Share

บทที่ 3

Author: แมวผู้ไม่กินปลา
ในห้องรับแขก กู้จื่อโม่ตะโกนเรียกฉันอยู่สองสามครั้ง ฉันเอามือปิดปากน้ำตาไหลเต็มใบหน้า ไม่กล้าที่จะตอบกลับ

รอให้ฉันเช็ดน้ำตาจนแห้ง จัดการอารมณ์แล้วเดินออกมา กลับเห็นว่าพวกเขานั่งอยู่ที่ตรงโต๊ะอาหาร ทานข้าวต้มที่ฉันต้มเสร็จ และพูดคุยกันสนุกสถาน

เป็น 'ครอบครัวสามคน' ที่มีความสุขจริงๆ เลยนะ!

ฉันมุ่งหน้าเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นยืนอยู่หน้าโต๊ะอาหาร จ้องมองพวกเขาตามเป็นมัน

เขาเงยหน้าขึ้น และถามด้วยใบหน้าสงสัย 'คุณไปไหนมา? เมื่อครู่ผมเรียกคุณตั้งนานไม่มีคนขานรับ'

เจียงอีอีเรียกฉันด้วยรอยยิ้มหวานสวยแต่ดวงตากลับแฝงไปด้วยความยั่วยุ 'พี่ นั่งลงทานอาหารเช้าด้วยกันสิ!' น้ำเสียงนั้น เหมือนว่าเธอเป็นนายหญิงของที่นี่ ส่วนฉันเป็นคนที่มาขอข้าวกิน

สีหน้าของฉันต้องดุดันมากแน่นอน เพราะว่าฉันรู้สึกได้ว่าหน้าอกจะระเบิดออกเพราะความโมโหแล้ว

อาหารที่ฉันทำ ตัวเองยังไม่ได้ทานสักคำ ทำไมต้องเอามาให้ชายหญิงสารเลวคู่นี้กินด้วย!

ฉันแย่งถ้วยที่อยู่ในมือของทั้งสองคนมา จากนั้นโยนลงถังขยะที่อยู่ข้างโต๊ะอาหาร 'นี่เป็นข้าวต้มที่ฉันต้มไว้ ไม่ได้เอาไว้ให้พวกคุณทาน!'

กู้จื่อโม่หลบไม่ทัน จึงถูกการกระทำหยาบคายของฉันสาดโดนแขนเสื้อ เขาเช็ดไปด้วย และพูดด้วยน้ำเสียงโมโหไปด้วย: 'เจียงจิงจิง คุณเป็นบ้าอะไรตั้งแต่เช้า?'

ฉันหันหน้าไปและก็ทิ้งถ้วยที่อยู่ในมือของลูกชายของเจียงอีอี จากนั้นมองกู้จื่อโม่ด้วยความเย็นชา 'คุณจะย้อนความหลังกับคนรักเก่าของคุณก็ดี หรือจะสานสัมพันธ์ต่อก็ช่าง กรุณาอย่าพาคนมาอยู่ตรงหน้าฉัน'

'อยากจะกินข้าวต้มที่ฉันต้ม เธอไม่คู่ควร! แน่นอนว่า ตอนนี้ คุณก็ไม่คู่ควรแล้ว!'

เจียงอีอีตาแดงระเรื่อ จากนั้นยืนขึ้น ขอโทษด้วยท่าทางอ่อนแอ 'พี่ พี่อย่าเข้าใจผิด ตอนนี้ฉันกับจื่อโม่เป็นแค่เพื่อนทั่วๆ ไปเท่านั้น ไม่มีความสัมพันธ์อย่างอื่น ฉันมาเพราะพาลูกมาหาพี่'

ฉันเหลือบตามองเธออย่างเย็นชา 'ถ้าหากเธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาจริงๆ เพียงแค่มาหาฉัน งั้นเธอก็ควรจะเอ่ยปากเรียกว่าพี่เขย ไม่ใช่จื่อโม่'

เธอเหมือนกับตื่นตกใจจนตัวสั่นเทาเล็กน้อย จากนั้นก็ขอโทษอีกครั้ง 'ขอโทษด้วยนะ พี่ ฉันเพียงแค่เรียกจนเคยชินแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ชั่วขณะ ต่อไปฉันจะเปลี่ยนไปเรียกว่า พี่ เขย อย่างแน่นอน'

กู้จื่อโม่กลับโยนกระดาษทิชชูที่อยู่ในมือทิ้งไปแล้ว และตวาดใส่ฉันด้วยใบหน้าดำทะมึน: 'พอแล้ว เจียงจิงจิง อีอีมาหาคุณด้วยความหวังดี คุณปฏิบัติต่ออีอีแบบนี้เหรอ ไร้เหตุผลมากจริงๆ!'

ฉันกลับไม่สนใจเขา จากนั้นชี้ไปที่ประตูแล้วพูดกับเจียงอีอี 'พาลูกชายของเธอ ไสหัวออกไปจากบ้านของฉัน!'

เจียงอีอีน้ำตาไหลออกมา จากนั้นถามกู้จื่อโม่ 'จื่อโม่ ฉันทำอะไรผิดไปใช่ไหมคะ ถึงได้ทำให้พี่สาวเกลียดฉันขนาดนี้?'

กู้จื่อโม่ผลักฉันออก แล้ววิ่งไปที่ข้างกายเจียงอีอี เขาเช็ดน้ำตาให้เธอด้วยความสงสาร จากนั้นพูดปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: 'ไม่ใช่ความผิดของคุณ พี่สาวของคุณต่างหากที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี'

เขาหันหน้ามา มองฉันด้วยความโมโห 'เจียงจิงจิง มาขอโทษอีอีเดี๋ยวนี้!'

ฉันเงยหน้าขึ้น ออกแรงกะพริบตา อยากจะกลั้นน้ำตาที่จะไหลออกมากลับไป คนสารเลว คู่ควรที่จะให้ฉันเสียน้ำตาเพื่อเขาอีกต่อไปได้อย่างไร

ฉันมองดูทั้งสองคนที่โอบกอดอยู่ด้วยกัน จากนั้นพูดอย่างนิ่งเฉย: 'ตอนนี้ พวกคุณไสหัวออกจากที่นี่ไปด้วยกันได้แล้ว!'

กู้จื่อโม่โมโห 'เจียงจิงจิง คุณทำความเข้าใจให้ดี นี่คือบ้านของผม คุณมีสิทธิ์อะไรบอกให้ผมไสหัวไป?'

ใช่แล้ว วิลล่าหลังนี้ที่พวกเราอาศัยอยู่ในตอนนี้เป็นบ้านที่ตระกูลกู้ซื้อไว้จริงๆ นั่นแหละ แต่เมื่อสองปีก่อน เป็นเพราะคว้าออเดอร์ใหญ่แทนกู้ซื่อกรุ๊ปเอาไว้ได้ ฉันดื่มเหล้าดื่มจนกระเพาะเลือดออกเข้าโรงพยาบาล เพื่อเป็นการชดเชย พ่อสามีจึงโอนมันให้เป็นชื่อของฉัน

ดังนั้น ตอนนี้ มันคือบ้านของฉันเจียงจิงจิง!

Related chapters

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 4

    ฉันจ้องมองกู้จื่อโม่ตาไม่กระพริบ 'กู้จื่อโม่ จะต้องให้ฉันเอาใบรังรองอสังหาริมทรัพย์มาให้คุณดูไหมว่าที่นี่เป็นบ้านของใครกันแน่?'ได้ยินแบบนี้ เขาก็นึกถึงเรื่องที่โอนกรรมสิทธิ์บ้านในตอนนั้นขึ้นมาได้ สีหน้าจึงไม่เป็นธรรมชาติในทันที'แล้วจะยังไง? ผมเป็นสามีของคุณ ของของคุณก็เป็นของผมอยู่แล้ว!'ฉันหัวเราะเยาะออกมา 'คุณยังจำได้อีกเหรอว่าคุณเป็นสามีของฉัน?''ฉันถามคุณหน่อย เมื่อคืนคุณมีงานสมาคมกับใครเหรอ? ไม่กลับบ้านมาทั้งคืนเพราะไปนอนบนเตียงใครมา?''จะให้ฉันเอารูปภาพให้คุณดูไหม?'กู้จื่อโม่มองดูฉันด้วยความงุนงง 'ผมก็แค่ดื่มจนเมาและนอนหลับที่โรงแรมไม่ใช่เหรอ รูปภาพอะไร?'ฉันกำลังจะเอ่ยปาก เจียงอีอีกลับรีบขัดจังหวะฉัน 'พี่ ในเมื่อพี่ไม่อยากเห็นฉัน ฉันพาเจสันกลับไปก็ได้'พูดจบ เธอก็มองกู้จื่อโม่ด้วยท่าทางน่าสงสาร จากนั้นจับมือของลูกชาย เดินออกไปอย่างรวดเร็วกู้จื่อโม่ยกเท้าจะเดินตามออกไป แต่กลับถูกฉันจับชายเสื้อเอาไว้มือข้างหนึ่งของฉันกุมกระเพาะเอาไว้แน่น และพูดเสียงสั่น: 'จื่อโม่ ฉันปวดกระเพาะจนทนไม่ไหวแล้ว คุณช่วยรินน้ำอุ่นให้ฉันหน่อยได้ไหม?'แต่กลับถูกเขาสะบัดออกอย่างแรง ศีรษะชนเ

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 5

    หมอประจำเคสของฉันเกลี้ยกล่อมให้ฉันยอมรับการใช้เคมีรักษาโรคมะเร็งมาโดยตลอด เขาพูดว่า 'คุณยังอายุน้อยขนาดนี้ ทำไมถึงได้สละชีวิตของตัวเองง่ายๆ แบบนี้?'แต่เขาไม่รู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นกระเพาะของฉัน หรือว่าหัวใจของฉัน ต่างก็บาดเจ็บสาหัสไปนานแล้ว ไม่อยากรับความทรมานแม้แต่นิดเดียวแล้วสามเดือนสุดท้าย ฉันแค่อยากจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ไม่อยากให้ถึงตอนสุดท้ายผมร่วงหมดหัว ก็ยังทำได้แค่นอนรอความตายอยู่บนเตียงผู้ป่วยตั้งแต่วันที่วิ่งตามออกไป กู้จื่อโม่ไม่ได้มาเหยียบที่บ้านหลังนี้สี่วันแล้วแต่ละวันเจียงอีอีจะโพสต์ไทม์ไลน์เพื่อรายงานให้ฉันดูเพียงผู้เดียว'วันนี้ไปสถานที่ที่พวกเราตกลงเป็นแฟนกันในปีนั้น ดีมากจริงๆ ต้นไม้ต้นเล็กๆ ของที่นี่เติบโตกันหมดแล้ว' ควบคู่กับภาพป่าไม้ขนาดเล็กกลางเมืองเจียงเฉิง ปีนั้น ฉันก็แอบอยู่ที่หลังต้นไม้ต้นหนึ่งมองดูกู้จื่อโม่คุกเข่าข้างเดียวเพื่อสารภาพรักต่อเจียงอีอี'วันนี้มาดูภาพยนตร์เรื่องแฟนเก่าภาค 3 กับเขา ฉันที่เป็นแฟนเก่าอยู่ในใจของเขายังคงมีน้ำหนักขนาดนั้นเหมือนในอดีตไหมนะ?' ควบคู่ภาพตั๋วหนังสองใบกับมือเล็กมือใหญ่ที่จับประสานกันแน่น'เขาบอกว่าดูฉันทาน เป็นความส

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 6

    หลังจากแต่งงาน คุณพ่อกู้ส่งให้ฉันเข้าไปดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของกู้ซื่อกรุ๊ปสำหรับกู้จื่อโม่ ยังคงกินเที่ยวดื่มเล่นอยู่กับพวกเพื่อนที่ไม่เอาไหนกลุ่มนั้นของเขา เขาพูดว่าอย่างไรซะก็แต่งงานกับฉันที่เป็นคนที่มีคุณธรรมและสติปัญญาแทนกู้ซื่อกรุ๊ปแล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องไปทำงานที่กู้ซื่อกรุ๊ปอีกแล้วคุณพ่อกู้นำหุ้นส่วนที่เตรียมไว้ให้เจียงอีอีในตอนนั้นโอนให้เป็นชื่อของฉัน ฉันกลับมีความรู้สึกเหมือนขโมยของของคนอื่นอยู่เป็นประจำ จึงพยายามสร้างผลประโยชน์ให้กับกู้ซื่อกรุ๊ปอย่างเต็มที่ในตอนที่กู้จื่อโม่แข่งรถกับคนอื่นอยู่ที่บนเขา ฉันกำลังก้มหน้าก้มตาทำโอทีอยู่ที่ห้องทำงานในตอนที่กู้จื่อโม่ยกแก้วเหล้าดื่มเหล้ากับเพื่อนๆ ฉันยุ่งอยู่กับการบินไปบินมาคุยธุรกิจทั่วประเทศในตอนที่กู้จื่อโม่ดูรูปภาพของเจียงอีอีแล้วตาแดง ฉันอยู่ที่โต๊ะเหล้าถูกลูกค้ามอมเหล้าจนอ้วกอาการป่วยของกระเพาะของฉันเกิดจากความพยายามซ้ำๆ ทุกวันพ่อสามีพูดว่า 'จิงจิง หนูเป็นผู้หญิง ไม่ต้องกดดันตัวเองขนาดนั้น กู้ซื่อกรุ๊ปไม่จำเป็นต้องให้หนูพยายาม ตระกูลของพวกเราให้หนูแต่งงานเข้ามาไม่ใช่เพื่อให้หนูมาทุ่มเทชีวิต'แม่สามีจับมือขอ

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 7

    ฉันกับเจียงอีอีเป็นพี่น้องฝาแฝด เป็นเพราะเกิดเร็วกว่าเธอสองนาที จึงรับชื่อเป็นพี่สาวฝาแฝดของครอบครัวอื่นต่างรักใคร่กลมเกลียวกัน แต่งตัวเหมือนกัน มัดผมเหมือนกัน สะพายกระเป๋าเหมือนกันแต่เมื่อมาถึงพวกเรา ตั้งแต่ที่เจียงอีอีรู้ความขึ้นมา เธอก็โวยวายไม่ให้พ่อแม่จับเธอแต่งตัวเหมือนกับฉันอีกเธอบอกว่าเธอคือเจียงอีอีที่มีเพียงหนึ่งเดียวบนโลกนี้ ในเมื่อสามารถเลือกใบหน้าได้ เช่นนั้นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า สิ่งของพวกนี้สามารถเลือกได้ เธอก็จะเลือกที่แตกต่างกันอย่างแน่นอนอาจเป็นเพราะเด็กที่ร้องไห้ก็จะมีนมกินจริงๆ เทียบกับฉันที่เชื่อฟังว่านอนสอนง่าย เจียงอีอีที่เฉลียวฉลาด และซุกซนจึงกลายเป็นที่รักใคร่ของตระกูลเจียงตั้งแต่คุณปู่คุณย่า ไปจนถึงลูกพี่ลูกน้อง เหมือนกับไม่มีสักคนที่ไม่ชอบเธอสำหรับฉันคนที่หลงใหลอยู่กับการเรียนทั้งวัน จึงได้รับคำพูดจากพวกเขาประโยคหนึ่งว่า 'เชื่อฟังว่านอนสอนง่าย'ฉันปลอบใจตัวเองว่า ก็ยังดีกว่าถูกคนรังเกียจ!ก่อนมัธยมต้น ฉันกับกู้จื่อโม่แทบจะไม่มีการติดต่อใดๆ กันเลย ภายหลัง ฉันสอบเข้าห้องนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนมัธยมต้นเมืองเจียงตูลำดับที่หนึ่ง กู้จื่อโม่ก็เข้า

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 8

    ในตอนที่ฉันฝันถึงกู้จื่อโม่สามวันติดๆ ฉันก็พูดกับตัวเองในใจ 'ยอมรับซะเถอะ! เทียบกับการหลีกเลี่ยงเด็กเรียนแย่ ไม่สู้เปลี่ยนแปลงเขาดีกว่า!ดังนั้น ในตอนที่กู้จื่อโม่นอนหลับในขณะเรียน ฉันเริ่มหยิกแขนของเขาเพื่อจะให้เขาตั้งใจเรียนหลังเลิกเรียนก็ดึงเขาให้อยู่เขียนการบ้านที่ห้องเรียน และสอนพิเศษให้เขาหนึ่งชั่วโมงสุดสัปดาห์วิดีโอคอลควบคุมเขาให้เขียนการบ้านที่คุณครูสั่งให้เรียบร้อยด้านกู้จื่อโม่ยื่นข้อต่อรองมาให้ฉันต่อฉัน อีกด้านหนึ่งกลับหัวเราะคิกคัก: 'ฉันชอบคำพูดของเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน!' ท่าทางแบบนั้นดูสะดีดสะดิ้งเล็กน้อยแต่ประสิทธิผลเห็นได้ชัดเจน ตอนที่สอบกลางภาค คะแนนของกู้จื่อโม่แต่ละวิชาอยู่ที่ 60 คะแนนขึ้นไปเขากระโดดขึ้นสูง จากนั้นโอบกอดฉันไว้ 'อ้าก นางฟ้าเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน นี่เป็นครั้งแรกที่สอบผ่านทุกวิชาตั้งแต่ที่ฉันเรียนหนังสือมา!''เธออยากได้ของขวัญอะไร? หรือไม่ ฉันไปเลี้ยงข้างเธอที่ร้านอาหารสู่อวิ้นจายแล้วกัน อาหารของที่นั่นอร่อยมากเลย''รอให้ฉันนำใบคะแนนไปตรงหน้าพวกเหล่ากู้ จะต้องสาดส่องจนดวงตาของพวกเขาบอดแน่ๆ ฮ่าฮ่า'……กู้จื่อโม่ยังแสดงความดีใจของตัวเองออกมาไม่ห

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 9

    หลังจากตั้งสติกลับจากความทรงจำ ฉันหัวเราะเยาะตัวเอง คุณแม่กู้มีลูกสะใภ้อย่างฉันตามที่หวังไว้ น่าเสียดายที่คนที่หน้าแดงคนนั้นกลับรังเกียจฉันแล้วแต่คนที่ทอดทิ้งเขาก็คือเจียงอีอี คนที่บีบบังคับให้แต่เขาแต่งงานก็คือพ่อแม่ของเขา ฉันทำผิดอะไรกัน?ถ้าหากฉันมีความผิด งั้นก็น่าจะเป็นเพราะฉันไม่ควรแอบรักเขาข้างเดียวมาสิบกว่าปีสินะ!วันแรกๆ ที่เพิ่งแต่งงานกับกู้จื่อโม่ ฉันคิดว่าฉันสามารถใช้ความจริงใจทำให้เขาซาบซึ้งได้ จากนั้นแทนที่เจียงอีอีที่อยู่ในใจของเขาคุณแม่กู้บอกฉันว่าเขาชอบทานอาหารที่ป้าหลิวคนรับใช้ทำ ฉันจึงเดินทางกลับไปที่คฤหาสน์เก่าหลังเลิกงานทุกวัน และหมกมุ่นเรียนรู้การทำอาหารอยู่ที่ห้องครัวไม่รู้ว่ามีดบาดนิ้วกี่ครั้ง สิ้นเปลืองวัตถุดิบจำนวนมากเท่าไหร่ และมีหลายครั้งที่ เกือบจะเผาห้องครัวของตระกูลกู้ สุดท้ายถึงได้ทำอาหารสองสามเมนูที่เขาชอบมากที่สุดออกมาได้เขากลับถึงบ้านบ่นโอดครวญว่าปวดคอ ฉันก็ไปสมัครเรียนนวดครึ่งเดือนกว่าๆ เพื่อที่จะได้นวดให้เขาด้วยเมื่อตัวเอง ในตอนที่เขากลับมาบ้านแค่สองสามครั้งในหนึ่งเดือนเขาพูดว่าแฟนของคุณชายตระกูลหวังทำเค้กในตอนวันเกิดให้เขา ฉันก็โง่เขลาว

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 10

    เจียงอีอีโพสต์รูปบนเตียงของเธอกับกู้จื่อโม่ให้ฉันเห็นเพียงคนเดียวอีกครั้งแล้ว ฉันคลื่นไส้จนพุ่งเข้าไปอ้วกในห้องน้ำสามนาทีมองดูดวงตาที่สงบเหมือนน้ำนิ่งกับใบหน้าที่ไม่ได้อ่อนวัยอีกแล้ว ฉันรับรู้ได้ว่าหลายปีมานี้ฉันใช้กำลังวังชาที่บนตัวกู้ซื่อกรุ๊ปกับกู้จื่อโม่จนมากเกินไปแล้ว มีเพียงหนึ่งเดียวคือไม่เคยให้ความสำคัญกับตัวเองเลยสักนิดเดิมทีฉันคิดว่าเพียงแค่กู้จื่อโม่ไม่ประกาศกับภายนอกว่าจะอยู่ด้วยกันกับเจียงอีอี ไม่เป็นฝ่ายเอ่ยปากหย่าร้างกับฉัน งั้นพวกเราก็ใช้ชีวิตสองสามเดือนที่เหลือแบบนี้แหละแต่ในตอนที่เห็นพวกเขาสองคนนอนอยู่ด้วยกัน ฉันกลับรู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างมาก ไม่อยากมีความสัมพันธ์ใดๆ กับเขาอีก!สุดท้ายแม้แต่คนก็สกปรกแล้ว ฉันควรจะปล่อยมือได้แล้วในตอนที่ฉันร่างหนังสือหย่าร้างขึ้นมา เตรียมจะส่งให้กู้จื่อโม่ เขากลับพาเจียงอีอีกลับมาอีกแล้วเมื่อเข้ามา เห็นฉันที่นั่งทานข้าวอยู่ตรงโต๊ะอาหาร เขาก็นั่งลงตรงข้ามฉันและใช้งานฉันเป็นไปโดยธรรมชาติ 'พอดีเลยพวกเราก็ยังไม่ได้ทานข้าว เจียงจิงจิง คุณไปตักข้าวมาให้ผมกับอีอีหน่อย ทานข้าวเสร็จ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ'ได้ยินคำพูดของเขา ฉันนิ่งอ

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 11

    มองดูพวกเขาเดินไปนั่งลงที่ตรงโซฟา และพูดคุยกระซิบกระซาบ เหมือนกับมองเห็นชายหญิงวัยรุ่นคู่นั้นที่นั่งพูดคุยกันอย่างคึกคักที่ในห้องรับแขกของตระกูลเจียงวันนั้น ฉันยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องครัว มองดูพวกเขาพูดคุยกันอยู่ตลอด คุยกันจนแม้แต่ฉันเดินไปข้างหน้าพวกเขาก็ยังไม่หยุดทั้งๆ ที่กู้จื่อโม่มาที่บ้านเพื่อมามอบของขวัญให้ฉัน แต่สุดท้ายนาฬิกาประดับเพชรกลับถูกเขานำไปสวมใส่บนข้อมือของเจียงอีอีกับมือฉันควรจะรู้ได้ตั้งนานแล้ว เทียบกับฉันที่พูดไม่เก่งและเคร่งขรึม แน่นอนว่าเจียงอีอีที่หวานสวยน่ารักได้รับความชื่นชอบจากผู้ชายมากกว่าก่อนที่จะกลับไป พวกเขาสองคนถึงขั้นเพิ่มไลน์กันเรียบร้อยแล้ว และนัดกันเรียบร้อยว่าสุดสัปดาห์จะออกไปเที่ยวด้วยกันเจียงอีอีชูนาฬิกาข้อมือที่อยู่บนมือ จากนั้นพูดกับเธอด้วยความลำพองใจ 'เจียงจิงจิง คิดไม่ถึงว่าพี่จะรู้จักผู้ชายที่หล่อและรวยขนาดนี้ด้วย แต่เขาพูดว่าฉันสวยและน่ารักกว่าพี่อีกนะ!'สำหรับฉัน กู้จื่อโม่บอกว่าเขาจะชดเชยของขวัญตอนอายุสิบแปดให้ แต่สุดท้าย ฉันก็ไม่ได้รับของขวัญที่เขารับปากเอาไว้เห็นเพียงแค่เงาของพวกเขาที่อยู่ด้วยกันในโรงเรียนเป็นประจำในตอนนั้น

Latest chapter

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 21

    ภายหลัง กู้จื่อโม่ไปหาหมอประจำเคสของฉันที่โรงพยาบาล และรับรู้จากปากของหมอว่าฉันเป็นมะเร็งกระเพาะ อีกทั้งยืนหยัดที่จะไม่แอดมิดรับการรักษาหลังจากกลับบ้าน ก็กอดขวดเหล้าเมามายอีกยกหนึ่ง ในปากก็บ่นพึมพำ 'ผมไม่รู้ว่าคุณเหลืออีกแค่สามเดือนจริงๆ ถ้าหากผมรู้ ผมจะต้อง...' พูดไม่ทันจบ เขาก็หลับไปถ้าหากเขารู้ เขาจะทำอะไร? ทิ้งเจียงอีอีแล้วมาอยู่กับฉันเหรอ?วันต่อมา เขาเริ่มเรียนทำอาหารที่ฉันชอบทานจากวิดีโอ นิ้วมือถูกบาด เขาติดพลาสเตอร์แล้วทำต่อ อาหารไหม้แล้ว เขาก็เททิ้งในถังขยะและเริ่มตั้งกระทะตั้งน้ำมันอีกครั้งเขาหั่นผักไปด้วยพูดพึมพำไปด้วย 'ตอนนั้น คุณก็ไปเรียนทำอาหารเหล่านั้นเพื่อผมครั้งแล้วครั้งแบบนี้ใช่ไหม'อ่อ เขายังเรียนนวด เรียนทำเค้ก ถึงขั้นยังไปสมัครเรียนการปักแจกันดอกไม้ บอกว่าต่อไปจะจัดดอกทานตะวันที่ฉันชอบมากที่สุดภายในบ้านทุกวันฉันไม่เข้าใจการกระทำของเขาจริงๆ และก็ไม่อยากเข้าใจการกระทำของเขาเขาทำสิ่งเหล่านี้เพื่อคนตายจะมีประโยชน์อะไรเหรอ? แสดงความรักสุดซึ้งของเขา หรือว่าสารภาพบาปต่อใคร?อย่างไรฉันก็ตายไปแล้ว และก็ไม่สามารถเสพสุขได้แล้ว!เขาอยากโอ้อวดก็ให้เขาทำไปเถอะ!คุ

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 20

    ต้องเป็นเพราะฉันไม่ได้ยืนอยู่ใต้ร่มไม้ ถูกพระอาทิตย์ส่องจนแสบตาฉันกลับเห็นน้ำตาของกู้จื่อโม่ไหลลงบนพื้น หรือว่าเขาร้องไห้เพื่อฉันงั้นเหรอ? แต่ทั้งๆ ที่เขาไม่รักฉันนะ!จากนั้น ฉันก็เห็นเขาเข่าอ่อน คุกเข่าลงตรงหน้าหลุมศพของฉัน ทำให้ฉันตกใจจนแทบจะกระโดดเด้งออกมาจากในหลุมศพเขาลูบป้ายหลุมศพของฉัน ร้องไห้และพูดว่า: 'เจียงจิงจิง คุณอย่าตายได้ไหม? ผมคิดถึงคุณแล้ว!''ผมสำนึกผิด ผมไม่ควรทำคุณหายไปเพราะเจียงอีอี''เพียงแค่คุณกลับมา ผมสาบานว่าต่อไปผมจะไม่มองผู้หญิงคนอื่นอีกแม้แต่นิด ไม่จับมือกับผู้หญิงคนอื่นอีก อยู่ด้วยกันกับคุณคนเดียวไปนานๆ''คุณกลับมาสิ!'……เขาร้องไห้ไปด้วยตะโกนไปด้วย ท่าทางรักใคร่ น้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้คนได้ยินแล้วอยากจะร้องไห้!แต่เขาเป็นคนโง่หรือไง?คนตายไปแล้ว ศพก็เริ่มเน่าเฟะแล้ว เขาตะโกนเรียกสองสามประโยคแล้วจะสามารถกลับมาได้เหรอไง?เพียงแต่ฉันก็ไม่สนแล้ว ตอนที่มีชีวิตอยู่มองฉันไร้ค่า รอฉันตายไป ก็เริ่มทำเสแสร้งว่ารักอย่างสุดซึ้งที่ตรงหน้าหลุมศพของฉัน ผู้ชายแบบนี้ ใครอยากได้เอาไปเลย ฉันรับไว้ไม่ไหวเขานั่งอยู่ที่หน้าหลุมศพของฉันเป็นเวลานาน หลังจากกลับไปก็เริ่

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 19

    ในตอนที่คุณแม่กู้มาหาอีกครั้ง เธอพาบอดี้การ์ดมาสองคน จากนั้นเก็บกวาดเหล้าภายในบ้านที่กู้จื่อโม่ซื้อมาทิ้งไปจนหมดควบคุมเขาไปที่ห้องน้ำ อาบน้ำ โกนหนวด แต่งตัวให้เขาและก็จับเขาล็อกบนโซฟาคุณแม่กู้ด่าเขาที่ไม่เอาไหน 'ก่อนหน้านี้ พวกเรากีดกันลูกขนาดนั้น ลูกก็จะหย่าร้างและแต่งงานกับเจียงอีอีให้ได้ ตอนนี้ เจียงอีอีเฉดหัวลูกทิ้งอีกครั้ง ลูกก็คิดถึงความดีที่จิงจิงมีต่อลูกแล้ว? ลูกว่าลูกไม่ชั่วช้าแล้วมันคืออะไร?'ฉันพยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดของคุณแม่กู้ กู้จื่อโม่ชั่วช้าจริงๆเห็นเขาไม่พูดจา คุณแม่กู้ก็ถอนหายใจ 'ถ้าลูกอยากจะคืนดีกับจิงจิง ลูกก็ไปตามหาเธอกลับมา นับแต่นี้ไปก็ใช้ชีวิตกับเธออย่างซื่อสัตย์'กู้จื่อโม่กลอกตาไปมา และเงยหน้าขึ้น ถามคุณแม่กู้ด้วยความโง่เขลา 'แม่ว่าจิงจิงยังจะยอมให้อภัยผม แลใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับผมไหม?'ฉันส่ายหน้า ไม่ยอมอยู่แล้ว ในเมื่อของมือสองที่เจียงอีอีเคยใช้ฉันไม่ชอบเลยสักนิดคุณแม่กู้โมโหจนตบไปที่หลังของเขา 'ลูกไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเธอยอมหรือไม่?'ฉันพยักหน้า ถูกต้องแล้ว คุณไม่ลองจะรู้ได้อย่างไรว่าเธอยอมหรือไม่ยอม!กู้จื่อโม่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 18

    ฉันรอเจียงอีอีส่งรูปภาพงานแต่งงานของเธอกับกู้จื่อโม่มาโดยตลอด แต่จนถึงลมหายใจสุดท้ายของฉัน วิญญาณลอยอยู่กึ่งกลางอากาศ ก็ยังไม่ได้รับข้อความจากเธอฉันมองดูพวกชาวบ้านและเด็กๆ ล้อมรอบโรงศพของฉันแล้วร้องไห้เสียใจ อยากจะเข้าไปบอกพวกเขามากว่า 'อย่าร้องไห้ เดิมทีฉันก็มีชีวิตได้ไม่นานอยู่แล้ว'แต่กลับเหมือนว่ามีสองมือที่กำลังดึงฉันไว้ พาฉันกลับไปที่ข้างกายของกู้จื่อโม่หรือว่าเป็นเพราะฉันยึดติดกับกู้จื่อโม่จนลึกซึ้งเกินไป? แม้แต่ตายไป ก็ยังกลับมาอยู่ที่ข้างกายเขา?แต่ก่อนฉันตาย เห็นได้ชัดว่าฉันไม่รักเขาแล้วนี่นา! ฉันคืนเขาให้กับเจียงอีอีแล้วในตอนที่เห็นเขา ฉันตกตะลึงอย่างมากจริงๆคนที่ใบหน้าเสื่อมโทรม หนวดเครารุงรังที่อยู่ตรงหน้าใช่กู้จื่อโม่ที่ฉันรู้จักจริงๆ เหรอ? เขาเป็นคนที่แม้แต่ผมเส้นเดียวก็ยังต้องเนี๊ยบสุดๆ เชียวนะ!เขานั่งอยู่ในกองกระป๋องเบียร์ ดื่มเหล้าไปด้วยบ่นพึมพำไปด้วย ฉันลอยเข้าไปข้างหน้า ถึงได้ยินฉันเจน เขากลับเรียกชื่อ 'เจียงจิงจิง'หรือว่าหลังจากที่ฉันส่งใบหย่าให้เขา เขาก็รู้ตัวขึ้นมาว่าคนที่ตัวเองรักไม่ใช่เจียงอีอี แต่เป็นฉัน?ถ้าหากเป็นแบบนี้จริงๆ งั้นฉันอยากจะตบหน้

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 17

    'เจียงจิงจิง ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน' เพิ่งจะรับสาย เจียงอีอีก็เอ่ยปากถามขึ้นมาฉันไม่อยากคุยกับเธอมากนัก ทำแค่เพียงถามเธอด้วยความนิ่งเฉย 'มีธุระอะไรกับฉัน?'เธอหัวเราะเสียงเล็ก 'เจียงจิงจิง ฉันท้องแล้ว ลูกของกู้จื่อโม่ ดังนั้นเธอรีบกลับมาหย่าซะ สละตำแหน่งให้ฉันกับเด็กในท้องซะ'ฉันเอามือปิดมาก พะอืดพะอมขึ้นมา และรู้สึกรังเกียจอย่างมาก'เจียงอีอี ทำไมเธอถึงได้พูดแบบนี้อย่างเต็มปากเต็มคำขนาดนี้นะ? ฉันบอกเธอให้นะ เพียงแค่ฉันไม่หย่าร้างกับกู้จื่อโม่หนึ่งวัน เด็กที่อยู่ในท้องก็เป็นลูกนอกคอกที่พวกเธอแอบคลอดมาเจียงอีอีด่าทอเสียงดัง: 'นังแพศยา จื่อโม่ไม่รักเธอ ทำไมเธอต้องตอแยเขาอีก'!' หลังจากระบายอารมณ์จบ เธอก็ยิ้มอีก 'อ่อ ใช่แล้ว พ่อแม่ของจื่อโม่ก็รู้แล้ว พวกท่านเรียกให้ฉันย้ายไปที่คฤหาสน์เก่าภายในวันสองวันนี้ บอกว่าจะดูแลฉันและลูกในท้องของฉัน''เธอบอกว่าพวกเขาไม่มีทางยอมให้ฉันเข้าประตูไม่ใช่เหรอ? หึหึ ถ้าจะให้พูดก็ต้องโทษเธอ แต่งงานแปดปีก็ไม่สามารถมีหลานให้พวกเขาได้ เฮ้อ...'ด้านหลังเจียงอีอียังพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉันไม่รู้แล้ว ฉันกำโทรศัพท์เอาไว้และหงายหลังล้มลงไปในตอนที่ศีระษะสัมผัสโด

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 16

    ฉันมอบใบหย่าร้างที่เซ็นชื่อแล้วให้กับทนาย บอกเขาว่าอีกสามเดือนค่อยส่งพัสดุให้กู้จื่อโม่ทำอย่างไรได้ ต่อให้เขาไม่รักฉัน ฉันก็ยังอยากจะตายไปพร้อมกับสถานะภรรยาของกู้จื่อโม่กู้จื่อโม่ รอให้ฉันตายไปก่อนคุณค่อยแต่งงานกับเจียงอีอีแล้วกัน!ฉันจัดเก็บของทั้งหมดที่อยู่ในวิลล่าใส่หีบห่อ จากนั้นส่งไปยังเพนท์เฮ้าส์ที่กู้จื่อโม่ซื้อ และก็มอบหมายให้คนกลางขาายวิลล่าออกให้เร็วที่สุดหลังจากได้รับเงิน ฉันก็ลากกระเป๋าเดินทางไปยังเขตภูเขาที่ห่างไกลที่กู้ซื่อกรุ๊ปเคยให้ความช่วยเหลือ ฉันเคยพาทีมงานมาสร้างโรงเรียนประถมแห่งความหวังชีวิตที่เหลืออยู่ของฉัน ฉันสามารถสอนหนังสือให้เด็กๆ ที่นี่ได้ สอนพวกเขาร้องรำทำเพลง ในเมื่อชีวิตนี้ของฉันจนตาย ก็ไม่สามารถมีลูกของตัวเองได้ฉันยังอยากจะสร้างโรงเรียนมัธยมต้นอีกสักแห่งที่นั่น จัดคู่กับอุปกรณ์การเรียนการสอนและบุคลากรครู บางทีที่นี่ก็สามารถสร้างนักศึกษามหาวิทยาลัยได้หลายคนหลังจากข้าราชการของท้องถิ่นรับรู้ถึงความคิดของฉัน ก็พากันแสดงออกว่าจะสนับสนุนและให้ความร่วมมือเต็มที่และหลังจากที่พวกชาวบ้านรู้ แต่ละคนก็ถือไข่ไก่ ผักกาดขาว และเนื้อแดดเดียวมาด้วยความตื้น

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 15

    กู้จื่อโม่บาดเจ็บหนักที่สุด เห็นได้ชัดว่าคุณพ่อกู้ลงมืออย่างหนักจริงๆ จึงให้เขาอยู่รักษาบาดแผลที่คฤหาสน์เก่าคุณแม่กู้รั้งฉันเอาไว้ ให้ฉันอยู่ดูแลกู้จื่อโม่ให้ดีฉันรู้ว่าเธออยากจะจับคู่พวกเรา เพียงแต่ ไม่ว่าจะเป็นฉันหรือว่ากู้จื่อโม่ ต่างก็ไม่อยากเป็นแบบนี้ต่อไปอีกแล้วกู้จื่อโม่แค่เห็นฉันก็พูดจาเหยียดหยามโจมตีฉัน ฉันเดาว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขาบาดเจ็บ จะต้องอยากลุกขึ้นมาตบฉันสักสองสามครั้งเขาคุยกระหนุงกระหนิงในโทรศัพท์กับเจียงอีอีทุกวัน แต่กลับสาปแช่งฉันที่แยกทางพวกเขาสองคนฉันนั่งลงตรงหน้าเตียง และถามเขาด้วยความสงสัย: 'ตอนนั้นคนที่ทอดทิ้งคุณไปต่างประเทศเป็นเจียงอีอีไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงกลายเป็นฉันที่แยกพวกคุณออกจากกัน?'เขาไม่คิดว่าเป็นแบบนั้น 'คุณจะไปรู้อะไร ตอนนั้นอีอียังอายุน้อย ถูกคนหลอกลวง ถึงได้หนีไปต่างประเทศกับคนอื่น เธอพูดแล้ว อันที่จริงในใจของเธอคิดถึงผมมาดดยตลอด'ฉันถอดทอนใจอย่างอดไม่ได้ 'ใช่สิ พอถูกหลอกก็หลอกจนถึงแปดปี เธอคงจะลำบากใจมากที่นึกถึงคุณหลายปีขนาดนี้ จนถึงตอนนี้เพิ่งจะกลับมา'กู้จื่อโม่ปากสั่น อยากจะพูดอะไร แต่ผ่านไปนานก็ยังพูดไม่ออก บางทีในใจของเขาก็รู้ดีเช

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 14

    ฉันถือโอกาสในตอนที่พวกเขาไม่สังเกต วิ่งไปทานยาที่ห้องครัว ในเมื่ออีกเดี๋ยวยังมีสงครามครั้งใหญ่ให้ต้องสู้รบกู้จื่อโม่กลับมาอย่างรวดเร็วมาก คนที่มาด้วยกันกับเขาก็ยังมีเจียงอีอีพวกเขาสองคนปรากฏตัวขึ้นที่ห้องอาหารพร้อมๆ กัน แก้วน้ำที่อยู่ในมือคุณพ่อกู้ถูกขว้างปาไปที่เขาแก้วน้ำกระแทกศีรษะของเขาจนแตก แก้วที่เปื้อนเลือดตกลงบนพื้นและแตกกระจายเจียงอีอีส่งเสียงอุทานและพุ่งเข้ามาจับศีรษะของเขา คุณแม่กู้กลับเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว จิกผมของเจียงอีอี และฟาดฝ่ามือไปที่ใบหน้าของเธอสองครั้ง'นังแพศยา เธอยังมีหน้ามาตามตอแยลูกชายฉันอีก เธอไปแต่งงานที่ต่างประเทศแล้วไม่ใช่เหรอ ยังจะกลับมาทำไมอีก?''นังแพศยาที่ไร้ยางอาย' ทำลายครอบครัวของคนอื่น!'จากนั้นหันหน้าไปอีกทาง เธอก็ตบไปที่ใบหน้าของกู้จื่อโม่สองครั้ง 'แกต่ำช้าถึงขนาดนี้เลยเหรอ? ทำไมต้องกระตือรือร้นไปประจบประแจงนังแพศยาที่ทอดทิ้งแกไปด้วย?''จิงจิงเด็กสาวที่ดีขนาดนี้อยู่ข้างกายแกมาแปดปี แกแม่งตาบอดเหรอ?'คุณแม่กู้โมโหอย่างถึงที่สุดจริงๆ เธอแทบจะใช้แรงทั้งหมดที่มี ตบจนใบหน้าของทั้งสองคนบวมเป่งกู้จื่อโม่ไม่มีเวลามาสนใจบาดแผลของตัวเอง เขาหัน

  • เมื่อฉันตาย อดีตสามีร้องไห้โฮหน้าหลุมศพฉัน   บทที่ 13

    กู้จื่อโม่พาเจียงอีอีย้ายเข้าไปในเพนท์เฮ้าส์หรูที่เขาซื้อไว้ที่เขตตัวเมืองด้วยความเปิดเผย วันที่เข้าอยู่ ตั้งใจเรียกคนกลุ่มใหญ่ไปสร้างความอบอุ่นที่บ้านใหม่ของพวกเขาเขาพูดว่าถึงแม้จะไม่สามารถให้สถานะคุณผู้หญิงกู้กับเจียงอีอีได้ แต่สิ่งอื่นที่คุณผู้หญิงกู้มีเธอก็มีเช่นกันตอนที่เจียงอีอีส่งวิดีโอมาให้ฉัน ฉันกำลังทานข้าวเป็นเพื่อนคุณพ่อกู้คุณแม่กู้อยู่ที่คฤหาสน์เก่าตระกูลกู้ ถือซะว่าเป็นความกตัญญูครั้งสุดท้ายของลูกสะใภ้แล้วกัน!ในเมื่อพวกเขาสองคนดีกับฉันมาโดยตลอดบนโต๊ะอาหาร คุณพ่อกู้พูดด้วยสีหน้าจริงจังถึงเรื่องการหมุนเวียนเงินทุนของกู้ซื่อกรุ๊ปว่าเกิดปัญหาเล็กน้อย เขาวู่วามเกินไปในการบริหารโครงการการลงทุน นำเงินทุนหมุนเวียนทั้งหมดทุ่มลงในโครงการเมืองบันเทิงทางเขตตอนใต้ของเมือง เมื่อเห็นว่าโครงการใกล้จะสำเร็จแล้ว เงินยอดคงเหลือกลับไม่สามารถเอาออกมาได้ตอนที่กู้เงิน ธนาคารให้เหตุผลว่าเงินทุนหมุนเวียนของกู้ซื่อกรุ๊ปไม่เพียงพอ อยากให้คุณพ่อกู้ใช้โครงการคำประกันเงินกู้ คุณพ่อกู้กลับไม่อยากนำทั้งโครงการไปค้ำประกันเพียงเพื่อเงินชำระยอดคงเหลือฉันเห็นว่าเขากลุ้มใจจนกินข้าวไม่ลง แต่กลับเช

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status