเพิ่มไหม” กลับมาอยู่ในโทนเสียงเดิมหลังจากตำหนิตนเองไป[ขอบคุณค่ะอากาน เงินหนูยังมีอยู่ค่ะไม่ได้ใช้อะไร]“จำเป็นก็ใช้บ้าง” [ค่ะ หนูจะใช้ถ้าจำเป็น]“ดื้อ”หากอยู่ตรงหน้าเมื่อเอ่ยคำนี้การันต์คงได้เห็นดวงหน้าจิ้มลิ้มงอเง้าเพราะคำนี้เป็นแน่ ทว่าตอนนี้ต่างอยู่กันคนละที่จึงพบเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาลอดผ่านเข้ามาให้ได้ยินเปรมยุดาขบเรียวปากเมื่อถูกดุเสียงทุ้มดวงตาประกายวูบไหวมองหน้าจอที่พึ่งดับไป..“เปรมเสร็จยังไปกัน” “อืม ไปกัน” หย่อนมือถือเข้ากระเป๋าตามเดิมแล้วก้าวไปหาเพื่อนทั้งสองที่ยืนรออยู่ทางเดินร้านย่างเนื้ออยู่ห่างจากมหา’ลัยเพียงสองซอยนับว่าไม่ได้ไกลมากนัก ใช้เวลาเดินทางไม่กี่นาทีก็ถึง เปรมยุดาให้ขุนพลเป็นคนเลือกเมนูโดยต้องใจคอยกำกับอยู่ข้าง ๆ “เธอจะกินทำไมไม่เลือกเองเมนูก็อยู่ตรงหน้านั่

    Huling Na-update : 2024-12-06
  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   คิดเกินเลย

    “ไม่บอกหนูล่ะคะ ทำไมถึงอดทนเพื่อหนูขนาดนี้ด้วย” เสียงอู้อี้ลอดผ่านช่องว่างอันน้อยนิดก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหาความอบอุ่น การันต์กำมือแน่นตั้งตัวไม่ทันกับเปรมยุดาแบบนี้ ที่ผ่านมาแม้จะทำดีด้วยแค่ไหนอย่างมากก็ไหว้ขอบคุณ แต่สวมกอดเต็มตัวอย่างนี้ไม่เคยเลยสักครั้ง เธอจะรู้ไหมว่าการกระทำนี้กำลังทำร้ายเขาอย่างรุนแรง! “เปรมยุดา!”เสียงทุ้มกดลงต่ำเอ่ยหลังจากปล่อยให้ความเผลอไผลอยู่เหนือความเป็นจริง สาวน้อยคนนั้นที่เคยเอ็นดูบัดนี้โตเป็นสาวสะพรั่งเต็มตัวแล้ว สัมผัสได้จากความนุ่มเบียดเสียดเหนือหน้าท้องมีขนาดใหญ่เพียงใด! ดวงตาหลับพริ้มเปิดขึ้นเมื่อคำที่คุณอาเคยใช้ไม่เป็นอย่างเคย แม้น้ำเสียงจะไม่ดุดันทว่าจับได้ถึงความเคร่งขรึมดันตัวออกห่างจากร่างใหญ่กำยำช้อนดวงตาคู่สวยไล่ตั้งแต่สันกรามคมกริบผ่านเส้นโค้งสวยได้รูปของเรียวปากหยัก ไปจนถึงสันจมูกโด่งคมกริบก่อนจะหยุดที่นัยน์ตาสีดำขลับหลุบลงมาพอดี วินาทีนั้นหัวใจก็เจ็บแปลบเมื่อความอบอุ่นไม่ได้มีอยู่ในนั้นเหมือนเช่นเคย เธอล้ำเส้นเกินไปใช่หรือเปล่า! “หนู...ขอโทษค่ะต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีก อากานอย่าโกรธหนูได้ไหมคะ” วิงวอนเสียงอ่อนเจือไปด้วยความกังวล ไม่อยากให้เ

    Huling Na-update : 2024-12-06
  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   เว้นระยะห่าง

    “ใจจริงก็อยากอยู่เที่ยวกับเธอที่นี่แหละ แต่แม่โทรตามให้กลับไปช่วยงานที่บ้าน”ต้องใจเบะปากทำหน้ามุ่ยเมื่อนึกถึงสายที่พึ่งโทรมาให้กลับเขาใหญ่เพื่อไปช่วยงานที่รีสอร์ต ราวกับผู้เป็นแม่จะรู้ว่าหากไม่ทำอย่างนี้ตนก็จะไม่กลับในช่วงปิดเทอม “แย่จัง! แบบนี้ฉันก็เหงาแย่สิ”เห็นเพื่อนหน้าละห้อยก็อดยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้ “ก็ใช่ไง หรือเธอจะไปเที่ยวกับฉันแทน เอาไหม ๆ”เขย่าแขนเปรมยุดาด้วยความตื่นเต้นครั้นมีความคิดใหม่ ๆ หากว่าเพื่อนกลับไปด้วยก็คงดี “อ่าาา แขนฉันจะหักแล้วต้อง จะไปได้ยังไง ฉันยังต้องช่วยงานคุณอาอีกนะ”บอกปัดคำชวนของเพื่อน เธอไม่ได้เป็นอย่างต้องใจที่มีครอบครัวคอยให้กลับไปหา มีแค่คุณอาที่คอยส่งเสียฉะนั้นช่วงปิดเทอมนี้จะเอาแต่เล่นไม่ได้ “ว้า! อดพาเธอไปดูดอกไม้สวย ๆ เลยอะ”“เอาน่า ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสหน้าซะหน่อย ไว้มีเวลาฉันจะไปเที่ยวกับเธอนะ” “รับปากแล้วนะ”“อืม”เปรมยุดาให้คำมั่นกับเพื่อนสาวก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายกัน ส่วนทางด้านขุนพลได้แยกกลับไปก่อนแล้ว เนื่องจากว่าต้องไปทำธุระให้กับทางบ้าน ซึ่งชายหนุ่มนั้นสุดแสนเสียดายไม่ได้อยู่กับเพื่อนสนิทให้นานกว่านี้บ้านของคุณอาดูคึกคักขึ้นมาท

    Huling Na-update : 2024-12-06
  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   พ่ายแพ้

    หัวใจดวงน้อยเจ็บเหลือเกินกับคำพูดห่างเหินออกมาจากปากของคุณอาที่เธอเทิดทูน แค่คิดว่าต่อไปอาจจะถูกรังเกียจร่างกายก็สั่นสะท้านดังต้องลมหนาว “อย่าโกรธหนูเลยนะคะอากาน”เสียงสั่นเอื้อนเอ่ยผะแผ่ว ปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างรวดเร็ว สูดหายใจเรียกสติของตนเองกลับมาแล้วหันหลังเดินเข้าห้องน้ำ ในเมื่อคุณอาทำให้กระจ่างแล้วว่าไม่มีวันมองเธออย่างเช่นผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นได้เพียงลูกสาวของรุ่นพี่เท่านั้นก็จะไม่เอาตัวเองเข้าไปเป็นความลำบากใจของผู้มีพระคุณอีกสองอาทิตย์ให้หลัง เพราะยังอยู่ในช่วงปิดเทอมเปรมยุดาจึงว่างพอที่จะวุ่นกับการทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่ได้ตลอดทั้งวัน เธอเริ่มจากพื้นที่ของตัวเองแล้วไล่ไปทีละห้องของชั้นบน ไม้ขนไก่กับผ้าหนึ่งผืนกลายเป็นอุปกรณ์ติดกายของแม่บ้านจำเป็น จากปีกทางขวาสู่ปีกทางซ้ายกระทั่งหยุดอยู่หน้าห้องของเจ้าของบ้าน เธอลังเลว่าจะเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของคุณอาดีไหม จะเป็นการละลาบละล้วงเกินไปหรือเปล่า แม่บ้านจำเป็นหันซ้ายแลขวาราวกับว่าเป็นผู้ร้ายที่ปีนเข้าบ้านผู้อื่นเสียอย่างนั้น หลังจากยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่หน้าประตูสีน้ำตาลพักใหญ่จึงตัดสินใจได้ว่าจะลองเสี่ยงหมุนลูกบิดห้องดู ถ้าไม

    Huling Na-update : 2024-12-06
  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   แก้ตัว

    “อยู่เฉย ๆ อย่าดิ้น” ครั้งนี้เขากดเสียงต่ำลงจนเหมือนพูดอยู่ในลำคอ ยิ่งเธอขยับแรงสัมผัสเสียดสีระหว่างกันก็มีมากขึ้น แล้วมันก็กำลังก่อกวนสิ่งที่หลับใหลมานานให้รู้สึกตัวขึ้นมา“อาก็ปล่อยหนูก่อนสิ” เธอยังดิ้นอยู่บนตัวของคุณอา ท่อนแขนกำยำโอบเอวไว้ยิ่งกระชับจนเราทั้งสองแนบชิด ทำให้รู้สึกว่าหายใจติดขัด แล้วยังใบหน้าของเราที่ใกล้กันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ “อาปวดหัว” ไม่เพียงไม่ทำอย่างที่เปรมยุดาบอกยังวางหน้าผากอิงแอบไหล่จนเธอสะดุ้ง มุมปากกระตุกกับปฏิกิริยาของเธอแค่นี้ก็ตกใจแล้วเด็กน้อย“อะ...อากาน” มือที่ดันไหล่กว้างพลันหยุดลง “แบบนี้จะยิ่งปวดหัว” “อืม” “อืมก็ลุกไปจากตัวหนูสิคะ”“ลุกยังไงเราอยู่บนตัวอา”หน้าเธอร้อนผ่าวยิ่งกว่าเดิม ก็จริง! แต่ไม่ใช่เพราะเขากอดไว้หรอกเหรอถึงอยู่กันในสภาพนี้ “งั้นอาก็ปล่อย หนูจะได้ลุกขึ้นไปหายามาให้อาทาน” บอกเขาเสียงเบา ผิดกับหัวใจที่เต้นแรงจนมันจะหลุดออกมาอยู่ด้านนอก “อีกแป๊บหนึ่ง เราอยู่กันแบบนี้อีกหน่อยได้ไหม” มึนหัวจนไม่อยากขยับตัว แต่ที่ต้องการมากกว่าคือได้อยู่กับเปรมยุดาอย่างนี้ กลิ่นหอมอ่อน ๆ คุ้นเคยทำให้เขาผ่อนคลาย ใบหน้าคมคายเลื่อนเข้าซอกคอหอ

    Huling Na-update : 2024-12-06

Pinakabagong kabanata

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   ตอนพิเศษ 4

    การันต์ดีดตัวจากเก้าอี้ตัวยาวเร่งรุดไปหยุดตรงหน้าคุณหมออย่างรวดเร็ว “ภรรยากับลูกผมเป็นยังไงบ้างครับหมอ” ความตื่นเต้นระคนกังวลทำเสียงที่เอ่ยถามนายแพทย์ออกมาสั่นไหว “ยินดีกับคุณพ่อด้วย คุณแม่และ ‘ลูกชาย’ ปลอดภัยและแข็งแรงทั้งคู่ครับ อีกเดี๋ยวเราจะย้ายพวกเขาไปห้องพักฟื้น ถ้ามีอะไรต้องการเพิ่มก็แจ้งพยาบาลได้เลยครับ” นายแพทย์กล่าวเสียงละมุน เห็นสีหน้าของสามีคนไข้แล้วคงกระวนกระวายใจไม่น้อย “ขอบคุณครับ ขอบคุณมากจริง ๆ” การันต์ไม่อาจกลั้นความปรีติยินดีเอาไว้ได้ น้ำตาแห่งความดีใจหล่นออกมาอย่างไม่นึกอายพอได้ยินกับหูตัวเองแล้วว่าคนที่ตนเองรักสุดชีวิตทั้งสองปลอดภัย “กูบอกแล้ว สองคนนั้นเก่งจะตาย” ดลธีตบไหล่ปลอบเพื่อน “ต้องอยากเจอหน้าหลานจังเลยค่ะ งั้นขอไปรอหน้าห้องเด็กนะคะ” “ไปด้วย ผมกับต้องไปทางนู้นนะครับ” ขุนพลหันมาบอกคุณอาทั้งสองก่อนจะวิ่งตามต้องใจไป ดลธีมองกระทั่งภาพหลังหนุ่มสาวทั้งสองลับสายตาจึงหันกลับมาหาเพื่อนรักที่เช็ดน้ำตาตัวเองออกอย่างรวดเร็ว “ยินดีด้วย ต่อไปก็เป็นพ่อเต็มตัวแล้วนะ ดีที่ไม่ต้องไว้หนวดตั้งแต่ตอนนี้” คุณพ่อป้ายแดงหันมาทางเพื่อนยืนอยู่ข้างกัน ดวงตาแดง ๆ ของเขาจ้

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   ตอนพิเศษ 3

    เดือนต่อมา...รถเมอร์เซเดสสีขาวของการันต์มุ่งหน้าไปยังหมูบ้านกลางน้ำอีกครั้ง ความตั้งใจของเขาในวันนี้ก็เพื่อจะพาคนรักนั่งข้างกันมีสีหน้าราบเรียบทว่าดวงตากลมโตมีแววสั่นไหวอย่างคนเป็นกังวล “อาจะพาหนูไปวัดแล้วกลับเลย ไม่ต้องกลัว” อุ้งมือใหญ่วางทาบมือเล็ก แม้แต่ตอนนี้ก็ยังรู้สึกได้ถึงความกังวลของเธอ ถึงจะผ่านไปแล้วหลายปี หากแต่ว่าความทรงจำของเปรมยุดาก็อยู่ที่นี่ไม่น้อย “ขอบคุณนะคะ” ยิ้มอ่อน ๆ พลางหันมาทางคุณอา สายตาอบอุ่นของเขาทำให้ใจว้าวุ่นตลอดทางผ่อนคลายลงไปมาก คราแรกที่รู้ว่าเขาจะพากลับมาไหว้พ่อกับแม่น้ำตาเธอนองเต็มหน้า คิดถึงพวกท่านจับหัวใจ ต่อให้ไม่ได้พบหน้ากันอีกแค่ได้ไหว้กระดูกคนเป็นลูกอย่างเธอก็ซาบซึ้งใจ“ไม่ต้องขอบคุณ อาตั้งใจจะมาพบพ่อกับแม่หนูอยู่แล้ว”เปรมยุดายิ้มกว้าง คนรักทำราวกับจะได้พบหน้ากัน...คงไม่ต่างจากเธอ!ทั้งสองใช้เวลาชั่วโมงเศษ ๆ ก็มาถึงที่หมาย ฝ่ายลูกสาวของผู้ลาลับหอบช่อดอกไม้สีสันสดใสกับผ้าหนึ่งผืนเดินนำเจ้าของเรือนกายภูมิฐานไปยังเจดีย์บรรจุอัฐิของพ่อและแม่ “หนูกลับมาหาพ่อกับแม่แล้วนะคะ” วางช่อดอกไม้ตรงฐานกว้าง เช็ดฝุ่นออกจากกรอบรูปที่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีใค

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   ตอนพิเศษ 2

    กว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ก็ใช้เวลาไปหลายนาที ดีที่ไม่มีใครแซวหรือพูดอะไร จึงทำให้พวกเรากลับมาสนุกกันต่อ เวลา 00.41 น.“รอกันตรงนี้เรียกรถให้แล้ว” ดลธีบอกขุนพลและต้องใจหลังจากงานเลี้ยงจบลง เขาดูแลทั้งสองเปรียบเสมือนน้องนั่นก็เพราะเปรมยุดาได้กำชับไว้ก่อนที่เธอจะแยกไปกับเพื่อนเขาดีจริง ๆ เลยทั้งหลานทั้งเพื่อน!“ขอบคุณนะครับ” ขุนพลไหว้ผู้ใหญ่ใจดี มื้อนี้เจ้ามือหมดไปไม่น้อย “ไม่เป็นไร ต่อไปถ้ามีงานทำก็กลับมาเลี้ยงฉันบ้างก็แล้วกัน” ดลธีหันไปตอบเพื่อนหลานด้วยใบหน้าทะเล้น“ต้องคิดเป็นบุญคุณด้วยเหรอคะ?” คนที่แม้แต่จะทรงตัวก็ลำบากยังอุตส่าห์หันมาถามเสียงอ่อน “ต้อง! เงียบบ้างก็ได้” ขุนพลห้ามเพื่อนพลางประคองไหล่เล็กให้ยืนได้ตรงเสียก่อนจะปากดี ไม่ดูตัวเองบ้างเลย! ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหัว“แค่บอกว่าให้เลี้ยงคืน? เป็นบุญคุณเหรอ ถ้าบอกให้เอาเงินมาคืนก็ว่าไปอย่าง หรือเธอจะคืนฉันล่ะยัยขี้เมา” “ก็เอาบัญชีมาสิ เดี๋ยวโอนให้ตอนนี้เลย ชิ!” “มือถือ?”“เอาไป”“ต้อง!”“นายเงียบเลยขุน” จะว่าเหมือนเด็กก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ทว่าคนทั้งสองต่างไม่มีใครยอมกัน คนกลางอย่างขุนพลจึงได้แต่ยิ้มแห้งให้คุณอาขอ

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   ตอนพิเศษ 1

    ปีสุดท้ายของการเป็นนักศึกษาของเปรมยุดาและเพื่อน ๆ ต่างก็ดีอกดีใจเมื่อเดินทางมาถึงจุดสำเร็จสาขาบัญชีรวมตัวถ่ายรูปหมู่ไว้เป็นที่ระลึก เปรมยุดา ต้องใจและขุนพลฉีกยิ้มให้กับกล้อง เสียงกดชัตเตอร์รัวติดต่อกัน พร้อมกับช่างภาพยกนิ้วขึ้นโอเค ทุกคนก็ร้องเฮ คละเคล้าเสียงโห่ร้องตะโกนด้วยความดีใจต่างโอบกอดลากันด้วยน้ำตานองหน้า สี่ปีที่เรียนด้วยกันมาความผูกพันแน่นแฟ้นจนอดใจหายไม่ได้เมื่อต้องแยกจากเพื่อไปเติบโตใช้ชีวิตวัยทำงานไม่ว่าจะอย่างไร พวกเขาจะไม่มีวันลืมมิตรภาพที่ดีเหล่านี้เลย“เร็วนะว่าไหม? ไม่อยากจากพวกแกไปเลย”ต้องใจนั่งจับมือเปรมยุดา และมองเพื่อนสนิทอีกคนที่นั่งห่างออกไป เธอเห็นสายตาอาวรณ์ที่ขุนพลใช้มองเปรมยุดา ไม่ว่าจะครั้งแรกหรือกระทั่งตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิม แต่ก็คงทำได้แค่นั้นเพราะตอนนี้เพื่อนรักของเธอมีเจ้าของแล้ว และไม่ใช่ใครอื่นไกล เป็นคุณอาสุดหล่อที่กำลังถือช่อดอกไม่ช่อใหญ่เดินเคียงคู่มากับอิตาคุณอาขี้เก๊กนั่นเอง“เรายังเจอกันได้ แค่เรียนจบไม่ได้จากไปไหนไกลนี่น่า จริงไหมขุน” “ใช่ทำอย่างกับจะจากกันไปไหนไกลเว่อร์จริง ๆ เลยเธอเนี่ย”“โดนรุมอีกละ!”“เรียนจบแทนที่จะดีใจกลับทำหน้าบูด

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   หมายตามานานแล้ว (จบ)

    กายโชกไปด้วยเหงื่อทรุดลงทาบทับร่างเปลือยเปล่าหอบหายใจโยนป้อก⁓“อะ” เปรมยุดารู้สึกกึ่งกลางกายวูบโหวงเมื่อคุณอาถอดถอนตัวตนลำใหญ่ออกไปจากตัวเธอ การันต์หายใจหอบใบหน้าชื้นไปด้วยเหงื่อ ดึงผ้าห่มคลุมกายเปลือยเปล่าทั้งสองจนถึงอก “มีคำหนึ่งใช่ไหมที่อายังไม่ได้บอกหนู” เกลี่ยปอยผมปกใบหน้ารูปไข่เล่น “อะไรเหรอคะ” ตะแคงตัวโอบกอดกายใหญ่ ซุกหน้าเข้าซอกคอแกร่ง ทำให้คุณอาหัวเราะในลำคอพลอยให้เธอยิ้มตามไปด้วย“อารักหนูเปรม รักมาก รักเกินกว่าใคร ๆ ฉะนั้น...อย่าพูดว่าจะให้อามีคนอื่นหรือคิดว่าอาจะไปมีใคร เพราะแค่มีหนูเปรมคนเดียวก็พอแล้ว” “อาบอกว่ารักหนูเหรอคะ” แหงนหน้าขึ้นมองใบหน้าคมคาย วางฝ่ามือบนใบหน้าเริ่มมีตอหนวดขึ้นบาง ๆ มิน่าเมื่อครู่ถึงได้รู้สึกระคาย “อารักหนูเปรม” ทาบฝ่ามือใหญ่บนหลังมือเล็ก ย้ำให้คนจ้องหน้าด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความสดใสสุขล้นฉายชัด เขาชอบเปรมยุดาเป็นแบบนี้มากกว่า ต้องโทษที่ตนไม่ชัดเจนตั้งแต่แรกจนทำให้เธอเข้าใจผิด“หนูก็รักอา รักมาก ๆ รักที่สุด รักกว่าใครในโลกเลย” ปีนขึ้นไปอยู่เหนือกายใหญ่ อกฟูบดเบียดหน้าอกเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของคนใต้ร่าง สอดแขนไปใต้ไหล่กว้างก่อนจะซุกหน้าลงหาควา

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   รักแค่คนเดียว NC

    “อื๊อ” ห้ามยังไงทันเมื่อปลายนิ้วก้านยาวไล้กลีบดอกไม้ผ่านเนื้อผ้า ซ้ำยังคลึงจนเธอสะท้านเฮือกสยิวเสียวซ่านต้องยกสะโพกขึ้นรับความดุดันทันที“หนูเปรมของอาแฉะเร็วเหมือนกันนะเนี่ย ‘อยาก’ เหมือนกันใช่ไหมเด็กน้อย”ลมร้อนพ่นผ่านซอกคอหอม กดเรียวปากร้อนแนบชิดผิวละมุน ดอมดมกลิ่นกายที่คุ้นเคย“อ๊าส์...” ครางกระเส่าเสียงหวิวเมื่อคุณอาสอดนิ้วเข้ามาในร่องคับแคบและมันตอบรับเขาอย่างดี ตอดรัดทักทายความแข็งแกร่งราวกับว่ารอคอยในสัมผัสเร่าร้อนนี้มานานเสียงครางผะผ่าวกระตุ้นข้อมือใหญ่สอดใส่ท่อนนิ้วเพิ่ม เขาเกร็งกระแทกเข้าใส่ดุดันจนเส้นเลือดรายล้อมข้อแขนขึ้นปูดบวม ดวงตาเต็มไปด้วยเพลิงพิศวาสมองเรือนร่างส่ายเร้า เขาถอนก้านนิ้วออกหลังจากทนความปรารถนากำลังเผาไหม้ตนเองไม่ไหว ต้องการให้ความอึดอัดเบื้องล่างเข้าไปแทนที่ท่อนนิ้วแกร่งของตัวเองชุดนักศึกษาถูกถอดออกด้วยชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเตียง ไม่นานกายเปลือยเปล่าสวยงามก็ปรากฏแก่สายตา ผิวเนียนละเอียดอมชมพูสวยกระแทกใจการันต์ “หนูเปรมของอาสวยเหลือเกิน” “อาอย่ามองนานนักได้ไหม”“มากกว่ามองก็ทำมาแล้ว”มุมปากหยักกระตุกให้กับเจ้าของมือที่ยกขึ้นปิดส่วนสวยงามเอาไว้ ทั้งขาเร

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   ยอมแล้วทุกอย่าง

    คนที่บอกว่าจะไม่มาให้เธอเห็นหน้าอีก บัดนี้รถได้จอดอยู่โรงเก็บแล้วเรียบร้อย ทำเปรมยุดากลั้นยิ้มไม่อยู่แทบอยากหายตัวเข้าไปหาผู้เป็นเจ้าของมันเสียตั้งแต่ตอนนี้เลยท่อนขาเรียวก้าวฉับ ๆ เข้ามาข้างใน นัยน์ตาหวานกวาดมองตั้งแต่ห้องรับรองจนถึงห้องครัวทว่าก็ไร้วี่แววคนที่คะนึงหา “ไม่อยู่!” หน้าม่อยทันทีเพราะคิดว่าคุณอาคงจะรอเธออยู่ชั้นล่าง“ไม่สิแกตั้งใจจะขอโทษอานี่น่า” เชิดหน้าขึ้นหันไปทางฝั่งห้องของคุณอา ยังไงวันนี้ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ไม่อยากเป็นแบบนี้อีกแล้วเรียกขวัญกำลังใจให้ตัวเองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเคาะประตูบานสีน้ำตาลเบา ๆ “อากาน” ครั้งที่หนึ่งยังคงไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ “อาอยู่ข้างในหรือเปล่าคะ” มั่นใจว่าคุณอาจะไม่ออกไปไหนหลังจากกลับเข้ามาแล้ว ครั้งนี้จะไม่ละความพยายามต่อให้ยืนรอคุณอาตรงนี้ทั้งคืนก็จะทำคนตัวเล็กรอจังหวะอีกนิดหนึ่งแล้วจึงง้างมือขึ้นเตรียมจะเคาะประตูของผู้เป็นอาอีกครั้ง...แกร๊ก~ “จะทำอะไร?” เสียงเรียบนิ่งเอ่ยถามคนตัวเล็กยกมือค้างกลางอากาศ ดวงหน้าหวานตกใจทันทีเมื่อเห็นเขา“คะ เคาะประตูค่ะ” ดวงตาวูบไหวสั่นระริกกวาดมองคนตัวสูง ผมเคยถูกจัดอย่างเป็นระเบียบยุ่งเหยิงกับ

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   มืดดำ

    ด้านในห้อง CEO ความอึมครึมยังปกคลุมโดยรอบเมื่อผู้เอนกายอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ อารมณ์มาคุยังวนเวียนอยู่รอบกาย เปลือกตาปิดสนิททว่าภายในหัวกลับทำงานอย่างหนัก ขบคิดวกวนแค่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเปรมยุดากันแน่ ทั้งที่ตนก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธอคือคนสำคัญสำหรับเขามากแค่ไหน แล้วทำไมถึงไม่เชื่อในการกระทำทั้งหมดนั้นมีแค่เธอคนเดียว!เสียงพ่นลมหายใจยาวยืดครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่ทำให้การันต์รู้สึกดีขึ้นมาเลย ทั้งสายตาและน้ำเสียงไร้เยื่อใยของเปรมยุดาบาดลึกลงในหัวใจ ปวดร้าวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ♪ Life is sweet as honey Yeah this beat cha-ching like money ⁓........♪ Life is sweet as honey Yeah this beat cha-ching like money ⁓สุดท้ายต้องพ่ายให้กับความพยายามของคนที่โทรเข้ามา“มีอะไร?” [ไม่ดีขึ้นเหรอวะ]เข้าใจความหมายของคำถามดลธี เพียงแต่การันต์ไม่รู้ว่าจะตอบเพื่อนยังไง ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเปรมยุดาตอนนี้เกินกว่าคำว่า ‘ไม่ดี’ ไปมาก“อืม”[มึงไปทำอิท่าไหนถึงได้โกรธนานขนาดนี้ ปกติเชื่อฟังมึงจะตาย]“หลายท่า”[จะสมน้ำหน้าหรือสงสารมึงดีไอ้กาน ข่มขืนเหรอ?] หากไม่ใช่เพื่อนรักคงไม่ถามแบบนี้

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   อาไปเอง

    อาทิตย์ต่อมา...อาศัยบ้านหลังเดียวกัน ทานข้าวหม้อเดียวกัน แต่การันต์และเปรมยุดากลับพูดกันนับครั้งได้ ไม่ใช่สิ! ต้องบอกว่าเธอไม่ยอมคุยดี ๆ กับการันต์ต่างหาก มันเลวร้ายยิ่งกว่าตอนอยู่ที่สมุทรปราการเสียอีก เธอมักจะขังตัวเองอยู่ในห้อง พูดคุยกับเพื่อนผ่านทางโทรศัพท์แต่ไม่ยอมออกไปเผชิญหน้ากับคนที่อาศัยร่วมชายคาเดียวกัน ถึงอย่างนั้นการันต์ก็ไม่ละความพยายามจะตามง้อเปรมยุดาให้สำเร็จ เขาไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในระยะที่ทำให้เธออึดอัดใจ แต่ไม่ถึงกับปล่อยให้คลาดสายตา สิ่งที่เธอเคยใช้ก็ยังมีวางเติมไว้อยู่เสมอ ของชอบก็เตรียมไว้ให้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ดังนั้นนอกจากข้างกายไม่ได้มีเขาให้ขัดลูกหูลูกตาทุกอย่างรอบตัวของเธอก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงกระทั่งถึงวันที่เปรมยุดาต้องกลับไปเรียน ซึ่งเป็นช่วงเวลาทั้งสองต้องห่างกัน หากว่ายังเป็นอยู่อย่างนี้ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ที่เคยมีให้กันจะกลับมาเป็นดังเดิมได้อีกไหม?การันต์นั่งจิบกาแฟดำพลางกางหนังสือพิมพ์อ่านฆ่าเวลาไปด้วยในระหว่างรอใครอีกคนลงมาจากชั้นบนเพื่อไปมหาลัยเปรมยุดาชะงักฝีเท้ากลางคันเมื่อทอดสายตามองลงมา“ทานอะไรหน่อย มื้อเช้าสำคัญสำหรับนักศึกษา” ข

DMCA.com Protection Status