Share

บทที่ 15

Author: ปู้ปู้เซิงฮวา
เวินเหลียงฟังออกว่าฉันไม่ได้พูดความจริง และไม่ได้ซักไซ้ เอ่ยเพียงว่า “ได้ มีข่าวคราวแล้วจะบอกเธอ จริงสิ วันนี้เธอไปที่ไหน ถ้ายังไม่อยากกลับตระกูลเจียงก็มาหาฉันได้นะ”

วันนี้เวินเหลียงเข้ากะกลางคืน ฉันไปหาเธอเหมาะสมที่สุด

ฉันไม่อยากกลับตระกูลเจียงจริง ๆ โดยเฉพาะการที่ฉันต้องนอนห้องเดียวกับเจียงอวี้เหิงในตอนนี้

แต่ฉันไปพักอยู่กับเวินเหลียงตลอดก็ไม่เหมาะสมเหมือนกัน แม้ว่าเธอจะไม่มีแฟน แต่ทุกคนต่างไม่หวังให้พื้นที่ส่วนตัวของตัวเองถูกคนอื่นรบกวนหรอก

“ได้” ฉันไม่ปฏิเสธ อย่างน้อยก่อนหน้าที่ฉันจะหาที่พักอยู่ ไปพักที่เธอก็ดีกว่าพักอยู่โรงแรมมาก

ถึงแม้จะมีหลักมีแหล่งที่นอนกลางคืนแล้ว ฉันก็ไม่ได้ไปในทันที แต่ขับรถไปชานเมือง

ที่นี่เป็นเมืองเก่าแล้ว แต่คนที่พักอยู่ไม่น้อยเลย ส่วนมากเป็นผู้เช่า เพราะค่าเช่าถูก

และที่ฉันมาที่นี่เป็นเพราะบ้านของฉันอยู่ที่นี่ ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะจากไป พวกเราสามคนใช้ชีวิตอยู่ที่นี่กันทั้งครอบครัว ตอนนั้นที่นี่ยังไม่ได้เป็นเมืองเก่า เศรษฐกิจและการคมนาคมสะดวกมาก เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองมาก

แต่เวลาสิบปีมานี้ ที่นี่ไม่เจริญรุ่งเรืองเหมือนอย่างที่เคยเป็นแล้ว

บ้านที่ชุ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 16

    “เฉียวซาน คุณอย่าเข้าใจผิดนะ”คำพูดนี้ของโจวถงทำให้ฉันอยากหัวเราะนึกถึงคำพูดที่เธอพูดตอนเลือกเครื่องนอน ที่แท้แฟนที่เธอยอมรับโดยปริยายถึงกับเป็นเจียงอวี้เหิง“นี่ซื้อให้เจียงอวี้เหิงเหรอ?” ฉันเหลือบมองเครื่องนอนที่เธอเลือก สีฟ้าเทา เป็นโทนสีที่เจียงอวี้เหิงชื่นชอบจริง ๆแต่นั่นเป็นเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้ภายใต้อิทธิพลของฉัน สีสันของเขาก็สดใสขึ้นมากแล้วโจวถงกัดริมฝีปากล่าง ลังเลอยู่สักสองสามวินาทีจึงจะส่ายหน้า “...ไม่ใช่นะ คุณอย่าเข้าใจผิด ฉันเลือกให้น้องชายฉัน”การแสดงปาหี่พรรค์นี้ ฉันขี้เกียจที่จะไปโต้เถียงกับเธอ เลยพูดไปตามตรง “เจียงอวี้เหิงจะอยู่ด้วยกันกับคุณแล้ว?”เขาว่าให้ลูกของโจวถงเป็นอะไรไปไม่ได้เลยไม่ใช่หรือไง การปกป้องอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเหมาะสมที่สุด“เฉียวซาน ทำไมคุณพูดจาแบบนี้?” โจวถงเผยความตื่นเต้นออกมา“คุณซื้อให้เขาแม้กระทั่งของใช้บนเตียง ทำไมฉันจะพูดแบบนี้ไม่ได้?” ฉันย้อนถามแบบกวน ๆ“เฉียวซาน คุณขี้อิจฉาเกินไปแล้ว แบบนี้อาเหิงจะไม่ชอบเอานะ” คำพูดของโจวถงทำให้ฉันหัวเราะ“คุณหัวเราะอะไร ?” ดวงตาคู่นั้นของเธอมองฉันด้วยความระแวดระวังและไร้เดียงสาฉันลูบเส้นผม

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 17

    ถึงแม้การซื้อของจะโดนผู้หญิงอย่างโจวถงมาทำให้รู้สึกขยะแขยง แต่ไม่ได้กระทบกระเทือนกะจิตกะใจในการกินข้าวของฉัน ฉันกินโจ๊กไส้หมูไปชามใหญ่ชามหนึ่งจึงจะกลับบริษัท เพิ่งถึงบริษัทก็รับสายโทรศัพท์ที่โทรมาจากจวงลี่คุณแม่ของเจียงอวี้เหิงฉันไม่ได้กลับบ้านสองวัน เธอจะโทรศัพท์มาหาฉันก็ปกติมาก “คุณป้า”“ซานซาน อย่าเอาแต่พักอยู่ที่บ้านเพื่อนสนิทหนูสิ วันนี้กลับบ้านเถอะ ป้าห่อเกี๊ยวไส้หมูไว้” คำพูดของจวงลี่ทำให้ฉันอยากหัวเราะดูท่าเจียงอวี้เหิงหาข้ออ้างที่ฉันไม่กลับบ้านแล้วฉันตัดสินใจจะย้ายกลับมาพักที่บ้านของคุณพ่อคุณแม่ฉัน ก็ต้องกลับไปเก็บของที่ตระกูลเจียงอยู่แล้ว ฉันไม่ได้พูดอย่างอื่น “คุณป้าคะ คืนนี้หนูจะกลับไปค่ะ”ตอนใกล้เลิกงาน หยวนเสี่ยวไต้เข้ามาหา “พี่ซาน พี่สบายดีไหม?”“ทำไมเหรอ?” ฉันทำหน้าไม่เข้าใจ“คนในบริษัทชอบซุบซิบนินทาไปเรื่อย พี่อย่าไปสนใจพวกนั้นเลย ประธานเจียงเอาใจพี่มากแค่ไหน ฉันได้เห็นด้วยตาตัวเองเลยเชียวนะ” คำพูดของหยวนเสี่ยวไต้ทำให้ฉันยื่นมือไปให้เธอเธอเอาโทรศัพท์มือถือซ่อนไว้ด้านหลังอย่างเข้าใจ ฉันพูดด้วยสีหน้านิ่ง “เอามาให้ฉัน”หยวนเสี่ยวไต้ให้ฉันจากการที่โดนบังคับ แล

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 18

    หัวใจฉันรู้สึกตื้นตันถึงแม้ฉันถูกฝากเลี้ยงไว้ที่บ้านหลังนี้ แต่คุณพ่อคุณแม่ของเจียงอวี้เหิงก็มอบความห่วงใยและความรักให้ฉันเหมือนดั่งพ่อแม่แท้ ๆ ของฉันเลยพวกเขาปฏิบัติต่อฉันเหมือนลูกสาวแท้ ๆ ยังจำที่เจียงหวยพี่ชายของเจียงอวี้เหิงเคยพูดล้อเล่นไว้ประโยคหนึ่งได้ว่า ตั้งแต่ฉันมาถึงบ้านหลังนี้ พวกเขาสองคนพี่น้องก็ไม่เป็นที่โปรดปรานแล้วเวินเหลียงพูดถูก ฉันกับเจียงอวี้เหิงตัดขาดได้ง่าย แต่ตัดขาดกับตระกูลเจียงได้ยากฉันสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วผลักประตูเข้าไปสายตาของทุกคนจับจ้องมาที่ฉันทั้งหมด จากนั้นคุณแม่เจียงก็ลุกขึ้นเดินมาหา “ซานซาน หนูกลับมาแล้ว ตอนนี้กำลังรอหนูมาทานข้าวอยู่เลย”“คุณป้า คุณลุง” ฉันทักทาย และเจียงอวี้เหิงก็โดนคุณพ่อเจียงเตะเท้าให้ลุกขึ้นมาเขารับกระเป๋าในมือของฉันไป “ทำไมกลับมาช้าแบบนี้ล่ะ?”“เล่นสนุกเกอร์มาพักหนึ่ง” ฉันรู้ว่าเซี่ยเซียวจะบอกเรื่องที่เราพบกันให้เขาฟังแน่นอน ดังนั้นเลยไม่มีอะไรให้น่าปิดบังเจียงอวี้เหิงขมวดคิ้ว “คราวหน้าจะไปก็เรียกผมไปด้วย”เขาไม่ชอบให้ฉันไปเล่นพวกนั้น โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีเขาอยู่ แน่นอนว่าไม่หวังให้ฉันติดต่อพวกพ้องของเขา

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 19

    เกาหย่วนเป็นเลขาของเขาฉันยังคงไม่พูด เขาทอดสายตาลง “เฉียวซาน คุณต้องการให้ผมทำยังไงกันแน่? คุณว่ามาให้ชัดเจนเลย ดีไหม?”เขาพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง จนปัญญา ถึงขนาดที่หดหู่อยู่หน่อย ๆ ด้วยเห็นเขาในสภาพนี้ได้น้อยมากจริง ๆ“เจียงอวี้เหิง เราเลิกกันแล้ว คุณไม่ต้องลำบากใจแบบนี้หรอก คุณอยากจะดูแลเธอยังไงก็ได้ทั้งนั้น” ฉันพูดความคิดของตัวเองออกไปเขาส่ายหน้า จากนั้นเข้ามาประชิดฉัน ล้อมฉันไว้อยู่ระหว่างอ่างล้างมือกับแผงอกของเขา “คุณอย่าแม้แต่จะคิด เราจะไปจดทะเบียนกันพรุ่งนี้”“เจียงอวี้เหิง คุณอยากแต่งงานกับฉันจริงไหม?” มีเสียงบทสนทนาของเขากับเซี่ยเซียวในวันนั้นดังขึ้นข้างหูฉันอีกครั้งหนึ่ง เลยพูดให้เข้าใจชัดเจนไปเลย “เราสนิทกันมากเกินไป สนิทถึงขั้นทำให้คุณไม่มีแม้กระทั่งความสนใจที่จะขึ้นเตียงกับฉัน ไม่ใช่หรือไง?”“เฉียวซาน ผมบอกไปแล้วนั่นเป็นเพียงเรื่องล้อเล่น คืนนั้นคุณก็เห็นแล้วนี่ กับคุณผมยังมี...”“เจียงอวี้เหิง” ฉันขัดจังหวะเขา ไม่อยากเอ่ยถึงคืนนั้นจริง ๆ “คืนนั้นมันเป็นเงามืดที่ฉันจะไม่มีวันลืมไปได้เลย คุณเข้าใจไหม?”รูม่านตาของเขาหดตัวลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาถามแบบไม่รู้จะทำอย่

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 20

    ในสายตาที่คุณพ่อเจียงกับคุณแม่เจียงรอคอย ในที่สุดฉันก็พยักหน้าแต่ในใจของฉันเหลือประโยคหนึ่งไว้ให้ตัวเอง นั่นก็คือถ้าหากเจียงอวี้เหิงยังพัวพันกับโจวถงอยู่อีกแม้แต่นิดเดียว ต่อให้จดทะเบียนแล้ว ฉันก็จะไปจากเขาพอฉันรับปาก ทุกคนบนโต๊ะอาหารก็ถอนหายใจโล่งอก จากนั้นบรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นผ่อนคลายและอบอุ่นด้วยทานข้าวแล้ว ฉันย่อมไปไม่ได้กลับถึงห้องนอน ฉันกับเจียงอวี้เหิงต่างก็ไม่เป็นธรรมชาติอยู่หน่อย ๆ ซึ่งไม่เป็นธรรมชาติยิ่งกว่าครั้งก่อนอีก“ผมไปอาบน้ำนะ” เจียงอวี้เหิงเอ่ยปากก่อนจังหวะนี้โทรศัพท์มือถือของฉันดังขึ้นพอดี เป็นสายจากเวินเหลียง ฉันหันไปมองเจียงอวี้เหิง “คุณอาบก่อนเถอะ ฉันขอรับสาย”เจียงอวี้เหิงเข้าห้องอาบน้ำ ฉันจึงจะรับสาย คำถามของเวินเหลียงก็ดังขึ้นทันที “ซานซาน เมื่อคืนเธอไม่ได้กลับมานอนที่ห้องฉัน วันนี้ก็ไม่มา เธอคงไม่ได้กลับไปตระกูลเจียงอีกแล้วหรอกนะ?”มองดูเตียงใหญ่เตียงนั้นที่อยู่ตรงกลาง ฉันส่งเสียงเบา ๆ ว่าอืม“เธอคืนดีกับเจียงอวี้เหิงอีกแล้ว?” เวินเหลียงประหลาดใจมากฉันกัดริมฝีปากล่าง “จดทะเบียนพรุ่งนี้”เวินเหลียงไม่ได้พูดอะไรสักพัก สุดท้ายเอ่ยถาม “เธอคิดดีแล้

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 21

    ฉันมองตัวเองในกระจก พยายามฝืนยิ้ม บอกกับตัวเองว่าวันนี้ต้องยิ้ม ต้องเบิกบานใจ ใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้มีความสุขตอนที่ฉันมาถึงชั้นล่าง พ่อเจียงและแม่เจียงก็ได้เตรียมอาหารเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว โซฟาและอุปกรณ์ทานอาหารล้วนถูกเปลี่ยนเป็นรูปแบบเฉลิมฉลองที่ใช้ในวันปีใหม่“ซานซาน พวกหนูไปจดทะเบียนสมรสกลับมาแล้ว พวกเรามาฉลองกันก่อนเถอะ แล้วค่อยมาปรึกษากันเรื่องรายละเอียดงานแต่ง” คุณแม่เจียงดูตื่นเต้นกว่าฉันเสียอีก“ได้ค่ะ!” ฉันขานรับคุณแม่เจียงมองฉัน “วันนี้หนูแต่งตัวได้ดูดีจริง ๆ แต่ถ้าเป็นสีแดงจะดูดีกว่านี้นะ”“สีแดงเด่นสะดุดตาเกินไปน่ะคะ” ฉันกล่าวอธิบาย“หนูอย่าทำตามคำแนะนำส่งเดชเลย ตอนนี้ไม่ใช่ยุคสมัยของพวกเราแล้ว ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดสีแดงสีม่วงฉูดฉาดหรอก ซานซาน หนูอยากใส่แบบไหนก็ใส่ไปเถอะ อย่าใส่ใจกับคำพูดของแม่หนูนักเลย” คุณพ่อเจียงช่วยพูดแก้ต่างให้ฉันฉันอมยิ้ม รู้สึกอบอุ่นหัวใจคุณแม่เจียงดึงฉันมานั่งที่โต๊ะอาหาร นอกจากอาหารเช้าวางละลานตาเต็มโต๊ะตามปกติแล้ว ยังมีไข่ไก่สองฟองและไส้กรอกย่างหนึ่งชิ้นเพิ่มขึ้นมา การจัดวางเช่นนี้ทำให้คนหน้าแดงไม่ต้องรอให้ฉันถาม คุณแม่เจียงก็โน้มตัวมากระ

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 22

    “คุณโจว คุณ...คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”เกาหย่วนที่รู้สึกประหลาดใจเหมือนกับฉันกล่าวถามโจวถงโจวถงกระชับชุดนอนเล็กน้อย “ก็ฉันพักอยู่ที่นี่ไงเล่า”สายตาของเธอมองไปที่กุญแจในมือฉัน “พวกคุณเข้าบ้านคนอื่นมาไม่คิดจะเคาะประตูเลยหรือไง?”เกาหย่วนรุดหน้าขึ้นไปหนึ่งก้าว “ไม่ใช่แล้ว...บ้านนี้เป็นบ้านที่ประธานเจียงเตรียมไว้ให้ผู้ช่วยเฉียวต่างหาก”เกาหย่วนพูดไปพลางหยิบโทรศัพท์โทรเจียงอวี้เหิงอย่างรีบร้อน คงเป็นเพราะลนลานเกินไปจึงเปิดลำโพงโดยไม่ทันระวัง “ประธานเจียง บ้านที่เฟิ่งหัว...”เกาหย่วนพูดยังไม่ทันจบ เจียงอวี้เหิงก็พูดตัดบทเขา “บ้านหลังนั้นยกให้โจวถงไปแล้ว”โจวถงยกยิ้มมุมปากต่อหน้าฉัน...“งั้นผู้ช่วยเฉียว...”เกาหย่วนพูดไม่ทันจบ เจียงอวี้เหิงก็ชิงพูดแทรกขึ้นมา “ผมจะหาที่อื่นให้เฉียวซาน แล้วก็...อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกเฉียวซานด้วย”เกาหย่วนหน้าแดงก่ำ มองมาที่ฉันด้วยสายตากระอักกระอ่วน ทำเหมือนกับคนที่ต้องกล่าวขอโทษฉันไม่ใช่เจียงอวี้เหิงแต่เป็นเขาแทนเขาไม่กล้าพูดอะไรอีก อย่างไรเสีย เขาก็มองว่าตัวเองสะเพร่าทำผิดพลาดเองเขาควรจะถามเจียงอวี้เหิงให้เรียบร้อยก่อนค่อยพาฉันมา ทว่ามาพูดตอนน

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 23

    เพียงสองประโยค ฉันก็ทำให้ใบหน้าของโจวถงเปลี่ยนเป็นแดงสลับขาวทันทีที่จริงแล้วภาพลักษณ์ของเธอดูแย่อย่างมาก อยากจะเป็นมือที่สามทั้งที ก็ควรกล้าทำอย่างสง่าผ่าเผย เจียงอวี้เหิงถึงขั้นยกบ้านที่จะเอาให้ฉันให้เธอ เธอก็คงจะมีความมั่นใจแล้วแต่เธอดึงดันไม่ทำแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่ทำเรื่องที่น่าอายไปแล้ว กลับยังทำท่าทีใสซื่อช่างเป็นการทำชั่วแต่อยากได้ดีจริง ๆ“เฉียวซาน คุณทำตัวแบบนี้ อาเหิงคงจะไม่ชอบหรอกนะ” คิดไม่ถึงว่าโจวถงจะพูดเรื่องนี้กับฉันฉันเค่นเสียงหัวเราะออกมา ถ้าตอนนี้ฉันยังคาดหวังให้เขามาชื่นชอบ ฉันก็คงจะเป็นคนโง่แล้วละ“ให้เขาไปชอบคุณเถอะ” ฉันพูดจี้จุดเธอไปอีกครั้งโจวถงน้ำตาไหลด้วยความน้อยใจทันที ดังนั้นการที่ฉันให้เกาหย่วนอยู่ด้วยก็ถูกต้องแล้ว ไม่อย่างนั้นเมื่อเธอร้องไห้ฟูมฟายขึ้นมา ก็คงจะรับมือไม่ได้จริงๆ“เฉียวซาน คุณหมายความว่ายังไง วันนี้พวกคุณจะไปจดทะเบียนสมรสแล้วไม่ใช่เหรอ?” ตอนที่โจวถงถามฉัน สายตาเปล่งประกายความทะเยอทะยานของเธอเด่นออกมาอย่างเห็นได้ชัดทันใดนั้น ฉันไม่อยากให้เธอสมปรารถนา จึงจงใจกล่าวว่า “ใช่ ไปจดอยู่แล้ว อีกสักพักก็ไปแล้ว เจียงอวี้เหิงให้เจ้าอาวาสดูฤกษ

Latest chapter

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 40

    ฉันเงยหน้าขึ้น เห็นใบหน้าที่มีเหลี่ยมมุมของฉินโม่ที่ชัดเจนเขาไม่ใช่แค่พยุงฉันไว้ แต่ยังรับแตงโมในมือฉันไว้ได้อีกด้วยภาพที่ดูเหมือนฝันเช่นนี้เป็นสิ่งที่ได้จากการจงใจถ่ายทางโทรทัศน์เท่านั้น แต่ตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นกับฉันจริงๆเขาพยุงฉันให้ยืนตัวตรง คลายมือที่จับไว้ แต่ทันทีที่ฉันเคลื่อนไหว ฉันก็รู้สึกเจ็บแปลบเหมือนโดนเข็มทิ่มที่ข้อเท้าฉันคว้าแขนของเขาไว้แล้วพูดว่า “เจ็บ…”เขามองไปตามสายตาของฉัน เห็นข้อเท้าขาวบางของฉันกลายเป็นสีแดง "ข้อเท้าพลิกเหรอ?"ฉินโม่อยู่ใกล้ฉันมาก เสียงทุ้มต่ำของเขามันช่างน่าฟังมากเป็นพิเศษฉันตอบอืม วินาทีต่อมาเขาก็ยัดแตงโมใส่มาในมือฉันแล้วอุ้มฉันขึ้นมาฉันกับเจียงอวี้เหิงคบกันมาหลายปี แต่เขาไม่เคยอุ้มฉันแบบนี้เลย ในตอนนี้ ฉินโม่กลับอุ้มฉันในท่าเจ้าหญิง มันทำให้หัวใจฉันเต้นแรงขึ้น ถึงขั้นมีเหงื่อซึมออกมาที่ปีกจมูก...ฉันเป็นแบบนี้แหละ เวลาตื่นเต้นหรือประหม่า เหงื่อจะออกปลายจมูกในตอนนี้ ฉันก็ได้ยินเสียงถอนหายใจ เป็นเสียงจากคนในละแวกนั้นและผู้คนที่เดินผ่านไปมาอาจเป็นเพราะมณฑลเล็กๆ เช่นนี้ ผู้คนคงยังไม่ชินกับพฤติกรรมเช่นนี้ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงฉิ

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 39

    ฉันหยิบแก้วแปรงสีฟันขึ้นมา เติมน้ำแล้วแปรงฟัน ตลอดเวลาที่แปรงฟัน ฉันไม่ได้มองที่ยัยหมูสามชั้นเลย แต่สายตาของเธอไม่เคยละไปจากฉันแม้แต่วินาทีเดียว เธอมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็จากปลายเท้าขึ้นไปถึงศีรษะ“เสี่ยวเฉียวเฉียว นี่คือหมูสามชั้น” คุณยายแนะนำเธอฉันอมยาสีฟันไว้ในปากแล้วพยักหน้าไปทางยัยหมูสามชั้นเธอมีใบหน้ากลม แต่ไม่ถึงกับอ้วน เธอสวมชุดเดรสลายดอกไม้และแต่งหน้า เห็นได้ชัดว่าเธอแต่งตัวมาอย่างจริงจัง“หมูสามชั้น นี่คือเสี่ยวเฉียวเฉียวที่เธออยากเจอ ฉันพูดถูกไหม ดูสิว่าผิวเธอนุ่มลื่มชุ่มชื้นแค่ไหน” คุณยายกำลังซักผ้าอยู่ ซักด้วยมือเปล่าเมื่อหมูสามชั้นกับฉันสบตากัน เธอมีความไม่มั่นใจฉายแวบขึ้นในดวงตาเมื่อถูกเปรียบเทียบกับฉัน แต่ปากกลับไม่ยอมรับ “เธอยังเด็ก ผิวก็ต้องนุ่มชุ่มชื้นอยู่แล้ว ตอนฉันอายุเท่าเธอก็ประมาณนี้แหละ”คุณยายเบะปาก หมูสามชั้นก็กลอกตามองบน การต่อสู้แบบเงียบๆ ระหว่างทั้งสองทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังดูโชว์ตลกอยู่เมื่อฉันแปรงฟันเสร็จ หมูสามชั้นก็พูดขึ้นมาว่า “คุณเฉียว มาที่นี่เพื่อเยี่ยมญาติหรือมาเที่ยวเล่น?”“มาเที่ยวเล่น” ฉันเปิดก๊อกน้ำและล้างแก้วแปรงสีฟัน“ม

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 38

    คืนนี้ฉันนอนหลับสนิทจนกระทั่งได้ยินเสียงหนวกหูดังมาจากด้านนอกไม่ใช่ฉินโม่ที่กำลังพูด แต่เป็นผู้หญิงที่พูดติดสำเนียงท้องถิ่นฟังจากเสียงของเธอแล้ว เธอไม่ใช่เด็กเสียงของเด็กผู้หญิงจะนุ่มนวลและสดใส ในขณะที่เสียงของผู้หญิงโดยทั่วไปแล้วจะทุ้มและหยาบกว่าฉันเป็นคนที่สามารถแยกคนได้จากเสียง แต่กลับไม่สามารถแยกได้ว่าชายที่ฉันรักมาเป็นสิบปีนั้นเป็นไอ้ผู้ชายเจ้าชู้สารเลวเขาว่ากันว่าการลืมใครสักคนคือการไม่คิดถึงเขาบ่อยๆ ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฉันจะทำไม่ได้ฉันยังคิดถึงเจียงอวี้เหิงโดยไม่รู้ตัวอยู่เสมอ ถึงจะไม่ใช่ความรัก เป็นเพียงความรู้สึกโกรธแค้น ฉันก็ยังคิดถึงเขาอยู่เป็นครั้งคราวฉันไม่ได้ลุกขึ้นจากเตียง เพียงแต่เงี่ยหูฟังเสียงจากข้างนอก“คุณยาย ฉินโม่ล่ะคะ?” หญิงคนนั้นถาม“ออกไปแล้ว ตั้งแต่เช้าก็ออกไปแล้ว” คุณยายดูเหมือนกำลังล้างอะไรบางอย่างอยู่ มีเสียงน้ำดังเข้ามา“ไปแล้วหรอ ฉันก็นึกว่าเขายังไม่ตื่น” เสียงของหญิงสาวมีความตลกขบขันแทรกอยู่“ยัยหมูสามชั้น เสี่ยวฉินจะตื่นหรือไม่ตื่นแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ เขาไม่ได้ชอบเธอ เธอก็อย่าคิดให้รกสมองเปล่าๆ เลย” คุณยายพูดออกมาตรงๆคนปก

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 37

    ฉันตอบอืมไปเบาๆ “เป็นข้อเสนอที่ไม่เลวเลย ฉันจะเก็บไปพิจารณาดู”“ต้องคิดแบบจริงจังนะ” เวินเหลียงพูดจบก็ชะงักไปชั่วขณะ “ซานซาน วิธีที่จะลืมใครสักคนกับความรักที่ดีที่สุดก็คือการหาใครสักคนมาแทน แล้วก็รีบเริ่มต้นความรักใหม่โดยเร็ว”“โอเคค่ะอาจารย์เวิน ฉันเข้าใจแล้ว” หลังจากวางสาย ฉันก็นอนลงบนเตียงอย่างเหม่อลอยฝีเท้าของฉินโม่ข้างนอกดังเข้ามา ฉันรู้ได้ในทันที มันทั้งหนักแน่นและทรงพลังผ่านไปสักพักก็มีเสียงก๊อกน้ำดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงบ่นพึมพำของคุณยายเจ้าของบ้าน "ทำไมมีแค่นายคนเดียว? เสี่ยวเฉียวเฉียวล่ะ?"ฉันไม่ได้ยินคำตอบของฉินโม่ ได้ยินเพียงแค่ที่เขาพูดว่า "อย่าใส่ผักชีในซุปปลา"เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันก็หัวเราะ หัวเราะไปหัวเราะมาก็น้ำตาไหลออกมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่ตระกูลเจียง ฉันกินผักชี แต่ในอดีตตอนที่อยู่กับพ่อแม่ ฉันไม่เคยกินเลยมีสำนวนที่ว่า เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม แม้ว่าตอนนั้นฉันจะย้ายเข้ามาอยู่ในตระกูลเจียงในฐานะคู่หมั้นของเจียงอวี้เหิง คุณแม่เจียงก็บอกว่าฉันเป็นลูกสาวของเธอ แต่ฉันก็ไม่ได้เป็นคนในครอบครัวตระกูลเจียงอยู่ดี ฉันรู้ดีอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งอยู่แก่ใจในเรื

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 36

    ในชีวิตนี้ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายที่ฉันเคยพบหน้าเพียงสองครั้งจะอยากจดทะเบียนแต่งงานกับฉันแต่ผู้ชายที่คบกับฉันมาสิบปีกลับไปมีชู้ลับหลังฉันหลังจากตกใจไปชั่วขณะ ฉันก็เม้มริมฝีปากและยิ้ม "คุณฉินคะ นี่มันกะทันหันเกินไปหน่อยไหม?"สีหน้าของฉินโม่ยังเหมือนเดิม ดูค่อนข้างจริงจัง “คนเราคบกันก็เพื่อแต่งงานกันไม่ใช่เหรอ ในเมื่อคุณไม่อยากคบ งั้นก็แต่งงานเลย”คำพูดนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาอะไรแต่คนที่พูดดูเหมือนว่าจะมีปัญหา คนปกติจู่ๆ จะมาแต่งงานกับคนแปลกหน้าไหมล่ะ?นิยายสมัยนี้นิยมโครงเรื่องแบบนี้ แต่มันก็เป็นแค่นิยายเท่านั้นคิ้วของฉันขมวด มุมปากปรากฏรอยยิ้มเยาะ "คุณฉินตรงไปตรงมาขนาดนี้กับคู่นัดดูตัวทุกคนเลยเหรอคะ?"ขณะนี้ พระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าส่องแสงมาที่ตัวของพวกเราพอดี เงาของฉินโม่ปกคลุมฉันไว้ “คุณเป็นคนแรก” ฉันรู้สึกคันคอ “เรา…แทบจะไม่รู้จักกันเลย”ฉินโม่ไม่ได้พูดอะไรอีก เรายืนหันหน้าเข้าหากัน ภายใต้บรรยากาศเช่นนี้ ฉันรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าทั่วทั้งร่างกายของฉันร้อนผ่าวเล็กน้อย แม้แต่ปลายจมูกก็มีเหงื่อซึมออกมาในขณะที่ฉันกำลังขูดกำแพงที่อยู่ด้านหลังฉัน คิดว่าจะพูดอะไร

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 35

    เมื่อได้ยินเสียง ฉันจึงโยนโทรศัพท์ทิ้ง “เรียบร้อยแล้วค่ะ”พูดจบ ฉันก็ถอดรองเท้า เปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะแล้วเปิดประตู จากนั้นก็เห็นฉินโม่กำลังตักน้ำอยู่ในลานบ้านถังน้ำสีขาวหลายใบวางเรียงกันเป็นแถว ไม่นานน้ำก็เต็มถัง เขายกถังขึ้นมา กล้ามเนื้อที่ไหล่แนบกับเสื้อผ้าจนสามารถมองเห็นได้กล้ามเนื้อกับพละกำลังนั้นเป็นของคู่กันจริงๆ“ตักน้ำมาเยอะขนาดนี้ทำไม น้ำจะไม่ไหลเหรอ?” ฉันเดินไปถามสายตาของคุณยายมองไปที่รองเท้าแตะของฉัน และกลอกตาอย่างเงียบๆฉินโม่ไม่ได้ตอบอะไร คุณยายพูดแทน "เผื่อโดนตัดน้ำจ้ะ"พูดจบ เธอก็ตีฉินโม่ “เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะทำซุปปลาให้นะ พวกเธอช่วยไปซื้อปลากะพงมาหน่อย ขอสดๆนะ แล้วก็ซื้อผักชีกับกระเทียมมาด้วย”นี่เป็นการไปซื้อของที่ไหนกันล่ะ มันคือการให้เราสองคนออกไปคุยกันชัดๆเพียงแต่ฉันใส่รองเท้าแตะขนาดใหญ่อยู่ จึงไม่ค่อยเหมาะสมนัก แต่การจะเข้าไปเปลี่ยนในบ้านก็ดูไม่เหมาะสมเช่นกัน“ไปเปลี่ยนรองเท้า” ฉินโม่พูดเช่นนั้นในเวลาแบบนี้ ถ้าให้ฉันไปเปลี่ยนรองเท้า มันจะยิ่งทำให้ฉันรู้สึกอับอายมากขึ้น ดังนั้นฉันจึงยิ้มเยาะ “ไม่ต้องหรอก”ฉินโม่ไม่พูดอะไรอีก เขายกขาขึ้นเตรียมจะเดินออกไ

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 34

    ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าคุณยายจะบอกว่าจะเป็นแม่สื่อให้ฉัน ใบหน้าที่เย็นชาแข็งกระด้างของฉินโม่แวบผ่านหน้าฉันขึ้นมาเมื่อนึกถึงความตรงไปตรงมาและเย็นชาของเขาที่ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนห้องกับฉัน จู่ๆ ฉันก็รู้สึกอยากเล่นสนุกขึ้นมา และตอบกลับไปอย่างเบิกบานสำราญใจไปสองคำว่า "ได้เลยค่ะ"ถึงฉันจะตกลง แต่มันก็เป็นเพียงคำพูดที่พูดไปเรื่อยที่ฉันไม่ได้เก็บมาใส่ใจหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ฉันก็ยืมจักรยานในบ้านคุณยายมาคันหนึ่งและปั่นไปรอบๆ มณฑลเล็กๆ แห่งนี้เมื่อฉันกลับมาถึงบ้านก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ฉันมีสิ่งที่ต่างจากตอนที่ออกไปในตอนเช้า ซึ่งก็คือมีกระดานวาดภาพเพิ่มมาฉันรักการวาดภาพ ก่อนที่พ่อแม่ของฉันจะเสีย พวกเขาให้ฉันไปสมัครเรียนคลาสเต้น คลาสวาดภาพ และการเขียนพู่กันจีน อีกทั้งยังให้ฉันเรียนกู่เจิงด้วยแต่สิ่งเหล่านี้ล้วนจบลงหลังจากที่พวกเขาจากโลกไป แต่สิ่งเดียวที่ยังไม่จบลงก็คือการวาดภาพ เพราะมันง่ายมาก เพียงแค่มีปากกาหนึ่งด้ามและกระดาษหนึ่งแผ่นก็เพียงพอแล้วทั้งวันวันนี้ที่ฉันออกไปข้างนอก นอกจากการมองชมวิวรอบๆ แล้ว ฉันก็ได้วาดรูปมารูปหนึ่ง ก็คือรูปเขตชิงผิงใหม่ความปรารถนาสูงสุดของพ่อแม่ของฉันค

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 33

    แต่เมื่อฉันนอนลงบนเตียงแข็งๆ ภาพตรงหน้าก็ยุ่งเหยิงและว่างเปล่า ฉันจึงนอนไม่หลับในที่สุด ฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดไลน์ เห็นข้อความที่ส่งมาจากหยวนเสี่ยวไต้และเกาหย่วนหยวนเสี่ยวไต้ “พี่ซาน วันนี้ฉันยุ่งจนหัวหมุนทั้งวันเลย แต่งานที่พี่ฝากให้ทำฉันทำเสร็จแล้วนะ พรุ่งนี้ต้องเอาขนมมงคลสมรสมาให้ฉันเป็นรางวัลด้วยนะ พี่ซาน สุขสันต์วันแต่งงาน ขอให้มีความสุขมากๆ ตลอดชีวิตไปจนแก่เลยนะ”เมื่อเห็นข้อความนี้ ฉันก็กระตุกมุมปากเย้ยหยัน แต่ไม่ได้ตอบกลับเกาหย่วน “ผู้ช่วยเฉียว อย่าเข้าใจประธานเจียงผิดนะ อย่าไปมีเรื่องอะไรกับประธานเจียงเด็ดขาด ไม่งั้นความผิดผมได้ใหญ่มหันต์แน่”ฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรเช่นกัน เพียงแต่เปิดอินสตาแกรมขึ้นมา แล้วก็เจอรูปเงาที่ฉันถ่ายที่สวนสนุกในอัลบั้ม จากนั้นก็โพสต์ไปข้อความหนึ่งว่า ‘สุขสันต์วันขึ้นปีใหม่!’หลังจากโพสต์แล้ว ฉันก็ลบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเจียงอวี้เหิงออกจากอินสตาแกรมของฉันสิ่งที่ฉันทำก็มันก็คล้ายๆ กับสิ่งที่พวกดาราชอบทำในตอนหย่าหรือไม่ก็เลิกกับแฟนเมื่อไม่ได้เป็นคู่รักกัน แล้วก็เป็นคนรักกันไม่ได้ เพราะฉะนั้นการลบทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวกับความรักไปก็คงจะดีท

  • เลิกเป็นตัวสำรอง คุณหนูเฉียวเปิดตัวกับชายอื่นแล้ว   บทที่ 32

    “เสี่ยวโม่ นี่คือผู้หญิงที่ฉันบอกเธอว่าอยากเปลี่ยนบ้าน พวกเธอลองคุยกันดูไหม?”คุณยายเจ้าของบ้านพูดขึ้น ทำลายช่วงเวลาการสบสายตาระหว่างฉันกับชายคนนั้นลงฉันเดินเข้าไป “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเฉียวซาน ห้องที่คุณอยู่ห้องนั้น ฉันขอเปลี่ยนได้ไหมคะ?”“ไม่ครับ” การปฏิเสธของเขาเด็ดขาดเหมือนกับตอนที่สระผมเมื่อครู่นี้มุมปากของฉันขยับเล็กน้อย ความรู้สึกไม่พอใจผุดขึ้นในใจเล็กน้อย อีกทั้งความดื้อรั้นก็แสดงออกมา “ทำไมล่ะ?”ชายคนนั้นมองมาที่ฉัน ไม่ได้พูดอะไร เขาเอาผ้าขนหนูสีเขียวลายทหารพาดไหล่แล้วเดินผ่านฉันไปทั้งแบบนั้นไอความเย็นที่แผ่ซ่านมาจากน้ำทำให้ฉันสั่นสะท้านอย่างไม่มีสาเหตุ“เสี่ยว...เสี่ยวเฉียวสินะ?” คุณยายเจ้าของบ้านเดินเข้ามา “อย่าโกรธเลยนะ ฉินโม่น่ะง้อผู้หญิงไม่เป็น เดี๋ยวฉันจะกลับไปคุยกับเขาทีหลัง”ฉันก็อารมณ์ขึ้นเช่นกัน จึงจงใจพูดเสียงดัง “ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่ห้องนั้นก็ไม่ทำให้สูงส่งได้หรอกค่ะ ใครอยากอยู่ก็อยู่ไปเถอะ”พูดจบ คุณยายเจ้าของบ้านก็ดึงฉันไว้แล้วพูดว่า “อย่าดุแบบนี้สิ เขาเคยเป็นทหารที่ผ่านการฝึกหนักมานะ ถ้าเขาโกรธขึ้นมา เขาสามารถแบกเธอขึ้นมาแล้วเอาไปโยนทิ้งที่ข้างนอกได้เลยน

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status