" มาแล้วค่ะ กลับมากันแล้ว คุณทักกับนังใบ้มาแล้วค่ะคุณผู้หญิง" วารีรีบวิ่งเข้ามารายงาน
" กลับมาแล้วเหรอตาทัก แม่กับทุกคนรอกินข้าวพร้อมแกอยู่ "
ทักขินัยขมวดคิ้วทำหน้างง
" ก็ตาธรรมกับเมียมาด้วย จะกลับมาอยู่ที่นี่เลย "
" กลับมาที่นี่ "
" ใช่ ว่าจะเปิดบริษัทใหม่ที่นี่ อ้าวนั่นมากันพอดีเลย มาดูหลานเร็ว "
ศจีจูงมือทักขินัยเดินเข้าไปหาธรรมรงค์ลูกชายคนโต และจีน่าสะใภ้ลูกครึ่ง ที่กำลังอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยวัยขวบเศษ เดินลงบันไดมา ปล่อยพริบพันดาวยืนเคว้งอยู่ตรงนั้น
" ไงทัก ไม่ได้เจอกันนานเป็นไงสบายดีไหม "
" อือก็เรื่อยๆ แม่บอกว่าพี่จะกลับมาอยู่ที่ไทย "
" ใช่ ที่นู่นค่าครองชีพแพง กิจการที่นู่นไม่ค่อยตอบโจทย์ลูกค้าเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยทำกำไร ก็เลยตัดสินใจกลับไทยดีกว่า "
" สวัสดีจ๊ะทัก มิร่าทักทายคุณอาสิคะ "
เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มหวานใส่ ทักขินัยยิ้มกว้างจับมือนุ่มเล็กเอาไว้ พรางคิดว่าถ้าเขามีลูกบ้างจะเป็นยังไงนะ
" ทักก็มีได้แล้วนะแต่งงานมาหลายปีแล้วนี่ "
"โอ้ย ถ้าจะมีก็รอหย่ากับนังใบ้ก่อน จะมีกับใครก็ได้ขอแค่ไม่ใช่นังใบ้ก็พอ ไม่งั้นหลานฉันออกมาจะได้เป็นใบ้เหมือนแม่ของมัน ฉันว่านะทางที่ดีมันอย่าเป็นแม่ใครเลยดีที่สุดสงสารเด็กที่จะมาเกิดเป็นลูกมัน จะต้องเป็นใบ้ "
" คุณแม่ " " คุณแม่ " " คุณแม่"
ทั้งสามคนพูดขึ้นมาพร้อมกัน แล้วมองไปที่พริบพันดาวที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ จีน่าอุ้มลูกเข้าไปหา
" พริบ ลองอุ้มหลานไหมจ๊ะ "
้เด็กน้อยยิ้มหวานให้กางแขนรออุ้ม พริบพันดาวยังไม่ทันจะแตะถูกตัวเด็กน้อย ศจีก็รีบมาแย่งอุ้มตัดหน้า
" อย่าแตะต้องหลานของฉัน จีน่าเธอนี่สิ้นคิดจริงๆ เดี๋ยวมิร่าติดเชื้อใบ้พูดไม่ได้ขึ้นมาจะทำยังไงห๊า "
พริบพันดาวถึงกับน้ำตาคลอเมื่อถูกว่าขนาดนี้ ศจีทำเหมือนเธอเป็นตัวเชื้อโรคที่ทุกคนไม่ควรเข้าใกล้ เธอหมุนตัวจะเดินขึ้นด้านบน แต่จีน่ารั้งแขนเอาไว้
" อย่าถือสาคุณแม่เลยนะ ท่านห่วงมิร่ามากเลยระแวงไปต่างๆนาๆ อย่าไปสนใจคำพูดพวกนั้นเลย ไปกินข้าวกันเถอะ "
พอมาถึงโต๊ะอาหาร ที่นั่งก็เต็มหมด ทั้งที่ก่อนหน้าเก้าอี้ก็มีหลายตัว แต่ตอนนี้มันมีพอดีคน ทักขินัย ธรรมรงค์ ศจี จีน่า แต่ไม่มีเก้าอี้สำหรับเธอ
" ฉันจะกินข้าวกับลูกๆของฉันแกจะไปกินที่ไหนก็ไป นู่นในครัวกับพวกคนใช้นู่นที่ของแก "
ศจีเอ่ยปากไล่ พริบพันดาวเดินขึ้นข้างบนไปทันที เธอเองก็ไม่อยากจะร่วมโต๊ะด้วยสักนิด ทักขินัยมองตามแล้วลุกจากเก้าอี้
" จะไปไหนนั่งลง กินข้าวเสร็จแม่มีเรื่องจะคุยกับแก "
ทักขินัยจำใจต้องนั่งลง เขากินไปได้ไม่กี่คำก็อิ่มมันตื้อไปหมด ในหัวก็คิดถึงแต่พริบพันดาว เธอจะหิวหรือเปล่า เธอต้องกินข้าวแล้วก็ต้องกินยา
" เมื่อไหร่แกจะหย่ากับนังใบ้ "
" คุณแม่เมื่อไหร่จะเลิกพูดเรื่องนี้ซักที "
" ก็แกบอกเอง ว่าสัญญากับย่าแกไว้ว่าจะดูแลนังนั่นแค่4ปี ตอนนี้มันก็ครบแล้ว แกก็ควรหย่าได้แล้ว "
" เรื่องของผม ผมจัดการเองไม่ต้องให้คุณแม่มาบอก "
" นี่แก แกหาว่าฉันเสือกยังงั้นเหรอ "
" ผมไม่ได้พูดคุณแม่พูดเอง "
" แก ฉันรึก็อยากให้แกได้ดี มีเมียที่เชิดหน้าชูตาได้ ไม่ใช่มีเมียเป็นใบ้พาไปไหนก็มีแต่จะอายเขา ชาติตระกูลก็ไม่มีกำพืดรึก็เป็นแค่เด็กกำพร้า "
ทักขินัยไม่อยากจะฟังต่อ ลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัว สั่งป้าเจียงทำอาหารอ่อนๆเอาขึ้นไปให้พริบพันดาวข้างบน
" ป้าแยกเอาไว้ให้คุณพริบต่างหากแล้วค่ะ แอบเอาขึ้นไปไว้ในห้องให้ ก่อนหน้าที่พวกคุณจะกลับมาแล้ว ป้ารู้ว่าถ้าคุณผู้หญิงอยู่คุณพริบก็ไม่มีสิทธิ์นั่งร่วมโต๊ะ "
ทักขินัยนิ่งเงียบ ที่ป้าเจียงพูดมาถูกทั้งหมด ตั้งแต่คุณย่าจากไป พริบพันดาวก็ถูกศจีกีดกันอย่างหนัก ไม่ให้นั่งร่วมโต๊ะกินข้าว ถ้าแม่เขาอยู่หน้าบ้าน เธอต้องหลบอยู่หลังบ้าน ก็ไม่รู้จะรังเกียจอะไรเธอหนักหนา
พริบพันดาวถอดพวงกุญแจออกจากกระเป๋า หยิบตุ๊กตากระต่ายเอาไปใส่ไว้ในในกล่อง เธอเก็บทุกอย่างที่เป็นกระต่ายออกหมด ทั้งตุ๊กตาของใช้เสื้อผ้า เก็บรวมไว้ในกล่องทั้งหมด เธอไม่ชอบมันอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นชอบเหมือนเธอ งั้นเธอก็จะเลิกชอบ รวมถึงผู้ชายที่ชื่อทักขินัยด้วย
เธอเปิดดูรูปภาพของคุณย่า แล้วก็คิดถึงท่านขึ้นมา ถึงเวลาที่เธอต้องไปจากที่นี่แล้ว เธอต้องหย่ากับเขาให้ได้
ก็อก ก็อก ก็อก
เธอเดินไปเปิดประตู เขามาทำไมกัน ทักขินัยเดินแทรกเข้ามาในห้อง เขามองไปที่อาหารในจาน มันยังอยู่เหมือนเดิม
" ทำไมไม่กินข้าว เธอต้องกินยา นี่มันก็เย็นมากแล้ว หรือรอให้ฉันมาป้อน "
เขาขยับเข้าไปใกล้ถาดอาหารหยิบช้อนขึ้นมา เธอชี้ไปที่ประตูทำไม้ทำมือให้เขาออกไป เขาหน้าตึงขมวดคิ้วแล้วลุกออกไป เขาเปิดประตูก่อนจะออกไปก็พูดขึ้นมา
" กินข้าวแล้วกินยาซะ ที่แม่ฉันพูดอะไรไม่ดีกับเธอไปอย่าได้ใส่ใจ ฉันขอโทษแทนแม่ฉันด้วย ท่านอยู่ในวัยทองอารมณ์ก็เลยหงุดหงิดบ่อย"
วันต่อมาพริบพันดาวออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า เมื่อมาถึงร้าน แก้วกัญญาบอกว่าวันนี้ภูมินทร์ลา ส่วนเธอเองก็มีธุระจะเข้าร้านได้ช่วงบ่าย จึงเหลือแค่แพรไหมกับพริบพันดาว จะให้พริบพันดาวอยู่ร้านก็กลัวจะสื่อสารกับลูกค้าไม่รู้เรื่อง จึงให้พริบพันดาวไปส่งดอกไม้แทน แค่ส่งดอกไม้ไม่ต้องพูดอะไรส่งเสร็จก็กลับได้เลย ลูกค้าจ่ายตังค์เรียบร้อยแล้ว ให้เธอไปส่งที่ห้างแห่งหนึ่งมีงานเปิดตัวสินค้าและช่อดอกไม้ก็จะถูกมอบให้กับพรีเซนเตอร์
หลังจัดช่อดอกไม้เสร็จ เธอก็ไปส่งดอกไม้ให้เจ้าของงานที่ห้าง เมื่อหันหลังกลับออกมา สายตาดันมองไปเห็นคนคุ้นเคย จึงอดที่จะหันกลับไปดูไม่ได้
" ขอเชิญคุณทักขินัยมอบช่อดอกไม้ให้พรีเซนเตอร์ของเรา คุณบุษบงด้วยค่ะ "
เสียงปรบมือเกรียวกราว ทักขินัยถือช่อดอกไม้ไปมอบให้บุษบง ช่อดอกไม้ที่เธอเป็นคนจัดเอง และนำมาส่งเอง นักข่าวพากันถ่ายรูป เธอมองไปบนเวทีเขายืนเคียงคู่กับบุษบงคนรักของเขา ช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน
" เหมาะสมกันเนาะ อีกคนก็หล่ออีกคนก็สวย "
" ใช่ๆ ข่าวลือว่าทั้งสองคบกันขนาดอยู่กินด้วยกันที่คอนโดหรูแล้วด้วย "
" มีคนเห็นทั้งคู่เข้าออกคอนโดเดียวกันบ่อยมาก มีข่าวซุบซิบลงคลิปด้วยแต่ลงได้ไม่นานคลิปก็ปลิว "
" ก็คงจะเป็นเรื่องจริงนั่นแหละ ไม่งั้นจะให้มาเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าตัวใหม่เหรอ คงจะช่วยดันคนรักตัวเอง มีข่าวลือว่าจะร่วมทุนสร้างภาพยนตร์ด้วยนะ "
" ฉันว่างานนี้คงไม่พ้นล็อคบทนางเอกให้เธอแน่นอน "
พริบพันดาวยืนฟังคนที่มาร่วมงาน พูดถึงทักขินัยกับบุษบง เธอไม่รู้เลยว่างานในวันนี้ เป็นการเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ของบริษัท ที่สามีของเธอเป็นเจ้าของ และไม่รู้เลยว่าเขาให้บุษบงมาเป็นพรีเซนเตอร์
" ได้ข่าวว่าคุณบุษบงกับคุณทักขินัยเป็นคนพิเศษของกันและกัน ไม่ทราบว่าข่าวนี้จริงหรือเปล่าคะ "
พิธีกรสัมภาษณ์บนเวทีเริ่มถามคำถาม บุษบงยิ้มเขินอาย ก่อนตอบ
" เรื่องนี้ให้คุณทักตอบดีกว่าค่ะ "
พริบพันดาวเดินออกไปทันที ไม่อยากรับรู้เรื่องของเขากับคนรัก
" แค่ข่าวลือครับ ผมกับบุษบงเราเป็นแค่เพื่อนกัน เคยเรียนมหาลัยเดียวกัน ผมเคยเป็นพี่รหัสของเธอเราเลยสนิทกันก็แค่นั้น "
บุษบงหน้าเจื่อน เมื่อทักขินัยตอบไปแบบนั้น เธอได้แต่แสร้งยิ้มให้กล้อง ทำเป็นไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ในใจเดือดพล่านสุดๆ ที่เขาตอบแบบนี้เพราะนังใบ้มันอยู่ที่นี่ใช่ไหม
" อยู่นั่นไง จับมันเลย จับมันเลย "พริบพันดาวตกใจที่อยู่ดีๆก็มีร.ป.ภมาจับตัวเธอ ผู้หญิงคนที่ชี้บอกให้จับเธอ เธอจำได้ว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวของบุษบง เธอส่ายหน้าไม่รู้เรื่อง จะส่งภาษามือก็ไม่ได้เพราะถูกล็อคแขนเอาไว้ จึงได้แต่เดินตามพวกเขาไป เธอถูกใส่กุญแจมือแล้วโยนลงไปตรงหน้าบุษบงกับทักขินัย " ขอโทษบุษซะ แล้วฉันจะไม่เอาเรื่อง "ทักขินัยบอกเธอ ส่งสายตาเย็นชามาให้ เธอส่ายหน้าไม่ยอม ขอโทษเหรอขอโทษเรื่องอะไรเธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย " ทำไมไม่ยอมเหรอ แกนี่มันขี้อิจฉา เอาดอกกุหลาบใส่ลงมาในช่อดอกไม้ ทั้งที่รู้ว่าบุษแพ้ดอกกุหลาบ " เยาวเรศปาช่อดอกไม้ใส่หน้าพริบพันดาว เธอไม่รู้เรื่องนี้เลย ในโน้ตนั่นเขียนบอกเอาไว้ว่าให้ใส่กุหลาบแซมเข้าไปด้วย เธอก็ทำตามแล้วเธอผิดอะไร เรื่องที่บุษบงแพ้ดอกกุหลาบเธอก็ไม่รู้มาก่อน คนบ้าอะไรแพ้ดอกกุหลาบ เธออยากเอาโน้ตนั่นออกมาให้ทุกคนดูแต่น่าเสียดายที่เธอทิ้งไว้ที่ร้าน เธอพูดไม่ได้ จะเขียนบอกก็ไม่ได้ มือถูกกุญแจล็อคอยู่ จึงได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธน้ำตาคลอ" ช่างเถอะพี่บี ไม่เป็นไรหรอกค่ะทัก เป็นบุษเองที่ไม่ทันดูให้ดีว่าในช่อดอกไม้มีกุหลาบอยู่ด้วย เลยสูดดมเข้าไป โชคด
" จริงนะไม่เชื่อเหรอ งั้นดูนี่ "แพรไหมเดินไปเอาโน้ตมาให้ทุกคนดู ในโน้ตเขียนไว้ชัดเจนว่าห้ามใส่กุหลาบเพราะลูกค้าแพ้ขอเป็นลิลลี่สีชมพูแทน ภูมินทร์รู้ว่าพริบพันดาวพูดจริง แต่เมื่อแพรไหมมีกระดาษโน้ตมายืนยันแบบนี้ เขาก็ไม่รู้จะแก้ต่างให้พริบพันดาวยังไง พริบพันดาวเอาปากกามาเขียนให้ทุกคนอ่าน ว่าโน้ตที่แพรไหมให้เธอไม่ใช่อันนี้ ในนั้นเขียนบอกว่าให้ใส่กุหลาบเยอะจริงๆ " เอาหล่ะช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ให้มันจบไป "แก้วกัญญาหันหลังเดินออก เธอรีบคว้าแขนแก้วกัญญาเอาไว้ หยิบเอาซองใส่เงินยัดใส่มือของแก้วกัญญาพร้อมใบลาออกแล้วเดินออกจากร้านไป ภูมินทร์ตามออกไปแต่ไม่ทันแล้วเธอโบกรถขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว เขากลับเข้ามาในร้าน เห็นแก้วกัญญาหยิบเอาเงินในซองที่พริบพันดาวให้ออกมานับ" พริบเอาเงินมาให้พี่สองแสนบอกว่าคืนให้พี่ ที่พี่จ่ายชดใช้ค่าเสียหายให้ลูกค้า แล้วก็ขอลาออก เงินเดือนเดือนนี้เธอก็ไม่รับ "แก้วกัญญารู้สึกผิดเธอไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนี้ ไม่ต้องการให้พริบพันดาวลาออก เธอเป็นคนพิการไปสมัครงานที่ไหนใครจะรับ ไหนจะเงินสองแสนนี่อีก พริบพันดาวคงจะเก็บหอมรอมริบด้วยความยากลำบากแล้วเอามาให้เธอแบบนี้ไม่ห
ลมพัดกรรโชกแรง สายฟ้าแลบแปลบปลาบสักพักฟ้าก็ร้องคำราม พร้อมฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทักขินัยยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียง ในใจก็คิดว่าตอนนี้พริบพันดาวจะไปอยู่ที่ไหน ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นถ้าตากฝนอีกเธอจะป่วยไหมนะ " ทักคะ ดึกแล้วทำไมยังไม่นอน เข้ามาเถอะยืนตรงนั้นถูกละอองฝนเดี๋ยวไม่สบายนะ "เขาโยนบุหรี่ทิ้ง แล้วเดินตามแรงจับจูงของบุษบงเข้าห้องไป บุษลงขึ้นคร่อมตัวเขาลูบไปที่เป้ากางเกง เขาปัดมือเธอออก" คุณนอนเถอะดึกแล้ว นอนดึกไม่ดีต่อลูกในท้อง ผมเองก็จะนอนแล้วเหมือนกัน "พูดจบก็เอื้อมมือไปปิดไฟบนหัวเตียงแล้วหลับตานอน ไม่สนใจท่าทีฮึดฮัดไม่พอใจของบุษบงแสงไฟจากเสาไฟฟ้า สาดส่องไปที่ร่างบางที่นอนคุดคู้อยู่ป้ายรอรถ โทมัสมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ไม่รู้ทำไมเขาถึงต้องหันกลับไปมอง " จอดรถ "เคิร์กเหยียบเบรคแทบไม่ทันเมื่อได้ยินคำสั่ง เขาไม่รู้ว่าโทมัสสั่งให้จอดทำไม ได้แต่ทำตามคำสั่งทันที โชคดีที่ดึกแล้วจึงไม่มีรถผ่านมาสักคันจึงจอดได้กระทันหัน โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีรถคันหลังชนท้าย โทมัสเปิดประตูลงจากรถ สาวเท้าไปยังป้ายรอรถเมล์ เขายืนมองหญิงสาวตัวเล็กที่นอนคุดขู้หนาวสั่น ในใจเกิดความรู้สึกแปลกๆทั้งสงสารหดหู่ เ
" พี่บอกแล้วว่าไม่รู้จริงๆว่าทำไมทั้งสองถึงได้เลิกกัน แต่ที่พี่รู้คือพ่อไม่เคยลืมแม่ของพริบเลย ท่านยังรักและคิดถึงแม่ของพริบจนลมหายใจสุดท้าย ส่วนแม่ของพี่ท่านแต่งงานด้วยเพื่อปกป้องคุ้มครองแม่กับพี่เท่านั้น ครอบครัวของเราเป็นมาเฟียทำธุรกิจทั้งขาวและเทาศัตรูมีเยอะ ก่อนคุณตาจะตาย ได้ขอร้องให้พ่อแต่งงานกับแม่ท่านก็รับปาก ส่วนที่พริบสงสัย พี่ไม่ใช่ลูกของพ่อเอ็ดเวิร์ดหรอก แต่เป็นลูกติดของแม่แต่พ่อเอ็ดเวิร์ดก็ดูแลพี่มาตั้งแต่เด็กๆ พี่รักและนับถือท่านเหมือนพ่อแท้ๆคนหนึ่ง ฉะนั้นเราสองคนก็ไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ แต่พี่จะดูแลพริบให้ดีที่สุด ตามที่รับปากกับพ่อเอาไว้ "หลังจากวันนั้นโทมัสก็ดูแลเธออย่างดี มีแม่บ้านคอยดูแลรับใช้สุขสบาย โทมัสพาเธอไปซื้อของไปเที่ยว ไปทุกที่ที่เธออยากไปเขาตามใจเธอทุกอย่าง วันนี้เขาพาเธอมาให้หมอตรวจร่างกาย ตรวจเสร็จหมอก็ขอคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว เธอจึงนั่งเล่นรออยู่แถวนั้น" อาการของเธอปกติดีทุกอย่าง "" แล้วทำไมเธอถึงพูดไม่ได้ ที่ผมรู้เธอไม่ได้พูดไม่ได้แต่กำเนิดนะ "" น่าจะอยู่ที่ตัวเธอเอง เธอน่าจะมีปมอะไรในใจถึงทำให้ไม่อยากพูด ไม่ก็ต้องประสบพบเจอกับเหตุการณ์ที่สะเทือนใจ
" มาขอโทษเธอทีละคน "โทมัสพูดออกมา พริบพันดาวไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ก็ทำไม้ทำมือบอกโทมัสว่าเธอไม่ต้องการ แต่โทมัสไม่ยอม ทุกคนเข้าแถวมาขอโทษพริบพันดาวทีละคน " ผู้หญิงคนนี้ใช่ไหมที่ถ่ายคลิปไว้ "เธอสะดุ้งตกใจ รีบบอก" ฉัน ฉันลบคลิปทิ้งแล้ว แล้วก็ลบโพสต์ไปแล้วด้วย ฉัน ฉันลงขอโทษไปแล้วว่ามีการเข้าใจผิด "" ผมจัดการลบคลิปที่เผยแพร่ไปแล้วครับรวมทั้งคนที่แชร์ด้วย จัดการปิดบัญชีทั้งหมดแล้ว "หญิงคนนั้นยกมือไหว้ขอโทษพริบพันดาวแล้วรีบจากไป จนถึงคนสุดท้าย อัปสร" เธอ คุกเข่าขอโทษพริบ "อัปสรถูกการ์ดหน้าโหดบังคับให้คุกเข่า เธอก้มหน้าลงตัวสั่นด้วยความกลัว" ขอ ขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว"" ยังไม่พอ เธอจงใจพูดใส่ร้ายให้ทุกคนเข้าใจพริบผิด โขกหัวคำนับจนกว่าฉันจะพอใจ "อัปสรโขกหัวคำนับพริบพันดาวอยู่หลายครั้ง ปากก็พูดขอโทษไปด้วยจนมึนหัวไปหมดแล้ว โทมัสก็ไม่มีทีท่าจะสั่งให้หยุดผู้อำนวยการโรงพยาบาล รีบเข้ามาขอโทษโทมัสกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" ผมขอโทษจริงๆครับคุณโทมัส ผมได้มีคำสั่งให้หมอคนนั้นออกจากโรงพยาบาลของเราแล้ว ขอโทษที่ทำให้คุณโทมัสไม่พอใจ คุณโทมัสอย่าถือสาเลยนะครับ "โทมัสไม่สนใจจูงมือพริบพันดาวออกไป"
ตับ ตับ ตับ ตับ ตับ" อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะทะ ทักขา แรงๆเลย อูย อาาา "" อืมมม ซี้ดดดด โอววว แม่งโคตรเด็ด อาา โดนฉันกระแทกทุกวันยังแน่น อืมมมม"ตับ ตับ ตับ ตับ " อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ้ายยยย อืมมมมม "ทักขินัยปลดปล่อยทุกหยาดหยดเสร็จก็ถอดถอนออก ใช้มือรูดถุงยางออกจากดุ้นใหญ่ยาวโยนทิ้งถังขยะ บุษบงเข้าไปสวมกอดจากทางด้านหลัง" เมื่อไหร่คุณจะหย่าซักที คุณจะให้บุษอยู่ในสภาพแบบนี้อีกนานแค่ไหน "" คุณก็ได้ทุกอย่างที่ต้องการไม่ใช่เหรอ มีอะไรที่ผมไม่ให้คุณบ้าง ข้าวของเงินทองรถ คอนโด "" แต่บุษต้องการคุณ บุษอยากแต่งงานกับคุณ อยากอยู่กับคุณแบบเปิดเผย บุษ "ทักขินัยแกะแขนบุษบงที่กอดเขาไว้ออก หันมาจ้องหน้าเธอ แววตาบ่งบอกว่าไม่พอใจ" บุษบง คุณกำลังล้ำเส้นผม ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหม ว่าผมให้คุณได้ทุกอย่าง ยกเว้นตำแหน่งภรรยาของผม เพราะผมยกตำแหน่งนั้นให้พริบพันดาวไปแล้ว "พูดจบเขาก็สวมใส่เสื้อผ้าแล้วกลับออกไปทันที บุษบงน้ำตาคลอ เขาไปแล้วเธออยากจะรั้งเขาเอาไว้แต่ไม่มีสิทธิ์ ทั้งที่เธอมาก่อนแต่ต้องทนอยู่ในสภาพแบบนี้ ไม่ต่างกับเมียน้อยเมียเก็บ เขาเห็นเธอเป็นแค่ที่ระบายความใคร่เท่านั้นพริบพันดาวลืมตาขึ้นมา เมื่อรับรู้ได้ถึงควา
" หิวเหรอ ก้มหน้าก้มตากินไม่คิดจะทักทายฉันสักนิด "พริบพันดาวเงยหน้าขึ้นมองเขา ทักทายอะไรกัน เขาสนใจเธอด้วยเหรอ เธอส่งยิ้มแห้งๆไปให้แล้วก้มหน้ากินต่อไม่สนใจ ได้ยินเสียงเขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป" คุณทักบอกว่าตอนเย็นจะกลับบ้านไว ให้เตรียมอาหารไว้เผื่อด้วย คุณพริบจะทำอาหารไว้รอคุณทักไหมคะ ถ้าคุณพริบทำอาหารด้วยตัวเอง คุณทักต้องติดใจแน่เลยก็คุณพริบของป้าหน่ะทำอาหารอร่อยที่สุด"พริบพันดาวโบกมือปฏิเสธ บอกว่าเธอไม่ว่าง เย็นนี้เธอรับปากแพรไหมเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอแล้ว ว่าจะไปธุระเป็นเพื่อน ไม่รู้จะกลับดึกหรือเปล่า เธอทำงานอยู่ที่ร้านดอกไม้ ที่ร้านมีลูกจ้าง3คน มีเธอ แพรไหม และภูมินทร์เป็นคนส่งดอกไม้ เจ้าของร้านชื่อแก้วกัญญา ใจดีกับเธอมากไม่รังเกียจที่เธอเป็นใบ้ เธอกับแก้วกัญญาเจอกันโดยบังเอิญ ตอนนั้นแก้วกัญญาเป็นลม เธอช่วยพาไปโรงพยาบาลและเฝ้าเธอจนฟื้น เมื่อได้ทำความรู้จักกัน แก้วกัญญารู้ว่าเธอหางานอยู่ จึงชวนไปทำงานด้วย ซึ่งเธอกำลังจะเปิดร้านดอกไม้ จึงถือว่าพริบพันดาวเป็นพนักงานคนแรก ต่อมาเธอก็ได้รู้จักแพรไหม แพรไหมเรียนมหาวิทยาลัยRซึ่งเป็นมหาลัยเปิด ที่นั่นส่วนมากเป็
" จริงนะคะ คงเพราะรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณพริบเลยกลับบ้านไว ตอนเช้ายังสั่งให้ป้าทำอาหารพิเศษไว้หลายอย่าง ที่แท้จะฉลองวันเกิดกับคุณพริบนี่เอง อ้อจริงสิ เมื่อตอนทุ่มนึงร้านเค้กให้คนมาส่งเค้ก ป้าเก็บไว้ในตู้เย็นเป็นเค้กไอศรีมด้วยนะคะ คุณพริบขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วลงมากินเถอะค่ะ "พริบพันดาวพยักหน้าเดินขึ้นไปข้างบน พอเข้าห้องเธอมองเห็นตุ๊กตากระต่ายสีฟ้านั่งอยู่บนเตียง เธออุ้มมันขึ้นมาขนนุ่มมากน่ารักจัง เอ๊ะนั่นมีอีกตัวเป็นพวงกุญแจ เธอเอามันมาคล้องใส่กระเป๋าน่ารักสุดๆ เขาให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดใช่ไหมก็อก ก็อก ก็อกเธอเดินไปเปิดประตู ทักขินัยยืนหน้าตึง จ้องมองเธอจะพูดอะไรก็ไม่พูด จนเธอต้องทำไม้ทำมือถามเขาว่ามีอะไร" รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วลงไปข้างล่างทุกคนรอฉลองวันเกิดให้เธออยู่ ดึกแล้วป้าเจียมแก่แล้วอย่าให้ต้องรอนาน "ป้าเจียม ลุงอำนวย วารี อัปสร มาร่วมกันร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้เธอ ปีนี้เป็นปีแรกที่เธอได้มีงานวันเกิดของตัวเอง คงเป็นเพราะทุกปีมีศจีอยู่ด้วย แต่ปีนี้ศจีไปเที่ยวต่างประเทศยังไม่กลับ ทักขินัยเลยซื้อเค้กให้เธอเป็นเค้กไอศครีม แล้วยังมีของขวัญเป็นตุ๊กตากระต่า
" มาขอโทษเธอทีละคน "โทมัสพูดออกมา พริบพันดาวไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ก็ทำไม้ทำมือบอกโทมัสว่าเธอไม่ต้องการ แต่โทมัสไม่ยอม ทุกคนเข้าแถวมาขอโทษพริบพันดาวทีละคน " ผู้หญิงคนนี้ใช่ไหมที่ถ่ายคลิปไว้ "เธอสะดุ้งตกใจ รีบบอก" ฉัน ฉันลบคลิปทิ้งแล้ว แล้วก็ลบโพสต์ไปแล้วด้วย ฉัน ฉันลงขอโทษไปแล้วว่ามีการเข้าใจผิด "" ผมจัดการลบคลิปที่เผยแพร่ไปแล้วครับรวมทั้งคนที่แชร์ด้วย จัดการปิดบัญชีทั้งหมดแล้ว "หญิงคนนั้นยกมือไหว้ขอโทษพริบพันดาวแล้วรีบจากไป จนถึงคนสุดท้าย อัปสร" เธอ คุกเข่าขอโทษพริบ "อัปสรถูกการ์ดหน้าโหดบังคับให้คุกเข่า เธอก้มหน้าลงตัวสั่นด้วยความกลัว" ขอ ขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว"" ยังไม่พอ เธอจงใจพูดใส่ร้ายให้ทุกคนเข้าใจพริบผิด โขกหัวคำนับจนกว่าฉันจะพอใจ "อัปสรโขกหัวคำนับพริบพันดาวอยู่หลายครั้ง ปากก็พูดขอโทษไปด้วยจนมึนหัวไปหมดแล้ว โทมัสก็ไม่มีทีท่าจะสั่งให้หยุดผู้อำนวยการโรงพยาบาล รีบเข้ามาขอโทษโทมัสกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" ผมขอโทษจริงๆครับคุณโทมัส ผมได้มีคำสั่งให้หมอคนนั้นออกจากโรงพยาบาลของเราแล้ว ขอโทษที่ทำให้คุณโทมัสไม่พอใจ คุณโทมัสอย่าถือสาเลยนะครับ "โทมัสไม่สนใจจูงมือพริบพันดาวออกไป"
" พี่บอกแล้วว่าไม่รู้จริงๆว่าทำไมทั้งสองถึงได้เลิกกัน แต่ที่พี่รู้คือพ่อไม่เคยลืมแม่ของพริบเลย ท่านยังรักและคิดถึงแม่ของพริบจนลมหายใจสุดท้าย ส่วนแม่ของพี่ท่านแต่งงานด้วยเพื่อปกป้องคุ้มครองแม่กับพี่เท่านั้น ครอบครัวของเราเป็นมาเฟียทำธุรกิจทั้งขาวและเทาศัตรูมีเยอะ ก่อนคุณตาจะตาย ได้ขอร้องให้พ่อแต่งงานกับแม่ท่านก็รับปาก ส่วนที่พริบสงสัย พี่ไม่ใช่ลูกของพ่อเอ็ดเวิร์ดหรอก แต่เป็นลูกติดของแม่แต่พ่อเอ็ดเวิร์ดก็ดูแลพี่มาตั้งแต่เด็กๆ พี่รักและนับถือท่านเหมือนพ่อแท้ๆคนหนึ่ง ฉะนั้นเราสองคนก็ไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ แต่พี่จะดูแลพริบให้ดีที่สุด ตามที่รับปากกับพ่อเอาไว้ "หลังจากวันนั้นโทมัสก็ดูแลเธออย่างดี มีแม่บ้านคอยดูแลรับใช้สุขสบาย โทมัสพาเธอไปซื้อของไปเที่ยว ไปทุกที่ที่เธออยากไปเขาตามใจเธอทุกอย่าง วันนี้เขาพาเธอมาให้หมอตรวจร่างกาย ตรวจเสร็จหมอก็ขอคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว เธอจึงนั่งเล่นรออยู่แถวนั้น" อาการของเธอปกติดีทุกอย่าง "" แล้วทำไมเธอถึงพูดไม่ได้ ที่ผมรู้เธอไม่ได้พูดไม่ได้แต่กำเนิดนะ "" น่าจะอยู่ที่ตัวเธอเอง เธอน่าจะมีปมอะไรในใจถึงทำให้ไม่อยากพูด ไม่ก็ต้องประสบพบเจอกับเหตุการณ์ที่สะเทือนใจ
ลมพัดกรรโชกแรง สายฟ้าแลบแปลบปลาบสักพักฟ้าก็ร้องคำราม พร้อมฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทักขินัยยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียง ในใจก็คิดว่าตอนนี้พริบพันดาวจะไปอยู่ที่ไหน ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นถ้าตากฝนอีกเธอจะป่วยไหมนะ " ทักคะ ดึกแล้วทำไมยังไม่นอน เข้ามาเถอะยืนตรงนั้นถูกละอองฝนเดี๋ยวไม่สบายนะ "เขาโยนบุหรี่ทิ้ง แล้วเดินตามแรงจับจูงของบุษบงเข้าห้องไป บุษลงขึ้นคร่อมตัวเขาลูบไปที่เป้ากางเกง เขาปัดมือเธอออก" คุณนอนเถอะดึกแล้ว นอนดึกไม่ดีต่อลูกในท้อง ผมเองก็จะนอนแล้วเหมือนกัน "พูดจบก็เอื้อมมือไปปิดไฟบนหัวเตียงแล้วหลับตานอน ไม่สนใจท่าทีฮึดฮัดไม่พอใจของบุษบงแสงไฟจากเสาไฟฟ้า สาดส่องไปที่ร่างบางที่นอนคุดคู้อยู่ป้ายรอรถ โทมัสมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ไม่รู้ทำไมเขาถึงต้องหันกลับไปมอง " จอดรถ "เคิร์กเหยียบเบรคแทบไม่ทันเมื่อได้ยินคำสั่ง เขาไม่รู้ว่าโทมัสสั่งให้จอดทำไม ได้แต่ทำตามคำสั่งทันที โชคดีที่ดึกแล้วจึงไม่มีรถผ่านมาสักคันจึงจอดได้กระทันหัน โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีรถคันหลังชนท้าย โทมัสเปิดประตูลงจากรถ สาวเท้าไปยังป้ายรอรถเมล์ เขายืนมองหญิงสาวตัวเล็กที่นอนคุดขู้หนาวสั่น ในใจเกิดความรู้สึกแปลกๆทั้งสงสารหดหู่ เ
" จริงนะไม่เชื่อเหรอ งั้นดูนี่ "แพรไหมเดินไปเอาโน้ตมาให้ทุกคนดู ในโน้ตเขียนไว้ชัดเจนว่าห้ามใส่กุหลาบเพราะลูกค้าแพ้ขอเป็นลิลลี่สีชมพูแทน ภูมินทร์รู้ว่าพริบพันดาวพูดจริง แต่เมื่อแพรไหมมีกระดาษโน้ตมายืนยันแบบนี้ เขาก็ไม่รู้จะแก้ต่างให้พริบพันดาวยังไง พริบพันดาวเอาปากกามาเขียนให้ทุกคนอ่าน ว่าโน้ตที่แพรไหมให้เธอไม่ใช่อันนี้ ในนั้นเขียนบอกว่าให้ใส่กุหลาบเยอะจริงๆ " เอาหล่ะช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ให้มันจบไป "แก้วกัญญาหันหลังเดินออก เธอรีบคว้าแขนแก้วกัญญาเอาไว้ หยิบเอาซองใส่เงินยัดใส่มือของแก้วกัญญาพร้อมใบลาออกแล้วเดินออกจากร้านไป ภูมินทร์ตามออกไปแต่ไม่ทันแล้วเธอโบกรถขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว เขากลับเข้ามาในร้าน เห็นแก้วกัญญาหยิบเอาเงินในซองที่พริบพันดาวให้ออกมานับ" พริบเอาเงินมาให้พี่สองแสนบอกว่าคืนให้พี่ ที่พี่จ่ายชดใช้ค่าเสียหายให้ลูกค้า แล้วก็ขอลาออก เงินเดือนเดือนนี้เธอก็ไม่รับ "แก้วกัญญารู้สึกผิดเธอไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนี้ ไม่ต้องการให้พริบพันดาวลาออก เธอเป็นคนพิการไปสมัครงานที่ไหนใครจะรับ ไหนจะเงินสองแสนนี่อีก พริบพันดาวคงจะเก็บหอมรอมริบด้วยความยากลำบากแล้วเอามาให้เธอแบบนี้ไม่ห
" อยู่นั่นไง จับมันเลย จับมันเลย "พริบพันดาวตกใจที่อยู่ดีๆก็มีร.ป.ภมาจับตัวเธอ ผู้หญิงคนที่ชี้บอกให้จับเธอ เธอจำได้ว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวของบุษบง เธอส่ายหน้าไม่รู้เรื่อง จะส่งภาษามือก็ไม่ได้เพราะถูกล็อคแขนเอาไว้ จึงได้แต่เดินตามพวกเขาไป เธอถูกใส่กุญแจมือแล้วโยนลงไปตรงหน้าบุษบงกับทักขินัย " ขอโทษบุษซะ แล้วฉันจะไม่เอาเรื่อง "ทักขินัยบอกเธอ ส่งสายตาเย็นชามาให้ เธอส่ายหน้าไม่ยอม ขอโทษเหรอขอโทษเรื่องอะไรเธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย " ทำไมไม่ยอมเหรอ แกนี่มันขี้อิจฉา เอาดอกกุหลาบใส่ลงมาในช่อดอกไม้ ทั้งที่รู้ว่าบุษแพ้ดอกกุหลาบ " เยาวเรศปาช่อดอกไม้ใส่หน้าพริบพันดาว เธอไม่รู้เรื่องนี้เลย ในโน้ตนั่นเขียนบอกเอาไว้ว่าให้ใส่กุหลาบแซมเข้าไปด้วย เธอก็ทำตามแล้วเธอผิดอะไร เรื่องที่บุษบงแพ้ดอกกุหลาบเธอก็ไม่รู้มาก่อน คนบ้าอะไรแพ้ดอกกุหลาบ เธออยากเอาโน้ตนั่นออกมาให้ทุกคนดูแต่น่าเสียดายที่เธอทิ้งไว้ที่ร้าน เธอพูดไม่ได้ จะเขียนบอกก็ไม่ได้ มือถูกกุญแจล็อคอยู่ จึงได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธน้ำตาคลอ" ช่างเถอะพี่บี ไม่เป็นไรหรอกค่ะทัก เป็นบุษเองที่ไม่ทันดูให้ดีว่าในช่อดอกไม้มีกุหลาบอยู่ด้วย เลยสูดดมเข้าไป โชคด
" มาแล้วค่ะ กลับมากันแล้ว คุณทักกับนังใบ้มาแล้วค่ะคุณผู้หญิง" วารีรีบวิ่งเข้ามารายงาน" กลับมาแล้วเหรอตาทัก แม่กับทุกคนรอกินข้าวพร้อมแกอยู่ "ทักขินัยขมวดคิ้วทำหน้างง" ก็ตาธรรมกับเมียมาด้วย จะกลับมาอยู่ที่นี่เลย "" กลับมาที่นี่ "" ใช่ ว่าจะเปิดบริษัทใหม่ที่นี่ อ้าวนั่นมากันพอดีเลย มาดูหลานเร็ว "ศจีจูงมือทักขินัยเดินเข้าไปหาธรรมรงค์ลูกชายคนโต และจีน่าสะใภ้ลูกครึ่ง ที่กำลังอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยวัยขวบเศษ เดินลงบันไดมา ปล่อยพริบพันดาวยืนเคว้งอยู่ตรงนั้น" ไงทัก ไม่ได้เจอกันนานเป็นไงสบายดีไหม "" อือก็เรื่อยๆ แม่บอกว่าพี่จะกลับมาอยู่ที่ไทย "" ใช่ ที่นู่นค่าครองชีพแพง กิจการที่นู่นไม่ค่อยตอบโจทย์ลูกค้าเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยทำกำไร ก็เลยตัดสินใจกลับไทยดีกว่า "" สวัสดีจ๊ะทัก มิร่าทักทายคุณอาสิคะ "เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มหวานใส่ ทักขินัยยิ้มกว้างจับมือนุ่มเล็กเอาไว้ พรางคิดว่าถ้าเขามีลูกบ้างจะเป็นยังไงนะ " ทักก็มีได้แล้วนะแต่งงานมาหลายปีแล้วนี่ ""โอ้ย ถ้าจะมีก็รอหย่ากับนังใบ้ก่อน จะมีกับใครก็ได้ขอแค่ไม่ใช่นังใบ้ก็พอ ไม่งั้นหลานฉันออกมาจะได้เป็นใบ้เหมือนแม่ของมัน ฉันว่านะทางที่ดีมันอย่าเป็นแม่ใคร
ผ่านไปหลายช.มฝนซาลง เสียงรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่หน้าบ้าน พริบพันดาวทำไม้ทำมือขอบคุณภูมินทร์ พอถอดเสื้อคืนก็เห็นว่ามันทั้งเลอะทั้งเปียก คงเพราะเมื่อครู่ขับลุยน้ำขังแล้วดินโคลนกระเด็นมาเปื้อนเสื้อ เธอเลยทำมือบอกเขาว่าจะไปซักให้แล้วค่อยคืนวันหลัง ภูมินทร์พยักหน้า เอื้อมมือไปเช็ดคราบดินที่เปื้อนแก้มออกให้เธอ ทักขินัยกัดฟันกรอด สองมือกำแน่น จ้องมองไปที่หน้าบ้านไม่ละสายตา" พริบอยู่ที่นี่เหรอ บ้านหลังใหญ่มากเลยนะ "ภูมินทร์มองสำรวจเข้าไปในบ้าน พริบพันดาวส่งภาษามือบอกว่าเธอเป็นแค่คนอาศัย แต่เหมือนภูมินทร์จะไม่เข้าใจ เธอจึงต้องหยิบมือถือออกพิมพ์ข้อความบอกว่า" ฉันเป็นแค่คนรับใช้หน่ะ ป้าของฉันเป็นแม่บ้านอยู่ที่นี่ "เธอไม่อยากให้ภูมินทร์รู้ว่าเธอเป็นใคร อีกไม่นานเธอก็จะหย่ากับทักขินัยแล้ว เลยยืมป้าเจียงมาเป็นป้าของเธอหน่อย ภูมินทร์พยักหน้า" เข้าบ้านเถอะ มอมแมมหมดแล้ว ขอโทษนะเมื่อกี้พาลุยน้ำทำให้พริบทั้งเลอะทั้งเปียกเลย "พริบพันดาวพิมพ์ข้อความตอบกลับไป" ไม่เป็นไร ภูก็เลอะเหมือนกัน ขอบคุณนะที่มาส่ง "" อือ เรากลับก่อนนะพรุ่งนี้เจอกัน "พริบพันดาวยืนมองภูมินทร์ขับมอไซค์ออกไปจนลับตา แล้วหมุนตัวกลั
" จริงนะคะ คงเพราะรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณพริบเลยกลับบ้านไว ตอนเช้ายังสั่งให้ป้าทำอาหารพิเศษไว้หลายอย่าง ที่แท้จะฉลองวันเกิดกับคุณพริบนี่เอง อ้อจริงสิ เมื่อตอนทุ่มนึงร้านเค้กให้คนมาส่งเค้ก ป้าเก็บไว้ในตู้เย็นเป็นเค้กไอศรีมด้วยนะคะ คุณพริบขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วลงมากินเถอะค่ะ "พริบพันดาวพยักหน้าเดินขึ้นไปข้างบน พอเข้าห้องเธอมองเห็นตุ๊กตากระต่ายสีฟ้านั่งอยู่บนเตียง เธออุ้มมันขึ้นมาขนนุ่มมากน่ารักจัง เอ๊ะนั่นมีอีกตัวเป็นพวงกุญแจ เธอเอามันมาคล้องใส่กระเป๋าน่ารักสุดๆ เขาให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดใช่ไหมก็อก ก็อก ก็อกเธอเดินไปเปิดประตู ทักขินัยยืนหน้าตึง จ้องมองเธอจะพูดอะไรก็ไม่พูด จนเธอต้องทำไม้ทำมือถามเขาว่ามีอะไร" รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วลงไปข้างล่างทุกคนรอฉลองวันเกิดให้เธออยู่ ดึกแล้วป้าเจียมแก่แล้วอย่าให้ต้องรอนาน "ป้าเจียม ลุงอำนวย วารี อัปสร มาร่วมกันร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้เธอ ปีนี้เป็นปีแรกที่เธอได้มีงานวันเกิดของตัวเอง คงเป็นเพราะทุกปีมีศจีอยู่ด้วย แต่ปีนี้ศจีไปเที่ยวต่างประเทศยังไม่กลับ ทักขินัยเลยซื้อเค้กให้เธอเป็นเค้กไอศครีม แล้วยังมีของขวัญเป็นตุ๊กตากระต่า
" หิวเหรอ ก้มหน้าก้มตากินไม่คิดจะทักทายฉันสักนิด "พริบพันดาวเงยหน้าขึ้นมองเขา ทักทายอะไรกัน เขาสนใจเธอด้วยเหรอ เธอส่งยิ้มแห้งๆไปให้แล้วก้มหน้ากินต่อไม่สนใจ ได้ยินเสียงเขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป" คุณทักบอกว่าตอนเย็นจะกลับบ้านไว ให้เตรียมอาหารไว้เผื่อด้วย คุณพริบจะทำอาหารไว้รอคุณทักไหมคะ ถ้าคุณพริบทำอาหารด้วยตัวเอง คุณทักต้องติดใจแน่เลยก็คุณพริบของป้าหน่ะทำอาหารอร่อยที่สุด"พริบพันดาวโบกมือปฏิเสธ บอกว่าเธอไม่ว่าง เย็นนี้เธอรับปากแพรไหมเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอแล้ว ว่าจะไปธุระเป็นเพื่อน ไม่รู้จะกลับดึกหรือเปล่า เธอทำงานอยู่ที่ร้านดอกไม้ ที่ร้านมีลูกจ้าง3คน มีเธอ แพรไหม และภูมินทร์เป็นคนส่งดอกไม้ เจ้าของร้านชื่อแก้วกัญญา ใจดีกับเธอมากไม่รังเกียจที่เธอเป็นใบ้ เธอกับแก้วกัญญาเจอกันโดยบังเอิญ ตอนนั้นแก้วกัญญาเป็นลม เธอช่วยพาไปโรงพยาบาลและเฝ้าเธอจนฟื้น เมื่อได้ทำความรู้จักกัน แก้วกัญญารู้ว่าเธอหางานอยู่ จึงชวนไปทำงานด้วย ซึ่งเธอกำลังจะเปิดร้านดอกไม้ จึงถือว่าพริบพันดาวเป็นพนักงานคนแรก ต่อมาเธอก็ได้รู้จักแพรไหม แพรไหมเรียนมหาวิทยาลัยRซึ่งเป็นมหาลัยเปิด ที่นั่นส่วนมากเป็