.
.
“ต้นหยกอยู่ไหม?”
“อยู่ค่ะ...แต่คุณชุนปล่อยไว้แบบนั้นจะดีหรอคะ?”
ชุนหันมองตามสายตาของอาลี่ก็ยังเห็นทั้งสองคนยังคงกัดกันไม่ปล่อย เขาหันกลับมาหาอาลี่อีกครั้งด้วยสีหน้าที่ดูหงุดหงิดมากเป็นพิเศษพร้อมกับสั่งเสียงแข็ง
“ห้ามให้ใครเข้ามาบ้านเล็กแม้แต่คนเดียว”
“ค่ะ...แต่ลี่คนเดียวคงจะต้านไม่ไหวแน่ๆ”
“ไปบอกลูกน้องฉันที่ยืนอยู่ที่รถว่ามาเฝ้าที่นี่ ฉันจะจ่ายค่าล่วงเวลาให้”
“ได้ค่ะ”
อาลี่รับคำสั่งก่อนจะรีบเดินไปบอกลูกน้องของชุนที่กำลังจะขึ้นรถกลับและพวกเขาก็พยักหน้าแล้วเดินมายืนเฝ้าตรงทางเชื่อมบ้านใหญ่กับบ้านเล็ก ชุนเห็นอย่างนั้นก็รีบเดินเข้าไปหาต้นหยกทันที เมื่อเขาเดินเข้ามาก็เห็ว่าต้นหยกกำลังนั่งนิ่งมองเหม่อออกไปยังสระบัวโดยไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเขามา
“ต้นหยก”
ต้นหยกได้ยินเสียงของชุนก็หันกลับไปมองเขาก่อนจะลุกขึ้นอย่างระวังตัว แต่กลับไม่พูดอะไรสักคำ สายตาที่มองชุนน
..ชุนและต้นหยกมาถึงบริษัทและเดินเข้ามาพร้อมกัน ฮ่องเต้มองทั้งสองที่เดินคุยกันมาถึงยังหน้าห้องทำงานก็รู้สึกไม่ค่อยชอบภาพนั้นเสียเท่าไหร่ แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาเป็นแค่แอบรักข้างเดียวเท่านั้น ฮ่องเต้เลือกที่จะเดินเข้าไปทักทายทั้งคู่แทน“สวัสดีครับ คุณหยก...คุณชุน”“สวัสดีค่ะคุณฮ่องเต้”“เฮ้อ...ไม่ค่อยชอบบรรยากาศเลยแฮะ...เสียอารมณ์หมด”ชุนพูดขึ้นลอยๆ ซ้ำยังๆ ไม่หันไปมองหน้าฮ่องเต้เสียอีกแค่ปรายตามองเท่านั้น ฮ่องเต้ยิ้มบางๆ อย่างไม่ค่อยเต็มใจยิ้มนักก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้ต้นหยกแทน และเธอก็ยิ้มตอบตามมารยาท“เชิญครับคุณหยก วันนี้ผมจะสอนงานให้”“ขอบคุณนะคะ”ฮ่องเต้ผายมือไปทางห้องทำงานของเธอ ก่อนที่ต้นหยกจะเตรียมเข้าห้องไป แต่ชุนกลับคว้าแขนของเธอไว้เสียก่อน ต้นหยกหันไปมองชุนด้วยใบหน้าสงสัยเช่นเดียวกับฮ่องเต้ แต่ชุนก็ไม่ยอมพูดอะไรอยู่ดีกลับจับแขนเธอเอาไว้เฉยๆ อย่างนั้น“เฮียชุนมีอะไรหรื
..“กินหรูแล้วดียังไงหรอคะ? ก็กินได้แค่พออิ่มอยู่ดี อีกอย่างสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุด้วย แค่ก๋วยเตี๋ยวถ้วยเดียวยังกินไม่หมดเลยด้วยซ้ำ”ชุนยกยิ้มกับคำตอบของต้นหยก ทั้งที่เธอเองก็มีเงินไม่น้อยแต่กลับเลือกกินอยู่อย่างง่ายๆ จนน่าแปลกใจ แต่เขากลับรู้สึกถูกใจในคำตอบนั้น เพราะสิ่งที่เธอพูดนั้นไม่ผิดเลยสักคำ ก่อนที่เขาจะนึกย้อนไปถึงเส้นฟางที่ทุกครั้งที่เธอจะกินอะไรสักมื้อมักจะหมดไปเป็นหมื่นๆ ต่อมื้อ แถมยังเหลืออาหารไว้เสียเต็มโต๊ะเพราะทานได้แค่นิดเดียว“ร้านข้างหน้าก็ได้ค่ะ หมี่เกี๊ยวร้านนี้อร่อย”“เอาจริง? ...”ถึงชุนจะถามออกไปอย่างนั้นก็ยอมตีไฟเลี้ยวจอดหน้าร้านหมี่เกี๊ยวข้างทางที่มีผู้คนมากมายมานั่งทาน ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กๆ มัธยมบ้าง มหาลัยบ้างและคนทำงานออฟฟิศใกล้ๆ เมื่อจอดรถเรียบร้อยต้นหยกก็ลงจากรถอย่างกระตือรือร้น แต่ชุนกลับมองร้านตรงหน้าอย่างหวาดหวั่น สภาพร้านที่ดูเก่าแก่กับชายชราใส่ผ้ากันเปื้อนที่แถมมากับเครื่องดื่มและมีผ้าขาวพาดคอเพื่อเช็ดเหงื่อ&ldq
..“น้องชื่ออะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”“หนูชื่อถิงค่ะ พ่อกับแม่ขายหนูให้กับเสี่ยพงษ์ ฮึกๆ ...มัน...ฮือๆ”หลังจากขึ้นรถมาได้ต้นหยกที่ย้ายไปนั่งข้างๆ เด็กสาวด้านหลังก็ได้ถามขึ้น ก่อนที่เด็กสาวจะตอบพร้อมน้ำตา ต้นหยกมองเด็กสาวด้วยความสงสาร ถึงแม้เธอจะพูดออกมาไม่หมดแต่ต้นหยกก็พอจะรู้ น้ำตาเอ่อคลอดวงตาสวยของต้นหยกเมื่อมองดูเด็กที่น่าจะอายุไม่เกินสิบแปดต้องมาเจออะไรแบบนี้“ไอ้เสี่ยพงษ์อีกแล้วหรอ?”“เฮียรู้จักหรอคะ?”“อืม...มันเปิดบ่อนและปล่อยเงินกู้นอกระบบ...”“แล้วทำไมเฮียถึงได้รู้ เฮียไม่ได้เกี่ยวข้องใช่ไหมคะ?”ต้นหยกถามพร้อมกับมองเขาด้วยสายตาเป็นห่วง ชุนมองเห็นผ่านกระจกรถก่อนจะยกยิ้ม ในใจแอบดีใจพิลึกที่เธอดูเป็นห่วงเป็นใยเขาขนาดนี้“ฉันไม่เกี่ยวอะไรกับมัน...แต่มีลูกน้องของฉันไปเอี่ยว พอฉันช่วยใช้หนี้ให้ลูกน้องคนนั้นเลยฝากเจินให้ฉันดูแล จนกว่าจะปลอดภัยถึงจะมารับกลับ”“เ
..“ใครก็ๆ ได้ช่วยด้วยค่ะ!!!”เสียงของเส้นฟางตะโกนดังลั่งตัวบ้านหลังจากที่กลิ้งลงบันไดไปนั่งพับเพียบกับพื้น ต้นหยกที่กำลังเดินลงมามองดูอยู่เงียบๆ ก่อนที่พวกลูกน้องและเจินจะวิ่งเข้ามา แต่เจินกลับไม่ได้เข้าไปช่วยแต่อย่างใด ยืนกอดอกมองเส้นฟางนิ่ง มีเพียงลูกน้องของชุนเท่านั้นที่ช่วยอุ้มไปนั่งที่โซฟาห้องรับแขกของบ้าน ต้นหยกส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินเอากล่องเครื่องมือปฐมพยาบาลไปยังบ้านเล็ก“เกิดอะไรขึ้น?”“เฮียไปดูเองเลยค่ะ”ชุนที่กำลังจะวิ่งไปที่บ้านใหญ่หยุดถามต้นหยกที่เดินสวนทางมา แต่ต้นหยกก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากนักเพราะไม่รู้จะพูดบอกยังไงดี กลัวจะโดนหาว่าเธอใส่ร้ายจึงบอกให้ชุนไปดูด้วยตาของตัวเอง ชุนขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ซักไซ้ถามต่อ เขารีบเดินเข้าไป บ้านใหญ่ทันที ต้นหยกเองก็ไม่ได้สนใจเดินเข้าบ้านเล็กไปเช่นกัน“คุณหยกคะ เด็กคนนั้นฟื้นแล้วค่ะ”“อือ...ขอบใจนะ”อาลี่เดินออกจากห้องมาพอดีเพื่อที่จะไปเอ
..สองร่างนอนแนบเนื้อเปลือยเปล่ากอดกันยันเช้า ชุนยังคงนอนหลับไม่รู้เรื่องด้วยความเหนื่อยอ่อนหมดแรง แต่ต้นหยกก็ยังคงตื่นแต่เช้าเหมือนเช่นเคย เธอปล่อยสายน้ำไหลผ่านชะล้างร่างกายของตนด้วยความรู้สึกที่ตีกันวุ่นอยู่ในหัว เธอเสียใจที่เขาบังคับหักหาญน้ำใจเธอโดยที่เธอไม่ได้ยินยอมพร้อมใจไปกับเขาแต่อีกใจก็คิดว่ามันก็ถูกต้องแล้วเพราะเป็นหน้าที่ของผู้เป็นภรรยาควรที่จะกระทำ แต่ถึงอย่างนั้น...ใจก็ยังคงบอบช้ำอยู่ดี เมื่อคิดว่าชุนก็ไม่ได้รักเธอ เขาทำไปเพื่อสนองอารมณ์ของเขาเท่านั้น นั่นเจ็บยิ่งกว่า...ต้นหยกแต่งตัวตามปกติพยายามจะบอกตัวเองให้ฮึดสู้เข้าไว้ แม้จะมองรอยรักที่แดงช้ำอยู่ทั่วร่างก็ตามที ต้นหยกรีบใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดกว่าทุกวัน รอยไหนที่มันโผล่พ้นเสื้อผ้าก็จะใช้เครื่องสำอางปกปิดให้มันเบาบางลง แต่ก็เหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เพราะมันแดงช้ำจนไม่สามารถปกปิดมิดได้ ก่อนเธอจะเดินออกไปใส่บาตรกับอาลี่เหมือนเช่นทุกวัน“คุณหยกคะ? ...พระท่านมาแล้วค่ะ”“อ๋อ..จ้ะ”อาลี่เรียกต้นหยกที่ยืนเหม่ออยู่ก่อนที่
..หลังจากที่เช็คอินด้านล่างเรียบร้อยทั้งสองเดินขึ้นมายังห้องพักที่สะอาดสะอ้านหรูหราไม่เบา แต่ติดตรงที่ห้องน้ำดันเป็นกระจกนี่สิ ต้นหยกมองห้องน้ำด้วยความช็อค...ไม่ใช่ไม่เคยเห็น.. แต่ไม่คิดว่าชุนจะเลือกห้องแบบนี้ ต้นหยกมองชุนตาปริบๆ และยังคงยืนอยู่ตรงทางเข้าเช่นเดิม ชุนนั่งลงบนเตียงก่อนจะหันไปมองต้นหยกที่ทำหน้าเหลอหลา เขายกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกับตบเตียงข้างๆ ตนและมองไปทางต้นหยก“อะ...อะไรคะ?”“มานี่สิ”“เอ่อ....”ต้นหยกส่ายหน้ารัวๆ ก่อนจะเฉมองไปทางอื่น กลัวว่าเขาจะทำอะไรเหมือนเมื่อคืน แค่คิดก็ผวาและเธอยังปวดเอวอยู่เลย ที่เธอไม่ยอมไปตามที่เขาเรียกเพราะสายตาของเขาเจ้าเล่ห์เกินกว่าจะไว้ใจได้“กลัวอะไร? เราก็เคย...”“เฮียไม่ต้องพูดถึงได้ไหมคะ”“ทำไม? ก็เราเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้อง”“แต่หยกไม่ได้สมยอม”“แต่เธอยอมแต่งงานกับฉัน นั่นก็ถือว่ายอมแล้ว”ต้นหยกพูด
..ไม่พูดเปล่า ชุนอุ้มต้นหยกขึ้นมาจากน้ำทั้งที่อะไรๆ ยังคงอยู่ที่เดิม ก่อนจะพาร่างของเธอไปวางตรงขอบอ่างที่ติดกำแพงทันที ชุนยกยิ้มร้ายเมื่อเห็นสีหน้าของต้นหยกที่แดงเรื่อขึ้นมา เมื่อเห็นรอยเชื่อมระหว่างเขาและเธอ...“เดี๋ยวก่อนสิคะ...อื้อ..”“เมื่อเฮียบอกเดี๋ยว หยกยังไม่ฟังเลย”“ก็...อ๊ะ! อ๊ะ!”ชุนไม่ฟังเสียงค้านของหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าภรรยา ไม่สิ...ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของเขาอย่างเต็มตัวแล้ว เอวสอบโยกย้ายส่ายสะโพกเข้าออกตามใจ จนคนข้างใต้ถึงกับครางหวานไม่เป็นภาษา คำร้องห้ามถูกกลืนเข้าไปอีกครั้งเมื่อความกระสันซ่านเข้ามาแทนที่ เอวสอบพลิ้วไหวเข้าออกอย่างหนักหน่วงเนิบนาบเหมือนจงใจแกล้งเธอให้ทรมานเล่นชุนยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อต้นหยกเอื้อมมือเล็กไปจับที่สะโพกของเขาเหมือนเธอต้องการ แต่เขายังคงแกล้งกระแทกเข้าสุดออกสุดจนร่างบางเกร็งไปหมด การทำแบบนั้นทำให้เขาถึงกับขบกรามแน่นเพราะแรงตอดรัดจากช่วงล่างมันเพิ่มขึ้น“ฮืมมม...อย่ารัดเฮียแน่นนักสิคะ คนสวย...อา..”
สองขายาวก้าวเท้ารัวๆ ไปยังเรือนแยกแต่เชื่อมกับตัวบ้านหลังใหญ่ ใบหน้าหล่อบึ้งตึงด้วยความโกรธจัดจนไม่มีใครกล้าที่จะเข้าทักทาย เมื่อสาวเท้ามาถึงหน้าประตูก็รีบผลักเข้าไปอย่างแรงพร้อมกับจ้องมองหญิงสาวที่นั่งจัดกระเช้าผลไม้อยู่ สายตาคมจ้องมองเธอเขม็ง แต่กลับไม่ได้รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด ต้นหยกทำหน้าเรียบเฉยก่อนที่ชุนจะเดินเข้าไปกระชากข้อมือเล็กของเธออย่างแรง จนคนร่างเล็กขมวดคิ้วแน่นด้วยความเจ็บปวด“ทำไมเธอถึงใจกล้าผลักเส้นฟางตกบันไดขนาดนั้น? จะเล่นกันถึงตายเลยเหรอ? จิตใจเธอทำด้วยอะไร”“ถ้าฉันเป็นคนทำคงจะไม่แค่เข้าโรงพยาบาลหรอก คงจะได้จัดงานสีดำแทน”“ต้นหยก!! อยากฉันมากหรอ? หึ...อยากได้สมบัติตระกูลฉันมากสินะ ได้!! เอาสิ!!”ชุนเดินไปปิดประตูพร้อมกับล็อกกลอนเรียบร้อย ต้นหยกมองการกระทำของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างหวาดระแวง หญิงสาวรีบวิ่งไปยังประตูและพยายามจะปลดล็อกแต่ชุนกลับเดินเข้ามากระชากแขนของเธอเสียก่อน“ปล่อยนะ!! เฮียชุน!! ปล่อย!!”ชุนไม่ฟังเสียงคัดค้
..ไม่พูดเปล่า ชุนอุ้มต้นหยกขึ้นมาจากน้ำทั้งที่อะไรๆ ยังคงอยู่ที่เดิม ก่อนจะพาร่างของเธอไปวางตรงขอบอ่างที่ติดกำแพงทันที ชุนยกยิ้มร้ายเมื่อเห็นสีหน้าของต้นหยกที่แดงเรื่อขึ้นมา เมื่อเห็นรอยเชื่อมระหว่างเขาและเธอ...“เดี๋ยวก่อนสิคะ...อื้อ..”“เมื่อเฮียบอกเดี๋ยว หยกยังไม่ฟังเลย”“ก็...อ๊ะ! อ๊ะ!”ชุนไม่ฟังเสียงค้านของหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าภรรยา ไม่สิ...ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของเขาอย่างเต็มตัวแล้ว เอวสอบโยกย้ายส่ายสะโพกเข้าออกตามใจ จนคนข้างใต้ถึงกับครางหวานไม่เป็นภาษา คำร้องห้ามถูกกลืนเข้าไปอีกครั้งเมื่อความกระสันซ่านเข้ามาแทนที่ เอวสอบพลิ้วไหวเข้าออกอย่างหนักหน่วงเนิบนาบเหมือนจงใจแกล้งเธอให้ทรมานเล่นชุนยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อต้นหยกเอื้อมมือเล็กไปจับที่สะโพกของเขาเหมือนเธอต้องการ แต่เขายังคงแกล้งกระแทกเข้าสุดออกสุดจนร่างบางเกร็งไปหมด การทำแบบนั้นทำให้เขาถึงกับขบกรามแน่นเพราะแรงตอดรัดจากช่วงล่างมันเพิ่มขึ้น“ฮืมมม...อย่ารัดเฮียแน่นนักสิคะ คนสวย...อา..”
..หลังจากที่เช็คอินด้านล่างเรียบร้อยทั้งสองเดินขึ้นมายังห้องพักที่สะอาดสะอ้านหรูหราไม่เบา แต่ติดตรงที่ห้องน้ำดันเป็นกระจกนี่สิ ต้นหยกมองห้องน้ำด้วยความช็อค...ไม่ใช่ไม่เคยเห็น.. แต่ไม่คิดว่าชุนจะเลือกห้องแบบนี้ ต้นหยกมองชุนตาปริบๆ และยังคงยืนอยู่ตรงทางเข้าเช่นเดิม ชุนนั่งลงบนเตียงก่อนจะหันไปมองต้นหยกที่ทำหน้าเหลอหลา เขายกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกับตบเตียงข้างๆ ตนและมองไปทางต้นหยก“อะ...อะไรคะ?”“มานี่สิ”“เอ่อ....”ต้นหยกส่ายหน้ารัวๆ ก่อนจะเฉมองไปทางอื่น กลัวว่าเขาจะทำอะไรเหมือนเมื่อคืน แค่คิดก็ผวาและเธอยังปวดเอวอยู่เลย ที่เธอไม่ยอมไปตามที่เขาเรียกเพราะสายตาของเขาเจ้าเล่ห์เกินกว่าจะไว้ใจได้“กลัวอะไร? เราก็เคย...”“เฮียไม่ต้องพูดถึงได้ไหมคะ”“ทำไม? ก็เราเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้อง”“แต่หยกไม่ได้สมยอม”“แต่เธอยอมแต่งงานกับฉัน นั่นก็ถือว่ายอมแล้ว”ต้นหยกพูด
..สองร่างนอนแนบเนื้อเปลือยเปล่ากอดกันยันเช้า ชุนยังคงนอนหลับไม่รู้เรื่องด้วยความเหนื่อยอ่อนหมดแรง แต่ต้นหยกก็ยังคงตื่นแต่เช้าเหมือนเช่นเคย เธอปล่อยสายน้ำไหลผ่านชะล้างร่างกายของตนด้วยความรู้สึกที่ตีกันวุ่นอยู่ในหัว เธอเสียใจที่เขาบังคับหักหาญน้ำใจเธอโดยที่เธอไม่ได้ยินยอมพร้อมใจไปกับเขาแต่อีกใจก็คิดว่ามันก็ถูกต้องแล้วเพราะเป็นหน้าที่ของผู้เป็นภรรยาควรที่จะกระทำ แต่ถึงอย่างนั้น...ใจก็ยังคงบอบช้ำอยู่ดี เมื่อคิดว่าชุนก็ไม่ได้รักเธอ เขาทำไปเพื่อสนองอารมณ์ของเขาเท่านั้น นั่นเจ็บยิ่งกว่า...ต้นหยกแต่งตัวตามปกติพยายามจะบอกตัวเองให้ฮึดสู้เข้าไว้ แม้จะมองรอยรักที่แดงช้ำอยู่ทั่วร่างก็ตามที ต้นหยกรีบใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดกว่าทุกวัน รอยไหนที่มันโผล่พ้นเสื้อผ้าก็จะใช้เครื่องสำอางปกปิดให้มันเบาบางลง แต่ก็เหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เพราะมันแดงช้ำจนไม่สามารถปกปิดมิดได้ ก่อนเธอจะเดินออกไปใส่บาตรกับอาลี่เหมือนเช่นทุกวัน“คุณหยกคะ? ...พระท่านมาแล้วค่ะ”“อ๋อ..จ้ะ”อาลี่เรียกต้นหยกที่ยืนเหม่ออยู่ก่อนที่
..“ใครก็ๆ ได้ช่วยด้วยค่ะ!!!”เสียงของเส้นฟางตะโกนดังลั่งตัวบ้านหลังจากที่กลิ้งลงบันไดไปนั่งพับเพียบกับพื้น ต้นหยกที่กำลังเดินลงมามองดูอยู่เงียบๆ ก่อนที่พวกลูกน้องและเจินจะวิ่งเข้ามา แต่เจินกลับไม่ได้เข้าไปช่วยแต่อย่างใด ยืนกอดอกมองเส้นฟางนิ่ง มีเพียงลูกน้องของชุนเท่านั้นที่ช่วยอุ้มไปนั่งที่โซฟาห้องรับแขกของบ้าน ต้นหยกส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินเอากล่องเครื่องมือปฐมพยาบาลไปยังบ้านเล็ก“เกิดอะไรขึ้น?”“เฮียไปดูเองเลยค่ะ”ชุนที่กำลังจะวิ่งไปที่บ้านใหญ่หยุดถามต้นหยกที่เดินสวนทางมา แต่ต้นหยกก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากนักเพราะไม่รู้จะพูดบอกยังไงดี กลัวจะโดนหาว่าเธอใส่ร้ายจึงบอกให้ชุนไปดูด้วยตาของตัวเอง ชุนขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ซักไซ้ถามต่อ เขารีบเดินเข้าไป บ้านใหญ่ทันที ต้นหยกเองก็ไม่ได้สนใจเดินเข้าบ้านเล็กไปเช่นกัน“คุณหยกคะ เด็กคนนั้นฟื้นแล้วค่ะ”“อือ...ขอบใจนะ”อาลี่เดินออกจากห้องมาพอดีเพื่อที่จะไปเอ
..“น้องชื่ออะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”“หนูชื่อถิงค่ะ พ่อกับแม่ขายหนูให้กับเสี่ยพงษ์ ฮึกๆ ...มัน...ฮือๆ”หลังจากขึ้นรถมาได้ต้นหยกที่ย้ายไปนั่งข้างๆ เด็กสาวด้านหลังก็ได้ถามขึ้น ก่อนที่เด็กสาวจะตอบพร้อมน้ำตา ต้นหยกมองเด็กสาวด้วยความสงสาร ถึงแม้เธอจะพูดออกมาไม่หมดแต่ต้นหยกก็พอจะรู้ น้ำตาเอ่อคลอดวงตาสวยของต้นหยกเมื่อมองดูเด็กที่น่าจะอายุไม่เกินสิบแปดต้องมาเจออะไรแบบนี้“ไอ้เสี่ยพงษ์อีกแล้วหรอ?”“เฮียรู้จักหรอคะ?”“อืม...มันเปิดบ่อนและปล่อยเงินกู้นอกระบบ...”“แล้วทำไมเฮียถึงได้รู้ เฮียไม่ได้เกี่ยวข้องใช่ไหมคะ?”ต้นหยกถามพร้อมกับมองเขาด้วยสายตาเป็นห่วง ชุนมองเห็นผ่านกระจกรถก่อนจะยกยิ้ม ในใจแอบดีใจพิลึกที่เธอดูเป็นห่วงเป็นใยเขาขนาดนี้“ฉันไม่เกี่ยวอะไรกับมัน...แต่มีลูกน้องของฉันไปเอี่ยว พอฉันช่วยใช้หนี้ให้ลูกน้องคนนั้นเลยฝากเจินให้ฉันดูแล จนกว่าจะปลอดภัยถึงจะมารับกลับ”“เ
..“กินหรูแล้วดียังไงหรอคะ? ก็กินได้แค่พออิ่มอยู่ดี อีกอย่างสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุด้วย แค่ก๋วยเตี๋ยวถ้วยเดียวยังกินไม่หมดเลยด้วยซ้ำ”ชุนยกยิ้มกับคำตอบของต้นหยก ทั้งที่เธอเองก็มีเงินไม่น้อยแต่กลับเลือกกินอยู่อย่างง่ายๆ จนน่าแปลกใจ แต่เขากลับรู้สึกถูกใจในคำตอบนั้น เพราะสิ่งที่เธอพูดนั้นไม่ผิดเลยสักคำ ก่อนที่เขาจะนึกย้อนไปถึงเส้นฟางที่ทุกครั้งที่เธอจะกินอะไรสักมื้อมักจะหมดไปเป็นหมื่นๆ ต่อมื้อ แถมยังเหลืออาหารไว้เสียเต็มโต๊ะเพราะทานได้แค่นิดเดียว“ร้านข้างหน้าก็ได้ค่ะ หมี่เกี๊ยวร้านนี้อร่อย”“เอาจริง? ...”ถึงชุนจะถามออกไปอย่างนั้นก็ยอมตีไฟเลี้ยวจอดหน้าร้านหมี่เกี๊ยวข้างทางที่มีผู้คนมากมายมานั่งทาน ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กๆ มัธยมบ้าง มหาลัยบ้างและคนทำงานออฟฟิศใกล้ๆ เมื่อจอดรถเรียบร้อยต้นหยกก็ลงจากรถอย่างกระตือรือร้น แต่ชุนกลับมองร้านตรงหน้าอย่างหวาดหวั่น สภาพร้านที่ดูเก่าแก่กับชายชราใส่ผ้ากันเปื้อนที่แถมมากับเครื่องดื่มและมีผ้าขาวพาดคอเพื่อเช็ดเหงื่อ&ldq
..ชุนและต้นหยกมาถึงบริษัทและเดินเข้ามาพร้อมกัน ฮ่องเต้มองทั้งสองที่เดินคุยกันมาถึงยังหน้าห้องทำงานก็รู้สึกไม่ค่อยชอบภาพนั้นเสียเท่าไหร่ แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาเป็นแค่แอบรักข้างเดียวเท่านั้น ฮ่องเต้เลือกที่จะเดินเข้าไปทักทายทั้งคู่แทน“สวัสดีครับ คุณหยก...คุณชุน”“สวัสดีค่ะคุณฮ่องเต้”“เฮ้อ...ไม่ค่อยชอบบรรยากาศเลยแฮะ...เสียอารมณ์หมด”ชุนพูดขึ้นลอยๆ ซ้ำยังๆ ไม่หันไปมองหน้าฮ่องเต้เสียอีกแค่ปรายตามองเท่านั้น ฮ่องเต้ยิ้มบางๆ อย่างไม่ค่อยเต็มใจยิ้มนักก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้ต้นหยกแทน และเธอก็ยิ้มตอบตามมารยาท“เชิญครับคุณหยก วันนี้ผมจะสอนงานให้”“ขอบคุณนะคะ”ฮ่องเต้ผายมือไปทางห้องทำงานของเธอ ก่อนที่ต้นหยกจะเตรียมเข้าห้องไป แต่ชุนกลับคว้าแขนของเธอไว้เสียก่อน ต้นหยกหันไปมองชุนด้วยใบหน้าสงสัยเช่นเดียวกับฮ่องเต้ แต่ชุนก็ไม่ยอมพูดอะไรอยู่ดีกลับจับแขนเธอเอาไว้เฉยๆ อย่างนั้น“เฮียชุนมีอะไรหรื
..“ต้นหยกอยู่ไหม?”“อยู่ค่ะ...แต่คุณชุนปล่อยไว้แบบนั้นจะดีหรอคะ?”ชุนหันมองตามสายตาของอาลี่ก็ยังเห็นทั้งสองคนยังคงกัดกันไม่ปล่อย เขาหันกลับมาหาอาลี่อีกครั้งด้วยสีหน้าที่ดูหงุดหงิดมากเป็นพิเศษพร้อมกับสั่งเสียงแข็ง“ห้ามให้ใครเข้ามาบ้านเล็กแม้แต่คนเดียว”“ค่ะ...แต่ลี่คนเดียวคงจะต้านไม่ไหวแน่ๆ”“ไปบอกลูกน้องฉันที่ยืนอยู่ที่รถว่ามาเฝ้าที่นี่ ฉันจะจ่ายค่าล่วงเวลาให้”“ได้ค่ะ”อาลี่รับคำสั่งก่อนจะรีบเดินไปบอกลูกน้องของชุนที่กำลังจะขึ้นรถกลับและพวกเขาก็พยักหน้าแล้วเดินมายืนเฝ้าตรงทางเชื่อมบ้านใหญ่กับบ้านเล็ก ชุนเห็นอย่างนั้นก็รีบเดินเข้าไปหาต้นหยกทันที เมื่อเขาเดินเข้ามาก็เห็ว่าต้นหยกกำลังนั่งนิ่งมองเหม่อออกไปยังสระบัวโดยไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเขามา“ต้นหยก”ต้นหยกได้ยินเสียงของชุนก็หันกลับไปมองเขาก่อนจะลุกขึ้นอย่างระวังตัว แต่กลับไม่พูดอะไรสักคำ สายตาที่มองชุนน
..C.H Pubชุนจอดรถในที่ที่จอดรถสำหรับเจ้าของผับ ก่อนจะให้ทิปเด็กรับรถหนึ่งแบงค์เทาแล้วก้าวขายาวๆ ของตนเข้าไปด้านใน ตลอดทางต่างมีพนักงานที่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการกล่าวทักทายเขา ชุนเพียงพยักหน้ารับก่อนจะเข้าไปในห้องทำงานของตน ก็พบว่ามีลูกน้องคนสนิทที่อายุมากกว่าเขารออยู่ก่อนแล้วพร้อมกับลูกน้องหนุ่มอีกคนที่เขาให้ดูแลที่นี่แทนเวลาเขาไม่อยู่หรือไปดูงานที่อื่นชุนปรายตามองลูกน้องวัยกลางคนนั้นก่อนจะเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งพร้อมกับนั่งไขว่ห้างและมองชายตรงหน้าที่ดูร้อนรนจนสังเกตได้“รอบนี้ติดหนี้ที่ไหนล่ะ?”“ขอโทษครับคุณชุนที่ผมต้องคอยให้คุณชุนช่วย”“ถ้าสำนึกก็เลิกเล่นการพนันสิ”“ผมเลิกแล้วครับ เงินที่ให้ผมใช้หนี้ก่อนหน้านั้นผมก็เอาไปใช้หนี้จนหมดแล้ว”“แล้ว?”“แต่ไอ้เสี่ยพงษ์มันเหลี่ยม บอกว่าจ่ายแต่ต้นไม่ได้จ่ายดอก...”“เท่าไหร่?”“สามล้านครับ”