ในขณะที่อัยย์วารินทร์พยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้น เปลือกตาของคนเมาที่ปิดลงคล้ายคนจะหลับกลับค่อย ๆ เปิดขึ้น เผยให้เห็นดวงตาฉ่ำวาวมองมาที่เธออย่างไม่กะพริบ สายตานั้นทำให้อัยย์วารินทร์รู้สึกถึงความร้อนรุ่มในอกที่เพิ่มขึ้น เธอพยายามดันตัวเองลุกขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับถูกมือหนาของชายหนุ่มกดแผ่นหลังเอาไว้ ราวกับเขาจะไม่ยอมให้เธอหนีไปไหน“พี่เชน... ปล่อยอัยย์เถอะค่ะ” อัยย์วารินทร์เอ่ยออกมาด้วยเสียงติดสั่น หัวใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ เธอดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดแต่ร่างแกร่งกลับยิ่งกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น ดวงตาปรือปรอยคู่นั้นจ้องริมฝีปากบางแต่ดูอวบอิ่มอย่างหลงใหลแบบไม่เคยรู้สึกมาก่อน ก่อนที่ใบหน้าคมไร้หนวดเคราจะค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้จนเกือบสัมผัสใบหน้าสวย รู้ตัวอีกทีหญิงสาวก็หลับตาลงโดยอัตโนมัติและสัมผัสถึงรสจูบนุ่มลึกแต่พอนึกถึงคำพูดในช่วงพิธีงานแต่งของฝ่ายชายได้ 'ผมแพ้ลิปสติก' ก็ทำให้ดวงตากลมโตเบิกโพลงในทันทีแม้ว่าเขาจะยังจูบอยู่ก็ตาม ลิ้นเรียวที่เกี่ยวพันจนฉ่ำแฉะเริ่มรุกเร้าไล่ต้อนและดูดดุนอย่างรุนแรง ทำเอาเธอได้สติ มือบางทุบอกไปแกร่งไปหลายทีก่อนที่เขาจะผละออก ดวงตาขุ่นเคืองของคนใต้ร่างจ้องม
ร่างเล็กพยายามร้องขอเพราะความเจ็บจี๊ดที่ซอกคอขาวเธอพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดอย่างสุดชีวิต มือบางยันอกแกร่งที่ตอนนี้กระดุมหลุดออกไปหลายเม็ด ฝ่ามือบางจึงสัมผัสกับแผ่นอกกว้างโดยตรง และเป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัสเนื้อต่อเนื้อกับผู้ชายครั้งแรก ใบหน้าสวยของเธอจึงมีแต่ริ้วแดงที่ปรากฏออกมาจากใบหน้าที่ร้อนผ่าวในขณะที่ริมฝีปากเปียกชื้นของชายหนุ่มแนบลงบนลำคอซุกไซ้ไม่หยุดเธอ จากความเจ็บกลายเป็นความซ่านหวิวอย่างที่เธอไม่เคยพาลพบมาก่อนหญิงสาวพยายามเบี่ยงคอหนี แต่กลับกลายเป็นว่าเพียงแค่เธอเอียงคอหนีก็ทำให้เขากดจูบลงมาอย่างถนัดก่อนที่เขาจะตรึงใบหน้าของเธอเอาไว้ด้วยมืออุ่นข้างเดียวทำเธอไม่มีโอกาสหนีได้อีกริมฝีปากอุ่นร้อนหว่านพรมความร้อนไปตั้งแต่ซอกคอและกกหู คลอเคลียที่แก้มเนียนนุ่ม ก่อนจะเคลื่อนปลายจมูกกลับมาซุกไซ้ที่ซอกคออีกครั้ง พร้อมกับลมหายใจถี่กระชั้น ก่อนที่ฟันคมจะงับต้นคอเพรียวระหงไล่เรื่อยไปยังแอ่งชีพจร พ่นลมหายใจร้อนผ่าวคล้ายจะยั่วให้ทนไม่ไหว จากนั้นฝ่ามือใหญ่ก็ลูบไล้ไปทั่วผิวเนื้อนวลเนียนทั่วร่างกายของคนตัวเล็ก เสียงครางกระหึ่มอยู่ในลำคอบ่งบอกถึงความพอใจร่างนุ่มนิ่มทำให้ความต้องการที่มากขึ้นไปอีก
ร่างสูงลืมความตั้งใจที่จะทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวดไปจนหมดสิ้น พลางคิดว่าถ้าได้เอ็นอุ่นเข้าไปซุกอยู่ด้านใน คงจะดีไม่น้อยแต่ความคับแน่นที่ตอดรัดนิ้วเรียวไม่หยุดทำให้เขาต้องเพิ่มความเสียวซ่านให้เธอมากขึ้น เพราะเอ็นอุ่นขนาดใหญ่ถ้าเข้าไปตอนนี้มีหวังเธอได้ร้องเป็นแน่"อื้อ..พี่เชน อัยย์เจ็บ" เสียงหวานร้องออกมาก่อนจะดันร่างแกร่งออกห่าง แต่เพราะแรงที่ไม่มีเหลือทำให้เธอได้แค่เพียงวางฝ่ามือตรงอกแกร่งของขาเท่านั้นสองมือของคเชนทร์เริ่มเล้าโลมอีกครั้งพร้อมกับริมฝีปากผ่าวร้อนที่ก้มลงจูบใกล้เนินสาว ก่อนจะไล่งับไปที่เรียวขาขาวที่ถูกจับพาดบ่ากว้าง"อืออ..อ๊ะ พี่เชน" อัยย์วารินทร์ครางเสียงหวานความคับแน่นของนิ้วที่รุกคืบเข้ามาครบทั้งสามทำเอาร่างเล็กแอ่นสะโพกส่ายร่อนอย่างเร่าร้อน ใบหน้าสวยส่ายไปมาหลุดลอยไปในห้วงสวาทอันซาบซ่าน นิ้วแกร่งเร่งระรัวสร้างความเสียวกระสันให้กับหญิงสาวจนเธอครวญครางฟังไม่ได้ศัพท์เขาเคลื่อนไหวเรียวนิ้วราวกับจะคลำหาจุดไวสัมผัสที่อยู่ข้างใน ปลายนิ้วขยับเป็นวงกลมจากนั้นจึงเพิ่มจำนวนเสียดสีตรงจุดเดิมย้ำ ๆ นิ้วที่สอดเข้ามายังส่วนที่หดเกร็งขยี้ซ้ำ ๆ ตรงจุดที่ไวต่อการกลั่นแกล้ง ทำให้ร่างเล็กส
ป่านนี้เขาก็คงออกไปทำงานอย่างที่เคย จะมาสนใจอะไรกับคนที่ไม่ต้องการ เรื่องเมื่อคืนเขาก็คงทำตามหน้าที่เท่านั้นหญิงสาวคิดอย่างเศร้าหมอง แต่ทว่าเสียงเปิดประตูห้องน้ำทำให้เธอหันไปมองด้วยความตกใจ เมื่อสิ่งที่เธอคิดไว้ไม่เป็นอย่างที่คิด ร่างเล็กพลิกกายหลับตาลงทันทีเพราะไม่กล้าสู้หน้าอีกฝ่ายแต่ก็เหมือนกับสวรรค์แกล้งเธอส่งเสียงจามออกมาอย่างห้ามไม่ได้“ฮัดชิ้ว! ฮัดชิ้ว!” อัยย์จามออกมาติด ๆ กัน ทำให้เจ้าตัวไม่มีทางเลือก ต้องแกล้งทำเป็นเพิ่งตื่นนอน หญิงสาวขยับตัวไปมานิดหน่อยให้ดูเหมือนคนที่เพิ่งตื่น ก่อนจะพยายามดันตัวเองลุกขึ้นจากเตียงนอนแต่แล้วจู่ ๆ ความเจ็บแปลบตรงท้องน้อยก็แล่นริ้วขึ้นมาอย่างรวดเร็ว"อ๊ะ!" เสียงร้องหลุดออกมาพร้อมกับใบหน้าที่นิ่วด้วยความเจ็บปวด ร่างเล็กสั่นสะท้าน หัวไหล่กระตุกด้วยความเจ็บแปลบตรงส่วนนั้น“ลุกไม่ไหวก็นอนต่อ”เสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้นก่อนจะหายไปพร้อมเสียงเดินไปอีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นห้องแต่งตัว ท่าทางเย็นชาเหมือนอย่างเคยหญิงสาวเลือกที่จะไม่พูดอะไรกลับเพราะเขาก็ไม่ได้รอฟัง เธอค่อย ๆ ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้ง ความเจ็บปวดที่ท้องน้อยยังคงทวีขึ้นทุกวินาที แต่เธอไม่กล
อัยย์วารินทร์ที่นั่งทำปริญญานิพนธ์มาหลายชั่วโมงเริ่มรู้สึกเพลีย มือบางกดปิดหน้าจอเพื่อหยุดพักสักครู่ แต่พอโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูก็พบว่าเวลาล่วงเลยมาจนใกล้จะเย็นแล้ว ก่อนที่จะเห็นป้าแม่บ้านเดินเข้ามาหา พร้อมกับถือกระเป๋าไว้ในมือเหมือนกำลังเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก“คุณอัยย์คะ ป้าขอกลับก่อนนะคะ”“อ้าว….คุณป้าไม่ได้อยู่ที่นี่เลยเหรอคะ” อัยย์ถามด้วยความแปลกใจ“เปล่าค่ะ ช่วงนี้ป้าขอมาเช้าเย็นกลับก่อนนะคะ เย็นนี้ป้าต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ทำอาหารเย็นไว้ให้ทัน แต่ป้าได้ซื้อของสดมาใส่ในตู้เย็นให้เรียบร้อยแล้วค่ะ" ชื่นตอบพร้อมกับยิ้มออกมาน้อย ๆ เพราะเธอรู้จากเจ้านายแล้วว่าคุณอัยย์ทำอาหารเป็นแถมยังรสชาติดี ยังงี้ก็ต้องปล่อยเป็นหน้าที่ของภรรยาที่ต้องเอาใจสามี ตามที่ได้รับคำสั่งมาจากคุณผู้หญิง"ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่ช่วยดูแล”“ยินดีค่ะคุณอัยย์ ถ้ามีอะไรรีบโทรหาป้าได้เลยนะคะ” ป้าแม่บ้านยิ้มอ่อนโยนก่อนจะขอตัวกลับไปอัยย์เปิดตู้เย็นแล้วพิจารณาวัตถุดิบที่ป้าแม่บ้านจัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งมีครบทุกอย่าง เธอตัดสินใจว่าจะทำอาหารเย็นไว้รอพี่เชนเพื่อเป็นการตอบแทนที่เขาอย่างน้อยก็ได้บอกให้คนมาดูแลเธ
เมื่อริมฝีปากหนาของเขาจำใจต้องถอนออกจากริมฝีปากบาง จมูกโด่งก็เริ่มซุกไซ้ไปตามซอกคอระหง ลมหายใจถี่กระชั้นที่กระทบผิวทำให้อัยย์วารินทร์ตัวสั่นเทิ้ม"อื้ม!" ร่างเล็กถูกจู่โจมอย่างหนักหน่วงจนแทบจะขยับไม่ได้ ราวกับมีเส้นด้ายล่องหนมัดตัวไว้ ทำให้เธอหนีไม่พ้น เมื่อลมหายใจและริมฝีปากของเขาเข้าจู่โจมที่ซอกคอ ลมหายใจร้อนทำให้ความรู้สึกเสียววาบแผ่ซ่านไปทั่วร่างแต่ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดการโอ้โลม ริมฝีปากของเขาสัมผัสอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นให้อารมณ์ของเธอทะยานขึ้น อุณหภูมิในร่างกายก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัวแม้ว่าการสัมผัสนี้จะทำให้อัยย์รู้สึกปั่นป่วนไม่น้อย แต่เธอก็พยายามเก็บอาการไว้ เม้มริมฝีปากแน่นเมื่อไหปลาร้าถูกฝากรอยหนัก ๆ ใบหน้าของเธอแดงซ่าน ขณะที่ความเสียวซ่านอย่างนุ่มนวลยังคงต่อเนื่อง ฝ่ามือที่โอบรอบแผ่นหลังของเธอค่อย ๆ เลื่อนลงมาที่ท้องน้อย และกำลังคล้อยต่ำลงไปยังสะโพกตอนนี้ ทั้งสองสบตากันอย่างจดจ่อ ความต้องการและแรงปรารถนาชัดเจนในดวงตาของเขา วันนี้เขามีสติสมบูรณ์ครบถ้วน อยากจะสำรวจทุกตารางนิ้วของร่างกายหญิงสาว แรงสัมผัสจากฝ่ามืออุ่นที่ลูบไล้ทั่วตัว ทำให้เธอรู้สึก
"อ๊ะ..อื้มม" ต้นขาถูกขาแกร่งดันออกกว้างพร้อมรับตัวตนทั้งหมด ร่างสูงถอนท่อนลำเข้าออกช้า ๆ ก่อนจะเร่งถี่ยิบ ความเสียวซ่านครอบงำอีกครั้งแผ่นอกสะท้านลำคอแหงนหงาย แรงสะเทือนแผ่ซ่านจากส่วนลึก ขยับคล้ายจะดึงแก่นกายออกมาจากช่องทางเกือบสุด แต่แล้วกลับดันพรวดเข้ามาในจังหวะเดียวต้นขาเล็กเรียวถูกรั้งขึ้นทำให้ร่างกายถูกเชื่อมโยงล้ำลึกขึ้นยิ่งกว่าตอนแรก คนผอมเพรียวสมองขาวโพลนทุกครั้งที่ช่องทางถูกกระแทกกระทั้นจากทางด้านหลังไม่หยุดจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นปัก! ปัก! ปัก!แต่ในหัวสมองของผู้ชายคนนี้กำลังวาดภาพท่า Doggy Style ไว้ในความคิด ใช้โต๊ะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวร่างกายให้ยืนอยู่ได้ ทั้งยังสามารถสนุกสนานกับการจับ เคล้น คลึง ทุกสัดส่วนของหญิงสาวจากด้านหลังได้ตามใจชอบ“อื้อ! จะ เจ็บ!” คเชนทร์พักสะโพกให้อยู่เฉยตามคำขอของหญิงสาว แต่นิ้วมือและริมฝีปากแตะตรงนั้นลูบตรงนี้ ขยับไปทั่วร่างอย่างถือสิทธิ์ด้วยท่วงท่าที่อำนวย ความเร่าร้อนของคนตัวใหญ่คว้านไล่วนในตัวเธอ บีบไล่ต้อนกระทั่งจนมุม ร่างสูงค่อย ๆ ประคองร่างเล็กให้นอนหงายลงไปบนโต๊ะทำงานกว้าง ขาสองข้างถูกแยกออก เขาเปลี่ยนท่าทั้งที่ส่วนนั้นยังอยู่ในตัวข
สีหน้าเปี่ยมสุขของลิลลี่ฉายชัดทางแววตา ขาสวยเดินเข้ามาหาฝ่ายชายแล้วจับมือหนาของเขาทั้งสองข้างไปกอบกุมเอาไว้“ขอบคุณเชนมากนะที่ไม่ทิ้งของที่ลิลลี่เคยให้ ขอบคุณที่เชนดีกับลิลลี่มากขนาดนี้”“จะให้เชนทิ้งของที่เป็นลิลลี่ เชนทำไม่ได้ ไม่ได้จริง ๆ ….ตอนนั้น” คำว่าตอนนั้นมันแผ่วเบามากจนแทบไม่ได้ยิน ทำให้ชายหนุ่มพลันคิดในใจ ‘หรือว่าตอนนี้เราทิ้งได้วะ’ความลังเลและไม่มั่นใจของเชนถูกปิดซ่อนเอาไว้อย่างดี ในขณะที่หญิงสาวไม่สังเกตเห็นมันเลยสักนิดเดียว เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจว่าคเชนทร์ยังรักเธอหมดหัวใจเหมือนเช่นเคย ลิลลี่เอื้อมมือไปแตะที่แก้มสาก ปลายนิ้วลูบไล้เบา ๆ ไปมาอย่างคะนึงหา ดวงตาเฉี่ยวคมของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเชน ราวกับจะดึงเขาเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆในจังหวะที่ใบหน้าทั้งสองกำลังเคลื่อนเข้าหากันจนลมหายใจแทบจะรดกัน แต่แล้ว...ร่างสูงกลับผละออกไปอย่างกะทันหัน เขาลอบกลืนน้ำลายเหนียว ๆ อย่างยากลำบาก รู้สึกสับสนในใจ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเอ่ยคำขอตัวด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ“เชนกลับก่อนนะ พักผ่อนพรุ่งนี้เชนจะมารับลิลลี่ที่นี่ตอนเช้า แล้วเราค่อยไปทำงานพร้อมกันที่บริษัทของเชน ดีไหม”“อะ...อ๋อ ได้เลย เ
“พะ...พี่เชน พี่เชนพูดว่าอะไรนะคะ” อัยย์วารินทร์เงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง เธอไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม เมื่อกี้นี้พี่เชนพูดว่า 'รัก' ออกมา...คำที่เธอเฝ้ารอมานาน และไม่เคยคิดว่าจะได้ยินมันจากปากของเขาคเชนทร์มองหญิงสาวด้วยสายตาเว้าวอน "อัยย์...พี่รักอัยย์จริง ๆ พี่ขอโทษที่รู้ตัวช้า ขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับอัยย์ วันนี้พี่รู้แล้วว่าหัวใจของพี่มีแต่อัยย์ ให้อภัยคนโง่ ๆ อย่างพี่เถอะนะ”คำสารภาพที่เต็มไปด้วยความจริงใจของคเชนทร์ท่ามกลางสักขีพยานทั้งสองครอบครัว ทำให้อัยย์วารินทร์เริ่มมีสีหน้าที่อ่อนลง แววตาของเธอสั่นระริกด้วยความอ่อนไหว คำพูดของเขาทำให้หัวใจที่เคยแข็งกร้าวเริ่มอ่อนลงโดยไม่รู้ตัวเมื่อเคชนทร์เห็นความหวั่นไหวในดวงตาหญิงสาวความหวังเล็ก ๆ ก่อตัวขึ้นในใจ“น้องอัยย์คิดเห็นว่ายังไงลูก” พริมาถามขึ้นอย่างอ่อนโยน เมื่อเห็นลูกสาวนิ่งเงียบไป ก่อนจะพูดต่อ“ไม่ว่าลูกจะตัดสินใจยังไง แม่กับพ่อและพี่คชาก็จะเคารพการตัดสินใจของหนู” ดวงตาเอื้ออาทรของแม่พริมาส่งผ่านความห่วงใย พร้อมคำพูดที่เปรียบดั่งน้ำเย็นชโลมใจ ช่วยให้อัยย์กล้าตัดสินใจตามความรู้สึกของตัวเองตอนนี้อัยย์วารินทร์จ
อัยย์วารินทร์ที่กลับขึ้นไปห้องนอนของตัวเองแล้ว แต่จิตใจยังว้าวุ่น พอได้ยินเสียงพี่ชายกับสามีทะเลาะกันเสียงดังอยู่นานสองนาน จนเธอทนไม่ไหวต้องลงมาห้ามในที่สุดคเชนทร์ที่เห็นหญิงสาวก็รีบปล่อยมือจากคอเสื้อของคชาทันที เขาปรี่เข้าไปหาอัยย์วารินทร์ด้วยสายตาละห้อย อารมณ์โกรธที่มีเมื่อครู่หายไปจนหมดสิ้น“อัยย์….”“หยุดเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” น้ำเสียงเย็นชาจากปากเล็ก ทำให้ร่างรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกข้างซ้าย ‘น้ำเสียงแบบนี้สินะ ที่เขาเคยใช้พูดทำร้ายจิตใจของอัยย์ในเมื่อก่อน’“อัยย์จะลงมาทำไมอีก กลับขึ้นไปเถอะ” คชาเดินเข้าไปหาน้องสาว ก่อนจะเอ่ยตำหนิเล็กน้อย“อัยย์ได้ยินว่ากำลังจะมีใครบางคนทำร้ายพี่คชา อัยย์ก็เลยทนไม่ได้ต้องรีบมาห้ามไว้ค่ะ” คำพูดที่ฟังดูห่างเหินจากปากของหญิงสาวยิ่งทำให้คเชนทร์รู้สึกเจ็บช้ำ แต่เขาไม่เคยคิดโกรธเธอเลย เพราะเขาเองที่เคยทำไม่ดีกับเธอก่อนคชาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงยียวน “น้องไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอก ก็แค่คนพาล พี่ไม่กลัวหรอก”“ไอ้คชา!” เชนคำรามด้วยความโกรธ แต่ยังไม่ทันพูดอะไร เสียงแหวก็ดังขึ้นอีกครั้ง“อย่านะคะ” คำพูดเพียงสั้น ๆ ของเธอ แต่กลับมีอำนาจมากพอที่จะระงับอารม
คเชนทร์ตวาดออกมาด้วยความเดือดดาล สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ ความหวาดกลัวว่าจะสูญเสียคนรักทำให้เขายิ่งพยายามแสดงความเป็นเจ้าของ คเชนทร์ดึงหญิงสาวเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนแสดงความหวงแหนแต่ใครจะรู้ว่าคนในอ้อมแขนนั้นกลับดิ้นขัดขืนอย่างไม่หยุด ทั้งยังกล่าวคำหักหน้าของเขาออกมาอีกด้วย“พี่เชน! ..ปล่อยนะ เราไม่ได้เป็น….สามีภรรยากันแล้วนะคะ” คำพูดของหญิงสาวทำให้คเชนทร์ที่กำลังเกรี้ยวกราดอยู่แล้ว ยิ่งโกรธจัดจนควบคุมสติตัวเองไม่อยู่“ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเหรอ ทะเบียนสมรสก็ยังมี จะไม่ได้เป็นได้ยังไง!” เขาโพล่งออกมาทันควัน น้ำเสียงแข็งกระด้าง ดวงตาวาวโรจน์จ้องที่หญิงสาวอย่างไม่ลดละ ทั้งที่ก่อนมาเขาตั้งใจจะขอโทษเธอกับสิ่งที่เขาทำผิดไป แต่พอเห็นหญิงสาวคุยหัวเราะกับผู้ชายคนอื่นทำให้เกิดหึงหวงออกมาโดยไม่รู้ตัวและเป็นครั้งแรกที่คเชนทร์ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ อัยย์วารินทร์มองหน้าคนที่กำลังอาละวาดด้วย ความไม่เข้าใจ ทั้ง ๆ ที่เธอถอยให้เขาขนาดนี้แล้วเขายังจะตามมารังควานเธออีกทำไม หญิงสาวเม้มปากแน่น ก่อนจะเอ่ยขึ้น..“...แต่อีกไม่นานอัยย์กับพี่เชนก็ต้องหย่ากันแล้ว” อัยย์วารินทร์พูดด้วยน้ำเสียงติดนิ่ง แต่เธอ
“แม่ยอมรับว่าตอนแรกแม่อยากให้ลูกแต่งงานกับพี่เชนมาก เพราะแม่คิดว่าเขาจะดูแลลูกได้ดี แต่พ่อกับแม่ไม่คิดเลยว่าเขาจะทำให้ลูกของแม่เสียใจขนาดนี้ สิ่งที่ตาเชนทำกับหนู..พวกเรารับไม่ได้จริง ๆ” น้ำตาของคนเป็นแม่ไหลลงอย่างกลั้นไม่อยู่“แม่ขอโทษนะลูก แม่ขอโทษที่ไม่ฟังลูก ไม่ถามความรู้สึกของลูกให้ดี เอาแต่จะบีบบังคับลูกอย่างเดียว” น้ำเสียงของแม่สั่นเครือ ขณะที่เธอก้าวเข้ามากอดลูกสาวสุดที่รักไว้แน่น เพราะความเชื่อมั่นในใจตัวเองแท้ ๆ ที่ทำให้ลูก ทุกข์ระทมได้ถึงขนาดนี้ พริมาต่อว่าตัวเองอยู่ในใจเมื่อได้ยินดังนั้น คนเป็นลูกสาวก็ยิ่งหลั่งน้ำตาออกมา สองแม่ลูกพากันร้องไห้ออกมาด้วยความทุกข์ใจไม่ต่างกันอัยย์วารินทร์ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะคำว่าหย่าที่ได้ยินมันทำให้เธอจุกและเจ็บจนพูดไม่ออกและเมื่อเห็นแม่ของตัวเองร้องไห้ด้วยความทุกข์ใจ น้ำตาของเธอก็ไหลพรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างเล็กสะอึกสะอื้นไห้จนไหล่เล็กสะท้านอย่างน่าสงสารในตอนนี้ อัยย์วารินทร์รู้สึกสับสนไปหมด ทั้งรัก ทั้งเจ็บ และเห็นใจครอบครัวของตัวเอง ความคิดในหัวของเธอวุ่นวายไม่หยุดความรักที่เธอมีต่อคเชนทร์ ความเจ็บปวดที่ได้รับ และความรู้สึก
ในขณะที่คเชนทร์ประสบความยุ่งยากในใจอยู่นั้น อีกฟากหนึ่งของบ้านภรรยาก็เกิดความวุ่นวายใจไม่แพ้กัน หลังจากกลับจากกินข้าวนอกบ้าน คชาส่งอัยย์วารินทร์เข้าห้องนอนทันที เพราะตอนนี้เธอไม่พร้อมที่จะเจอหน้าพ่อแม่ เมื่อพาน้องสาวไปพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว คชาจึงเรียกพ่อกับแม่มารวมตัวกันที่ห้องโถงใหญ่ของบ้าน เพื่อหารือเรื่องปัญหาครอบครัว เมื่อหนึ่งคนมีปัญหา คนอื่นในครอบครัวก็ต้องช่วยกันหาทางออก“พ่อครับ แม่ครับ ผมมีเรื่องต้องขอคำปรึกษามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับยัยอัยย์.."“มีเรื่องอะไร..!” ทั้งสองคนถามขึ้นพร้อมกัน เมื่อเห็นใบหน้าเคร่งเครียดและท่าทีจริงจังของลูกชาย หัวใจของพ่อแม่เริ่มรู้สึกกังวล กลัวว่าสิ่งที่กำลังจะได้ยินเป็นเรื่องร้ายแรงคชาอึกอักอยู่ครู่หนึ่ง เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน มันไม่ง่ายเลยที่จะพูดออกไป แต่ด้วยความเป็นพี่ชาย หากเขายังทำไม่รู้ไม่เห็นแล้วปล่อยไป เขาคงเป็นพี่ชายที่แย่มาก ๆ และเรื่องนี้ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่ อันที่จริงถ้ามันไม่รักน้องสาวเขา ๆ ก็ไม่ว่าอะไร แต่ในเมื่อคนเราแต่งงานกันแล้วแทนที่มันจะซื่อสัตย์ต่อภรรยาแต่มันกลับนอกใจ แบบนี้ไม่มีวันที่เขาจะยอมให้น้องสาวต้องไปทนทุกข์กับมั
เมื่อได้ยินอย่างนั้นจากพี่ชาย หญิงสาวที่ก้มหน้าอยู่ก็หันขวับไปมองอีกฝ่ายทันที เมื่อกี้พี่ชายเธอถามว่ายังไงนะ"พี่ถามว่าไอ้เชนมันนอกใจอัยย์ใช่มั้ย!" เสียงเข้มตอกย้ำคำถามอีกครั้งตอนแรกไอ้วรินคิดว่าหูเพี้ยน ที่ได้ยินพี่ชายถามเรื่องที่ไม่คาดคิด แต่พอเห็นใบหน้าและท่าทางที่จริงจังของพี่ชายอัยย์วารินทร์ก็ถึงกับไปไม่ “พะ พี่คชา” เธอเริ่มอึกอักตอบไม่ถูก ใบหน้าฉงนด้วยความประหลาดใจ ไม่รู้ว่าพี่ชายรู้เรื่องนี้ได้ยังไง ส่วนคชาก็ไม่ทำให้น้องได้สงสัยอีกต่อไปเขาสบตาน้องสาวก่อนจะตอบเสียงเรียบ“วันนี้พี่ไปหาไอ้เชนที่บริษัท แล้วเจอผู้หญิงคนหนึ่ง ท่าทางสนิทสนมกับมันมาก และถ้าพี่จำไม่ผิด ผู้หญิงคนนั้นก็คือลิลลี่ แฟนเก่าของมัน”“ฟะ... แฟนเก่าเหรอคะ? ” อัยย์วารินทร์ถามเสียงสั่น ความจริงที่ได้ยินทำให้เธอแทบหยุดหายใจ ลำคอตีบตันไปด้วยก้อนสะอื้นที่ไหลมาจุกอยู่ที่คอ‘ผู้หญิงคนนั้นคือแฟนเก่าที่พี่เชนรักมากอย่างนั้นเหรอ... แล้วฉันควรทำยังไง จะเอาอะไรไปสู้กับเขาได้ ตอนนั้นจำได้ว่าคุณลุงกับคุณป้าเคยพูดว่าพี่เชนถูกคนรักบอกเลิกไป โดยที่ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงและตอนนั้นพี่เชนก็เสียศูนย์มากกว่าจะกลับมาตั้งหลักได้อีกครั
คำถามตรง ๆ ทำให้คเชนทร์ตอบไม่ถูก ราวกับคนที่มีความผิดติดตัว แม้พยายามแสร้งทำเป็นปกติ แต่ภายในใจกลับรู้สึกถึงความร้อนรนแต่ก็ต้องแสร้งปั้นหน้าทำเหมือนว่าทุกอย่างปกติดี ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองนั้นมีความลับซ่อนอยู่“ก็ดี”คชามองหน้าเพื่อนด้วยความสงสัย ก่อนจะถามซ้ำ “แน่ใจเหรอวะ”คเชนทร์รู้สึกว่าคำถามนี้เหมือนคมมีดที่จ่ออยู่ที่คอหอย สายตาแน่วแน่ของคชาดูเหมือนจะต้องการคำตอบที่ชัดเจน ไม่ใช่การหลีกเลี่ยงหรือคำตอบเลี่ยง ๆ ร่างสูงรู้สึกคอแห้งผากขึ้นมาทันที เขารีบหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม สายตาเหลือบมองไปทางพ่อของอัยย์วารินทร์ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ แม้ท่าทางของพ่อภรรยาจะดูนิ่งเหมือนไม่ใส่ใจในบทสนทนาของลูกชาย แต่คเชนทร์รู้สึกได้ว่าบรรยากาศรอบตัวดูเปลี่ยนไปอย่างบอกไม่ถูกเมื่อวางแก้วน้ำลง คเชนทร์กระแอมออกมาหนึ่งครั้งเพื่อกลบเกลื่อนความไม่สบายใจ“แน่ใจสิ มีอะไรเหรอ ทำไมถึงถามแบบนี้?”“ไม่ได้มีอะไร ก็แค่อยากรู้ความสัมพันธ์ของน้องสาวกับเพื่อนรักเฉย ๆ ว่าราบรื่นดีไหมกับชีวิตหลังแต่งงาน”“พะ…พี่เชน” เสียงใสของอัยย์วารินทร์ทำให้บทสนทนาระหว่างคเชนทร์และคชาหยุดลงทันที ทั้งสองชายหนุ่มหันมองไปที่ต้นเสียงพร้อม ๆ กั
อัยย์วารินทร์ที่เห็นท่าทีเช่นนั้นจึงตัดสินใจพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน“พี่กันยาบอกความจริงอัยย์มาเถอะค่ะ ถือว่าสงสารอัยย์นะคะ”หลังจากคำพูดของภรรยาเจ้านาย กันยาก็พูดออกมาจนหมด ด้วยความเป็นผู้หญิงด้วยกันเธออดสงสารอัยย์วารินทร์ไม่ได้จริง ๆ ทั้งเรื่องที่คเชนทร์พา ลิลลี่ไปอยู่ที่คอนโดเดียวกันและเรื่องที่รับมาเป็นเลขาชั่วคราวทั้งที่งานที่นี่ก็ไม่ได้ล้นมืออะไร และยังเรื่องที่ลิลลี่ชอบไปป่าวประกาศว่าตนเองเป็นคนรักเก่าของเจ้านาย และสิ่งที่พูดมาเหล่านี้จะเป็นเพราะลิลลี่เป็นคนตามประกาศออกมาทั้งหมด หลังจากได้รับรู้ความจริงทั้งหมดจากปากของเลขาส่วนตัวของคเชนทร์ อัยย์วารินทร์รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบพังทลายลงมาต่อหน้า ร่างเล็กของเธอทรุดลงตรงหน้าพี่กันยาอย่างหมดเรี่ยวแรงกันยาเองก็ตกใจเธอรีบพาร่างเล็กของภรรยาเจ้านายมานั่งนั่งบนเก้าอี้พร้อมกับยาดมที่จ่อปลายจมูก หากถามว่าทำไมกันยาที่เป็นเลขาได้เงินเดือนจากคเชนทร์ทำไมถึงยอมเล่า ก็เพราะความเป็นผู้หญิง และโดยเนื้อแท้กันยานั้นเกลียดการนอกใจเป็นที่สุด เธอโตมากับแม่เพราะพ่อเจ้าชู้นอกใจแม่ เธอเห็นแม่ร้องไห้ทุกคืน กว่าจะเลิกรากันได้ก็เจ็บช้ำน้ำใจมาเยอะแล้วดู
“นั่นมัน….”“เราไปร้านอื่นกันเถอะ” อัยย์วารินทร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ก่อนจะดึงแขนของแจนไว้แน่น แจนมองหน้าตัวเองอย่างไม่เข้าใจ พยายามคาดเดาว่าเพื่อนรักกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เมื่อเห็นว่าอัยย์วารินทร์ไม่ต้องการอธิบายอะไรมากในตอนนี้เธอก็พยักหน้าแล้วเดินตามออกไปนอกร้านเมื่อเดินออกมาไกลจากร้านอาหารร้านนั้นแล้ว แจนก็อดไม่ไหว รีบคว้ามือเพื่อนให้หยุดเดิน“หยุดก่อนสิ” อัยย์วารินทร์หยุดเดินและหันกลับมามองหน้าเพื่อน พยายามฝืนยิ้มออกมาให้เพื่อนสบายใจ แต่ในใจทุกตรมขมขื่น“มีอะไรเหรอ” “ทำไมแกไม่เข้าไปหาพี่เชนล่ะ เขานั่งอยู่กับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ ท่าทางดูสนิทสนมกันเกินไป” ดูไม่เหมือนเพื่อนไม่เหมือนคนรู้จักแต่มันเหมือนคนรักกันมากกว่า แต่นั่นแจนไม่ได้พูดออกไป เพียงแค่นี้เพื่อนของเธอก็เหมือนจะร้องไห้ออกมาแล้ว ถึงใบหน้าจะมีรอยยิ้ม แต่เธอรู้ว่าเพื่อนพยายามทำให้เธอสบายใจ และดูสิ ยังจะมาพูดแก้ตัวให้อีก“ฉันกลัวว่าเขาจะกำลังคุยงานหรือธุระสำคัญอยู่ ก็เลยไม่อยากเข้าไปทัก มันจะเป็นการเสียมารยาทเอาได้”“ตามใจแกก็แล้วค่ะ สามีของแก ไม่ใช่สามีของฉัน” แจนพูดพร้อมกับทำแก้มพอง หงุดหงิดที่เพื่อน อ่อนแอยอมไปเสียทุ