เป็นอีกวันที่เหนื่อยมากก ฉันอยากกลับไปนอนแล้ว ยิ่งใกล้ฝึกงาน ฉันยิ่งต้องเร่งเคลียร์งานส่งอาจารย์ ดาวกับฉันออกจากห้องเรียนมาด้วยสภาพอิดโรยราวกลับไปรบมา"ดาว แกไปไหนต่อไหม”สภาพมันเหมือนไม่ได้นอนมาสัก 10 วัน..."ไม่อ่ะ ฉันจะกลับไปนอน เหนื่อยว่ะ”"งั้นแยกกันตรงนี้นะ ฉันต้องไปให้ปากคำต่อ""อืม ๆ เจอกันแก”บอกลาเพื่อนเสร็จฉันก็ออกมาหาพี่ทิวที่มารออยู่แล้วรถอัลพาร์ดสีดำจอดรออยู่หน้าตึก มีพี่นนท์ลงมายืนรอเปิดประตูให้"พี่ทิวล่ะคะ”"อยู่บนรถครับ”พี่นนท์บอกก่อนจะเปิดประตูให้ ฉันมองไปบนรถเห็นพี่ทิวกำลังหลับอยู่ ดูท่าคงเหนื่อยน่าดูไหนจะทำงานไหนจะเรื่องฉันอีก"เขาได้นอนบ้างหรือยังคะเนี่ย”"ยังเลยครับ เสร็จแล้วก็รีบมารับนายหญิงเลย”ฉันพยักหน้าก่อนจะก้าวไปนั่งข้าง ๆ เขา"มาแล้วเหรอครับ เหนื่อยไหม”ฉันว่าเขาดูเหนื่อยกว่าฉันอีกนะ"นิดหน่อยค่ะ พี่ทิวล่ะคะเหนื่อยไหม? นอนก่อนก็ได้นะคะ อีกสักพักเลยกว่าจะถึง""งั้นพี่ขอนอนสักงีบนะครับ"พูดจบร่างสูงก็ล้มลงมานอนบนตักฉันทันที เขาซุกใบหน้าเขาหน้าท้องฉันก่อนจะหลับตาลงไม่นานเขาก็หลับไปจริง ๆ คงเพลียมาก ฉันลูบหัวกล่อมเขาเบา ๆ"ขอบคุณนะคะ คนเก่งของทิชา"ฉันก้ม
RINRADA TALKหลังจากที่ทิวเขาโทรมานัดฉัน ฉันก็จัดการเตรียมของที่ต้องใช้กระตุ้นเขาทันทีการที่เขาติดต่อมาไวแบบนี้แสดงว่าเขาต้องนึกอะไรบางอย่างออกแน่ ๆ ฉันจัดการนัดลูกให้ออกมาหาด้วย ถ้าไปได้สวย เราจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันซักทีวันรุ่งขึ้น ฉันมาถึงที่ร้านก่อนเวลานัดราว ๆ ครึ่งชม.ทางร้านพาฉันไปยังห้องส่วนตัวที่จองไว้รวมทั้งอาหารที่เขาชอบฉันก็ให้ทางร้านจัดทำไว้หมดแล้ว เหลือแค่รอเขามาถึงเท่านั้นรอไม่นานนัก ทิวเขาก็มาถึงที่ร้าน เขาสวมชุดลำลองง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ออร่าก็ยังออกมาจนสาว ๆ ในร้านเหลียวหลังมองตามกันให้เพียบ"สวัสดีครับ คุณรินรดา”"สวัสดีค่ะ เรียกฉันว่ารินก็ได้นะค่ะ""ครับ”เรานั่งลงทานอาหารกันเงียบ ๆ บรรยากาศบนโต๊ะอึดอัดเล็กน้อยฉันแอบมองเขาอยู่เรื่อย ๆ จนสังเกตได้ว่าเขาดูกังวลบางอย่าง พอทานกันไปได้สักพักฉันก็เป็นฝ่ายเริ่มชวนเขาคุยก่อน"อาหารอร่อยไหมคะ”"อร่อยครับ...ของชอบผมทุกอย่างเลย”"ค่ะ ฉันทราบดี”"ผมขอเข้าเรื่องเลยนะครับ”เขาพูดพร้อมรวบช้อนส้อม มือหนาหยิบแก้วน้ำไปดื่มก่อนจะวางมันลงดังกึก"คุณกับผมเราเคยเป็นอะไรหรืเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า?""ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะคะ”"ผมฝั
ฉันนั่งอ้าปากค้างอยู่แบบนั้นจะไม่ให้ช็อคได้ไง อยู่ดี ๆ ก็มีพ่อ"พ่อใครเหรอคะแม่”'เพียะ!'โอ๊ยย โดนอีกแล้ว! แม่มือหนักชะมัดก็คนมันตกใจอ่ะ อยู่ดีๆ ก็มีพ่อเฉยเลย"ยังจะเล่นอีก ลูกคนนี้เนี่ย”แม่มองค้อนฉันมาทีนึ่งแล้วหันหน้าไปบ่นอีกด้านเบา ๆ"จะเหมือนฉันอะไรขนาดนั้น หมดกันโมเมนต์ครอบครัวฉัน"หนูได้ยินนะแม่อีกคนก็นั่งขำอยู่แบบนั้นล่ะ มันตลกขนาดนั้นเลยหรือไงเล่า!!แต่ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนฉันนะ ทั้งท่าทางตอนหัวเราะหรือตอนยิ้มจะมีแค่ตาที่ฉันเหมือนแม่"เมื่อกี้รินบอกลูกของเราชื่ออะไรนะ”"ชื่อทิชาค่ะ มาจากชื่อของเราสองคนรวมกัน”เขายิ้มจนเต็มใบหน้า แต่ฉันแอบเห็นนะว่าเขาน้ำตาคลอนิด ๆเอ๊ะ!? พี่ทิวเคยบอกว่าพ่อฉันความจำเสื่อมนี่ จำได้แล้วงั้นเหรอ"แม่คะ ไหนพี่ทิวว่าพ่อความจำเสื่อมไงคะ"แต่ก่อนที่แม่จะตอบก็มีคำถามแทรกมาก่อน"ใครคือทิวเหรอริน?"พ่อ เอ่อ เรียกพ่อได้ใช่ไหมนะ กระดากปากนิด ๆ แฮะ แต่นั่นล่ะ ท่านถามแทรกขึ้นมาก่อนแถมยังแทนตัวเองอย่างกับตัวเองเป็นวัยรุ่น"ลูกเขยคุณไง” สั้น ๆ แต่ได้ใจความ"อะไรนะ! ลูกเรายังเด็กอยู่เลย มันเป็นใครกัน!?”พ่อตบโต๊ะดังปึงจนน้ำหกออกมานอกแก้ว แล้วหันมาถามฉัน"ลูกอายุ
"คุยอะไรกันอยู่ค่ะหนุ่ม ๆ”แม่ส่งเสียงถามก่อนจะนั่งลงซะอีก ทั้งคู่สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะทำตัวปกติดูมีพิรุจกันแปลก ๆ แต่ก็ดูผ่อนคลายกันมากขึ้นกว่าตอนฉันออกไปอีก"ไม่มีอะไรแค่คุยกันตามประสาลูกผู้ชายใช่ไหม ลูกเขย”"ครับ คุณพ่อ”พี่ทิวพูดออกมายิ้ม ๆ อะไรกัน ก่อนออกไปเป็นอีกแบบเข้ามาเป็นอีกแบบ ทำเอาอยากรู้เลยว่าคุยอะไรกัน"พ่อไม่ได้ขู่อะไรพี่ทิวใช่ไหมคะ”ฉันหันไปถามพ่อแล้วมองหน้าทั้งคู่สลับกันไปมาอย่างระแวง"ฮ่า ๆ พ่อจะขู่อะไรเขาได้ล่ะ พ่อแค่ยอมรับเขาแค่นั้นเอง ไม่ดีเหรอ""ก็ดีค่ะ แต่มันแปลก ๆ ไม่ได้ชวนกันไปทำเรื่องไม่ดีใช่ไหมคะ”"นั่นสิ คุณไม่ได้ชวนทิวเทพไปทำอะไรแปลก ๆ ใช่ไหม"เป็นแม่ฉันที่ถามขึ้นบ้าง อยู่ดี ๆ จะสงบศึกกันไวขนาดนั้นเลยเหรอ"ผมแค่แสดงความจริงใจให้ท่านเห็นครับ คุณแม่""มั่นใจนะคะพี่ทิว ห้ามโกหกนะ”"ครับ พี่ไม่โกหกเหรอก"เขายกมือมายีหัวฉันจนผมเสียทรง เดี๋ยวตีมือเลยหมดสวยกันพอดีเรานั่งคุยกันต่อนิดหน่อยก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน พี่ทิวมีประชุมต่อเลยให้พี่นนท์ไปส่งฉันที่เพนเฮาส์ ส่วนพ่อกับแม่มีเรื่องต้องไปจัดการเลยออกไปด้วยกันเฮ้อออ วันนี้มีแต่เรื่อง ฉันทิ้งตัวพิงเบาะรถแล้วหลับตาล
ฉันตื่นมาในอ้อมกอดที่คุ้นเคย พี่ทิวกลับมาตอนไหนเนี่ย เมื่อคืนนึกว่าฝันว่าได้กอดพี่ทิวซะอีกใบหน้าเขาดูเหนื่อยล้ามากคงไม่ค่อยได้นอน ฉันค่อย ๆ ขยับตัวจะลุกเบา ๆ แต่ก็ไม่รอดจากสายตาพี่ทิวไปได้"จะไปไหนครับ ยังเช้าอยู่เลย”"ทิชาจะไปเตรียมอาหารให้ค่ะ”ฉันบอกเขาแล้วดิ้นดุ๊กดิ๊ก ๆ เพื่อให้หลุดวงแขนกว้าง พยายามจะลุกออกจากเตียง"อย่าดิ้นสิ นอนกอดกันก่อน พี่ยังไม่หิวเลย"เขาพูดทั้ง ๆ ที่ยังหลับตามอยู่แถมขยับลงมาซุกใบหน้าใส่ซอกคออีก ลมหายใจอุ่น ๆ รดซอกคอจนร้อนผ่าว"พี่ขอโทษนะครับ ที่ยุ่งจนไม่มีเวลาให้เลย"ฉันหยุดดิ้นปล่อยให้เขากอดอยู่อย่างนั่นล่ะ ไม่ลุกก็ได้ว่ะ นอนก็นอน สุดท้ายก็ต้องยอมนอนกอดกันทั้ง ๆ แบบนั้นล่ะจนฉันเผลอหลับไปอีกรอบตื่นอีกทีเกือบเที่ยงเลยทีนี้ แถมตื่นหลังเขาอีกด้วยพี่ทิวลุกไปอาบน้ำแล้วเหลือแค่ฉันที่ยังนอนเน่าอยู่บนเตียง ฉันได้ยินเสียงปิดน้ำและเสียงเปิดประตูออกมาร่างสูงนุ่งผ้าขนหนูผืนนิดเดียวเดินโชว์ซิกแพคขาวออกมาจากห้องน้ำโอ้ยย น้ำลายไหลเลยอ่ะ ถ้าไม่ติดว่าเป็นประจำเดือนนะ เสร็จฉันแน่~ฉันนั่งเหม่อมองอาหารตา เอ๊ย มองพี่ทิว จนเขามาหยุดตรงหน้าแล้วโบกมือไปมานั่นล่ะถึงได้เลิกเหม่
'ตุบ'เสียงร่างของนวลที่สลบไปจากยาสลบดังขึ้นเบา ๆ ทิวเทพไม่สนใจเธออีกต่อไปเขาหันหลังแล้วเดินออกมาจากห้องนั้นอย่างไม่ไยดีระหว่างทางที่กลับขึ้นมา เขาก็อธิบายรายละเอียดให้พ่อของทิชาฟัง"ผู้หญิงคนนั้นเป็นพยาบาลที่ดูแลคุณแม่ตอนคลอดทิชาครับ เท่าที่รู้มา เธอร่วมมือกับมันลักพาตัวทิชาออกไปจากห้องเด็กอ่อน”"งั้นเหรอครับ คุณคิดดีแล้วใช่ไหมที่ทำแบบนี้""แน่นอนครับ เธอเป็นอีกคนที่ต้องได้รับบทเรียน""...."ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายครอบครัวของเขาแต่ด้วยนิสัยของพ่อทิชาแล้ว เขาก็อดสงสารไม่ได้เพราะยังไงอีกฝ่ายก็เป็นแค่ผู้หญิงเมื่อเห็นแบบนั้นทิวเทพจึงเอ่ยรับปากอย่างหนึ่งออกมา"ผมคงรับปากคุณพ่อได้แค่อย่างเดียวคือผมจะไม่ทำอะไรที่ถึงแก่ชีวิตแล้วกัน แต่คงต้องเจ็บตัวกันบ้าง...""ครับ ขอแค่เรื่องนั้นก็พอแล้ว ผมต้องกลับก่อนนะครับ เดี๋ยวรินจะสงสัยเอาได้”ได้ยินแบบนั้นพ่อของทิชาก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง เขาขอตัวแยกกับลูกเขยทันทีเนื่องจากออกมานานแล้ว"ครับคุณพ่อ ได้เรื่องเมื่อไหร่จะติดต่อไปครับ"ขึ้นมาด้านบนทั้งสองก็แยกย้ายกันไป ทิวเทพให้คนไปส่งพ่อของทิชา ส่วนเขาเรียกลูกน้องคนสนิทเข้ามาดำเนินการตามแผน"ได้เรื่องหรือย
ทิวเทพกดวางสายลูกน้อง ร่างสูงยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ทุก ๆ อย่างดำเนินไปตามที่เขาต้องการโชคดีที่เขานึกถึงคำเตือนของเวกัสและลงมือไวขึ้นถึงแม้ว่ามันจะช้าไปนิดที่ปล่อยให้เข้มเข้าไปเจอทิชาได้แต่เขาก็ได้ตัวมันมาแล้ว เขาจะมอบสิ่งตอบแทนที่แสนเจ็บปวดให้สองผัวเมียคู่นี้เองร่างสูงเดินทางกลับเพนเฮาส์ไวกว่าที่คิดไว้ ทิชายังไม่กลับมาเพราะเธอบอกว่าจะไปกินชาบูกับเพื่อนเขาได้โทรไปบอกพ่อของทิชาแล้วว่าพรุ่งนี้จะส่งคนไปรับ ส่วนทิชากับคุณแม่ทิวเทพตั้งใจที่จะไม่บอกทั้งสองคนเขาไม่อยากให้พวกเธอรับรู้ถึงเรื่องเลวร้ายทั้งคู่ควรได้มีความสุขสักที หลังจากทิวเทพกลับมาเพนเฮาส์ ประมาณ 2 ชม.ต่อมาทิชาก็ขับรถกลับมาถึงเธอประหลาดใจเล็กน้อยที่ในบ้านเย็นฉ่ำราวกับมีคนเปิดแอร์ทิ้งไว้ ทว่าเมื่อเห็นคนที่รออยู่ในบ้านร่างเล็กก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ"พี่ทิววว""กลับมาแล้วครับ“กลับไวจังเลยค่ะ งานไม่เยอะเหรอ”"คิดถึงเมียครับ เลยรีบกลับ"'บ้า กินอะไรมาหรือยังคะ""เรียบร้อยแล้วครับ”"งั้นเดี๋ยวทิชาไปอาบน้ำก่อนนะคะ จะได้มานอนกอดกัน""ครับ ที่รัก"ทิชาอาบน้ำเสร็จเธอก็มานอนกอดกันกับทิวเทพ เธอชอบที่จะได้นอนในอ้อมแขนอุ่นของเขามาก"อยากก
ชาญวิทย์ที่ยืนรอเพื่อนของเขาอยู่ด้านนอกถึงกับชะงักเมื่อเห็นสภาพของทิวเทพ เสื้อเชิ้ตสีขาวเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ชาญวิทย์รีบเดินไปดูคนเจ็บในห้องทันที เมื่อเห็นสภาพในห้อง หมอหนุ่มถึงกับถอนหายใจออกมา"เล่นหนักเลยนะมึง""อืม ฝากด้วย อย่าให้มันตาย...""เออ อาบน้ำกลับบ้านไปซะ ตอนนี้มึงไม่ควรทำอะไรต่อแล้ว”ไม่มีการตอบรับจากทิวเทพ ชาญวิทย์รอให้ลูกน้องของทิวเทพพาร่างที่หายใจรวยรินไปห้องพยาบาล ส่วนเขาก็ตามไปเพื่อทำการรักษาให้ เขาไม่ได้เห็นเพื่อนสติหลุดแบบนี้มาหลายปีแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นอีกครั้ง เพราะปกติแล้วทิวเทพเป็นคนใจเย็นมาก ระหว่างทางไปห้องพยาบาลเขาก็โทรหาเพื่อนอีกคนไปด้วย"โทรมาไมว่ะ!! ไม่ว่าง”"มาดูสภาพเพื่อนมึงด้วย""ไอ้ทิวมันเป็นไรว่ะ?""ไม่รู้โกรธใครมา ซัดยับเลย น่าจะสติหลุด”"เฮ้ย?! ขนาดนั้นเลย เดี๋ยวกูรีบไป ที่ไหน?""โกดัง”"เออ ๆ ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”ชาญวิทย์กดวางสายแล้วเข้าไปดูคนไข้ทันที เขาโทรบอกไทเกอร์แล้วคงหายห่วงไปได้พักหนึ่งทิวเทพไม่ได้ไปอาบน้ำเพื่อเตรียมกลับแต่อย่างใด เขาเลือกที่จะไปหานวลผู้หญิงอีกคนที่เขาต้องจัดการ โดยมีนนท์กับนัทเดินตามไม่ห่าง'แกร๊ก'เสียงลูกบิดประตูดัง
วันรุ่งขึ้นเพื่อน ๆ ที่รู้ข่าวก็แห่กันมาเยี่ยมจนฉันแทบไม่ได้พักทุกคนต่างตกหลุมรักเจ้าสองแฝด“อร๊ายยยย หลานฉันน่ารักมากแก ถ้าฉันมีลูกชายฉันจองนะ”“แกแต่งงานให้ได้ก่อนนะ น้ำชา”มันทำท่าชำเลืองไปทางแฟนมันก่อนจะพูดออกมา“ก็....รออยู่ล่ะนะ....”“พอ ๆ เลิกมาหวานกันเลย เกรงใจคนโสดบ้างงง”ดาวพูดขึ้นก่อนจะหันไปเล่นกับหลาน“น่ารักจริง ๆ หลานน้า โตขึ้นอย่าเหมือนแม่นะ”“ดาววว นี่เพื่อนนะ!”ดูมันบอกลูกฉันสิ ฉันไม่ดีตรงไหนกัน! เหมือนเด็ก ๆ จะเริ่มรำคาญเสียงรอบ ๆ ตัว ทัชชาเริ่มเบะปากก่อนจะร้องไห้เสียงดังออกมา‘อุแว้ อุแว้ อุแว้’และแน่นอนว่าเมื่อคนหนึ่งร้อง อีกคนก็ร้องตามทันที‘แงงงงงงงงง’เสียงร้องของสองแฝดทำให้ทุกคนในห้องเงียบกริบทันที พี่ทิวเดินไปอุ้มลูกมาให้ฉันคนนึ่งและตัวเองอุ้มไว้อีกคนนึ่งก่อนจะออกปากไล่ทุกคนให้ออกไปจากห้อง“ลูกน่าจะหิว ทุกคนออกไปก่อนนะ”บรรดาน้า ๆ ทั้งหลายรีบเดินออกจากห้องไปเหลือเพียงพ่อ แม่ลูกเท่านั้นฉันเปิดเสื้อออกให้นมทัชชาก่อน พอคนโตเงียบคนเล็กก็เงียบตาม ทัชชกรหลับต่อในอ้อมแขนของพี่ทิวดูท่าจะเป็นหนุ่มขี้รำคาญเหมือนพ่อซะด้วย“หนูว่าทัชชกรน่าจะเหมือนพี่ทิวแน่ ๆ เลยค่ะ”“ท
“โอ๊ยย พี่ทิว หนูปวดท้องง”กลางดึกคืนหนึ่ง ทิชาตื่นขึ้นมาจากความเจ็บปวดที่ท้อง ร่างบางนอนกุมท้อง อีกมือก็เอื้อมไปเขย่าเรียกสามีที่นอนอยู่ข้างๆ“ทิชา เป็นอะไรครับ จะคลอดเหรอ”“ปวดท้องงง โอ้ยยยย”“ไอ้นัท เตรียมรถ”ทิวเทพตะโกนลั่นบ้านเรียกให้นัทที่มาทำงานเตรียมออกรถไปโรงพยาบาล ร่างสูงประคองทิชาลงจากเตียงเบา ๆ แต่พอเธอลุกขึ้นยืนน้ำคร่ำก็ไหลออกมาจนเขาตกใจ‘ซ่า.......’“ทิชา!”“พะ พี่ทิว หนูปวด โอ้ยยยย”เขาก้มลงช้อนตัวทิชาวิ่งออกจากห้องทันทีพอขึ้นรถมาได้ อาการปวดก็ยิ่งถี่กว่าเดิม มันทั้งปวด ทั้งบิดในเวลาเดียวกัน มือเล็กปัดป่ายไปทั่วจนคว้าหมับ! เข้ากับผมดำสลวยของทิวเทพ ก่อนจะออกแรงขยุ้มจนร่างสูงสะดุ้งไปด้วย“ทิชา ใจเย็น ๆ นะ หายใจลึก ๆ ”“โอ้ยยย เงียบไปเลย มาปวดเองไหมล่ะ ปวดจะตายอยู่แล้ว!”ทิวเทพถึงกับอึ้งไปเลยเขาไม่เคยได้ยินเธอขึ้นเสียงใส่เขามาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว เขาบีบมือเธอเพื่อให้กำลังใจพร้อมกับเร่งนัทให้ขับไวขึ้น ทิชาออกแรงดึงผมเขาเต็มที่จนเขาขมวดคิ้วแน่น“โอ้ยยย เร็วกว่านี้ได้ไหม!!!”ทิชาตะโกนเร่งดังลั่นรถ เธอจะไม่ไหวแล้วสองแฝดถีบท้องตุบ ๆ ราวกับจะออกมาให้ได้ สัญชาตญาณความเป็นแม่สั่งใ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ๆ“นายครับ ผมมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบครับ”นนท์ที่อยู่ในสภาพร้อนใจเคาะห้องรับแขกเรียกเจ้านายไม่หยุดไม่ต่างจากคน 2 คนที่อยู่ในห้อง ทิชาผลักทิวเทพออกเต็มแรงด้วยความตกใจ“พะ พี่ทิว พี่นนท์มาค่ะ”ทิวเทพสบถออกมาเล็กน้อย ก่อนจะไปหยิบผ้ามาให้ทิชาคลุมตัวไว้ ท่าทางเขาหัวเสียน่าดูที่โดนขัดจังหวะจนทิชาอดหัวเราะออกมาไม่ได้“คิก คิก ไม่ทำหน้าแบบนั้นสิคะ พี่นนท์อาจจะมีเรื่องด่วนก็ได้นะ”“ถ้ามันไม่ด่วนอย่างที่หนูบอก พี่จะหักเงินเดือนมัน”ทิวเทพพูดพร้อมกับจัดผ้าคลุมขาของทิชาไว้ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ลูกน้องเข้ามา“นายครับ!!!!”“เออ กูได้ยินแล้ว!”‘แกร๊ก’พอประตูเปิดนนท์ก็พรวดพราดเข้ามาด้านในด้านท่าทีลุกรี้ลุกลนจนทิวเทพแปลกใจ นนท์ทำงานข้างกายเขามานานไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้“มีอะไร?”“เรื่องนายเข้มครับ....”ทิวเทพกำลังจะห้ามไม่ให้นนท์พูดต่อ แต่ว่าไม่ทันแล้วทิชาที่นั่งอยู่ในห้องได้ยินซะก่อน“เกิดอะไรขึ้นคะ พี่นนท์?”“เอ่อ คือ”นนท์หันมองผู้เป็นนายเพื่อขอความเห็นในเมื่อเธอได้ยินแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังทิชาอีกต่อไปเขาจึงพยักหน้าให้นนท์พูดได้เลย“นายเข้ม เสียแล้วครับ ที่ชายแดน”ทิชายกมือป
หลังจากนั้นมาทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ทิวเทพคิดไว้ เขาต้องพาทิชาไปด้วยทุกทีเพราะเธอติดเขาแจ ถ้าเขาออกไปไหนโดยไม่พาเธอไปเธอก็จะร้องไห้จนเขาต้องรีบกลับมาหาตอนนี้ทิชาท้องได้ 5 เดือนแล้ว เธอตัดสินใจแล้วว่าจะลองมาเจอปู่กับย่าของเธอสักครั้งถึงจะอยากเลี่ยงมากแค่ไหนแต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้และเท่าที่แม่บอกก็คือท่านรู้สึกผิดกับเรื่องที่ทำลงไปไม่น้อยเลย“พร้อมไหมครับ”มือบางเย็นและสั่นเล็กน้อย ทิวเทพจับมือทิชาไปกุมไว้มอบความอุ่นใจให้กับเธอร่างบางหันมาส่งยิ้มให้เขา นี่เป็นอีกเหตุผลที่เธอยอมมาเจอท่านทั้งสองเพราะทิวเทพเองก็มีส่วนพูดให้เธอได้คิดไม่น้อย‘พี่ว่าหนูควรไปเจอท่านซักครั้งแล้วค่อยตัดสินใจดีไหมครับ อย่างไรท่านก็เป็นญาติผู้ใหญ่นะ’‘ลองดูนะครับ เดี๋ยวพี่ไปกับหนูเอง’นี่เป็นบทสนทนาที่ทำให้ทิชามาจอดรถหน้าบ้านของพ่อเธอเวลานี้“ไปกันเถอะค่ะพี่ทิว”ทิชาบอกพร้อมสูดหายใจลึก ๆ ก่อนจะลงจากรถไปหาพ่อกับแม่ที่ยืนรออยู่“สวัสดีค่ะ พ่อ แม่”“มาแล้วเหรอลูก เข้าไปด้านในกัน ปู่กับย่ารอเจออยู่”พ่อเดินเข้ามาสวมกอดเธอก่อนจะพาทุกคนเข้าไปในบ้าน ในห้องรับแขกมีร่างสูงอายุของชายหญิงสองคนรอนั่งอยู่ เมื่อทิวเทพและทิชาก้าวม
“พี่ทิวคะ หนูขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ นะคะ”เสียงหวาน ๆ เรียกเขามาแต่ไกลพร้อมกับเดินมากอดแขนเขาที่นั่งดื่มอยู่ที่บาร์“หืมม จะไปไหนกัน ให้พี่ไปด้วยไหม”ทิวเทพวางแก้วเหล้าลงพร้อมกับยกมือลูบหัวเธออย่างเอ็นดู ตั้งแต่ท้องเธอก็อ้อนเขามากกว่าปกติ สงสัยถ้าลูกสาวออกมาคงจะติดพ่อน่าดู“ไม่ล่ะคะ อยากเที่ยวกันตามภาษาสาว ๆ”“งั้น ให้นนท์ขับรถให้นะ ลูก ๆ อย่าดื้อกับแม่นะครับ”ทิวเทพก้มลงไปพูดกับลูบท้องเธอเบา ๆ“โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูมานะคะ”ร่างบางเดินออกไปขึ้นรถโดยมีสายตาของสามีมองตามไม่หยุดถ้าเพื่อนเขาไม่ทักขึ้น คงไม่ยอมละสายตาออกมา“เฮ้ย หวานไม่เกรงใจพวกกูเลยนะ สนใจงานก่อนครับเพื่อน”“นั่นดิ กลับมาคุยเรื่องงานก่อนไหม”เขายิ้มออกมาก่อนจะหันมาคุยกับเพื่อนต่ออีกรอบ««««»»»»ทิชาเดินยิ้มออกมา จริง ๆ อยากให้เขาไปด้วยแต่ก็เข้าใจว่าเขาคงมีธุระคุยกับเพื่อนเลยเลือกที่จะไปกันเองตามประสาสาว ๆเวลาเมาท์จะได้เมาท์ง่าย ๆ ด้วยนนท์ขับรถพาทุกคนมุ่งตรงไปยังห้างหรูใจกลางเมือง ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล มันคือห้าง Timeless นั่นเอง“พี่นนท์ไปหาอะไรทำก่อนได้เลยนะคะ เดี๋ยวเสร็จแล้วทิชาโทรเรียก”“ได้ครับ ผมจะรอแถว ๆ นี้นะครับ”
หลังจากที่เธอสงบสติอารมณ์ได้แล้ว นนท์ก็พาทิชามุ่งตรงไปที่บ้านทันที เมื่อมาถึงรถสปอร์ตที่คุ้นตาก็จอดอยู่มันคือรถพ่อแม่ทิชา ซึ่งมันก็ทำให้เธอแปลกใจเล็กน้อยว่าท่านมาทำอะไรกันที่นี่?“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณแม่”ทิชายกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้อง ซึ่งมีทั้งพ่อแม่เธอและเขารวมทั้งทิวเทพกับเทวาเองนั่งอยู่ด้วย เทวาอาการดีขึ้นมาแล้ว เหลือแค่รักษาแขนที่หักเท่านั้น“สวัสดีค่ะพี่เทวา เป็นยังไงบ้างคะ”“ดีขึ้นเยอะแล้วครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะแล้วก็ยินดีด้วยนะ”เทวายื่นกล่องของขวัญที่เตรียมไว้ให้เธอ ทิชากล่าวขอบคุณก่อนจะรับมาแล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ สามี“ว่าแต่พ่อกับแม่มาทำอะไรที่นี่คะ?”“เปล่าหรอก พ่อกับแม่ค้างที่นี่น่ะ เมื่อคืนเรามาคุยกันต่อนิดหน่อย”ทิชาอดคิดไม่ได้ว่าไอ้การคุยกันนั่นคงไม่ใช่มาดื่มกันต่อหรอกนะ....แต่เหมือนทุกคนจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ทุกคนเลยพร้อมใจกันเข้าเรื่องทันที“ที่แม่ให้มาหาวันนี้ก็ไม่มีอะไรหรอก แม่มีของจะให้แม่ของทิวเทพหยิบเอกสารส่งให้เธอเปิดดู ด้านในเป็นโฉนดที่ดินพร้อมบ้านที่ตั้งอยู่แถบชานเมือ ทว่าทำเลดีมากแถมราคายังแพงสุด ๆ“นี่มันไม่มากไปเหรอคะคุณแม่ทิชาพูดออกมาอย่างเกรงใจ
“ทุกคนเปิดดูเลยค่ะ หนูหวังว่าจะถูกใจทุกคนนะคะ”ว่าที่ปู่ย่ากับว่าที่ตายายเปิดฝาครอบออกช้า ๆ ในจานมีจดหมายอยู่ 1 ฉบับ ทุกคนยังทำหน้าสงสัยไม่หาย ฉันส่งยิ้มและสายตาเร่งให้ทุกคนเปิดอ่านเร็ว ๆ อยากเห็นแล้วว่าจะทำหน้ายังไงกันขณะที่ทุกคนกำลังลังเลแม่พี่ทิวก็เป็นคนแรกที่เปิดอ่าน ด้านในมีจดหมายแสดงผลเลือดกับฟิลม์อัลตร้าซาวน์อยู่ คุณแม่เบิกตากว้างหันมามองหน้าเราทั้งคู่อย่างตกใจ“จริงเหรอตาทิว เรื่องจริงใช่ไหม”“ครับแม่”ทุกคนที่เหลือเห็นคุณแม่ทำตาโตก็เปิดอ่านบ้าง สีหน้าทุกคนหลังอ่านมันจบต่างเต็มไปด้วยความดีใจ“ทิชา ลูกท้องเเหรอ”“ค่ะแม่ หนูท้องได้ 2 เดือนกว่า ๆ แล้ว”"แม่ดีใจด้วยนะ ดีใจมาก ๆ เลย คุณคะ เราจะเป็นตากับยายกันแล้วนะ"“ส่วนเราก็เป็นปู่กับย่าสินะ ฮ่า ๆ ๆ เก่งมากทิวเทพ”พ่อแม่เราหันไปหัวเราะให้กันดังลั่นก่อนจะสลับกันลุกมากอดแสดงความยินดีกับเราทั้งสอง“ยังไม่หมดนะคะ ลองดูฟิล์มอัลตร้าซาวน์อีกรอบสิคะ”ทุกคนเดินไปหยิบฟิล์มมาดูแล้วต่างก็ต้องตกใจอีกครั้ง“แฝด!!??!”“ใช่ค่ะ หนูท้องลูกแฝดชายหญิง”“กริ๊ดดด”หลังจากนั้นทุกอย่างก็ชุลมุนไปหมด แม่ ๆ ต่างกรีดร้องด้วยความดีใจแล้วหันไปกอดกันเหมือนเด็
1 เดือนต่อมา“พี่ทิวคะ ท้องหนูมันใหญ่กว่าปกติหรือเปล่า”ฉันถามพี่ทิวในตอนเช้าที่เรากำลังแต่งตัวกัน ตอนนี้ฉันท้องแค่ 2 เดือนกว่า ๆ เองนะ ทำไมมันดูใหญ่จังพี่ทิวเดินมาสวมกอดจากด้านหลังเอาคางเกยไหล่ฉันเหมือนลูกแมว มือหนาลูบท้องที่เริ่มนูนเบา ๆ“งั้นเหรอ เดี๋ยวเราค่อยไปถามหมอนะวันนี้เราต้องไปตรวจ ไม่ลืมใช่ไหม?”“ไม่ลืมค่ะ”ฉันหมุนตัวอยู่หน้ากระจกไม่หยุด มันนูนกว่าปกติจริง ๆ นะ“แต่งตัวได้แล้วนะคะ จะได้ไปหาหมอเลย”“ค่ะ พี่ทิว”เราทั้งคู่เดินทางไปโรงพยาบาลด้วยความตื่นเต้น ในที่สุดก็จะได้รู้ผลเพศเจ้าตัวเล็กแล้ว“สวัสดีค่ะ คุณทิชา คุณทิวเทพ”“สวัสดีค่ะคุณหมอ”“ช่วงนี้อาการแพ้เป็นยังไงบ้าง แพ้หนักไหมคะ”“ก็สลับ ๆ กับสามีค่ะ ผลัดกันแพ้”“อดทนอีกนิดนะคะ ผ่านไตรมาสแรกไปได้ก็จะดีขึ้นค่ะ”“ค่ะ คุณหมอ”“เดี๋ยวหมอขออัลตร้าซาวน์เลยนะคะ คุณทิชาไปเตรียมตัวได้เลยค่ะ”“คุณหมอคะ คือ ท้องมันดูนูน ๆ แบบนี้ มันผิดปกติไหมคะฉันถามหมอออกไปตามที่สงสัยเพราะเคยรู้มาว่าท้องแรกมันจะไม่โตมาก“เดี๋ยวหมอดูให้นะคะ”หลังเปลี่ยนชุดเสร็จ ฉันก็ขึ้นไปนอนรอคุณหมอบนขาหยั่ง รอบนี้คุณหมอจะตรวจผ่านทางช่องคลอดเพื่อดูพัฒนาการของเด็
ผมเดินไปเดินมาหน้าห้องฉุกเฉินอย่างกระวนกระวายใจ นี่มันนานมากแล้วนะทำไมหมอยังไม่ออกมาอีก"นายครับไปนั่งเถอะ ผมเวียนหัวแทนนาย""เสือก”"เอ้า นายด่าผมทำไมเนี่ย”"ไอ้นนท์เงียบไปเลยมึง"มันหุบปากทันทีแต่แสดงสีหน้าล้อเลียนผมที่เดินเป็นหนูติดจั่นแทน"ขอเชิญคุณทิวเทพด้านในเลยค่ะ”ผมรีบเดินเข้าไปในห้องทันที่ทิชากำลังนั่งพิงหัวเตียงส่งยิ้มมาให้สีหน้าเธอดูสดใสขึ้นมาก"ทิชาเป็นไงบ้าง”“ทำไมทำหน้าแบบนั้นค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมาก ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว”"อยู่ดี ๆ ก็เป็นลมไปแบบนั้น พี่เป็นห่วงนะ คุณหมอครับอาการภรรยาผมเป็นยังไงบ้าง”ผมหันไปถามอาการของเธอจากหมอที่อยู่ในห้อง"อาการเบื้องต้นไม่เป็นอะไรมากค่ะ แต่ยังไงหมอจะส่งตัวคนไข้ให้ไปตรวจอย่างละเอียดที่แผนกสูตินารีนะคะ”"ขอบคุณครับหมอ”พยาบาลเข็นวีลแชร์มาให้เธอนั่งแล้วย้ายเราทั้งคู่ไปที่แผนกสูตินารี เธอมีปัญหาภายในหรือเปล่าถึงต้องมาแผนกนี้ในใจผมคิดไปต่าง ๆ นา ๆ กลัวเธอจะเป็นอะไรที่มันอันตรายมากแต่ไม่ว่ายังไง ผมจะรักษาเธออย่างเต็มที่ตลอดทางที่พี่พยาบาลเข็นฉันไปที่แผนกสูตินารี คนที่เดินตามก็มีสีหน้าเป็นกังวลไม่หยุด ไม่รู้คิดเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนกันแน่ฉันแอ