“โอ๊ยย พี่ทิว หนูปวดท้องง”กลางดึกคืนหนึ่ง ทิชาตื่นขึ้นมาจากความเจ็บปวดที่ท้อง ร่างบางนอนกุมท้อง อีกมือก็เอื้อมไปเขย่าเรียกสามีที่นอนอยู่ข้างๆ“ทิชา เป็นอะไรครับ จะคลอดเหรอ”“ปวดท้องงง โอ้ยยยย”“ไอ้นัท เตรียมรถ”ทิวเทพตะโกนลั่นบ้านเรียกให้นัทที่มาทำงานเตรียมออกรถไปโรงพยาบาล ร่างสูงประคองทิชาลงจากเตียงเบา ๆ แต่พอเธอลุกขึ้นยืนน้ำคร่ำก็ไหลออกมาจนเขาตกใจ‘ซ่า.......’“ทิชา!”“พะ พี่ทิว หนูปวด โอ้ยยยย”เขาก้มลงช้อนตัวทิชาวิ่งออกจากห้องทันทีพอขึ้นรถมาได้ อาการปวดก็ยิ่งถี่กว่าเดิม มันทั้งปวด ทั้งบิดในเวลาเดียวกัน มือเล็กปัดป่ายไปทั่วจนคว้าหมับ! เข้ากับผมดำสลวยของทิวเทพ ก่อนจะออกแรงขยุ้มจนร่างสูงสะดุ้งไปด้วย“ทิชา ใจเย็น ๆ นะ หายใจลึก ๆ ”“โอ้ยยย เงียบไปเลย มาปวดเองไหมล่ะ ปวดจะตายอยู่แล้ว!”ทิวเทพถึงกับอึ้งไปเลยเขาไม่เคยได้ยินเธอขึ้นเสียงใส่เขามาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว เขาบีบมือเธอเพื่อให้กำลังใจพร้อมกับเร่งนัทให้ขับไวขึ้น ทิชาออกแรงดึงผมเขาเต็มที่จนเขาขมวดคิ้วแน่น“โอ้ยยย เร็วกว่านี้ได้ไหม!!!”ทิชาตะโกนเร่งดังลั่นรถ เธอจะไม่ไหวแล้วสองแฝดถีบท้องตุบ ๆ ราวกับจะออกมาให้ได้ สัญชาตญาณความเป็นแม่สั่งใ
วันรุ่งขึ้นเพื่อน ๆ ที่รู้ข่าวก็แห่กันมาเยี่ยมจนฉันแทบไม่ได้พักทุกคนต่างตกหลุมรักเจ้าสองแฝด“อร๊ายยยย หลานฉันน่ารักมากแก ถ้าฉันมีลูกชายฉันจองนะ”“แกแต่งงานให้ได้ก่อนนะ น้ำชา”มันทำท่าชำเลืองไปทางแฟนมันก่อนจะพูดออกมา“ก็....รออยู่ล่ะนะ....”“พอ ๆ เลิกมาหวานกันเลย เกรงใจคนโสดบ้างงง”ดาวพูดขึ้นก่อนจะหันไปเล่นกับหลาน“น่ารักจริง ๆ หลานน้า โตขึ้นอย่าเหมือนแม่นะ”“ดาววว นี่เพื่อนนะ!”ดูมันบอกลูกฉันสิ ฉันไม่ดีตรงไหนกัน! เหมือนเด็ก ๆ จะเริ่มรำคาญเสียงรอบ ๆ ตัว ทัชชาเริ่มเบะปากก่อนจะร้องไห้เสียงดังออกมา‘อุแว้ อุแว้ อุแว้’และแน่นอนว่าเมื่อคนหนึ่งร้อง อีกคนก็ร้องตามทันที‘แงงงงงงงงง’เสียงร้องของสองแฝดทำให้ทุกคนในห้องเงียบกริบทันที พี่ทิวเดินไปอุ้มลูกมาให้ฉันคนนึ่งและตัวเองอุ้มไว้อีกคนนึ่งก่อนจะออกปากไล่ทุกคนให้ออกไปจากห้อง“ลูกน่าจะหิว ทุกคนออกไปก่อนนะ”บรรดาน้า ๆ ทั้งหลายรีบเดินออกจากห้องไปเหลือเพียงพ่อ แม่ลูกเท่านั้นฉันเปิดเสื้อออกให้นมทัชชาก่อน พอคนโตเงียบคนเล็กก็เงียบตาม ทัชชกรหลับต่อในอ้อมแขนของพี่ทิวดูท่าจะเป็นหนุ่มขี้รำคาญเหมือนพ่อซะด้วย“หนูว่าทัชชกรน่าจะเหมือนพี่ทิวแน่ ๆ เลยค่ะ”“ท
"แกออกไปจากบ้านฉันเลยนะ แกมันตัวซวย ออกไป!!!"เสียงจากบิดาของเธอ กำลังตะโกนไล่เธอออกจากบ้าน เพียงเพราะเธอเถียงแม่เลี้ยงเธอ ทิชา ได้แต่ร้องไห้และเก็บข้าวของที่โดนโยนออกมา"ทำไมพ่อไม่ฟังหนูเลย พ่อเชื่อแต่แม่ ไม่เคยฟังเหตุผลหนูบ้างเลย"เธอกล่าวทั้งน้ำตา"แกมันเลี้ยงไม่เชื่อง ออกไปจากบ้านฉันเลยนะ นังลูกเลว!”พ่อของเธอกล่าวด้วยน้ำเสียงโมโห"ไล่มันเลยพี่เข้ม ฉันแค่เตือนมันดี ๆ แต่มันก็ไม่ฟังฉันเลย”นวล แม่เลี้ยงของทิชากล่าว"ได้ สักวัน พ่อจะเสียใจที่พ่อทำกับหนูแบบนี้”ทิชาปาดน้ำตาและกล่าวทิ้งท้ายกับผู้เป็นพ่อก่อนจะหอบข้าวของออกจากรั้วบ้านไปทิชา สาวสวยวัย 21 ปี เธอกำลังเรียนอยู่ปี 3 มหาลัย Gพ่อของเธอ เข้ม เลิกกับแม่ของเธอ รินลดา ตั้งแต่เธอยังเด็ก และแต่งงานใหม่กับ นวล เธอมักจะมีปากเสียงกับแม่เลี้ยงประจำ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร เพราะแม่เลี้ยงไม่ชอบหน้าเธอ และมักจะหาทางกลั่นแกล้งเธอเสมอ เหมือนกับรอบนี้ แค่เธอจะออกไปหาเพื่อน แม่เลี้ยงเธอกับดุด่า หาว่าเธอออกไปเที่ยวเตร่ พอพ่อเธอมาได้ยิน ก็ไล่เธอออกจากบ้านทันทีโดยไม่ฟังเธอเลยทิชาหิ้วกระเป๋าเดินไปตามถนน พลางโทรหาเพื่อนสนิทของเธอ"ฮัลโหล ดาว ฉันโดนพ่
ครืน..... ครืนน........ผมกดรับสายจากเพื่อนสนิทของผมที่โทรมาแต่เช้า"ฮัลโหล.....""ไอ้เทพ มึงยังอยากได้คนช่วยงานไหมว่ะ เพื่อนเมียกู กำลังหางานพอดีอ่ะ สนไหม""อืม ชื่อไร""น้องเค้าชื่อ ทิชา เดี๋ยวกูส่งรูปน้องเค้าให้มึงนะ""เออ"ไอ้ไทเกอร์ส่งรูปของ คนที่ชื่อ ทิชา ให้ผม ผมเลยเปิดดูแต่เมื่อเห็นรูปก็ถึงกับชะงักน่ารักแฮะ.... นี่คือสิ่งที่ผมคิดตอนที่เห็นรูปเธอ"พรุ่งนี้ผับมึง ให้มาคุยกับกู 1 ทุ่ม”ผมรีบตอบเพื่อนไป"เออ ๆ เดี๋ยวกูบอกให้ แล้วนี่มึงง...."ตืดดดผมกดตัดสายมันทันทีที่คุยจบ เพราะขี้เกียจตอบคำถามมันผมชื่อ ทิวเทพ เบื้องหน้าผมเป็นนักธุรกิจหนุ่ม แต่จริง ๆ แล้ว ผมเป็นมาเฟีย มีลูกน้อง มีกิจการที่ค่อนข้างเทา ชีวิตที่ต้องอยู่กับความเสี่ยงตลอดเวลา ทำให้ผม ไม่ค่อยเปิดใจรับใครเข้ามา เพราะ ผมไม่อยากให้ใครต้องมาตกอยู่ในอันตรายเพราะผมแต่กับคนที่ชื่อ ทิชา ไม่รู้ทำไม เธอถึงดึงดูดผมได้ขนาดนี้ จนผมอยากรู้จักเธอมากกว่านี้"ไอ้นนท์ เข้ามาหากูที่ห้องทำงาน"เขาเรียกมือขวาเข้ามา"ครับนาย"นนท์ มือขวาของทิวเทพ ตอบรับและเปิดประตูเข้ามา"สืบประวัติของคนที่ชื่อ ทิชา เพื่อนของน้ำชา แล้วเอามารายงานกู ภายใ
"จะดื่มอะไรก่อนไหม"คุณทิวเทพถามฉันหลังจาก นั่งเงียบมาสักพัก'อะ เอาน้ำส้มก็ได้ค่ะ""มาผับแต่ดื่มน้ำส้ม?"“ฉันคออ่อนค่ะ เลยไม่อยากดื่ม เดี๋ยวคุยไม่รู้เรื่อง”ฉันบอกเขาไป"โอเค ฉันสั่งเครื่องดื่มให้ก่อนแล้วกัน"หลักจากเครื่องดื่มมาเสริฟ ฉัน จึงถามเขาถึงงานที่จะให้ทำ"งานที่คุณอยากให้ทำคืองานอะไรคะ ฉันสนใจอยากสมัครทำงานค่ะ”"ฉันต้องการคนมาแกล้งเป็นภรรยาปลอม ๆ เพื่อหลอกพ่อกับแม่ฉัน เพราะฉันไม่อยากโดนคลุมถุงชน"ฉันแทบสำลักน้ำส้มที่กำลังยกดื่ม แกล้งเป็นภรรยา!? นี่เขาสติดีหรือเปล่าเนี่ย หนุ่มหล่อแบบเขาจะหาใครมาแต่งด้วยก็ได้แค่กระดิกปลายนิ้วเท่านั้นนอกจากหน้าตาที่ดีแล้วฐานะของเขาเรียกได้ว่าเป็นมหาเศรษฐีคนนึ่งได้เลยนะ อีกอย่างยุคสมัยนี้ยังมีอีกเหรอที่จับคู่คลุมถุงชนเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย"คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ”ทิชาพึมพัมเบา ๆ"ไม่บ้า ฉันคิดมาดีแล้ว ถ้าเธอตกลงค่าตอบแทน 10 ล้าน แล้วหลังหย่าฉันมีค่าเสียเวลาค่าอื่น ๆ ให้อีกต่างหาก ระยะเวลาคือ 6 เดือน....”ฉันนั่งอึ้งพูดไม่ออกเลยทีเดียว แต่งงาน? หย่า? เงิน 10 ล้าน? กับคนที่เจอหน้ากันแค่ 2 ครั้งเนี่ยนะ"ฉันต้องการเวลาคิดค่ะ""1 วัน ฉันให้เวลาคิดแ
15.00รถลัมโบกินี่สีดำขับเข้ามาจอดรอที่มหาลัยพร้อมกับเจ้าของรถหนุ่มหล่อที่ลงมายืนรอทิชาหน้าตาของเขา เรียกได้ว่าทำให้สาว ๆ ที่เห็นถึงกับกริ๊ดตาม แต่เขากลับไม่มองใครเลยเฝ้ารอแต่คนที่เขานัดไว้เมื่อเห็นว่าทิชากำลังลงมาจากอาคารเรียนก็รีบเดินเข้าไปหาทิชาแทบตกใจที่อยู่ดี ๆ เขาก็เดินเข้ามาหา เพราะไม่คิดว่าเขาจะมารอเธอเร็วแบบนี้ กว่าเธอจะได้สติเขาก็เดินมาหยุดตรงหน้าแล้ว"มารับ...."เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ไม่แคร์สายตาของคนรอบข้างที่มองมาเลย"อ้อ เอ่อ ค่ะ ฉันไปก่อนนะดาว”"เออ โชคดีนะมึง”ทิวเทพเดินนำทิชามาที่รถคันหรู ก่อนจะเปิดประตูให้เธอเข้าไปนั่งและเดินอ้อมมาฝั่งคนขับพร้อมกับออกรถทันทีกว่าทิชาจะได้สติ ก็ตอนที่รถเลี้ยวออกมาจากมหาลัยแล้ว"เราจะไปไหนกันค่ะ”"กินข้าว...""แล้วเรื่องสัญญา.....”"ค่อยคุยตอนถึงร้าน นั่งเงียบ ๆ ไป...""ค่ะ...."ช่วงเย็นของทุกวันในกรุงเทพเป็นช่วงที่รถติดมาก ๆ ความเงียบในรถบวกกับการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดทำให้ทิชาที่เรียนมาทั้งวันเหนื่อยและเผลอหลับไปเปิดโอกาสให้ชายหนุ่มข้างกายแอบมองเธอ ดวงตาที่หลับพริ้ม ปากจิ้มลิ้มที่เผยอออกเล็กน้อยทำให้หัวใจชายหนุ่มเต้นแรงเธอเ
วันรุ่งขึ้นทิวเทพขับรถมารอทิชาที่หน้าคอนโดพร้อมโทรบอกเธอให้ลงมาครืน.....ครืน........"สวัสดีค่ะคุณทิวเทพ""รออยู่ข้างล่าง....""อ้อค่ะ ๆ ฉันกำลังลงไปค่ะ”ทิชาบอกพร้อมกับกดวางสาย และรีบลงมาด้านล่าง"รอนานไหมคะ ฉันมาแล้วค่ะ"เธอเอ่ยทักทายทิวเทพที่จ้องเธอตาไม่กระพริบเพราะวันนี้เธอสวยมาก ชุดเดรสสีพีชจีบพลิ้วรอบตัวกับการแต่งหน้าอ่อน ๆ เหมาะกับเธอมาก"ชุดนี้พอได้ไหมคะ ฉันไม่ค่อยมั่นใจเลย แม่คุณจะชอบไหม""อืม น่ารักดี ขึ้นรถเถอะ”ทิวเทพตอบและเปิดประตูให้ทิชา"ฉันต้องทำตัวยังไงบ้างคะ คุณทิวเทพ แม่คุณจะยอมรับฉันไหม""พี่ทิว...""คะ?""เรียกฉันว่าพี่ทิวและแทนตัวเองว่าทิชา แม่จะได้ไม่สงสัย""อ้อ เอ่อ ค่ะ พะ พี่ทิว"เขินชะมัดเลยที่ต้องเรียกเขาว่าพี่ทิว และแทนตัวเองว่าทิชา มันเหมือนเราเป็นคู่รักกันจริง ๆ"ทำตัวตามสบาย ไม่ต้องเครียด""ทิชาจะพยายามค่ะ"หลังจากนั่งรถมาสักพักก็มาถึงบ้านของพี่ทิว จะเรียกบ้านได้ไหมนะเพราะมันหลังใหญ่มากแทบจะเป็นคฤหาสน์เลยล่ะทิวเทพลงจากรถและเดินอ้อมมาเปิดประตูให้ทิชา"ไปกันเถอะ"ทิวเทพพูดและจูงมือทิชาเดินเข้าบ้าน ไปหาพ่อกับแม่ที่รอทานอาหารอยู่มือเค้าอุ่นจัง ทิชาคิดพล
ทิวเทพกลับเข้ามาในห้องหลังจากที่ออกไปสงบสติอารมณ์แล้วก็พบว่าทิชาหลับไปเรียบร้อย เขาจึงไปอาบน้ำเตรียมเข้านอนเมื่อเขาขึ้นไปบนเตียง ทิชาก็พลิกตัวมากอดเขาไว้แน่น หน้าอกนุ่ม ๆ เบียดอยู่กับแขนของเขากลิ่นสบู่หอมอ่อน ๆ พาลทำให้ชายหนุ่มตัวแข็งเทื่อ พยายามห้ามใจไม่ให้ตัวเองรังแกเธออดทนไว้ไอ้ทิว อีก 2 อาทิตย์เท่านั้นทิวเทพได้แต่คิดแล้วกอดเธอไว้ก่อนจะหลับไปเมื่อทิชารู้สึกตัวตื่นตอนเช้าก็พบว่าเธอกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของทิวเทพ เธอใช้โอกาสนี้สังเกตใบหน้าของชายหนุ่มที่เธอกำลังจะแต่งงานด้วย ริมฝีปากหยักที่จูบเธอเมื่อคืนอย่างอ่อนหวาน อยู่ห่างเธอแค่นิดเดียวคนอะไร หลับก็หล่อ ตื่นก็หล่อ /// ทิชาชื่นชมทิวเทพอยู่เงียบ ๆเขาขยับทำท่าจะตื่น ทิชาจึงแกล้งหลับต่อเพราะอยากรู้ว่าเขาจะทำยังไงเมื่อเห็นเธอหลับอยู่ทิวเทพตื่นขึ้นมาพร้อมมองหน้าทิชา เมื่อเห็นว่าเธอยังหลับอยู่ชายหนุ่มจึงแอบหอมแก้มเธอ ก่อนจะค่อย ๆ ขยับตัวลุกออกจากเตียงพร้อมกับห่มผ้าให้เธอและเดินออกไปจากห้อง เพื่อบอกให้แม่บ้านเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ก่อนที่ทิชาจะตื่นเมื่อทิวเทพออกไปทิชาที่แกล้งหลับก็ลุกขึ้น"มีแอบหอมแก้มด้วย บทจะดุก็ดุ บทจะน่
วันรุ่งขึ้นเพื่อน ๆ ที่รู้ข่าวก็แห่กันมาเยี่ยมจนฉันแทบไม่ได้พักทุกคนต่างตกหลุมรักเจ้าสองแฝด“อร๊ายยยย หลานฉันน่ารักมากแก ถ้าฉันมีลูกชายฉันจองนะ”“แกแต่งงานให้ได้ก่อนนะ น้ำชา”มันทำท่าชำเลืองไปทางแฟนมันก่อนจะพูดออกมา“ก็....รออยู่ล่ะนะ....”“พอ ๆ เลิกมาหวานกันเลย เกรงใจคนโสดบ้างงง”ดาวพูดขึ้นก่อนจะหันไปเล่นกับหลาน“น่ารักจริง ๆ หลานน้า โตขึ้นอย่าเหมือนแม่นะ”“ดาววว นี่เพื่อนนะ!”ดูมันบอกลูกฉันสิ ฉันไม่ดีตรงไหนกัน! เหมือนเด็ก ๆ จะเริ่มรำคาญเสียงรอบ ๆ ตัว ทัชชาเริ่มเบะปากก่อนจะร้องไห้เสียงดังออกมา‘อุแว้ อุแว้ อุแว้’และแน่นอนว่าเมื่อคนหนึ่งร้อง อีกคนก็ร้องตามทันที‘แงงงงงงงงง’เสียงร้องของสองแฝดทำให้ทุกคนในห้องเงียบกริบทันที พี่ทิวเดินไปอุ้มลูกมาให้ฉันคนนึ่งและตัวเองอุ้มไว้อีกคนนึ่งก่อนจะออกปากไล่ทุกคนให้ออกไปจากห้อง“ลูกน่าจะหิว ทุกคนออกไปก่อนนะ”บรรดาน้า ๆ ทั้งหลายรีบเดินออกจากห้องไปเหลือเพียงพ่อ แม่ลูกเท่านั้นฉันเปิดเสื้อออกให้นมทัชชาก่อน พอคนโตเงียบคนเล็กก็เงียบตาม ทัชชกรหลับต่อในอ้อมแขนของพี่ทิวดูท่าจะเป็นหนุ่มขี้รำคาญเหมือนพ่อซะด้วย“หนูว่าทัชชกรน่าจะเหมือนพี่ทิวแน่ ๆ เลยค่ะ”“ท
“โอ๊ยย พี่ทิว หนูปวดท้องง”กลางดึกคืนหนึ่ง ทิชาตื่นขึ้นมาจากความเจ็บปวดที่ท้อง ร่างบางนอนกุมท้อง อีกมือก็เอื้อมไปเขย่าเรียกสามีที่นอนอยู่ข้างๆ“ทิชา เป็นอะไรครับ จะคลอดเหรอ”“ปวดท้องงง โอ้ยยยย”“ไอ้นัท เตรียมรถ”ทิวเทพตะโกนลั่นบ้านเรียกให้นัทที่มาทำงานเตรียมออกรถไปโรงพยาบาล ร่างสูงประคองทิชาลงจากเตียงเบา ๆ แต่พอเธอลุกขึ้นยืนน้ำคร่ำก็ไหลออกมาจนเขาตกใจ‘ซ่า.......’“ทิชา!”“พะ พี่ทิว หนูปวด โอ้ยยยย”เขาก้มลงช้อนตัวทิชาวิ่งออกจากห้องทันทีพอขึ้นรถมาได้ อาการปวดก็ยิ่งถี่กว่าเดิม มันทั้งปวด ทั้งบิดในเวลาเดียวกัน มือเล็กปัดป่ายไปทั่วจนคว้าหมับ! เข้ากับผมดำสลวยของทิวเทพ ก่อนจะออกแรงขยุ้มจนร่างสูงสะดุ้งไปด้วย“ทิชา ใจเย็น ๆ นะ หายใจลึก ๆ ”“โอ้ยยย เงียบไปเลย มาปวดเองไหมล่ะ ปวดจะตายอยู่แล้ว!”ทิวเทพถึงกับอึ้งไปเลยเขาไม่เคยได้ยินเธอขึ้นเสียงใส่เขามาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว เขาบีบมือเธอเพื่อให้กำลังใจพร้อมกับเร่งนัทให้ขับไวขึ้น ทิชาออกแรงดึงผมเขาเต็มที่จนเขาขมวดคิ้วแน่น“โอ้ยยย เร็วกว่านี้ได้ไหม!!!”ทิชาตะโกนเร่งดังลั่นรถ เธอจะไม่ไหวแล้วสองแฝดถีบท้องตุบ ๆ ราวกับจะออกมาให้ได้ สัญชาตญาณความเป็นแม่สั่งใ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ๆ“นายครับ ผมมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบครับ”นนท์ที่อยู่ในสภาพร้อนใจเคาะห้องรับแขกเรียกเจ้านายไม่หยุดไม่ต่างจากคน 2 คนที่อยู่ในห้อง ทิชาผลักทิวเทพออกเต็มแรงด้วยความตกใจ“พะ พี่ทิว พี่นนท์มาค่ะ”ทิวเทพสบถออกมาเล็กน้อย ก่อนจะไปหยิบผ้ามาให้ทิชาคลุมตัวไว้ ท่าทางเขาหัวเสียน่าดูที่โดนขัดจังหวะจนทิชาอดหัวเราะออกมาไม่ได้“คิก คิก ไม่ทำหน้าแบบนั้นสิคะ พี่นนท์อาจจะมีเรื่องด่วนก็ได้นะ”“ถ้ามันไม่ด่วนอย่างที่หนูบอก พี่จะหักเงินเดือนมัน”ทิวเทพพูดพร้อมกับจัดผ้าคลุมขาของทิชาไว้ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ลูกน้องเข้ามา“นายครับ!!!!”“เออ กูได้ยินแล้ว!”‘แกร๊ก’พอประตูเปิดนนท์ก็พรวดพราดเข้ามาด้านในด้านท่าทีลุกรี้ลุกลนจนทิวเทพแปลกใจ นนท์ทำงานข้างกายเขามานานไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้“มีอะไร?”“เรื่องนายเข้มครับ....”ทิวเทพกำลังจะห้ามไม่ให้นนท์พูดต่อ แต่ว่าไม่ทันแล้วทิชาที่นั่งอยู่ในห้องได้ยินซะก่อน“เกิดอะไรขึ้นคะ พี่นนท์?”“เอ่อ คือ”นนท์หันมองผู้เป็นนายเพื่อขอความเห็นในเมื่อเธอได้ยินแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังทิชาอีกต่อไปเขาจึงพยักหน้าให้นนท์พูดได้เลย“นายเข้ม เสียแล้วครับ ที่ชายแดน”ทิชายกมือป
หลังจากนั้นมาทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ทิวเทพคิดไว้ เขาต้องพาทิชาไปด้วยทุกทีเพราะเธอติดเขาแจ ถ้าเขาออกไปไหนโดยไม่พาเธอไปเธอก็จะร้องไห้จนเขาต้องรีบกลับมาหาตอนนี้ทิชาท้องได้ 5 เดือนแล้ว เธอตัดสินใจแล้วว่าจะลองมาเจอปู่กับย่าของเธอสักครั้งถึงจะอยากเลี่ยงมากแค่ไหนแต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้และเท่าที่แม่บอกก็คือท่านรู้สึกผิดกับเรื่องที่ทำลงไปไม่น้อยเลย“พร้อมไหมครับ”มือบางเย็นและสั่นเล็กน้อย ทิวเทพจับมือทิชาไปกุมไว้มอบความอุ่นใจให้กับเธอร่างบางหันมาส่งยิ้มให้เขา นี่เป็นอีกเหตุผลที่เธอยอมมาเจอท่านทั้งสองเพราะทิวเทพเองก็มีส่วนพูดให้เธอได้คิดไม่น้อย‘พี่ว่าหนูควรไปเจอท่านซักครั้งแล้วค่อยตัดสินใจดีไหมครับ อย่างไรท่านก็เป็นญาติผู้ใหญ่นะ’‘ลองดูนะครับ เดี๋ยวพี่ไปกับหนูเอง’นี่เป็นบทสนทนาที่ทำให้ทิชามาจอดรถหน้าบ้านของพ่อเธอเวลานี้“ไปกันเถอะค่ะพี่ทิว”ทิชาบอกพร้อมสูดหายใจลึก ๆ ก่อนจะลงจากรถไปหาพ่อกับแม่ที่ยืนรออยู่“สวัสดีค่ะ พ่อ แม่”“มาแล้วเหรอลูก เข้าไปด้านในกัน ปู่กับย่ารอเจออยู่”พ่อเดินเข้ามาสวมกอดเธอก่อนจะพาทุกคนเข้าไปในบ้าน ในห้องรับแขกมีร่างสูงอายุของชายหญิงสองคนรอนั่งอยู่ เมื่อทิวเทพและทิชาก้าวม
“พี่ทิวคะ หนูขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ นะคะ”เสียงหวาน ๆ เรียกเขามาแต่ไกลพร้อมกับเดินมากอดแขนเขาที่นั่งดื่มอยู่ที่บาร์“หืมม จะไปไหนกัน ให้พี่ไปด้วยไหม”ทิวเทพวางแก้วเหล้าลงพร้อมกับยกมือลูบหัวเธออย่างเอ็นดู ตั้งแต่ท้องเธอก็อ้อนเขามากกว่าปกติ สงสัยถ้าลูกสาวออกมาคงจะติดพ่อน่าดู“ไม่ล่ะคะ อยากเที่ยวกันตามภาษาสาว ๆ”“งั้น ให้นนท์ขับรถให้นะ ลูก ๆ อย่าดื้อกับแม่นะครับ”ทิวเทพก้มลงไปพูดกับลูบท้องเธอเบา ๆ“โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูมานะคะ”ร่างบางเดินออกไปขึ้นรถโดยมีสายตาของสามีมองตามไม่หยุดถ้าเพื่อนเขาไม่ทักขึ้น คงไม่ยอมละสายตาออกมา“เฮ้ย หวานไม่เกรงใจพวกกูเลยนะ สนใจงานก่อนครับเพื่อน”“นั่นดิ กลับมาคุยเรื่องงานก่อนไหม”เขายิ้มออกมาก่อนจะหันมาคุยกับเพื่อนต่ออีกรอบ««««»»»»ทิชาเดินยิ้มออกมา จริง ๆ อยากให้เขาไปด้วยแต่ก็เข้าใจว่าเขาคงมีธุระคุยกับเพื่อนเลยเลือกที่จะไปกันเองตามประสาสาว ๆเวลาเมาท์จะได้เมาท์ง่าย ๆ ด้วยนนท์ขับรถพาทุกคนมุ่งตรงไปยังห้างหรูใจกลางเมือง ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล มันคือห้าง Timeless นั่นเอง“พี่นนท์ไปหาอะไรทำก่อนได้เลยนะคะ เดี๋ยวเสร็จแล้วทิชาโทรเรียก”“ได้ครับ ผมจะรอแถว ๆ นี้นะครับ”
หลังจากที่เธอสงบสติอารมณ์ได้แล้ว นนท์ก็พาทิชามุ่งตรงไปที่บ้านทันที เมื่อมาถึงรถสปอร์ตที่คุ้นตาก็จอดอยู่มันคือรถพ่อแม่ทิชา ซึ่งมันก็ทำให้เธอแปลกใจเล็กน้อยว่าท่านมาทำอะไรกันที่นี่?“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณแม่”ทิชายกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้อง ซึ่งมีทั้งพ่อแม่เธอและเขารวมทั้งทิวเทพกับเทวาเองนั่งอยู่ด้วย เทวาอาการดีขึ้นมาแล้ว เหลือแค่รักษาแขนที่หักเท่านั้น“สวัสดีค่ะพี่เทวา เป็นยังไงบ้างคะ”“ดีขึ้นเยอะแล้วครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะแล้วก็ยินดีด้วยนะ”เทวายื่นกล่องของขวัญที่เตรียมไว้ให้เธอ ทิชากล่าวขอบคุณก่อนจะรับมาแล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ สามี“ว่าแต่พ่อกับแม่มาทำอะไรที่นี่คะ?”“เปล่าหรอก พ่อกับแม่ค้างที่นี่น่ะ เมื่อคืนเรามาคุยกันต่อนิดหน่อย”ทิชาอดคิดไม่ได้ว่าไอ้การคุยกันนั่นคงไม่ใช่มาดื่มกันต่อหรอกนะ....แต่เหมือนทุกคนจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ทุกคนเลยพร้อมใจกันเข้าเรื่องทันที“ที่แม่ให้มาหาวันนี้ก็ไม่มีอะไรหรอก แม่มีของจะให้แม่ของทิวเทพหยิบเอกสารส่งให้เธอเปิดดู ด้านในเป็นโฉนดที่ดินพร้อมบ้านที่ตั้งอยู่แถบชานเมือ ทว่าทำเลดีมากแถมราคายังแพงสุด ๆ“นี่มันไม่มากไปเหรอคะคุณแม่ทิชาพูดออกมาอย่างเกรงใจ
“ทุกคนเปิดดูเลยค่ะ หนูหวังว่าจะถูกใจทุกคนนะคะ”ว่าที่ปู่ย่ากับว่าที่ตายายเปิดฝาครอบออกช้า ๆ ในจานมีจดหมายอยู่ 1 ฉบับ ทุกคนยังทำหน้าสงสัยไม่หาย ฉันส่งยิ้มและสายตาเร่งให้ทุกคนเปิดอ่านเร็ว ๆ อยากเห็นแล้วว่าจะทำหน้ายังไงกันขณะที่ทุกคนกำลังลังเลแม่พี่ทิวก็เป็นคนแรกที่เปิดอ่าน ด้านในมีจดหมายแสดงผลเลือดกับฟิลม์อัลตร้าซาวน์อยู่ คุณแม่เบิกตากว้างหันมามองหน้าเราทั้งคู่อย่างตกใจ“จริงเหรอตาทิว เรื่องจริงใช่ไหม”“ครับแม่”ทุกคนที่เหลือเห็นคุณแม่ทำตาโตก็เปิดอ่านบ้าง สีหน้าทุกคนหลังอ่านมันจบต่างเต็มไปด้วยความดีใจ“ทิชา ลูกท้องเเหรอ”“ค่ะแม่ หนูท้องได้ 2 เดือนกว่า ๆ แล้ว”"แม่ดีใจด้วยนะ ดีใจมาก ๆ เลย คุณคะ เราจะเป็นตากับยายกันแล้วนะ"“ส่วนเราก็เป็นปู่กับย่าสินะ ฮ่า ๆ ๆ เก่งมากทิวเทพ”พ่อแม่เราหันไปหัวเราะให้กันดังลั่นก่อนจะสลับกันลุกมากอดแสดงความยินดีกับเราทั้งสอง“ยังไม่หมดนะคะ ลองดูฟิล์มอัลตร้าซาวน์อีกรอบสิคะ”ทุกคนเดินไปหยิบฟิล์มมาดูแล้วต่างก็ต้องตกใจอีกครั้ง“แฝด!!??!”“ใช่ค่ะ หนูท้องลูกแฝดชายหญิง”“กริ๊ดดด”หลังจากนั้นทุกอย่างก็ชุลมุนไปหมด แม่ ๆ ต่างกรีดร้องด้วยความดีใจแล้วหันไปกอดกันเหมือนเด็
1 เดือนต่อมา“พี่ทิวคะ ท้องหนูมันใหญ่กว่าปกติหรือเปล่า”ฉันถามพี่ทิวในตอนเช้าที่เรากำลังแต่งตัวกัน ตอนนี้ฉันท้องแค่ 2 เดือนกว่า ๆ เองนะ ทำไมมันดูใหญ่จังพี่ทิวเดินมาสวมกอดจากด้านหลังเอาคางเกยไหล่ฉันเหมือนลูกแมว มือหนาลูบท้องที่เริ่มนูนเบา ๆ“งั้นเหรอ เดี๋ยวเราค่อยไปถามหมอนะวันนี้เราต้องไปตรวจ ไม่ลืมใช่ไหม?”“ไม่ลืมค่ะ”ฉันหมุนตัวอยู่หน้ากระจกไม่หยุด มันนูนกว่าปกติจริง ๆ นะ“แต่งตัวได้แล้วนะคะ จะได้ไปหาหมอเลย”“ค่ะ พี่ทิว”เราทั้งคู่เดินทางไปโรงพยาบาลด้วยความตื่นเต้น ในที่สุดก็จะได้รู้ผลเพศเจ้าตัวเล็กแล้ว“สวัสดีค่ะ คุณทิชา คุณทิวเทพ”“สวัสดีค่ะคุณหมอ”“ช่วงนี้อาการแพ้เป็นยังไงบ้าง แพ้หนักไหมคะ”“ก็สลับ ๆ กับสามีค่ะ ผลัดกันแพ้”“อดทนอีกนิดนะคะ ผ่านไตรมาสแรกไปได้ก็จะดีขึ้นค่ะ”“ค่ะ คุณหมอ”“เดี๋ยวหมอขออัลตร้าซาวน์เลยนะคะ คุณทิชาไปเตรียมตัวได้เลยค่ะ”“คุณหมอคะ คือ ท้องมันดูนูน ๆ แบบนี้ มันผิดปกติไหมคะฉันถามหมอออกไปตามที่สงสัยเพราะเคยรู้มาว่าท้องแรกมันจะไม่โตมาก“เดี๋ยวหมอดูให้นะคะ”หลังเปลี่ยนชุดเสร็จ ฉันก็ขึ้นไปนอนรอคุณหมอบนขาหยั่ง รอบนี้คุณหมอจะตรวจผ่านทางช่องคลอดเพื่อดูพัฒนาการของเด็
ผมเดินไปเดินมาหน้าห้องฉุกเฉินอย่างกระวนกระวายใจ นี่มันนานมากแล้วนะทำไมหมอยังไม่ออกมาอีก"นายครับไปนั่งเถอะ ผมเวียนหัวแทนนาย""เสือก”"เอ้า นายด่าผมทำไมเนี่ย”"ไอ้นนท์เงียบไปเลยมึง"มันหุบปากทันทีแต่แสดงสีหน้าล้อเลียนผมที่เดินเป็นหนูติดจั่นแทน"ขอเชิญคุณทิวเทพด้านในเลยค่ะ”ผมรีบเดินเข้าไปในห้องทันที่ทิชากำลังนั่งพิงหัวเตียงส่งยิ้มมาให้สีหน้าเธอดูสดใสขึ้นมาก"ทิชาเป็นไงบ้าง”“ทำไมทำหน้าแบบนั้นค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมาก ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว”"อยู่ดี ๆ ก็เป็นลมไปแบบนั้น พี่เป็นห่วงนะ คุณหมอครับอาการภรรยาผมเป็นยังไงบ้าง”ผมหันไปถามอาการของเธอจากหมอที่อยู่ในห้อง"อาการเบื้องต้นไม่เป็นอะไรมากค่ะ แต่ยังไงหมอจะส่งตัวคนไข้ให้ไปตรวจอย่างละเอียดที่แผนกสูตินารีนะคะ”"ขอบคุณครับหมอ”พยาบาลเข็นวีลแชร์มาให้เธอนั่งแล้วย้ายเราทั้งคู่ไปที่แผนกสูตินารี เธอมีปัญหาภายในหรือเปล่าถึงต้องมาแผนกนี้ในใจผมคิดไปต่าง ๆ นา ๆ กลัวเธอจะเป็นอะไรที่มันอันตรายมากแต่ไม่ว่ายังไง ผมจะรักษาเธออย่างเต็มที่ตลอดทางที่พี่พยาบาลเข็นฉันไปที่แผนกสูตินารี คนที่เดินตามก็มีสีหน้าเป็นกังวลไม่หยุด ไม่รู้คิดเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนกันแน่ฉันแอ