เจอกับอรอุมาครั้งนี้ ชาญชัยรู้เลยว่าเขาโชคดีมากที่หลุดมาจากผู้หญิงคนนี้และได้รู้จักกับพริมา ถึงพริมาไม่มีอะไรเทียบเท่าอรอุมาได้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าเขากลับรู้สึกว่าพริมาคือสิ่งที่เขาจับต้องได้ ไม่ว่าจะร่างกายหรือความรู้สึก
พริมาไม่ใช่คนซับซ้อน โกรธก็แสดงออกว่าโกรธ รักก็บอกว่ารัก แม้จะงอแงงี่เง่าและทำให้เขาเหนื่อยใจอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่มีสักครั้งที่อยากยุติความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา
ประตูลิฟต์เปิด กายหนาก็เดินเลี้ยวไปทางขวามือ มาถึงหน้าห้องก็ดึงคีย์การ์ดออกมาจากกระเป๋าสตางค์ แนบคีย์การ์ดเปิดประตูห้อง ตาก็สะดุดเข้ากับพริมาที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นระเบียงนอกห้องรับแขก ชาญชัยถอดรองเท้าเดินด้วยฝีเท้าที่เบาที่สุด จังหวะที่เดินผ่านโต๊ะเตี้ยหน้าทีวีก็เห็นสมุดบัญชีของธนาคารวางอยู่โดยที่หน้าซองใสมีสติกเกอร์คำว่า ‘บ้านของเรา’ ติดอยู่
เพราะหันหลังพิงกับประตู หันหน้าออกไปยังนอกระเบียง พริมาเลยไม่รู้ว่าชาญชัยกลับมาและกำลังยืนมองเธออยู่ด้านหน้าประตูอย่างเงียบ ๆ
กว่าสองชั่วโมงแล้ว ที่ออกมานั่งนิ่ง ๆมองท้องฟ้าสีหม่น ตรงปลายขอบฟ้ามีแสงของสายฟ้าแลบโชว์ให้เห็น มีเมฆครึ้มคล้ายกับว่าคืนนี้ฝนอาจจะลงเม็ดได้ แค่ผ่านไปไม่กี่วินาที
เจ้าฝนก็โปรยปรายลงมาจนได้
พริมาหงายฝ่ามือยื่นไปรับหยดน้ำฝนที่ร่วงหล่นมาจากฟ้า ฝนเริ่มลงเม็ดหนาขึ้น ทว่ากายบางก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม
คนที่ยืนอยู่ในห้องหัวใจคล้ายกับว่าเจ็บหน่วง นานแค่ไหนแล้วที่ปล่อยให้ชีวิตคู่มีรอยแตกร้าว นานแค่ไหนแล้วที่คิดว่าต่างคนต่างยังไหวในความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนนี้
ประตูระเบียงถูกเลื่อนออกพร้อมกับกายหนาที่ทรุดนั่งลงข้างกายของคนที่กำลังเปียกชุ่มไปทั่วตัว
“ฝนแรกของฤดูมาแล้ว จะได้หายร้อนซะที”
พริมาเหลียวหน้ามามองสามีผ่านม่านสายฝนที่โปรยปรายหนาเม็ดขึ้นจนรู้สึกเจ็บที่ใบหน้า
ต่างคนต่างนิ่งมองกันอยู่แบบนั้น
พอฟ้าแลบจนเกิดแสงวาบผ่าน พริมาก็หดคอยกมือขึ้นมาปิดที่หูทั้งสองข้าง
“กลัวเสียงฟ้าร้องแล้วมานั่งตากฝนทำไม ยัยเด็กโง่” ตำหนิด้วยใบหน้ายิ้ม ๆแล้วช้อนอุ้มเมียลุกเดินเข้าไปในห้อง ตรงไปยังห้องนอน เดินผ่านเตียงนอนหลังใหญ่ไปจบที่ห้องน้ำ
“หายงอนรึยัง ?”
“พริกไม่ได้งอน แต่พริกโกรธ” บอกเขาโดยไม่มองหน้า ไม่สบตาพลางกอดตัวเองไว้ ชุดนอนตัวบางแนบไปกับตัวจนยอดอกดุนดันขึ้นมา
“ลิปเป็นของอุ๋ย แต่พี่ไม่รู้ว่ามันมาอยู่ในรถได้ยังไง เมื่อคืนพี่ไปดื่มกับไอ้ภัคแค่สองคน อุ๋ยมาจากไหนไม่รู้ เขาเข้ามาทักพี่เอง พี่ไม่ได้นัด ไม่ได้คุย ไม่ได้ติดต่อตั้งแต่ที่เลิกกันแล้ว” เห็นพริมาก็สงสาร เขารู้ว่าเมียรักและหวงเขามาก ถ้าใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์เปิดใจคุยกันมากกว่านี้ อะไรหลาย ๆอย่างคงจะดีขึ้น
“พริกไม่ชอบลิปสีแดง ไม่ชอบให้มันอยู่ในรถของพี่ชาญด้วย” บอกเขาด้วยน้ำเสียงห้วน ๆโดยส่วนตัวแล้วเธอไม่ใช่คนรักสวยรักงามอะไรมากนัก ด้วยความที่เป็นคนหน้าตาดี ผิวพรรณผ่องใส่เป็นทุนเดิม แต่งหน้านิด ๆหน่อย ๆก็ดูดี
แต่ด้วยหน้าที่การงานต้องตามเจ้านายออกไปพบปะผู้คน คอยประสานงานกับหลายที่ การทำให้ตัวเองดูดีอยู่ตลอดเวลาจึงเป็นสิ่งที่ต้องทำ
“ไม่ชอบก็ทิ้งสิ”
“จะเหลือเหรอ ทิ้งไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว เหยียบมันแตกก่อนทิ้งด้วย”
ชาญชัยหลุดหัวเราะ นี่แหละตัวตนของพริมา ไม่เสแสร้ง ไม่ปลิ้นปล้อน เป็นตัวของตัวเองเสมอ
ชอบก็บอกว่าชอบ
เกลียดก็บอกว่าเกลียด
เมื่อชีวิตคู่มาถึงจุดอิ่มตัว ย่อมมีใครบางคนที่อยากเดินออกไปจากความสัมพันธ์...พริมากำแท่งลิปสติกสีแดงเพลิงไว้แน่น เธอเจอมันในรถของสามีโดยบังเอิญ ไม่ใช่ของเธอแล้วใครที่เป็นเจ้าของ?กายบางนั่งนิ่งเหมือนหุ่น ทว่าจิตใจกับว้าวุ่น ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ดวงตาคู่งามปรากฏแววสั่นไหว หายใจเข้าออกคร่อมจังหวะ เมื่อคืน เธอเข้านอนก่อนสามี เขากลับมาถึงบ้านตอนไหนก็ยังไม่รู้ รู้อีกทีก็เช้าและเขาก็นอนอยู่บนเตียงข้างกายเธอแล้ว“นี่มันอะไรคะ?”เงยหน้าขึ้นนิด ช้อนตาขึ้นสบกับนัยน์ตาสีนิลราบเรียบ ไร้ความรู้สึกใด ๆ เผยให้เห็น“ลิปสติก”เขาตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีความสะทกสะท้านใด ๆ ประหนึ่งว่าเคยเห็นสิ่งที่เมียยื่นให้ดูอยู่ก่อนแล้ว“พริกรู้ค่ะว่ามันคือลิปสติก แต่ที่พริกถามเพราะพริกอยากรู้ว่ามันเป็นของใคร”คนถูกถามระบายลมหายใจอุ่นร้อนผ่านปลายจมูกโด่งพร้อมมองเมียด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย อีกแล้ว...ต้องหาเรื่องมาชวนทะเลาะอีกแล้วสินะ“เมื่อคืนพี่ชาญไปไหนมา? พริกไลน์ไป อ่านก็ไม่ตอบ” เมื่อคืนก่อนจะเข้านอน พริมารู้สึกเหนื่อยและเพลีย อาจเพราะว่าโดนฝน เมื่อวานเธอไม่ได้ขับรถไปทำงาน เลือกใช้บริการรถแท็
ชาญชัยกับอรอุมาเคยรักกันมาก คบหากันอยู่หลายปี ทว่าความรักกลับพังทลายลงเพียงเพราะฝ่ายหญิงมีผู้ชายที่ฐานะร่ำรวยเข้ามาในชีวิตอรอุมาสลัดชาญชัยอย่างง่าย ๆ ความผูกพันที่มีต่อกันหลายปีไม่อาจรั้งให้ชีวิตรักของคนทั้งสองดำเนินต่อไปได้ กว่าชาญชัยจะผ่านช่วงเวลาอกหักมาได้ ก็ทุลักทุเล เมาหัวราน้ำแทบทุกวันจนวันที่พริมาเข้ามาในชีวิตหญิงสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม พริมาไม่ใช่คนสวยจัด ถ้าเทียบกับอดีตคนรัก อรอุมาสวยและดูมีเสน่ห์มากกว่าเสียอีกพริมาเป็นคนตรง ๆ คิดแบบไหนพูดแบบนั้น ไม่เสแสร้ง ไม่ปั้นแต่ง เป็นตัวของตัวเองตั้งแต่วันแรกที่รู้จัก ซึ่งต่างจากอรอุมาที่ปากหวาน ช่างฉอเลาะ เอาอกเอาใจเก่ง เพราะแบบนี้ถึงได้มีผู้ชายมากหน้าหลายตาเทียวมาขายขนมจีบทั้งที่มีเขาเป็นแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วแท้ ๆ“ที่อ้างว่าติดงาน ต้องเคลียร์งาน จริง ๆ แล้วไม่ใช่ ใช่ไหม? ไปอยู่กับพี่อุ๋ยล่ะสิถึงกลับบ้านดึกทุกวัน” ชาญชัยเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าพริมาในตอนนี้ กลัวว่าจะเผลอแสดงความเบื่อหน่ายผ่านสีหน้าให้เมียเห็นแล้วเรื่องมันจะบานปลายขึ้นอีกสารระบบของชีวิตไม่มีอรอุมามาเกี่ยวข้องจนกระทั่งเมื่อวานความบังเอิญล้วน ๆ แต่ต่อให้ยกเหตุผลห
“พี่ต่างหากที่ดูถูกตัวเอง โดนเขาทิ้งแล้วยังโง่รักเขาอีก พริกก็โง่ โง่ที่รักพี่!” พริมาคิดมาตลอดว่าความรัก ความเสมอต้นเสมอปลายของเธอจะช่วยให้บาดแผลในใจของชาญชัยจางลงจนหายสนิทแต่วันนี้ เธอเห็นชัดแล้วต่อให้เป็นคนดีขนาดไหน ถ้าไม่ใช่คนที่ถูกรัก ทำดีแทบตายก็ไม่ใช่คนที่ถูกเลือก“ถ้างั้นก็หย่า เราจะได้หายโง่กันทั้งคู่”เอาอะไรมามั่นใจว่าเขายังรักอรอุมา เขาไม่เลวระยำถึงกลับแต่งงานกับผู้หญิงอีกคนเพราะอยากลืมคนที่เคยรักมากที่สุดใช่อยู่ที่ว่าบาดแผลยังไม่หายสนิท แต่ก็ไม่โง่พอที่จะเอาตัวเองกลับเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่เห็นแก่เงินคนนั้น แม้ในอดีตจะเคยรักมากก็เถอะเคยรักมากก็เกลียดมากมีแต่ในผู้หญิงหรืออย่างไร ผู้ชายก็รักมากและเกลียดมากเป็นเหมือนกัน“พริกไม่หย่า!”“ถ้าเก่งแต่ปาก ก็อย่ามาหาเรื่องพี่อีก พี่เบื่อ!”โพล่งปากอย่างไม่ไว้หน้า ปัญหาระหว่างเขากับพริมา ไม่มีคนนอกเข้ามาเกี่ยวข้องสามปีที่แต่งงานอยู่กินฉันสามีภรรยา ชาญชัยมั่นใจว่าตัวเองเป็นสามีที่ดีมาตลอด เขาไม่ใช่คนโรแมนติก ไม่ใช่คนช่างเอาอกเอาใจและหน้าที่สามีก็ทำได้อย่างไม่บกพร่องก็มีแค่พักหลังมานี้...ที่งานเริ่มมีปัญหาจนทำให้กลับบ้านไ
“ทะเลาะกับน้องพริกมาอีกแล้วเหรอ ?”แค่เพื่อนโทร.มานัดให้ออกมาเจอกันที่ร้านเหล้า ภพภัคก็ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาว่าเพื่อนกำลังมีปัญหาเรื่องอะไรไม่พ้นเรื่องเมียพักหลังมานี้ชาญชัยทะเลาะกับพริมาบ่อยครั้งจนเขาเองก็ยังเป็นห่วง กลัวว่าความสัมพันธ์ของผัวเมียคู่นี้จะสั่นคลอนจนเกิดความร้าวฉานได้“เออ”“ครั้งนี้เรื่องอะไรอีกวะ ?”“เรื่องอุ๋ย”“เรื่องอุ๋ย ? เดี๋ยวนะมึง แล้วน้องพริกรู้ได้ไงว่าเมื่อคืนมึงเจออุ๋ย” ถ้าทะเลาะกันเรื่องอื่น เขาคงไม่แปลกใจเพราะที่ผ่านมาชาญชัยกับพริมาก็ทะเลาะกันเพราะเรื่องเล็ก ๆน้อย ๆอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้กลายเป็นอรอุมาที่เป็นประเด็นหลักของความไม่เข้าใจกัน“พริกเจอลิปอุ๋ยในรถกู”“ยังไงวะ ? แล้วลิปอุ๋ยไปอยู่ในรถมึงได้ยังไง ไม่ได้กลับด้วยกันนี่” เมื่อคืนเขาเห็นเองกับตาว่าชาญชัยกับอรอุมาต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน จะมีแค่ช่วงหนึ่งที่อรอุมาเดินไปหาเพื่อนแล้วคุยอยู่ครู่เดียวแล้วลิปสติกของอรอุมาจะไปอยู่ที่รถของชาญชัยได้อย่างไร“กูไม่รู้เหมือนกัน สงสัยอุ๋ยทำหล่นจากกระเป๋าตอนมาหากูที่รถมั้ง” เอาเข้าจริง เขาเองก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าลิปสติกของอรอุมาอยู่ในรถ อดีตคนรักไม่ได้เข้ามานั
“ช่วงนี้พริกงี่เง่าว่ะ ชอบหาเรื่องมาชวนกูทะเลาะ วันก่อนรถเสียจะให้กูขับรถไปส่งที่ทำงาน กูมีประชุมกับลูกทีม ไปส่งไม่ได้บอกให้นั่งแท็กซี่ไป ก็โกรธกูอีก หาว่ากูไม่สนใจ วันนี้ก็เอาเรื่องอุ๋ยมาชวนกูทะเลาะอีก กูเบื่อว่ะภัค แค่เรื่องงานก็เบื่อแล้ว พริกยังมาเป็นแบบนี้อีก” ที่ทำงานของเขากับพริมาอยู่กันคนละทาง ถ้าขับรถไปส่งแล้วขับกลับมาที่บริษัทก็เข้าประชุมไม่ทัน โดนเพ่งเล็งอีก ยิ่งช่วงนี้ยอดขายของทีมไม่เป็นไปตามเป้ามาหลายเดือนแล้วด้วย แต่พริมาก็ไม่ยอมเข้าใจอะไรง่าย ๆโกรธเขา หาว่าไม่สนใจจนตอนนี้ก็ตามอารมณ์ของเมียไม่ทันแล้ว“ผู้หญิงก็งี้แหละ แต่เรื่องอุ๋ย กูเข้าใจน้องพริกนะ เป็นกู กูก็คิดอะ แม่งเจอลิปในรถผัว ใครจะไม่คิด”“คิดนะคิดได้ แต่ก็ต้องฟังกูบ้างปะวะ นี่อะไรคิดเป็นตุเป็นตะว่ากูนอกใจกลับไปคุยกับอุ๋ยอีก ดูถูกกูชัด ๆ” อารมณ์โกรธ อารมณ์หึงหวงของพริมา เขารู้และรับได้ แต่ถ้ามันเกิดอยู่บ่อยครั้งและแต่ละครั้งก็ไร้เหตุผลมากล่าวอ้าง มันก็ลดทอนความรู้สึกดี ๆลงได้เหมือนกัน “ก็เห็นอยู่ว่ากูผ่านอะไรมา”“มึงก็ต้องเข้าใจน้องมันหน่อย ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้แหละ เรื่องนิดเดียว นู่น จินตนาการยาวอย่างกับกำแพงเมือ
“ไม่รู้สิ ร้านอุ๋ย อุ๋ยน่าจะคิดเองมากกว่านะ”ภพภัคกลั้นยิ้ม ก็บอกแล้วว่าไอ้เพื่อนคนนี้น่ะคนจริง ลองถ้ามันไม่ชอบ มันไม่เอาแล้ว เสนอตัวให้ขนาดไหน มันก็ไม่ยุ่ง อรอุมาเองก็น่าจะรู้นิสัยมันดี“อุ๋ยแค่อยากได้ไอเดียเยอะ ๆน่ะ” พูดด้วยน้ำเสียงติดจะขุ่นเคืองนิด ชาญชัยแทบจะไม่มองหน้า ไม่สบตา ถามคำตอบคำ ทั้งที่ตอนเป็นแฟนกัน เขาตามติดเธอทุกที่ รักและหลงยิ่งกว่าอะไรก่อนที่จะแต่งงานกับสามีคนที่เพิ่งเลิกรากันไป กว่าเธอจะสลัดเขาออกไปจากชีวิตได้ก็ทั้งเหนื่อยและลำบากไม่น้อย“แล้วอุ๋ยมีลูกไหม ?” พอเพื่อนเริ่มแสดงอาการอึดอัดให้เห็น ภพภัคก็ชิงเปลี่ยนเรื่องคุยและสิ่งที่ถามก็ทำเอาแม่หม้ายที่เพิ่งหย่ากับผัวแก่มาหมาด ๆดูจะไม่ชอบใจนัก“ไม่มี” บอกอย่างห้วน ๆสีหน้าแสดงชัดว่าไม่อยากถูกซักไซ้เรื่องส่วนตัว“ไอ้ชาญก็ยังไม่มีเหมือนกัน”อรอุมาเชิดหน้าขึ้นนิดแล้วปรายตามองไปยังภพภัคอย่างหัวเสีย เธอรู้ว่าชาญชัยแต่งงานแล้ว แต่แล้วอย่างไรล่ะ แต่งได้ก็เลิกได้เหมือนกัน“อุ๋ยเคยเห็นเมียไอ้ชาญไหม? น้องพริกน่ะ น่ารักตัวเล็ก ๆขาว ๆ” ภพภัคอัดไปอีกหนึ่งดอก ถ้าอรอุมาคิดจะกลับเข้ามาในชีวิตเพื่อนแล้วต้องการทำให้ครอบครัวของพวกเขาแตกแย
เจอกับอรอุมาครั้งนี้ ชาญชัยรู้เลยว่าเขาโชคดีมากที่หลุดมาจากผู้หญิงคนนี้และได้รู้จักกับพริมา ถึงพริมาไม่มีอะไรเทียบเท่าอรอุมาได้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าเขากลับรู้สึกว่าพริมาคือสิ่งที่เขาจับต้องได้ ไม่ว่าจะร่างกายหรือความรู้สึกพริมาไม่ใช่คนซับซ้อน โกรธก็แสดงออกว่าโกรธ รักก็บอกว่ารัก แม้จะงอแงงี่เง่าและทำให้เขาเหนื่อยใจอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่มีสักครั้งที่อยากยุติความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาประตูลิฟต์เปิด กายหนาก็เดินเลี้ยวไปทางขวามือ มาถึงหน้าห้องก็ดึงคีย์การ์ดออกมาจากกระเป๋าสตางค์ แนบคีย์การ์ดเปิดประตูห้อง ตาก็สะดุดเข้ากับพริมาที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นระเบียงนอกห้องรับแขก ชาญชัยถอดรองเท้าเดินด้วยฝีเท้าที่เบาที่สุด จังหวะที่เดินผ่านโต๊ะเตี้ยหน้าทีวีก็เห็นสมุดบัญชีของธนาคารวางอยู่โดยที่หน้าซองใสมีสติกเกอร์คำว่า ‘บ้านของเรา’ ติดอยู่เพราะหันหลังพิงกับประตู หันหน้าออกไปยังนอกระเบียง พริมาเลยไม่รู้ว่าชาญชัยกลับมาและกำลังยืนมองเธออยู่ด้านหน้าประตูอย่างเงียบ ๆกว่าสองชั่วโมงแล้ว ที่ออกมานั่งนิ่ง ๆมองท้องฟ้าสีหม่น ตรงปลายขอบฟ้ามีแสงของสายฟ้าแลบโชว์ให้เห็น มีเมฆครึ้มคล้ายกับว่าคืนนี้ฝนอาจจะลงเม็ดได้ แค่
“ไม่รู้สิ ร้านอุ๋ย อุ๋ยน่าจะคิดเองมากกว่านะ”ภพภัคกลั้นยิ้ม ก็บอกแล้วว่าไอ้เพื่อนคนนี้น่ะคนจริง ลองถ้ามันไม่ชอบ มันไม่เอาแล้ว เสนอตัวให้ขนาดไหน มันก็ไม่ยุ่ง อรอุมาเองก็น่าจะรู้นิสัยมันดี“อุ๋ยแค่อยากได้ไอเดียเยอะ ๆน่ะ” พูดด้วยน้ำเสียงติดจะขุ่นเคืองนิด ชาญชัยแทบจะไม่มองหน้า ไม่สบตา ถามคำตอบคำ ทั้งที่ตอนเป็นแฟนกัน เขาตามติดเธอทุกที่ รักและหลงยิ่งกว่าอะไรก่อนที่จะแต่งงานกับสามีคนที่เพิ่งเลิกรากันไป กว่าเธอจะสลัดเขาออกไปจากชีวิตได้ก็ทั้งเหนื่อยและลำบากไม่น้อย“แล้วอุ๋ยมีลูกไหม ?” พอเพื่อนเริ่มแสดงอาการอึดอัดให้เห็น ภพภัคก็ชิงเปลี่ยนเรื่องคุยและสิ่งที่ถามก็ทำเอาแม่หม้ายที่เพิ่งหย่ากับผัวแก่มาหมาด ๆดูจะไม่ชอบใจนัก“ไม่มี” บอกอย่างห้วน ๆสีหน้าแสดงชัดว่าไม่อยากถูกซักไซ้เรื่องส่วนตัว“ไอ้ชาญก็ยังไม่มีเหมือนกัน”อรอุมาเชิดหน้าขึ้นนิดแล้วปรายตามองไปยังภพภัคอย่างหัวเสีย เธอรู้ว่าชาญชัยแต่งงานแล้ว แต่แล้วอย่างไรล่ะ แต่งได้ก็เลิกได้เหมือนกัน“อุ๋ยเคยเห็นเมียไอ้ชาญไหม? น้องพริกน่ะ น่ารักตัวเล็ก ๆขาว ๆ” ภพภัคอัดไปอีกหนึ่งดอก ถ้าอรอุมาคิดจะกลับเข้ามาในชีวิตเพื่อนแล้วต้องการทำให้ครอบครัวของพวกเขาแตกแย
“ช่วงนี้พริกงี่เง่าว่ะ ชอบหาเรื่องมาชวนกูทะเลาะ วันก่อนรถเสียจะให้กูขับรถไปส่งที่ทำงาน กูมีประชุมกับลูกทีม ไปส่งไม่ได้บอกให้นั่งแท็กซี่ไป ก็โกรธกูอีก หาว่ากูไม่สนใจ วันนี้ก็เอาเรื่องอุ๋ยมาชวนกูทะเลาะอีก กูเบื่อว่ะภัค แค่เรื่องงานก็เบื่อแล้ว พริกยังมาเป็นแบบนี้อีก” ที่ทำงานของเขากับพริมาอยู่กันคนละทาง ถ้าขับรถไปส่งแล้วขับกลับมาที่บริษัทก็เข้าประชุมไม่ทัน โดนเพ่งเล็งอีก ยิ่งช่วงนี้ยอดขายของทีมไม่เป็นไปตามเป้ามาหลายเดือนแล้วด้วย แต่พริมาก็ไม่ยอมเข้าใจอะไรง่าย ๆโกรธเขา หาว่าไม่สนใจจนตอนนี้ก็ตามอารมณ์ของเมียไม่ทันแล้ว“ผู้หญิงก็งี้แหละ แต่เรื่องอุ๋ย กูเข้าใจน้องพริกนะ เป็นกู กูก็คิดอะ แม่งเจอลิปในรถผัว ใครจะไม่คิด”“คิดนะคิดได้ แต่ก็ต้องฟังกูบ้างปะวะ นี่อะไรคิดเป็นตุเป็นตะว่ากูนอกใจกลับไปคุยกับอุ๋ยอีก ดูถูกกูชัด ๆ” อารมณ์โกรธ อารมณ์หึงหวงของพริมา เขารู้และรับได้ แต่ถ้ามันเกิดอยู่บ่อยครั้งและแต่ละครั้งก็ไร้เหตุผลมากล่าวอ้าง มันก็ลดทอนความรู้สึกดี ๆลงได้เหมือนกัน “ก็เห็นอยู่ว่ากูผ่านอะไรมา”“มึงก็ต้องเข้าใจน้องมันหน่อย ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้แหละ เรื่องนิดเดียว นู่น จินตนาการยาวอย่างกับกำแพงเมือ
“ทะเลาะกับน้องพริกมาอีกแล้วเหรอ ?”แค่เพื่อนโทร.มานัดให้ออกมาเจอกันที่ร้านเหล้า ภพภัคก็ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาว่าเพื่อนกำลังมีปัญหาเรื่องอะไรไม่พ้นเรื่องเมียพักหลังมานี้ชาญชัยทะเลาะกับพริมาบ่อยครั้งจนเขาเองก็ยังเป็นห่วง กลัวว่าความสัมพันธ์ของผัวเมียคู่นี้จะสั่นคลอนจนเกิดความร้าวฉานได้“เออ”“ครั้งนี้เรื่องอะไรอีกวะ ?”“เรื่องอุ๋ย”“เรื่องอุ๋ย ? เดี๋ยวนะมึง แล้วน้องพริกรู้ได้ไงว่าเมื่อคืนมึงเจออุ๋ย” ถ้าทะเลาะกันเรื่องอื่น เขาคงไม่แปลกใจเพราะที่ผ่านมาชาญชัยกับพริมาก็ทะเลาะกันเพราะเรื่องเล็ก ๆน้อย ๆอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้กลายเป็นอรอุมาที่เป็นประเด็นหลักของความไม่เข้าใจกัน“พริกเจอลิปอุ๋ยในรถกู”“ยังไงวะ ? แล้วลิปอุ๋ยไปอยู่ในรถมึงได้ยังไง ไม่ได้กลับด้วยกันนี่” เมื่อคืนเขาเห็นเองกับตาว่าชาญชัยกับอรอุมาต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน จะมีแค่ช่วงหนึ่งที่อรอุมาเดินไปหาเพื่อนแล้วคุยอยู่ครู่เดียวแล้วลิปสติกของอรอุมาจะไปอยู่ที่รถของชาญชัยได้อย่างไร“กูไม่รู้เหมือนกัน สงสัยอุ๋ยทำหล่นจากกระเป๋าตอนมาหากูที่รถมั้ง” เอาเข้าจริง เขาเองก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าลิปสติกของอรอุมาอยู่ในรถ อดีตคนรักไม่ได้เข้ามานั
“พี่ต่างหากที่ดูถูกตัวเอง โดนเขาทิ้งแล้วยังโง่รักเขาอีก พริกก็โง่ โง่ที่รักพี่!” พริมาคิดมาตลอดว่าความรัก ความเสมอต้นเสมอปลายของเธอจะช่วยให้บาดแผลในใจของชาญชัยจางลงจนหายสนิทแต่วันนี้ เธอเห็นชัดแล้วต่อให้เป็นคนดีขนาดไหน ถ้าไม่ใช่คนที่ถูกรัก ทำดีแทบตายก็ไม่ใช่คนที่ถูกเลือก“ถ้างั้นก็หย่า เราจะได้หายโง่กันทั้งคู่”เอาอะไรมามั่นใจว่าเขายังรักอรอุมา เขาไม่เลวระยำถึงกลับแต่งงานกับผู้หญิงอีกคนเพราะอยากลืมคนที่เคยรักมากที่สุดใช่อยู่ที่ว่าบาดแผลยังไม่หายสนิท แต่ก็ไม่โง่พอที่จะเอาตัวเองกลับเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่เห็นแก่เงินคนนั้น แม้ในอดีตจะเคยรักมากก็เถอะเคยรักมากก็เกลียดมากมีแต่ในผู้หญิงหรืออย่างไร ผู้ชายก็รักมากและเกลียดมากเป็นเหมือนกัน“พริกไม่หย่า!”“ถ้าเก่งแต่ปาก ก็อย่ามาหาเรื่องพี่อีก พี่เบื่อ!”โพล่งปากอย่างไม่ไว้หน้า ปัญหาระหว่างเขากับพริมา ไม่มีคนนอกเข้ามาเกี่ยวข้องสามปีที่แต่งงานอยู่กินฉันสามีภรรยา ชาญชัยมั่นใจว่าตัวเองเป็นสามีที่ดีมาตลอด เขาไม่ใช่คนโรแมนติก ไม่ใช่คนช่างเอาอกเอาใจและหน้าที่สามีก็ทำได้อย่างไม่บกพร่องก็มีแค่พักหลังมานี้...ที่งานเริ่มมีปัญหาจนทำให้กลับบ้านไ
ชาญชัยกับอรอุมาเคยรักกันมาก คบหากันอยู่หลายปี ทว่าความรักกลับพังทลายลงเพียงเพราะฝ่ายหญิงมีผู้ชายที่ฐานะร่ำรวยเข้ามาในชีวิตอรอุมาสลัดชาญชัยอย่างง่าย ๆ ความผูกพันที่มีต่อกันหลายปีไม่อาจรั้งให้ชีวิตรักของคนทั้งสองดำเนินต่อไปได้ กว่าชาญชัยจะผ่านช่วงเวลาอกหักมาได้ ก็ทุลักทุเล เมาหัวราน้ำแทบทุกวันจนวันที่พริมาเข้ามาในชีวิตหญิงสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม พริมาไม่ใช่คนสวยจัด ถ้าเทียบกับอดีตคนรัก อรอุมาสวยและดูมีเสน่ห์มากกว่าเสียอีกพริมาเป็นคนตรง ๆ คิดแบบไหนพูดแบบนั้น ไม่เสแสร้ง ไม่ปั้นแต่ง เป็นตัวของตัวเองตั้งแต่วันแรกที่รู้จัก ซึ่งต่างจากอรอุมาที่ปากหวาน ช่างฉอเลาะ เอาอกเอาใจเก่ง เพราะแบบนี้ถึงได้มีผู้ชายมากหน้าหลายตาเทียวมาขายขนมจีบทั้งที่มีเขาเป็นแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วแท้ ๆ“ที่อ้างว่าติดงาน ต้องเคลียร์งาน จริง ๆ แล้วไม่ใช่ ใช่ไหม? ไปอยู่กับพี่อุ๋ยล่ะสิถึงกลับบ้านดึกทุกวัน” ชาญชัยเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองหน้าพริมาในตอนนี้ กลัวว่าจะเผลอแสดงความเบื่อหน่ายผ่านสีหน้าให้เมียเห็นแล้วเรื่องมันจะบานปลายขึ้นอีกสารระบบของชีวิตไม่มีอรอุมามาเกี่ยวข้องจนกระทั่งเมื่อวานความบังเอิญล้วน ๆ แต่ต่อให้ยกเหตุผลห
เมื่อชีวิตคู่มาถึงจุดอิ่มตัว ย่อมมีใครบางคนที่อยากเดินออกไปจากความสัมพันธ์...พริมากำแท่งลิปสติกสีแดงเพลิงไว้แน่น เธอเจอมันในรถของสามีโดยบังเอิญ ไม่ใช่ของเธอแล้วใครที่เป็นเจ้าของ?กายบางนั่งนิ่งเหมือนหุ่น ทว่าจิตใจกับว้าวุ่น ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ดวงตาคู่งามปรากฏแววสั่นไหว หายใจเข้าออกคร่อมจังหวะ เมื่อคืน เธอเข้านอนก่อนสามี เขากลับมาถึงบ้านตอนไหนก็ยังไม่รู้ รู้อีกทีก็เช้าและเขาก็นอนอยู่บนเตียงข้างกายเธอแล้ว“นี่มันอะไรคะ?”เงยหน้าขึ้นนิด ช้อนตาขึ้นสบกับนัยน์ตาสีนิลราบเรียบ ไร้ความรู้สึกใด ๆ เผยให้เห็น“ลิปสติก”เขาตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีความสะทกสะท้านใด ๆ ประหนึ่งว่าเคยเห็นสิ่งที่เมียยื่นให้ดูอยู่ก่อนแล้ว“พริกรู้ค่ะว่ามันคือลิปสติก แต่ที่พริกถามเพราะพริกอยากรู้ว่ามันเป็นของใคร”คนถูกถามระบายลมหายใจอุ่นร้อนผ่านปลายจมูกโด่งพร้อมมองเมียด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย อีกแล้ว...ต้องหาเรื่องมาชวนทะเลาะอีกแล้วสินะ“เมื่อคืนพี่ชาญไปไหนมา? พริกไลน์ไป อ่านก็ไม่ตอบ” เมื่อคืนก่อนจะเข้านอน พริมารู้สึกเหนื่อยและเพลีย อาจเพราะว่าโดนฝน เมื่อวานเธอไม่ได้ขับรถไปทำงาน เลือกใช้บริการรถแท็