.
.
“น้องชื่ออะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”
“หนูชื่อถิงค่ะ พ่อกับแม่ขายหนูให้กับเสี่ยพงษ์ ฮึกๆ ...มัน...ฮือๆ”
หลังจากขึ้นรถมาได้ต้นหยกที่ย้ายไปนั่งข้างๆ เด็กสาวด้านหลังก็ได้ถามขึ้น ก่อนที่เด็กสาวจะตอบพร้อมน้ำตา ต้นหยกมองเด็กสาวด้วยความสงสาร ถึงแม้เธอจะพูดออกมาไม่หมดแต่ต้นหยกก็พอจะรู้ น้ำตาเอ่อคลอดวงตาสวยของต้นหยกเมื่อมองดูเด็กที่น่าจะอายุไม่เกินสิบแปดต้องมาเจออะไรแบบนี้
“ไอ้เสี่ยพงษ์อีกแล้วหรอ?”
“เฮียรู้จักหรอคะ?”
“อืม...มันเปิดบ่อนและปล่อยเงินกู้นอกระบบ...”
“แล้วทำไมเฮียถึงได้รู้ เฮียไม่ได้เกี่ยวข้องใช่ไหมคะ?”
ต้นหยกถามพร้อมกับมองเขาด้วยสายตาเป็นห่วง ชุนมองเห็นผ่านกระจกรถก่อนจะยกยิ้ม ในใจแอบดีใจพิลึกที่เธอดูเป็นห่วงเป็นใยเขาขนาดนี้
“ฉันไม่เกี่ยวอะไรกับมัน...แต่มีลูกน้องของฉันไปเอี่ยว พอฉันช่วยใช้หนี้ให้ลูกน้องคนนั้นเลยฝากเจินให้ฉันดูแล จนกว่าจะปลอดภัยถึงจะมารับกลับ”
“เ
..“ใครก็ๆ ได้ช่วยด้วยค่ะ!!!”เสียงของเส้นฟางตะโกนดังลั่งตัวบ้านหลังจากที่กลิ้งลงบันไดไปนั่งพับเพียบกับพื้น ต้นหยกที่กำลังเดินลงมามองดูอยู่เงียบๆ ก่อนที่พวกลูกน้องและเจินจะวิ่งเข้ามา แต่เจินกลับไม่ได้เข้าไปช่วยแต่อย่างใด ยืนกอดอกมองเส้นฟางนิ่ง มีเพียงลูกน้องของชุนเท่านั้นที่ช่วยอุ้มไปนั่งที่โซฟาห้องรับแขกของบ้าน ต้นหยกส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินเอากล่องเครื่องมือปฐมพยาบาลไปยังบ้านเล็ก“เกิดอะไรขึ้น?”“เฮียไปดูเองเลยค่ะ”ชุนที่กำลังจะวิ่งไปที่บ้านใหญ่หยุดถามต้นหยกที่เดินสวนทางมา แต่ต้นหยกก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากนักเพราะไม่รู้จะพูดบอกยังไงดี กลัวจะโดนหาว่าเธอใส่ร้ายจึงบอกให้ชุนไปดูด้วยตาของตัวเอง ชุนขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ซักไซ้ถามต่อ เขารีบเดินเข้าไป บ้านใหญ่ทันที ต้นหยกเองก็ไม่ได้สนใจเดินเข้าบ้านเล็กไปเช่นกัน“คุณหยกคะ เด็กคนนั้นฟื้นแล้วค่ะ”“อือ...ขอบใจนะ”อาลี่เดินออกจากห้องมาพอดีเพื่อที่จะไปเอ
..สองร่างนอนแนบเนื้อเปลือยเปล่ากอดกันยันเช้า ชุนยังคงนอนหลับไม่รู้เรื่องด้วยความเหนื่อยอ่อนหมดแรง แต่ต้นหยกก็ยังคงตื่นแต่เช้าเหมือนเช่นเคย เธอปล่อยสายน้ำไหลผ่านชะล้างร่างกายของตนด้วยความรู้สึกที่ตีกันวุ่นอยู่ในหัว เธอเสียใจที่เขาบังคับหักหาญน้ำใจเธอโดยที่เธอไม่ได้ยินยอมพร้อมใจไปกับเขาแต่อีกใจก็คิดว่ามันก็ถูกต้องแล้วเพราะเป็นหน้าที่ของผู้เป็นภรรยาควรที่จะกระทำ แต่ถึงอย่างนั้น...ใจก็ยังคงบอบช้ำอยู่ดี เมื่อคิดว่าชุนก็ไม่ได้รักเธอ เขาทำไปเพื่อสนองอารมณ์ของเขาเท่านั้น นั่นเจ็บยิ่งกว่า...ต้นหยกแต่งตัวตามปกติพยายามจะบอกตัวเองให้ฮึดสู้เข้าไว้ แม้จะมองรอยรักที่แดงช้ำอยู่ทั่วร่างก็ตามที ต้นหยกรีบใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดกว่าทุกวัน รอยไหนที่มันโผล่พ้นเสื้อผ้าก็จะใช้เครื่องสำอางปกปิดให้มันเบาบางลง แต่ก็เหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เพราะมันแดงช้ำจนไม่สามารถปกปิดมิดได้ ก่อนเธอจะเดินออกไปใส่บาตรกับอาลี่เหมือนเช่นทุกวัน“คุณหยกคะ? ...พระท่านมาแล้วค่ะ”“อ๋อ..จ้ะ”อาลี่เรียกต้นหยกที่ยืนเหม่ออยู่ก่อนที่
..หลังจากที่เช็คอินด้านล่างเรียบร้อยทั้งสองเดินขึ้นมายังห้องพักที่สะอาดสะอ้านหรูหราไม่เบา แต่ติดตรงที่ห้องน้ำดันเป็นกระจกนี่สิ ต้นหยกมองห้องน้ำด้วยความช็อค...ไม่ใช่ไม่เคยเห็น.. แต่ไม่คิดว่าชุนจะเลือกห้องแบบนี้ ต้นหยกมองชุนตาปริบๆ และยังคงยืนอยู่ตรงทางเข้าเช่นเดิม ชุนนั่งลงบนเตียงก่อนจะหันไปมองต้นหยกที่ทำหน้าเหลอหลา เขายกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกับตบเตียงข้างๆ ตนและมองไปทางต้นหยก“อะ...อะไรคะ?”“มานี่สิ”“เอ่อ....”ต้นหยกส่ายหน้ารัวๆ ก่อนจะเฉมองไปทางอื่น กลัวว่าเขาจะทำอะไรเหมือนเมื่อคืน แค่คิดก็ผวาและเธอยังปวดเอวอยู่เลย ที่เธอไม่ยอมไปตามที่เขาเรียกเพราะสายตาของเขาเจ้าเล่ห์เกินกว่าจะไว้ใจได้“กลัวอะไร? เราก็เคย...”“เฮียไม่ต้องพูดถึงได้ไหมคะ”“ทำไม? ก็เราเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้อง”“แต่หยกไม่ได้สมยอม”“แต่เธอยอมแต่งงานกับฉัน นั่นก็ถือว่ายอมแล้ว”ต้นหยกพูด
..ไม่พูดเปล่า ชุนอุ้มต้นหยกขึ้นมาจากน้ำทั้งที่อะไรๆ ยังคงอยู่ที่เดิม ก่อนจะพาร่างของเธอไปวางตรงขอบอ่างที่ติดกำแพงทันที ชุนยกยิ้มร้ายเมื่อเห็นสีหน้าของต้นหยกที่แดงเรื่อขึ้นมา เมื่อเห็นรอยเชื่อมระหว่างเขาและเธอ...“เดี๋ยวก่อนสิคะ...อื้อ..”“เมื่อเฮียบอกเดี๋ยว หยกยังไม่ฟังเลย”“ก็...อ๊ะ! อ๊ะ!”ชุนไม่ฟังเสียงค้านของหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าภรรยา ไม่สิ...ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของเขาอย่างเต็มตัวแล้ว เอวสอบโยกย้ายส่ายสะโพกเข้าออกตามใจ จนคนข้างใต้ถึงกับครางหวานไม่เป็นภาษา คำร้องห้ามถูกกลืนเข้าไปอีกครั้งเมื่อความกระสันซ่านเข้ามาแทนที่ เอวสอบพลิ้วไหวเข้าออกอย่างหนักหน่วงเนิบนาบเหมือนจงใจแกล้งเธอให้ทรมานเล่นชุนยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อต้นหยกเอื้อมมือเล็กไปจับที่สะโพกของเขาเหมือนเธอต้องการ แต่เขายังคงแกล้งกระแทกเข้าสุดออกสุดจนร่างบางเกร็งไปหมด การทำแบบนั้นทำให้เขาถึงกับขบกรามแน่นเพราะแรงตอดรัดจากช่วงล่างมันเพิ่มขึ้น“ฮืมมม...อย่ารัดเฮียแน่นนักสิคะ คนสวย...อา..”
..สายน้ำจากฝักบัวไหลกระทบร่างบางเนียนผ่องเพื่อชำระร่างกาย ชำระรอยรักที่พึ่งเสร็จสมหลังจากที่โดนจู่โจมอย่างหนักหลายต่อหลายครั้ง คราวนี้ต้นหยกไม่ลืมที่จะหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำมาด้วย เพราะคนที่พาเธอมานั้นช่างเล่ห์เหลี่ยมนัก และกว่าเขาจะยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระก็ปาไปเย็นมากแล้ว ต้นหยกแอบยิ้มอยู่คนเดียวในห้องน้ำ เหมือนกับว่าเวลานี้เป็นเวลาของเขาและเธออย่างแท้จริงเมื่ออาบน้ำเสร็จก็รีบแต่งตัวด้วยชุดเสื้อผ้าชุดเดิม เพราะไม่มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยนเลย ชุนบอกว่าจะพาไปซื้อจึงจำเป็นต้องใส่ชุดเดิมไปก่อน พอต้นหยกเดินออกมาชุนก็เดินสวนเข้าห้องน้ำไป ยังไม่วายหันมาโยกศีรษะของต้นหยกเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม ต้นหยกขมวดคิ้วเรียวมองเขาแต่ใบหน้ายังคงเปื้อนยิ้มไม่จางทั้งสองออกมาจากโรงแรมหรูที่พักบนเกาะ เดินเลียบชายหาดไปเรื่อยๆ ลมทะเลพัดเข้ามาตลอดไม่ทำให้รู้สึกร้อนแต่ใบหน้าของต้นหยกกลับร้อนผ่าวขึ้นมาเสียอย่างนั้น เหตุเป็นเพราะชายหนุ่มคนข้างๆ เดินเนียนมากุมมือเธอไว้ ทั้งสองเดิน จับมือกันเดินบนชายหาดขาว ก่อนจะตรงไปซื้อเสื้อผ้าที่มาขาย ต้นหยกยืนเลือกเสื้อผ้าแต่ชุนกลับไม่ยอมปล่อยมือเธอเลย
..ต้นหยกหันไปถามชุนด้วยสีหน้าจริงจัง ชุนละสายตาจากต้นหยกก่อนจะยกไวน์ขึ้นมาดื่มและเงียบไปพักหนึ่ง ต้นหยกรู้สึกเหมือนว่าชุนไม่อยากที่จะตอบ เธอก็ไม่ได้ซักไซ้ต่อ หันไปสนใจอาหารตรงหน้าอย่างเงียบๆ ชุนหันไปมองต้นหยกอีกครั้งพร้อมกับยิ้มบางๆ“เฮียชอบตรงนี้แหละ...ถ้าไม่ได้คำตอบก็ไม่ซักไซ้ให้รู้สึกรำคาญ”“ก็แค่...ไม่รู้จะบังคับทำไม...ถ้าเป็นหยกไม่อยากตอบหยกก็คงเงียบเหมือนกัน...ใจเขาใจเรา”“หึ...เฮ้อ...โชคดีหรือโชคร้ายเนี่ยที่ได้เมียนิ่งจนน่ากลัวขนาดนี้”“แล้วไม่ดีหรอคะ?”“ก็ดี...แต่บางทีก็อยากให้แสดงความรู้สึกออกมาบ้าง”“หยกว่าหยกแสดงออกไปเยอะมากแล้วนะคะ”“หมายถึงตอนไหนหรอ? ...”ชุนยกยิ้มร้ายพร้อมกับจ้องมองต้นหยกด้วยสายตาที่ดูเจ้าเล่ห์พอสมควร ต้นหยกแทบจะสำลักข้าวที่พึ่งกินเข้าไป ก่อนจะรีบยกน้ำขึ้นมาดื่มแก้เขิน เพราะรู้ว่ชุนคิดถึงตอนไหน“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ”“รู้ได้ไงว่
..“อื้อ...เดี๋ยวก่อนสิเฮีย...อ๊ะ!”หลังจากที่ชุนให้ต้นหยกขี่หลังกลับโรงแรมมาก็ไม่ได้รอช้าหรือยอมให้เธอได้พักแต่อย่างใด เพราะเขาอดทนมามากพอแล้วตั้งแต่ออกจากโรงแรมไปนั่งกินข้าว จนไปที่ผับซ้ำยังเจอเรื่องแบบนั้นอีก...ชุนไม่ฟังเสียงคัดค้านของต้นหยกหลังจากวางเธอลงเตียงเขาก็รีบเข้าไปทาบทับร่างของเธอทันที พร้อมกับซุกไซ้ซอกคอขาวของเธอและจงใจขบเม้มแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอย่างเต็มสูบ มือข้างหนึ่งปลดกระดุมเสื้อคลุมที่เขาบังคับให้เธอใส่ด้วยตัวเองออกจนเห็นสายเดี่ยวสีขาวที่เธอใส่อยู่มือหนาไม่รอช้ารีบกอบกำเต้าตึงนั้นพร้อมกับบีบคลึงทั้งที่ยังไม่ถอดชุดออกเลยด้วยซ้ำ ต้นหยกใช้มือเล็กของเธอดันอกเขาออกเพื่อให้เขาหยุดก่อนแต่มีหรือที่ชุนจะยอม กลับใช้มือข้างที่ว่างรวบข้อมือเล็กทั้งสองไว้ด้วยมือข้างเดียวและกดมันลงกับเตียงเหนือศีรษะของเธอ เพื่อไม่ให้มาขัดขวางเขา“ฮะ..เฮียชุน...อื้มมมม...”ริมฝีปากหยักได้รูปของเขาก้มลงปิดริมฝีปากกระจับที่กำลังจะร้องห้ามเขาพร้อมกับป้อนลิ้นร้อนของตนเข้าไปพัว
..กว่าจะหมดค่ำคืนที่แสนยาวนานทำเอาต้นหยกล้าร่างไปหมด ทั้งสองเดินลงมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรมอย่างหวานชื่น คนที่ดูเปลี่ยนไปมากที่สุดเห็นทีจะเป็นชุน สามีที่ปฏิเสธการแต่งงานกับเธอมาตลอด แต่กลับดูแลเอาใจเหมือนเธอเป็นง่อยยังไงอย่างนั้น ดูแลจนพนักงานและโต๊ะรอบข้างอิจฉาตาร้อนไปหมดแม้กระทั่งเดินขึ้นจากเรือมายังรถก็ยังคงจับมือเธอไม่ปล่อยเหมือนกลัวจะหนีไปไหน และดูท่าทางอ้อยอิ่งเหมือนกำลังถ่วงเวลาที่จะกลับกรุงเทพ ชุนหยุดยืนมองร้านขายของฝากก่อนจะเดินเข้าร้านไปโดยที่ลากเธอไปด้วย เขาหยิบสร้อยข้อมือถักที่มีไข่มุกสีขาวและชมพูรอบตัวสร้อยขึ้นมาดู“ชอบไหม?”“ก็...น่ารักดีค่ะ”“ไม่...เฮียถามหยกว่าชอบไหม?”“เอ่อ...ก็...ชอบค่ะ”ชุนยิ้มจนตาหยีท่าทางดีใจก่อนจะจับข้อมือของเธอขึ้นมาสวมสร้อยถักเส้นนั้นให้ แล้วหันไปจ่ายเงินกับคนขายก่อนจับมือเธอเดินไปยังที่รถจอด พร้อมกับเปิดประตูให้เธอด้วยรอยยิ้ม ต้นหยกยิ้มเจื่อนอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ยอมขึ้นไปนั่งอย่างหวั่นๆ ชุนปิดประตูก่อ
..เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด!!!“อ๊า อ๊า อื้อ”สะโพกพลิ้วสวนกระแทกหนักหน่วงและรุนแรงขึ้นจนเตียงโยกไปมา เสียงครางของเขาและเธอสลับกับเสียงของเตียงที่ดังเอี๊ยดอ๊าดตามด้วยเสียงกระทบของเนื้อหน้าขาและบั้นท้ายงอนงาม บทเพลงรักที่ยาวนานจนเกิดเสียงฉ่ำแฉะอยู่กึ่งกลางของทั้งสองร่างที่เชื่อมต่อกันไม่มีหลุด แม้ว่าจะโยกเข้าออกจนสุดก็ไม่อาจจะทำให้ทั้งสองร่างหลุดออกจากกันความเสียวซ่านเริ่มรุนแรงทวีคูณถาโถมเข้ามาหาคนทั้งสอง มือหนาบีบคลึงเต้าตึงไม่พัก ส่วนมืออีกข้างเอื้อมไปจับที่หัวเตียงยึดรั้งตัวไว้ก่อนจะเร่งสะโพกพลิ้วกระแทกเข้าสุดอย่างรุนแรงและถี่ยิบ ต้นหยกกำหมอนไว้แน่นเพื่อระบายความเสียวและจุกช่องท้องไปหมด“อ๊า อ๊า อ๊า...อ๊ะ อ๊ะ!!”“ฮื่มมมม...อา”สะโพกรัวซอยถี่ยิบคิ้วเข้มขมวดชนกันแน่น ยิ่งกระแทกเข้าออกยิ่งทำให้รู้สึกเสียวซ่านจนตัวเกร็ง ความหนักหน่วงของแรงกระแทกไม่ได้แผ่วลงเลย คนใต้ร่างร้องครางเหมือนใจจะขาด ก่อนที่ทั้งสองร่างจะกระดุกเกร็งปลดปล่อยความเสียวกระสันพ
..หลังจากที่ต้นหยกออกไปส่งเฮียตงและซินกลับมา เธอก็เดินมาหาชุนแล้วทำท่าหยิบกระเป๋าของตน ชุนนอนคะแคงเท้าศีรษะอย่างงงๆ ว่าต้นหยกจะไปไหน“จะไปไหนหรอคะ?”“หยกว่าจะไปหาอะไรมาให้ทานน่ะค่ะ แล้วว่าจะกลับเลย”“ได้ไง...ไม่อยู่เฝ้าหรอ?”ชุนพูดพร้อมกับหน้าน่าสงสาร ต้นหยกมองสีหน้าของเขาก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ที่ชุนเข้าใจผิด แต่ว่าเธออยากจะแกล้งคนตรงหน้าเสียหน่อย เพราะเธอเองก็โดนเขาแกล้งมาเยอะ เห็นทีจะต้องเอาคืนบ้างแล้ว“เฝ้าทำไมคะ? ก็เห็นบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่บอกหมอให้ทำแผลดูโอเว่อร์เท่านั้น พรุ่งนี้หยกต้องไปทำงานไม่มีเวลามาเยี่ยมนะคะ อาจจะมาเย็น”“สามีเป็นขนาดนี้ไม่อยู่ดูแลหน่อยหรอ...งานน่ะหยกไม่ทำก็ได้นะ เฮียเลี้ยงได้ เฮียดูแลหยกได้”“ดูแลตัวเองไปก่อนนะคะ หายดีค่อยมาดูแลหยกเนอะ”“โธ่..หยก”ชุนเอื้อมมือไปจับแขนเธอเขย่าเบาๆ พร้อมกับทำหน้าออดอ้อนน่าสงสารสุดฤทธิ์ ต้นหยกอดที่จะหัวเราะออ
..“เอ่อ...ยะ...หยก...ใจเย็นๆ ก่อน”ต้นหยกเดินเข้าไปใกล้ชุนพร้อมกับหน้าเขาด้วยสายตานิ่งเรียบ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเสียใจจนชุนถึงกับหุบยิ้มแทบจะทันที เพราะตอนแรกเธอคิดมากมายว่าจะดูแลยังไงต้องศึกษาอะไรบ้างเพื่อให้เขากลับมาเดิน เธอวางแผนทุกอย่างไว้ในหัว แต่กลับมารู้ความจริงแบบนี้ ชุนจะเอื้อมมือไปจับมือเล็กแต่ต้นหยกกลับหันหลังแล้วเดินไปในทันที“ต้นหยก! โอ๊ยยย!!!”“คนไข้! อย่าพึ่งลุกสิครับ”ชุนรีบลุกขึ้นอย่างลืมตัวก่อนจะทรุดตัวลงนั่งพร้อมร้องลั่น มือเอื้อมไปจับที่ข้างลำตัว เพราะมันตรึงแผลที่อยู่ด้านหลัง ต้นหยกตอนแรกที่ไม่คิดจะหันกลับพลางคิดว่าเขาคงลองใจเธออีก แต่พอได้ยินเสียงบุรุษพยาบาลเธอก็รีบหันกลับไปมองแล้ววิ่งเข้าไปหาชุนทันที ต้นหยกพยุงเขาลุกขึ้นจากพื้นโดยมีบุรุษพยาบาลช่วยอีกแรงเพี๊ยะ!!“โอ๊ย! หยกตีเฮียทำไมเนี่ย”“อยากดื้อทำไมล่ะคะ คนบ้านี่! ลองใจอะไรก็ไม่รู้...คนเขาเป็นห่วงนะ&rdquo
..ต้นหยกและชุนเดินออกมาจากลิฟท์ของบริษัทก่อนจะเดินไปยังลานจอดรถโดยที่ชุนไม่แม้แต่จะยอมปล่อยมือที่จับมือต้นหยกไว้เลย ต้นหยกเองก็เขินไม่น้อย คำพูดที่เขาบอกรักยังคงก้องอยู่ในหัวเด่นชัด ใครจะไม่ใจอ่อนไหว การกระทำตลอดเกือบหนึ่งเดือนเต็มที่เขาตามตื้อตามง้อและทำหลายๆ เพื่อเธอโดยไม่บ่นสักคำ แต่...มันจะดีแค่ช่วงแรกรักหรือเปล่านะ ต้นหยกเองก็แอบกังวลเช่นกัน คงต้องดูกันไปอีกยาว นั่นหมายความว่าเธอจะลองให้โอกาสเขาอีกสักครั้งนั่นเอง“ไปหาอะไรกินกันไหมคะ? เพราะเมื่อกี้กินบะหมี่ไปนิดเดียวเองไม่ใช่หรอ?”“ก็เพราะใครล่ะคะ”“เฮียก็หิวเหมือนกันนะคะ”“ไม่เหมือนกันสักหน่อย”ต้นหยกหันไปทำหน้าดุแต่ใบหน้าของเธอกลับแดงเรื่อด้วยความเขิน นึกว่าตัวเองจะตายเสียแล้ว นี่สินะที่เขาบอกว่าอย่าปล่อยให้สามีหิวมากๆ ชุนมองต้นหยกแล้วหัวเราะออกมา อย่างน้อยเธอก็ยอมใจอ่อนแล้วทั้งสองเดินไปพลางหยอกล้อกันโดยไม่ได้สนใจรอบๆ ตัวเลย เหมือนโลกทั้งใบมีแต่พวกเขาจนลืมสังเกตหญิงสาวที่เดินตามหลังพวกเขามาติด
..“เส้นฟาง...เธอมาทำอะไรที่นี่?”“ฟางคิดถึงพี่ชุนมากๆ เลยค่ะ”เส้นฟางเดินเข้าไปกอดชุนแน่น ชุนตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของเธอ เพราะตั้งแต่เธอออกจากบ้านไป เส้นฟางไม่เคยติดต่อกลับมาหาเขาเลยสักครั้ง แล้วอยู่ๆ เธอก็โผล่มา คงไม่ใช่เพราะคิดถึงจริงๆ หรอก แต่คงจะเป็นเพราะเงินที่เขาให้ไปก่อนออกจากบ้านหมดแล้วเป็นแน่“คุณเส้นฟาง ปล่อยผม”“ทำไมถึงพูดห่างเหินแบบนั้นล่ะคะ พี่ชุนไม่รักฟางแล้วจริงๆ หรอคะ?”ชุนพูดพร้อมกับพยายามดันตัวของเส้นฟางออกด้วยมือข้างที่เหลืออยู่ แต่เส้นฟางกอดเขาแน่นไม่ยอมเป็นปล่อย จนเขาต้องออกแรงผลักเธออย่างแรงจนเซล้มไปกับพื้น เส้นฟางหันไปมองหน้าชุนพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อคลอ ชุนเห็นอย่างนั้นก็ทำท่าว่าจะเข้าไปช่วยแต่ก็ชะงัก ถ้าเขาใจดีเธอคงไม่คิดจะยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่ ชุนจึงตัดสินใจเลือกที่จะเดินผ่านเธอไปอย่างเงียบๆ“พี่ชุน!! ทำไมถึงได้ใจร้ายกับฟางแบบนี้!!”ชุนหยุดชะงักครู่หนึ่งแต่ไม่หันกลั
..หลังจากที่ทานอาหารกันเรียบร้อย ทุกคนก็ต่างแยกย้ายไปอาบน้ำและเข้าห้องนอนของตัวเอง ชุนเอนตัวลงนอนบนโซฟาหลังจากอาบน้ำเสร็จ และแน่นอนว่าโซฟามันไม่ได้นอนสบายอย่างที่คิดเลย แต่เขาก็ต้องอดทนให้ได้ และคิดว่าเดี๋ยวก็คงจะชินไปเอง ไฟในบ้านถูกปิดจนมิดสนิท ชุนนอนเอาแขนก่ายหน้าผากพลางคิดวิธีง้อต้นหยก ก่อนที่เขาจะหลับตาลงเพื่อพักสายตาเสียหน่อยผ่านไปได้พักหนึ่ง เสียงฝีเท้าที่แผ่วเบาก็ดังขึ้นและเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ชุนที่หลับตาอยู่นิ่งไม่ขยับรอฟังเสียงฝีเท้านั้นอย่างเงียบๆ ไม่นานเสียงนั้นก็หยุดลงข้างๆ ที่เขานอน ก่อนจะรู้สึกถึงบางอย่างที่สัมผัสร่างกาย ผ้าห่มที่เขาร่นไว้ตรงขาได้เลื่อนขึ้นมาบนตัวเขาจนถึงอก ชุนยกยิ้มก่อนจะคว้าข้อมือเล็กที่จับผ้าห่มอยู่นั้นกระชากลงมาเข้าหาตน“อ๊ะ!!! เฮียชุน!! ยังไม่หลับทำไมต้องแกล้งหลับด้วย”“ถ้าไม่แกล้งหลับจะรู้หรอว่ามีคนจะลักหลับเฮีย”“บ้า! ปล่อยนะคะ!”ชุนยังคงกอดต้นหยกที่เซล้มลงมาบนตัวเขาไว้แน่น ถึงแม้จะมืดแต่เขาจำกลิ่นตัวของเธอได้ดี ต้นหยกดิ้นขลุกขลักอยู
..“อ้าว...แล้วทำไมมึงไม่พูดล่ะ”“ก็บอกแล้วไง ว่าพูดไม่ออก...มันยากนะเว้ยเฮีย”ชุนหันไปพูดกับเฮียตงหลังจากที่มาปรึกษาเรื่องทั้งหมด เขาสิงสถิตอยู่ที่นี่เป็นชั่วโมง เพื่อขอวิธีบอกรักง่ายๆ แต่กลับโดนเฮียตงถามย้ำอยู่อย่างนั้นจนถึงตอนนี้“ก็กูถึงถามเป็นรอบที่ล้านอยู่นี่ไงว่าทำไมไม่พูด แค่พูดมันยากตรงไหน?”“ผมก็ตอบรอบที่ล้านไปแล้วไงเฮีย ปรึกษาได้เรื่องไหมล่ะวันนี้”“ติดตรงไหน? ไหนมึงลองบอกกูดิ”“ติดตรงปากนี่แหละ อีกอย่างต้นหยกก็ไม่คิดจะฟัง หนีผมอย่างเดียว”“มึงก็พูดออกไปเลยสิวะ จะฟังไม่ฟังก็เรื่องของเขา”“ก็บอกอยู่นี่ไงว่าพูดไม่ออก”“พี่น้องคู่นี้จะทะเลาะกันอีกนานไหมล่ะเนี่ย หือ?”ซินเดินเข้ามาพร้อมกับจานขนมและชา ก่อนจะวางของว่างนั้นแล้วนั่งลงข้างๆ เฮียตง ชุนทิ้งตัวเอนหลังพร้อมกับหยิบขนมเข้าปากอย่างเซ็งๆ ซินส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดขึ้น&ldq
..หลังจากที่ชุนได้ฟังฟังเฮียตงเทศนามหาชาติแล้วก็รีบขับรถตรงดิ่งมายังบ้านของตน ก่อนจะรีบร้อนวิ่งเข้าไปในบ้าน ในใจภาวนาว่าต้นหยกจะยังไม่ออกไป อาลี่เห็นชุนกลับเข้ามาก็รีบเดินเข้าไปรับพร้อมกับทำหน้าเศร้า“นายหญิงล่ะ?”“ไปแล้วค่ะ ไปพร้อมกับถิง”“แล้วทำไมไม่ห้ามไว้ล่า”“ลี่ถามแล้วค่ะ แต่คุณหยกบอกว่าจะแวะมาเยี่ยมบ่อยๆ ฮึกๆ”อาลี่พูดพร้อมกับปาดน้ำตาและร้องไห้กระซิกๆ ชุนมองไปทั่วบ้านด้วยความหงุดหงิดก่อนจะรีบเดินออกจากบ้านแล้วขึ้นรถที่จอดไว้พร้อมกับขับออกไปอย่างรวดเร็ว เขาต้องไปในที่ที่ต้นหยกอยู่ ไม่ว่าเธอจะออกมาเจอหน้าเขาหรือไม่ก็ตามชุนขับรถตรงมายังบ้านป๊ากับม๊าของต้นหยก ก่อนจะจอดรถแล้วรีบเดินเข้าบ้านไป ก็เห็นว่าป๊ากับม๊านั่งทำสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ที่ห้องรับแขก แต่กลับไม่เห็นต้นหยกนั่งอยู่ด้วย ชุนจึงเดินเข้าไปหาทั้งสองคน ป๊าเฉินกับม๊าซิ่วเงยหน้าขึ้นมองชุนด้วยความตกใจเล็กน้อย ชุนมองทั้งสองก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าแล้วยกมือไหว้ด้วยสายตาที่ดูเศร้าสร้อย 
..“ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกับพ่อ”เจินอึ้งนิ่งค้างเมื่อชัยพูดขึ้น ในใจรู้สึกหวั่นอยู่ไม่น้อยแต่ก็คิดหาทางออกไม่ได้ ทำได้แต่ยืนนิ่ง ก่อนจะรีบคว้าแขนของผู้เป็นพ่อพร้อมกับมองด้วยสายตาร้องขอ ชัยเบือนหน้าหนีไม่กล้ามองหน้าลูกสาวของตนเพราะกลัวจะใจอ่อนอีก“ฉันจะออกค่าใช้จ่ายที่ต้องตรวจให้ ตรวจให้ครบทุกตารางนิ้วทุกโปรแกรม”ชุนพูดเสียงนิ่งเรียบและหนักแน่น ก่อนจะหยิบเช็กเงินสดที่เตรียมไว้ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของตนออกมา ยื่นให้ลูกน้องของตน ชัยก้มมองตัวเลขบนเช็กก่อนจะรีบเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายตน“ทำไมมันมากขนาดนี้ล่ะครับ? ผมไม่กล้ารับไว้หรอกคุณชุน แค่นี้ผมก็รู้สึก...”“ให้ค่าเสียเวลา...และค่าเลี้ยงดูลูกของมึง กูอยากให้มึงเลี้ยงดูมันให้ดี ไม่ให้ไปทำเรื่องแบบนี้อีก”“เจินไม่ไปนะคะคุณชุน เจินขอโทษ...อย่าไล่เจินออกไปจากบ้านนี้เลยนะคะ เจินจะไม่ทำอีกแล้ว”เจินแทบจะคุกเข่าตรงหน้าชุน พร้อมกับขอร้อ