วันแรกของการฝึกงานทิชาแทบไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ทิวเทพเอาแต่กอดเธอไม่หยุดพอเธอจะทำงานเขาก็อ้างว่าส่วนนั้นไม่ใช่หน้าที่เธอร่างบางถูกรั้งให้นั่งบนตักท่านประธานบริษัท เขากอดเธอไปด้วยทำงานไปด้วยจนในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหว"พี่ทิว ขอทิชาทำงานบ้างได้ไหมคะ""เดี๋ยวพี่ทำเองครับ นั่งเฉย ๆ ไปเถอะ"นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่เขาปฏิเสธเธอ"งั้นทิชากลับนะคะ”เธอพูดพร้อมทำท่าจะลุกออกไป ทิวเทพรีบกระชับกอดทันทีกันไม่ให้เธอลุก"ปล่อยค่ะ ไม่ให้ทำก็ให้ทิชากลับ”“อย่าโกรธพี่เลย พี่มีเหตุผลที่ไม่ให้ทำนะ”"งั้นก็อธิบายมาค่ะ ว่าทำไมเอาแต่ห้ามหรือพี่ทิวไม่ไว้ใจ ทิชา”"ไม่ใช่อย่างนั้นครับ คืองี้ งานส่วนนี้มันเป็นขอบเขตการรับผิดชอบของพี่ครับ""แล้วไงต่อค่ะ”"พี่ต้องทำส่วนนี้เอง ส่วนหน้าที่ของทิชาจะเป็นเอกสารที่เกี่ยวกับงบการเงินทั้งหมดในบริษัทครับ”เธอนิ่งฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ"แต่วันนี้เอกสารส่วนนั้นมีปัญหานิดหน่อย เลขาพี่กำลังจัดการให้ก่อนส่งมอบให้ทิชาครับ”"แล้วทำไมไม่บอกแต่แรกล่ะคะ”"พี่อยากกอดทิชาไว้แบบนี้ไงครับ อยากให้พักด้วยทิชาดูเพลีย ๆ”"มันเพราะใครล่ะคะ”เธอมองค้อนเขา ใครกันล่ะที่ทำให้เธอ
เล่นยั่วกันขนาดนี้ ทิวเทพจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไงพอได้สติร่างสูงก็เผยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา เขาจะจัดให้จนเธอต้องร้องขอชีวิตเลย ทิวเทพคิดในใจแล้วเดินไปนั่งที่ของตัวเองตลอดเวลาที่ดินเนอร์ สายตาคมคอยจับจ้องที่หญิงสาวตลอดเวลา มือหนายกไวน์แดงขึ้นดื่มเป็นพัก ๆทิชาเองก็มีท่าทีไม่ต่างกัน หลายครั้งที่หันไปสบตาเธอก็ส่งสายตายั่วยวนไปให้เขาเช่นกันทั้งคู่พูดคุยระหว่างนั่งทานกันไม่มาก ในห้องมีแต่เสียงมีดกระทบจานกับเสียงแก้วชนกันเท่านั้นไวน์แดงดีกรีสูงหมดไปเกือบ 2 ขวดแล้ว ตอนนี้ทิชานั่งหน้าแดงตัวโคลงเคลงไปมา ต่างจากทิวเทพที่ยังมีท่าทีสบาย ๆ ราวกับกินแค่น้ำเปล่าจะไม่ให้เธอเมาได้ยังไงล่ะ พอหมดแก้วเขาก็คอยเติมให้เรื่อย ๆ อาหารก็อร่อย บรรยากาศก็ดี ทิชาดื่มเพลินโดยไม่รู้ตัวจนทิวเทพเห็นท่าไม่ดีเกรงว่าจะได้ได้พาเธอเข้านอนแทนทำเรื่องสนุก ๆ เขาจึงดึงแก้วออกจากมือเธอ"พอได้แล้วครับ ทิชาเมาแล้วนะ""อื้ออ ใครเมา หนูยังไม่เมานะ”หนู? ขนาดนี้แล้วไม่เมาตรงไหน เขาวางแก้วแล้วพยุงเธอขึ้นมา เธอตัวอ่อนซบไปกับอกแกร่งทิวเทพส่ายหัวเบา ๆ ให้กับความดื้อของเธอ เมื่อพาเธอมาถึงในห้องก่อนที่ทิวเทพจะได้พาเธอนอนลงบนเตียงคน
ทิชาลืมตานอนเหม่อมองเพดาน เมื่อคืนนี้เธอทำอะไรลงไปกันเนี่ย ไม่อยากเชื่อว่าจะใจกล้าได้ขนาดนั้นพอหวนคิดถึงภาพเมื่อคืนใบหน้าก็เห่อร้อนขึ้นมา เธอดึงผ้าห่มมาปิดหน้าแล้วกรีดร้องเงียบ ๆ จะมองหน้าเขาติดไหมเนี่ย เล่นยั่วไปซะขนาดนั้นว่าแต่ เขาหายไปไหนกัน เธอกวาดสายตามองรอบห้อง เสื้อผ้าที่เขาและเธอเหวี่ยงไปยังกระจัดกระจายทั่วห้องทว่ากลับไร้ซึ่งคนนอนข้างกายเธอ"ไปไหนของเขาเนี่ย”ร่างเปลือยเปล่าหยิบเสื้อคลุมข้างเตียงมาสวมหลวม ๆ เตรียมลุกออกจากที่นอนแต่ก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ ๆ เขาก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้"ตื่นแล้วเหรอครับ”"ว๊ายย! ตกใจหมดเลยค่ะ ไปไหนมาเนี่ย”"ไปเตรียมอาหารไว้ให้คนขี้เซาครับ”"ทิชาขี้เซาเพราะใครล่ะคะ”"โอ๋ ๆ เดี๋ยววันนี้พาไปดำน้ำนะ ไม่งอนนะครับ”"โอเคค่ะ ไม่งอนก็ได้”"งั้นไปอาบน้ำนะ จะได้ไปกินข้าวกัน"ทิชาพยักหน้าอย่างว่าง่าย ก่อนจะก้าวลงเตียงเพื่อไปห้องน้ำ"ว๊ายย!""ทิชา! เป็นไรไหม”ทิวเทพรีบประคองเธอไว้ก่อนจะลงไปกองที่พื้น"เอ่อ มะ ไม่เป็นไรค่ะ แค่ขามันไม่มีแรงเลย ไม่รู้ทำไม....""งั้นเหรอครับ"พูดไปเขาก็อมยิ้มไปด้วย จะเพราะอะไรล่ะ เขานั่นล่ะที่ทำให้เธอแข้งขาอ่อนขนาดนี้"ห้ามพูดนะคะ
หลังจากที่ยอมรับคำขอของเขาฉันก็แทบไม่ได้พักเลย ตลอด3 วันที่เหลือของทริปฮันนีมูน ถ้าไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมอื่น ๆ เขาก็พยายามจะเสกเด็กเข้าท้องฉันตลอดเวลาให้ตายเถอะ แทบจะไม่ได้พักผ่อนเลยด้วยซ้ำ!!ถึงแม้จะเผลอรับปากไป แต่ฉันก็ยังแอบกินยาคุมอยู่โดยไม่ให้เขารู้ ไม่ใช่ว่าไม่อยากมีแต่มันยังไม่พร้อมจริง ๆ อย่างน้อยก็ขอแค่เรียนจบ แล้วฉันจะมีให้เขาสักโหลเลย'ฟุ่บบบ'"เฮ้อ เฮ้อ เฮ้อ พะ พอแล้วนะคะ ไม่ไหวแล้ว”ฉันนอนหายใจหอบอยู่ข้าง ๆ เขาหลังจากจบรอบที่ 4 ไม่รู้เขาไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนักหนา"เหนื่อยเหรอ หรือพี่ทำแรงไป""ยังจะถามอีกเหรอคะ ให้หนูพักเถอะนะ”ฉันส่งสายตาอ้อนวอนให้เขา ช่วยเห็นใจฉันทีเถอะ"งั้นทิชาพักนะ เดี๋ยวที่เหลือพี่จัดการเอง”ฉันหลับตาลง ไม่นานความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันก็ทำให้ผล็อยหลับไปได้อย่างง่ายดายวันรุ่งขึ้นฉันตื่นมาด้วยอาการระบมไปทั้งตัวร่างกายยังเปลือยเปล่าเหมือนเดิมตั้ง แต่วันแรกที่มาที่นี่ตกกลางคืนอย่าได้ถามหาชุดนอนเลยแทบไม่ได้ใส่ นี่ถ้าไม่มีกิจกรรมที่เขาจองไว้คงไม่ได้ออกไปเห็นทะเลด้วยซ้ำฉันนอนเหม่อมองเพดาน จนพี่ทิวเข้ามาเรียกเพราะวันนี้เราจะเดินทางกลับแล้วแต่ฉันไม่มี
หลังกลับมาจากฮันนีมูนผมก็ต้องไปสะสางปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างที่ผมไม่อยู่ทันทีแถมแม่ก็ไม่สบาย ผมเลยขอให้ทิชาไปนอนเป็นเพื่อนแม่ผม ส่วนพ่อกับผมออกเดินทางไปยังจุดนัดพบเพื่อเจอกับคน ๆ หนึ่ง"พ่อครับระหว่างที่ผมไม่อยู่มันเกิดอะไรขึ้น”"นนท์ยังไม่ได้บอกลูกเหรอ”"บอกแค่มีเรื่องเกิดขึ้นครับ แต่ตอนนั้นทิชาอยู่ด้วยผมเลยยังไม่ได้ฟังรายละเอียด”"งั้นเหรอ...ลูกฟังพ่อแล้วตั้งสตินะ”ผมเริ่มใจไม่ดี มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่"เทวาถูกลอบทำร้าย อาการสาหัส”เหมือนมีใครเอาค้อนปอนด์ทุบหัวผมจนมึนไปหมด ใครกับที่มันกล้ามาลอบกัดน้องชายผม"เทวา...เป็นยังไงบ้าง...ครับ”ผมพยายามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ แต่ในใจเต็มไปด้วยความโกรธ ไม่ว่ามันเป็นใครผมจะไปลากมันมากราบแทบเท้าน้องผม"ถูกซ้อมอย่างหนัก แขนหัก บอบช้ำภายในหลายจุด รวมทั้ง...ถูกแทงด้วย”'กึก'ผมกัดฟันแน่นข่มอารมณ์ที่กำลังปะทุออกมา พ่อคงจับสังเกตได้ ท่านพยายามพูดให้ผมตั้งสติ"ใจเย็น ๆ แล้วมีสติ พ่อให้ชาญวิทย์เข้ามาช่วยดูแลให้แล้ว”"ครับพ่อ”พ่อสั่งให้คนขับรถเปลี่ยนเป้าหมายไปยังโรงพยาบาลที่เทวารักษาตัวอยู่ ผมยืนมองร่างน้องชายที่อยู่ในไอซียูตามตัวมีผ้าพันแผลเต็มไปหมด
ผมเดินไปเดินมาหน้าห้องฉุกเฉินอย่างกระวนกระวายใจ นี่มันนานมากแล้วนะทำไมหมอยังไม่ออกมาอีก"นายครับไปนั่งเถอะ ผมเวียนหัวแทนนาย""เสือก”"เอ้า นายด่าผมทำไมเนี่ย”"ไอ้นนท์เงียบไปเลยมึง"มันหุบปากทันทีแต่แสดงสีหน้าล้อเลียนผมที่เดินเป็นหนูติดจั่นแทน"ขอเชิญคุณทิวเทพด้านในเลยค่ะ”ผมรีบเดินเข้าไปในห้องทันที่ทิชากำลังนั่งพิงหัวเตียงส่งยิ้มมาให้สีหน้าเธอดูสดใสขึ้นมาก"ทิชาเป็นไงบ้าง”“ทำไมทำหน้าแบบนั้นค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมาก ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว”"อยู่ดี ๆ ก็เป็นลมไปแบบนั้น พี่เป็นห่วงนะ คุณหมอครับอาการภรรยาผมเป็นยังไงบ้าง”ผมหันไปถามอาการของเธอจากหมอที่อยู่ในห้อง"อาการเบื้องต้นไม่เป็นอะไรมากค่ะ แต่ยังไงหมอจะส่งตัวคนไข้ให้ไปตรวจอย่างละเอียดที่แผนกสูตินารีนะคะ”"ขอบคุณครับหมอ”พยาบาลเข็นวีลแชร์มาให้เธอนั่งแล้วย้ายเราทั้งคู่ไปที่แผนกสูตินารี เธอมีปัญหาภายในหรือเปล่าถึงต้องมาแผนกนี้ในใจผมคิดไปต่าง ๆ นา ๆ กลัวเธอจะเป็นอะไรที่มันอันตรายมากแต่ไม่ว่ายังไง ผมจะรักษาเธออย่างเต็มที่ตลอดทางที่พี่พยาบาลเข็นฉันไปที่แผนกสูตินารี คนที่เดินตามก็มีสีหน้าเป็นกังวลไม่หยุด ไม่รู้คิดเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนกันแน่ฉันแอ
1 เดือนต่อมา“พี่ทิวคะ ท้องหนูมันใหญ่กว่าปกติหรือเปล่า”ฉันถามพี่ทิวในตอนเช้าที่เรากำลังแต่งตัวกัน ตอนนี้ฉันท้องแค่ 2 เดือนกว่า ๆ เองนะ ทำไมมันดูใหญ่จังพี่ทิวเดินมาสวมกอดจากด้านหลังเอาคางเกยไหล่ฉันเหมือนลูกแมว มือหนาลูบท้องที่เริ่มนูนเบา ๆ“งั้นเหรอ เดี๋ยวเราค่อยไปถามหมอนะวันนี้เราต้องไปตรวจ ไม่ลืมใช่ไหม?”“ไม่ลืมค่ะ”ฉันหมุนตัวอยู่หน้ากระจกไม่หยุด มันนูนกว่าปกติจริง ๆ นะ“แต่งตัวได้แล้วนะคะ จะได้ไปหาหมอเลย”“ค่ะ พี่ทิว”เราทั้งคู่เดินทางไปโรงพยาบาลด้วยความตื่นเต้น ในที่สุดก็จะได้รู้ผลเพศเจ้าตัวเล็กแล้ว“สวัสดีค่ะ คุณทิชา คุณทิวเทพ”“สวัสดีค่ะคุณหมอ”“ช่วงนี้อาการแพ้เป็นยังไงบ้าง แพ้หนักไหมคะ”“ก็สลับ ๆ กับสามีค่ะ ผลัดกันแพ้”“อดทนอีกนิดนะคะ ผ่านไตรมาสแรกไปได้ก็จะดีขึ้นค่ะ”“ค่ะ คุณหมอ”“เดี๋ยวหมอขออัลตร้าซาวน์เลยนะคะ คุณทิชาไปเตรียมตัวได้เลยค่ะ”“คุณหมอคะ คือ ท้องมันดูนูน ๆ แบบนี้ มันผิดปกติไหมคะฉันถามหมอออกไปตามที่สงสัยเพราะเคยรู้มาว่าท้องแรกมันจะไม่โตมาก“เดี๋ยวหมอดูให้นะคะ”หลังเปลี่ยนชุดเสร็จ ฉันก็ขึ้นไปนอนรอคุณหมอบนขาหยั่ง รอบนี้คุณหมอจะตรวจผ่านทางช่องคลอดเพื่อดูพัฒนาการของเด็
“ทุกคนเปิดดูเลยค่ะ หนูหวังว่าจะถูกใจทุกคนนะคะ”ว่าที่ปู่ย่ากับว่าที่ตายายเปิดฝาครอบออกช้า ๆ ในจานมีจดหมายอยู่ 1 ฉบับ ทุกคนยังทำหน้าสงสัยไม่หาย ฉันส่งยิ้มและสายตาเร่งให้ทุกคนเปิดอ่านเร็ว ๆ อยากเห็นแล้วว่าจะทำหน้ายังไงกันขณะที่ทุกคนกำลังลังเลแม่พี่ทิวก็เป็นคนแรกที่เปิดอ่าน ด้านในมีจดหมายแสดงผลเลือดกับฟิลม์อัลตร้าซาวน์อยู่ คุณแม่เบิกตากว้างหันมามองหน้าเราทั้งคู่อย่างตกใจ“จริงเหรอตาทิว เรื่องจริงใช่ไหม”“ครับแม่”ทุกคนที่เหลือเห็นคุณแม่ทำตาโตก็เปิดอ่านบ้าง สีหน้าทุกคนหลังอ่านมันจบต่างเต็มไปด้วยความดีใจ“ทิชา ลูกท้องเเหรอ”“ค่ะแม่ หนูท้องได้ 2 เดือนกว่า ๆ แล้ว”"แม่ดีใจด้วยนะ ดีใจมาก ๆ เลย คุณคะ เราจะเป็นตากับยายกันแล้วนะ"“ส่วนเราก็เป็นปู่กับย่าสินะ ฮ่า ๆ ๆ เก่งมากทิวเทพ”พ่อแม่เราหันไปหัวเราะให้กันดังลั่นก่อนจะสลับกันลุกมากอดแสดงความยินดีกับเราทั้งสอง“ยังไม่หมดนะคะ ลองดูฟิล์มอัลตร้าซาวน์อีกรอบสิคะ”ทุกคนเดินไปหยิบฟิล์มมาดูแล้วต่างก็ต้องตกใจอีกครั้ง“แฝด!!??!”“ใช่ค่ะ หนูท้องลูกแฝดชายหญิง”“กริ๊ดดด”หลังจากนั้นทุกอย่างก็ชุลมุนไปหมด แม่ ๆ ต่างกรีดร้องด้วยความดีใจแล้วหันไปกอดกันเหมือนเด็
วันรุ่งขึ้นเพื่อน ๆ ที่รู้ข่าวก็แห่กันมาเยี่ยมจนฉันแทบไม่ได้พักทุกคนต่างตกหลุมรักเจ้าสองแฝด“อร๊ายยยย หลานฉันน่ารักมากแก ถ้าฉันมีลูกชายฉันจองนะ”“แกแต่งงานให้ได้ก่อนนะ น้ำชา”มันทำท่าชำเลืองไปทางแฟนมันก่อนจะพูดออกมา“ก็....รออยู่ล่ะนะ....”“พอ ๆ เลิกมาหวานกันเลย เกรงใจคนโสดบ้างงง”ดาวพูดขึ้นก่อนจะหันไปเล่นกับหลาน“น่ารักจริง ๆ หลานน้า โตขึ้นอย่าเหมือนแม่นะ”“ดาววว นี่เพื่อนนะ!”ดูมันบอกลูกฉันสิ ฉันไม่ดีตรงไหนกัน! เหมือนเด็ก ๆ จะเริ่มรำคาญเสียงรอบ ๆ ตัว ทัชชาเริ่มเบะปากก่อนจะร้องไห้เสียงดังออกมา‘อุแว้ อุแว้ อุแว้’และแน่นอนว่าเมื่อคนหนึ่งร้อง อีกคนก็ร้องตามทันที‘แงงงงงงงงง’เสียงร้องของสองแฝดทำให้ทุกคนในห้องเงียบกริบทันที พี่ทิวเดินไปอุ้มลูกมาให้ฉันคนนึ่งและตัวเองอุ้มไว้อีกคนนึ่งก่อนจะออกปากไล่ทุกคนให้ออกไปจากห้อง“ลูกน่าจะหิว ทุกคนออกไปก่อนนะ”บรรดาน้า ๆ ทั้งหลายรีบเดินออกจากห้องไปเหลือเพียงพ่อ แม่ลูกเท่านั้นฉันเปิดเสื้อออกให้นมทัชชาก่อน พอคนโตเงียบคนเล็กก็เงียบตาม ทัชชกรหลับต่อในอ้อมแขนของพี่ทิวดูท่าจะเป็นหนุ่มขี้รำคาญเหมือนพ่อซะด้วย“หนูว่าทัชชกรน่าจะเหมือนพี่ทิวแน่ ๆ เลยค่ะ”“ท
“โอ๊ยย พี่ทิว หนูปวดท้องง”กลางดึกคืนหนึ่ง ทิชาตื่นขึ้นมาจากความเจ็บปวดที่ท้อง ร่างบางนอนกุมท้อง อีกมือก็เอื้อมไปเขย่าเรียกสามีที่นอนอยู่ข้างๆ“ทิชา เป็นอะไรครับ จะคลอดเหรอ”“ปวดท้องงง โอ้ยยยย”“ไอ้นัท เตรียมรถ”ทิวเทพตะโกนลั่นบ้านเรียกให้นัทที่มาทำงานเตรียมออกรถไปโรงพยาบาล ร่างสูงประคองทิชาลงจากเตียงเบา ๆ แต่พอเธอลุกขึ้นยืนน้ำคร่ำก็ไหลออกมาจนเขาตกใจ‘ซ่า.......’“ทิชา!”“พะ พี่ทิว หนูปวด โอ้ยยยย”เขาก้มลงช้อนตัวทิชาวิ่งออกจากห้องทันทีพอขึ้นรถมาได้ อาการปวดก็ยิ่งถี่กว่าเดิม มันทั้งปวด ทั้งบิดในเวลาเดียวกัน มือเล็กปัดป่ายไปทั่วจนคว้าหมับ! เข้ากับผมดำสลวยของทิวเทพ ก่อนจะออกแรงขยุ้มจนร่างสูงสะดุ้งไปด้วย“ทิชา ใจเย็น ๆ นะ หายใจลึก ๆ ”“โอ้ยยย เงียบไปเลย มาปวดเองไหมล่ะ ปวดจะตายอยู่แล้ว!”ทิวเทพถึงกับอึ้งไปเลยเขาไม่เคยได้ยินเธอขึ้นเสียงใส่เขามาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว เขาบีบมือเธอเพื่อให้กำลังใจพร้อมกับเร่งนัทให้ขับไวขึ้น ทิชาออกแรงดึงผมเขาเต็มที่จนเขาขมวดคิ้วแน่น“โอ้ยยย เร็วกว่านี้ได้ไหม!!!”ทิชาตะโกนเร่งดังลั่นรถ เธอจะไม่ไหวแล้วสองแฝดถีบท้องตุบ ๆ ราวกับจะออกมาให้ได้ สัญชาตญาณความเป็นแม่สั่งใ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ๆ“นายครับ ผมมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบครับ”นนท์ที่อยู่ในสภาพร้อนใจเคาะห้องรับแขกเรียกเจ้านายไม่หยุดไม่ต่างจากคน 2 คนที่อยู่ในห้อง ทิชาผลักทิวเทพออกเต็มแรงด้วยความตกใจ“พะ พี่ทิว พี่นนท์มาค่ะ”ทิวเทพสบถออกมาเล็กน้อย ก่อนจะไปหยิบผ้ามาให้ทิชาคลุมตัวไว้ ท่าทางเขาหัวเสียน่าดูที่โดนขัดจังหวะจนทิชาอดหัวเราะออกมาไม่ได้“คิก คิก ไม่ทำหน้าแบบนั้นสิคะ พี่นนท์อาจจะมีเรื่องด่วนก็ได้นะ”“ถ้ามันไม่ด่วนอย่างที่หนูบอก พี่จะหักเงินเดือนมัน”ทิวเทพพูดพร้อมกับจัดผ้าคลุมขาของทิชาไว้ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ลูกน้องเข้ามา“นายครับ!!!!”“เออ กูได้ยินแล้ว!”‘แกร๊ก’พอประตูเปิดนนท์ก็พรวดพราดเข้ามาด้านในด้านท่าทีลุกรี้ลุกลนจนทิวเทพแปลกใจ นนท์ทำงานข้างกายเขามานานไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้“มีอะไร?”“เรื่องนายเข้มครับ....”ทิวเทพกำลังจะห้ามไม่ให้นนท์พูดต่อ แต่ว่าไม่ทันแล้วทิชาที่นั่งอยู่ในห้องได้ยินซะก่อน“เกิดอะไรขึ้นคะ พี่นนท์?”“เอ่อ คือ”นนท์หันมองผู้เป็นนายเพื่อขอความเห็นในเมื่อเธอได้ยินแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังทิชาอีกต่อไปเขาจึงพยักหน้าให้นนท์พูดได้เลย“นายเข้ม เสียแล้วครับ ที่ชายแดน”ทิชายกมือป
หลังจากนั้นมาทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ทิวเทพคิดไว้ เขาต้องพาทิชาไปด้วยทุกทีเพราะเธอติดเขาแจ ถ้าเขาออกไปไหนโดยไม่พาเธอไปเธอก็จะร้องไห้จนเขาต้องรีบกลับมาหาตอนนี้ทิชาท้องได้ 5 เดือนแล้ว เธอตัดสินใจแล้วว่าจะลองมาเจอปู่กับย่าของเธอสักครั้งถึงจะอยากเลี่ยงมากแค่ไหนแต่ก็คงเลี่ยงไม่ได้และเท่าที่แม่บอกก็คือท่านรู้สึกผิดกับเรื่องที่ทำลงไปไม่น้อยเลย“พร้อมไหมครับ”มือบางเย็นและสั่นเล็กน้อย ทิวเทพจับมือทิชาไปกุมไว้มอบความอุ่นใจให้กับเธอร่างบางหันมาส่งยิ้มให้เขา นี่เป็นอีกเหตุผลที่เธอยอมมาเจอท่านทั้งสองเพราะทิวเทพเองก็มีส่วนพูดให้เธอได้คิดไม่น้อย‘พี่ว่าหนูควรไปเจอท่านซักครั้งแล้วค่อยตัดสินใจดีไหมครับ อย่างไรท่านก็เป็นญาติผู้ใหญ่นะ’‘ลองดูนะครับ เดี๋ยวพี่ไปกับหนูเอง’นี่เป็นบทสนทนาที่ทำให้ทิชามาจอดรถหน้าบ้านของพ่อเธอเวลานี้“ไปกันเถอะค่ะพี่ทิว”ทิชาบอกพร้อมสูดหายใจลึก ๆ ก่อนจะลงจากรถไปหาพ่อกับแม่ที่ยืนรออยู่“สวัสดีค่ะ พ่อ แม่”“มาแล้วเหรอลูก เข้าไปด้านในกัน ปู่กับย่ารอเจออยู่”พ่อเดินเข้ามาสวมกอดเธอก่อนจะพาทุกคนเข้าไปในบ้าน ในห้องรับแขกมีร่างสูงอายุของชายหญิงสองคนรอนั่งอยู่ เมื่อทิวเทพและทิชาก้าวม
“พี่ทิวคะ หนูขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ นะคะ”เสียงหวาน ๆ เรียกเขามาแต่ไกลพร้อมกับเดินมากอดแขนเขาที่นั่งดื่มอยู่ที่บาร์“หืมม จะไปไหนกัน ให้พี่ไปด้วยไหม”ทิวเทพวางแก้วเหล้าลงพร้อมกับยกมือลูบหัวเธออย่างเอ็นดู ตั้งแต่ท้องเธอก็อ้อนเขามากกว่าปกติ สงสัยถ้าลูกสาวออกมาคงจะติดพ่อน่าดู“ไม่ล่ะคะ อยากเที่ยวกันตามภาษาสาว ๆ”“งั้น ให้นนท์ขับรถให้นะ ลูก ๆ อย่าดื้อกับแม่นะครับ”ทิวเทพก้มลงไปพูดกับลูบท้องเธอเบา ๆ“โอเคค่ะ เดี๋ยวหนูมานะคะ”ร่างบางเดินออกไปขึ้นรถโดยมีสายตาของสามีมองตามไม่หยุดถ้าเพื่อนเขาไม่ทักขึ้น คงไม่ยอมละสายตาออกมา“เฮ้ย หวานไม่เกรงใจพวกกูเลยนะ สนใจงานก่อนครับเพื่อน”“นั่นดิ กลับมาคุยเรื่องงานก่อนไหม”เขายิ้มออกมาก่อนจะหันมาคุยกับเพื่อนต่ออีกรอบ««««»»»»ทิชาเดินยิ้มออกมา จริง ๆ อยากให้เขาไปด้วยแต่ก็เข้าใจว่าเขาคงมีธุระคุยกับเพื่อนเลยเลือกที่จะไปกันเองตามประสาสาว ๆเวลาเมาท์จะได้เมาท์ง่าย ๆ ด้วยนนท์ขับรถพาทุกคนมุ่งตรงไปยังห้างหรูใจกลางเมือง ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล มันคือห้าง Timeless นั่นเอง“พี่นนท์ไปหาอะไรทำก่อนได้เลยนะคะ เดี๋ยวเสร็จแล้วทิชาโทรเรียก”“ได้ครับ ผมจะรอแถว ๆ นี้นะครับ”
หลังจากที่เธอสงบสติอารมณ์ได้แล้ว นนท์ก็พาทิชามุ่งตรงไปที่บ้านทันที เมื่อมาถึงรถสปอร์ตที่คุ้นตาก็จอดอยู่มันคือรถพ่อแม่ทิชา ซึ่งมันก็ทำให้เธอแปลกใจเล็กน้อยว่าท่านมาทำอะไรกันที่นี่?“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณแม่”ทิชายกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้อง ซึ่งมีทั้งพ่อแม่เธอและเขารวมทั้งทิวเทพกับเทวาเองนั่งอยู่ด้วย เทวาอาการดีขึ้นมาแล้ว เหลือแค่รักษาแขนที่หักเท่านั้น“สวัสดีค่ะพี่เทวา เป็นยังไงบ้างคะ”“ดีขึ้นเยอะแล้วครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะแล้วก็ยินดีด้วยนะ”เทวายื่นกล่องของขวัญที่เตรียมไว้ให้เธอ ทิชากล่าวขอบคุณก่อนจะรับมาแล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ สามี“ว่าแต่พ่อกับแม่มาทำอะไรที่นี่คะ?”“เปล่าหรอก พ่อกับแม่ค้างที่นี่น่ะ เมื่อคืนเรามาคุยกันต่อนิดหน่อย”ทิชาอดคิดไม่ได้ว่าไอ้การคุยกันนั่นคงไม่ใช่มาดื่มกันต่อหรอกนะ....แต่เหมือนทุกคนจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ ทุกคนเลยพร้อมใจกันเข้าเรื่องทันที“ที่แม่ให้มาหาวันนี้ก็ไม่มีอะไรหรอก แม่มีของจะให้แม่ของทิวเทพหยิบเอกสารส่งให้เธอเปิดดู ด้านในเป็นโฉนดที่ดินพร้อมบ้านที่ตั้งอยู่แถบชานเมือ ทว่าทำเลดีมากแถมราคายังแพงสุด ๆ“นี่มันไม่มากไปเหรอคะคุณแม่ทิชาพูดออกมาอย่างเกรงใจ
“ทุกคนเปิดดูเลยค่ะ หนูหวังว่าจะถูกใจทุกคนนะคะ”ว่าที่ปู่ย่ากับว่าที่ตายายเปิดฝาครอบออกช้า ๆ ในจานมีจดหมายอยู่ 1 ฉบับ ทุกคนยังทำหน้าสงสัยไม่หาย ฉันส่งยิ้มและสายตาเร่งให้ทุกคนเปิดอ่านเร็ว ๆ อยากเห็นแล้วว่าจะทำหน้ายังไงกันขณะที่ทุกคนกำลังลังเลแม่พี่ทิวก็เป็นคนแรกที่เปิดอ่าน ด้านในมีจดหมายแสดงผลเลือดกับฟิลม์อัลตร้าซาวน์อยู่ คุณแม่เบิกตากว้างหันมามองหน้าเราทั้งคู่อย่างตกใจ“จริงเหรอตาทิว เรื่องจริงใช่ไหม”“ครับแม่”ทุกคนที่เหลือเห็นคุณแม่ทำตาโตก็เปิดอ่านบ้าง สีหน้าทุกคนหลังอ่านมันจบต่างเต็มไปด้วยความดีใจ“ทิชา ลูกท้องเเหรอ”“ค่ะแม่ หนูท้องได้ 2 เดือนกว่า ๆ แล้ว”"แม่ดีใจด้วยนะ ดีใจมาก ๆ เลย คุณคะ เราจะเป็นตากับยายกันแล้วนะ"“ส่วนเราก็เป็นปู่กับย่าสินะ ฮ่า ๆ ๆ เก่งมากทิวเทพ”พ่อแม่เราหันไปหัวเราะให้กันดังลั่นก่อนจะสลับกันลุกมากอดแสดงความยินดีกับเราทั้งสอง“ยังไม่หมดนะคะ ลองดูฟิล์มอัลตร้าซาวน์อีกรอบสิคะ”ทุกคนเดินไปหยิบฟิล์มมาดูแล้วต่างก็ต้องตกใจอีกครั้ง“แฝด!!??!”“ใช่ค่ะ หนูท้องลูกแฝดชายหญิง”“กริ๊ดดด”หลังจากนั้นทุกอย่างก็ชุลมุนไปหมด แม่ ๆ ต่างกรีดร้องด้วยความดีใจแล้วหันไปกอดกันเหมือนเด็
1 เดือนต่อมา“พี่ทิวคะ ท้องหนูมันใหญ่กว่าปกติหรือเปล่า”ฉันถามพี่ทิวในตอนเช้าที่เรากำลังแต่งตัวกัน ตอนนี้ฉันท้องแค่ 2 เดือนกว่า ๆ เองนะ ทำไมมันดูใหญ่จังพี่ทิวเดินมาสวมกอดจากด้านหลังเอาคางเกยไหล่ฉันเหมือนลูกแมว มือหนาลูบท้องที่เริ่มนูนเบา ๆ“งั้นเหรอ เดี๋ยวเราค่อยไปถามหมอนะวันนี้เราต้องไปตรวจ ไม่ลืมใช่ไหม?”“ไม่ลืมค่ะ”ฉันหมุนตัวอยู่หน้ากระจกไม่หยุด มันนูนกว่าปกติจริง ๆ นะ“แต่งตัวได้แล้วนะคะ จะได้ไปหาหมอเลย”“ค่ะ พี่ทิว”เราทั้งคู่เดินทางไปโรงพยาบาลด้วยความตื่นเต้น ในที่สุดก็จะได้รู้ผลเพศเจ้าตัวเล็กแล้ว“สวัสดีค่ะ คุณทิชา คุณทิวเทพ”“สวัสดีค่ะคุณหมอ”“ช่วงนี้อาการแพ้เป็นยังไงบ้าง แพ้หนักไหมคะ”“ก็สลับ ๆ กับสามีค่ะ ผลัดกันแพ้”“อดทนอีกนิดนะคะ ผ่านไตรมาสแรกไปได้ก็จะดีขึ้นค่ะ”“ค่ะ คุณหมอ”“เดี๋ยวหมอขออัลตร้าซาวน์เลยนะคะ คุณทิชาไปเตรียมตัวได้เลยค่ะ”“คุณหมอคะ คือ ท้องมันดูนูน ๆ แบบนี้ มันผิดปกติไหมคะฉันถามหมอออกไปตามที่สงสัยเพราะเคยรู้มาว่าท้องแรกมันจะไม่โตมาก“เดี๋ยวหมอดูให้นะคะ”หลังเปลี่ยนชุดเสร็จ ฉันก็ขึ้นไปนอนรอคุณหมอบนขาหยั่ง รอบนี้คุณหมอจะตรวจผ่านทางช่องคลอดเพื่อดูพัฒนาการของเด็
ผมเดินไปเดินมาหน้าห้องฉุกเฉินอย่างกระวนกระวายใจ นี่มันนานมากแล้วนะทำไมหมอยังไม่ออกมาอีก"นายครับไปนั่งเถอะ ผมเวียนหัวแทนนาย""เสือก”"เอ้า นายด่าผมทำไมเนี่ย”"ไอ้นนท์เงียบไปเลยมึง"มันหุบปากทันทีแต่แสดงสีหน้าล้อเลียนผมที่เดินเป็นหนูติดจั่นแทน"ขอเชิญคุณทิวเทพด้านในเลยค่ะ”ผมรีบเดินเข้าไปในห้องทันที่ทิชากำลังนั่งพิงหัวเตียงส่งยิ้มมาให้สีหน้าเธอดูสดใสขึ้นมาก"ทิชาเป็นไงบ้าง”“ทำไมทำหน้าแบบนั้นค่ะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมาก ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว”"อยู่ดี ๆ ก็เป็นลมไปแบบนั้น พี่เป็นห่วงนะ คุณหมอครับอาการภรรยาผมเป็นยังไงบ้าง”ผมหันไปถามอาการของเธอจากหมอที่อยู่ในห้อง"อาการเบื้องต้นไม่เป็นอะไรมากค่ะ แต่ยังไงหมอจะส่งตัวคนไข้ให้ไปตรวจอย่างละเอียดที่แผนกสูตินารีนะคะ”"ขอบคุณครับหมอ”พยาบาลเข็นวีลแชร์มาให้เธอนั่งแล้วย้ายเราทั้งคู่ไปที่แผนกสูตินารี เธอมีปัญหาภายในหรือเปล่าถึงต้องมาแผนกนี้ในใจผมคิดไปต่าง ๆ นา ๆ กลัวเธอจะเป็นอะไรที่มันอันตรายมากแต่ไม่ว่ายังไง ผมจะรักษาเธออย่างเต็มที่ตลอดทางที่พี่พยาบาลเข็นฉันไปที่แผนกสูตินารี คนที่เดินตามก็มีสีหน้าเป็นกังวลไม่หยุด ไม่รู้คิดเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนกันแน่ฉันแอ