"ไปโดนอะไรมาจ๊ะ ปากถึงได้เลอะขนาดนั้น""เอ่อ...."ฉันควรจะตอบพวกมันยังไงดี ตัวเองยังงง ๆ อยู่เลยพอนึกย้อนกลับไปใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมานี่ฉันกินเขาในห้องน้ำผับเหรอเนี่ย?!"ฉันว่าไม่ต้องถามแล้วล่ะ หน้าแดงขนาดนี้"ลดาาาา แกจะย้ำทำไมเนี่ย โอ๊ยยย ไม่รู้ด้วยแล้ว ใครมันจะไปกล้าตอบกัน ฉันเลือกที่จะคว้าเหล้ามาดื่มเพื่อเลี่ยงคำถามทันที"เฮ้ยแก! เบา ๆ เดี๋ยวก็เมาเหรอก”น้ำชาพยามยามจะห้ามฉัน แต่ฟังที่ไหนล่ะฉันดูดค็อกเทลรวดเดียวจนหมดแก้ว ตอนนี้ไม่รู้แล้วว่าหน้าแดงเพราะเหล้าหรือเพราะเรื่องเมื่อกี้ เหล้าในมือถูกกินเหมือนมันเป็นแค่น้ำเปล่ามีน้ำชาคอยห้ามและดาวค่อยยุ ส่วนลดานั่งส่ายหน้าให้พวกเราส่วนนภาน่ะเหรอ เมาคอพับคออ่อนไปก่อนฉันเรียบร้อยแล้ว~~กว่าพวกพี่ทิวจะกลับมาที่โต๊ะ เราทั้ง 5 ก็แทบหมดสภาพแล้ว แต่ล่ะคนเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่องพวกเขาได้แต่ส่ายหัวให้ไปคุยธุระกันแปบเดียว หมดสภาพเลย"ทิชาครับ เมามากแล้วนะ พอแล้ว”"ม่ายยมาววว ครายยมาวว ม่ายยมี"ฉันพยายามตอบกลับด้วยเสียงที่ยานคาง แถมยังเห็นเขามี 2 คนอีกสภาพคนอื่น ๆ ก็ไม่ต่างกัน ฉันปรือตามองไปรอบ ๆ เห็นเทวาเข้าไปประคองดาวเดินออกไป น้ำชาก็หลับไปเรียบร
ฉันตื่นมาบ่ายของอีกวัน ฟังไม่ผิดหรอก บ่ายจริง ๆ แถมยังปวดเมื่อยไปทั้งตัวโดยเฉพาะหลังกับเอว ตามตัวยังมีร่องรอยของแส้ เป็นริ้วแดง ๆ อยู่เมื่อคืนเราดุเดือดกันมาก เขาเสนอ ฉันก็สนอง ผลลัพธ์มันเลยเป็นแบบนี้ยังไงล่ะ หัวก็ปวด ตัวก็ปวด ฉันไม่มีแรงแม้แต่จะลุกเลย'แกร๊ก' "ตื่นแล้วเหรอครับ”"ยังค่ะ ละเมออยู่"“งั้นพี่ปลุกดีไหม เอาแบบเมื่อคืน....”"ไม่ค่ะ ตื่นแล้ว ๆ”ฉันตาลีตาเหลือกตอบ ยังระบมไม่หายเลยนะ ให้น้องสาวฉันพักเถอะ"หึ หึ มาครับกินข้าว”ยังจะมาหัวเราะฉันอีก ตาบ้า ทั้งหื่น ทั้งบ้าเลยขืนเป็นแบบนี้บ่อย ๆ ฉันคงพังหมดแน่"ไม่เอาแบบเมื่อคืนแล้วนะคะ""ทำไมล่ะ หนูก็ชอบนิคะ"นิ้วเรียวเขี่ยจมูกฉันเบา ๆ อย่างเอ็นดูจนฉันอดหน้าแดงไม่ได้"เอ่อ กะ ก็ชอบค่ะ แต่มันเหนื่อย""งั้นนาน ๆ ทีแล้วกัน "หมดกัน! ฉันเถียงไม่ได้เลย ก็ชอบจริง ๆ นั่นล่ะ แต่ถ้าทำแบบนั้นทุกคืนฉันคงตายก่อนแน่ ๆพอฉันอ้าปากจะต่อรองเขา เขาก็ยัดข้าวเข้าปากฉันทันทีเออ! เอาที่สบายใจเลย ฉันนั่งกินข้าวไปเงียบ ๆ จะเถียงหรือต่อรองก็ไม่มีช่องว่างเลย จะแย่งช้อนมากินเองก็ไม่มีแรงอีก เลยได้แต่เลยตามเลย พอกินข้าวเสร็จเขาก็เอายาแก้ปวดมาให้กิน แล้วให
นนท์อุ้มร่างไร้สติของนภามาขึ้นรถ คนตัวเล็กคอพับคออ่อนไปแล้ว เขาส่ายหัวให้เธอเบา ๆ ใบหน้าขาวนวลแดงก่ำไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์เขาไม่คิดว่าเธอจะเมาขนาดนี้ ตั้งใจว่าจะให้ดื่มแค่พอมึน ๆ แต่กลับมาที่โต๊ะก็ดันเป็นแบบนี้ไปซะได้"ยัยตัวแสบ"เขาบีบจมูกเธออย่างหมั่นเขี้ยว มือเล็กพยายามจะปัดมือเขาออกอย่างรำคาญแล้วขยับตัวนอนในท่าที่สบาย นนท์คาดเข็มขัดให้ก่อนจะอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อขับรถพาเธอกลับบ้านเมื่อมาถึงบ้านก็เป็นหน้าที่ของนนท์ที่ต้องพาเธอเข้าไปนอนพักเพราะตลอดระยะทางเธอไม่ตื่นแม้แต่ครั้งเดียว เขาพาเธอเข้ามาห้องนอนของเธอที่อยู่ข้าง ๆ ห้องเขาถอดรองเท้าให้ แล้วไปเตรียมน้ำมาเช็ดตัวเพื่อที่หญิงสาวจะได้หลับสบาย"อื้ออ ทำอะไรค่ะพี่นนท์"เธอถามด้วยเสียงอ้อแอ้ที่รู้สึกตัวขึ้นมาเพราะมีอะไรเย็น ๆ มาลูบตามใบหน้าพอลืมตาก็เห็นเป็นนนท์ที่กำลังเช็ดตัวให้"อยู่เฉย ๆ พี่จะเช็ดตัวให้”เขาบอกพร้อมกับพยายามจับเธอให้อยู่นิ่ง ๆ"ปวดหัวอ่ะ พี่นนท์"เธอหลับตาลงแล้วบ่นพึมพำออกมา"สมควร กินไปขนาดนั้น”"พี่นนท์อ่ะ ชิ”เธอมองค้อนเขาแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง ปล่อยให้ชายหนุ่มเช็ดตัวไปเรื่อย ๆ เขามือเบามาก เบาจนเธอเกือบจะเคลิ้มหลับ"
หลังจากที่กัดไอ้บ้านั่น เธอก็ถูกพามาขังไว้ที่ห้องข้าง ๆเธอพยายามจะหาทางออกแต่ในห้องนี้นอกจากประตูที่เข้ามาก็ไม่มีทางออกอีกเลยเธอเดินวนไปทั่วห้องพยายามหาทางหนีให้ได้ จนไปเจอกับกองเอกสารที่เรียงรายอยู่ ถ้าให้เดาห้องนี้คงเป็นห้องที่เอาไว้เก็บเอกสารลับดูจากวันที่ในกระดาษแล้วขบวนการนี้ทำมานานพอสมควรเลยเธอพลิกอ่านเอกสารไปเรื่อย ๆ สายตาคอยสอดส่องไปที่ประตูเผื่อจะมีคนเข้ามา เอกสารส่วนใหญ่เป็นสัญญาการซื้อขายกับต่างประเทศ มีทั้งค้าอวัยวะ ส่งออกผู้หญิงและยาเสพติดเธอยืนอึ้งกับสิ่งที่ได้รู้ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เป็นถึงนายตำรวจระดับสูงจะทำแบบนี้ได้เธอได้รู้ความลับของมันทั้งหมดแล้ว นภาแอบขโมยเอกสารบางส่วนยัดไว้ในร่างกายของเธอ โดยเลือกเอาใบที่สำคัญ ๆ ตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าออกไปได้เธอจะเข้าไปแจ้งความถ้ารอดไปได้อ่ะนะเธอได้แต่ภาวนาในใจให้รอดพ้นจากเงื้อมมือมันไปได้เท่านั้นถ้าต้องมีอะไรกับมันจริง ๆ สู้ยอมตายซะยังดีกว่าหลังจากถูกขังไว้ในห้องนานหลายชม. จนเริ่มจะถอดใจที่จะหนี เอกฤทธิ์ที่อาการดีขึ้นแล้วก็เข้ามาหาเธอถึงในห้องมือมันถือแส้ที่เอาไว้ฟาดสัตว์มาด้วยเธอยืนมองจ้องตามันเขม็งไม่มีท่าทีจะอ่อนลงเลยแม้
'โอ๊ยยย ปวดหัว' หญิงสาวตื่นมาเช้าของอีกวันด้วยอาการเมาค้าง ทั้งปวดหัว ทั้งเวียนหัวอยากอ้วกในเวลาเดียวกัน เปลือกตาทั้งสองหนักอึ้งจนแทบลืมไม่ขึ้นทว่าเธอรู้สึกได้ถึงไออุ่นแปลก ๆ เหมือนกับมีใครกำลังกอดเธออยู่ และมีอะไรหนัก ๆ พาดผ่านตัวเธอด้วย อะไรกันเธออยู่ที่ไหนเนี่ย??นภาพยายามลืมตาสำรวจรอบ ๆ ตัว เงยหน้ามองไปรอบ ๆ ห้อง พอเห็นว่าอยู่ในห้องตัวเองก็โล่งในไปเปราะหนึ่ง อย่างน้อย ๆ ก็อยู่ที่ห้องตัวเอง ส่วนความรู้สึกหนัก ๆ ที่พาดตัวเธอก็คือแขนของนนท์อ๋อ พี่นนท์นอนกอดเธอนี่เองเอ๊ะ?! พี่นนท์ เฮ้ย!พี่นนท์! มานอนนี่ได้ไง!? นภาเบิกตากว้าง อาการปวดหัวหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นว่าตัวเองนอนอยู่กับใครเธอรีบก้มลงสำรวจตัวเอง เมื่อพบว่าอยู่ในชุดนอนก็ยิ่งตกใจไปกันใหญ่'หรือว่า....!!!!!'ก่อนที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ นนท์ก็พูดขึ้นทั้ง ๆ ที่ยังสวมกอดอยู่"เมื่อคืนพี่แค่เปลี่ยนชุดให้ครับ ไม่ได้ทำอะไร”"อ้อ เอ่อ ค่ะ ขอบคุณค่ะ""จำเรื่องเมื่อคืนได้บ้างหรือเปล่า”นภาทำท่านึกเมื่อคืนเธอไปดื่มกับพวกเพื่อน ๆ ทิชา หลังจากกลุ่มพวกเธอออกไปเต้นเหลือเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะคนเดียวก็มีพนักงานเอาเครื่องดื่มมาเสริฟ'เครื่
นนท์กลับมาหานภาที่ห้องพัก เธอไม่ได้หลับอย่างที่เขาคิดไว้พอเธอเห็นเขาก็รีบวิ่งเข้ามากอดเขาไว้แน่น ร่างบางยังคงสั่นเล็กน้อยเขากอดเธอไว้แล้วลูบหลังปลอบโยนเธอ สำหรับเขาการฆ่าคนหรือทำร้ายคนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สำหรับคนตรงหน้า มันเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร ยิ่งนภาเป็นคนจิตใจดี ย่อมต้องรู้สึกผิดเป็นธรรมดา"ไม่เป็นไรครับ มันจบแล้วนะ”"มันตายหรือเปล่าคะ?""....""หนูไม่ได้กลัวนะ แค่อยากรู้”ใจจริงเขาไม่อยากบอกเท่าไหร่นัก แต่ในเมื่อเธอถามแสดงว่าเธอคงรับมันได้..."ครับ ตาย"เธอเงียบไปครู่หนึ่งจนนนท์อดหวั่นใจไม่ได้ถ้าเธอกลัวล่ะ ถ้าเธอรังเกียจเขาที่ฆ่าคน....แต่ก่อนที่เขาจะคิดฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ นภาก็เอ่ยขึ้นมาก่อน"เฮ้อออ โล่งใจ ตายได้ก็ดี”ไม่ได้พูดเปล่า เธอถอนกอดออกมายิ้มส่งยิ้มหวาน ๆ ให้เขา ทำเอานนท์ทั้งงงทั้งตกใจ ตอนแรกเธอทำท่าเหมือนจะรับไม่ได้ แต่อยู่ดี ๆ ก็ยิ้มแฉ่งออกมาซะงั้น เล่นเอานนท์ไปไม่เป็นเลยทีเดียว"เป็นอะไรไปคะ ตกใจอะไร”"เอ่อ พี่งงนิดหน่อยครับ หนูไม่เสียใจเลยเหรอ”"ทำไมต้องเสียใจให้คนชั่ว ๆ อย่างมันด้วยอ่ะ”เธอทำหน้างงใส่เขา แน่ล่ะ จะไม่งงได้ไงคนที่พาเธอมาแก้แค้นก็คือเขาเองนะ จ
วันแรกของการฝึกงานทิชาแทบไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ทิวเทพเอาแต่กอดเธอไม่หยุดพอเธอจะทำงานเขาก็อ้างว่าส่วนนั้นไม่ใช่หน้าที่เธอร่างบางถูกรั้งให้นั่งบนตักท่านประธานบริษัท เขากอดเธอไปด้วยทำงานไปด้วยจนในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหว"พี่ทิว ขอทิชาทำงานบ้างได้ไหมคะ""เดี๋ยวพี่ทำเองครับ นั่งเฉย ๆ ไปเถอะ"นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่เขาปฏิเสธเธอ"งั้นทิชากลับนะคะ”เธอพูดพร้อมทำท่าจะลุกออกไป ทิวเทพรีบกระชับกอดทันทีกันไม่ให้เธอลุก"ปล่อยค่ะ ไม่ให้ทำก็ให้ทิชากลับ”“อย่าโกรธพี่เลย พี่มีเหตุผลที่ไม่ให้ทำนะ”"งั้นก็อธิบายมาค่ะ ว่าทำไมเอาแต่ห้ามหรือพี่ทิวไม่ไว้ใจ ทิชา”"ไม่ใช่อย่างนั้นครับ คืองี้ งานส่วนนี้มันเป็นขอบเขตการรับผิดชอบของพี่ครับ""แล้วไงต่อค่ะ”"พี่ต้องทำส่วนนี้เอง ส่วนหน้าที่ของทิชาจะเป็นเอกสารที่เกี่ยวกับงบการเงินทั้งหมดในบริษัทครับ”เธอนิ่งฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ"แต่วันนี้เอกสารส่วนนั้นมีปัญหานิดหน่อย เลขาพี่กำลังจัดการให้ก่อนส่งมอบให้ทิชาครับ”"แล้วทำไมไม่บอกแต่แรกล่ะคะ”"พี่อยากกอดทิชาไว้แบบนี้ไงครับ อยากให้พักด้วยทิชาดูเพลีย ๆ”"มันเพราะใครล่ะคะ”เธอมองค้อนเขา ใครกันล่ะที่ทำให้เธอ
เล่นยั่วกันขนาดนี้ ทิวเทพจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไงพอได้สติร่างสูงก็เผยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา เขาจะจัดให้จนเธอต้องร้องขอชีวิตเลย ทิวเทพคิดในใจแล้วเดินไปนั่งที่ของตัวเองตลอดเวลาที่ดินเนอร์ สายตาคมคอยจับจ้องที่หญิงสาวตลอดเวลา มือหนายกไวน์แดงขึ้นดื่มเป็นพัก ๆทิชาเองก็มีท่าทีไม่ต่างกัน หลายครั้งที่หันไปสบตาเธอก็ส่งสายตายั่วยวนไปให้เขาเช่นกันทั้งคู่พูดคุยระหว่างนั่งทานกันไม่มาก ในห้องมีแต่เสียงมีดกระทบจานกับเสียงแก้วชนกันเท่านั้นไวน์แดงดีกรีสูงหมดไปเกือบ 2 ขวดแล้ว ตอนนี้ทิชานั่งหน้าแดงตัวโคลงเคลงไปมา ต่างจากทิวเทพที่ยังมีท่าทีสบาย ๆ ราวกับกินแค่น้ำเปล่าจะไม่ให้เธอเมาได้ยังไงล่ะ พอหมดแก้วเขาก็คอยเติมให้เรื่อย ๆ อาหารก็อร่อย บรรยากาศก็ดี ทิชาดื่มเพลินโดยไม่รู้ตัวจนทิวเทพเห็นท่าไม่ดีเกรงว่าจะได้ได้พาเธอเข้านอนแทนทำเรื่องสนุก ๆ เขาจึงดึงแก้วออกจากมือเธอ"พอได้แล้วครับ ทิชาเมาแล้วนะ""อื้ออ ใครเมา หนูยังไม่เมานะ”หนู? ขนาดนี้แล้วไม่เมาตรงไหน เขาวางแก้วแล้วพยุงเธอขึ้นมา เธอตัวอ่อนซบไปกับอกแกร่งทิวเทพส่ายหัวเบา ๆ ให้กับความดื้อของเธอ เมื่อพาเธอมาถึงในห้องก่อนที่ทิวเทพจะได้พาเธอนอนลงบนเตียงคน
วันรุ่งขึ้นเพื่อน ๆ ที่รู้ข่าวก็แห่กันมาเยี่ยมจนฉันแทบไม่ได้พักทุกคนต่างตกหลุมรักเจ้าสองแฝด“อร๊ายยยย หลานฉันน่ารักมากแก ถ้าฉันมีลูกชายฉันจองนะ”“แกแต่งงานให้ได้ก่อนนะ น้ำชา”มันทำท่าชำเลืองไปทางแฟนมันก่อนจะพูดออกมา“ก็....รออยู่ล่ะนะ....”“พอ ๆ เลิกมาหวานกันเลย เกรงใจคนโสดบ้างงง”ดาวพูดขึ้นก่อนจะหันไปเล่นกับหลาน“น่ารักจริง ๆ หลานน้า โตขึ้นอย่าเหมือนแม่นะ”“ดาววว นี่เพื่อนนะ!”ดูมันบอกลูกฉันสิ ฉันไม่ดีตรงไหนกัน! เหมือนเด็ก ๆ จะเริ่มรำคาญเสียงรอบ ๆ ตัว ทัชชาเริ่มเบะปากก่อนจะร้องไห้เสียงดังออกมา‘อุแว้ อุแว้ อุแว้’และแน่นอนว่าเมื่อคนหนึ่งร้อง อีกคนก็ร้องตามทันที‘แงงงงงงงงง’เสียงร้องของสองแฝดทำให้ทุกคนในห้องเงียบกริบทันที พี่ทิวเดินไปอุ้มลูกมาให้ฉันคนนึ่งและตัวเองอุ้มไว้อีกคนนึ่งก่อนจะออกปากไล่ทุกคนให้ออกไปจากห้อง“ลูกน่าจะหิว ทุกคนออกไปก่อนนะ”บรรดาน้า ๆ ทั้งหลายรีบเดินออกจากห้องไปเหลือเพียงพ่อ แม่ลูกเท่านั้นฉันเปิดเสื้อออกให้นมทัชชาก่อน พอคนโตเงียบคนเล็กก็เงียบตาม ทัชชกรหลับต่อในอ้อมแขนของพี่ทิวดูท่าจะเป็นหนุ่มขี้รำคาญเหมือนพ่อซะด้วย“หนูว่าทัชชกรน่าจะเหมือนพี่ทิวแน่ ๆ เลยค่ะ”“ท
“โอ๊ยย พี่ทิว หนูปวดท้องง”กลางดึกคืนหนึ่ง ทิชาตื่นขึ้นมาจากความเจ็บปวดที่ท้อง ร่างบางนอนกุมท้อง อีกมือก็เอื้อมไปเขย่าเรียกสามีที่นอนอยู่ข้างๆ“ทิชา เป็นอะไรครับ จะคลอดเหรอ”“ปวดท้องงง โอ้ยยยย”“ไอ้นัท เตรียมรถ”ทิวเทพตะโกนลั่นบ้านเรียกให้นัทที่มาทำงานเตรียมออกรถไปโรงพยาบาล ร่างสูงประคองทิชาลงจากเตียงเบา ๆ แต่พอเธอลุกขึ้นยืนน้ำคร่ำก็ไหลออกมาจนเขาตกใจ‘ซ่า.......’“ทิชา!”“พะ พี่ทิว หนูปวด โอ้ยยยย”เขาก้มลงช้อนตัวทิชาวิ่งออกจากห้องทันทีพอขึ้นรถมาได้ อาการปวดก็ยิ่งถี่กว่าเดิม มันทั้งปวด ทั้งบิดในเวลาเดียวกัน มือเล็กปัดป่ายไปทั่วจนคว้าหมับ! เข้ากับผมดำสลวยของทิวเทพ ก่อนจะออกแรงขยุ้มจนร่างสูงสะดุ้งไปด้วย“ทิชา ใจเย็น ๆ นะ หายใจลึก ๆ ”“โอ้ยยย เงียบไปเลย มาปวดเองไหมล่ะ ปวดจะตายอยู่แล้ว!”ทิวเทพถึงกับอึ้งไปเลยเขาไม่เคยได้ยินเธอขึ้นเสียงใส่เขามาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว เขาบีบมือเธอเพื่อให้กำลังใจพร้อมกับเร่งนัทให้ขับไวขึ้น ทิชาออกแรงดึงผมเขาเต็มที่จนเขาขมวดคิ้วแน่น“โอ้ยยย เร็วกว่านี้ได้ไหม!!!”ทิชาตะโกนเร่งดังลั่นรถ เธอจะไม่ไหวแล้วสองแฝดถีบท้องตุบ ๆ ราวกับจะออกมาให้ได้ สัญชาตญาณความเป็นแม่สั่งใ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ๆ“นายครับ ผมมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบครับ”นนท์ที่อยู่ในสภาพร้อนใจเคาะห้องรับแขกเรียกเจ้านายไม่หยุดไม่ต่างจากคน 2 คนที่อยู่ในห้อง ทิชาผลักทิวเทพออกเต็มแรงด้วยความตกใจ“พะ พี่ทิว พี่นนท์มาค่ะ”ทิวเทพสบถออกมาเล็กน้อย ก่อนจะไปหยิบผ้ามาให้ทิชาคลุมตัวไว้ ท่าทางเขาหัวเสียน่าดูที่โดนขัดจังหวะจนทิชาอดหัวเราะออกมาไม่ได้“คิก คิก ไม่ทำหน้าแบบนั้นสิคะ พี่นนท์อาจจะมีเรื่องด่วนก็ได้นะ”“ถ้ามันไม่ด่วนอย่างที่หนูบอก พี่จะหักเงินเดือนมัน”ทิวเทพพูดพร้อมกับจัดผ้าคลุมขาของทิชาไว้ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ลูกน้องเข้ามา“นายครับ!!!!”“เออ กูได้ยินแล้ว!”‘แกร๊ก’พอประตูเปิดนนท์ก็พรวดพราดเข้ามาด้านในด้านท่าทีลุกรี้ลุกลนจนทิวเทพแปลกใจ นนท์ทำงานข้างกายเขามานานไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้“มีอะไร?”“เรื่องนายเข้มครับ....”ทิวเทพกำลังจะห้ามไม่ให้นนท์พูดต่อ แต่ว่าไม่ทันแล้วทิชาที่นั่งอยู่ในห้องได้ยินซะก่อน“เกิดอะไรขึ้นคะ พี่นนท์?”“เอ่อ คือ”นนท์หันมองผู้เป็นนายเพื่อขอความเห็นในเมื่อเธอได้ยินแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังทิชาอีกต่อไปเขาจึงพยักหน้าให้นนท์พูดได้เลย“นายเข้ม เสียแล้วครับ ที่ชายแดน”ทิชายกมือป
หลังจากนั้นมาทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ทิวเทพคิดไว้ เขาต้องพาทิชาไปด้วยทุกทีเพราะเธอติดเขาแจ ถ้าเขาออกไปไหนโดยไม่พาเธอไปเธอก็จะร้องไห้จนเขาต้องรีบกลับมาหาตอนนี้ทิชาท้องได้ 5 เดือนแล้ว เธอตัดสินใจแล้วว่าจะลองมาเจอปู่กับย่าของเธอสักครั้งถึงจะอยากเลี่ยงมากแค่ไหนแต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้และเท่าที่แม่บอกก็คือท่านรู้สึกผิดกับเรื่องที่ทำลงไปไม่น้อยเลย“พร้อมไหมครับ”มือบางเย็นและสั่นเล็กน้อย ทิวเทพจับมือทิชาไปกุมไว้มอบความอุ่นใจให้กับเธอร่างบางหันมาส่งยิ้มให้เขา นี่เป็นอีกเหตุผลที่เธอยอมมาเจอท่านทั้งสองเพราะทิวเทพเองก็มีส่วนพูดให้เธอได้คิดไม่น้อย‘พี่ว่าหนูควรไปเจอท่านซักครั้งแล้วค่อยตัดสินใจดีไหมครับ อย่างไรท่านก็เป็นญาติผู้ใหญ่นะ’‘ลองดูนะครับ เดี๋ยวพี่ไปกับหนูเอง’นี่เป็นบทสนทนาที่ทำให้ทิชามาจอดรถหน้าบ้านของพ่อเธอเวลานี้“ไปกันเถอะค่ะพี่ทิว”ทิชาบอกพร้อมสูดหายใจลึก ๆ ก่อนจะลงจากรถไปหาพ่อกับแม่ที่ยืนรออยู่“สวัสดีค่ะ พ่อ แม่”“มาแล้วเหรอลูก เข้าไปด้านในกัน ปู่กับย่ารอเจออยู่”พ่อเดินเข้ามาสวมกอดเธอก่อนจะพาทุกคนเข้าไปในบ้าน ในห้องรับแขกมีร่างสูงอายุของชายหญิงสองคนรอนั่งอยู่ เมื่อทิวเทพและทิชาก้าวม
“พี่ทิวคะ หนูขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ นะคะ”เสียงหวาน ๆ เรียกเขามาแต่ไกลพร้อมกับเดินมากอดแขนเขาที่นั่งดื่มอยู่ที่บาร์“หืมม จะไปไหนกัน ให้พี่ไปด้วยไหม”ทิวเทพวางแก้วเหล้าลงพร้อมกับยกมือลูบหัวเธออย่างเอ็นดู ตั้งแต่ท้องเธอก็อ้อนเขามากกว่าปกติ สงสัยถ้าลูกสาวออกมาคงจะติดพ่อน่าดู“ไม่ล่ะคะ อยากเที่ยวกันตามภาษาสาว ๆ”“งั้น ให้นนท์ขับรถให้นะ ลูก ๆ อย่าดื้อกับแม่นะครับ”ทิวเทพก้มลงไปพูดกับลูบท้องเธอเบา ๆ“โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูมานะคะ”ร่างบางเดินออกไปขึ้นรถโดยมีสายตาของสามีมองตามไม่หยุดถ้าเพื่อนเขาไม่ทักขึ้น คงไม่ยอมละสายตาออกมา“เฮ้ย หวานไม่เกรงใจพวกกูเลยนะ สนใจงานก่อนครับเพื่อน”“นั่นดิ กลับมาคุยเรื่องงานก่อนไหม”เขายิ้มออกมาก่อนจะหันมาคุยกับเพื่อนต่ออีกรอบ««««»»»»ทิชาเดินยิ้มออกมา จริง ๆ อยากให้เขาไปด้วยแต่ก็เข้าใจว่าเขาคงมีธุระคุยกับเพื่อนเลยเลือกที่จะไปกันเองตามประสาสาว ๆเวลาเมาท์จะได้เมาท์ง่าย ๆ ด้วยนนท์ขับรถพาทุกคนมุ่งตรงไปยังห้างหรูใจกลางเมือง ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล มันคือห้าง Timeless นั่นเอง“พี่นนท์ไปหาอะไรทำก่อนได้เลยนะคะ เดี๋ยวเสร็จแล้วทิชาโทรเรียก”“ได้ครับ ผมจะรอแถว ๆ นี้นะครับ”
หลังจากที่เธอสงบสติอารมณ์ได้แล้ว นนท์ก็พาทิชามุ่งตรงไปที่บ้านทันที เมื่อมาถึงรถสปอร์ตที่คุ้นตาก็จอดอยู่มันคือรถพ่อแม่ทิชา ซึ่งมันก็ทำให้เธอแปลกใจเล็กน้อยว่าท่านมาทำอะไรกันที่นี่?“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณแม่”ทิชายกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้อง ซึ่งมีทั้งพ่อแม่เธอและเขารวมทั้งทิวเทพกับเทวาเองนั่งอยู่ด้วย เทวาอาการดีขึ้นมาแล้ว เหลือแค่รักษาแขนที่หักเท่านั้น“สวัสดีค่ะพี่เทวา เป็นยังไงบ้างคะ”“ดีขึ้นเยอะแล้วครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะแล้วก็ยินดีด้วยนะ”เทวายื่นกล่องของขวัญที่เตรียมไว้ให้เธอ ทิชากล่าวขอบคุณก่อนจะรับมาแล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ สามี“ว่าแต่พ่อกับแม่มาทำอะไรที่นี่คะ?”“เปล่าหรอก พ่อกับแม่ค้างที่นี่น่ะ เมื่อคืนเรามาคุยกันต่อนิดหน่อย”ทิชาอดคิดไม่ได้ว่าไอ้การคุยกันนั่นคงไม่ใช่มาดื่มกันต่อหรอกนะ....แต่เหมือนทุกคนจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ทุกคนเลยพร้อมใจกันเข้าเรื่องทันที“ที่แม่ให้มาหาวันนี้ก็ไม่มีอะไรหรอก แม่มีของจะให้แม่ของทิวเทพหยิบเอกสารส่งให้เธอเปิดดู ด้านในเป็นโฉนดที่ดินพร้อมบ้านที่ตั้งอยู่แถบชานเมือ ทว่าทำเลดีมากแถมราคายังแพงสุด ๆ“นี่มันไม่มากไปเหรอคะคุณแม่ทิชาพูดออกมาอย่างเกรงใจ
“ทุกคนเปิดดูเลยค่ะ หนูหวังว่าจะถูกใจทุกคนนะคะ”ว่าที่ปู่ย่ากับว่าที่ตายายเปิดฝาครอบออกช้า ๆ ในจานมีจดหมายอยู่ 1 ฉบับ ทุกคนยังทำหน้าสงสัยไม่หาย ฉันส่งยิ้มและสายตาเร่งให้ทุกคนเปิดอ่านเร็ว ๆ อยากเห็นแล้วว่าจะทำหน้ายังไงกันขณะที่ทุกคนกำลังลังเลแม่พี่ทิวก็เป็นคนแรกที่เปิดอ่าน ด้านในมีจดหมายแสดงผลเลือดกับฟิลม์อัลตร้าซาวน์อยู่ คุณแม่เบิกตากว้างหันมามองหน้าเราทั้งคู่อย่างตกใจ“จริงเหรอตาทิว เรื่องจริงใช่ไหม”“ครับแม่”ทุกคนที่เหลือเห็นคุณแม่ทำตาโตก็เปิดอ่านบ้าง สีหน้าทุกคนหลังอ่านมันจบต่างเต็มไปด้วยความดีใจ“ทิชา ลูกท้องเเหรอ”“ค่ะแม่ หนูท้องได้ 2 เดือนกว่า ๆ แล้ว”"แม่ดีใจด้วยนะ ดีใจมาก ๆ เลย คุณคะ เราจะเป็นตากับยายกันแล้วนะ"“ส่วนเราก็เป็นปู่กับย่าสินะ ฮ่า ๆ ๆ เก่งมากทิวเทพ”พ่อแม่เราหันไปหัวเราะให้กันดังลั่นก่อนจะสลับกันลุกมากอดแสดงความยินดีกับเราทั้งสอง“ยังไม่หมดนะคะ ลองดูฟิล์มอัลตร้าซาวน์อีกรอบสิคะ”ทุกคนเดินไปหยิบฟิล์มมาดูแล้วต่างก็ต้องตกใจอีกครั้ง“แฝด!!??!”“ใช่ค่ะ หนูท้องลูกแฝดชายหญิง”“กริ๊ดดด”หลังจากนั้นทุกอย่างก็ชุลมุนไปหมด แม่ ๆ ต่างกรีดร้องด้วยความดีใจแล้วหันไปกอดกันเหมือนเด็
1 เดือนต่อมา“พี่ทิวคะ ท้องหนูมันใหญ่กว่าปกติหรือเปล่า”ฉันถามพี่ทิวในตอนเช้าที่เรากำลังแต่งตัวกัน ตอนนี้ฉันท้องแค่ 2 เดือนกว่า ๆ เองนะ ทำไมมันดูใหญ่จังพี่ทิวเดินมาสวมกอดจากด้านหลังเอาคางเกยไหล่ฉันเหมือนลูกแมว มือหนาลูบท้องที่เริ่มนูนเบา ๆ“งั้นเหรอ เดี๋ยวเราค่อยไปถามหมอนะวันนี้เราต้องไปตรวจ ไม่ลืมใช่ไหม?”“ไม่ลืมค่ะ”ฉันหมุนตัวอยู่หน้ากระจกไม่หยุด มันนูนกว่าปกติจริง ๆ นะ“แต่งตัวได้แล้วนะคะ จะได้ไปหาหมอเลย”“ค่ะ พี่ทิว”เราทั้งคู่เดินทางไปโรงพยาบาลด้วยความตื่นเต้น ในที่สุดก็จะได้รู้ผลเพศเจ้าตัวเล็กแล้ว“สวัสดีค่ะ คุณทิชา คุณทิวเทพ”“สวัสดีค่ะคุณหมอ”“ช่วงนี้อาการแพ้เป็นยังไงบ้าง แพ้หนักไหมคะ”“ก็สลับ ๆ กับสามีค่ะ ผลัดกันแพ้”“อดทนอีกนิดนะคะ ผ่านไตรมาสแรกไปได้ก็จะดีขึ้นค่ะ”“ค่ะ คุณหมอ”“เดี๋ยวหมอขออัลตร้าซาวน์เลยนะคะ คุณทิชาไปเตรียมตัวได้เลยค่ะ”“คุณหมอคะ คือ ท้องมันดูนูน ๆ แบบนี้ มันผิดปกติไหมคะฉันถามหมอออกไปตามที่สงสัยเพราะเคยรู้มาว่าท้องแรกมันจะไม่โตมาก“เดี๋ยวหมอดูให้นะคะ”หลังเปลี่ยนชุดเสร็จ ฉันก็ขึ้นไปนอนรอคุณหมอบนขาหยั่ง รอบนี้คุณหมอจะตรวจผ่านทางช่องคลอดเพื่อดูพัฒนาการของเด็
ผมเดินไปเดินมาหน้าห้องฉุกเฉินอย่างกระวนกระวายใจ นี่มันนานมากแล้วนะทำไมหมอยังไม่ออกมาอีก"นายครับไปนั่งเถอะ ผมเวียนหัวแทนนาย""เสือก”"เอ้า นายด่าผมทำไมเนี่ย”"ไอ้นนท์เงียบไปเลยมึง"มันหุบปากทันทีแต่แสดงสีหน้าล้อเลียนผมที่เดินเป็นหนูติดจั่นแทน"ขอเชิญคุณทิวเทพด้านในเลยค่ะ”ผมรีบเดินเข้าไปในห้องทันที่ทิชากำลังนั่งพิงหัวเตียงส่งยิ้มมาให้สีหน้าเธอดูสดใสขึ้นมาก"ทิชาเป็นไงบ้าง”“ทำไมทำหน้าแบบนั้นค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมาก ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว”"อยู่ดี ๆ ก็เป็นลมไปแบบนั้น พี่เป็นห่วงนะ คุณหมอครับอาการภรรยาผมเป็นยังไงบ้าง”ผมหันไปถามอาการของเธอจากหมอที่อยู่ในห้อง"อาการเบื้องต้นไม่เป็นอะไรมากค่ะ แต่ยังไงหมอจะส่งตัวคนไข้ให้ไปตรวจอย่างละเอียดที่แผนกสูตินารีนะคะ”"ขอบคุณครับหมอ”พยาบาลเข็นวีลแชร์มาให้เธอนั่งแล้วย้ายเราทั้งคู่ไปที่แผนกสูตินารี เธอมีปัญหาภายในหรือเปล่าถึงต้องมาแผนกนี้ในใจผมคิดไปต่าง ๆ นา ๆ กลัวเธอจะเป็นอะไรที่มันอันตรายมากแต่ไม่ว่ายังไง ผมจะรักษาเธออย่างเต็มที่ตลอดทางที่พี่พยาบาลเข็นฉันไปที่แผนกสูตินารี คนที่เดินตามก็มีสีหน้าเป็นกังวลไม่หยุด ไม่รู้คิดเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนกันแน่ฉันแอ