“ลุงคิดจะทำอะไร นี่จะพาฟ้ามาทำมิดีมิร้ายเหรอ แก่แล้วไม่รู้จักเจียมตัว คอยดูเถอะฟ้าจะฟ้องพี่เหม ลุงต้องโดนไล่ออกจากงานแน่ๆ ลุง! นี่ลุงออกมาเดี๋ยวนี้ ออกมาพาฟ้าไปหาพี่เหมเดี๋ยวนี้” เพียงฟ้าตะโกนลั่น หญิงสาวยืนกำหมัดแน่นไม่ยอมเดินตามเข้าไปในบ้าน เพียงฟ้ามองประตูบ้านกับประตูรั้วสูงตระหง่านสลับกัน หญิงสาววิ่งไปเขย่าๆประตูรั้ว พยายามจะเลื่อนให้มันเปิดออก แต่ก็ไม่เป็นผลใดๆ ทั้งโกรธทั้งโมโห
“โทรหาขวัญ ใช่เราต้องโทรหาขวัญ” มือบางควานลงไปในกระเป๋าถือใบใบเล็กของตนอย่างร้อนรน
“ไม่มี ไม่มี หายไปไหน อยู่ไหนนะ” ด้วยความร้อนใจเพียงฟ้าจึงเททุกอย่างในกระเป๋าออกมากองกับพื้น หญิงสาวทรุดนั่งลงอย่างหมดหวัง เมื่อไม่มีโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าจริงๆ อีตาลุงนั่นต้องขโมยเอาโทรศัพท์ของเธอไปตอนที่หลับอยู่แน่ๆ ดวงตาที่ลุกโชนไปด้วยความโกรธมองไปยังประตูรั้วอีกครั้ง เมื่อหมดหนทางที่จะออกไปจากที่นี่ เธอก็จะเข้าไปสู้กันให้รู้ดำรู้แดง กะอีแค่ลุงแก่ๆจะมีปัญญาอะไรมาสู้กับเธอได้ หญิงสาวเหลียวมองรอบกายเพื่อหาอะไรที่พอจะเอามาเป็นอาวุธป้องกันตัว
ร่างบางที่ก้าวเข้ามาในบ้านพร้อมกับท่อนไม้แห้งเล็กๆทำให้นิธิหัว
เพื่อปกป้องเจ้านายที่ถูกผู้มีพระคุณฝากฝังไว้ก่อนสิ้นใจ เขาคงต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่างเสียแล้ว“คุณก็จะหมดสิทธิ์เป็นเมียคุณเหม” น้ำเสียงเข้มจริงจังและสายตาที่กวาดมองเธอไปทั้งร่างอย่างประเมิน ทำให้เพียงฟ้าผงะ กระถดกายหนีจนหลังชนฝา ฝืนยันกายลุกขึ้นยืนโดยใช้หลังพิงผนังไว้“ไอ้บ้า อย่าทำอะไรบ้าๆนะ ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย กรี๊ด!” มือใหญ่ฉีกดึงชุดสวยออกอย่างไม่ปราณี หญิงสาวดิ้นรนทั้งถีบทั้งเตะแต่ก็ทำได้ไม่ถนัดเพราะยังรู้สึกเจ็บจากการถูกทุ่มลงพื้น จนกระทั่งไม่เหลือผ้าผ่อนติดกายสักชิ้น เพียงฟ้าจึงยืนหอบหายใจหนักใช้สองมือปิดส่วนสงวนของกายสาวไว้พัลวัน จ้องมองหน้าคนเปลือยท่อนบนด้วยความเกลียดความกลัวสุดขีด นิธิยกยิ้มสะใจ ผู้หญิงร้ายกาจก็ต้องเจอคนร้ายกาจอย่างเขานี่แหละถึงจะสาสม“กรี๊ด! อื๊อๆๆ” ร่างใหญ่โถมกายตรึงร่างบางกับผนัง ใช้ริมฝีปากประกบปิดปากบาง กดทับรุนแรงจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บจนต้องเผยอปากออก เปิดโอกาสให้ลิ้นร้อนล่วงล้ำเข้าไปสำรวจโพรงปากนุ่มอย่างอุกอาจ ผิวเนื้อเนียนนุ่มถูกลูบคลำสำรวจไปทั่วทุกตารางนิ้ว ทรวงอกอวบถูกบีบเคล้นรุนแรงตามอารมณ์ร้อนของคนตัวใหญ่ ก่อนจะเลื่อนต่ำ
“คุณเหมคะ ตื่นได้แล้วค่ะ” เพียงขวัญแตะมือที่บ่าของคนนอนหลับอยู่ เหมันต์ขยับกายเพียงนิดแต่ไม่ยอมลืมตา“ขวัญจะลงไปทำอาหารเช้าช่วยคุณแม่ ถ้าคุณเหมจะนอนต่อก็ตามใจนะคะ เดี๋ยวขวัญจะมาปลุกตอนที่อาหารเช้าพร้อมแล้ว” เหมันต์ปรือตาขึ้นมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างเตียง เพียงขวัญยังคงสวมชุดที่ใส่ไปงานเลี้ยงเมื่อคืน หญิงสาวหันหลังให้เขาแล้วและกำลังจะก้าวเดิน คิ้วเข้มขมวดมุ่น ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นนั่งหย่อนขาลงข้างเตียงแล้วคว้าเอาข้อมือของหญิงสาวไว้ เพียงขวัญหันกลับมามองหน้าคนที่ดึงรั้งตัวเองไว้ ทำหน้างงๆเมื่อเหมันต์ชักสีหน้าดุใส่ตัวเอง“ขวัญขอโทษที่ปลุกค่ะ ขวัญกลัวว่าพอคุณเหมตื่นขึ้นมาไม่เห็นขวัญแล้วจะโวยวาย” เพียงขวัญก้มหน้าบอกเบาๆ ด้วยเพราะคิดว่าเขาคงโกรธที่เธอก่อกวนเวลานอน เหมันต์ส่ายหน้า แล้วถอนหายใจแรง ชายหนุ่มไม่พูดอะไร แต่กลับลุกขึ้นยืนแล้วรั้งเอาร่างบางให้เดินตามตัวเองไปยังตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ หญิงสาวเดินตามอย่างว่าง่าย ถึงแม้จะงงๆอยู่บ้าง เหมันต์เลื่อนเปิดประตูตู้เปิดออกจนสุด เปิดลิ้นชักสองชั้น แล้วถอยมายืนกอดอกมองหน้าคนตัวเล็กที่ยืนตาค้างอยู่ใกล้ๆ“เอ่อ...ขวัญไม่รู้นี่คะว่าใ
“ขวัญ” เหมันต์เรียกชื่อหญิงสาวด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า ลดสายตาลงจับจ้องกลางกายสาว นิ้วโป้งสัมผัสไล้คลึงเนินเนื้อเบาๆ ก่อนจะกดแรงจนจมลงตามรอยปริแยก เพื่อสัมผัสกับเม็ดเนื้อนุ่มนิ่มที่ไวต่อการกระตุ้นเร้าทั้งที่ยังมีผ้าลูกไม้ขวางกั้นไว้“คุณเหม” ร่างสาวสั่นสะท้าน นิ้วร้อนที่คลึงวนผ่านผ้าลูกไม้ให้ความรู้สึกสากระคายจนเกิดความเสียดเสียวแปลกใหม่ กายสาวจึงหลั่งน้ำหวานออกมาเอ่อซึมเปียกผ้าเนื้อบางจนชุ่มฉ่ำ เหมันต์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ผ้าลูกไม้เบาบางยามเปียกชื้นน้ำหวานจากกายสาวช่างน่ามองเหลือเกิน“นิดเดียวนะครับคนสวย ผมอยากกินคุณใจจะขาดอยู่แล้ว” ไม่ใช่ประโยคขออนุญาต แต่เป็นประโยคบอกเล่า เหมันต์กดนิ้วแรงบดขยี้ซ้ำ โน้มใบหน้าเข้าใกล้ดูดเม้มไปตามต้นขาเนียน จมูกโด่งซุกไซ้สูดดมเอาความหอมอย่างหิวกระหาย เพียงขวัญครางเสียงหวาน แอ่นสะโพกเด้งเข้าหานิ้วโป้งอย่างร้อนแรง สัมผัสจากนิ้วร้อนที่ผ่านผ้าบางๆมาช่างเร่าร้อนรุนแรง เหมันต์ขยับนิ้วเร่งจังหวะอีกไม่กี่ครั้ง เสียงหวานก็กรีดร้องดังก้องห้อง น้ำผึ้งหวานเอ่อล้นทะลักทะทายเปรอะเปื้อนผ้าลูกไม้สีสวย มือใหญ่สองข้างจับตรึงสะโพกมนไว้แน่น ชายหนุ่มซุก
“คุณเหม!” ใบหน้าสาวร้อนเห่อ ยิ่งเห็นรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ของเขาแล้ว ยิ่งอยากจะรีบหนีหน้าไปไกลๆ เธอรู้ความหมายดีว่าเขาหมายถึงกางเกงชั้นในตัวบางที่เปียกชุ่มตัวนั้น เขาเป็นคนขี้แกล้งที่สุด “ผมจะซักไว้ให้นะ คุณจะได้ใส่มันอีก...คืนนี้” “คุณเหม!” เช้านี้เธอเรียกชื่อเขาไปกี่ครั้งแล้วนะ เพียงขวัญดึงสองแขนที่กอดเกี่ยวเอวคอดของตนออก ซึ่งเหมันต์ก็ยอมปล่อยแต่โดยดี หญิงสาวหน้าแดงก่ำในตอนที่หันมาสบตากับเขา “ขวัญไม่พูดกับคุณเหมแล้ว” เพียงขวัญสะบัดหน้าหนี เปิดประตูแล้วก้าวเดินออกไปไม่เหลียวหลัง แต่ก่อนจะปิดประตู เธอทันได้ยินเสียงทุ้มหัวเราะอย่างพึงพอใจของเขา คนบ้า คนขี้แกล้ง คนขี้เอา...แต่ใจหลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย เหมันต์ก็ขับรถพาเพียงขวัญเข้าบริษัทก่อน ชายหนุ่มเคลียร์งานเซ็นเอกสารต่างๆ ในขณะที่หญิงสาวนั่งอ่านนิตยสารรอเขาอยู่ที่โซฟามุมห้อง&nb
“คุณฟ้า” มือใหญ่จับบ่าบอบบางเขย่าเบาๆ เพียงฟ้าปรือตาขึ้นมานิดเดียวแล้วก็หลับต่อ แต่เพียงครู่เดียวดวงตากลมโตก็ลืมขึ้นเต็มตา ร่างบางขยับตัวลุกขึ้นนั่งกระถดถอยหนีอย่างหวาดหวั่นทันที เมื่อเห็นหน้าของคนที่นั่งอยู่บนเตียงเดียวกับตน“ไปอาบน้ำ ผมจะพาคุณไปเก็บของที่บ้านสวน และจะไปส่งที่กรุงเทพ” เพียงฟ้ากำผ้าห่มไว้แน่น มองคนที่ทำร้ายตัวเองด้วยแววตาเคียดแค้น“ฉันไม่ไปไหนกับแก ฉันจะไปหาพี่เหม ฉันจะฟ้องพี่เหมว่าแกข่มขืนฉัน”“ก็แล้วแต่นะ อยากให้คนอื่นรู้ว่าคุณเป็นเมียผมแล้วก็ป่าวประกาศบอกไปเลย หรือถ้ากลัวใครไม่เชื่อผมมีคลิปให้คุณเอาไปยืนยันด้วยนะ ทีนี้คงไม่ใช่เฉพาะคุณเหมที่รู้ คนทั้งประเทศก็คงได้รู้กันหมดว่าคุณเป็นเมียผม” เพียงฟ้ากลอกตาไปมาคิดตามที่นิธิพูด“คลิปอะไร แก...แกอัดคลิปไว้เหรอ ไอ้เลว ไอ้ชาติชั่ว ฉันจะฆ่าแก กรี๊ดดด” เพียงฟ้าโถมเข้าหาร่างใหญ่ เธอเจ็บปวดทั้งกายทั้งใจเจียนตายที่ถูกย่ำยี แล้วนี่ยังถูกอัดคลิปไว้แบล็คเมล์ด้วยหรือ วันนี้ไม่เธอก็ไอ้คนเลวคนนี้ก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่กล้าไปมองหน้าใครได้อีกแล้ว“ไอ้แก่ ไอ้เลว ฉันจะฆ่าแก ฮือๆๆ”
“ฟ้ากลับกรุงเทพแล้ว!” เพียงขวัญอุทานอย่างตกใจ หญิงสาวมองหน้าเหมันต์ ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไร ชายหนุ่มยิ้มแล้วจูงจักรยานไปเก็บ ก่อนจะก้าวเดินไปทางศาลาเรือนไทยหลังเล็กที่อยู่ด้านหลังบ้าน“คุณนิธิเป็นคนขับรถไปส่ง” เหมันต์บอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หลังจากนั่งลงแล้วคว้าเอาข้อมือบางรั้งให้หญิงสาวนั่งลงข้างๆกัน“ทำไมฟ้าไม่บอกขวัญล่ะคะ” น้ำเสียงสงสัยของเพียงขวัญทำให้ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆก่อนตอบ“แล้วตอนมา เขาบอกคุณหรือเปล่าล่ะ”“คุณเหม!” เพียงขวัญมองค้อนคนช่างเหน็บแนม“เห็นคุณนิธิบอกว่า คุณฟ้าเขาบอกว่าเบื่อบ้านนอก อยากกลับกรุงเทพแล้ว”“แล้วทำไมฟ้าไม่นั่งเครื่องกลับล่ะคะ” เหมันต์รวบเอาคนช่างซักมานั่งบนตักของตัวเอง เขาเพิ่งบอกหญิงสาวว่าเพียงฟ้ากลับกรุงเทพไปแล้ว หลังจากกลับมาจากบ้านกำนันเกื้อ เพราะรู้ว่าเธอจะซักไซ้อย่างนี้ไง ขืนไปบอกตอนที่อยู่ต่อหน้าชาวบ้านเยอะแยะ มีหวังไม่ได้พูดได้จากับคนอื่นแน่ๆ“วันนี้เต็มทุกเที่ยวบิน น้องสาวคุณเขาใจร้อนยืนยันจะกลับวันนี้ ผมเลยให้คุณนิธิไปส่ง” เพียงขวัญเบี่ยงหน้ากลับมามองเจ้าของตักแกร่งที่ตัวเองนั่งอยู่“คุ
“ก็เมียสวยนี่ เลยต้องหวง”“สาวๆในหมู่บ้านก็สวยตั้งหลายคนค่ะ ไม่ต้องมาทำปากหวานแถวนี้เลย” เพียงขวัญเถียงยิ้มๆ“สาวคนไหนก็ไม่สวยเท่าคนนี้” จมูกโด่งกดหอมแก้มเนียนฟอดใหญ่“เมียผมสวยที่สุด” เหมันต์กระซิบบอกแล้วรัดร่างในอ้อมกอดแน่นขึ้น แนบแก้มกับเรือนผมหอมกรุ่น แค่ได้กอดเธอไว้แบบนี้เขาก็รู้สึกดีจนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้นานๆเพียงขวัญระบายยิ้มกว้างกับคำชม หญิงสาววางมือบางทาบลำแขนแกร่งที่โอบรัดตัวเองอยู่ รับรู้ได้ถึงไออุ่นจากอกกว้างที่แผ่มายังร่างตน ต่างคนต่างนิ่งเงียบอยู่ในความคิดของตนเอง ถึงแม้ไม่ได้พูดอะไรกัน แต่หัวใจกลับพองโตฟูฟ่องอิ่มเอมจนเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว รัก...รู้สึกดีแบบนี้เองหรือเมื่อเพียงฟ้ากลับไปแล้วทุกอย่างเริ่มเข้าสู่ความปกติสุข เพียงขวัญโทรหามารดาบุญธรรม และรู้ว่าน้องสาวกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย จึงค่อยสบายใจ หญิงสาวใช้เวลาร่วมกับเหมันต์อย่างมีความสุข ทุกนาทีที่ผ่านไปทำให้หัวใจเธอรักเขามากขึ้นทุกวัน เธอได้เรียนรู้ว่าผู้ชายขี้เอาแต่ใจคนนี้ ใส่ใจเธอมากกว่าที่คิด ถึงแม้เขาจะปากร้ายแต่เหมันต์ไม่เคยทำร้ายเธอ เขาเป็นขี้อ
“ทำอะไรอยู่ครับแม่ติ๋ม อันนี้เหรียญเงินใช่มั้ยครับ”“จ้ะ ห่อเหรียญไว้โปรยทานงานแห่ผ้าป่าพรุ่งนี้” แม่ติ๋มตอบด้วยรอยยิ้มอิ่มเอมเมื่อเอ่ยถึงงานบุญ สองมือของผู้สูงวัยจับเหรียญห้าบาทมาห่ออย่างชำนิชำนาญ“แม่ติ๋มห่อเองหมดนี่เลยเหรอครับ” บดินทร์ถามเพราะเห็นว่าจำนวนเหรียญที่ถูกห่อแล้วค่อนข้างเยอะ“เปล่าจ้ะ หนูขวัญกับแก้วห่อช่วยกันตั้งแต่เช้าแล้ว” ชื่อของผู้หญิงสองคนที่แม่ติ๋มเอ่ยถึงทำให้บดินทร์ชะเง้อชะแง้ขึ้นไปบนเรือน แม่ติ๋มชะเง้อคอมองตาม“มองหาอะไรหรือจ๊ะพ่อดิน”“เอ่อ...มอง...มองหา มองหาพ่อกำนันน่ะครับ”“แก้วกับหนูขวัญกำลังลองชุดสาวรำวงอยู่บนเรือน เดี๋ยวก็ลงมา” บดินทร์ยิ้มเจื่อนให้กับคนรู้ทัน“ส่วนพี่กำนันน่ะ อยู่วัด ถ้าพ่อดินอยากเจอก็ไปที่วัดนะ”“เอ่อ...ไม่ล่ะครับ ผมแค่ผ่านมาแถวนี้ เลยแวะมาคุยด้วยเท่านั้นเองครับ เอ่อ...แม่ติ๋มสอนผมหน่อยสิครับ ผมอยากช่วยพับเหรียญด้วย” ผู้สูงวัยมองหน้าชายหนุ่มยิ้มๆ นี่เหรอว่าที่ลูกเขย...แม่ให้ผ่านนะ แต่พ่อเขาจะว่ายังไง ไปหาทางทำคะแนนเองก็แล้วกัน“แม่! แก้วสวยมั้ย” เด็กสาวในชุดกระโปรงสั้นสีเขียว
“เดี๋ยวเรียกป้าโอ๋มาอยู่เป็นเพื่อนหนูดาก็ได้นะคะ” เพียงฟ้าหันมายิ้มให้สามี“ไม่เป็นไร ลุงนิจะอยู่กับลูกเองนะคะ” หญิงสาวหน้างอง้ำ สะบัดหน้าหนีงอนๆ“ลูกหลับอยู่ เรารึก็อุตส่าห์จะอาบน้ำให้ แต่ถ้าลุงนิอยากอยู่กับลูกก็ตามใจนะคะ” พูดจบก็เดินสะบัดก้นออกจากห้องไปทันที หนุ่มใหญ่ยืนนิ่งกะพริบตาปริบๆ มองประตูห้องปิดลงงงๆ หลังจากนั้นไม่ถึงห้าวินาที เพียงฟ้าที่เดินขึ้นบนบ้านไปก่อนก็หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงสามีตะโกนดังลั่นบ้าน“ป้าโอ๋! ป้าโอ๋ครับ ป้าโอ๋อยู่หนายยย”เช้าวันต่อมานิธิไปส่งลูกเมียไว้ที่บ้านสวนของเหมันต์ แล้วรีบกลับเข้าเมืองไปทำงานทันที เพียงฟ้ากับลูกน้อยจึงอยู่กับเพียงขวัญ เหมันต์และเด็กหญิงหทัยรัก“อ้อนให้คุณนิธิพามาส่งจนได้นะเราน่ะ” เพียงขวัญเอ่ยกับน้องสาวยิ้มๆ ขณะที่นั่งป้อนข้าวลูกสาวอยู่ที่ศาลาเรือนไทยหลังบ้าน“ก็ฟ้าอยากคุยกับขวัญ อยากพาหนูดามาเล่นกับน้องข้าว” น้องสาวอ้อนพี่สาวยิ้มๆ“น้องข้าวคิดถึงน้าฟ้ากับหนูดามั้ยคะ” หทัยรักฉีกยิ้มกว้าง เด็กหญิงแย่งช้อนในมือมารดามาถือไว้ แล้วยื่นไปใกล้ปากเด็กหญิงอีกค
“นะคะ” เสียงหวานออดอ้อน“มันอาจจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยน” ดวงตาคู่งามกลอกขึ้นมองบนอย่างคนรู้ทัน“หรือจะไม่ไป” คนเป็นต่อถามชิดใบหูเล็ก ก่อนจะขบเม้มเบาๆ เพียงฟ้าเบี่ยงหนี แล้วหันกลับมามองหน้าสามี ใบหน้างามงอง้ำเล็กน้อย“ก็ได้ค่ะ ตาแก่จอมหื่น” นิธิหัวเราะเบาๆ“ส่งลูกมาเถอะค่ะ เดี๋ยวลุงนิเอาไปลงเปลเอง ฟ้าไปเตรียมตัวทานข้าวเถอะ” คุณแม่ยังสาวส่งลูกที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมกอดให้สามี“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวนั่งยิ้มมองดูหนุ่มใหญ่ผู้นำของครอบครัว อุ้มลูกไปวางลงในเปลอย่างทะนุถนอม เขาเป็นผู้ชายใจดี เป็นตาแก่ที่รักเธอกับลูกสุดหัวใจ เป็นคนที่ตามใจเมียทุกอย่าง และที่สำคัญเป็นคนที่เธอรัก รักอย่างทีไม่เคยคิดว่าจะรักได้ขนาดนี้ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้ม เท้าเล็กเดินเข้าไปซ้อนหลังสามีที่ยืดตัวขึ้นยืนตรงหลังจากวางลูกสาวลงในเปลเรียบร้อยแล้ว“ลุงนิ” วงแขนเรียววาดแขนโอบรัดเอาร่างใหญ่จากด้านหลัง ซบใบหน้ากับแผ่นหลังกว้างอบอุ่น นิธิเลิกคิ้วสูง แปลกใจกับท่าทางออดอ้อนของเมียรัก“อ้อนจัง จะขออะไรอีกหรือเปล่าหืมมม” เพียงฟ้าส่ายหน้าไปมาแนบแผ่นหลัง ออกแรงกอดสามีแน่นขึ้นอีก
“ฮือๆๆ หม่ำๆๆ ฮือๆๆ” หทัยรัก...เด็กหญิงขี้เอาแต่ใจเหมือนบิดาไม่ยอม มือน้อยๆเลิกเสื้อยืดขึ้นอีกครั้ง ดิ้นรนส่ายหน้าเข้าหาตุ่มไตเม็ดเล็กตรงอกข้างซ้ายของเด็กหนุ่ม และในที่สุดปากเล็กๆจิ้มลิ้มนั้นก็...จ๊วบ! บุรินทร์สะดุ้งโหยง หากแต่ไม่กล้าโวยวาย ไม่กล้าผลักไสน้องน้อยออก คนตัวจิ๋วในอ้อมกอดเขาดูดจ๊วบๆอย่างเอาเป็นเอาตาย แขนป้อมๆข้างหนึ่งโอบรอบเอวเขาไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างก็ยกขึ้นมาตะปบไว้ที่ตุ่มเล็กๆอีกข้าง บางครั้งก็ขยำเบาๆจนเขาต้องสะดุ้งแล้วสะดุ้งอีก เด็กหญิงหลับตาพริ้มราวกับมีความสุขนักหนา ถึงแม้จะรู้สึกจั๊กจี้แต่เด็กหนุ่มก็นั่งนิ่ง ยอมให้น้องน้อยดูดนมที่ไร้น้ำนมต่อไป ขอแค่น้องน้อยไม่ร้องไห้ไม่งอแง จะให้ทำอะไร หรือให้เป็นอะไรเขาก็ยอมทุกอย่างเด็กหนุ่มผู้เงียบขรึมและเป็นผู้ใหญ่เกินวัย จนถูกขนานนามว่าเป็นไอ้เสือยิ้มยาก ระบายยิ้มน้อยๆบนใบหน้า สายตาอ่อนโยนจ้องมองใบหน้าเจ้าหญิงน้อยของตนด้วยความรู้สึกวาบลึกในอก ความหวงแหนเกิดขึ้นในหัวใจ อยากปกป้องทะนุถนอมเจ้าหญิงน้อยของตนตลอดไป นิ้วเรียวยกขึ้นแตะที่แก้มยุ้ยเบาๆ“พี่แดนเป็นของเจ้าหญิงน้อยแล้วนะครับ”“น้องข้าว!” เพียงขวัญตกใจ
“สวัสดีค่ะพี่ขวัญ” แก้วใจยกมือไหว้ เด็กชายที่เดินตามหลังมาก็ยกมือไหว้หญิงสาวเช่นกัน“สวัสดีจ้ะแก้ว กลับมาเยี่ยมบ้านเหรอ มากี่วัน แล้วนั่นมากับใครอ่ะ พี่ขวัญไม่เคยเห็นเลย แต่หน้าคุ้นๆนะ” แก้วใจหัวเราะเสียงใส กับคำถามที่รัวมาเป็นปืนกล“แก้วกลับมาเยี่ยมบ้านสามวันค่ะพี่ขวัญ พรุ่งนี้กลับตอนเย็นๆ แล้วนี่...” แก้วใจดันบ่าของเด็กชายวัยสิบสี่ปีให้มายืนต่อหน้าเพียงขวัญ“บุรินทร์ หรือ แดนค่ะ เป็นน้องชายของพี่ดิน” เด็กชายบุรินทร์ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ใบหน้าที่ฉายแววหล่อเข้มระบายยิ้มน้อยๆอย่างมีเสน่ห์ เพียงขวัญสบสายตาคมของเด็กชายแล้วยิ้มหวานให้อย่างรู้สึกถูกชะตา“สวัสดีครับพี่ขวัญ”“สวัสดีจ้ะหนุ่มน้อย พี่ขวัญไม่เคยรู้เลยนะเนี่ยว่าพี่ดินมีน้องชายด้วย แดนอายุเท่าไรคะ”“สิบสี่ปีครับ”“โอ้โห! ห่างกับพี่ดินตั้งสิบสามปีแน่ะ” เด็กชายบุรินทร์ยิ้มน้อยๆกับท่าทางแปลกใจของพี่สาวคนสวยตรงหน้า“ตอนแรกแก้วก็ตกใจเหมือนพี่ขวัญนี่แหละค่ะ คุณพ่อคุณแม่พี่ดินบอกว่าแดนเป็นลูกหลง”“ไม่ได้หลงนะครับพี่แก้ว คุณพ่อบอกว่าตั้งใจ” แก้วใจหันไปสบตาหนุ่มน้อยแล้วหันกล
“อยากรักขวัญทั้งวันทั้งคืน ห่างไปตั้งนาน แทบจะลงแดงตาย” เหมันต์กระซิบเสียงพร่าขณะที่พรมจูบไปทั่วใบหน้าภรรยาแล้วมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากนุ่มหวานละมุนลิ้น เพียงขวัญไม่ขัดสามี เธอเข้าใจและเห็นใจเขา หญิงสาวจูบตอบ กอดรัดเขาไว้แน่น ขยับสะโพกรับจังหวะรุกจากเขาอย่างเท่าเทียม บทเพลงรักเร่าร้อนจากคนช่างเรียกร้องทำเอาคุณแม่ยังสาวแทบจะละลายกลายเป็นวุ้นคาอกสามี เพียงขวัญกรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะถูกส่งไปยังปลายทางของห้วงอารมณ์รักนับครั้งไม่ถ้วน เหมันต์เก็บตกจัดเต็มทุกท่วงท่า เท่าที่ห้องน้ำจะเอื้ออำนวยให้เขาทำได้ สุดท้ายจบลงที่อ่างอาบน้ำ ชายหนุ่มชำระล้างร่างกายให้ตนเองและภรรยาหลังจากจบสิ้นภารกิจทวงคืนพื้นที่ส่วนตัวจากลูกสาวตัวน้อย กว่าเขาจะพาร่างอ่อนปวกเปียกออกมาจากห้องน้ำก็ล่วงเลยเวลาไปเกือบสามชั่วโมงเพียงขวัญในชุดนอนใหม่หลับสนิททันทีที่หัวถึงหมอน เหมันต์จูบหน้าผากมนแผ่วเบา รู้สึกรักและหวงแหนเธอมากกว่าที่เคยรู้สึก“ผมรักคุณนะขวัญ” แววตาอ่อนโยนทอดมองใบหน้าของภรรยาอย่างแสนรักเสียงอ้อแอ้ของลูกสาวทำให้เหมันต์ละสายตาจากภรรยา ชายหนุ่มลุกไปหยิบขวดนมที่เตรียมการเอาออกมาจากตู้เย็นตั
“ขวัญ” เหมันต์ขยับกายขึ้นมาหอมแก้มเนียนของคนที่ยังล่องลอยอยู่ท่ามกลางความสุขสม“ก็ยังเหมือนเดิมนะ” เพียงขวัญขมวดคิ้วมุ่น ไม่เข้าใจว่าสามีหมายถึงอะไร“อะ...อะไรคะยังเหมือนเดิม” ริมฝีปากหยักได้รูปยกยิ้มอย่างจ้าเล่ห์ แล้วก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็กบาๆ เพียงขวัญเบิกตากว้างกับสิ่งที่ได้ยิน อยากจะหยิกเนื้อคนช่างสำรวจแรงๆนัก“ก็ขวัญไม่มั่นใจ ผมเลยต้องบอกให้คุณมั่นใจไง ว่ามันเหมือนเดิม แผลฝีเย็บคุณหมอทำได้เนียนมาก แล้วตรง...” มือเล็กยกขึ้นมาปิดปากไว้ก่อนที่เขาจะพูดต่อ“พอเลยค่ะ ขวัญเพิ่งรู้ว่าคุณเหมเป็นผู้ชายขี้เม้าท์” เหมันต์หัวเราะเบาๆ“ผมรักคุณนะ” เพียงขวัญยิ้ม จับประคองใบหน้าสามีไว้ด้วยมือสองข้าง โน้มลงมาใกล้กับใบหน้าตัวเอง“ขวัญก็รักคุณเหมค่ะ” คำบอกรักแว่วหวานนัก หากแต่รสจูบกลับหวานซ่านกว่า หวานจนหัวใจสั่นสะท้าน ต่างคนต่างบรรจงถ่ายทอดความรู้สึกแห่งรักให้กันผ่านทางกาย สัมผัสอ่อนโยนทะนุถนอมราวกับว่าเธอคือสิ่งมีค่าสำหรับเขา ทำให้เพียงขวัญตอบสนองอย่างน่ารัก และเมื่อสองร่างค่อยๆหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่างเล็กก็ผวากอดรัดเอาร่างของคนตัวโตไว้เต็มอ้อมกอด
“ขา...” หญิงสาวขานรับเสียงอ่อนเสียงหวาน ด้วยเพราะเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ผู้ชาย และยิ่งเป็นมนุษย์สามีของเธอด้วยแล้ว เธอรู้สึกเห็นใจเขาอยู่ไม่น้อย“ผมจะไม่อดทนแล้วนะ” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมากระซิบบอกแนบใบหูเล็ก เพียงขวัญหัวเราะคิก เพราะสามีเป่าลมร้อนใส่หูเธอ“ลูกอยู่ด้วยนะคะ” มือบางยันบ่ากว้างไว้เมื่อคนตัวโตทำท่าว่าจะไม่อดทนแล้วจริงๆ“ผมจะทำเบาๆ” เขากำลังจะขาดใจตาย ต้องตายแน่ๆ ถ้าช้าไปกว่านี้“คุณเหม อื้อ!” จุมพิตอ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยความเร่าร้อนปิดกั้นข้ออ้างทั้งหมดจากปากเล็กของภรรยา เหมันต์ดูดซับเอาความหอมหวานที่เขาหลงใหล จ้วงลิ้นร้อนเข้าสู่โพรงปากนุ่มอุ่นที่แสนคิดถึง ตะโบมจูบเอาๆ จนสาแก่ใจจึงยอมถอนจูบ แต่ก็ยังคงอ้อยอิ่งขบเม้มกลีบปากอิ่มดูดดึงหยอกล้อไม่ยอมผละหนี“คุณเหม” เพียงขวัญเรียกสามีเบาๆ เมื่อรับรู้ว่าเขากำลังแกะกระดุมชุดนอนของตน“อืม” ชายหนุ่มขานรับในลำคอ ขณะเลื่อนใบหน้าลงซุกไซ้ลำคอหอมกรุ่น และแล้วกระดุมเม็ดสุดท้ายของชุดนอนแสนเกะกะก็หลุดออก สาบเสื้อถูกแยกออกจากกัน เพียงขวัญสะดุ้ง รีบกอบเอาใบหน้าของสามีที่กำลังจะเลื่อนลงต่ำไว้ด้วยสองมื
หลังจากนั้นไม่ว่าคุณหมอบอกให้ทำอย่างไรเธอก็ทำตาม คุณหมอบอกให้เบ่งเธอก็เบ่ง บอกให้หยุดเบ่งเธอก็หยุด เหมันต์จับจ้องใบหน้าภรรยา สลับกับมองดูคุณหมอเป็นระยะ เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตอนที่ภรรยาออกแรงเบ่งเขาเองก็ครางในลำคอช่วยเบ่งด้วยอีกแรง จนกระทั่งเสียงร้องของทารกน้อยดังขึ้น“ผู้หญิงนะคะ แข็งแรง สมบูรณ์ดีค่ะ” คุณหมออุ้มเด็กทารกน้อยที่ยังเปื้อนคราบเลือดขึ้นมา ให้ทั้งสองดูเพศของเด็กหญิงผู้เป็นสายใยรักของเขาและเธอเพียงขวัญและเหมันต์จับจ้องภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม น้ำตาเม็ดใสๆกลิ้งลงตรงหางตาของคนที่ได้เป็นแม่เต็มตัว คุณแม่คุณพ่อมือใหม่หันมาสบตากันเมื่อคุณหมอส่งทารกน้อยให้พยาบาลนำไปทำความสะอาด เหมันต์จูบซับน้ำตาให้ภรรยาเบาๆ“ขอบคุณนะครับที่รัก เมียผมเก่งที่สุดในสามโลก” เพียงขวัญยิ้มให้สามี ยิ้มด้วยความเหนื่อยล้าแต่ก็แฝงไว้ด้วยความปลาบปลื้มยินดี“ผมรักคุณนะขวัญ” เหมันต์ลูบศีรษะและปัดเส้นผมที่ระใบหน้าเนียนออกอย่างเบามือ ชายหนุ่มจุมพิตที่หน้าผากมนแทนคำขอบคุณอีกครั้ง“ขวัญก็รักคุณเหมนะคะ รักลูกสาวของเราด้วย” สองสามีภรรยายิ้มให้กัน เหมันต์แนบใบหน้ากับแก้มชื้นเหงื่อของภร
“น่ารักจะตาย” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทำให้แก้วใจหันกลับไปมอง แววตาล้อเลียนนั้นทำให้ใบหน้าสาวร้อนเห่อ“พี่ดิน เอ่อ...แก้วไปหาเพื่อนก่อนนะ” แก้วใจเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ร่างสูงใหญ่ก็เดินมาขวางไว้“ถอยไปนะ แก้วจะไปหาเพื่อน”“คุยกันให้รู้เรื่องก่อน”“ไม่เห็นมีอะไรจะต้องคุย”“มีสิ เยอะแยะเลย พี่มีเรื่องจะเล่าให้แก้วฟังเยอะแยะเลย ฟังหน่อยนะ”“อุ๊ย!” ร่างเล็กถูกดึงไปกอดแนบอก แก้วใจพยายามขืนตัวดิ้นยุกยิก แต่ก็ไม่สามารถจะหลุดพ้นจากอ้อมกอดแข็งแรงได้ บดินทร์กดศีรษะทุยเบาๆให้ใบหูเล็กแนบไปกับอกกว้าง“เดี๋ยวพ่อมาเห็น” แก้วใจอุบอิบบอก“นิดเดียวนะ พี่คิดถึงแก้วมาก ใจแทบขาด จนต้องทำงานหนักๆจะได้ลืมความคิดถึง มันเป็นความทรมานอย่างที่สุดเลยนะ แก้วรู้ไหม” แก้วใจอยากบอกเหลือเกินว่าเธอเองก็ทรมานไม่ต่างไปจากเขา คิดถึงแทบขาดใจ“แก้วก็ทรมาน คิดถึงพี่ดิน” วงแขนเรียวกอดรัดร่างใหญ่ไว้แน่น อบอุ่นและคุ้นเคย อยากอยู่แบบนี้ตลอดไป“พี่จะให้พ่อกับแม่มาสู่ขอแก้วนะ เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด”“แก้วยังไม่ได้รับปริญญาเลยนะ”“เรียนจบแล้วนี่