ทิวเทพกลับเข้ามาในห้องหลังจากที่ออกไปสงบสติอารมณ์แล้วก็พบว่าทิชาหลับไปเรียบร้อย เขาจึงไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน
เมื่อเขาขึ้นไปบนเตียง ทิชาก็พลิกตัวมากอดเขาไว้แน่น หน้าอกนุ่ม ๆ เบียดอยู่กับแขนของเขากลิ่นสบู่หอมอ่อน ๆ พาลทำให้ชายหนุ่มตัวแข็งเทื่อ พยายามห้ามใจไม่ให้ตัวเองรังแกเธอ
อดทนไว้ไอ้ทิว อีก 2 อาทิตย์เท่านั้น
ทิวเทพได้แต่คิดแล้วกอดเธอไว้ก่อนจะหลับไป
เมื่อทิชารู้สึกตัวตื่นตอนเช้าก็พบว่าเธอกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของทิวเทพ เธอใช้โอกาสนี้สังเกตใบหน้าของชายหนุ่มที่เธอกำลังจะแต่งงานด้วย ริมฝีปากหยักที่จูบเธอเมื่อคืนอย่างอ่อนหวาน อยู่ห่างเธอแค่นิดเดียว
คนอะไร หลับก็หล่อ ตื่นก็หล่อ /// ทิชาชื่นชมทิวเทพอยู่เงียบ ๆ
เขาขยับทำท่าจะตื่น ทิชาจึงแกล้งหลับต่อเพราะอยากรู้ว่าเขาจะทำยังไงเมื่อเห็นเธอหลับอยู่
ทิวเทพตื่นขึ้นมาพร้อมมองหน้าทิชา เมื่อเห็นว่าเธอยังหลับอยู่ชายหนุ่มจึงแอบหอมแก้มเธอ ก่อนจะค่อย ๆ ขยับตัวลุกออกจากเตียงพร้อมกับห่มผ้าให้เธอและเดินออกไปจากห้อง เพื่อบอกให้แม่บ้านเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ก่อนที่ทิชาจะตื่นเมื่อทิวเทพออกไปทิชาที่แกล้งหลับก็ลุกขึ้น
"มีแอบหอมแก้มด้วย บทจะดุก็ดุ บทจะน่ารักก็น่ารัก ตาบ้านี่"
ทิชาอาบน้ำ แต่งตัวเรียบร้อยก็ออกมาทานอาหารพร้อมทิวเทพที่รออยู่ ทั้งสองต่างไม่พูดถึงเรื่องเมื่อคืน
ทิชาอยากแกล้งเป็นจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนเธอจูบกับเขา อยากรู้เหมือนกัน ว่าพ่อหนุ่มมาดนิ่งจะทำยังไง?
"เมื่อคืนทิชาเมามากเลยใช่ไหมคะ จำอะไรไม่ได้เลย"
"อืม เมา"
"ขอบคุณนะคะที่พาไปนอน"
"อืม กินเสร็จแล้วไปเตรียมตัวซะ วันนี้เราต้องไปหลายที่"
"ค่ะ พี่ทิว"
หลังจากเตรียมตัวเรียบร้อยทิวเทพก็พาทิชาไปลองชุดแต่งงานพร้อมกับถ่ายพรีเวดดิ้ง ทั้งหมดเขาได้เตรียมไว้แล้วทั้งชุดเจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาวทิชามีหน้าที่แค่ไปลองแค่นั้นพอ ซึ่งเธอก็ยินดีเพราะไม่อยากเลือกเองเช่นกัน
"ทิชา ขอให้เพื่อนทิชาเป็นเพื่อนเจ้าสาวได้ไหมคะ"
"อืม"
"ขอบคุณนะคะ”ทิชากล่าวพร้อมส่งยิ้มหวานให้เขา
หลังลองชุดและถ่ายพรีเวดดิ้งเสร็จ เธอก็ไลน์บอกเพื่อนให้ส่งไซส์ของแต่ล่ะคนมา เพื่อให้จัดการให้และไปทำธุระต่อกับคุณทิวเทพจนเย็น กว่าจะได้กลับไปพักทั้งคู่ก็แทบหมดแรง
**********
วันรุ่งขึ้น พี่ทิวบอกว่า วันนี้คุณแม่จะเข้าไปคุยเรื่องสู่ขอกับพ่อของฉัน ฉันจึงรีบตื่นมาเตรียมตัวก่อนจะนั่งรถไปที่บ้านพร้อมคุณแม่แล้วพี่ทิว เมื่อมาถึงบ้านทิชาเธอก็เดินนำคุณแม่และพี่ทิวไปหาพ่อกับแม่เลี้ยงฉัน
"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ ธารา นะค่ะ"
"สวัสดีครับ"
"วันนี้ฉันจะมาสู่ขอลูกสาวคุณให้กับลูกชายฉันอย่างเป็นทางการค่ะ"
"ยินดีเลยครับ เอ่อ..... แล้วเรื่องสินสอดล่ะครับ”
"ทางคุณเสนอมาได้เลยค่ะ"
พ่อกับแม่เลี้ยงฉันหันมองหน้ากัน ก่อนแม่เลี้ยงจะพูดขึ้นว่า
"งั้นฉันไม่เกรงใจนะค่ะ ฉันมีลูกสาวคนเดียว สินสอดคงต้องสมน้ำสมเนื้อหน่อยนะคะ"
ฉันเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความโลภแวบหนึ่ง พาลใจไม่ดี เหมือนพี่ทิวจะรู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่ เขายื่นมือมากุมมือฉันไว้อย่างอ่อนโยน
"20 ล้านค่ะ พร้อมทองอีก 10 บาท ค่ะ หวังว่าคุณคงไม่มีปัญหานะคะ"
ฉันตกใจมากที่แม่เลี้ยงเรียกสินสอดมากขนาดนั้น
"พ่อคะ นี่มันมากไปนะคะ”ฉันรีบหันไปบอกพ่อทันที
"มากไปยังไง ฉันเลี้ยงแกมาตั้งกี่ปี แค่นี้มันยังไม่พอด้วยซ้ำ!!!"
"แต่ว่า พ่อคะแบบนี้มัน...."
"ตาทิว พาน้องไปรอที่รถ แม่คุยเอง"
"ครับแม่”
ทิวเทพออกแรงดึงฉันพร้อมบอกว่า
"ไปกันเถอะ ทางนี้ให้แม่พี่จัดการนะ”
“แต่พี่ทิวคะ แบบนี้มันมากไปนะคะ พ่อคะ นี่พ่อเห็นหนูเป็นลูกบ้างหรือเปล่า แบบนี้มันเหมือนพ่อขายหนูเลยนะคะ!!!”
ฉันตอบ พร้อมกับหันไปถามพ่อ
"ทิชา!!!! มันจะมากไปแล้วนะ แกเป็นลูกมีหน้าที่ตอบแทนพ่อแม่ นิสัยเถียงพ่อแม่ นี่มันแก้ไม่ได้สินะ จนจะแต่งงานอยู่แล้ว!!"
พ่อของทิชาตะโกนขึ้น
"พ่อคะแต่ว่า..."
"พอแล้วทิชา ให้แม่พี่จัดการนะ ฝากด้วยนะครับแม่"
"จ่ะ พาน้องไปพักเถอะ แม่จัดการเอง"
หลังผมจากออกมาทิชาออกมา เธอก็ร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น
"ฮือ....ฮือ.... ฮึก ทะ ทำไมพ่อทำกับทิชาแบบนี้ เหมือนทิชาไม่ใช่ลูกเลย ฮือ...."
ผมดึงทิชาเข้ามากอดพร้อมกับลูบหลังปลอบโยนเธอ
"ให้แม่พี่จัดการนะ อย่าคิดมาก"
ร่างเล็กซุกอกผมแล้วร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้น ผมรีบพาทิชาขึ้นรถก่อนกลับเพนเฮาส์
"วันนี้เธอพักเถอะ อย่าคิดมากนะ"
"ค่ะ"
เธอตอบพร้อมกับล้มตัวนอน ผมก้มลงไปหอมหน้าผากทิชาก่อนจะกล่าวปลอบโยน
"เรื่องทั้งหมดจะไม่เป็นไร เชื่อพี่นะ"
ผมรีบออกมาจากห้องก่อนจะโทรหานนท์
"ไอ้นนท์ สืบประวัติของพ่อทิชากับแม่เลี้ยงมาให้หมด ด่วน"
"ครับนาย"
ผมภาวนาให้เรื่องที่ผมคิดมันไม่เป็นจริง ได้แต่หวังว่า มันจะเป็นแค่ความโลภมากของคน 2 คนมากกว่าเรื่องอื่น
ไม่งั้น ทิชาอาจจะเสียใจมากกว่านี้ก็ได้
เมื่อแม่กลับจากคุยกับบ้านนั้น แม่ก็โทรมาหาผมทันที
"ครับแม่"
"แม่จัดการเรียบร้อยแล้วนะ ไม่ต้องห่วง"
"แม่จัดการยังไงครับ"
"ก็ให้สินสอดไปตามที่เขาต้องการแลกกับการไม่มายุ่งกับหนูทิชาอีก ซึ่งเขาก็ตกลงนะแม่ให้เซ็นสัญญาแล้ว"
"รอบคอบมากครับแม่"
"แน่นอนอยู่แล้ว คนนี้ ลูกรักจริงใช่ไหม ตอบแม่หน่อย"
"ครับ ใช่ครับ แต่ผมสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง..."
"แม่ก็สงสัย เลยให้ทำสัญญาไว้ก่อนไง"
"งั้นเหรอครับ ขอบคุณครับแม่ ที่เหลือผมจัดการเอง"
"จ้า"
ผมวางสายแม่ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ ก่อนกลับเข้าไปในห้องและบอกกับทิชาไปตามตรง
ซึ่งเธอก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ท่าทางของเธอกลับไม่ค่อยร่าเริงเท่าไหร่นั้นมันทำให้ผมไม่สบายใจเลย ผมจึงบอกให้เธอนอนพักก่อนจะออกไปจัดการธุระที่เหลือ
หลังจากวันนั้นเธอก็ไม่พูดเรื่องนี้อีก ระหว่างทั้งสองคนกำลังเป็นไปด้วยดี ต่างปรับตัวเข้าหากัน เขาดูแลเธอดีมากคอยมารับมาส่งเธอทุกวันก่อนไปทำงาน ทั้งคู่แลกเปลี่ยนไลฟ์สไตล์กันและกัน สนิทกันมากขึ้น
ทิชาไว้ใจเขามากขึ้นและการมีเขาอยู่ข้าง ๆ ทำให้เธอสบายใจขึ้นมาก
วันแต่งงาน
"แกฉันตื่นเต้นมากเลย ทำไงดี"
ทิชาที่แต่งชุดเจ้าสาวสีขาวและกำลังแต่งหน้าหันไปบอกเพื่อน ๆ ของเธอที่อยู๋ในห้องแต่งตัวอย่างตื่นเต้น
"หายใจเข้าลึก ตั้งสตินะ แกทำได้”ลดาบอกพลางลูบหลังฉัน ให้ฉันตั้งสติ
"วันนี้แกสวยมากเลยทิชา”
"ขอบใจนะน้ำชา"
"ใจเย็น ๆ เดี๋ยวก็มีผัวแล้ว”ดาวเอ่ยแซวฉัน
ฉันหันไปค้อนดาว ก่อนที่ช่างแต่งหน้าจะหันหน้าฉันกลับมาแต่งต่อ
"ยังไงพวกฉันก็ยินดีด้วยนะแก แต่งงานคนแรกเลยน้าาา"
"ขอบใจมากน้าาา ถ้าไม่มีพวกแกฉันต้องทำอะไรไม่ถูกแน่ๆ เลย"
"อย่ามาซึ้งตอนนี้สิฉันจะร้องตาม เดี๋ยวไม่สวย”ดาวบอก
ฉันหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะลุกไปกอดทุกคน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก .....
"คุณทิชาคะ เจ้าบ่าวมาแล้วค่ะ"
"เข้ามาเลยค่ะ”
ทิวเทพสวมชุดทักซิโด้สีขาวเดินเข้ามาและมองฉันอย่างตะลึง
"สวยไหมคะพี่ทิว”
"สวยสิ สวยมาก"
"ไปกันเถอะ แขกรออยู่"
งานแต่งของเราจัดตามศาสนาของพี่ทิวซึ่งคือศาสนาคริสต์ โดยจะเข้าพิธีสมรสที่โบสถ์ก่อนและจะมี After Party ที่โรงแรมของเพื่อนเขาที่ชื่อ ชาญวิทย์ เป็นโรงแรมหรูใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง
งาน After Party ค่อนข้างใหญ่เพราะ พี่ทิวเป็นนักธุรกิจที่ทุกคนกำลังจับตามองการที่เขาแต่งงานสายฟ้าแล่บแบบนี้ ทุกคนจึงอยากรู้ว่าเจ้าสาวของเขาเป็นใครเพราะตั้งแต่มีข่าวแต่งงานออกไปเขาก็ปิดเงียบถึงว่าที่เจ้าสาวเขา
"ตื่นเต้นหรอ มือเย็นเชียว"
จริง ๆ ทิชาต้องเดินเข้างานพร้อมกับพ่อเธอแต่เธอไม่อยากเจอพ่อของเธอ เขาจึงเปลี่ยนเป็นเดินเข้างานพร้อมกับเขาแทน
"ค่ะ ทิชาตื่นเต้นมากเลย"
"ไว้ใจพี่นะ”
"ค่ะ"
แค่เขาพูดมาแค่นั้น ทิชาก็รู้สึกเหมือนทุก ๆ อย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี
"พร้อมไหมครับ"
"พร้อมค่ะ"
"งั้นไปกันเถอะ"
ทิวเทพพาเจ้าสาวของเขา เดินไปยังแท่นพิธีที่บาทหลวงยืนรออยู่ก่อนจะเริ่มพิธีสมรส บาทหลวงเริ่มอ่านคัมภีร์คู่ชีวิตหลังกล่าวจบบาทหลวงก็หันมาบอกกับคู่บ่าวสาว
"ลูกทั้งสอง กล่าวคำปฏิญาณและสวมแหวนได้”
"ผม นาย ทิวเทพ อัครไพศาลวงศ์ ขอรับ นางสาวทิชารินทร์ เทพพิทักษ์ เป็นคู่ชีวิต จะรักและดูแลเธอ ไม่ว่าจะยามทุกข์ หรือยามสุข ไม่ว่ายามป่วย หรือยามสบายดี จนกว่าชีวิตจะหาไม่”
ทิวเทพกล่าวพร้อมกับสวมแหวนที่นิ้วนางของทิชา
"ดิฉัน นางสาวทิชารินทร์ เทพพิทักษ์ ขอรับนาย ทิวเทพ อัครไพศาลวงศ์ เป็นคู่ชีวิต จะรักและดูแลเขา ไม่ว่าจะยามทุกข์ หรือยามสุข ไม่ว่ายามป่วย หรือยามสบายดี จนกว่าชีวิตจะหาไม่”ทิชากล่าวขึ้นพร้อมกับสวมแหวนที่นิ้วนางของทิวเทพเช่นกัน
"ณ ที่แห่งนี้ พ่อของประกาศว่า ลูกทั้งสองได้เป็นสามี ภรรยากันอย่างถูกต้อง เจ้าบ่าวจูบเจ้าสาวได้"
ทิวเทพดึงทิชาเข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม ทิชาก็ตอบสนองเขาไม่ต่างกัน ทั้งคู่จูบกันเนิ่นนานกว่าจะแยกออกจากกันได้ ก็ตอนที่บาทหลวงกระแอมขึ้นมา
ทั้งคู่จึงรู้สึกตัว ก่อนจะแยกกันแบบเขิน ๆ
หลังจากเสร็จพิธีที่โบสถ์ทิชาและทิวเทพก็เดินทางไปที่โรงแรมที่จะจัด After Party เมื่อเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วทั้งคู่จึงเดินมาเข้าร่วมงานพร้อมเดินกล่าวทักทายแขกบนเวทีพิธีกรกำลังกล่าวประวัติของทั้งคู่เมื่อกล่าวจบจึงได้เชิญคู่บ่าวสาวขึ้นไปบนเวทีพิธีกร: เอาล่ะค่ะ ในที่สุดก็มาถึงงาน After Party แล้วนะคะ ขอเชิญบ่าวสาวขึ้นมาบนเวทีเลยค่าาาาพิธีกร :ขอถามคำถามแรกเลยนะคะ ทั้งคู่มารู้จักกันได้ยังไงและตกหลุมรักได้ยังไงคะทิชา: พี่ทิวช่วยทิชาไว้ค่ะ หลังจากนั้นก็ได้ทำความรู้จักกันค่ะ พี่ทิวเป็นคนอบอุ่นถึงแม้จะไม่ค่อยพูดก็ตาม มันทำให้ทิชาสบายใจที่จะอยู่ด้วยสุดท้าย...ทิชาก็..ตกหลุมรักเขาค่ะทิชาตอบพิธีกรก่อนจะหลบตาทิวเทพ ทุกสิ่งที่พูดไปเป็นสิ่งที่ทิชารู้สึกจริง ๆพิธีกร: แล้วเจ้าบ่าวล่ะคะทิวเทพ: ผมชอบเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอครับ เธอเป็นคนน่ารักมากแถมยังใสซื่อด้วยครับทิวเทพ :ผมอาจจะพูดไม่เก่งแต่มีอย่างหนึ่งที่ผมอยากบอกเธอครับทิชาหันมามองทิวเทพ เขาจ้องไปในตาของเธอก่อนจะพูดออกมาว่า"พี่รักทิชานะครับ"ฮิ้ววววว เสียงเพื่อน ๆ ของทิวเทพโห่แซวเขาที่ตอนนี้หน้าแดงไปทั้งหน้าแล้ว หมายความว่ายังไงกัน สายตาที่เข
เช้าวันถัดมาสองร่างที่นอนเปลือยเปล่ายังคงนอนกอดกันอยู่บนเตียง ทิชารู้สึกตัวก่อนเธอนอนมองหน้าคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี"พี่ทิวรักทิชาจริง ๆ เหรอคะ ไม่อยากเชื่อเลย”เธอพึมพำออกมาเบา ๆ"จริงสิ ไม่เชื่อพี่เหรอ""เอ๊ะ ตื่นแล้วเหรอคะ เอ่อ...ลุกเถอะค่ะ สายแล้ว"ทิวเทพกระชับกอดไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย"เมื่อคืนชอบไหม""อย่าถามค่ะ ทิชาเขิน""ยังเขินพี่เหรอ สงสัยพี่ต้องทำใหม่ซะแล้ว""เดี๋ยวค่ะ อื้ออออ"ทิวเทพจูบปิดปากทิชาก่อนที่จะโดนห้าม สอดลิ้นเข้าไปพัวพันภายในปากเล็ก ปลุกอารมณ์ให้หญิงสาวก่อนจะถอนจูบออกมาซุกไซ้ซอกคอขวา ดูดเม้มเบา ๆ จนเกิดรอยแดง แล้วขยับลงไปเล่นกับหน้าอกอวบทั้งดูดซ้ายดูดขวา มือหนาก็เฝ้าคลึงไม่ยอมห่าง"อ๊ะ อ๊ะ~~พี่ทิวขาาา""ว่าไงครับ""ฮือออ ทิชาเสียว"จ๊วบ จ๊วบ~"อ๊าา!! พี่ทิว เบา ๆ ค่ะ""พี่หิวครับ ขอกินทิชาแทนอาหารเช้าหน่อยนะ""อื้อออ พี่ทิวว"มือของเขาละออกจากหน้าอกเธอแต่ริมฝีปากหนายังดูดเม้มยอดอกเธอก่อนจะส่งมือลงไปเล่นกับใจกลางความสาว คลึงจุดกระสันของเธอและสอดนิ้วเข้าไปทักทายด้านในอ๊ะ! อื้ออ!"แฉะแล้ว ที่รักของพี่ ทั้งแน่นทั้งอุ่นเลย""พี่ทิว ทิชาจะขาดใจแล้วว"ทิวเทพได้ยินแบบ
ฉันตื่นขึ้นมาช่วงเย็นของวันนั้นแถมยังรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว พี่ทิวกินดุมาก เขากินฉันไป 3-4 รอบก่อนที่ฉันจะหลับไปคาอกเขา"เป็นไงบ้าง"พี่ทิวถามฉันทันทีหลังจากที่ตื่นข้างตัวเขามีอ่างน้ำอุ่นพร้อมผ้าขนหนูวางอยู่"ทิชาเหมือนจะป่วยเลยค่ะ เพราะพี่ทิวเลย”"พี่ขอโทษครับพี่อดไม่ได้จริง ๆ ทิชาน่ากินไปทั้งตัวเลย""ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ ทิชาเขิน""นอนพักก่อนนะเดี๋ยวพี่ไปทำอะไรมาให้กิน"เขาพูดพร้อมเดินออกไปฉันได้แต่มองตามเขาไปเพราะตอนนี้ฉันระบมไปทั้งตัว สักพักเขาก็กลับเข้ามาพร้อมข้าวต้มหมูที่ดูน่าทาน"มาค่ะพี่ป้อนเอง”พี่ทิวบอกพร้อมกับพยุงฉันนั่งพิงกับหัวเตียงก่อนจะค่อย ๆ ป้อนข้าวต้มฉัน"อร่อยไหม""อร่อยค่ะ พี่ทิวทำกับข้าวเก่งมากเลย”"กินเยอะ ๆ นะกินเสร็จจะได้กินยาแล้วนอนพักเดี๋ยวพี่ต้องออกไปทำงานนะดึก ๆ พี่ถึงจะกลับ”"ได้ค่ะพี่ทิว"หลังจากป้อนข้าวฉันเสร็จเขาก็ให้ฉันกินยาแล้วนอนพัก ส่วนเขาลุกไปเปลี่ยนชุดที่ห้องแต่งตัว เมื่อเขากลับมาฉันที่สะลึมสะลือจากฤทธิ์ของยากำลังจะหลับเขาก็เดินมาหอมหน้าผากก่อนที่จะห่มผ้าให้แล้วบอกว่า"เดี๋ยวพี่กลับมานะพักผ่อนเถอะ"ฉันได้แต่งึมงำตอบก่อนจะหลับไปคาสิโนทรีไนท์"เรื่อ
ผมไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ถ้าบอกไปตามตรงเธอจะรับได้ไหม แถมไอ้นนท์ก็ยังสืบเรื่องพ่อเธอมาไม่หมดอีก"พี่ทิว พ่อกับแม่ของทิชาเป็นอะไรหรือเปล่าคะ"เสียงเธอเรียกผม ทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์"เอ่อ...พี่ขอสืบให้มากกว่านี้ก่อนนะครับแล้วพี่จะบอก""....ค่ะ"สุดท้ายผมก็ไม่กล้าบอกเธอไป ผมทำใจไม่ได้จริง ๆ ที่จะเห็นเธอเสียใจ"ส่วนเรื่องที่ทิชาเคยถามพี่ ที่ว่า.... พี่เป็นมาเฟียหรือเปล่า""ค่ะ แล้วสรุปว่าใช่ไหมคะ""ถ้าใช่ ทิชาจะกลัวพี่ไหม...."เธอหันไปวางแก้วลง ก่อนจะหันมาตอบผมเบา ๆ"คงไม่ค่ะ ทิชาพอรู้มาบ้างแต่ทิชาอยากฟังจากพี่"ผมขยับเข้าไปกอดเธอไว้แนบอก ก่อนจะค่อย ๆ เล่าเรื่องของผมให้เธอฟัง"ใช่ครับ ตระกูลพี่เป็นมาเฟียแล้วตอนนี้พี่ก็เป็นมาเฟียเหมือนกัน พี่เป็นลูกชายคนโตเลยต้องสืบทอดทุกอย่างจากพ่อครับ"ผมเล่าให้เธอฟังว่าแก๊งมาเฟียของผมมีชื่อว่า แบล็คดรากอน ซึ่งปู่ผมเป็นคนก่อตั้งมันขึ้นมาแน่นอนว่าขึ้นชื่อว่ามาเฟียไม่มีใครขาวสะอาด ถึงยังงั้นผมก็ไม่ได้ทำธุรกิจสีดำ อาจจะมีเทา ๆ บ้าง เมื่อทิชาฟังจบเธอก็นิ่งไป"กลัวเหรอครับ""เปล่าค่ะทิชาไม่ได้กลัว แค่...เป็นห่วง"เธอพอรู้มาบ้างว่าในวงการมาเฟียมันเป็นยังไง ทั้
ฉันกอดกับพี่ทิวสักพักก่อนจะมีเสียงกระแอมเบา ๆ"อะแฮ่ม"แม่ฉันกระแอมขึ้นขัดจังหวะเราทั้งคู่ฉันเลยรีบผละออกจากพี่ทิว ลืมเลยว่าแม่นั่งอยู่ด้วยเขินชะมัด"พี่ทิวกับแม่หิวหรือยังคะ ทานกันเถอะค่ะ"ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องทันที ระหว่างทานอาหารฉันกับแม่ก็พูดคุยกันอยู่เรื่อย ๆ ฉันยอมรับว่าดีใจนะแต่ก็ยังอดรู้สึกแปลก ๆ ไม่ได้ อาจจะเพราะเราสองคนไม่เคยเจอกันมาก่อน พอนั่งคุยกันไปสักพักฉันก็ถามเรื่องที่ฉันสงสัยทันที"แม่คะ เล่าเรื่องพ่อของทิชาให้ฟังได้ไหมคะ""ได้สิ....""แม่กับพ่อเจอกันครั้งแรกที่มหาลัย ตอนนั้นเขาเข้ามาจีบแม่ก่อนหลังจากนั้นเราก็คบกันมาเรื่อย ๆ จนเรียนจบ เขาพาแม่ไปแนะนำให้ที่บ้านรู้จักแต่ที่บ้านเขาไม่ยอมรับแม่เพราะฐานะเราต่างกัน เขาเป็นคนมีตระกูลแม่เป็นคนธรรมดา เขาโกรธที่บ้านมากเลยพาแม่ออกมาจากที่นั่นแล้วไปส่งแม่ที่บ้าน”แม่หยุดเล่ากระทันหันพร้อมกับร้องไห้ออกมาเงียบ ๆ ฉันเห็นแบบนั้นจึงเอื้อมมือไปจับมือแม่ไว้"ถ้าแม่ไม่พร้อม แม่ค่อยเล่าก็ได้นะคะ""ไม่เป็นไร แม่ไหว”แม่ฉันเช็ดน้ำตาก่อนจะเล่าต่อ"ขากลับ แม่ได้รับข่าวว่าเขาประสบอุบัติเหตุ แม่พยายามหาทางไปเยี่ยมเขาแล้วแต่ทางนั้นก็กีดกันแม่ไม่ให้
"กลืนให้หมดครับ เด็กดี"ฉันดูดกลืนน้ำสีขาวขุ่นจากนิ้วของเขาอย่างว่าง่าย ดูดจนมันเกลี้ยงนิ้ว"อร่อยไหมครับ""อร่อยค่ะ มีอีกไหมคะ”ฉันถามเขาพร้อมเงยหน้ามองด้วยแววตาฉ่ำวาว อารมณ์ปรารถนา ในตัวทำให้ฉันไม่เหนียมอายแล้ว"เดี๋ยวพี่ป้อนให้อีกครับ แต่ตอนนี้พี่จะป้อนอีกที่ก่อน"เขาบอกพร้อมกับจับฉันมานั่งคร่อมตัก"ยกตัวขึ้นหน่อยครับ"ฉันยกตัวขึ้นตามที่เขาบอก เขาเอาแท่งรักมาถูไถที่กายสาวฉันเรียกน้ำสวาทให้เปียกชุ่มไปทั้งลำ ก่อนจะจับสะโพกฉันค่อย ๆ กดลง"อื้อออ"ฉันเกาะไหล่เขาไว้แน่น มันเสียว เสียวมาก ๆ แก่นกายเขาใหญ่มาก มันชนนู่นนี่ในท้องฉันไปหมด"อ่าส์ ที่รัก ขย่มพี่หน่อยครับ"พอเข้าไปหมดทั้งลำเขาก็ให้ฉันขย่ม ฉันส่ายเอวเบา ๆ ควงเอวบดเบียดเนินชาย ก่อนจะเร่งความเร็วขึ้นตามอารมณ์สวาทของเรา เขาเค้นคลึงหน้าอกฉันพร้อมดูดกินปลายยอดสีชมพูระเรื่อจนมันแข็งขึ้นมามือหนาจับสะโพกฉันไว้แล้วกระแทกเอวสวนขึ้นมาตามจังหวะ มันกระแทกเขาไปลึกมากฉันได้แต่ร้องครวญครางอยู่ข้างหูเขา"อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาาา!~~ พี่ทิวขาาาา""ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!"เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังไปทั่วห้องทำงาน แอร์ในห้องไม่ได้ช่วยดับความร้อนรุ่มในตัวเราสองคนเล
เมื่อก่อน 2 กลุ่มเป็นเพื่อนสนิทกัน ปู่ของทั้งสองตระกูลเป็นคนก่อตั้งกลุ่มขึ้นมาทั้งสองกลุ่ม ต่างฝ่ายต่างเติบโตไปพร้อม ๆ กันคอยเกื้อหนุนกันและกันมาตลอด ด้วยความที่ผู้ก่อตั้งเป็นเพื่อนสนิทกันทั้งสองกลุ่มเลยเปรียบเสมือนพี่น้องกันแน่นอนว่าเส้นทางมาเฟียไม่ได้ขาวสะอาดนักมีการทำธุรกิจสีเทาจนถึงดำอยู่ประมาณหนึ่ง ทว่าพวกเรามีกฏอยู่หลายข้อหนึ่งในนั้นก็คือ ไม่ว่ายังไง ก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับ ยาเสพติด เด็ดขาด จนกระทั่งมีเรื่องเกิดขึ้นแก๊งไวท์โรสถูกตำรวจเข้าตรวจค้น และพบยาเสพติดจำนวนมากอยู่ในโกดังเก็บของจากการสอบปากคำของตำรวจ มีบางคนกลับสารภาพว่า ยาเสพติดนั้นเป็นของแก๊งไวท์โรสทำให้ฝ่ายนั้นโกรธมาก คิดว่าแบล็คดราก้อนใส่ความพวกเขาและเป็นหนอนบ่อนไส้รวมถึงเป็นคนเอายาไปไว้ที่โกดัง จนสุดท้ายก็มีการปะทะกันเกิดขึ้นทางแบล็คดราก้อนเองก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำ แต่ทางนั้นก็บอกว่าลูกน้องที่สารภาพเป็นคนของทางแบล็คดราก้อน หลังจากการปะทะกันก็มีการนัดคุยกันหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้ข้อสรุป จนกระทั่งผู้นำฝ่ายนั้นถูกฆ่าตายแน่นอนพวกเขาคิดว่าเป็นฝีมือของแบล็คดราก้อน เพราะเหตุเกิดตอนที่กำลังเดินทางมาเจรจากันอีกครั้ง รถที่ผู้นำฝั่ง
หลังจากที่เล่าเรื่องให้ทิชาฟังผมกับเธอก็แยกกัน เธอบอกว่าจะไปหาเพื่อนส่วนผมต้องอยู่เคลียร์งานเอกสารต่าง ๆ กว่าจะเสร็จก็ค่ำแล้ว ขณะที่ผมกำลังจะโทรหาเธอลูกน้องผมก็วิ่งหน้าตาตื่นมาหาผม"นายครับ รถนายหญิงถูกโจมตีครับ!!!!!""มึงว่าไงนะ!!! มันเป็นใคร!""ยังไม่ทราบครับ คุณนัทขอกำลังเสริมเข้ามาเมื่อกี้ครับ"ผมหน้าซีดเผือด บ้าที่สุด ใครมันโจมตีทิชา ไวท์โรสเหรอ? ผมคาดผิดเหรอเนี่ย ถ้าทิชาเป็นอะไรไปผมไม่เอาพวกมันไว้แน่ ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม"ไปเตรียมอาวุธ เอาคนของเราไปให้มากที่สุด ได้ตำแหน่งหรือยัง""ได้แล้วครับ"ผมวิ่งไปที่ห้องอาวุธ คว้าปืนมา2-3กระบอก"อย่าให้มันแตะต้องผู้หญิงของกู”ผมสั่งลูกน้องก่อนจะกระโดดขึ้นรถที่นนท์เตรียมไว้"สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง""เท่าที่ทราบรถนายหญิงโดนสะกดรอยตั้งแต่ออกมาจากคอนโดคุณดาวครับ ตอนนี้นัทกำลังขึ้นพานายหญิงหนีอยู่ครับ""แล้วคนของเราที่กูให้ค่อยดูทิชาล่ะ?""โดนจัดการหมดเลยครับ....""มีหนอนสินะ”ผมพึมพำออกมาเบา ๆ การวางตำแหน่งให้ติดตามทิชามีแค่คนในที่รู้ แม้แต่ทิชาเองก็ไม่รู้ว่ามีคนติดตามกี่คนและจะเฝ้าระวังที่จุดไหนบ้างถ้าโดนจัดการหมดแสดงว่าต้องเป็นคนในที่ปล่อ
วันรุ่งขึ้นเพื่อน ๆ ที่รู้ข่าวก็แห่กันมาเยี่ยมจนฉันแทบไม่ได้พักทุกคนต่างตกหลุมรักเจ้าสองแฝด“อร๊ายยยย หลานฉันน่ารักมากแก ถ้าฉันมีลูกชายฉันจองนะ”“แกแต่งงานให้ได้ก่อนนะ น้ำชา”มันทำท่าชำเลืองไปทางแฟนมันก่อนจะพูดออกมา“ก็....รออยู่ล่ะนะ....”“พอ ๆ เลิกมาหวานกันเลย เกรงใจคนโสดบ้างงง”ดาวพูดขึ้นก่อนจะหันไปเล่นกับหลาน“น่ารักจริง ๆ หลานน้า โตขึ้นอย่าเหมือนแม่นะ”“ดาววว นี่เพื่อนนะ!”ดูมันบอกลูกฉันสิ ฉันไม่ดีตรงไหนกัน! เหมือนเด็ก ๆ จะเริ่มรำคาญเสียงรอบ ๆ ตัว ทัชชาเริ่มเบะปากก่อนจะร้องไห้เสียงดังออกมา‘อุแว้ อุแว้ อุแว้’และแน่นอนว่าเมื่อคนหนึ่งร้อง อีกคนก็ร้องตามทันที‘แงงงงงงงงง’เสียงร้องของสองแฝดทำให้ทุกคนในห้องเงียบกริบทันที พี่ทิวเดินไปอุ้มลูกมาให้ฉันคนนึ่งและตัวเองอุ้มไว้อีกคนนึ่งก่อนจะออกปากไล่ทุกคนให้ออกไปจากห้อง“ลูกน่าจะหิว ทุกคนออกไปก่อนนะ”บรรดาน้า ๆ ทั้งหลายรีบเดินออกจากห้องไปเหลือเพียงพ่อ แม่ลูกเท่านั้นฉันเปิดเสื้อออกให้นมทัชชาก่อน พอคนโตเงียบคนเล็กก็เงียบตาม ทัชชกรหลับต่อในอ้อมแขนของพี่ทิวดูท่าจะเป็นหนุ่มขี้รำคาญเหมือนพ่อซะด้วย“หนูว่าทัชชกรน่าจะเหมือนพี่ทิวแน่ ๆ เลยค่ะ”“ท
“โอ๊ยย พี่ทิว หนูปวดท้องง”กลางดึกคืนหนึ่ง ทิชาตื่นขึ้นมาจากความเจ็บปวดที่ท้อง ร่างบางนอนกุมท้อง อีกมือก็เอื้อมไปเขย่าเรียกสามีที่นอนอยู่ข้างๆ“ทิชา เป็นอะไรครับ จะคลอดเหรอ”“ปวดท้องงง โอ้ยยยย”“ไอ้นัท เตรียมรถ”ทิวเทพตะโกนลั่นบ้านเรียกให้นัทที่มาทำงานเตรียมออกรถไปโรงพยาบาล ร่างสูงประคองทิชาลงจากเตียงเบา ๆ แต่พอเธอลุกขึ้นยืนน้ำคร่ำก็ไหลออกมาจนเขาตกใจ‘ซ่า.......’“ทิชา!”“พะ พี่ทิว หนูปวด โอ้ยยยย”เขาก้มลงช้อนตัวทิชาวิ่งออกจากห้องทันทีพอขึ้นรถมาได้ อาการปวดก็ยิ่งถี่กว่าเดิม มันทั้งปวด ทั้งบิดในเวลาเดียวกัน มือเล็กปัดป่ายไปทั่วจนคว้าหมับ! เข้ากับผมดำสลวยของทิวเทพ ก่อนจะออกแรงขยุ้มจนร่างสูงสะดุ้งไปด้วย“ทิชา ใจเย็น ๆ นะ หายใจลึก ๆ ”“โอ้ยยย เงียบไปเลย มาปวดเองไหมล่ะ ปวดจะตายอยู่แล้ว!”ทิวเทพถึงกับอึ้งไปเลยเขาไม่เคยได้ยินเธอขึ้นเสียงใส่เขามาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว เขาบีบมือเธอเพื่อให้กำลังใจพร้อมกับเร่งนัทให้ขับไวขึ้น ทิชาออกแรงดึงผมเขาเต็มที่จนเขาขมวดคิ้วแน่น“โอ้ยยย เร็วกว่านี้ได้ไหม!!!”ทิชาตะโกนเร่งดังลั่นรถ เธอจะไม่ไหวแล้วสองแฝดถีบท้องตุบ ๆ ราวกับจะออกมาให้ได้ สัญชาตญาณความเป็นแม่สั่งใ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ๆ“นายครับ ผมมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบครับ”นนท์ที่อยู่ในสภาพร้อนใจเคาะห้องรับแขกเรียกเจ้านายไม่หยุดไม่ต่างจากคน 2 คนที่อยู่ในห้อง ทิชาผลักทิวเทพออกเต็มแรงด้วยความตกใจ“พะ พี่ทิว พี่นนท์มาค่ะ”ทิวเทพสบถออกมาเล็กน้อย ก่อนจะไปหยิบผ้ามาให้ทิชาคลุมตัวไว้ ท่าทางเขาหัวเสียน่าดูที่โดนขัดจังหวะจนทิชาอดหัวเราะออกมาไม่ได้“คิก คิก ไม่ทำหน้าแบบนั้นสิคะ พี่นนท์อาจจะมีเรื่องด่วนก็ได้นะ”“ถ้ามันไม่ด่วนอย่างที่หนูบอก พี่จะหักเงินเดือนมัน”ทิวเทพพูดพร้อมกับจัดผ้าคลุมขาของทิชาไว้ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ลูกน้องเข้ามา“นายครับ!!!!”“เออ กูได้ยินแล้ว!”‘แกร๊ก’พอประตูเปิดนนท์ก็พรวดพราดเข้ามาด้านในด้านท่าทีลุกรี้ลุกลนจนทิวเทพแปลกใจ นนท์ทำงานข้างกายเขามานานไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้“มีอะไร?”“เรื่องนายเข้มครับ....”ทิวเทพกำลังจะห้ามไม่ให้นนท์พูดต่อ แต่ว่าไม่ทันแล้วทิชาที่นั่งอยู่ในห้องได้ยินซะก่อน“เกิดอะไรขึ้นคะ พี่นนท์?”“เอ่อ คือ”นนท์หันมองผู้เป็นนายเพื่อขอความเห็นในเมื่อเธอได้ยินแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังทิชาอีกต่อไปเขาจึงพยักหน้าให้นนท์พูดได้เลย“นายเข้ม เสียแล้วครับ ที่ชายแดน”ทิชายกมือป
หลังจากนั้นมาทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ทิวเทพคิดไว้ เขาต้องพาทิชาไปด้วยทุกทีเพราะเธอติดเขาแจ ถ้าเขาออกไปไหนโดยไม่พาเธอไปเธอก็จะร้องไห้จนเขาต้องรีบกลับมาหาตอนนี้ทิชาท้องได้ 5 เดือนแล้ว เธอตัดสินใจแล้วว่าจะลองมาเจอปู่กับย่าของเธอสักครั้งถึงจะอยากเลี่ยงมากแค่ไหนแต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้และเท่าที่แม่บอกก็คือท่านรู้สึกผิดกับเรื่องที่ทำลงไปไม่น้อยเลย“พร้อมไหมครับ”มือบางเย็นและสั่นเล็กน้อย ทิวเทพจับมือทิชาไปกุมไว้มอบความอุ่นใจให้กับเธอร่างบางหันมาส่งยิ้มให้เขา นี่เป็นอีกเหตุผลที่เธอยอมมาเจอท่านทั้งสองเพราะทิวเทพเองก็มีส่วนพูดให้เธอได้คิดไม่น้อย‘พี่ว่าหนูควรไปเจอท่านซักครั้งแล้วค่อยตัดสินใจดีไหมครับ อย่างไรท่านก็เป็นญาติผู้ใหญ่นะ’‘ลองดูนะครับ เดี๋ยวพี่ไปกับหนูเอง’นี่เป็นบทสนทนาที่ทำให้ทิชามาจอดรถหน้าบ้านของพ่อเธอเวลานี้“ไปกันเถอะค่ะพี่ทิว”ทิชาบอกพร้อมสูดหายใจลึก ๆ ก่อนจะลงจากรถไปหาพ่อกับแม่ที่ยืนรออยู่“สวัสดีค่ะ พ่อ แม่”“มาแล้วเหรอลูก เข้าไปด้านในกัน ปู่กับย่ารอเจออยู่”พ่อเดินเข้ามาสวมกอดเธอก่อนจะพาทุกคนเข้าไปในบ้าน ในห้องรับแขกมีร่างสูงอายุของชายหญิงสองคนรอนั่งอยู่ เมื่อทิวเทพและทิชาก้าวม
“พี่ทิวคะ หนูขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ นะคะ”เสียงหวาน ๆ เรียกเขามาแต่ไกลพร้อมกับเดินมากอดแขนเขาที่นั่งดื่มอยู่ที่บาร์“หืมม จะไปไหนกัน ให้พี่ไปด้วยไหม”ทิวเทพวางแก้วเหล้าลงพร้อมกับยกมือลูบหัวเธออย่างเอ็นดู ตั้งแต่ท้องเธอก็อ้อนเขามากกว่าปกติ สงสัยถ้าลูกสาวออกมาคงจะติดพ่อน่าดู“ไม่ล่ะคะ อยากเที่ยวกันตามภาษาสาว ๆ”“งั้น ให้นนท์ขับรถให้นะ ลูก ๆ อย่าดื้อกับแม่นะครับ”ทิวเทพก้มลงไปพูดกับลูบท้องเธอเบา ๆ“โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูมานะคะ”ร่างบางเดินออกไปขึ้นรถโดยมีสายตาของสามีมองตามไม่หยุดถ้าเพื่อนเขาไม่ทักขึ้น คงไม่ยอมละสายตาออกมา“เฮ้ย หวานไม่เกรงใจพวกกูเลยนะ สนใจงานก่อนครับเพื่อน”“นั่นดิ กลับมาคุยเรื่องงานก่อนไหม”เขายิ้มออกมาก่อนจะหันมาคุยกับเพื่อนต่ออีกรอบ««««»»»»ทิชาเดินยิ้มออกมา จริง ๆ อยากให้เขาไปด้วยแต่ก็เข้าใจว่าเขาคงมีธุระคุยกับเพื่อนเลยเลือกที่จะไปกันเองตามประสาสาว ๆเวลาเมาท์จะได้เมาท์ง่าย ๆ ด้วยนนท์ขับรถพาทุกคนมุ่งตรงไปยังห้างหรูใจกลางเมือง ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล มันคือห้าง Timeless นั่นเอง“พี่นนท์ไปหาอะไรทำก่อนได้เลยนะคะ เดี๋ยวเสร็จแล้วทิชาโทรเรียก”“ได้ครับ ผมจะรอแถว ๆ นี้นะครับ”
หลังจากที่เธอสงบสติอารมณ์ได้แล้ว นนท์ก็พาทิชามุ่งตรงไปที่บ้านทันที เมื่อมาถึงรถสปอร์ตที่คุ้นตาก็จอดอยู่มันคือรถพ่อแม่ทิชา ซึ่งมันก็ทำให้เธอแปลกใจเล็กน้อยว่าท่านมาทำอะไรกันที่นี่?“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณแม่”ทิชายกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้อง ซึ่งมีทั้งพ่อแม่เธอและเขารวมทั้งทิวเทพกับเทวาเองนั่งอยู่ด้วย เทวาอาการดีขึ้นมาแล้ว เหลือแค่รักษาแขนที่หักเท่านั้น“สวัสดีค่ะพี่เทวา เป็นยังไงบ้างคะ”“ดีขึ้นเยอะแล้วครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะแล้วก็ยินดีด้วยนะ”เทวายื่นกล่องของขวัญที่เตรียมไว้ให้เธอ ทิชากล่าวขอบคุณก่อนจะรับมาแล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ สามี“ว่าแต่พ่อกับแม่มาทำอะไรที่นี่คะ?”“เปล่าหรอก พ่อกับแม่ค้างที่นี่น่ะ เมื่อคืนเรามาคุยกันต่อนิดหน่อย”ทิชาอดคิดไม่ได้ว่าไอ้การคุยกันนั่นคงไม่ใช่มาดื่มกันต่อหรอกนะ....แต่เหมือนทุกคนจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ทุกคนเลยพร้อมใจกันเข้าเรื่องทันที“ที่แม่ให้มาหาวันนี้ก็ไม่มีอะไรหรอก แม่มีของจะให้แม่ของทิวเทพหยิบเอกสารส่งให้เธอเปิดดู ด้านในเป็นโฉนดที่ดินพร้อมบ้านที่ตั้งอยู่แถบชานเมือ ทว่าทำเลดีมากแถมราคายังแพงสุด ๆ“นี่มันไม่มากไปเหรอคะคุณแม่ทิชาพูดออกมาอย่างเกรงใจ
“ทุกคนเปิดดูเลยค่ะ หนูหวังว่าจะถูกใจทุกคนนะคะ”ว่าที่ปู่ย่ากับว่าที่ตายายเปิดฝาครอบออกช้า ๆ ในจานมีจดหมายอยู่ 1 ฉบับ ทุกคนยังทำหน้าสงสัยไม่หาย ฉันส่งยิ้มและสายตาเร่งให้ทุกคนเปิดอ่านเร็ว ๆ อยากเห็นแล้วว่าจะทำหน้ายังไงกันขณะที่ทุกคนกำลังลังเลแม่พี่ทิวก็เป็นคนแรกที่เปิดอ่าน ด้านในมีจดหมายแสดงผลเลือดกับฟิลม์อัลตร้าซาวน์อยู่ คุณแม่เบิกตากว้างหันมามองหน้าเราทั้งคู่อย่างตกใจ“จริงเหรอตาทิว เรื่องจริงใช่ไหม”“ครับแม่”ทุกคนที่เหลือเห็นคุณแม่ทำตาโตก็เปิดอ่านบ้าง สีหน้าทุกคนหลังอ่านมันจบต่างเต็มไปด้วยความดีใจ“ทิชา ลูกท้องเเหรอ”“ค่ะแม่ หนูท้องได้ 2 เดือนกว่า ๆ แล้ว”"แม่ดีใจด้วยนะ ดีใจมาก ๆ เลย คุณคะ เราจะเป็นตากับยายกันแล้วนะ"“ส่วนเราก็เป็นปู่กับย่าสินะ ฮ่า ๆ ๆ เก่งมากทิวเทพ”พ่อแม่เราหันไปหัวเราะให้กันดังลั่นก่อนจะสลับกันลุกมากอดแสดงความยินดีกับเราทั้งสอง“ยังไม่หมดนะคะ ลองดูฟิล์มอัลตร้าซาวน์อีกรอบสิคะ”ทุกคนเดินไปหยิบฟิล์มมาดูแล้วต่างก็ต้องตกใจอีกครั้ง“แฝด!!??!”“ใช่ค่ะ หนูท้องลูกแฝดชายหญิง”“กริ๊ดดด”หลังจากนั้นทุกอย่างก็ชุลมุนไปหมด แม่ ๆ ต่างกรีดร้องด้วยความดีใจแล้วหันไปกอดกันเหมือนเด็
1 เดือนต่อมา“พี่ทิวคะ ท้องหนูมันใหญ่กว่าปกติหรือเปล่า”ฉันถามพี่ทิวในตอนเช้าที่เรากำลังแต่งตัวกัน ตอนนี้ฉันท้องแค่ 2 เดือนกว่า ๆ เองนะ ทำไมมันดูใหญ่จังพี่ทิวเดินมาสวมกอดจากด้านหลังเอาคางเกยไหล่ฉันเหมือนลูกแมว มือหนาลูบท้องที่เริ่มนูนเบา ๆ“งั้นเหรอ เดี๋ยวเราค่อยไปถามหมอนะวันนี้เราต้องไปตรวจ ไม่ลืมใช่ไหม?”“ไม่ลืมค่ะ”ฉันหมุนตัวอยู่หน้ากระจกไม่หยุด มันนูนกว่าปกติจริง ๆ นะ“แต่งตัวได้แล้วนะคะ จะได้ไปหาหมอเลย”“ค่ะ พี่ทิว”เราทั้งคู่เดินทางไปโรงพยาบาลด้วยความตื่นเต้น ในที่สุดก็จะได้รู้ผลเพศเจ้าตัวเล็กแล้ว“สวัสดีค่ะ คุณทิชา คุณทิวเทพ”“สวัสดีค่ะคุณหมอ”“ช่วงนี้อาการแพ้เป็นยังไงบ้าง แพ้หนักไหมคะ”“ก็สลับ ๆ กับสามีค่ะ ผลัดกันแพ้”“อดทนอีกนิดนะคะ ผ่านไตรมาสแรกไปได้ก็จะดีขึ้นค่ะ”“ค่ะ คุณหมอ”“เดี๋ยวหมอขออัลตร้าซาวน์เลยนะคะ คุณทิชาไปเตรียมตัวได้เลยค่ะ”“คุณหมอคะ คือ ท้องมันดูนูน ๆ แบบนี้ มันผิดปกติไหมคะฉันถามหมอออกไปตามที่สงสัยเพราะเคยรู้มาว่าท้องแรกมันจะไม่โตมาก“เดี๋ยวหมอดูให้นะคะ”หลังเปลี่ยนชุดเสร็จ ฉันก็ขึ้นไปนอนรอคุณหมอบนขาหยั่ง รอบนี้คุณหมอจะตรวจผ่านทางช่องคลอดเพื่อดูพัฒนาการของเด็
ผมเดินไปเดินมาหน้าห้องฉุกเฉินอย่างกระวนกระวายใจ นี่มันนานมากแล้วนะทำไมหมอยังไม่ออกมาอีก"นายครับไปนั่งเถอะ ผมเวียนหัวแทนนาย""เสือก”"เอ้า นายด่าผมทำไมเนี่ย”"ไอ้นนท์เงียบไปเลยมึง"มันหุบปากทันทีแต่แสดงสีหน้าล้อเลียนผมที่เดินเป็นหนูติดจั่นแทน"ขอเชิญคุณทิวเทพด้านในเลยค่ะ”ผมรีบเดินเข้าไปในห้องทันที่ทิชากำลังนั่งพิงหัวเตียงส่งยิ้มมาให้สีหน้าเธอดูสดใสขึ้นมาก"ทิชาเป็นไงบ้าง”“ทำไมทำหน้าแบบนั้นค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมาก ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว”"อยู่ดี ๆ ก็เป็นลมไปแบบนั้น พี่เป็นห่วงนะ คุณหมอครับอาการภรรยาผมเป็นยังไงบ้าง”ผมหันไปถามอาการของเธอจากหมอที่อยู่ในห้อง"อาการเบื้องต้นไม่เป็นอะไรมากค่ะ แต่ยังไงหมอจะส่งตัวคนไข้ให้ไปตรวจอย่างละเอียดที่แผนกสูตินารีนะคะ”"ขอบคุณครับหมอ”พยาบาลเข็นวีลแชร์มาให้เธอนั่งแล้วย้ายเราทั้งคู่ไปที่แผนกสูตินารี เธอมีปัญหาภายในหรือเปล่าถึงต้องมาแผนกนี้ในใจผมคิดไปต่าง ๆ นา ๆ กลัวเธอจะเป็นอะไรที่มันอันตรายมากแต่ไม่ว่ายังไง ผมจะรักษาเธออย่างเต็มที่ตลอดทางที่พี่พยาบาลเข็นฉันไปที่แผนกสูตินารี คนที่เดินตามก็มีสีหน้าเป็นกังวลไม่หยุด ไม่รู้คิดเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนกันแน่ฉันแอ