ห้องเช่าอพาร์ตเม้นต์สองหนุ่มมาเฟียลงจากรถตัวเองแล้วยืนมองตึกห้องเช่าที่ออกจะทรุดโทรม ข้าง ๆ มีคนงานตั้งวงนั่งเมาสุรากันตั้งแต่หัววัน สภาพแต่ละคนแทบจะดูไม่ได้ หากดึกดื่นคงจะอันตรายน่าดูถ้าเดินผ่านกลุ่มขี้เมาพวกนี้“พี่แน่ใจนะว่าแพรพักอยู่ที่นี่” เคนตะส่ายหน้าเบา ๆ เมื่อทอดสายตามองสภาพแวดล้อม“ไอ้อดัมเป็นคนสืบ” แค่คริสเตียนเอ่ยชื่อลูกน้องคนนี้ก็สามารถเรียกความมั่นใจให้กับเคนตะได้แล้วตั้งแต่กลับจากฮันนีมูนเขาก็สั่งให้อดัมทำหน้าที่นี้โดยปิดเป็นความลับไม่ให้คางูยะรู้ว่ากำลังตามหาผู้หญิงที่ชื่อ แพร์พีญา หรือ แพร ผู้หญิงที่ขาดการติดต่อจากพวกเขาเกือบห้าปีเต็ม“ว้าววว หล่อจัง มีไรถามแนนนี่ได้นะคะ แนนนี่เป็นเจ้าของตึกนี้” ลูกสาวเจ้าของอพาร์ตเมนต์ตกตะลึงกับภาพตรงหน้า รีบวิ่งแจ้นเข้ามาทักทาย“ตึกนี้มีคนพักชื่อแพร์พีญารึเปล่า” เคนตะเป็นฝ่ายถามก่อน“แพร์พีญา!” มืออวบเกาศีรษะตัวเอง ทวนชื่อนั้นซ้ำ ๆ แต่ก็ไม่คุ้นหรือเคยได้ยินมาก่อน“รู้จักไหม” ร่างสูงใหญ่ของคนเป็นน้องถามอีกครั้ง“ไม่อ่ะค่ะ”“...” ทำให้เคนตะหันไปมองหน้าคริสเตียนถามด้วยสายตาว่าจะเอาไงต่อ“แน่ใจนะว่าไม่เคยได้ยิน” เสียงนิ่งเรียบเอ่ยออกม
ลมแอร์พัดผ่านผิวขาวเนียนที่โผล่จากผ้าห่ม ทว่าคนตัวเล็กไม่ได้รู้สึกแหนบหนาวเลยสักนิด ไม่รู้เป็นเพราะความร้อนรุ่มในร่างกายหรือไออุ่นจากคนข้าง ๆ ที่นอนกอดเธออยู่เพราะตอนนี้เขาและเธอไม่มีเสื้อผ้าติดตัว นอนกอดกันโดยที่เนื้อแนบสัมผัสกันอย่างว้าวุ้น ขยับติดนิดเดียวก็เล่นเอาเสียวซ่านเหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านตลอดเวลา“พี่เคน”“อือ” เขาขานรับเพียงในลำคอ“เรื่องของเรา...” คัพเค้กสลัดความร้อนรุ่มออกจากหัวก่อน อยากพูดในสิ่งสำคัญสำหรับเขาและเธอมากกว่า“...” เคนตะนอนฟังเงียบ ๆ คาดเดาได้ตั้งแต่เธอเรียกชื่อเขาแล้ว“เค้กพร้อมแล้วนะคะ เค้กไม่อยากพิสูจน์อะไรอีกแล้ว” เธอพร้อมแล้วเพราะตอนนี้บาดแผลในอดีตมันไม่หลงเหลืออีกแล้ว ในหัวใจตอนนี้มีแต่คำว่า ‘รัก’ คำเดียวแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเข้ามายืนตรงกลางใจ ยืนที่เดิมที่เขาอยู่มาตลอด“ไม่อยากพิสูจน์แล้วเหรอ”“ไม่แล้วค่ะ เราจะบอกเรื่องของเรากันพรุ่งนี้ดีไหมคะ” คัพเค้กเงยหน้าขึ้นไปสบตาและรอคำตอบ“...” เขาส่งยิ้มเพียงแววตา ก่อนจะพยักหน้ารับ“ทำไมพี่เคนดูไม่ดีใจเลย” คนชั่งสังเกตขมวดคิ้วถาม“คิดมากอีกแล้วที่รักของพี่” เคนตะจึงก้มลงมาจูบขมับหนัก ๆ เพื่อปลอบโยนแต่แล
ห้องลับสองพี่น้องนั่งประชุมภายในห้องลับโดยมีปลายสายจากญี่ปุ่นร่วมวางแผนด้วย(สรุปว่ามันเป็นใคร) คูเปอร์ถามด้วยความสงสัยและเหนื่อยกับการต้องลุ้นอยู่ตลอด“ยังไม่เคยเห็นหน้า กูจะรู้ไหม” เคนตะที่ทำงานนี้หลักบอกอย่างกวน ๆ“อะไรของมึง ทำไมยืดเยื้อจังวะ” คริสเตียนส่ายหน้ากับผลงานที่ล่าช้า“นัดกี่ครั้ง มันก็ไม่มา อุตส่าห์ไปดักรอก่อน แต่ก็ไม่เจอ แล้วแบบนี้กูจะเอาอะไรมายืนยันกับพวกมึง”“มึงคิดจะขโมยข้อมูลอย่างที่รวงข้าวเคยทำเหรอ”“ไม่แน่ใจวะ” เคนตะไม่สามารถตอบได้เลยว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้าอยู่กับอะไร ไม่รู้เป้าหมายต้องการจะฆ่าเขาหรือล่วงความลับกันแน่ “นี่ปู่เงียบ ๆ ไปไม่รู้มีแผนอะไรรึเปล่า” ก่อนจะนึกถึงอีกคนที่ตั้งแต่สั่งให้ดูแลคัพเค้กก็ไม่ยอมออกจากห้อง ปรากฏให้เห็น(รีบลงมือ) ปลายสายจากญี่ปุ่นเงียบฟังพี่ ๆ พูดอยู่นาน สุดท้ายก็ปริปากเอ่ยสั่ง“ลงมือเองเลยไหม มึงถนัดงานโหด ๆ ไม่ใช่เหรอ” เคนตะสั่งบ้าง ความจริงงานนี้น่าจะเหมาะกับคริสเตียนหรือไม่ก็คูเปอร์มากกว่า โดยเฉพาะน้องชายที่มีนิสัยเด็ดขาดและใจนิ่ง ไม่โลเลง่าย ๆ ทว่าไม่ว่ากี่ครั้งเป้าหมายก็ยังเลือกเขาในการเข้างาน ผลสรุปเลยต้องเป็นเขาที่ต้องลงมื
โรงแรมหรูร่างสูงใหญ่ตวัดขาลงจากรถสปอร์ตแล้วมุ่งหน้าเข้าโรงแรม เดินเข้าไปดักหน้าร่างสูงอีกคนที่กำลังออกจากที่นั้น“ขอคุยด้วยหน่อย”“ไม่ว่าง” ไมก้าไม่หันไปสบตา เลี่ยงตัวเองเดินหน้าต่อ“แต่เรื่องนี้สำคัญ” เคนตะไม่ละความพยายาม ยังคงรั้งโดยประโยคที่คิดว่าอีกฝ่ายต้องสนใจ“...” แต่ไมก้าไม่กล่าวอะไร“แค่แป๊บเดียว คุยจบจะลุกออกไปก็ได้”ไมก้าตัดสินใจหมุนตัวเข้าโรงแรมอีกครั้ง ทว่าเคนตะกลับเอ่ยต่อ “ขอเปิดห้องนะ”“งั้นกูไม่คุย” ดวงตาคมตวัดมามองด้วยหางตา ปกติแล้วถ้าเป็นคริสเตียนจะเป็นเขาเองที่เข้าไปหาเรื่อง แต่กับเคนตะเขารู้ว่าร่างสูงใหญ่ไม่ได้อย่างยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจ จึงไม่อยากใส่ใจนัก“ถ้าไม่สำคัญ กูจะมาคุยกับมึงก่อนมั้ย”“เออ เปิดก็เปิด”ภายในห้องส่วนตัว ทั้งคู่ต่างจ้องหน้ากันสักพักใหญ่ ก่อนที่คนที่คิดจะเจรจากล่าวออกมาก่อน“เรื่อง...คนที่ฆ่าพ่อแม่เรา”“หึ เรื่องนี้มึงกลับไปถามปู่มึงเองเถอะ น่าจะรู้รายละเอียดดี” ไมก้าคิดมาตลอดว่าเรื่องนี้ต้องมีคนรื้อฟื้นขึ้นสักวัน และเขาเองก็รอเวลานี้มานาน เวลาที่จะได้ชำระแค้นให้กับวงตระกูล“จนป่านนี้มึงยังเข้าใจว่าเป็นปู่กูอีกเหรอวะ” เคนตะถามกลับทันที“กูไม่รู้
โรงแรมหรู (สองวันต่อมา)ชายวัยกลางคนเข้ามาในโรงแรมเพื่อพบเจ้านายตัวเอง“นายน้อยล่ะ”“ด้านในครับ”ตึกตึก! ไมก้าหยุดนิ่ง มองคนที่กล้าขัดคำสั่ง และมาปรากฏตัวตรงหน้าในวินาทีนี้“อาไรอันจะมา ทำไมไม่บอกผมก่อน” เขาถามเสียงนิ่งเรียบ“อาเคลียร์งานเสร็จหมดแล้ว ก็เลยตามมา”“แต่ผมไม่ได้จะมาอยู่ไทยนาน ไม่จำเป็น” ไมก้าเอ่ยอย่างไม่ไว้หน้า“ช่วงนี้นายน้อยดูมีลับลมคมใน นายน้อยคิดจะทำอะไร” ชายวัยกลางคนถามอย่างเป็นห่วง“เปล่าครับ ผมโตแล้วเลยอยากใช้ชีวิตตามใจตัวเองบ้าง บางทีมันก็เหนื่อยที่ต้องทำงาน ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ”“...” ไรอันถึงกับยิ้มมุมปาก ไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้จากเจ้านาย“ผมขอละครับ ให้ความเป็นส่วนตัวผมบ้าง”“อาไม่ได้จะล้ำเส้น แค่อยากซัพพอร์ตก็เท่านั้น แต่ถ้านายน้อยอึดอัด อาก็จะกลับยุโรป” ชายวัยกลางคนตัดพ้อทันทีแล้วหมุนตัวเพื่อออกจากห้อง“ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น” ก่อนที่ไมก้าจะกล่าวต่อ“ผม แต่อาจะกลับไปดูงานอื่นต่อ นายน้อยไว้ใจอาเถอะ แค่ตามมาดูให้หายห่วง”“ขอบคุณอามากครับ อาดีกับผมเสมอ”ไรอันโค้งศีรษะเล็กน้อยแล้วเดินออกจากห้องฟึ่บ! ไมก้าทิ้งตัวนั่งบนโซฟากลางห้อง หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นเมื่อมี
รถสปอร์ตจอดหน้าคฤหาสน์ตระกูลซามูเอล ไมก้าเดินเข้าไปด้านในโดยไม่สนบอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้า“เข้าไม่ได้!!”“ถอยไป!” เขากดเสียงทุ้มต่ำ จับจ้องไปด้านหน้าเพียงอย่างเดียว“บอกว่าเข้าไม่ได้ไงวะ” บอดี้การ์ดราวสิบคนเข้ามายืนขวางเป็นทางยาว“...” แต่ไมก้าไม่สนดันตัวเองเพื่อจะเข้าไปให้ได้ วันนี้เขาต้องรู้ความจริงให้ได้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นคือใคร“เฮ้ย! ไปบอกนายว่าคุณไมก้าบุกเข้ามาที่นี่” ลูกน้องที่ยืนด้านหน้าสุดกระซิบบอกข้าง ๆ อย่างไว“ได้ลูกพี่”“หลีกไปไงวะ” ตอนนี้ไมก้าทั้งดันทั้งผลัก แต่ก็ไม่สามารถทะลายกำแพงจากแขนหนาของบอดี้การ์ดได้เลยจนกระทั่งลูกน้องวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างลุกลี้ลุกลนเพื่อหาเจ้านายหนุ่ม ที่ตอนนี้กำลังนั่งดูบางอย่างในโทรศัพท์‘อย่าลืมส่งคนมา วันนี้ผมลงมือแล้ว’ ข้อความจากเคนตะส่งตรงเข้าโทรศัพท์มือถือคริสเตียน“มีไร!?” เห็นสีหน้าลูกหน้าแปลกเลยถามทันที“เอ่อ...คุณไมก้าบุกมาที่นี่ครับ”“อืม” คริสเตียนพยักหน้ารับรู้ จนสายตาเหลือบไปเห็นลูกน้องคนสนิท “ไอ้อะเดล ทำไมมึงไม่ตามคัพเค้ก”“คุณหนูไปกับเพื่อนสนิทครับ ไม่ให้ผมตามไป”คริสเตียนพยักหน้าอีกครั้งอย่างเข้าใจเพราะรู้ว่า เพื่อนสนิทคัพเค้กคนนี
“คุณเคนจะไปไหนคะ”“หยุดแสร้งสักที!! คิดว่ากูโง่ดูมึงไม่ออกเหรอวะ” เคนตะหันมามองร่างบอบบางบนเตียงด้วยแววตาแข็งกร้าว ไม่สนว่าตอนนี้เลือดจะไหลมาแค่ไหน“พูดอะไร ช่าไม่เข้าใจ” แต่ชาช่ายังคงเล่นตามบทที่ควรต้องทำหมับ! มือหนาคว้าขาเรียวแล้วลากมานั่งปลายเตียง “เอาโทรศัพท์มาให้กู”“เอาไปทำไรคะ”“อย่าต้องให้กูพูดซ้ำ” เขากดเสียงข่มอารมณ์สุดขีด“ได้ค่ะ ปล่อยสิช่าจะไปเอาโทรศัพท์ในกระเป๋าให้”เคนตะปล่อยมือจากเรียวขา ชาช่าจึงตวัดขาลงจากเตียงอย่างกับผู้หญิงอ่อนแอหมับ! ทว่าคราวนี้เคนตะไม่ได้กระชากเหมือนครั้งก่อน แต่กลับเอื้อมมือไปบีบต้นคอจนสุดแรงบีบ เล่นเอาชาช่าถึงกับกลอกตาไปมา สูดลมเข้าปากเพื่อช่วยให้หายใจสะดวก“ส่งโทรศัพท์มาก่อนที่กูจะหมดความอดทน”ฟึ่บ! ก่อนจะสะบัดมือออกจากลำคอชาช่าเธอไอสำลักจนหน้าดำหน้าแดง “อะอ่ะ!! ทำแบบนี้หมายความว่าไง ช่าเกือบตายรู้”“ด้านขนาดนี้ แค่นี้ไม่ถึงตายหรอก” ร่างสูงที่ไม่ค่อยด่าใครให้ได้ยิน แต่ครั้งนี้เขาไม่สามารถระงับโทสะได้“จะโทษฉันคนเดียว ไม่ทุเรศไปหน่อยเหรอวะ ทีตอนเอาก็ทำด้วยกัน” ชาช่าสวมบทชู้สาวต่อว่าคู่นอนทันที“หุบปาก ถ้าจะพูดสิ่งที่มันไม่จริง” เคนตะชี้หน้าอย่า
“อะไรนะ!!” ไมก้าตะคอกอย่างตกใจ ความลับที่เก็บมาเกือบยี่สิบปีถูกเปิดเผยในวันที่น้องสาวเขาโดนจับตัวไป “น้องสาวฉันโดนจับตัวไปงั้นเหรอ”“อืม ไอ้เคนบอกอย่างนั้น” คริสเตียนพยักหน้ายืนยัน“มันดูน้องสาวกูยังไง ถึงได้ประมาท ถ้าน้องสาวกูเป็นไรไป กูไม่เอาพวกมึงไว้แน่” เขาลุกขึ้นชี้หน้าด้วยความโมโห“ที่มึงพูดถึงก็น้องสาวกูเหมือนกัน” ตามด้วยคริสเตียนที่ส่ายหน้าเหนื่อยหน่ายกับคนหัวร้อน แต่เขาเองก็ร้อนใจไม่ต่างกัน "แล้วมึงจะไปไหน""ตามหาน้องสิวะ" ก่อนจะล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์กดหาใครบางคน"ทำไร!?""ทำไมกูต้องบอกมึงทุกเรื่อง""แต่มึงจำเป็นต้องบอก""หึ ถึงพวกมึงจะเลี้ยงน้องกูมา แต่ก็ไม่สามารถชดเชยชีวิตพ่อแม่กูได้""แล้วชีวิตพ่อแม่กูล่ะ" คริสเตียนถามอย่างข่มอารมณ์ อุตส่าห์ไม่คิดถึงอดีต แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น"กรรมตามสนองมั้ง!!" ไมก้าเค้นเสียงพร้อมรอยยิ้ม เขาเชื่อและปักใจกับสิ่งที่เห็นหมับ!"ไอ้ไมค์!!" คราวนี้มือหนาของคริสเตียนกระชากคอเสื้อฝั่งตรงข้ามทันที"หยุดทะเลาะก่อนเถอะครับ ชีวิตคุณหนูสำคัญกว่าจะมาต่อว่าเรื่องอดีตที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครคือฆาตกร" อดัมเข้าห้ามเมื่อเห็นท่าไม่ดี นอกจากจะเสียเวลาแล้วจ
ฟึ่บ!ฟึ่บ!"พี่เคน นอนไม่หลับเหรอคะ" คนตัวเล็กสะดุ้งตื่นในกลางดึก เมื่อเสียงรบกวนดังมาทางฝั่งเตียงคนไข้"พี่รบกวนเค้กรึเปล่า พอดีรู้สึกคอแห้งน่ะ" ร่างหนาลุกขึ้นนั่งแล้วบอกเสียงแหบแผ่ว"ทำไมไม่บอกคะ" ว่าแล้วเธอก็ตวัดขาลงจากที่นอนแล้วตรงดิ่งไปที่เตียงทันทีหมับ! ทว่าแทนที่เธอจะได้รินน้ำให้กลับโดนรวบตัวขึ้นไปยังเตียงนอน ร่างหนาขึ้นคร่อมอย่างเร็วไว กันไม่ให้คัพเค้กหนีไปได้"พี่เคน โกหกเค้กอีกแล้วนะ""เปล่านะ พี่คอแห้งจริง ๆ" เคนตะขยิบตาเป็นเลศนัยบางอย่าง"ก็ปล่อยเค้กสิคะ จะรินน้ำให้อยู่นี่ไง" มือบางผลักอกแกร่งให้ขยับจากตัว"พี่ไม่ได้อยากกินน้ำเปล่า""...!?""แต่พี่อยากกินน้ำจาก..." มือหนาเลื่อนต่ำลงเรื่อย ๆ "ตรงนี้!" ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกางเกงนอนตัวจิ๋ว"พี่เคน" คัพเค้กตาโตลุกว้าว เข้าใจสิ่งที่เคนตะต้องการทุกอย่าง"..." คราวนี้เคนตะไม่พูดอะไรให้เสียเวลาอีก เคลื่อนตัวเองลงต่ำ จนใบหน้าคมจดจ่อตรงเนินเนื้อที่มีกางเกงปกปิดไว้ลมหายใจโรยรินจนคนตัวเล็กสะดุ้งด้วยความหวาดหวั่น ทำเอาคัพเค้กพลอยหายใจยากลำบากไปด้วย"พี่เคน อย่าทำนะคะ ที่นี่มันโรงพยาบาลนะ" เสียงหวานเอ่ยห้ามไว้เพื่อจะยื้อไม่ให้เกินคว
ร่างใหญ่ทั้งสองเข้ามาในห้องด้วยความเงียบขรึม ปกติก็เงียบอยู่แล้วยิ่งเงียบเข้าไปอีก จากสีหน้า ท่าทาง คงไม่ใช่เรื่องดีนัก"พี่คริส คุณปู่เป็นยังไงบ้างคะ" คัพเค้กเป็นคนเอ่ยถามคนแรกพี่คนโตส่ายหน้าเศร้าหมอง "ไม่ค่อยดี""..." ทุกคนเงียบรอฟังประโยคถัดไป"สมองได้รับกระทบกระเทือน จนเส้นโลหิตแตก อาจจะทำให้ปู่เป็นอัมพาตตลอดไป"สิ้นคำพูดคริสเตียนทุกคนต่างหน้าสลด คนที่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้แก่ตระกูลกำลังอยู่ในช่วงอันตรายของชีวิต คนเป็นหลานต่างร้อนใจ ไม่คิดว่าเรื่องราวพวกนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวพวกเขาอีก"เค้กจะหาคุณหมอเก่ง ๆ มารักษาให้คุณปู่กลับมาเป็นเหมือนเดิม""อืม ฉันจะช่วยอีกแรง ปู่พวกนายต้องหาย" ไมก้าเอ่ยปลอบบ้างทำให้คริสเตียนพยักหน้ารับกลับไป "แล้วนี่มึงเป็นไงบ้าง""ผมไม่เป็นไรง่าย ๆ หรอกน่า" เคนตะบอกพี่ชายคนโตด้วยท่าทีสบาย"หึ กูบอกแล้วให้ฝึกรับมือไว้บ้าง" เพราะไม่ว่าคริสเตียนจะเอ่ยเตือนกี่ครั้ง เคนตะก็ไม่เคยทำตาม บอกแค่ไม่ชอบงานที่ใช้ความรุนแรง ผลสุดท้ายของการไม่รู้วิธีรับมือก็เจ็บตัวอย่างที่เห็น"ผมยอมเพราะผู้หญิงของผมต่างหาก" เคนตะเถียงต่อ"รู้ แต่ถ้ามึงฝึกมือ ว่องไวกว่านี้ ก็อาจจะไม่โด
วันต่อมาคนตัวเล็กเฝ้าดูอาการร่างหนาที่นอนไม่ได้สติไม่ห่างจากเตียง ทั้งกังวลทั้งเป็นห่วง เพราะเวลานี้คัพเค้กรู้เรื่องทั้งหมดจากคริสเตียน สาเหตุที่เคนตะไม่ต้องการเข้าใกล้ หนีหน้า เป็นเพราะไม่อยากให้เธอเป็นอันตราย เมื่อรู้ความจริงหัวใจก็ชื่นขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่บอบช้ำเพราะเรื่องเข้าใจผิด“พี่เคน ฟื้นได้แล้ว” เธอลูบมือหนากระตุ้นให้อีกฝ่ายรับสัมผัสเพื่อจะช่วยให้เคนตะรู้ตัว“เค้กอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่เคน...พี่เคนอย่าทิ้งเค้กนะ ต้องฟื้นมาอยู่กับเค้ก”คัพเค้กยังคงคราญครางไม่ห่าง สีหน้าเศร้าโศกอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่แค่ร่างสูงที่นอนอยู่ตรงหน้า แต่ยังมีคางูยะปู่ของเธอที่อาการน่าเป็นห่วงก๊อก ๆ ก๊อก ๆเสียงเคาะประตูพอจะทำให้คนตัวเล็กหลุดจากภวังค์ เหลียวหน้าไปมองแขกใหม่ทันที“มันยังไม่ฟื้นอีกเหรอ” คริสเตียนเดินนำหน้าและเป็นคนเอ่ยถาม“...” ตามด้วยคูเปอร์ที่เข้าห้องมาเงียบขรึม เหลือบมองพี่ชายเพียงหางตา ไม่สามารถความรู้สึกให้ใครได้เห็น“ยังเลยค่ะ” คัพเค้กตอบเศร้า ๆ“อาการไม่น่าเป็นห่วงแล้ว น้องเค้กไม่ต้องกังวลนะ” รวงข้าวเข้ามาปลอบ ไม่ให้เธอคิดมาก เพราะก่อนหน้านี้ทั้งสามเข้ามาเจอกับหมอประจำไข้ของเ
โรงพยาบาลคนตัวเล็กเดินวนไปวนมาหน้าห้องฉุกเฉิน ภายในห้องคือเคนตะและคางูยะที่ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดี"หยุดเดินได้แล้วเค้ก" คริสเตียนเอ่ยห้ามหลังจากนั่งมองน้องสาวหลายชั่วโมง"เค้กเป็นห่วง ไม่รู้ข้างในเป็นยังไงบ้าง""ถึงมือหมอแล้ว ทุกคนต้องปลอดภัย""เค้กก็ห่วงอยู่ดี" คนตัวเล็กยังคงเดินต่อคริสเตียนทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งมองต่อไป ก่อนที่โทรศัพท์จะมีเสียงเรียกเข้า"พี่ไปรับสายรวงข้าวก่อนนะ" เขาบอกน้องสาวแล้วก้าวเท้าออกจากจุดนั้นทันที"ข้าวไม่ต้องตามมา หมอออกจากห้องแล้วเดี๋ยวพี่โทรไปบอกนะ""พี่ไม่เป็นไร""คร้าบบบ""เฮ้ย! มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ" จู่ ๆ คริสเตียนก็หันไปเห็นด้านหลังตัวเองที่มีไมก้าและคูเปอร์ยืนนิ่งอยู่สักพักแล้ว"ตั้งแต่มึงทำเสียงสอง" ไมก้าตอบทันควันต่างจากคูเปอร์ที่ยืนล้วงกระเป๋านิ่งเฉย"เวรเฮ้ย!" เขาหันไปสบถใส่ไมก้าแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาคุยต่อ "เดี๋ยวพี่โทรกลับนะ""หึ" อดีตเพื่อนสนิทแสยะยิ้มออกมา ไม่เคยเห็นมุมนี้ของเพื่อนมาก่อน"เป็นไงวะ" ทว่าคริสเตียนเลิกสนใจเลือกที่จะถามเรื่องที่โกดังแทน"เรียบร้อย" ไมก้าเป็นคนตอบเหมือนเดิม"แน่ใจ" ทำให้คริสเตียนต้องถามย้ำกับคูเปอร์เพื่อความมั่นใจ
"อาเป็นคนฆ่าพ่อแม่ผมเหรอ!?""จุ๊ ๆ อย่าเพิ่งพูดความหลังกันเลยหลาน ทักทายน้องสาวสายเลือดเดียวกันก่อนสิ" ไรอันพยักหน้าไปฝั่งคัพเค้กที่ใบหน้าซีดเซียว มองหน้าแต่ละคนสลับกันหมับ! มือหนาคว้าปลายคางคัพเค้กบีบรั้งให้เชิดขึ้น"มองหน้าพี่ชายแท้ ๆ คุณหนูชัด ๆ สิจ้ะ""..." เคนตะพยายามลุกขึ้นไปหา ทว่าสภาพตอนนี้แทบดูไม่ได้ ทั้งเสียเลือด ทั้งบวมซ้ำ"อาทำแบบนี้ หมายความว่าไง ตลอดเวลาที่ผ่านมามันคือแผนของอาทั้งหมดเหรอ" คนที่เคยไว้ใจที่สุด กลับหักหลังไม่มีชิ้นดี"ถึงขนาดนี้ยังต้องถามอีกเหรอวะ" คริสเตียนเหลือบไปมองไมก้า เอ๋ยเสริมอย่างรำคาญ"ในเมื่อพ่อแม่พวกมึงไม่เคยเห็นหัวกู แล้วทำไมกูจะทำไม่ได้วะ""เหตุผลแค่นี้!?" คริสเตียนตะคอกถาม"ลองถามปู่มึงสิ ว่ายังมีเหตุผลอื่นอีกไหม""...""บอกหลานสิวะ ความเหี้ยของมึง บอกให้ทุกคนรับรู้ว่าที่คนอื่นเดือดร้อนเป็นเพราะมึง!!""มันเป็นเพราะสันดานมึงเอง...ไรอัน" เคนตะลุกขึ้นยืนแล้วข่มเสียงใส่ แววตาจับจ้องไปยังคนตัวเล็กไม่คลาดสายตา"งั้นกูจะแสดงสันดานที่แท้จริงให้เห็น เริ่มจากเมียมึงก่อนแล้วกัน"คำพูดของไรอันทำเอาไมก้าหันขวับไปมองเคนตะ ต่างกับคางูยะที่นิ่งเฉยเพราะรู้ก่อ
น้ำข้นสีแดงไหลรินอาบแผงอก แต่ทว่าผู้ชายอกสามศอกอย่างเคนตะยังคงนิ่งไม่แสดงอาการบาดเจ็บให้ได้เห็น“เลือด!” คนตัวเล็กถอดสีหน้า มือไม้ชา ปากสั่น ทำไมทุกอย่างเริ่มจะเลวร้ายแบบนี้“กูใส่เสื้อกันกระสุน ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะสาวน้อย” จู่ ๆ ชายสวมหน้ากากเอ่ยขึ้นอย่างมั่นหน้า“ฉันไม่ได้หมายถึงแก ไอ้แก่!!” ความเกรี้ยวกราดของคัพเค้กแสดงออกมาให้เห็นเพี๊ยะ! ส่งผลให้ฝ่ามือหนาฟาดใส่แก้มนวลเต็มแรงทำเอาร่างสูงรีบถลาตัวเข้าไปช่วย แต่ไม่สามารถเข้าถึงตัวคัพเค้กได้ “ปล่อยผู้หญิง แล้วมึงอยากทำอะไรกับกูก็เชิญ”“จะบ้าเหรอพี่เคน พูดงี้มีแต่ตายกับตาย” คัพเค้กเอามือลูบขอบปากที่บวมปูดขึ้นทันตา ตะคอกใส่ผู้ชายที่เธอทั้งรักทั้งหวง“หึ ถึงมันไม่พูดผัวมึงก็ตายอยู่ดี”“ฉันไม่มีผัว” ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์คับขัน ทว่าคนตัวเล็กยังคงขุ่นเคืองเรื่องก่อนหน้านี้ไม่หาย รักมากแค่ไหนก็ต้องห้ามใจ “เขาเป็นพี่ชายฉัน!”“กูอยากจะหัวเราะดัง ๆ ว่าไหมพ่อเลี้ยง”“ก็หัวเราะออกมาสิ ใครเอามือไปอุดปากแกเล่า ประสาท”หมับ! “อีนี่ กูจะให้มึงแดกกระสุนก่อนพี่ ๆ มึง เอาไหมห๊ะ”คัพเค้กกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก รู้สึกภัยจะมาเพราะปากตัวเอง เมื่อมือหน
เมื่อสองขาย่างเข้ามาในโกดัง สิ่งแรกที่ปรากฏตรงหน้าคือชายวัยกลางคนที่คุ้นหน้าเป็นอย่างดี“น้องกูอยู่ที่ไหน!!”“หึ แค่น้องเองเหรอวะ” พ่อเลี้ยงธนินสวนกลับทันที สมเพชพวกถือดีตัวเองเป็นใหญ่ แต่สุดท้ายก็กินน้องตัวเอง ไม่ต่างอะไรกับพี่ชายขนาดเชลยก็ยังยกย่องเป็นเมีย“...” แววตาสีน้ำข้าวกวาดมองไปรอบ ๆ บริเวณนี้มีแค่พ่อเลี้ยงธนินและลูกน้อง ไร้ซึ่งคนที่อยู่เบื้องหลัง“ใจเย็นสิวะ กว่ากูจะเดินมาถึงจุดนี้ไม่ง่ายเลยนะ จะรีบจบเกมไปถึงไหน” แค่เห็นสายตาก็รู้แล้วว่าเคนตะกำลังมองหาอะไร เขาจึงเอ่ยดักไว้“ปล่อยน้องกู แล้วเรื่องของเรากูจะให้มึงสะสางได้เต็มที่” เคนตะกดเสียงต่ำ ข่มอารมณ์ไม่ให้ระเบิดตอนนี้ ไม่งั้นทุกอย่างคงจบแหง่แน่“เรียกพี่ชายมึงมาก่อนสิ เดี๋ยวกูปล่อย” ทว่าพ่อเลี้ยงธนินไม่เคลิ้มตาม บอกสิ่งที่ต้องการ“...” มาเฟียหนุ่มรู้ดีว่านี้คือแผน และเขาจำเป็นต้องเล่นตามแผน“จะให้ดีหน่อย ก็เรียกท่านคางูยะเฒ่าแก่ที่ใกล้ตายมาสะสางความหลังกัน ขาดไปสักคนงานนี้ไม่สนุกนะ”“จะให้ปู่กูออกมา มึงก็ควรเรียกหมาขี้ขลาดออกมาด้วย” เสียงเข้มตอกกลับไปเช่นกัน อยากจะเห็นหน้าเต็มทีแล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือใครพ่อเลี้ยงธน
“อะไรนะ!!” ไมก้าตะคอกอย่างตกใจ ความลับที่เก็บมาเกือบยี่สิบปีถูกเปิดเผยในวันที่น้องสาวเขาโดนจับตัวไป “น้องสาวฉันโดนจับตัวไปงั้นเหรอ”“อืม ไอ้เคนบอกอย่างนั้น” คริสเตียนพยักหน้ายืนยัน“มันดูน้องสาวกูยังไง ถึงได้ประมาท ถ้าน้องสาวกูเป็นไรไป กูไม่เอาพวกมึงไว้แน่” เขาลุกขึ้นชี้หน้าด้วยความโมโห“ที่มึงพูดถึงก็น้องสาวกูเหมือนกัน” ตามด้วยคริสเตียนที่ส่ายหน้าเหนื่อยหน่ายกับคนหัวร้อน แต่เขาเองก็ร้อนใจไม่ต่างกัน "แล้วมึงจะไปไหน""ตามหาน้องสิวะ" ก่อนจะล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์กดหาใครบางคน"ทำไร!?""ทำไมกูต้องบอกมึงทุกเรื่อง""แต่มึงจำเป็นต้องบอก""หึ ถึงพวกมึงจะเลี้ยงน้องกูมา แต่ก็ไม่สามารถชดเชยชีวิตพ่อแม่กูได้""แล้วชีวิตพ่อแม่กูล่ะ" คริสเตียนถามอย่างข่มอารมณ์ อุตส่าห์ไม่คิดถึงอดีต แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น"กรรมตามสนองมั้ง!!" ไมก้าเค้นเสียงพร้อมรอยยิ้ม เขาเชื่อและปักใจกับสิ่งที่เห็นหมับ!"ไอ้ไมค์!!" คราวนี้มือหนาของคริสเตียนกระชากคอเสื้อฝั่งตรงข้ามทันที"หยุดทะเลาะก่อนเถอะครับ ชีวิตคุณหนูสำคัญกว่าจะมาต่อว่าเรื่องอดีตที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครคือฆาตกร" อดัมเข้าห้ามเมื่อเห็นท่าไม่ดี นอกจากจะเสียเวลาแล้วจ
“คุณเคนจะไปไหนคะ”“หยุดแสร้งสักที!! คิดว่ากูโง่ดูมึงไม่ออกเหรอวะ” เคนตะหันมามองร่างบอบบางบนเตียงด้วยแววตาแข็งกร้าว ไม่สนว่าตอนนี้เลือดจะไหลมาแค่ไหน“พูดอะไร ช่าไม่เข้าใจ” แต่ชาช่ายังคงเล่นตามบทที่ควรต้องทำหมับ! มือหนาคว้าขาเรียวแล้วลากมานั่งปลายเตียง “เอาโทรศัพท์มาให้กู”“เอาไปทำไรคะ”“อย่าต้องให้กูพูดซ้ำ” เขากดเสียงข่มอารมณ์สุดขีด“ได้ค่ะ ปล่อยสิช่าจะไปเอาโทรศัพท์ในกระเป๋าให้”เคนตะปล่อยมือจากเรียวขา ชาช่าจึงตวัดขาลงจากเตียงอย่างกับผู้หญิงอ่อนแอหมับ! ทว่าคราวนี้เคนตะไม่ได้กระชากเหมือนครั้งก่อน แต่กลับเอื้อมมือไปบีบต้นคอจนสุดแรงบีบ เล่นเอาชาช่าถึงกับกลอกตาไปมา สูดลมเข้าปากเพื่อช่วยให้หายใจสะดวก“ส่งโทรศัพท์มาก่อนที่กูจะหมดความอดทน”ฟึ่บ! ก่อนจะสะบัดมือออกจากลำคอชาช่าเธอไอสำลักจนหน้าดำหน้าแดง “อะอ่ะ!! ทำแบบนี้หมายความว่าไง ช่าเกือบตายรู้”“ด้านขนาดนี้ แค่นี้ไม่ถึงตายหรอก” ร่างสูงที่ไม่ค่อยด่าใครให้ได้ยิน แต่ครั้งนี้เขาไม่สามารถระงับโทสะได้“จะโทษฉันคนเดียว ไม่ทุเรศไปหน่อยเหรอวะ ทีตอนเอาก็ทำด้วยกัน” ชาช่าสวมบทชู้สาวต่อว่าคู่นอนทันที“หุบปาก ถ้าจะพูดสิ่งที่มันไม่จริง” เคนตะชี้หน้าอย่า