ปรายฟ้าเงียบไปและน้ำรื้นพลันเหือดแห้งในวินาทีที่เธอได้ยินเขากล่าวเช่นนั้น หญิงสาวตัวแข็งทำอะไรไม่ถูกแม้แต่มือก็ปล่อยนิ่งไว้ข้างลำตัว“มีผู้ชายมากมายในโลกกลัวการต้องถูกจองจำอิสรภาพของตัวเองด้วยโซ่เส้นใหญ่ที่เรียกกันว่า ทะเบียนสมรส สำหรับคนที่ไม่ได้รักกันอาจจะเรียกว่าการผูกมัด แต่ถ้าทุกอย่างเกิดจากความเต็มใจมันก็คือการแสดงสายใยของการพร้อมจะผูกพัน และสำหรับผมมันมีความหมายเป็นอย่างหลัง แต่สำหรับคุณ...”เขมราชคลายอ้อมแขนจากร่างบางที่ยืนนิ่งด้วยยังเข้าใจว่าถึงอย่างไรปรายฟ้าก็ไม่เคยยินดีกับการกระทำของเขา“คุณคงคิดเป็นอย่างแรก...ใช่มั้ยปราย”“คุณเขมคะ!”ชายหนุ่มต้องชะงักตัวเองขณะจะหันหลังกลับไปเมื่อมือบางของปรายฟ้ายื้อแขนของเขาไว้แน่น“คุณบอกปรายเองไม่ใช่หรือคะว่าจะให้ปรายมาอยู่ที่นี่ในฐานะนางบำเรอ ปรายต้องเชื่อที่คุณพูดทุกอย่างไม่ใช่หรือคะ ทั้ง ๆ ที่ปรายกำลังจะถูกความเย็นชาของคุณฆ่าให้ตายอยู่แล้วเวลาเจอกัน ในเมื่อคุณแสดงออกว่าคุณเกลียดปราย ปรายก็ต้องเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแค่การผูกมัด เพราะปรายเชื่อในสิ่งที่คุณแสดงออก เชื่อว่าคุณ...ไม่ได้รักหรือผูกพันกับปรายอีกแล้ว”เขมราชดึงร่างเจ้า
ร่างบางที่กำลังอยู่ในอารมณ์ร่วมอันบรรเจิดกลั้นใจบอกชายหนุ่มที่ภวังค์นั้นเตลิดหายไปในห้วงฝันซึ่งมีเพียงเขาและเธอเสียแล้ว เขมราชเลื่อนเรียวปากและลิ้นหนาออกแม้ยังไม่อิ่มเอมขณะเลื่อนมือทั้งสองขึ้นมาบีบคลึงอย่างจะทดแทนสัมผัสในจังหวะที่เขาต้องตอบคำถาม“ป้านางออกไปตลาด กว่าจะกลับมาก็ใกล้เที่ยง...นอกจากว่า คุณกับผมจะอยู่กันแบบนี้จนค่ำ ป้านางคงได้เห็นว่าผัวเมียเขารักกันมากขนาดไหน”“คุณเขม...ปรายยังไม่ได้ทานอะไรตอนเช้าเลยนะคะ แบบนี้เขาเรียกว่าใช้แรงงานแบบทารุณรู้ไหมคะ”ร่างเล็กแสร้งตัดพ้อหากแต่ยั่วยวนด้วยการลากไล้ปลายนิ้วเรียวไปมาบนริมฝีปากของเขาจนคนตัวโตร้อนไปหมดที่แก่นกลางซึ่งความแข็งขันดุนดันหญิงสาวอยู่เบื้องล่าง“เดี๋ยวผมจะทำให้คุณอิ่ม...จนไม่อยากกินอะไรไปทั้งวัน”เขมราชยืนยันคำพูดด้วยการใช้มือดันศีรษะของหญิงสาวให้ใบหน้าสวยหวานโน้มลงมาหาริมฝีปากของเขาที่คอยรอด้วยความกระหายใคร่ได้ครอบครองความชุ่มฉ่ำในโพรงปากนั้นอย่างล้ำลึกปรายฟ้าเบียดร่างเกือบเปลือยเข้าหาความกำยำบนร่างสูงใหญ่ที่ใช้ตัวเองรองรับอยู่ด้านล่างทั้งไม่หยุดทำให้กายสาวราวอยู่กลางคลื่นความร้อนที่เปลวแห่งความวาบหวามแผดเผาจากทุกทิศทางด
ร่างบางขยับสะโพกตัวเองเพื่อตอบรับการแทรกเข้าและคลายออกของนิ้วหนาที่สลับกับการบีบคลึงยอดเกสรที่โผล่ออกมาพ้นกลีบดอกไม้ เขากำลังทำให้เธอร้องขอในสิ่งที่เธอก็ปรารถนานั่นนักแล้ว“รัก...ปรายรัก...คุณค่ะ...เขม...ปรายรักคุณ”เสียงกระเส่าขาดเป็นห้วง ๆ ทำให้รอยยิ้มทอประกายความพึงพอใจจุดขึ้นบนเรียวปากหยักที่ยื่นเข้าไปกดจูบเรียวปากอิ่มแสนจิ้มลิ้มของปรายฟ้า เขาจะไม่ให้เธอต้องตกอยู่ในความโหยหาอันแสนทรมานนานนักเมื่อมือข้างที่ลงทัณฑ์คนปากแข็งจนคายความรู้สึกออกมาเลื่อนไปยังซิปกางเกงเพื่อปลดปล่อยความอัดอั้นเกินจะปิดกั้นได้ไหวก่อนขยับอันเดอร์แวร์ลูกไม้เพื่อแทรกความแข็งขันเข้าไปสุดทางแล้วเขาก็ปล่อยให้ร่างเล็กบนหน้าตักขยับโยกไปตามจังหวะที่เจ้าของร่างสูงใหญ่และหญิงสาวสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวท่ามกลางเกลียวคลื่นพิศวาสถาโถมจนเหงื่อเม็ดเล็กเริ่มชื้นบนกายทั้งสองที่บดเบียดเสียดสีไม่มีท่าจะหยุดและเมื่อความวาบหวิวปลิวทะยานขึ้นยอดเขาสูงชายหนุ่มกลับกดสะโพกผายและบั้นท้ายกลมกลึงให้ผ่อนเบาจังหวะลงเพื่อซุกไซ้แก้มสากด้วยเคราบางไปบนเนินถันที่สั่นไหวตามการโยกย้ายอันรัญจวน ปรายฟ้าโอบแขนเรียวรอบลำคอและจูบซับรอยเหงื่อบนหน้าผา
“ถ้าปรายกลับไปจริง ๆ ล่ะคะ คุณอาจจะมีความสุขมากกว่าเดิมก็ได้”“พูดไม่ทันข้ามชั่วโมงก็น้อยใจเสียอีกแล้ว...ถ้าคุณกลับไปหาผู้ชายคนนั้นจริง ๆ ผมอาจเป็นฆาตกรฆ่าคนตายเพราะความหึงหวง หรือคุณคิดอยากจะลอง”ปรายฟ้าเลื่อนใบหน้าออกห่างจากเขาเล็กน้อยเพื่อสบตาคมที่ส่องประกายกล้าขึ้น“ทำไมไม่ทำล่ะคะ...ในเมื่อก่อนหน้านี้คุณจะทำอย่างที่พูดก็ได้”หญิงสาวยังไม่ได้รับคำตอบทว่าชายหนุ่มขยับตัวอย่างนุ่มนวลโดยยังไม่ยอมถอดถอนตัวเขาออกจากร่างของเธอที่นั่งนิ่งบนหน้าขาแข็งแกร่ง“ผมจะฆ่ามันถ้ายังมายุ่งกบเมียชาวบ้าน!...แต่สำหรับเมียของผม ผมจะฆ่าด้วย...”เขาชะงักคำพูดและยื่นหน้าเข้าไปชิดจนจมูกโด่งชนกับจมูกเล็กพร้อมกระตุกยิ้มมุมปาก“อะไรหรือคะ?”“ผมจะฆ่าคุณ...ด้วยวิธีของผม...ที่คุณจะไม่มีวันลืม”ปรายฟ้าอย่างเบี่ยงหลบทว่าร่างกายกลับทรยศด้วยการแลกลิ้นร้อนจากเรียวปากหนาที่ประกบลงมาอย่างเร่งเร้า เธอยอมจำนนต่อคำพูดนั้นโดยดุษฎีว่าในทุกนาทีที่เธอคิดถึงรสรักแสนตรึงตรานั้นยิ่งกว่าถูกเขาฆ่าด้วยรสเสน่หาที่เธอไม่มีมีวันลืมมันได้ลงแดดอ่อนยังทาบทอลงสู่สายนทีเบื้องล่างยามอรุณรางริมฝั่งแม่น้ำสายใหญ่ บทเพลงแห่งรักยังคงขานขับเนิ่นนา
เรียวปากหนาบนใบหน้าของก้องกาจที่คลี่ออกหุบลงในทันใด เขามองเห็นความแน่วแน่ส่องประกายอยู่ลึกภายในดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้น บรรยากาศของความเครียดตึงเริ่มแผ่ขยายโอบคลุมคนทั้งสองที่ต้องมาพบกันด้วยความรู้สึกใหม่ราวไม่คุ้นเคย เขมรินหันออกไปทางบานกระจกของห้องซึ่งเบื้องนอกเป็นภาพยอดตึกสูงในเมืองใหญ่ก่อนเปล่งวาจาเสมือนพูดกับตัวเธอเอง“ครั้งหนึ่งที่ขิมรักคุณ มีอะไรหลายอย่างบอกขิมว่าโลกนี้เป็นของขิมคนเดียวเท่านั้น และเมื่อคุณจากไป โลกทั้งใบก็ยังเป็นของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่อาจก้าวออกมาจากโลกที่ตายไปแล้วนั่นได้ ทุกอย่างเหือดแห้งไปหมดเพราะมันไม่มีน้ำเลี้ยง แต่ก็ยังคงอยู่ได้แค่ลมหายใจของซากชีวิต กับความว่างเปล่า...กับความสิ้นหวัง ตอนนี้ขิมคิดว่าตัวเองโชคดีที่หลุดออกมาจากโลกที่ไม่มีอะไรเลยใบนั้นได้ และคนที่พาขิมก้าวพ้นมาจากความทุกข์ทรมาน...คือคุณปราย”“คุณว่าอะไรนะ!” ก้องกาจพรึงเพริดกับคำพูดเสมือนตอบโจทย์ที่เขาสร้างขึ้นของอีกฝ่าย เขามึนงงไปหมดกับท่าทีราวไม่ยี่หระของเขมริน ตอนนี้คนที่อยากรู้ความเป็นไปกลับเป็นเขาเสียเองที่อยากเข้าใจคำบอกเล่านั้น เธอหันกลับมายังชายหนุ่มและเป็นผู้เหยียดยิ้มเยาะทั้งหยดน้ำตากับคว
“ป้านางเตรียมของจะตักบาตรหรือคะ?”ปรายฟ้าเอ่ยถามแม่บ้านวัยกลางคนขณะเดินเข้าไปในครัวตอนเช้าตรู่และเห็นป้านางกำลังสาละวนกับการเตรียมอาหารเป็นชุดและดอกไม้หอมอย่างดอกบัววางไว้ข้าง ๆ นางหันมาทางหญิงสาวและส่งยิ้มให้ก่อนจะเอ่ยตอบ“ป้าไม่ได้ตักเองหรอกนะคะ...คุณเขมเธอให้ป้าจัดไว้ให้เช้านี้ เธอจะตักบาตร”“คุณเขมตักบาตรหรือคะ?...อืม...ตั้งแต่ปรายมาอยู่ที่นี่ไม่เห็นคุณเขมจะตื่นเช้ามาตักบาตรเลย”“ผมอยากตักบาตรกับคุณ...วันนี้เป็นวันเกิดของผม”เสียงกังวานที่ดังแทรกเข้ามาทำให้แม่บ้านต้องรีบจัดของตักบาตรลงในถาดก่อนจะเลี่ยงออกไปด้านนอกด้วยรู้ดีว่าถ้าอยู่ต่อเป็นต้องได้ขวยเขินกับการแสดงออกซึ่งความรักของเจ้านายหนุ่มและภรรยาของเขาที่คอยเฝ้าแนบชิดกันแทบจะตลอดเวลาเขมราชในชุดลำลองเดินเข้ามาถึงตัวหญิงสาวภายใต้เสื้อชีฟองแขนยาวสีครีมและกางเกงขาเดฟสีนิลประกายขณะสอดแขนรั้งแผ่นหลังให้ร่างนั้นชิดเข้าหาอกกว้าง ชายหนุ่มมีความสุขทุกครั้งที่ได้โอบรัดร่างบางนี้ไว้ในอ้อมกอดทั้งอยากฝังความลุ่มหลงนี้ไว้ในความงามนั้นทุกคราวที่ใกล้ชิด ปรายฟ้ายกแขนพาดไว้บนบ่าของเขาราวจะตอบรับสัมผัสอันลึกซึ้งที่ตรึงเธอไว้ยากนักจะผลักไสเขาได้พ้
ชายหนุ่มยิ้มกริ่มก่อนคลายวงแขนจากร่างเพรียวบางขึ้นรถสตาร์ทเครื่องยนต์ ก่อนถอยรถออกจากรั้วบ้านต่างคนต่างมองราวอยากให้เวลากลางวันหดสั้นเหลือเพียงชั่วยามเดียว และเมื่อเขมราชพารถแล่นลับไปจากประตูรั้ว ปรายฟ้าจึงเดินกลับเข้าบ้านด้วยความนึกคิดมากมายว่าคืนนี้เธอจะทำอะไรดีเพื่อดินเนอร์กับสามีสุดที่รักท่ามกลางบรรยากาศแสนหวานไม่มีใครแม้สักคนสังเกตว่าอีกฝั่งถนนตรงข้ามบ้านริมน้ำมีรถสปอร์ตสีเงินเมทัลลิคจอดนิ่งสนิทอยู่นานแล้ว เมื่อไม่มีใครอยู่บริเวณนั้นกระจกอาบฟิล์มสะท้อนแสงจึงถูกเลื่อนลงครึ่งหนึ่งเผยให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวด้านคนขับขณะดึงแว่นสีชากรอบใหญ่ออกพร้อมรอยยิ้มแสยะและนัยน์ตาสะท้อนความริษยารุนแรง“มามีความสุขกันอยู่ที่นี่เอง!...หึ!...เขม คุณยังรู้จักอัญชิสาคนนี้น้อยไป แล้วคุณต้องสำนึกว่าคุณคิดผิด ที่ไม่ยอมเลือกอัญ!”เขมราชต้องเหลียวกลับไปตามเสียงเรียกที่ดังขึ้นด้านหลังเมื่อก้าวลงจากรถเก๋งคันหรูหลังพาเข้าไปจอดบริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดินของตึกอัครินทร“เขม!...อย่าเพิ่งรีบไปสิคะ รออัญด้วย”“อัญชิสา...” ชายหนุ่มไม่ทันก้าวขาร่างระหงของอัญชิสาในชุดกระโปรงหนังสีดำสนิทก็วิ่งเข้ามาประชิดร่างหนาใหญ่ทั้งย
ร่างสูงใหญ่หันหลังเดินจากไปโดยมิได้แยแสต่อประกายตาเว้าวอนของอีกฝ่ายที่แปรเปลี่ยนเป็นเคียดแค้นชิงชัง อัญชิสาเหยียดเรียวปากบางออกอย่างสาแก่ใจ เวลาเพียงน้อยนิดที่เธอได้อยู่ใกล้ชิดกับเขมราชนั้นมีค่าเกินพอแล้วสำหรับแผนเอาคืนอันแยบยล“ใช่ค่ะเขม...ทุกอย่างไม่มีอะไรเหมือนเดิม แม้แต่คุณกับนังผู้หญิงหน้าด้านโดนโจรฉุดไปแล้วยังอุตส่าห์มีผู้ชายงี่เง่าไปคอยเอาใจ!”หญิงสาวพูดกับตัวเองก่อนจะหันไปทางชายร่างสันทัดอายุราวสามสิบกว่าในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์ที่ก้าวออกมาจากด้านหลังรถเก๋งคันหนึ่งซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกลพร้อมกล้องถ่ายรูปแบบมืออาชีพซึ่งเจ้าตัวถือออกมาด้วย“ผมเก็บได้หลายภาพเลยครับคุณอัญชิสา แต่ละภาพชัดเจนอย่างที่คุณต้องการ แล้วจะให้ผมทำยังไงต่อไปครับ?”“นี่เป็นค่าเหนื่อย” อัญชิสาล้วงหยิบเงินสดปึกหนึ่งจากกระเป๋าคลัตช์ยื่นให้ชายผู้นั้นขณะมองไปที่อุปกรณ์ในมือของเขาอย่างชั่งใจ“เอารูปพวกนี้ไปอัดขนาดใหญ่ ๆ เลยนะ รูปใหญ่ ๆ ชัด ๆ คนที่เขาดูจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดาว่าคนในรูปเป็นใคร!”ดวงอาทิตย์ค่อยเคลื่อนต่ำลงแตะเส้นบรรจบระหว่างขอบฟ้าและผืนโลกในยามเย็นย่ำ ปรายฟ้าเดินวนไปเวียนมารอบโต๊ะภายในห้องครัวขนาดใหญ่
“คุณจะรู้อะไร! นังนั่นมันคงหลอกล่อคุณให้ตายใจด้วยความสวยของมัน... ลูกสาวของนรา เจ้าของ ดิ เอเมอรัล ใครก็รู้ว่าสวยหยาดฟ้ามาดิน แต่ในวงสังคมมันก็เป็นแค่เจ้าสาวที่คงถูกพวกโจรพาไปทำปู้ยี่ปู้ยำจนหมดแล้ว คุณไม่มีวันรู้หรอกเขมว่ามันมีสามีมากี่คนแล้วก่อนจะถึงมือคุณ”“คุณคงอยากได้ความกระจ่างมากกว่าที่มืดบอดอยู่ ผมนี่แหละ ผู้ชายคนแรกของปรายฟ้า คนที่ฉุดเธอไปจากงานแต่งคืนนั้นคือผม เขมราช อัครินทร!”“กรี๊ด!...ไม่จริง!...เขม คุณจะบ้ารึไง คุณพูดออกมาได้ยังไงว่าคุณเป็นคนฉุดปรายฟ้าไป คุณแกล้งอัญใช่มั้ยถึงได้กุเรื่องบ้าบอคอแตกนี้ขึ้นมา!”“ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น คนอย่างผมไม่เคยล้อใครเล่น และไม่รู้จักการโกหก โดยเฉพาะกับคนที่ผมรัก”เขมราชดูจะใส่ใจต่อเสียงกรีดร้องปลายสายน้อยลงในทุกขณะเมื่อร่างที่เขาทาบทับอยู่นั้นเป็นฝ่ายผงกศีรษะขึ้นมาเพื่อมอบจูบอันหน่วงหนักโดยละทิ้งความกริ่งเกรงในคราวแรกว่าสามีของเธอจะใจอ่อนต่อผู้หญิงคนนั้น“เขม...คุณต้องสั่งทนายของคุณให้หยุดเดินเรื่องฟ้องอัญเดี๋ยวนี้นะคะ คุณทำแบบนี้ไม่ได้ อัญเป็นแฟนคุณ ไม่ใช่คู่กรณีทางกฎหมายแบบนี้”“ก็แค่เคย...ผมจะไม่พูดอะไรในตอนนี้ เพราะคนที่จะพูดแทนผมได้คื
“ผมรักคุณนะปราย...มากกว่าอะไรในโลกนี้”เสียงปนหอบขานรับดังชัดกว่าสายฝนพรำและประทับลงสู่เบื้องลึกของความทรงจำที่มี เขา เสมอมิเสื่อมคลาย“ปรายก็รักคุณค่ะ...มากกว่าอะไร...ในโลกนี้”เสียงนกร้องปลุกสำนึกแรกของเขมราชให้ลืมตาตื่นรับประกายแดดอ่อนเบาที่ทอดผ่านเข้ามาทางบานกระจกหน้าต่างหลังคืนฟ้าฝนตกหนักผ่านพ้นไป เปลือกตาใต้โครงคิ้วหนาเป็นปื้นกระพริบถี่รัวเพื่อปรับม่านนัยน์ตารับแสงแรกของอรุณใหม่ภายในเรือนไม้หลังงามซึ่งเขาชื่นชมนักเมื่อมาถึงครั้งแรก ชายหนุ่มยังไม่ขยับตัวไปทางใดเมื่อดวงตาคมเปิดรับภาพอันชัดเจนและตรึงตราของปรายฟ้าที่ยังนอนหนุนแขนของเขาต่างหมอนตลอดทั้งคืน ร่างสูงใหญ่บิดตะแคงเพียงน้อยเพื่อเพ่งพิศความงามของร่างเล็กเปลือยเปล่าซึ่งยังคงทิ้งตัวในนิทรารมย์ใต้ผ้าห่มคลุมแค่เนินเนื้ออิ่มเผยเนียนผิวขาวช่างเจิดจรัสราวกุหลาบงามใต้ละอองแดดอาบไล้ฉาบประกายชมพูบนเนื้อนวลอันหมดจดผู้อยู่ในอ้อมแขนขยับตัวบางครั้งเพื่อบดเบียดตัวเองเข้าหาแผ่นอกกว้างทำให้เขาได้กลิ่นหอมเบาบางจากเรือนผมดำยาวสยายเต็มหมอนโอบล้อมวงหน้ารูปไข่และแก้มเปล่งปลั่งตามธรรมชาติโดยไร้การแต่งเติมสีสันใด ๆ ทว่าก็ช่างน่ามองนัก ทุกครั้งที่ร
“คะเขม”“ผมลืมไปว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่คุณกับผม”“คุณหมายถึงลูกของเราใช่ไหมคะ”เขมราชเลื่อนตัวลงแนบข้างแทนที่จะทิ้งน้ำหนักบนร่างสาวโดยตรงพลางวางฝ่ามือหนาลงบนหน้าท้องที่ยังเรียบตึงแต่ก็เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวช่างนุ่มนิ่มอิ่มอวบขึ้นมากกว่าแต่ก่อน หากก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความมีน้ำมีนวลนี้เร่งเร้าให้เขาอยากสัมผัสเธอไปทุกส่วนสัด ยิ่งเนินถันอวบอัดที่กระเพื่อมขึ้นลงนั้นดูคล้ายบัวตูมดอกใหญ่อิ่มขยายชูช่อรอรับหยาดแห่งความฉ่ำชื่น“เขาจะเป็นอะไรมั้ยถ้าเรา...”ปรายฟ้าวางมือบางบนหลังมือที่แนบอยู่บนแผ่นผิวหน้าท้องราบเรียบด้วยความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด“เขาอยู่ลึกมากเลยค่ะเขม ปรายยังไม่รู้สึกว่าเขาตอบสนอง แต่เขาอยู่ที่นั่นค่ะ”“ปราย...ที่ผมรีบตามคุณมาที่นี่เพราะกลัวว่าคุณจะทำอย่างขิม เป็นความจริงที่ผู้ชายตัดสินใจทำอะไรได้รวดเร็วเด็ดขาด แต่เรื่องความใจเด็ดเราอาจมีไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งของผู้หญิง”ร่างเล็กเบียดตัวเองเข้าหาความแข็งแกร่งกำยำราวจะบอกในทีว่าถึงอย่างไรสตรีก็ไม่เคยลืมทิ้งความอ่อนหวานให้บุรุษถวิลหา“คุณกำลังจะว่าผู้หญิงโหดเหี้ยมกว่าผู้ชาย ถึงยังไงเราก็สู้คนตัวโตกว่าไม่ได้อยู่แล้วนี่คะเขม”เขมราชลากปลาย
“ปราย...ผมจะแต่งงานกับคุณ”ปรายฟ้าชะงักงันแม้ชุดนอนจะถูกรั้งลงไปกองอยู่ข้างเตียงเหลือเพียงร่างงามเปล่าเปลือยผ่องผุดใต้แสงเย็นตา เขมราชไล้ปลายนิ้วสากไปบนผิวนิ่มลื่นบนไหล่บางและเกลี่ยปลายผมที่ทิ้งตัวลงมาปิดถันอิ่มออกไปโดยไม่ได้สนใจดวงตากลมโตฉายความฉงนของอีกฝ่ายแต่อย่างใด“เขมคะ...ปรายแต่งงานกับคุณไม่ได้หรอกค่ะ”หญิงสาวจับมือของเขาที่ไล้ลูบบนเนินทรวงทั้งที่ความรุ่มร้อนเริ่มแผดเผาจากข้างในทว่าก็ยังมีข้อสงสัยที่เธออยากคลี่คลายมันเสียก่อน“มีอะไรที่ยากลำบากสำหรับคุณหรือปราย ในเมื่อตอนนี้ก้องกาจก็อยู่ต่างประเทศ”“มันไม่ได้เกี่ยวกับพี่ก้อง แต่มันเป็นชื่อเสียงของคุณ ประธานกลุ่มบริษัทอัครินทรต้องหมองมัวแน่ถ้าสังคมรับรู้ว่าคุณจะลงเอยกับเจ้าสาวที่ถูกฉุดหายไปในวันแต่งงาน... ปรายฟ้า นิรกิจจากร”“คุณคือปรายฟ้า อัครินทร ต่างหาก ลืมไปแล้วหรือว่าหลักฐานในทะเบียนสมรสระบุไว้อย่างนั้น หรือถ้าคุณคิดว่ามันยังไม่ชัดเจนพอ ผมก็จะขอเอาตัวเองพิสูจน์กับคุณเสียเดี๋ยวนี้เลย”“เขม...” เรียวปากจิ้มลิ้มอ้าออกไม่ทันคัดค้านก็ถูกประกบปิดไว้แน่นแนบจากเจ้าของใบหน้าคมคาย ชายหนุ่มไม่ต้องการประวิงเวลาไว้สำหรับความเข้าใจอันลึก
“ปราย...” เขาแน่ใจว่าเธออยู่ตรงนั้นในเวลาที่ยังรำลึกถึงคำพูดซึ่งเขายังจดจำอยู่เสมอ“ปรายกลัวเสียงฟ้าผ่าค่ะ...เป็นมาตั้งแต่เด็ก แก้ไม่เคยหายเลย”“แล้วเมื่อก่อนเวลาคุณกลัว...คุณทำยังไง” “ปรายชอบแอบอยู่ข้างเตียง...ตลกมากใช่มั้ยคะ ปรายไม่เคยบอกใครเลย”ชายหนุ่มก้าวไปหยุดใกล้ ๆ และเห็นชัดว่าร่างเล็กห่อกายด้วยผ้านวมผืนใหญ่ซุกตัวอยู่ติดผนังห้องตรงหัวเตียงด้านล่าง“เขม...เขมคะ” เสียงสั่นเครือบอกความกลัวเจือด้วยความเว้าวอนนั้นทำให้เขมราชรู้ตัวว่าเขาคงมิอาจทอดทิ้งปรายฟ้าไปไหนได้อีกแล้วเมื่อร่างสูงตระหง่านตรงเข้าไปคุกเข่าและกอดหญิงสาวในผ้านวมแนบแน่น“ปราย...ไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่ตรงนี้แล้ว อย่ากลัว ผมจะปกป้องคุณเอง”ร่างอรชรสลัดผ้าผืนหนาออกก่อนสอดแขนเรียวโอบรอบแผ่นหลังกว้างราวกับเธอก็หมดสิ้นแล้วซึ่งทิฐิและความถือดีใด ๆ นอกจากหัวใจเพรียกหาสามีผู้เป็นที่รัก“ไหนคุณบอกนายย้งว่าคุณจะกลับกรุงเทพแล้วไงคะ คุณจะกลับไปจริง ๆ ใช่ไหมคะ?”“คุณเชื่อที่ผมพูดหรือ...แล้วคุณรู้ได้ยังไง คุณได้ยินทุกอย่างใช่มั้ยที่ผมคุยกับนายย้งข้างนอก”ชายหนุ่มใช้มือทั้งสองแนบลงกับหูของหญิงสาวและตรึงให้ใบหน้าหวานเผชิญกับเขาอย่างนุ่
“จะให้ผมรับหมอมาดูอาการของคุณเขมราชที่นี่หรือเปล่าครับคุณปราย”นายย้งเสนอตัวก่อนหันไปมองใบหน้าคมคายซีดเผือดบนร่างสูงกำยำซึ่งยังนอนหายใจหนักใต้ผ้าห่มผืนหนาด้วยความร้อนยังไม่ทุเลาเบาลง“ไม่ต้องหรอกค่ะ...นายย้งคอยเฝ้าดูอาการของเขาตรงนี้แล้วกันนะคะ ถ้าไข้เขาลดแล้ว...”ปรายฟ้าระบายลมหายใจก่อนพูดต่อเสียงหวิว“ปรายจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้นายย้งพาเขาไปส่งที่กรุงเทพค่ะ”“คุณปรายครับ...แต่ว่าคุณเขมราชเพิ่งมาถึงนะครับ แล้วถ้าให้ผมพาเขากลับกรุงเทพคุณปรายจะอยู่กับใคร”“ปรายอยู่คนเดียวได้ค่ะ! ปรายอยากอยู่คนเดียวมากกว่าจะมีเขา ซึ่งการที่มีเขาหรือไม่มี ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างนี่คะนายย้ง”ร่างบางกล่าวจบก็เดินออกไปจากที่นั้นซึ่งนายย้งรู้ดีว่าคุณหนูของเขาคงไปนั่งจัดดอกไม้ในสวนข้างบ้านอย่างเคย เขาส่ายหน้าไปมาก่อนพูดกับตัวเอง“เฮ้อ!...คุณปรายของย้ง ดูเหมือนจะใจอ่อนแล้ว บทจะแข็งขึ้นมาก็เอาไม่อยู่เหมือนกัน”.ใช่แต่คำพูดของนายย้งที่แทรกซึมเข้าไปในประสาทรับรู้ของเขมราช ถ้อยวาจาก่อนหน้าของปรายฟ้าก็ยังดังชัดเจนในหูของคนทำทีเสมือนหลับหากก็เปิดเปลือกตาขึ้นมาเมื่อผู้รับคำสั่งให้คอยดูแลเดินกลับเข้าไปในครัวแล้ว“ตื๊อเท
ร่างอรชรโคลงศีรษะขับไล่ความมึนงงก่อนลุกขึ้นจากเตียงอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงผ้าไหมเรียบลื่นสีครีมขับประกายผุดผ่องบนผิวขาวอมชมพูในวันท้องฟ้ายังขมุกขมัว และเมื่อเธอเปิดประตูห้องนอนก็ยังรู้สึกว่าบ้านช่างเงียบเชียบ...หรือเขมราชกลับกรุงเทพฯ ไปแล้วแต่แล้วหญิงสาวก็หมดสงสัยเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ยังคงนอนเหยียดยาวใต้ผ้านวมคลุมมิดชิดถึงลำคอบนโซฟาบุหนังต่างที่นอนตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ทุกอย่างยังคงเงียบจนดูเหมือนผิดปกติยินเพียงเสียงหายใจหนักซึ่งเริ่มทำให้หญิงสาวเริ่มไม่แน่ใจว่าเขาสบายดี เธออยู่กับเขมราชจนรู้ว่าเขาไม่ใช่คนชอบนอนตื่นสาย เขาตื่นเช้ามากจนหลายครั้งเธอก็ยังนึกอายเมื่อลืมตาขึ้นมาในอ้อมแขนและเห็นนัยน์ตาคมคู่นั้นจ้องมองเธอยามหนุนแขนหนาใหญ่แนบอกกว้างจนไม่อยากขยับตัวลุกจากที่นอน“คุณเขมราช...คุณเขม...เขมคะ” ปรายฟ้าคุกเข่าลงใกล้ ๆ พลางเรียกเขาซ้ำ ๆ จนหลงลืมเรียกสามีตัวเองอย่างคุ้นเคยอีกครั้ง ทว่าคำตอบของเขาคือเสียงทอดลมหายใจยาวและหนักสลับกับเสียงครางในลำคอ“คุณเขม!” หญิงสาวใจหายวาบเมื่อวางหลังมือบางลงบนหน้าผากของชายหนุ่มและสัมผัสที่ได้คือความร้อนแล่นไหลไปตามอณูผิว ปรายฟ้ากำลังจะดึงมือกลับหากก็ถ
“ปราย...”ปรายฟ้าหยุดชะงักเมื่อเก็บร่มและหันหลังให้เขาขณะกำลังจะก้าวกลับเข้าบ้าน“ผมรู้ว่าคุณไม่ใจร้ายปล่อยให้ผมตายอยู่ข้างนอกแน่ และผมก็รู้ว่า...คุณกลัวเสียงฟ้าร้อง”ชายหนุ่มนิ่งมองแผ่นหลังของร่างเล็กภายใต้เสื้อคลุมตัวยาวท่ามกลางแสงอ่อนจากโคมไฟในยามท้องฟ้าหมองมัวและบรรยากาศขะมุกขมัวด้วยละอองน้ำปรายโปรย ผมยาวปล่อยสยายบนไหล่บางสะท้อนความงามเงาดึงดูดสายตาของเขาเสมอ ปรายฟ้าฝืนก้าวเท้ากลับเข้าไปทั้งที่เวลาเช่นนี้เธอปรารถนาอ้อมกอดของเขาล้นเหลือ หากแต่ความโกรธทำให้หญิงสาวอยากเกลียดเขาให้มากเท่าที่เขาเคยทำให้เธอเจ็บช้ำแทบหมดสิ้นกำลังใจ“ฮัดเช้ย!” เสียงจามเป็นระยะของเขมราชทำให้ปรายฟ้าซึ่งกำลังหอบผ้านวมและหมอนมาวางกองบนโซฟาภายในห้องรับแขกอดที่จะเหลือบมองร่างกำยำที่สวมกางเกงแพรตัวเดียวขณะนั่งลูบผ้าขนหนูไปบนเรือนผมสั้นทว่าเปียกชื้นนั้นไม่ได้ ร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามบนหน้าอกกว้างและหน้าท้องเป็นลอนน่ามองทุกครั้งที่มันขมวดเกร็งและกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจ“คุณนอนตรงนี้ก็แล้วกัน จะกลับพรุ่งนี้ไม่ใช่หรือคะ?”“ผมบอกแล้วไงว่าจะมาอยู่คอยดูแลคุณแทนคุณพ่อ แล้วจะไล่ผมกลับไปแบบนี้ได้ยังไง”“บ้านนี้ห้อ
ปรายฟ้าร่ำรองอยู่กับตัวเองขณะนั่งบนฟูกนุ่มรองด้วยเตียงไม้ฉลุลายโบราณภายในห้องนอนกว้างซึ่งอวลด้วยกลิ่นดอกไม้หอมในแจกัน หญิงสาวพยายามสลัดภาพใบหน้าคมคายออกจากหัวใจทั้งที่รู้ว่าไม่เคยทำได้สักที ก็จะเป็นไรไปเล่า เขาอยากจะนั่งเฝ้าคอยเธอก็ให้เขานั่งต่อไป ร่างอรชรลุกจากที่นอนและทำเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในวันนี้ทั้งที่ใจเต้นระส่ำเมื่อได้ยินเสียงฝนหล่นกระทบหลังคาดังเปาะแปะก่อนหยาดพิรุณจะทิ้งเม็ดหนามากขึ้นทุกทีเมื่อมองลอดกระจกหน้าต่างมัวหมองด้วยฝ้าน้ำออกไปปรายฟ้ายังพยายามนิ่งใจเย็นหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนผ้าซาตินสายเดี่ยวสวมทับด้วยเสื้อคลุมตัวยาวก็หยิบหนังสือเล่มเล็กมานั่งอ่านทั้งที่สายตานั้นพร่าไปหมดด้วยไม่แน่ใจอะไรบางอย่างเขาคงกลับไปแล้ว....หญิงสาวค่อย ๆ ปิดหนังสือขณะน้ำหยดน้อยร่วงผล็อยลงมาจากดวงตาคู่สวย ฝนฟ้าตกหนักเช่นนี้มีหรือที่เขาจะมานั่งทนรอเธอให้เสียเวลา อาจขับรถกลับกรุงเทพไปเสียแล้วกระมังเพราะคงถอดใจกับการประชดประชันไม่เข้าท่าของผู้หญิงไร้ค่าในสายตาของเขา“คุณปราย!...คุณปรายครับ ย้งเองครับคุณปราย”เสียงของนายย้งดังขึ้นพร้อมเคาะประตูหลายหนจนปรายฟ้าต้องลุกจากที่นอนเพื่อผลักประตูห้