แชร์

บทที่ 5

ผู้เขียน: น้ำค้างแข็งตก
ซ่งยางยางย้ายมาอยู่ที่ห้องของฉัน

ส่วนฉัน กลับไม่ได้ย้ายไปที่ห้องของเธอ

แต่หาห้องรับแขกห้องหนึ่งอยู่เป็นการชั่วคราวก่อน

เครื่องนอนที่คนรับใช้เตรียมไว้ให้ฉันทั้งเย็นและชื้น

ฉันจึงนอนหลับโดยสวมเสื้อผ้าเอาไว้

ยังไงซะก็เหลืออีกแค่ไม่กี่วันแล้ว

หากผ่านไปได้ ทุกอย่างก็จะสิ้นสุดลงโดยสมบูรณ์แล้ว

แต่เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันเพิ่งตื่นและเดินลงมาจากชั้นบน

ก็มองเห็นห้องโถงด้านข้าง ที่มีรูปที่ระลึกและเครื่องเซ่นไหว้ของแม่วางอยู่

กระจัดกระจายไปหมด

รูปถ่ายของแม่ถูกโยนลงบนพื้น กรอบรูปแตกละเอียด มีรอยเท้าเหยียบอยู่บนรูปถ่ายเต็มไปหมด

แม่ที่แต่เดิมอมยิ้มเล็กน้อย กลับดูเหมือนกำลังหันมาร้องไห้กับฉัน

ส่วนของเซ่นไหว้ก็กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น และสุนัขตัวโปรดของซ่งยางยาง ก็กำลังแทะเล็มอาหารอยู่

ซ่งยางยางยืนอยู่ด้านข้าง ปรบมือชื่นชม

ฉันยืนอยู่ตรงนั้น รู้สึกว่าเลือดทั่วทั้งร่างกายกำลังพุ่งปรี๊ดขึ้นไปบนหัว

สติสัมปชัญญะทั้งหมดที่มี ความคิดทุกอย่างที่พยายามฝืนข่มเอาไว้ หมดสิ้นไปแล้ว

ฉันฟาดแจกันลงไปที่สุนัขตัวนั้นราวกับคนเสียสติ

สุนัขตัวน้อยตกใจจนวิ่งหนีไป ซ่งยางยางส่งเสียงกรีดร้องขึ้นมา เศษแจกันบาดเข้าที
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 6

    กลางดึก จู่ ๆ ฉันก็ถูกปลุกขึ้นเพราะเสียงร้องไห้และกรีดร้องตอนที่ลุกขึ้น ประตูห้องก็ถูกคนถีบเข้ามาจากด้านนอกแล้วแม่เลี้ยงร้องไห้และพุ่งตรงเข้ามา ฉันยังไม่ทั้งได้ตั้งสติ ใบหน้าก็ถูกตบอย่างแรงไปหลายฉาดแล้ว“ทำไมเธอถึงใจร้ายขนาดนี้ ?”“ตอนกลางวันทำร้ายเธอจนบาดเจ็บแล้ว ยังคิดจะฆ่าเธออีกเหรอ ?”แม่เลี้ยงซบลงร้องไห้ที่อกของคุณพ่อ : “เขารู้ทั้งรู้ว่ายางยางแพ้ลูกท้อ ยังจงใจสาดน้ำลูกท้อเอาไว้บนหมอนอีก”“เขาคิดที่จะฆ่าลูกสาวของเราชัด ๆ”“เอาละ หยุดร้องไห้ได้แล้ว โชคดีที่ยางยางกินยาได้ทันเวลา เลยไม่เป็นอะไรมาก”พ่อปลอยโยนเธออย่างอ่อนโยน พลางหันมองฉันด้วยความโมโห : “รั่วถัง ลูกทำให้พ่อผิดหวังมากจริง ๆ”“พรุ่งนี้ลูกย้ายออกไปซะเถอะนะ”“ถ้าให้ลูกอยู่ในบ้านต่อไป ก็มีแต่จะทำให้ครอบครัวของเราต้องวุ่นวาย”เสียงร้องไห้ของแม่เลี้ยงหยุดลงในทันทีฉันจ้องมองผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า เดิมที เขาเป็นคนในครอบครัวที่สนิทที่สุดในโลกสำหรับฉันเขาเคยรักฉันที่สุด ฉันเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาเคยเป็นแก้วตาดวงใจของเขาแต่ภายหลัง ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วดูเหมือนฉันจะเป็นนางเอกอับโชคในนิยาย ค่อย ๆ หมดสิ้นท

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 7

    ที่เหลือ ก็คือของขวัญสารพัดที่โจวจินหนานมอบให้ฉันตลอดสามปีที่ผ่านมามีทั้งของเล่นแปลกใหม่ที่น่าสนใจและยังมีเครื่องประดับที่ล้ำค่าฉันเลือกของที่มีราคาแพงเหล่านั้นออกมา เตรียมให้เพื่อนสนิทเก็บรักษาเอาไว้แทนฉันก่อนรอให้ฉันไปจากเมืองจิงแล้ว ค่อยให้เธอเอาไปคืนให้กับโจวจินหนานแทนฉันทำแบบนี้ จึงจะถือว่าทั้งสองฝ่ายไม่มีอะไรติดค้างต่อกันส่วนของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่มีราคา ที่เอามาใช้หลอกให้ฉันมีความสุขพวกนั้นฉันก็ไม่ลังเลที่จะเอามันทั้งหมดใส่ถุงไปโยนทิ้งเมื่อก่อนแม้แต่พวงกุญแจชิ้นเล็ก ๆ ฉันก็มองมันเป็นของล้ำค่าแต่ทว่าตอนนี้ พอต้องทิ้งมันไป ฉันกลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดหลังจากจัดการของทั้งหมดนี้แล้ว ฉันก็บรรจงห่อรูปถ่ายที่ระลึกของแม่ ไว้ในช่องแยกของกระเป๋าเดินทางแล้วก้าวเดินออกจากบ้านที่ฉันอยู่อาศัยมานับสิบปีโดยไม่หันกลับไปมองตอนที่ก้าวออกจากประตูใหญ่ รถของโจวจินหนานก็ขับเข้ามาพอดีฉันไม่แม้แต่จะหันมองแต่จู่ ๆ รถก็ขับเข้ามาจอดข้าง ๆ ฉันกระจกที่นั่งแถวหลังเลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาและสง่างามของโจวจินหนานสายตาของฉันกวาดผ่านไปอย่างเย็นชา ส่วนฝีเท้าก็ไม่ได้หยุ

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 8

    อย่างไรเสียเมื่อก่อน ไม่ว่าฉันจะเสียใจแค่ไหน ก็เป็นฉันเองที่ยินดีจะเฝ้ารออย่างเงียบ ๆ ให้เขาหันกลับมามอง เขาชินกับสิ่งนี้ไปนานแล้วทุกคนรอบข้างเขาต่างก็พูดว่า ชาตินี้ฉันไม่มีทางขาดเขาได้เขาเองก็เชื่ออย่างสนิทใจฉันเตรียมลากกระเป๋าเดินทางจากไปน้ำเสียงอ่อนหวานของซ่งยางยางก็ดังขึ้นมา“พี่จินหนาน พี่มาแล้วเหรอคะ”เธอปรี่เข้าไป คล้องแขนของโจวจินหนานเอาไว้แน่น ร่างกายกว่าครึ่งแนบชิดเข้ามา“อาการแพ้ดีขึ้นสักนิดหรือยัง ?”โจวจินหนานปัดปอยผมออกจากหน้าผากของเธอ แล้วตรวจดูอย่างละเอียด“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ” ซ่งยางยางเงยหน้าขึ้น ยิ้มจนคิ้วโก่ง : “พี่จินหนานคะ อย่าไปโกรธพี่เขาเลยนะคะ”ขณะที่พูด เธอก็กอดแขนของโจวจินหนานแล้วเขย่าเบา ๆ “ที่จริงแล้วต้องโทษที่ฉันไม่ได้เรื่องเอง ถ้าไม่ใช่เพราะสุขภาพของฉันไม่ดี คุณพ่อก็คงไม่ให้ฉันสลับห้องกับพี่หรอกค่ะ”“พี่เองก็คงจะไม่โกรธฉัน......”“เรื่องนี้จะโทษเธอได้ยังไง เขาเองต่างหากที่จิตใจคับแคบ”โจวจินหนานหันมองฉัน จงใจโอบซ่งยางยางไว้ในอ้อมอก“พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ ผิวหน้าของเธอเพิ่งจะหายดี อย่าให้ถูกลมพัดเข้า”“อืม”ฉันมองดูพวกเขาสองคนที่ปร

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 9

    เป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้วโจวจินหนานกลับยังไม่ประกาศให้เริ่มต้นงานเลี้ยงวันเกิดเขานั่งอยู่บนโซฟา เล่นไฟแช็กที่อยู่ในมือด้วยสีหน้าเรียบเฉยทำเพียงยกข้อมือขึ้นเพื่อดูเวลาเป็นระยะ ๆ และปลดล็อกหน้าจอมือถือเป็นระยะ ๆ “พี่จินหนาน” ซ่งยางยางกัดริมฝีปาก เขย่าแขนเสื้อของเขาเบา ๆ “พี่ก็ดึกมากแล้ว ทุกคนหิวกันหมดแล้วค่ะ......”โจวจินหนานหันมองเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่น่าแปลกที่รอยยิ้มนั้น กลับดูเหมือนไม่ได้ปรากฏออกมาทางสายตา“คงเป็นเธอที่หิวมากกว่า”เขาหยิกแก้มของซ่งยางยาง แล้วพูดหยอกล้อออกมาหนึ่งประโยค“ฉันหิวจะตายอยู่แล้วค่ะ อยากรีบกินเค้กจะแย่แล้ว”ซ่งยางยางฉวยโอกาสซบเข้าไปในอ้อมอกเขาโจวจินหนานได้กลิ่นหอมจาง ๆ บางอย่าง แต่กลับรู้สึกคุ้นเคยมากเขาผงะไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยถามขึ้นเบา ๆ ว่า : “เธอใช้น้ำหอมอะไรเหรอ ?”“ฉันหยิบมาลวก ๆ จากห้องแต่งตัวในบ้านน่ะค่ะ”ซ่งยางยางรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย : “ทำไมเหรอคะพี่จินหนาน ไม่หอมเหรอคะ ?”โจวจินหนานส่ายหน้า : “หอมมากเลย”ดูเหมือนนั่นจะเป็นกลิ่นของน้ำหอมที่เฉินรั่วถังใช้เป็นประจำเพียงแต่เขานึกไม่ออกไปชั่วขณะ ว่าเป็นของยี่ห้ออะไรตอนที่ทุ

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 10

    หลังจากที่ฉันเดินทางมาถึงเมืองแห่งใหม่ ก็ไม่ได้ติดต่อกับกู้โย่วอันในทันทีแต่ไปพบกับซีเหอ เพื่อนที่สนิทมากที่สุดตอนเรียนมหาวิทยาลัยก่อนฉันต้องการแบ่งปันความลับนี้กับเธอแต่ฉันก็ยังคิดไม่ออกในทันทีว่า ควรจะอธิบายให้เธอฟังยังไงดีแต่คิดไม่ถึงว่า ซีเหอจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้ฉัน ทำให้ได้พบกับกู้โย่วอันเขาสวมชุดสูทสีดำ ยืนอยู่ตรงประตูห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวบนแขนมีเสื้อคลุมสีเดียวกันพาดอยู่ไฟทางเดินด้านหลังเขาตกกระทบลงบนจิตรกรรมฝาผนังที่งามวิจิตร ฉายแสงและเงาที่สวยงามออกมาส่วนเขายืนอยู่ด้านนอกของแสงเงา แต่กลับดูเหมือนทุกสรรพสิ่งรอบข้าง กำลังช่วยขับให้เขาดูโดดเด่นไม่เจอกันหลายปี ดูเหมือนเขาจะหล่อเหลาและสุขุมยิ่งกว่าตอนเรียนมหาวิทยาลัยเสียอีกไม่เจอกันหลายปี ดูเหมือนว่าฐานะของเขาในตอนนี้ คือคู่หมั้นของฉันแล้วแก้มของฉันแดงระเรื่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวก้มหน้าก้มตา นิ้วมือกำชายกระโปรงลูกไม้เอาไว้แน่นแม้แต่แผ่นหลังก็มีเหงื่อซึมออกมาส่วนซีเหอกลับเอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้นอย่างที่สุด : “เทพกู้ พี่มาได้ยังไงเนี่ย ?”“คืนนี้ฉันมาเจรจาธุรกิจที่นี่ เห็นเพื่อนเก่าเข้าพอดี ก็เลยมาโดยไม่ไ

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 11

    ถังถัง ไม่เจอกันนานเลยนะ”กู้โย่วอันจ้องมองฉันด้วยสายตาลึกซึ้ง จากนั้นถึงได้ชนแก้วกับฉันฉันจิบเหล้ารสเผ็ดร้อนเข้าไป แล้วจึงค่อย ๆ นั่งลงอย่างช้า ๆ ซีเหอกระตุกแขนเสื้อของฉัน และขยิบตาให้ฉัน : “พวกเธอสองคนดูแปลก ๆ นะที่รัก”“ปะ แปลกตรงไหน ?”“ตั้งแต่ที่เทพกู้เดินเข้ามา สายตาก็ไม่ละไปจากใบหน้าของเธอเลย”“เธอตาฝาดแล้วมั้งซีเหอ”“วางใจเถอะ ฉันเกิดมาพร้อมกับญาณแห่งการคาดเดา มีสายตาที่แหลมคมแยกแยะจริงเท็จได้ มีพิรุธอะไรระหว่างชายหญิงหรือเปล่า ฉันมองแวบเดียวก็รู้แล้ว”ฉันอดไม่ได้ที่จะเบะปาก หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะหลังจากเรียนจบ ฉันกับโจวจินหนานก็กลับไปเมืองจิงพร้อมกันไม่เคยพบหน้ากับกู้โย่วอันอีกนอกจากคำอวยพรตามเทศกาลที่ส่งให้กันในวีแชตเป็นบางโอกาส ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีกจนกระทั่งก่อนหน้านี้ไม่นาน โจวจินหนานก็เริ่มเดินหน้าจีบซ่งยางยางอย่างเปิดเผยจู่ ๆ กู้โย่วอันถึงได้ติดต่อฉันมาจนถึงตอนนี้ พวกเราเคยคุยโทรศัพท์กันเพียงแค่ไม่กี่สายหลังจากตอบรับคำขอแต่งงานของเขาแล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เราพบหน้ากันแม้แต่จูงมือก็ยังไม่เคยด้วยซ้ำ แต่ซีเหอกลับบอกว่าพวกเราดูเหมือนจะไปไหนถ

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 12

    เมื่องานเลี้ยงจบลง ฉันก็มารอกู้โย่วอันอยู่ที่โถงด้านล่างจู่ ๆ เพื่อนที่เมืองจิงก็โทรศัพท์เข้ามา“ถังถัง สองสามวันนี้ยุ่งอะไรอยู่เหรอ ไม่เห็นหน้าเธอเลย”“มีธุระส่วนตัวจ้องจัดการนิดหน่อยน่ะ”“งั้นอีกเดี๋ยวออกมาสังสรรค์กันหน่อยสิ”ฉันหัวเราะ : ไม่ล่ะ พวกเธอสังสรรค์กันไปเถอะ”“นี่ ถังถัง อย่าเพิ่งวางสายนะ คือว่าอย่างนี้......”“เฮ้อ ที่จริงแล้วเป็นจินหนาน คืนนี้จินหนานอารมณ์ไม่ดี ดื่มจนเมาไปแล้ว ใครเตือนก็ไม่ยอมฟัง”“ถ้าเธอไม่ติดธุระอะไรละก็ มาดูเขาหน่อยสิ กลัวว่าถ้าเขาดื่มต่อไป จะมีเลือดออกในกระเพาะอีก”“พวกเธอโทรหาซ่งยางยางเถอะ”“ถังถัง จินหนานเพิ่งจะไล่ซ่งยางยางกลับไป”“พวกเราทุกคนดูออกว่าในใจของเขายังมีเธออยู่ เขาคงนึกเสียใจขึ้นมาแล้ว”“พอได้แล้วจ้าวเซิน ฉันกับเขาเลิกกันแล้ว”ฉันถือโทรศัพท์ไว้ในมือ กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ : “ต่อไป เรื่องของเขาไม่เกี่ยวอะไรกับฉันแล้ว พวกเธอเองก็ไม่ต้องโทรมาหาฉันแล้ว”ฉันเพิ่งจะพูดจบ ก็มีเสียงดังก้องเข้ามาในหูดูเหมือนโทรศัพท์ของจ้าวเซินจะถูกคนอื่นแย่งไปแล้วฉันไม่อยากสนใจเรื่องพวกนี้ กำลังจะกดวางสายเสียงของโจวจินหนานก็ดังขึ้นมา“เ

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 13

    “รุ่นพี่......”“ฉันไม่ได้กำลังฝันอยู่ เธอคือถังถัง เธอคือเฉินรั่วถัง ใช่ไหม ?”จู่ ๆ กู้โย่วอันก็จับใบหน้าของฉันเอาไว้ระยะห่างที่ใกล้ขนาดนี้ แม้แต่หายใจก็รดกันดวงตาของเขาฉาบไปด้วยความเมา ทั้งสับสน ทั้งงุนงง ทั้งเหลือเชื่อ และมีความขมขื่นที่ไม่อาจพูดออกมาได้แฝงอยู่“กู้โย่วอัน”“พี่ไม่ได้ฝันไปค่ะ”“ฉันเอง ฉันคือเฉินรั่วถัง......”ฉันยังไม่ทันจะพูดจบ รอยจูบอันอบอุ่นก็ตกลงบนริมฝีปากของฉันเป็นรอยจูบที่แผ่วเบามาก อ่อนโยนอย่างที่สุดฉันยังไม่ทันตั้งสติกลับมาได้ กู้โย่วอันกลับปล่อยมือจากฉันแล้วคิดว่าความประหลาดใจบนใบหน้าของฉัน และความตื่นตระหนกในแววตา ถูกเขาสังเกตเห็นเข้าแล้วเขาจับมือฉันไว้ แล้วดึงฉันให้นั่งลงตรงที่นั่งให้ดีรสสตาร์ตแล้ว กู้โย่วอันลดฉากกั้นภายในรถลงมาพื้นที่คับแคบทำให้ฉันรู้สึกประหม่าแต่กู้โย่วอันกลับปล่อยมือฉัน“ไม่ต้องกลัวนะ ถังถัง”“ฉันไม่ทำอะไรเธอในที่แบบนี้หรอก”เขายกมือขึ้น จัดระเบียบทรงผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยของฉัน : “ถังถัง ฉันจะอดทนรอจนกว่าจะถึงคืนแต่งงานของเรานะ”ฉันก้มหน้าลง ใบหน้าร้อนผ่าวจนมีสีแดงก่ำ พักใหญ่ถึงได้หันมองเขา แล้วขารับว่า ‘อ

บทล่าสุด

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 20

    งานแต่งในวันนั้นหรูหราอย่างยิ่ง และยังโรแมนติกที่สุดด้วยโจวจินหนานกับเฉินเหวินโจว ไม่อาจเหยียบเข้ามาในงานแต่งได้แม้แต่ครึ่งก้าว แต่พวกเขากลับมีความคิดที่ตรงกันว่าจะไม่ยอมจากไปเพียงแต่ เฉินเหวินโจวไม่อาจยืนหยัดจนงานแต่งสิ้นสุดลงได้จู่ ๆ เขาก็หัวใจวาย ถูกรถฉุกเฉินส่งตัวไปที่โรงพยาบาล แม้จะยื้อชีวิตเอาไว้ได้ แต่ยังคงนอนหมดสติอยู่ส่วนเขา ยืนรอจนกระทั่งงานแต่งสิ้นสุดลงไม่รู้ว่าเพราะอะไร ซีเหอเพื่อนสนิทของรั่วถังถึงไม่เคยบล็อกเขาเพราะฉะนั้น เขาจึงเห็นงานแต่งแทบทั้งหมด ในโมเมนต์วีแชตของซีเหอโจวจินหนานรู้ก่อนจะถึงงานแต่งแล้วว่า เจ้าบ่าวของรั่วถังคือกู้โย่วอันเป็นรุ่นพี่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยคนหนึ่งของเธอ เยี่ยมยอดมาก เธอเคยเอ่ยชมเขาอยู่หลายครั้งตอนนั้นพวกเขายังมีสถานะไม่ชัดเจน ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อเขาก็จะรู้สึกหึงหวงเพราะฉะนั้นภายหลังรั่วถังจึงไม่ได้เอ่ยถึงเขาอีก และจงใจที่จะตีตัวออกห่างกู้โย่วอันแต่กลับคิดไม่ถึงว่า ไป ๆ มา ๆ สุดท้ายรั่วถังก็แต่งงานกับเขาอยู่ดีในฐานะที่เป็นผู้ชายด้วยกัน โจวจินหนานแทบจะมองออกตั้งแต่แวบแรกว่ากู้โย่วอันรักเธอมากจริง ๆ ในภาพทุกภาพ ในคลิ

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 19

    งานแต่งงานของฉันกับกู้โย่วอัน จัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีต่อมาซีเหอเพื่อนสาวคนสนิท เป็นเพื่อนเจ้าสาวเพียงคนเดียวให้กับฉัน เหมือนกับที่พวกเราเคยสัญญากันไว้ตอนเด็ก ๆ ฉันไม่ได้แจ้งกับเพื่อน ๆ และญาติ ๆ ที่เมืองเฉินให้รับรู้เลยสักคนแต่ก็ไม่รู้ว่าข่าวแพร่กระจายออกไปได้อย่างไรในวันแต่งงาน จู่ ๆ พ่อกับโจวจินหนานก็เดินทางมากู้โย่วอันมาถามความคิดเห็นจากฉันช่างแต่งหน้ากำลังแต่งหน้าให้ฉันอยู่ ฉันเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว มองเห็นว่าที่สามีของตนเองอยู่ในกระจกเจ้าสาวต้องแต่งหน้าเข้มสักหน่อย เพราะฉะนั้นตัวฉันเองที่อยู่ในกระจก จึงดูแตกต่างออกไปจากปกติเล็กน้อยดูเหมือนว่าในเรือนหอ กู้โย่วอันจะตั้งใจปลูกดอกวสันต์ซีฝูเอาไว้ให้ฉันโดยเฉพาะกำลังบานสะพรั่งอยู่อย่างเขินอาย ทั้งอ่อนช้อยงดงามและน่าประทับใจส่วนกู้โย่วอันที่อยู่ในชุดเจ้าบ่าวสีดำ ก็ยิ่งดูหล่อเหลาน่าหลงใหลพวกเราสบตากัน ในขณะที่สบตากันนั้น ดวงตาของทั้งสองต่างแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“ฉันไม่อยากเจอพวกเขาค่ะ”กู้โย่วอันพยักหน้าโดยไม่ลังเล : “ได้ งั้นพี่จะให้คนเชิญพวกเขาออกไปนะ”“ค่ะ”เรื่องเก่า ๆ และคนเก่า ๆ ตอนนี้ฉันไม่อยากเห็นและไม่อยา

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 18

    ‘คุณพ่อ’ ที่ปกติแล้วเอ็นดูเธอที่สุด กลับไม่เหลียวมองเธอเลยสักครั้งเขาโบกมือ ราวกับกำลังไล่ยุงไล่แมลงวันที่น่ารังเกียจออกไปให้พ้น ๆ สั่งให้คนไล่สองแม่ลูกออกไปจากบ้านตอนที่ก้าวออกจากประตูใหญ่ ซ่งยางยางยังไม่ยอมตัดใจเธอกอดเสาประตูเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ตะโกนด้วยเสียงแหบพร่า : “โจวจินหนาน......พี่จะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้ พี่ทำไม่ได้ ฉันท้องแล้ว เด็กเป็นลูกของพี่ พี่ต้องรับผิดชอบฉัน !”สุดท้ายเธอตะโกนจนผมเผ้ารุงรัง ราวกับหญิงเสียสติ“จินหนาน ?” เฉินเหวินโจวหันกลับไปมองเขาโจวจินหนานรู้สึกสะอิดสะเอียนจนพูดไม่ออก อยากจะหัวเราะ แต่ก็หัวเราะไม่ออกตอนนั้นเขาหลงรักผู้หญิงที่น่ารังเกียจแบบนี้ได้ยังไงนะ“ลุงเฉิน”โจวจินหนานเดินตรงเข้าไป มองดูชายชราตรงหน้าที่ผมขาวไปกว่าครึ่งแล้ว : “ผมไม่เคยแตะต้องเธอเลย”“ผมสาบานได้ ผมไม่เคยแตะต้องเธอมาก่อนเลย”“งั้นก็ดี งั้นก็ดี” เฉินเหวินโจวถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก แล้วโบกมืออีกครั้งบอดี้การ์ดลากตัวทั้งสองคนออกไป เสียงตะโกนโห่ร้อง เสียงเอะอะโวยวายเหล่านั้นก็หายเงียบไปดวงอาทิตย์ค่อย ๆ ลับขอบฟ้า ปกคลุมคฤหาสน์หลังใหญ่สายตาของทั้งสองคนจ้องมองไปที่ดอกวสั

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 17

    ภายหลังรบกวนจนกระทั่งเพื่อนบ้านโทรแจ้งนิติบุคคลของอาคารเขาถึงได้รู้จากฝ่ายนิติบุคคลว่า เฉินรั่วถังย้ายออกไปตั้งนานแล้ว และอะพาร์ตเมนต์หลังนี้ เธอก็ไหว้วานให้นิติบุคคลช่วยประกาศขายแล้วเธอย้ายไปไหนนะ ? มิหนำซ้ำเธอยังไม่อยู่ในเมืองจิงอีก ? เธอยังจะกลับมาอีกไหม ? จะกลับมาเมื่อไร ? โจวจินหนานไม่รู้อะไรเลยเขามีเพียงความรู้สึกเดียวที่เกิดขึ้นในส่วนลึกของหัวใจ นั่นคือความรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่สุดราวกับปีศาจที่แอบอยู่ในมุมมืด กำลังจะเขมือบเขาเข้าไปเขาสูญเสียเฉินรั่วถังไปแล้วบางทีเขาอาจต้องสูญเสียเฉินรั่วถังไปตลอดชีวิต สูญเสียไปอย่างสมบูรณ์เรื่องมากมายที่สองแม่ลูกซ่งยางยางเคยวางแผนใส่ร้ายเฉินรั่วถังก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็ถูกเปิดโปงออกมาจนหมดแม้แต่คนรับใช้ของตระกูลเฉิน ต่างก็ก้าวออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคุณหนูใหญ่ของพวกเขาวันที่สองแม่ลูกถูกขับไล่ออกมาจากตระกูลเฉิน ดูอเนจอนาถอย่างยิ่งราวกับสุนัขตกน้ำ ถูกคนรุมทำร้ายโจวจินหนานยืนอยู่ท่ามกลางพุ่มดอกวสันต์ที่กำลังเหี่ยวเฉาในสวนดอกไม้ จู่ ๆ ดวงตาก็แดงก่ำขึ้นมาดอกวสันต์แม้เหี่ยวเฉาไปแล้ว ก็ยังผลิบานใหม่ได้อีกครั้งแต่คนบ

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 16

    “ฉันแพ้ลูกท้อจริง ๆ ค่ะ คุณพ่อเองก็รู้”“เรื่องที่เฉินรั่วถังสั่งให้คนรับใช้ในบ้าน ทาน้ำลูกท้อเอาไว้บนเตียงของฉัน ก็เป็นคุณพ่อเองที่สืบรู้......”ซ่งยางยางกุมใบหน้าร้องไห้ออกมาด้วยความน้อยใจอย่างที่สุด“ยังจะแก้ตัวอีกเหรอ !”จู่ ๆ โจวจินหนานก็เดินตรงเข้ามาหนึ่งก้าว แล้วกำคอเสื้อของซ่งยางยางเอาไว้แน่นเขารูปร่างสูงใหญ่ ทำให้ตอนนี้คล้ายกับว่าซ่งยางยางถูกหิ้วจนตัวลอยขึ้นมา“พี่จินหนาน......พี่รีบปล่อยฉันเร็วเข้า ฉันหายใจไม่ออกแล้ว”โจวจินหนานก้มหน้าลงมองเธอ ใบหน้าอันหล่อเหลาค่อย ๆ บูดบึ้ง : “ซ่งยางยาง เธอลืมไปแล้วหรือเปล่าว่า ที่เธอใช้อยู่คือน้ำหอมที่รั่วถังชอบที่สุด”“และเป็นน้ำหอมที่ฉันเคยซื้อให้เขานับครั้งไม่ถ้วน”“เพียงแต่ภายหลังฉันลืมไปแล้ว......”จู่ ๆ โจวจินหนานก็ส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมา ลืมที่เขาหลงลืมมีมากเกินไปเขาลืมไปแล้วว่าหลายปีที่ผ่าน ความหลงใหลและความรักที่เฉินรั่วถังมีให้เขา ลึกซึ้งเพียงใดเขาลืมความรักที่มีให้แก่กันระหว่างพวกเขาในตลอดสามปีที่ผ่านมา และลืมไปว่าเธอเฝ้ารอวันที่จะได้แต่งงานกับเขาขนาดไหนเขาลืมไปแล้วว่าตอนที่เลิกกัน เฉินรั่วถังหลั่งน้ำตาเงียบ ๆ ต

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 15

    ตอนนี้สิ่งที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าของโจวจินหนาน ทั้งหมดคือสายตาที่เฉินรั่วถังจ้องมองเขาเป็นครั้งสุดท้ายสงบนิ่ง ไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าคนหนึ่ง เป็นแค่ผู้สัญจรที่ผ่านไปมา ที่ไม่มีความสำคัญอะไรในชีวิตของเธอจู่ ๆ โจวจินหนานก็กระเด้งตัวขึ้นมา ในขณะที่เขากำลังจะเดินออกไปด้านนอก ซ่งยางยางก็ผลักประตูเข้ามาอย่างกะทันหัน“พี่จินหนาน”ซ่งยางยางยังคงมีรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนแอและขี้อายเช่นเดิมดวงตาทรงอัลมอนด์คู่งาม ดูแวววาวอยู่เสมอ ราวกับจะหลั่งน้ำตาออกมาได้ทุกเมื่อทำให้ง่ายที่คนอื่นจะคิดว่าเธอถูกใครรังแกมา“ทำไมพี่ถึงดื่มหนักขนาดนี้อีกแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็บ่นว่าปวดหัวอีก”ซ่งยางยางเดินตรงเข้าไป คว้าแขนของเขาเอาไว้ น้ำเสียงอ่อนโยนและแสดงออกถึงความห่วงใยอย่างที่สุดโจวจินหนานกำลังจะอ้าปากพูด แต่กลับได้กลิ่นของน้ำหอมที่คุ้นเคยหัวใจของเขาเต้นตึกตักทันที มือที่แต่เดิมกำลังจะผลักซ่งยางยางออกไป กลับหยุดชะงักลง“ทำไมถึงหอมขนาดนี้ ?”น้ำเสียงอ่อนโยนที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันของโจวจินหนาน ทำให้ซ่งยางยางทั้งรู้สึกเขินอายและตื่นเต้น“นี่ใช่ยี่ห้อคราวก่อนไหม ?”รอยยิ้

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 14

    จินหนาน ถ้านายยังดื่มต่อไปอีก ยังอยากมีชีวิตอยู่อีกไหม?”“รู้ไหมว่าช่วงนี้ทุกคนต่างก็เป็นห่วงนายมาก ?”เพื่อนกดขวดเหล้าเอาไว้ แล้วพูดเตือนสติด้วยความหวังดี : “เมื่อกี้ซ่งยางยางโทรมา เธอกำลังจะมารับนายกลับแล้ว หยุดดื่มได้แล้ว ตกลงไหม ?”จู่ ๆ โจวจินหนานก็รู้สึกรังเกียจชื่อซ่งยางยางขึ้นมาอย่างถึงที่สุดเขาผลักเพื่อนออกไป แล้วโยนขวดเหล้าลงบนพื้นอย่างแรง“ใครใช้ให้พวกนายโทรหาเธอ ? ฉันใช้ให้เธอมาหรือไง ?”“เธอเป็นแฟนของนายนะ ถ้าไม่หาเธอแล้วจะหาใครล่ะ”“เธอเป็นแฟนฉันซะที่ไหน ?”โจวจินหนานหัวเราะเยาะ : “แฟนของฉันคือใคร พวกนายยังไม่รู้แก่ใจอีกเหรอ ?”บรรดาเพื่อน ๆ ต่างหันมองหน้ากัน : “จินหนาน นายลืมไปแล้วหรือเปล่าว่า นายกับถังถังเลิกกันแล้ว......”“จริงด้วย นายยังเคยพูดไว้ในกลุ่มเลยว่า ให้พวกเราเรียกซ่งยางยางว่าพี่สะใภ้”“ก่อนที่ถังถังจะออกจากกลุ่ม ยังแสดงความยินดีกับพวกนายด้วย”“นายกับซ่งยางยางกำลังจะหมั้นกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ?”“จะไม่มีการหมั้นหมาย”โจวจินหนานสั่งให้คนเปิดเหล้าเพิ่มอีกขวด“จินหนาน นายดื่มอีกไม่ได้แล้ว......”“นายคิดว่าฉันจะฟังคำเตือนของพวกนายหรือไง ?”“ใ

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 13

    “รุ่นพี่......”“ฉันไม่ได้กำลังฝันอยู่ เธอคือถังถัง เธอคือเฉินรั่วถัง ใช่ไหม ?”จู่ ๆ กู้โย่วอันก็จับใบหน้าของฉันเอาไว้ระยะห่างที่ใกล้ขนาดนี้ แม้แต่หายใจก็รดกันดวงตาของเขาฉาบไปด้วยความเมา ทั้งสับสน ทั้งงุนงง ทั้งเหลือเชื่อ และมีความขมขื่นที่ไม่อาจพูดออกมาได้แฝงอยู่“กู้โย่วอัน”“พี่ไม่ได้ฝันไปค่ะ”“ฉันเอง ฉันคือเฉินรั่วถัง......”ฉันยังไม่ทันจะพูดจบ รอยจูบอันอบอุ่นก็ตกลงบนริมฝีปากของฉันเป็นรอยจูบที่แผ่วเบามาก อ่อนโยนอย่างที่สุดฉันยังไม่ทันตั้งสติกลับมาได้ กู้โย่วอันกลับปล่อยมือจากฉันแล้วคิดว่าความประหลาดใจบนใบหน้าของฉัน และความตื่นตระหนกในแววตา ถูกเขาสังเกตเห็นเข้าแล้วเขาจับมือฉันไว้ แล้วดึงฉันให้นั่งลงตรงที่นั่งให้ดีรสสตาร์ตแล้ว กู้โย่วอันลดฉากกั้นภายในรถลงมาพื้นที่คับแคบทำให้ฉันรู้สึกประหม่าแต่กู้โย่วอันกลับปล่อยมือฉัน“ไม่ต้องกลัวนะ ถังถัง”“ฉันไม่ทำอะไรเธอในที่แบบนี้หรอก”เขายกมือขึ้น จัดระเบียบทรงผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยของฉัน : “ถังถัง ฉันจะอดทนรอจนกว่าจะถึงคืนแต่งงานของเรานะ”ฉันก้มหน้าลง ใบหน้าร้อนผ่าวจนมีสีแดงก่ำ พักใหญ่ถึงได้หันมองเขา แล้วขารับว่า ‘อ

  • เมื่อดอกวสันต์ผลิบานอีกครั้ง   บทที่ 12

    เมื่องานเลี้ยงจบลง ฉันก็มารอกู้โย่วอันอยู่ที่โถงด้านล่างจู่ ๆ เพื่อนที่เมืองจิงก็โทรศัพท์เข้ามา“ถังถัง สองสามวันนี้ยุ่งอะไรอยู่เหรอ ไม่เห็นหน้าเธอเลย”“มีธุระส่วนตัวจ้องจัดการนิดหน่อยน่ะ”“งั้นอีกเดี๋ยวออกมาสังสรรค์กันหน่อยสิ”ฉันหัวเราะ : ไม่ล่ะ พวกเธอสังสรรค์กันไปเถอะ”“นี่ ถังถัง อย่าเพิ่งวางสายนะ คือว่าอย่างนี้......”“เฮ้อ ที่จริงแล้วเป็นจินหนาน คืนนี้จินหนานอารมณ์ไม่ดี ดื่มจนเมาไปแล้ว ใครเตือนก็ไม่ยอมฟัง”“ถ้าเธอไม่ติดธุระอะไรละก็ มาดูเขาหน่อยสิ กลัวว่าถ้าเขาดื่มต่อไป จะมีเลือดออกในกระเพาะอีก”“พวกเธอโทรหาซ่งยางยางเถอะ”“ถังถัง จินหนานเพิ่งจะไล่ซ่งยางยางกลับไป”“พวกเราทุกคนดูออกว่าในใจของเขายังมีเธออยู่ เขาคงนึกเสียใจขึ้นมาแล้ว”“พอได้แล้วจ้าวเซิน ฉันกับเขาเลิกกันแล้ว”ฉันถือโทรศัพท์ไว้ในมือ กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ : “ต่อไป เรื่องของเขาไม่เกี่ยวอะไรกับฉันแล้ว พวกเธอเองก็ไม่ต้องโทรมาหาฉันแล้ว”ฉันเพิ่งจะพูดจบ ก็มีเสียงดังก้องเข้ามาในหูดูเหมือนโทรศัพท์ของจ้าวเซินจะถูกคนอื่นแย่งไปแล้วฉันไม่อยากสนใจเรื่องพวกนี้ กำลังจะกดวางสายเสียงของโจวจินหนานก็ดังขึ้นมา“เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status