“พี่ภูผานะพี่ภูผา” ภูพิงค์บ่นพึมพำ หูฟังเพลง มือเปิดประตูเข้าบ้าน ใบหน้าหวานบูดบึ้งเมื่อพี่ชายไม่ยอมให้ไปบ้านคุณลุงด้วย
Sweet baby, our sex has meaning
Know this time you'll stay 'til the morning
Duvet days and vanilla ice cream
More than just one night together exclusively
[Pre-Chorus]
Baby, Let Me be your man
So I can love you
And if you let me be your man
Then I'll take care of you, you
[Chorus]
For the rest of my life, for the rest of yours
For the rest of my life, for the rest of yours
For the rest of ours
“คอยดูเถอะหนูจะฟ้องพ่อจ๋าแม่จ๋าว่าพี่รักแต่ขุนศึก ฮื่อ” หญิงสาวเดินอิดออดถอนหายใจมองซ้ายมองขวาด้วยความระแวง เพราะหลายวันมานี้เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกสายตาของใครบางคนจับจ้องอยู่ตลอด
เฮ้อ...ภูพิงค์ถอนหายใจเดินตรงเข้าตัวบ้านใหญ่ เพราะวันนี้พ่อแม่ติดงานกว่าจะกลับก็คงมืด แล้วพี่ชายกับน้องชายยังทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว ถึงจะบอกว่าไปไม่นานก็น่าจะให้ตามไปด้วย
“คนใจร้าย!” มือเรียวเกี่ยวหูฟังเก็บเข้ากระเป๋า แล้วต้องงุนงงเมื่อเห็นใครก็ไม่รู้อยู่ตรงหน้าประตูบ้าน
“มาหาใครคะ พ่อไม่อยู่แม่ก็ไม่อยู่ พี่ภูผาก็ไม่อยู่...ขุนศึกก็ไม่อยู่” เด็กสาวในชุดนักเรียน ม.ปลายพูดและยิ้มให้แขกที่มาเยือน เขาเป็นหนุ่มลูกครึ่งผิวขาว จะว่าฝรั่งก็ไม่ใช่น่าจะเป็นลูกเสี้ยวมากกว่า แต่เขารูปร่างหน้าตาดี พร้อมผมทรงอันเดอร์คัตที่ดูหล่อเท่สะดุดตา แต่ดู ๆ แล้วไม่ค่อยน่าไว้ใจ
“นี่ลุง! หนูบอกว่าไม่มีใครอยู่ ค่อยมาวันหลังนะคะ” แต่เขาไม่ฟังกลับเดินผ่านหน้าเธอเข้าไปในบ้านอย่างหน้าตาเฉย
“แล้วเปิดบ้านได้ไง?” เด็กสาวยกมือเกาหัวตัวเอง
“หยุดนะลุง!!! หูหนวกรึไง” ก่อนภูพิงค์จะตะโกนเสียงดัง ดึงร่างใหญ่ของชายรูปร่างหน้าตาดีที่น่าจะอายุเยอะกว่าเธออยู่หลายปี แต่เขาไม่หยุดกลับเดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของเธอ
“นี่ นั่นมันห้องหนู เข้าไม่ได้” คนตัวเล็กรีบเดินเข้าไปขวางคนแปลกหน้าไว้
“หลบ ง่วง จะนอน” เขาถอดแว่นตาออก ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าหวาน ยกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน
หมับ!!!
“เด็กทุกวันนี้โตเร็วเป็นบ้า” มือสากหนาคว้าดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด ส่งสายตาเจ้าชู้มองจ้องไปที่หน้าอก
“พ่อมาแล้วปลุกด้วย เหนื่อยเป็นบ้าเลย” แล้วภูพิงค์ก็ได้แต่อ้าปากค้าง ยืนนิ่งตัวแข็งทื่อ อึ้ง มึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า
“เฮือก!!” คนตัวเล็กแทบจะหยุดหายใจ กลัวจนตัวสั่น เมื่ออยู่ ๆ เขาก็ขโมยหอมแก้มใส ก่อนจะปล่อยตัวเธอแล้วเดินตรงไปยังเตียง คนตัวเล็กได้แต่ยืนนิ่ง เป็นเจ้าของห้องแท้ ๆ กลับได้แต่มองคนแปลกหน้าก้าวเท้าขึ้นไปนอนบนเตียงที่หวงแหน
“.....” ก่อนเธอจะตั้งสติ และสิ่งเดียวที่รู้คือต้องออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ไวเท่าความคิดสองเท้ารีบวิ่งไปรอพี่ชายข้างล่างทันที
“ขุนศึก พี่ภูผา ช่วยด้วย” ภูพิงค์รีบวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายด้วยความหวาดกลัว โชคดีที่สองหนุ่มกลับมาบ้านได้ทันเวลา
“ภูพิงค์เป็นอะไร” เห็นแบบนั้นภูผารีบกอดปลอบน้องด้วยความตกใจ เพราะไม่เคยเห็นน้องสาวกลัวอะไรจนตัวสั่นแบบนี้มาก่อน
“ใครไม่รู้อยู่บนห้องหนู ไม่รู้ว่ามาจากไหน พอหนูมาถึงบ้านเขาก็อยู่หน้าบ้าน แล้วอยู่ ๆ เขาก็เดินเข้าบ้านตรงขึ้นไปบนห้องหนู พี่ภูผา หนูกลัว” เด็กสาวร้องไห้สะอื้นกอดพี่ชายแน่น
“ใครวะ เดี๋ยวพี่จัดการให้เองน้อง” ขุนศึกที่ฟังอยู่ ฉุนขึ้นมาทันที พร้อมท่าทางเอาเรื่องจะเดินขึ้นไปบนห้อง
“หยุด ขุนศึกจะไปไหน อยู่ข้างล่างรอจนกว่าพ่อแม่จะกลับมา ห้ามขึ้นไปข้างบน” ภูผารีบพูดท้วงน้องชายที่ทำท่าทีขึงขัง ถ้าเกิดเป็นโจร และถ้าซวยไปกว่านั้นเขามีอาวุธจะทำยังไง
“พี่ผา อะไรวะ ผมพร้อมบวกกลัวอะไรนี่มันบ้านเรานะพี่” ขุนศึกจ้องหน้าพี่ชายอย่างไม่พอใจ
“ไปรอพ่อกับแม่ที่ห้องรับแขก ภูพิงค์ไปอยู่กับน้องเดี๋ยวพี่โทรหาพ่อก่อน”
“โอ๋ ๆ ๆ ๆ ไม่ร้องนะคนสวยของพี่ มา ๆ พี่กอดปลอบ” ขุนศึกเดินเข้าไปกอดหอม ปลอบพี่สาวที่กำลังตกใจกลัว ด้วยสีหน้าท่าทางที่ทะเล้นกวนตามประสาท
“ฮื่อ” ยิ่งน้องโอ๋แบบนั้นภูพิงค์ก็ยิ่งร้องไห้โฮออกมาเสียงดัง ภูผาได้แต่ถอนหายใจรีบโทรบอกให้พ่อกับแม่รีบกลับมา
1 ชั่วโมงผ่านไปสไนเปอร์กับนับดาวพอรู้เรื่องก็รีบขับรถกลับบ้าน แต่เพราะรถติดกว่าจะถึงบ้านก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมง สองสามีภรรยาเดินอย่างรีบเร่งเข้าบ้านด้วยความเป็นห่วงลูก ๆ“พ่อจ๋า แม่จ๋า ฮื่อ!!!!” เด็กขี้อ้อนพอเห็นพ่อกับแม่เดินเข้าบ้านเท่านั้นแหละ ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม“ภูพิงค์ หยุดร้องก่อนหนวกหู” ขุนศึกถึงกับพูดเอ็ดพี่สาวที่ร้องไห้แบบนี้มาเป็นชั่วโมง“ก็พี่กลัวนิ ฮื่อ…ใครก็ไม่รู้น่ากลัว หน้าเขาเหมือนพวกโรคจิตเลยค่ะพ่อ หนูกลัว” เด็กสาวเอาแต่กอดพ่อที่ได้แต่นั่งนิ่งพยายามคิดว่าใครกันที่มันกล้าบุกเข้าบ้านแล้วยังกล้าบุกเข้าถึงห้องนอนลูกสาวสุดที่รักอีก“ไปหาแม่ เดี๋ยวพ่อไปดูเอง” สไนเปอร์กอดปลอบหอมหัวลูกรัก“แม่จ๋า ฮื่อ…ภูพิงค์กลัว” ภูพิงค์โผเข้ากอดแม่ด้วยความหวาดกลัว“แม่มาแล้วไม่ต้องร้อง พี่ภูผาก็อยู่ น้องก็อยู่ หยุดร้องไห้ก่อนลูก” นับดาวเองก็ได้แต่กอดปลอบลูก ปกติภูพิงค์ไม่ใช่เด็กขี้กลัวแบบนี้ แต่ใครเจอแบบนี้ก็ต้องตกใจกลัวเป็นธรรมดา“จะร้องอะไรอายังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย คนแค่ง่วงขอนอนห้องแค่นี้ทำอย่างกับจะตาย”ขวับ!!สี่คนพ่อแม่ลูกหันไปมองเจ้าของเสียงห้าวกวน ๆ เป็นตาเดียว“สวัสดีครับพี่"
กลางดึก“หึ…คนบ้าอะไร ขนาดนอนยังน่ารัก” คุณหมอหนุ่ม ผู้หลงใหลรอยยิ้มหวาน จ้องเด็กสาวที่นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นสาวน้อยถ่ายภาพคู่กับพ่อ จากนั้นมาเขาก็เหมือนคนบ้าที่รอให้เธอโตพอที่จะมาเป็นเมียเขาได้ จนมาถึงวันนี้ที่มันอดทนรอไม่ไหวถึงจะรู้ว่าพี่ชายหวงหลานสาวคนนี้มาก แต่ถ้าไม่เดินเข้าถ้ำเสือจะได้ลูกเสือมาได้ไง เขาลงทุนปีนหน้าต่างยามวิกาลเพียงแค่อยากอยู่ใกล้ อยากมองหน้าคนตัวเล็กให้นาน ๆ“คนอย่างไรเฟิล ถ้าอยากได้อะไรก็ต้องได้ เธอไม่มีทางรอดเงื้อมมือฉันไปได้แน่นอนสาวน้อย”“ขอจูบมัดจำหน่อยนะ แล้วจะรีบให้พ่อมาขอ” ไวเท่าความคิดกลีบปากนุ่ม ๆ ประทับจูบแตะลงที่ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพู“ทำไมนะ ทำไมต้องเป็นเธอภูพิงค์” เขาทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ พร้อมสวมกอดอีกคนไว้แนบอก“พี่ภูผาหนูหนาว” ด้วยความเคยชินที่เวลาฝันร้ายหรือกลัวจะชอบเดินร้องไห้เข้าไปนอนกอดพี่ชาย พอได้รับไออุ่นจากคนข้าง ๆ ใบหน้าหวานซุกหน้าหาองศาที่เหมาะสม มือเล็กกอดร่างหนาไว้แน่น“หึ…มันน่าจริง ๆ อดทนไว้ลูกพ่อ ไว้ให้แม่หนูโตกว่านี้ก่อนพ่อจะจัดให้เต็มที่” เขาพูดปรามเจ้าลูกชายที่มันกำลังขยายตัวขึ้น ใครล่ะจะไปทนได้ก็เนื้อนุ่มนิ
“…..” สไนเปอร์ได้แต่อดทนไม่ให้ตัวเองโมโหไปกับการยั่วอารมณ์ของอีกฝ่ายเพราะรู้ถึงความกวนของน้องชายดี“เงียบแสดงว่าตกลง ว่าแต่คู่หมั้นนี้เอาได้มั้ย แต่ได้แหละได้ข่าวว่าพี่กับพี่ดาวก็ทำ ไม่ได้เป็นแฟนกันด้วยซ้ำเท่าที่ผมรู้มา เนี่ยผมนับถือพี่แค่ไหนมาขอหมั้นก่อน เวลาพาน้องไปนอนบ้านด้วย น้องจะได้ไม่เสียหาย แต่ถ้าพี่ไม่สะดวกผมย้ายมาอยู่กับเมียได้” เมื่อเห็นพี่ชายเงียบไรเฟิลก็ยิ่งพูดยั่วโมโหเข้าไปใหญ่“ไอ้ไรเฟิล!!!!!!” สไนเปอร์ตะโกนเสียงแข็งอย่างหมดความอดทน“ครับคุณพ่อตาขอตัวก่อนนะ ว่าแต่ว่านี่เมียผมตื่นยังนะ” แล้วคนเจ้าเล่ห์สุดกวน ก็รีบวิ่งขึ้นไปหาเด็กสาวที่ยังนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มหลังจากที่แม่พึ่งปลอบและเดินออกจากห้องไม่ถึงสิบนาที“ไอ้ไรเฟิล ไอ้ฉิบหาย มึงตาย!!!!!!!!” สไนเปอร์รีบวิ่งตามไปเพราะเป็นห่วงถึงความปลอดภัยลูก“ไรเฟิล กูขอร้องภูพิงค์ยังเด็ก มึงมีทุกอย่างจะหาผู้หญิงกี่ร้อยกี่พันคนก็ได้ ทำไมต้องมายุ่งกับภูพิงค์” สไนเปอร์พูดอย่างใจเย็น พยายามไม่ให้ตัวเองสติแตกไปมากกว่านี้“ไม่ว่าจะใครหน้าไหน ผมก็ไม่เอา ผมจะเอาภูพิงค์คนเดียว!” ไรเฟิลพูดจริงจัง สายตาที่ขี้เล่นเจ้าเล่ห์เปลี่ยนเป็น ดุดัน ทรงพล
“อาพาหนูมาที่นี่ทำไม” ฉันพูดเสียงสั่นเมื่ออาไรเฟิลจูงมือเดินขึ้นมาบนห้อง ถ้าเดาไม่ผิดมันน่าจะห้องนอนของอา“อาแค่อยากอยู่กับหนูสองต่อสอง” น้ำเสียงเย็นเยือกชวนขนลุก ทำเอาตัวเล็กถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งตัว หัวใจดวงน้อยตกวูบเมื่อใบหน้าหล่อคมโน้มเข้ามาใกล้“อาคะ หนูกลัว อย่าทำอะไรหนูเลย” สองเท้าถอยหนีอย่างอัตโนมัติเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย“อาไม่ได้จะทำอะไร อาแค่อยาก...” สายตาดุดันคู่นั้นมองมาที่ริมฝีปากบางที่สั่นระริกด้วยความกลัว“ภูพิงค์อยากกลับบ้าน อาอย่าทำอะไรภูพิงค์เลยนะ” ฉันร้องไห้ออกมา เมื่อถอยหนีจนหลังชนผนังห้อง แต่อาไรเฟิลกลับไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาใกล้จนประชิดตัว ถูกดันติดผนังห้อง“สิ่งที่อาไม่ชอบที่สุดคือน้ำตาหนู รู้มั้ยเวลาที่หนูร้องไห้อาเจ็บ....”หมับ!มือหนาจับมือเล็กทาบลงบนอกตัวเอง“ไม่ร้องนะเด็กดี อาแค่อยากจูบหนู อาสัญญา อาจะไม่ทำอะไรไปมากกว่าจูบ ถึงอยากจะทำมากแค่ไหนก็ตาม”“เฮือก!! อึก!!” คนตัวเล็กสะดุ้งตกใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อริมฝีปากอุ่นแตะจูบซับน้ำตา สัมผัสมันอ่อนโยนและนิ่มนวลมาก แต่นั่นมันไม่ได้ทำให้ความกลัวหายไปไหน ยิ่งหวาดกลัวกับกา
Washington D.C.สหรัฐอเมริกา (USA)09:44 น.“ตอนนี้เมียกูทำอะไรอยู่วะ”[น่าจะอยู่บนห้องครับบอส ตอนนี้ผมอยู่บนต้นไม้ดูความเรียบร้อยรอบ ๆ บ้าน]“แล้วสถานการณ์วันนี้เป็นไง มีใครมายุ่งกับเมียกูมั้ย”[บอสไม่ต้องห่วงครับเรื่องนี้ผมจัดการผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้นายหญิง ว่าแต่นายจะกลับเมืองไทยวันไหนครับผมจะได้เตรียมทุกอย่างไว้รอ]“อีกสองสามวัน กูอยากจะไปวันนี้ด้วยซ้ำถ้าไม่ติดงาน เอาเป็นว่าดูแลเมียกูให้ดี”[ครับบอส] ...“ภูพิงค์ ภูสิตา อาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้หนูมาครอบครองทั้งตัวและหัวใจ” ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ เมื่อเห็นรูปถ่ายนับร้อยที่ลูกน้องถ่ายรายงานความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายให้เขาตลอดเวลาอย่างพอใจก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงนิ้วที่เคาะลงบนโต๊ะทำงานอย่างใช้ความคิด ร่างสูงใหญ่ที่ตามนิ้วเรียวใหญ่เต็มไปด้วยรอยสักและแหวนที่ใคร ๆ ก็ต่างอยากสวมใส่มัน ชายหนุ่มเอนหลังพิงเก้าอี้ พร้อมเปลือกตาที่ค่อย ๆ ปิดลงเมื่อนึกถึงวันที่จะได้อยู่กับเธออันเป็นที่รัก“แค่เธอ…ภูสิตา เธอคนเดียวเท่านั้น” เขาเผยรอยยิ้มมุมปากออกมาเมื่อนึกถึงวันนั้นที่จะได้เจอกันตึก ตึก ตึก“บอสครับรถพร้อมแล้ว” ก่อนเสียงฝีเท้าหนักของลูกน้
“อาพาหนูมาที่นี่ทำไม” ฉันพูดเสียงสั่นเมื่ออาไรเฟิลจูงมือเดินขึ้นมาบนห้อง ถ้าเดาไม่ผิดมันน่าจะห้องนอนของอา“อาแค่อยากอยู่กับหนูสองต่อสอง” น้ำเสียงเย็นเยือกชวนขนลุก ทำเอาตัวเล็กถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งตัว หัวใจดวงน้อยตกวูบเมื่อใบหน้าหล่อคมโน้มเข้ามาใกล้“อาคะ หนูกลัว อย่าทำอะไรหนูเลย” สองเท้าถอยหนีอย่างอัตโนมัติเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย“อาไม่ได้จะทำอะไร อาแค่อยาก...” สายตาดุดันคู่นั้นมองมาที่ริมฝีปากบางที่สั่นระริกด้วยความกลัว“ภูพิงค์อยากกลับบ้าน อาอย่าทำอะไรภูพิงค์เลยนะ” ฉันร้องไห้ออกมา เมื่อถอยหนีจนหลังชนผนังห้อง แต่อาไรเฟิลกลับไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาใกล้จนประชิดตัว ถูกดันติดผนังห้อง“สิ่งที่อาไม่ชอบที่สุดคือน้ำตาหนู รู้มั้ยเวลาที่หนูร้องไห้อาเจ็บ....”หมับ!มือหนาจับมือเล็กทาบลงบนอกตัวเอง“ไม่ร้องนะเด็กดี อาแค่อยากจูบหนู อาสัญญา อาจะไม่ทำอะไรไปมากกว่าจูบ ถึงอยากจะทำมากแค่ไหนก็ตาม”“เฮือก!! อึก!!” คนตัวเล็กสะดุ้งตกใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อริมฝีปากอุ่นแตะจูบซับน้ำตา สัมผัสมันอ่อนโยนและนิ่มนวลมาก แต่นั่นมันไม่ได้ทำให้ความกลัวหายไปไหน ยิ่งหวาดกลัวกับกา
“…..” สไนเปอร์ได้แต่อดทนไม่ให้ตัวเองโมโหไปกับการยั่วอารมณ์ของอีกฝ่ายเพราะรู้ถึงความกวนของน้องชายดี“เงียบแสดงว่าตกลง ว่าแต่คู่หมั้นนี้เอาได้มั้ย แต่ได้แหละได้ข่าวว่าพี่กับพี่ดาวก็ทำ ไม่ได้เป็นแฟนกันด้วยซ้ำเท่าที่ผมรู้มา เนี่ยผมนับถือพี่แค่ไหนมาขอหมั้นก่อน เวลาพาน้องไปนอนบ้านด้วย น้องจะได้ไม่เสียหาย แต่ถ้าพี่ไม่สะดวกผมย้ายมาอยู่กับเมียได้” เมื่อเห็นพี่ชายเงียบไรเฟิลก็ยิ่งพูดยั่วโมโหเข้าไปใหญ่“ไอ้ไรเฟิล!!!!!!” สไนเปอร์ตะโกนเสียงแข็งอย่างหมดความอดทน“ครับคุณพ่อตาขอตัวก่อนนะ ว่าแต่ว่านี่เมียผมตื่นยังนะ” แล้วคนเจ้าเล่ห์สุดกวน ก็รีบวิ่งขึ้นไปหาเด็กสาวที่ยังนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มหลังจากที่แม่พึ่งปลอบและเดินออกจากห้องไม่ถึงสิบนาที“ไอ้ไรเฟิล ไอ้ฉิบหาย มึงตาย!!!!!!!!” สไนเปอร์รีบวิ่งตามไปเพราะเป็นห่วงถึงความปลอดภัยลูก“ไรเฟิล กูขอร้องภูพิงค์ยังเด็ก มึงมีทุกอย่างจะหาผู้หญิงกี่ร้อยกี่พันคนก็ได้ ทำไมต้องมายุ่งกับภูพิงค์” สไนเปอร์พูดอย่างใจเย็น พยายามไม่ให้ตัวเองสติแตกไปมากกว่านี้“ไม่ว่าจะใครหน้าไหน ผมก็ไม่เอา ผมจะเอาภูพิงค์คนเดียว!” ไรเฟิลพูดจริงจัง สายตาที่ขี้เล่นเจ้าเล่ห์เปลี่ยนเป็น ดุดัน ทรงพล
กลางดึก“หึ…คนบ้าอะไร ขนาดนอนยังน่ารัก” คุณหมอหนุ่ม ผู้หลงใหลรอยยิ้มหวาน จ้องเด็กสาวที่นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นสาวน้อยถ่ายภาพคู่กับพ่อ จากนั้นมาเขาก็เหมือนคนบ้าที่รอให้เธอโตพอที่จะมาเป็นเมียเขาได้ จนมาถึงวันนี้ที่มันอดทนรอไม่ไหวถึงจะรู้ว่าพี่ชายหวงหลานสาวคนนี้มาก แต่ถ้าไม่เดินเข้าถ้ำเสือจะได้ลูกเสือมาได้ไง เขาลงทุนปีนหน้าต่างยามวิกาลเพียงแค่อยากอยู่ใกล้ อยากมองหน้าคนตัวเล็กให้นาน ๆ“คนอย่างไรเฟิล ถ้าอยากได้อะไรก็ต้องได้ เธอไม่มีทางรอดเงื้อมมือฉันไปได้แน่นอนสาวน้อย”“ขอจูบมัดจำหน่อยนะ แล้วจะรีบให้พ่อมาขอ” ไวเท่าความคิดกลีบปากนุ่ม ๆ ประทับจูบแตะลงที่ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพู“ทำไมนะ ทำไมต้องเป็นเธอภูพิงค์” เขาทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ พร้อมสวมกอดอีกคนไว้แนบอก“พี่ภูผาหนูหนาว” ด้วยความเคยชินที่เวลาฝันร้ายหรือกลัวจะชอบเดินร้องไห้เข้าไปนอนกอดพี่ชาย พอได้รับไออุ่นจากคนข้าง ๆ ใบหน้าหวานซุกหน้าหาองศาที่เหมาะสม มือเล็กกอดร่างหนาไว้แน่น“หึ…มันน่าจริง ๆ อดทนไว้ลูกพ่อ ไว้ให้แม่หนูโตกว่านี้ก่อนพ่อจะจัดให้เต็มที่” เขาพูดปรามเจ้าลูกชายที่มันกำลังขยายตัวขึ้น ใครล่ะจะไปทนได้ก็เนื้อนุ่มนิ
1 ชั่วโมงผ่านไปสไนเปอร์กับนับดาวพอรู้เรื่องก็รีบขับรถกลับบ้าน แต่เพราะรถติดกว่าจะถึงบ้านก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมง สองสามีภรรยาเดินอย่างรีบเร่งเข้าบ้านด้วยความเป็นห่วงลูก ๆ“พ่อจ๋า แม่จ๋า ฮื่อ!!!!” เด็กขี้อ้อนพอเห็นพ่อกับแม่เดินเข้าบ้านเท่านั้นแหละ ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม“ภูพิงค์ หยุดร้องก่อนหนวกหู” ขุนศึกถึงกับพูดเอ็ดพี่สาวที่ร้องไห้แบบนี้มาเป็นชั่วโมง“ก็พี่กลัวนิ ฮื่อ…ใครก็ไม่รู้น่ากลัว หน้าเขาเหมือนพวกโรคจิตเลยค่ะพ่อ หนูกลัว” เด็กสาวเอาแต่กอดพ่อที่ได้แต่นั่งนิ่งพยายามคิดว่าใครกันที่มันกล้าบุกเข้าบ้านแล้วยังกล้าบุกเข้าถึงห้องนอนลูกสาวสุดที่รักอีก“ไปหาแม่ เดี๋ยวพ่อไปดูเอง” สไนเปอร์กอดปลอบหอมหัวลูกรัก“แม่จ๋า ฮื่อ…ภูพิงค์กลัว” ภูพิงค์โผเข้ากอดแม่ด้วยความหวาดกลัว“แม่มาแล้วไม่ต้องร้อง พี่ภูผาก็อยู่ น้องก็อยู่ หยุดร้องไห้ก่อนลูก” นับดาวเองก็ได้แต่กอดปลอบลูก ปกติภูพิงค์ไม่ใช่เด็กขี้กลัวแบบนี้ แต่ใครเจอแบบนี้ก็ต้องตกใจกลัวเป็นธรรมดา“จะร้องอะไรอายังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย คนแค่ง่วงขอนอนห้องแค่นี้ทำอย่างกับจะตาย”ขวับ!!สี่คนพ่อแม่ลูกหันไปมองเจ้าของเสียงห้าวกวน ๆ เป็นตาเดียว“สวัสดีครับพี่"
“พี่ภูผานะพี่ภูผา” ภูพิงค์บ่นพึมพำ หูฟังเพลง มือเปิดประตูเข้าบ้าน ใบหน้าหวานบูดบึ้งเมื่อพี่ชายไม่ยอมให้ไปบ้านคุณลุงด้วยSweet baby, our sex has meaningKnow this time you'll stay 'til the morningDuvet days and vanilla ice creamMore than just one night together exclusively[Pre-Chorus]Baby, Let Me be your manSo I can love youAnd if you let me be your manThen I'll take care of you, you[Chorus]For the rest of my life, for the rest of yoursFor the rest of my life, for the rest of yoursFor the rest of ours“คอยดูเถอะหนูจะฟ้องพ่อจ๋าแม่จ๋าว่าพี่รักแต่ขุนศึก ฮื่อ” หญิงสาวเดินอิดออดถอนหายใจมองซ้ายมองขวาด้วยความระแวง เพราะหลายวันมานี้เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกสายตาของใครบางคนจับจ้องอยู่ตลอดเฮ้อ...ภูพิงค์ถอนหายใจเดินตรงเข้าตัวบ้านใหญ่ เพราะวันนี้พ่อแม่ติดงานกว่าจะกลับก็คงมืด แล้วพี่ชายกับน้องชายยังทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว ถึงจะบอกว่าไปไม่นานก็น่าจะให้ตามไปด้วย“คนใจร้าย!” มือเรียวเกี่ยวหูฟังเก็บเข้ากระเป๋า แล้วต้องงุนงงเมื่อเห็นใครก็ไม่รู้อยู่ตรงหน้าประตูบ้าน“มาหาใครคะ พ่อไม่อยู่แม่ก็ไม่อยู
Washington D.C.สหรัฐอเมริกา (USA)09:44 น.“ตอนนี้เมียกูทำอะไรอยู่วะ”[น่าจะอยู่บนห้องครับบอส ตอนนี้ผมอยู่บนต้นไม้ดูความเรียบร้อยรอบ ๆ บ้าน]“แล้วสถานการณ์วันนี้เป็นไง มีใครมายุ่งกับเมียกูมั้ย”[บอสไม่ต้องห่วงครับเรื่องนี้ผมจัดการผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้นายหญิง ว่าแต่นายจะกลับเมืองไทยวันไหนครับผมจะได้เตรียมทุกอย่างไว้รอ]“อีกสองสามวัน กูอยากจะไปวันนี้ด้วยซ้ำถ้าไม่ติดงาน เอาเป็นว่าดูแลเมียกูให้ดี”[ครับบอส] ...“ภูพิงค์ ภูสิตา อาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้หนูมาครอบครองทั้งตัวและหัวใจ” ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ เมื่อเห็นรูปถ่ายนับร้อยที่ลูกน้องถ่ายรายงานความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายให้เขาตลอดเวลาอย่างพอใจก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงนิ้วที่เคาะลงบนโต๊ะทำงานอย่างใช้ความคิด ร่างสูงใหญ่ที่ตามนิ้วเรียวใหญ่เต็มไปด้วยรอยสักและแหวนที่ใคร ๆ ก็ต่างอยากสวมใส่มัน ชายหนุ่มเอนหลังพิงเก้าอี้ พร้อมเปลือกตาที่ค่อย ๆ ปิดลงเมื่อนึกถึงวันที่จะได้อยู่กับเธออันเป็นที่รัก“แค่เธอ…ภูสิตา เธอคนเดียวเท่านั้น” เขาเผยรอยยิ้มมุมปากออกมาเมื่อนึกถึงวันนั้นที่จะได้เจอกันตึก ตึก ตึก“บอสครับรถพร้อมแล้ว” ก่อนเสียงฝีเท้าหนักของลูกน้