ตอนที่จ้าวเสี่ยวซานถูกจับตัวเข้าไป เธอมาสารภาพทุกอย่างกับฉันหวังว่าอยู่ในชั้นศาล เธอจะได้รับโทษจำคุกลดน้อยลงหลายปี[รูปภาพพวกนั้นสวีจิ่นเป็นคนให้ฉัน เธอพูดว่าขอเพียงโพสต์ประกาศออกไปลู่จื่อฉือก็จะต้องรังเกียจพี่สาวของเธอ][แล้วทำไมเธอไม่โพสต์ด้วยตนเอง แต่อยากให้โพสต์ในนามของเธอ?]นี่คือสิ่งที่ฉันสงสัยมาตลอด[เพราะเธอข่มขู่ฉัน หากฉันไม่เป็นคนโพสต์รูปภาพ เธอก็จะเปิดเผยบันทึกการสนทนาระหว่างฉันกับเธอเมื่อที่ผ่านมา ผู้หญิงคนนี้ เห็นได้ชัดว่าคิดอยากลากฉันให้ซวยไปด้วย...]มองดูท่าทีส่งเสียงดังครวญครางของเธอ ฉันเพียงรู้สึกขยะแขยง[ผลในตอนนี้ล้วนเป็นเพราะสิ่งชั่วร้ายที่เธอเคยกระทำมาก่อน อย่าโทษว่าฉันไม่รักษาคำพูดต่อให้เป็นพี่สาวของฉันที่ดวงวิญญาณอยู่บนฟ้า ก็ไม่มีทางให้อภัยกับสิ่งที่เธอกระทำ]จัดการเศษเสี้ยวได้พอประมาณแล้ว ฉันก็ควรที่จะไปหาสวีจิ่นได้แล้วนับจากที่ผู้หญิงคนนี้ถูกฉันกักขังเป็นต้นมาก็ได้หายสาบสูญไปอย่างไร้เงา กำลังยุ่งอยู่กับการประจบประแจงลู่จื่อฉือในอาคารสูงสุดของบริษัทตระกูลลู่กรุ๊ป ฉันกับลู่จื่อฉือขมวดคิ้วมองดูผู้หญิงในกล้องวงจรปิดสวีจิ่นเป็นเหมือนคนบ้า อยากจะฝ่
สวีจิ่นแต่งหน้าแต่งตัวอย่างดูดีที่สุด พร้อมมาปรากฏตัวตามที่นัดหมายแต่ที่รอคอยเธอมีเพียงฉัน[สวีจิ่น หลอกลวงทำร้ายคนอื่นนั้นสนุกไหม?]ฉันสวมชุดราตรีแบบเดียวกันกับที่พี่สาวสวมใส่ในงานบรรลุนิติภาวะอายุครบสิบแปดปี ลูกไม้สีขาวช่วยขับเน้นผิวของฉันยิ่งขาวผ่องสีหน้าสวีจิ่นก็ขาวซีดเหมือนกัน“อู๋อวี๋ เธอจะทำอะไร เธอจะทำอะไร!”เธอแทบจะตะโกนออกมา พร้อมยกเท้าคิดจะจากไปฉันล้วงเอาปากกาบันทึกเสียงออกมาจากในกระเป๋าอย่างไม่รีบร้อน[รูปถ่ายพวกนั้น สวีจิ่นเป็นคนให้ฉัน เธอพูดว่าขอเพียงโพสต์ออกไปลู่จื่อฉือก็จะรังเกียจพี่สาวของเธออย่างแน่นอน]หลักฐานมัดตัวสวีจิ่นมีพร้อมขนาดนี้ ฉันไม่รู้ว่าเธอยังจะแก้ตัวยังไง[เจียงอู๋อวี๋ ฉันขอเตือนเธออย่าทำอะไรไปเรื่อย ถ้าเธอฆ่าฉัน ชีวิตของเธอก็จะพังทลาย]เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นท่าทีดุร้ายน่าหวาดกลัวบนใบหน้าของคนผู้หนึ่งฉันล้วงเอามีดแหลมคมเล่มหนึ่งออกมาจากตรงเอว[เดิมฉันไม่อยากเอาออกมา แต่เธอกระตุ้นความปรารถนาของฉันขึ้นมาได้ยินมาว่าเลือดที่ดีนั้นเลี้ยงดูมีดได้อย่างดีที่สุด พอดีเลย ฉันจะลองใช้กับเธอก่อน]แผลแรก ฉันกรีดเสื้อผ้าของเธอก่อนใบมีดแหลมคมมาก ท
ฉันกรีดตรงลักยิ้มของเธอสองแผลก่อน[หุบปาก อย่ารบกวนพี่สาวของฉัน]จากนั้นก็กรีดบนแก้มของเธออีกหลายแผล[ได้ยินพี่สาวพูดว่า เธอมักจะอาศัยลักยิ้มที่คิดว่าตัวเองสวย แต่ฉันคิดว่าไม่มีแล้ว ดูเหมือนจะสวยยิ่งกว่า][บ้า เธอบ้าไปแล้ว เธอรีบปล่อยฉันไปนะ!]ฉันใช้มือประคองใบหน้าของเธอไว้ เหมือนประคองงานศิลปะที่พึงพอใจ ไว้อย่างทะนุถนอม[เธอว่าตอนที่พี่สาวจากไปจะสิ้นหวังไร้ที่พึ่งเหมือนอย่างเธอตอนนี้ไหม ร้องขอความช่วยเหลือไปทั่ว กลับไม่เจอใครสักคนสวีจิ่น ตอนที่เธอคิดเพ้อฝันอยากแทนที่พี่สาวก็น่าจะคิดได้ว่าจะต้องมีวันนี้ดวงวิญญาณที่โสโครก วันนี้ให้ฉันช่วยเธอล้างให้สะอาด]เลือดสดกระเซ็นไปทั่ว แปดเปื้อนชุดราตรีสีขาวของฉันจนแดงเหมือนดอกกุหลาบสีแดงที่ฉันรักนอกจากความกระตือรือร้นและไร้ข้อจำกัดแล้ว ยังมีภาษาดอกไม้อีกอย่างหนึ่ง ฉันรักเธอฉันรักเธอ พี่สาวหากดวงวิญญาณของพี่อยู่บนสวรรค์สามารถมองเห็นน้องสาวแก้แค้นแทนพี่ไหม?ชั่วชีวิตนี้พวกเราไม่สามารถมีชีวิตอยู่อย่างดี ชาติภพหน้าพวกเรายังเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันดีไหม?ฉันจะปลูกดอกยิปโซให้พี่เต็มทั่วบ้านฉันจะรีบออกมาทำงานหาเงิน ไม่ให้แม่ของพวกเร
ฉันชื่อเจียงสั่วเยวี่ยน ส่วนพี่สาวฝาแฝดของฉันชื่อเจียงอู๋อวี๋[ทุกอย่างราบรื่นไร้ซึ่งอุปสรรค สมความปรารถนาทุกประการ]นี่คือความคาดหวังสูงสุดที่พ่อแม่มีต่อพวกเราแต่เพิ่งเกิดได้ไม่นาน พ่อของฉันก็ทำลายความหวังนี้ด้วยมือตนเองเขานอกใจแม่พาฉันจากไปด้วยความโกรธ พร้อมยืนกรานประกาศว่าฉันเสียชีวิตที่ต่างประเทศแล้วส่วนพี่สาวฝาแฝดของฉัน กลับใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่พ่อแท้ ๆ ไม่รัก แม่เลี้ยงคอยกลั่นแกล้ง เติบโตมากลายเป็นคนอ่อนโยนมีเมตตา แต่...ตอนนี้ทุกอย่างพังทลายแล้วคิดไม่ถึงว่าสิบแปดปีให้หลังการพบกันอีกครั้งของฉันกับเธอกลับเป็นการจากลาชั่วนิรันดร์เธอเสียชีวิตในวันที่พวกเราอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์คนที่เสียชีวิตพร้อมกับเธอ ยังมีฉันเจียงสั่วเยวี่ยนที่อายุสิบแปดปี
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันกลับประเทศหลังจากที่เกิดฉันไปตามสถานที่ตามที่พี่สาวบอกฉัน และแอบตามหาเธอจนเจอฉันหอบดอกยิปโซที่เธอชอบที่สุด อยากแอบฉลองครอบรอบสิบแปดปีบริบูรณ์ของพวกเราพร้อมกับเธอซึ่งภาพที่พวกเราวาดฝันมานับครั้งไม่ถ้วนอาจจะกอดกันด้วยความตื่นเต้นอาจจะเป็นภาพที่ตื้นตันร้องห่มร้องไห้ด้วยกันแต่ทั้งหมดล้วนแตกสลายแล้วสิ่งที่ต้อนรับฉันคือศพที่เย็นเยียบเสื้อผ้าถูกฉีกขาดทั้งหมด ผิวหนังเปลือยเปล่าในค่ำคืนอุณหภูมิศูนย์องศาของเมืองไห่ส่วนดวงหน้าที่เหมือนกับฉันดวงนี้ เวลานี้เหลือเพียงความขาวซีดดวงตาของเธอเบิกกว้างมองเพดานเพราะตื่นตระหนกและความหวาดกลัวในมุมมืดที่ตัดขาดจากเสียงเอะอะดังลั่นโดยสิ้นเชิงของโรงแรมแห่งนี้ ฉันสูญเสียพี่สาวที่รักที่สุดไปตลอดกาลฉันไม่โวยวาย เพราะฉันรู้ว่าคนร้ายไม่ได้มีเพียงผู้ชายคนนั้นที่กระทำผิดข่มขืนพี่สาวฉันจะต้องจับตัวคนร้ายที่แท้จริง ใช้เลือดของเธอเซ่นไหว้พี่สาวของฉันทีละหยดรายงานผลการชันสูตรแสดงให้เห็นว่าพี่สาวเสียชีวิตจากภาวะหายใจล้มเหลวเนื่องจากโรคหัวใจแต่กำเนิดกำเริบและสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเวลาเสียชีวิตคือหลังจากที่ถูกข่มเหงนี่ท
[อาอวี๋ ทำไมเธอหายตัวไปหลายวันขนาดนี้ เธอรู้ไหมว่าตอนที่ฉันตามหาเธอ ฉันร้อนใจมากแค่ไหน]เมื่อมาแทนที่สถานะของพี่สาว คนแรกที่ฉันเจอก็คือสวีจิ่น เพื่อนสนิทของเธอคนผู้นี้คือคนที่พี่สาวชอบพูดถึงมากที่สุดทุกครั้งที่คุยกับฉัน[อาเยวี่ยนเธอรู้ไหม สวีจิ่นเป็นคนที่น่าสงสารมากจริง ๆ พ่อติดเหล้าแล้วชอบทุบตีคน แต่เธอกลับยังใช้ชีวิตเหมือนพระอาทิตย์ดวงน้อย ฉันกำลังคิดว่าฉันจะใส่ซองอั่งเปาใหญ่ ๆ ให้เธอในงานวันเกิด][วันนี้สวีจิ่นบอกว่าฉันพูดจาโง่มาก ฉันเองก็คิดแบบนี้เหมือนกัน ต่อไปฉันจะพยายามไม่พูดจะดีกว่า][อาเยวี่ยน สวีจิ่นพูดว่าในวันงานเลี้ยงบรรลุนิติภาวะนั้นจะจัดอย่างขอไปทีไม่ได้ เธอช่วยฉันหาโรงแรมที่ไม่เลว...]ครั้งแรกตอนที่ฉันได้ยินชื่อสวีจิ่น ในใจฉันรู้สึกไม่สบายใจจนภายหลัง เรดาร์ในใจดังขึ้นไม่หยุด ฉันค่อยตัดสินใจพูดเตือนพี่สาว[ฉันคิดว่าการกระทำของเธอเหมือนกำลังควบคุมพี่เลย ทำไมต้องเชื่อฟังเธอทุกอย่างด้วยล่ะ][ใส่ซองอั่งเปาเป็นน้ำใจตามสมควรก็พอแล้ว พี่แทบจะช่วยเธอกลายเป็นเศรษฐีนีแล้วนะ]……แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรผู้หญิงที่มีรูปลักษณ์ใบหน้าเหมือนงูพิษตรงหน้านี้ มีวิธีทำให้พี่สาวเ
โทรศัพท์มือถือของพี่สาวขึ้นว่า คนสุดท้ายที่ติดต่อกับเธอก็คือสวีจิ่นตามเวลาที่ปรากฏ ฉันพอสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นสวีจิ่นที่นัดพี่สาวออกมา บอกให้มาเจอกันตรงมุมหนึ่ง มอบเซอร์ไพรซ์ให้เธอแต่สุดท้ายสิ่งที่ต้อนรับเธอ ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรซ์ แต่เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าน่าตกใจกลัวฝันร้าย และความตายสิ่งที่จะยืนยันความคิดนี้ของฉันมากขึ้นคือการที่ฉันตรวจสอบสวีจิ่นรอบด้านคนที่แสดงต่อหน้าพี่สาวฉันในภาพลักษณ์ว่า [ครอบครัวไม่มีความสุข] [พระอาทิตย์ดวงน้อย] คนนี้โดยส่วนตัวแล้วเป็นสาวแซ่บที่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าและชอบมีเรื่องต่อสู้และในบรรดาเพื่อนฝูงเลว ๆ ของเธอมีคนหนึ่งชื่อเฉินเยี่ยน ช่วงที่ผ่านมานี้มีเงินก้อนใหญ่โอนเข้ามาในบัญชีธนาคารจำนวนเงินตรงที่พี่สาวฉันให้อั่งเปาสวีจิ่นไม่ผิดเพี้ยนเมื่อถึงตอนนั้น ขอเพียงนำของเหลวที่ได้มาจากบนตัวพี่สาวมาเทียบกับของเขาฉันก็จะสามารถทำให้เขากับสวีจิ่นติดคุกไปด้วยกันเมื่อคิดได้เช่นนี้ ฉันบีบมือของสวีจิ่นแรงขึ้นเล็กน้อย[อู๋อวี๋ เธอทำให้ฉันเจ็บแล้ว เธอรู้ไหมว่าฉันกลัวเจ็บที่สุด]เธอแกะมือของฉันออก พร้อมพูดต่อว่าฉันอย่างฉุนเฉียว[เจ็บก็ไ
สวีจิ่นที่ปกติหยิ่งผยองโอหัง ส่งข้อความมาขอโทษฉันอย่างต่อเนื่อง[อู๋อวี๋ วันนี้เป็นความผิดของฉันเอง คำพูดพวกนั้นฉันพูดไปเรื่อย เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ][ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอนะ ฉันจะทนให้เธอถูกข่มเหงได้อย่างไร]……ฉันไม่ตอบข้อความของเธอเลยเพราะฉันกำลังรอให้เธอร้อนใจจนเผยพิรุธออกมาแต่สิ่งที่ฉันคิดไม่ถึงก็คือ สิ่งที่เธอเก็บงำไว้จะร้ายแรงถึงชีวิตขนาดนี้เธอให้คนถ่ายรูปพี่สาวของฉันไว้มงกุฎเจ้าหญิงบนศีรษะร่วงลงพื้น กระโปรงชุดราตรีถูกฉีกขาดเป็นชิ้น ๆน้ำตาแห่งความอัปยศอดสู แววตาที่สิ้นหวัง ความดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์รูปภาพที่พี่สาวของฉันโดนข่มเหงถูกโพสต์บนโซเชียลออนไลน์ฉันโยนคอมพิวเตอร์ลงพื้นอย่างเจ็บปวด น้ำตาไหลลงมาอย่างไม่อาจควบคุมได้พี่สาวที่น่าสงสารของฉัน ทำไมหลังจากตายไปแล้วยังจะต้องเผชิญกับความอัปยศอดสูแบบนี้อีกนิ้วมือเคลื่อนไหวอยู่บนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว ฉันค้นหาที่อยู่ IP ของผู้โพสต์โดยตรงฉันนึกว่าจะเป็นที่อยู่ของสวีจิ่นแต่ว่าไม่ใช่ตำแหน่งIPที่ปรากฏ คือบ้านของฉันและอยู่ห่างจากฉันไม่ถึงสองร้อยเมตร!จิตใจฉันหนักอึ้ง ฉันสวมรองเท้าแ
ฉันกรีดตรงลักยิ้มของเธอสองแผลก่อน[หุบปาก อย่ารบกวนพี่สาวของฉัน]จากนั้นก็กรีดบนแก้มของเธออีกหลายแผล[ได้ยินพี่สาวพูดว่า เธอมักจะอาศัยลักยิ้มที่คิดว่าตัวเองสวย แต่ฉันคิดว่าไม่มีแล้ว ดูเหมือนจะสวยยิ่งกว่า][บ้า เธอบ้าไปแล้ว เธอรีบปล่อยฉันไปนะ!]ฉันใช้มือประคองใบหน้าของเธอไว้ เหมือนประคองงานศิลปะที่พึงพอใจ ไว้อย่างทะนุถนอม[เธอว่าตอนที่พี่สาวจากไปจะสิ้นหวังไร้ที่พึ่งเหมือนอย่างเธอตอนนี้ไหม ร้องขอความช่วยเหลือไปทั่ว กลับไม่เจอใครสักคนสวีจิ่น ตอนที่เธอคิดเพ้อฝันอยากแทนที่พี่สาวก็น่าจะคิดได้ว่าจะต้องมีวันนี้ดวงวิญญาณที่โสโครก วันนี้ให้ฉันช่วยเธอล้างให้สะอาด]เลือดสดกระเซ็นไปทั่ว แปดเปื้อนชุดราตรีสีขาวของฉันจนแดงเหมือนดอกกุหลาบสีแดงที่ฉันรักนอกจากความกระตือรือร้นและไร้ข้อจำกัดแล้ว ยังมีภาษาดอกไม้อีกอย่างหนึ่ง ฉันรักเธอฉันรักเธอ พี่สาวหากดวงวิญญาณของพี่อยู่บนสวรรค์สามารถมองเห็นน้องสาวแก้แค้นแทนพี่ไหม?ชั่วชีวิตนี้พวกเราไม่สามารถมีชีวิตอยู่อย่างดี ชาติภพหน้าพวกเรายังเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันดีไหม?ฉันจะปลูกดอกยิปโซให้พี่เต็มทั่วบ้านฉันจะรีบออกมาทำงานหาเงิน ไม่ให้แม่ของพวกเร
สวีจิ่นแต่งหน้าแต่งตัวอย่างดูดีที่สุด พร้อมมาปรากฏตัวตามที่นัดหมายแต่ที่รอคอยเธอมีเพียงฉัน[สวีจิ่น หลอกลวงทำร้ายคนอื่นนั้นสนุกไหม?]ฉันสวมชุดราตรีแบบเดียวกันกับที่พี่สาวสวมใส่ในงานบรรลุนิติภาวะอายุครบสิบแปดปี ลูกไม้สีขาวช่วยขับเน้นผิวของฉันยิ่งขาวผ่องสีหน้าสวีจิ่นก็ขาวซีดเหมือนกัน“อู๋อวี๋ เธอจะทำอะไร เธอจะทำอะไร!”เธอแทบจะตะโกนออกมา พร้อมยกเท้าคิดจะจากไปฉันล้วงเอาปากกาบันทึกเสียงออกมาจากในกระเป๋าอย่างไม่รีบร้อน[รูปถ่ายพวกนั้น สวีจิ่นเป็นคนให้ฉัน เธอพูดว่าขอเพียงโพสต์ออกไปลู่จื่อฉือก็จะรังเกียจพี่สาวของเธออย่างแน่นอน]หลักฐานมัดตัวสวีจิ่นมีพร้อมขนาดนี้ ฉันไม่รู้ว่าเธอยังจะแก้ตัวยังไง[เจียงอู๋อวี๋ ฉันขอเตือนเธออย่าทำอะไรไปเรื่อย ถ้าเธอฆ่าฉัน ชีวิตของเธอก็จะพังทลาย]เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นท่าทีดุร้ายน่าหวาดกลัวบนใบหน้าของคนผู้หนึ่งฉันล้วงเอามีดแหลมคมเล่มหนึ่งออกมาจากตรงเอว[เดิมฉันไม่อยากเอาออกมา แต่เธอกระตุ้นความปรารถนาของฉันขึ้นมาได้ยินมาว่าเลือดที่ดีนั้นเลี้ยงดูมีดได้อย่างดีที่สุด พอดีเลย ฉันจะลองใช้กับเธอก่อน]แผลแรก ฉันกรีดเสื้อผ้าของเธอก่อนใบมีดแหลมคมมาก ท
ตอนที่จ้าวเสี่ยวซานถูกจับตัวเข้าไป เธอมาสารภาพทุกอย่างกับฉันหวังว่าอยู่ในชั้นศาล เธอจะได้รับโทษจำคุกลดน้อยลงหลายปี[รูปภาพพวกนั้นสวีจิ่นเป็นคนให้ฉัน เธอพูดว่าขอเพียงโพสต์ประกาศออกไปลู่จื่อฉือก็จะต้องรังเกียจพี่สาวของเธอ][แล้วทำไมเธอไม่โพสต์ด้วยตนเอง แต่อยากให้โพสต์ในนามของเธอ?]นี่คือสิ่งที่ฉันสงสัยมาตลอด[เพราะเธอข่มขู่ฉัน หากฉันไม่เป็นคนโพสต์รูปภาพ เธอก็จะเปิดเผยบันทึกการสนทนาระหว่างฉันกับเธอเมื่อที่ผ่านมา ผู้หญิงคนนี้ เห็นได้ชัดว่าคิดอยากลากฉันให้ซวยไปด้วย...]มองดูท่าทีส่งเสียงดังครวญครางของเธอ ฉันเพียงรู้สึกขยะแขยง[ผลในตอนนี้ล้วนเป็นเพราะสิ่งชั่วร้ายที่เธอเคยกระทำมาก่อน อย่าโทษว่าฉันไม่รักษาคำพูดต่อให้เป็นพี่สาวของฉันที่ดวงวิญญาณอยู่บนฟ้า ก็ไม่มีทางให้อภัยกับสิ่งที่เธอกระทำ]จัดการเศษเสี้ยวได้พอประมาณแล้ว ฉันก็ควรที่จะไปหาสวีจิ่นได้แล้วนับจากที่ผู้หญิงคนนี้ถูกฉันกักขังเป็นต้นมาก็ได้หายสาบสูญไปอย่างไร้เงา กำลังยุ่งอยู่กับการประจบประแจงลู่จื่อฉือในอาคารสูงสุดของบริษัทตระกูลลู่กรุ๊ป ฉันกับลู่จื่อฉือขมวดคิ้วมองดูผู้หญิงในกล้องวงจรปิดสวีจิ่นเป็นเหมือนคนบ้า อยากจะฝ่
[เธอพูดว่าอะไรนะ สภาพจิตใจแม่ของเธอไม่ปกติ?]พ่อของฉันที่เมื่อกี้เงียบอยู่ด้านข้างมาตลอด เวลานี้ค่อยมีปฏิกิริยาขึ้นมาเล็กน้อย[เธอรู้เรื่องสถานการณ์แม่ของเธอได้อย่างไร? หลายปีมานี้ฉันไม่ได้ข่าวแม่ของเธอเลยสักนิด]ฉันเอารูปภาพที่ถ่ายกับแม่ที่พกติดตัวไว้ตลอดออกมา[เพราะฉันคือเจียงสั่วเยวี่ยน เป็นลูกที่มีแม่ไม่มีพ่อมาตั้งแต่เด็กลูกสาวของคุณที่ทำได้เพียงต้องเบียดอยู่กับแม่ในห้องเก็บของคับแคบไม่มีหน้าต่างมาสิบกว่าปี ถูกเลือกปฏิบัติและดูถูกอย่างที่สุดคนที่มีชีวิตอยู่ในระดับล่าง ตายไปก็ไร้ที่ฝัง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะสามารถสืบรู้ข่าวของพวกเธอ]ฉันเคยจินตนาการมานับครั้งไม่ถ้วน หากตอนนั้นพ่อไม่ได้นอกใจฉันกับพี่สาวจะอยู่ร่วมกันมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันตั้งแต่เด็กไหมอยู่ด้วยกันตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงแต่งงานและมีลูกแม่ของฉันก็จะไปช้อปปิ้ง ดูแลรักษาความงามของตัวเองในทุกวัน เหมือนสุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์ที่ฉันเห็นไหมไม่จำเป็นต้องล้างชามจำนวนมากมาย อยู่ในห้องครัวที่เต็มไปด้วยควัน ตอนเช้าตรู่ยังต้องตื่นแต่เช้าฝ่าลมหนาวมาส่งนม...[ฉันกระทำผิดต่อเธอ ฉันกระทำผิดต่อครอบครัวของเรา ฉันเห็นแก่ตั
พ่อของฉันหันไปมองเมียน้อยจ้าวอย่างไม่อยากเชื่อ[เธอหาคนมาข่มเหงอู๋อวี๋หรือ? เธอโหดเหี้ยมขนาดนี้ได้ยังไง แถมยังลากฉันซวยไปด้วย]เมียน้อยจ้าวตกใจจนขาทั้งคู่คุกเข่าอยู่อย่างสั่นเทา[ไม่ใช่ ไม่ใช่ฝีมือฉัน ฉันเพียงแค่หลงเชื่อคำพูดของนังเด็กสวีจิ่นคนนั้นบอกว่าขอเพียงไม่ให้ลูกสาวของคุณได้แต่งงานเข้าตระกูลลู่ ต่อไปเธอก็จะไม่มีทางปีกกล้าขาแข็ง หันกลับมาแก้แค้นที่ฉันรังแกเธอ]ฝ่ามือของเธอวางทาบบนพื้น กำลังจะโขกศีรษะขอโทษฉันฉันใช้รองเท้าส้นสูงเหยียบลงไปอย่างแรง จากนั้นก็ออกแรงหมุนส้นรองเท้าจนมีเลือดสดไหลออกมา เสียงกรีดร้องของเธอทำให้อารมณ์ของฉันผ่อนคลายอย่างสิ้นเชิงแล้วฉันค่อยยกรองเท้าส้นสูงออก[เธอมันบ้า เหมือนแม่ของเธอเลย]เท้าที่เพิ่งย้ายออกถูกฉันย้ายกลับขึ้นไปอีกครั้งทันที ครั้งนี้ฉันยิ่งเพิ่มความรุนแรงขึ้นฉันสามารถได้ยินอย่างชัดเจนถึงเสียงกระดูกฝ่ามือของเธอแตกหัก[เธอเป็นเพียงเมียน้อยคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรมาต่อว่าแม่ของฉัน?หากไม่ใช่เพราะเธอยั่วยวนให้พ่อฉันนอกใจ ทำให้แม่ของฉันมีอาการซึมเศร้าหลังคลอด สภาพจิตใจของแม่ฉันก็คงจะไม่ผิดปกติตอนที่แม่ของฉันพาฉันไปต่างประเทศในปีนั้น
ลู่จื่อฉือทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง ๆไม่รอให้ได้เงินทองหลั่งไหลมา พ่อของฉันก็ได้รับหมายเรียกตัวจากสำนักสันติบาลเสียก่อนจากนั้นคฤหาสน์กับรถหรูหลายคันในบ้านก็ถูกธนาคารยึดไปเป็นหลักประกันแต่สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายก็คือ พ่อของฉันกับเมียน้อยจ้าวมีความเป็นไปได้ที่อาจจะต้องติดคุกได้ตลอดเวลาเพราะชายหาดอะไรนั่น ความจริงถูกลู่จื่อฉือเปลี่ยนเป็นโครงการว่างเปล่าแล้วยิ่งลงทุนมากเท่าไหร่ สุดท้ายก็จะขาดทุนมากเท่านั้นแต่นี่ยังไม่ร้ายแรงที่สุด ลู่จื่อฉือวางแผนนำการกระทำผิดทางอาญาหลายอย่าง ล้วนแนบมากับโครงการนี้อย่างร้ายแรงคือการหลีกเลี่ยงภาษี อย่างเล็กน้อยคือใช้วัสดุคุณภาพต่ำ เป็นอันตรายด้านความปลอดภัย กับการหักค่าแรงงานของคนงานเดิมพ่อของฉันก็มีประวัติที่ไม่ดี สามารถอยู่มาได้ถึงวันนี้ล้วนอาศัยความโชคดีกับการประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลตอนนี้ ลู่จื่อฉือกับฉันถอนต้นไม้เล็ก ๆ ต้นนี้ด้วยกันแต่ที่ทำให้พวกเราคิดไม่ถึงก็คือ ก่อนหน้านี้เมียน้อยจ้าวยุยงพ่อของฉันชื่อของเธอก็ปรากฏบนสัญญาผู้หญิงที่พูดเตือนให้พ่อระวังฉันบนโต๊ะอาหาร หลังจากรู้ว่าโครงการนี้อาจจะนำมาซึ่งผลประโยชน์มหาศาลจึงมุ่
ตอนที่ฉันไปยังทุ่งดอกไม้ เห็นชายคนหนึ่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าป้ายหลุมศพพี่สาวของฉันอย่างเหนื่อยล้าต่อให้มองไม่เห็นหน้า ฉันก็เดารู้สถานะของอีกฝ่ายได้ทันทีเจ้าของที่คอยดูแลทุ่งดอกไม้พูดว่าลู่จื่อฉือคุกเข่าอยู่ที่นี่มาห้าวันแล้วต่อให้ร่างกายเป็นเหล็ก หากยังคุกเข่าต่อไป ร่างกายก็คงถึงขีดสุดแล้ว[ลู่จื่อฉือ กลับบ้านเถอะ]ฉันวางช่อดอกไม้ในมืออย่างแผ่วเบา แล้วพูดกล่อมชายหนุ่มที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวว่า[พี่สาวเห็นคุณเป็นแบบนี้จะต้องเจ็บปวดใจอย่างมากแน่ ถือเสียว่าปล่อยเธอไปอย่างสงบ อย่าทรมานตนเองแบบนี้อีกเลยได้ไหม?]เขาส่งเสียงหัวเราะเย้ย[ไม่ได้หั่นศพคนที่ทำร้ายเธอพวกนั้นเป็นหมื่นชิ้น อู๋อวี๋จะจากไปอย่างสงบได้อย่างไร?]ฉันคว้าดึงคอเสื้อของเขา ให้เขามองดูหญิงสาวที่ยิ้มแย้มเหมือนดั่งดอกไม้บนป้ายหลุมฝังศพให้ชัดเจน[ดังนั้นเรามาร่วมมือกันเถอะลู่จื่อฉือ จับตัวคนที่เคยทำร้ายพี่สาวด้วยกันเถอะ]คนแรกที่พวกเราจะลงมือหั่นก็คือเมียน้อยจ้าว แล้วก็พ่อแท้ ๆ ของฉันต่อให้รู้ว่าพี่สาวของฉันเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลพ่อของฉันกลับยังคงหลับหูหลับตาข้างหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องที่พี่สาวของฉันถู
นี่คงจะเป็นวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดของตระกูลลู่ในรอบหลายทศวรรษระบบสำนักงานใหญ่ของบริษัทถูกคนแฮ็ก ความลับทางการค้ามูลค่าหลายพันล้านเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่ผู้รับผิดชอบฝ่ายเทคนิคกำลังรายงานสถานการณ์ให้ลู่จื่อฉือพร้อมเหงื่อไหลชุ่มหลัง[ฝีมือของอีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไป พวกเราต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามวัน ในการจัดระเบียบระบบใหม่ถึงตอนนั้นอีกฝ่ายคง...คงลงมือสำเร็จอย่างสิ้นเชิงแล้ว]ก่อนที่ลู่จื่อฉือจะโกรธโมโหจัด ฉันพูดขึ้นมาก่อนว่า[หากประธานลู่เชื่อมั่นในตัวฉัน ให้ฉันลองดูไหม?]ดังนั้น ภายใต้สายตาตกตะลึงตาค้างของทุกคนฉันใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีจัดระบบที่ยุ่งเหยิงขึ้นมาใหม่แถมยังค้นหาที่อยู่ ip ของอีกฝ่ายออกมาด้วย[พวกคุณไปจับตัวคนตามที่อยู่นี้ หากไปช้าคนอาจจะหนีไปได้][ฉัน*] ผู้รับผิดชอบอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า[ฝีมือของท่านเทพเหมือนกับ Soyuan ผู้ลึกลับที่ติด Top 1 ของโลกมากเลย]ฉันยิ้มอย่างเศร้าๆแววตาเฉียบคมของของลู่จื่อฉือแทบจะบาดผู้รับผิดชอบจนสิ้น[เธอเป็นใครกันแน่? เจียงอู๋อวี๋ที่ฉันรู้จักเป็นนักศึกษาศิลปศาสตร์]มาถึงขนาดนี้ ดูท่าทางสุดท้ายกระดาษก็ปกปิดไฟไม่ได้[คุณรู้ไหมว่าเ
แต่จะพูดว่าอย่างไรล่ะ คำพูดของลู่จื่อฉือต่อจากนี้เกินความคาดหมายของฉันจริง ๆ[อู๋อวี๋ หากคุณหมายถึงเรื่องที่ปรากฏบนโซเชียลออนไลน์ก่อนหน้านี้ ผมสามารถบอกคุณอย่างมีความรับผิดชอบได้ว่า ผมไม่ถือสาความบริสุทธิ์ของผู้หญิงไม่ใช่มาตรฐานในการบ่งบอกว่าผู้หญิงดีหรือเลว ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ผิดตั้งแต่ต้นไม่ใช่พวกคุณ แต่เป็นคนเลวพวกนั้น]ฉันอึ้งไปครู่หนึ่ง ผู้ชายที่พี่สาวฉันชอบไม่ธรรมดาจริงๆ[เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ผมได้สั่งให้คนไปตรวจสอบแล้ว กล้องวงจรปิดของโรงแรมถูกคนลบทิ้งจนหมดสิ้น ถึงแม้ค่อนข้างร้อนมือ แต่ขอให้คุณให้เวลาผมหน่อย ผมจะช่วยคุณสืบเรื่องทั้งหมดให้กระจ่าง]ฉันพูดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ว่า[งั้นคุณเคยชอบฉันไหม?]เธอชอบพี่สาวไหม ระหว่างพวกคุณทั้งสองนั้นชอบกันไหม?[สำหรับผม ความสัมพันธ์กับคุณไม่เคยเป็นแค่คำมั่นสัญญาเรื่องการแต่งงานเพื่อธุรกิจที่เรียบง่ายแบบนั้นนับจากอายุเจ็ดขวบ คุณก็เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ผมลู่จื่อฉืออยากแต่งงานด้วยมาตลอดมองดูสีหน้าจริงจังของเขา ในใจของฉันเริ่มรู้สึกค่อนข้างเศร้าโศกหากไม่มีคนเลวพวกนั้น หากพี่สาวไม่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้แล้วก็จากโลกนี้ไป