.
.
“อืมมมม...ที่รักครับ...ทำไมใจร้อนจังเลย..”
“อ๊ะ! อื้มมม...”
ร่างบางร่อนเอวคอดกิ่วหมุนวนไปมาทำเอาร่างหนาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสะดุ้งกระตุกเกร็ง ความเสียววาบแล่นเข้ามายังส่วนหัวจนเขาถึงกับเงยหน้าซู้ดปากอย่างที่ไม่เคยเป็นกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
“อา...ซี้ดดด...เสียวฉิบ”
“อ๊า อ๊า อ๊า”
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนแทบจะชนกันก่อนจะหลุบสายตามองเอวบางที่ร่อนเร่าอยู่บนตัวของเขาอย่างสุขสม ก่อนที่จะโยกขย่มจนใจดวงโตแทบจะจมไปกับเตียง เขาเอื้อมมือไปคว้ามือเล็กมาจับประสานตั้งเป็นที่ยึดรั้งตัวของคนด้านบนที่กำลังร่อนเร่าเอวบางอย่างไม่ลดละ
“อื้มมม...หยกครับ...อา...”
“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ!”
ตอนนี้เขามองเหมือนว่าตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำเสียมากกว่า เมื่อร่างบางกระแทกขึ้นลงไม่ยั้งจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อและเสียงฉ่ำแฉะผ่านรอยรักที่เชื่อมต่อกัน ปลายยอดถันกระเพื่อมไปตามแรง ชุนกัดฟันแน่นก่อนจะยกสะโพกสวนขึ้นรับจัง
..“เฮียชุน...คงไม่ได้คิดว่าหยกหาผลประโยชน์เข้าตัวใช่ไหมคะ?”ชุนมองใบหน้าสวยที่จ้องมองเขาท่าทางค่อนข้างกังวล เขายิ้มบางๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาต้นหยกที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากรถนัก พร้อมกับเอื้อมมือหนาไปกุมมือเรียวเล็กของเธอไว้“ทำไมเฮียต้องคิดแบบนั้น...บริษัทเราร่วมหุ้นกันแล้วนะ บริษัทหยกได้บริษัทเฮียก็ได้เหมือนกัน”“อ๋อ...งั้นหรอคะ?”“อย่าคิดมาก”“คิดสิคะ...ตอนแรกเฮียชุน...”“อย่าพูดถึงเรื่องเก่าๆ เลยนะคะ กลับบ้านกันดีกว่า”“...ค่ะ”ต้นหยกยิ้มบางๆ ก่อนจะขึ้นรถตามที่ชุนเปิดประตูให้ ก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปฝั่งคนขับแล้วขับรถออกจากบริษัทเพื่อตรงกลับบ้าน แต่ดูเหมือนชุนจะไม่เร่งรีบที่จะกลับบ้านเท่าไหร่นัก เพราะเขาขับรถเอื่อยๆ เรื่อยๆ และเหมือนคิดอะไรในใจ แม้ต้นหยกจะเห็นท่าทีที่ดูคิดหนักของชุนแต่เธอก็ไม่กล้าเอ่ยปากถาม“ไปหาอะไรกินกันก่อนไหม?”“
..“มันไม่จบง่ายๆ หรอก นังต้นหยก!!”เส้นฟางพูดจบก็หันกลับไปเดินขึ้นรถไปอย่างหงุดหงิดก่อนรถจะแล่นออกจากบ้านหลังใหญ่ไป เจิน ถิงและอาลี่เดินเข้าบ้านไปยังห้องรับแขกที่ชุนกับต้นหยกนั่งคุยกันอยู่ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปเลยเสียทีเดียว เพราะเจินต้องการจะรู้ก่อนว่าต้นหยกและชุนพูดถึงเรื่องอะไรกัน“เฮียชุน...จะไม่ใจร้ายไปหน่อยหรอคะ?”“สงสารหรอ?”ต้นหยกพยักหน้ายอมรับ ชุนยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือเล็กของต้นหยกที่วางไว้บนตัก ต้นหยกเองก็มองหน้าชุนด้วยความรู้สึกเศร้า เธอเห็นใจเส้นฟางจริงๆ แต่เส้นฟางทำตัวเองทั้งนั้น ถ้าเส้นฟางไม่ได้นอกกายนอกใจชุนอาจจะไม่หันกลับมามองเธอเลยก็ได้“ไม่สงสารเฮียหรอคะ?”“สงสารเรื่องอะไรคะ เฮียก็ดูดี๊ด๊าปกติดีนี่คะ”“โธ่...เฮียก็เสียใจนะคะ แต่ก็ต้องขอบคุณที่ทำให้เฮียมองเห็นอะไรรอบตัว ถึงได้ยังให้เงินไปตั้งตัว”“นั่นสิคะ เจินเองก็สงสารพี่เส้นฟางเหมือนกั”
..ช่วงเย็นหลังจากที่ชุนช่วยเฮียตงเคลียร์งานเสร็จก็ได้บอกต้นหยกว่าเขาต้องไปเคลียร์งานที่ผับต่อ เฮียตงเลยจะอาสาไปส่งต้นหยกเองที่บ้าน เพราะต้นหยกยังอยากทำงานต่ออีกสักหน่อยช่วยเฮียตง ชุนจึงขับรถออกมาจากบริษัทพร้อมกับตรงไปยังผับดังที่เขาเป็นเจ้าของอยู่ รถคันหรูของชุนแล่นไปจอดที่ประจำ ก่อนตัวเขาจะเดินเข้าผับไประหว่างทางก็เหมือนเช่นเคย ทุกคนที่เดินผ่านต่างให้ความเคารพเขา ก่อนที่ลูกน้องคนสนิทจะวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ชุนขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรลูกน้องของเขาจึงรีบพูดขึ้น“คุณชุนครับ...ไอ้เสี่ยพงษ์มารอพบ...”“คราวนี้มึงไปติดหนี้อะไรอีก ไหนมึงบอกว่าเลิกแล้ว?”“ผมเลิกแล้วครับ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม แต่เป็นเด็กที่ชื่อถิงอะไรนี่แหละ”“อ้อ...งั้นหรอ”ลูกน้องพยักหน้ารัวๆ ชุนเองก็พยักหน้าตอบรับเป็นเชิงบอกว่าเข้าใจแล้วก่อนจะตั้งท่าเดินไปยังห้องทำงานของตนอย่างไม่ได้นึกเกรงกลัว เพราะเขารู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องมีวันนี้ และเขาเองก็เตรียมข้อเสนอไว้
..“คุณชุนท่าทางแปลกๆ ดึงถิงเข้าไปในห้องตอนนี้อยู่กันสองต่อสองในห้องค่ะ คุณหยกรีบมานะคะ!!”เสียงของอาลี่ดูเป็นกังวลและช็อกมาก แต่คนที่ช็อกมากกว่าน่าจะเป็นปลายสาย ต้นหยกวางโทรศัพท์ลงอย่างช้าๆ พลางมองเหม่อไปข้างหน้า ใจหนึ่งก็ไม่อยากเชื่อใจหนึ่งก็กลัวว่าจะเป็นอย่างนั้น เฮียตงที่ขับรถอยู่ข้างมองสีหน้าของต้นหยกก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะถามขึ้น“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”“เฮียชุน...เอ่อ...พาเด็กที่หยกรับมาเลี้ยงเข้าห้อง...”“เฮ้ย!! จริงหรอ? แต่เฮียว่ามันแปลกๆ อยู่นะ อาจจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็ได้หรือไม่ก็เป็นการเข้าใจผิดกัน”“หยกก็หวังให้เป็นแบบนั้นค่ะ”..ถิงตกใจสุดตัวที่อยู่ๆ ชุนก็เรียกเธอว่าต้นหยกแล้วดึงเข้าห้องพร้อมกับเหวี่ยงเธอลงบนเตียง ถิงแทบจะร้องออกมาไม่ได้เพราะไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ ชุนมีอาการแปลกๆ หายใจหอบ น้ำเสียงแหบพร่า ถิงทำให้ได้แค่มองคนที่คร่อมทับร่างของตนน้ำตาใสไหลลงอาบสองแก้ม ในใจกลัวจะไม่ได้กล้าข
..“ถิงไม่ยอมออกมาเลยค่ะ น่าจะยังตกใจอยู่ ลี่เลยให้พักสักวัน”“อือ...ฝากดูแลด้วยนะ เดี๋ยววันนี้ฉันจะรีบกลับ”“ได้ค่ะ...แล้ว...วันนี้คุณหยกไปทำงานเองหรอคะ?”“อือ”อาลี่ทำหน้าไม่สบายใจอยู่พักหนึ่ง และต้นหยกก็สังเกตเห็น มันเป็นท่าทางที่เดาได้ไม่ยากว่าอาลี่กำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่ ต้นหยกเลยจับไปที่บ่าของอาลี่เบาๆ“ไม่มีอะไรหรอกอย่าคิดมากเรื่องฉันเลย เฮียชุนแค่ยังไม่ตื่น ฉันก็ไม่อยากกวนก็แค่นั้น”“ก็ลี่เป็นห่วงคุณหยกนี่คะ คุณหยกต้องมาเจอแต่เรื่องแบบนี้”“ขอบใจนะ”ต้นหยกยิ้มให้กับสาวรับใช้ที่ทำหน้าเศร้า ก่อนทั้งคู่จะพากันเดินไปห้องอาหาร แต่วันนี้ต้นหยกกลับดื่มแค่กาแฟแล้วรีบออกไปทำงานทันที ถิงที่ยืนแอบมองอยู่ไม่ไกลเมื่อเห็นต้นหยกออกไปก็รีบเข้ามาหาอาลี่ทันที“คุณหยกโกรธฉันไหมจ้ะพี่ลี่”“โกรธอะไรล่ะ ยังถามหาด้วยซ้ำ ตอนเย็น
..หลังจากที่ชุนปรึกษาเฮียตงและช่วยงานจนถึงช่วงสี่โมงเย็น ก็ได้ขอตัวออกไปทำงานที่ผับต่อ เพราะยังต้องเคลียร์งานหลายอย่างที่นั่น แต่เขาก็ยังไม่วายส่งข้อความบอกต้นหยกไว้ แต่เธอกลับอ่านแล้วไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ชุนจึงทำได้เพียงส่งรูปถ่ายบอกตลอดว่าเขาอยู่ไหนทำอะไรอยู่ต้นหยกที่ได้รับข้อความของชุนก็นั่งมองภาพที่เขาส่งมาให้เป็นระยะ ก่อนจะแอบยิ้มออกมา แต่ความคิดหนึ่งก็แทรกขึ้นมาว่า ถ้าวันหนึ่งเขาเปลี่ยนไปจริงๆ เธอจะคาดหวังหรืองี่เง่ากับเขาหรือเปล่า แล้วถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นความรักของเธอกับสามีจะลดลงไปจนถึงจุดจบหรือเปล่า ใบหน้าสวยสลดลงเล็กน้อย เพราะเธอแอบรักเขามาตั้งแต่เด็ก จุดจบจึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับเธอ ซึ่งแตกต่างจากเขา...เขารักเธอหรือเปล่ายังไม่รู้เลย...หรือแค่รู้สึกผิดไม่ก็หน้าที่...ชุนละจากโทรศัพท์ก่อนจะหันไปเคลียร์งานต่อ เพราะรู้ดีว่ายังไงเธอก็ไม่ตอบกลับมาอยู่ดี ก่อนที่ชัยจะเคาะประตูแล้วเดินเข้าห้องทำงานมา ชุนปรายตามองเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถาม“มีอะไร?”“คุณชุนจะรับเครื่องดื่มอะไรไหมครับ?”“
..ต้นหยกสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะแสงแดดที่สาดส่องมายังเตียงที่เธอนอนอยู่ โชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุดจึงไม่จำเป็นต้องตื่นเช้า ต้นหยกมองโทรศัพท์ของตนก็เห็นว่าไม่มีข้อความใดๆ เข้ามาอีก บนเตียงของเธอก็ว่างเปล่าไม่มีร่องรอยของผู้มาเยือน เธอมองนาฬิกาในโทรศัพท์ก็พบว่ามันจะสิบโมงแล้ว จึงลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวสบายๆ แล้วลงไปข้างล่างอาลี่เห็นต้นหยกลงมาพอดีก็รีบเดินเข้าไปหาทั้งที่ยังถือโทรศัพท์อยู่ สีหน้าดูเป็นกังวลก่อนจะก้มมองต้นหยกและโทรศัพท์สลับกัน“มีอะไรหรือเปล่า?”“ค่ะ...นัง...เอ่อ เจินส่งข้อความมาตั้งแต่เช้ามืดว่าไม่สบาย ให้พาไปโรงพยาบาลหน่อย แต่ลี่พึ่งมาดูเมื่อกี้นี้ จนตอนนี้เจินยังไม่ออกจากห้องมาเลยค่ะ ไม่รู้เป็นอะไรหรือเปล่า”“อ้าว...งั้นเรารีบไปดูกันเถอะ”“ค่ะๆ”อาลี่เดินนำไปยังห้องเจินพร้อมกับถือพวงกุญแจสำรอง ก่อนจะไขประตูแต่ปรากฏว่าประตูกลับไม่ได้ล็อก อาลี่ขมวดคิ้วสงสัยไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วเปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นทำเอาอาลี่ถึงกับช็อกค้าง ต้นหยกมอ
..“ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกับพ่อ”เจินอึ้งนิ่งค้างเมื่อชัยพูดขึ้น ในใจรู้สึกหวั่นอยู่ไม่น้อยแต่ก็คิดหาทางออกไม่ได้ ทำได้แต่ยืนนิ่ง ก่อนจะรีบคว้าแขนของผู้เป็นพ่อพร้อมกับมองด้วยสายตาร้องขอ ชัยเบือนหน้าหนีไม่กล้ามองหน้าลูกสาวของตนเพราะกลัวจะใจอ่อนอีก“ฉันจะออกค่าใช้จ่ายที่ต้องตรวจให้ ตรวจให้ครบทุกตารางนิ้วทุกโปรแกรม”ชุนพูดเสียงนิ่งเรียบและหนักแน่น ก่อนจะหยิบเช็กเงินสดที่เตรียมไว้ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของตนออกมา ยื่นให้ลูกน้องของตน ชัยก้มมองตัวเลขบนเช็กก่อนจะรีบเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายตน“ทำไมมันมากขนาดนี้ล่ะครับ? ผมไม่กล้ารับไว้หรอกคุณชุน แค่นี้ผมก็รู้สึก...”“ให้ค่าเสียเวลา...และค่าเลี้ยงดูลูกของมึง กูอยากให้มึงเลี้ยงดูมันให้ดี ไม่ให้ไปทำเรื่องแบบนี้อีก”“เจินไม่ไปนะคะคุณชุน เจินขอโทษ...อย่าไล่เจินออกไปจากบ้านนี้เลยนะคะ เจินจะไม่ทำอีกแล้ว”เจินแทบจะคุกเข่าตรงหน้าชุน พร้อมกับขอร้อ
..เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด!!!“อ๊า อ๊า อื้อ”สะโพกพลิ้วสวนกระแทกหนักหน่วงและรุนแรงขึ้นจนเตียงโยกไปมา เสียงครางของเขาและเธอสลับกับเสียงของเตียงที่ดังเอี๊ยดอ๊าดตามด้วยเสียงกระทบของเนื้อหน้าขาและบั้นท้ายงอนงาม บทเพลงรักที่ยาวนานจนเกิดเสียงฉ่ำแฉะอยู่กึ่งกลางของทั้งสองร่างที่เชื่อมต่อกันไม่มีหลุด แม้ว่าจะโยกเข้าออกจนสุดก็ไม่อาจจะทำให้ทั้งสองร่างหลุดออกจากกันความเสียวซ่านเริ่มรุนแรงทวีคูณถาโถมเข้ามาหาคนทั้งสอง มือหนาบีบคลึงเต้าตึงไม่พัก ส่วนมืออีกข้างเอื้อมไปจับที่หัวเตียงยึดรั้งตัวไว้ก่อนจะเร่งสะโพกพลิ้วกระแทกเข้าสุดอย่างรุนแรงและถี่ยิบ ต้นหยกกำหมอนไว้แน่นเพื่อระบายความเสียวและจุกช่องท้องไปหมด“อ๊า อ๊า อ๊า...อ๊ะ อ๊ะ!!”“ฮื่มมมม...อา”สะโพกรัวซอยถี่ยิบคิ้วเข้มขมวดชนกันแน่น ยิ่งกระแทกเข้าออกยิ่งทำให้รู้สึกเสียวซ่านจนตัวเกร็ง ความหนักหน่วงของแรงกระแทกไม่ได้แผ่วลงเลย คนใต้ร่างร้องครางเหมือนใจจะขาด ก่อนที่ทั้งสองร่างจะกระดุกเกร็งปลดปล่อยความเสียวกระสันพ
..หลังจากที่ต้นหยกออกไปส่งเฮียตงและซินกลับมา เธอก็เดินมาหาชุนแล้วทำท่าหยิบกระเป๋าของตน ชุนนอนคะแคงเท้าศีรษะอย่างงงๆ ว่าต้นหยกจะไปไหน“จะไปไหนหรอคะ?”“หยกว่าจะไปหาอะไรมาให้ทานน่ะค่ะ แล้วว่าจะกลับเลย”“ได้ไง...ไม่อยู่เฝ้าหรอ?”ชุนพูดพร้อมกับหน้าน่าสงสาร ต้นหยกมองสีหน้าของเขาก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ที่ชุนเข้าใจผิด แต่ว่าเธออยากจะแกล้งคนตรงหน้าเสียหน่อย เพราะเธอเองก็โดนเขาแกล้งมาเยอะ เห็นทีจะต้องเอาคืนบ้างแล้ว“เฝ้าทำไมคะ? ก็เห็นบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่บอกหมอให้ทำแผลดูโอเว่อร์เท่านั้น พรุ่งนี้หยกต้องไปทำงานไม่มีเวลามาเยี่ยมนะคะ อาจจะมาเย็น”“สามีเป็นขนาดนี้ไม่อยู่ดูแลหน่อยหรอ...งานน่ะหยกไม่ทำก็ได้นะ เฮียเลี้ยงได้ เฮียดูแลหยกได้”“ดูแลตัวเองไปก่อนนะคะ หายดีค่อยมาดูแลหยกเนอะ”“โธ่..หยก”ชุนเอื้อมมือไปจับแขนเธอเขย่าเบาๆ พร้อมกับทำหน้าออดอ้อนน่าสงสารสุดฤทธิ์ ต้นหยกอดที่จะหัวเราะออ
..“เอ่อ...ยะ...หยก...ใจเย็นๆ ก่อน”ต้นหยกเดินเข้าไปใกล้ชุนพร้อมกับหน้าเขาด้วยสายตานิ่งเรียบ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเสียใจจนชุนถึงกับหุบยิ้มแทบจะทันที เพราะตอนแรกเธอคิดมากมายว่าจะดูแลยังไงต้องศึกษาอะไรบ้างเพื่อให้เขากลับมาเดิน เธอวางแผนทุกอย่างไว้ในหัว แต่กลับมารู้ความจริงแบบนี้ ชุนจะเอื้อมมือไปจับมือเล็กแต่ต้นหยกกลับหันหลังแล้วเดินไปในทันที“ต้นหยก! โอ๊ยยย!!!”“คนไข้! อย่าพึ่งลุกสิครับ”ชุนรีบลุกขึ้นอย่างลืมตัวก่อนจะทรุดตัวลงนั่งพร้อมร้องลั่น มือเอื้อมไปจับที่ข้างลำตัว เพราะมันตรึงแผลที่อยู่ด้านหลัง ต้นหยกตอนแรกที่ไม่คิดจะหันกลับพลางคิดว่าเขาคงลองใจเธออีก แต่พอได้ยินเสียงบุรุษพยาบาลเธอก็รีบหันกลับไปมองแล้ววิ่งเข้าไปหาชุนทันที ต้นหยกพยุงเขาลุกขึ้นจากพื้นโดยมีบุรุษพยาบาลช่วยอีกแรงเพี๊ยะ!!“โอ๊ย! หยกตีเฮียทำไมเนี่ย”“อยากดื้อทำไมล่ะคะ คนบ้านี่! ลองใจอะไรก็ไม่รู้...คนเขาเป็นห่วงนะ&rdquo
..ต้นหยกและชุนเดินออกมาจากลิฟท์ของบริษัทก่อนจะเดินไปยังลานจอดรถโดยที่ชุนไม่แม้แต่จะยอมปล่อยมือที่จับมือต้นหยกไว้เลย ต้นหยกเองก็เขินไม่น้อย คำพูดที่เขาบอกรักยังคงก้องอยู่ในหัวเด่นชัด ใครจะไม่ใจอ่อนไหว การกระทำตลอดเกือบหนึ่งเดือนเต็มที่เขาตามตื้อตามง้อและทำหลายๆ เพื่อเธอโดยไม่บ่นสักคำ แต่...มันจะดีแค่ช่วงแรกรักหรือเปล่านะ ต้นหยกเองก็แอบกังวลเช่นกัน คงต้องดูกันไปอีกยาว นั่นหมายความว่าเธอจะลองให้โอกาสเขาอีกสักครั้งนั่นเอง“ไปหาอะไรกินกันไหมคะ? เพราะเมื่อกี้กินบะหมี่ไปนิดเดียวเองไม่ใช่หรอ?”“ก็เพราะใครล่ะคะ”“เฮียก็หิวเหมือนกันนะคะ”“ไม่เหมือนกันสักหน่อย”ต้นหยกหันไปทำหน้าดุแต่ใบหน้าของเธอกลับแดงเรื่อด้วยความเขิน นึกว่าตัวเองจะตายเสียแล้ว นี่สินะที่เขาบอกว่าอย่าปล่อยให้สามีหิวมากๆ ชุนมองต้นหยกแล้วหัวเราะออกมา อย่างน้อยเธอก็ยอมใจอ่อนแล้วทั้งสองเดินไปพลางหยอกล้อกันโดยไม่ได้สนใจรอบๆ ตัวเลย เหมือนโลกทั้งใบมีแต่พวกเขาจนลืมสังเกตหญิงสาวที่เดินตามหลังพวกเขามาติด
..“เส้นฟาง...เธอมาทำอะไรที่นี่?”“ฟางคิดถึงพี่ชุนมากๆ เลยค่ะ”เส้นฟางเดินเข้าไปกอดชุนแน่น ชุนตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของเธอ เพราะตั้งแต่เธอออกจากบ้านไป เส้นฟางไม่เคยติดต่อกลับมาหาเขาเลยสักครั้ง แล้วอยู่ๆ เธอก็โผล่มา คงไม่ใช่เพราะคิดถึงจริงๆ หรอก แต่คงจะเป็นเพราะเงินที่เขาให้ไปก่อนออกจากบ้านหมดแล้วเป็นแน่“คุณเส้นฟาง ปล่อยผม”“ทำไมถึงพูดห่างเหินแบบนั้นล่ะคะ พี่ชุนไม่รักฟางแล้วจริงๆ หรอคะ?”ชุนพูดพร้อมกับพยายามดันตัวของเส้นฟางออกด้วยมือข้างที่เหลืออยู่ แต่เส้นฟางกอดเขาแน่นไม่ยอมเป็นปล่อย จนเขาต้องออกแรงผลักเธออย่างแรงจนเซล้มไปกับพื้น เส้นฟางหันไปมองหน้าชุนพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อคลอ ชุนเห็นอย่างนั้นก็ทำท่าว่าจะเข้าไปช่วยแต่ก็ชะงัก ถ้าเขาใจดีเธอคงไม่คิดจะยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่ ชุนจึงตัดสินใจเลือกที่จะเดินผ่านเธอไปอย่างเงียบๆ“พี่ชุน!! ทำไมถึงได้ใจร้ายกับฟางแบบนี้!!”ชุนหยุดชะงักครู่หนึ่งแต่ไม่หันกลั
..หลังจากที่ทานอาหารกันเรียบร้อย ทุกคนก็ต่างแยกย้ายไปอาบน้ำและเข้าห้องนอนของตัวเอง ชุนเอนตัวลงนอนบนโซฟาหลังจากอาบน้ำเสร็จ และแน่นอนว่าโซฟามันไม่ได้นอนสบายอย่างที่คิดเลย แต่เขาก็ต้องอดทนให้ได้ และคิดว่าเดี๋ยวก็คงจะชินไปเอง ไฟในบ้านถูกปิดจนมิดสนิท ชุนนอนเอาแขนก่ายหน้าผากพลางคิดวิธีง้อต้นหยก ก่อนที่เขาจะหลับตาลงเพื่อพักสายตาเสียหน่อยผ่านไปได้พักหนึ่ง เสียงฝีเท้าที่แผ่วเบาก็ดังขึ้นและเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ชุนที่หลับตาอยู่นิ่งไม่ขยับรอฟังเสียงฝีเท้านั้นอย่างเงียบๆ ไม่นานเสียงนั้นก็หยุดลงข้างๆ ที่เขานอน ก่อนจะรู้สึกถึงบางอย่างที่สัมผัสร่างกาย ผ้าห่มที่เขาร่นไว้ตรงขาได้เลื่อนขึ้นมาบนตัวเขาจนถึงอก ชุนยกยิ้มก่อนจะคว้าข้อมือเล็กที่จับผ้าห่มอยู่นั้นกระชากลงมาเข้าหาตน“อ๊ะ!!! เฮียชุน!! ยังไม่หลับทำไมต้องแกล้งหลับด้วย”“ถ้าไม่แกล้งหลับจะรู้หรอว่ามีคนจะลักหลับเฮีย”“บ้า! ปล่อยนะคะ!”ชุนยังคงกอดต้นหยกที่เซล้มลงมาบนตัวเขาไว้แน่น ถึงแม้จะมืดแต่เขาจำกลิ่นตัวของเธอได้ดี ต้นหยกดิ้นขลุกขลักอยู
..“อ้าว...แล้วทำไมมึงไม่พูดล่ะ”“ก็บอกแล้วไง ว่าพูดไม่ออก...มันยากนะเว้ยเฮีย”ชุนหันไปพูดกับเฮียตงหลังจากที่มาปรึกษาเรื่องทั้งหมด เขาสิงสถิตอยู่ที่นี่เป็นชั่วโมง เพื่อขอวิธีบอกรักง่ายๆ แต่กลับโดนเฮียตงถามย้ำอยู่อย่างนั้นจนถึงตอนนี้“ก็กูถึงถามเป็นรอบที่ล้านอยู่นี่ไงว่าทำไมไม่พูด แค่พูดมันยากตรงไหน?”“ผมก็ตอบรอบที่ล้านไปแล้วไงเฮีย ปรึกษาได้เรื่องไหมล่ะวันนี้”“ติดตรงไหน? ไหนมึงลองบอกกูดิ”“ติดตรงปากนี่แหละ อีกอย่างต้นหยกก็ไม่คิดจะฟัง หนีผมอย่างเดียว”“มึงก็พูดออกไปเลยสิวะ จะฟังไม่ฟังก็เรื่องของเขา”“ก็บอกอยู่นี่ไงว่าพูดไม่ออก”“พี่น้องคู่นี้จะทะเลาะกันอีกนานไหมล่ะเนี่ย หือ?”ซินเดินเข้ามาพร้อมกับจานขนมและชา ก่อนจะวางของว่างนั้นแล้วนั่งลงข้างๆ เฮียตง ชุนทิ้งตัวเอนหลังพร้อมกับหยิบขนมเข้าปากอย่างเซ็งๆ ซินส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดขึ้น&ldq
..หลังจากที่ชุนได้ฟังฟังเฮียตงเทศนามหาชาติแล้วก็รีบขับรถตรงดิ่งมายังบ้านของตน ก่อนจะรีบร้อนวิ่งเข้าไปในบ้าน ในใจภาวนาว่าต้นหยกจะยังไม่ออกไป อาลี่เห็นชุนกลับเข้ามาก็รีบเดินเข้าไปรับพร้อมกับทำหน้าเศร้า“นายหญิงล่ะ?”“ไปแล้วค่ะ ไปพร้อมกับถิง”“แล้วทำไมไม่ห้ามไว้ล่า”“ลี่ถามแล้วค่ะ แต่คุณหยกบอกว่าจะแวะมาเยี่ยมบ่อยๆ ฮึกๆ”อาลี่พูดพร้อมกับปาดน้ำตาและร้องไห้กระซิกๆ ชุนมองไปทั่วบ้านด้วยความหงุดหงิดก่อนจะรีบเดินออกจากบ้านแล้วขึ้นรถที่จอดไว้พร้อมกับขับออกไปอย่างรวดเร็ว เขาต้องไปในที่ที่ต้นหยกอยู่ ไม่ว่าเธอจะออกมาเจอหน้าเขาหรือไม่ก็ตามชุนขับรถตรงมายังบ้านป๊ากับม๊าของต้นหยก ก่อนจะจอดรถแล้วรีบเดินเข้าบ้านไป ก็เห็นว่าป๊ากับม๊านั่งทำสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ที่ห้องรับแขก แต่กลับไม่เห็นต้นหยกนั่งอยู่ด้วย ชุนจึงเดินเข้าไปหาทั้งสองคน ป๊าเฉินกับม๊าซิ่วเงยหน้าขึ้นมองชุนด้วยความตกใจเล็กน้อย ชุนมองทั้งสองก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าแล้วยกมือไหว้ด้วยสายตาที่ดูเศร้าสร้อย 
..“ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกับพ่อ”เจินอึ้งนิ่งค้างเมื่อชัยพูดขึ้น ในใจรู้สึกหวั่นอยู่ไม่น้อยแต่ก็คิดหาทางออกไม่ได้ ทำได้แต่ยืนนิ่ง ก่อนจะรีบคว้าแขนของผู้เป็นพ่อพร้อมกับมองด้วยสายตาร้องขอ ชัยเบือนหน้าหนีไม่กล้ามองหน้าลูกสาวของตนเพราะกลัวจะใจอ่อนอีก“ฉันจะออกค่าใช้จ่ายที่ต้องตรวจให้ ตรวจให้ครบทุกตารางนิ้วทุกโปรแกรม”ชุนพูดเสียงนิ่งเรียบและหนักแน่น ก่อนจะหยิบเช็กเงินสดที่เตรียมไว้ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของตนออกมา ยื่นให้ลูกน้องของตน ชัยก้มมองตัวเลขบนเช็กก่อนจะรีบเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายตน“ทำไมมันมากขนาดนี้ล่ะครับ? ผมไม่กล้ารับไว้หรอกคุณชุน แค่นี้ผมก็รู้สึก...”“ให้ค่าเสียเวลา...และค่าเลี้ยงดูลูกของมึง กูอยากให้มึงเลี้ยงดูมันให้ดี ไม่ให้ไปทำเรื่องแบบนี้อีก”“เจินไม่ไปนะคะคุณชุน เจินขอโทษ...อย่าไล่เจินออกไปจากบ้านนี้เลยนะคะ เจินจะไม่ทำอีกแล้ว”เจินแทบจะคุกเข่าตรงหน้าชุน พร้อมกับขอร้อ