“อยู่ที่นี่แหละใบบัว ปรนนิบัติผัวให้ดี มีลูกชายให้ได้ แล้วเอ็งจะสบายไปทั้งชาติ เชื่อแม่”
“แต่ใบบัวไม่อยากสบายนี่จ๊ะ ใบบัวอยากอยู่กับแม่ ฮึก.. อยู่กับน้อง”
“อย่าดื้อ แม่ขายเอ็งไปแล้วนะใบบัว”
“ใบบัวไม่ดื้อ ให้ใบบัวกลับไปด้วยเถอะนะจ๊ะแม่ ใบบัวสัญญาว่าจะทำงานให้หนักกว่านี้ แม่กับน้องจะได้สบาย”
“เอ๊ะอีนี่! ก็กูบอกว่าขายมึงไปแล้ว! อย่าเรื่องมากนักนังใบบัว หน้าผีแบบนี้มีคนซื้อไปทำเมียก็ดีแค่ไหนแล้ว! เข้าไป!”
.
.
แรมสิบห้าค่ำเดือนสิบ ค่ำคืนที่ท้องฟ้ามืดสนิทไร้แสงจันทร์ หญิงสาววัยสิบแปดปีถูกแม่บังเกิดเกล้าผลักดันเข้าไปในห้องหับที่มืดสลัว กลิ่นน้ำอบน้ำปรุงลอยฟุ้งไปทั่วทั้งห้อง แสงไฟจากตะเกียงให้ความสว่างเพียงเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอุตส่าห์สว่างไสวจนมองเห็นเรือนร่างใหญ่โตที่นอนทอดกายบนเตียงเล็ก ๆ จนเกือบเต็มพื้นที่ได้
ปัง!
เสียงปิดประตูทำให้ร่างอวบอิ่มสมวัยสะดุ้งสุดตัว สาวน้อยผู้น่าสงสารกลั้นน้ำตาจนตัวสั่นโยนเพราะความหวาดกลัวจับใจ
“เข้ามาสิ”
เสียงแหบพร่าจากคนบนเตียงดังขึ้นให้สาวน้อยขวัญผวา ทว่าใบบัวไม่มีทางเลือก ขาสั่น ๆ ยอมก้าวเข้าไปใกล้เจ้าของเสียงนั้น
“ถอดผ้าถุงออก แล้วขึ้นมาบนนี้"
น้ำตาหนึ่งหยดร่วงไหลไปตามผิวแก้มโดยไร้ซึ่งเสียงสะอื้น ใบบัวยกมือขึ้นจับปมผ้าถุงที่อก ก่อนจะค่อย ๆ คลายมันออกอย่างปวดใจ ดวงตาแดงช้ำปิดลงอย่างอดสูในชะตากรรม
เธอไปทำอะไรไว้นักหนา เหตุใดจึงต้องเจอะต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ไม่จบไม่สิ้น
ปัง! ปัง! ปัง!
ทว่า ฟ้าคงนึกสงสารเธอขึ้นมากระมัง เพราะสุ้มเสียงที่ดังกึกก้องไปทั่วเรือนทำให้กำนันมิ่งเลิกสนใจในตัวใบบัวทันที
“เสียงดังอะไรกันวะพวกมึง!!”
“กำนัน! มีโจรบุกมา!”
“อะไรวะ!!”
สิ้นเสียงสบถ ร่างใหญ่โตก็รีบพุ่งออกจากห้องไป ทิ้งให้ร่างอวบอิ่มของหญิงสาวทรุดลงบนพื้น แล้วปล่อยเสียงร่ำไห้ออกมาเงียบ ๆ เพียงลำพัง
เธอรอดแล้ว
รอดแล้ว...
.
“ลูกสาวไอ้มิ่งนอนห้องขวาสุด จับมันมาให้ได้!”
สมุนโจรหกชีวิตแยกย้ายกันไปทำตามแผนที่วางไว้ ราชันมุ่งตรงไปยังห้องที่คิดว่าเมียที่ถูกจับมาหลับนอนอยู่ ทว่ากลับไร้วี่แวว
“มีใครเจอมะลิบ้าง!”
“ไม่มีเลยพี่ ไอ้มิ่งก็ไม่อยู่ คงหนีไปแล้ว”
“แม่ง!” เสียงทุ้มสบถ มือหนากวาดข้าวของที่อยู่ตรงหน้าหล่นกระจัดกระจาย “เจออีจันทร์หรือยัง”
“เจอแล้วพี่ ไอ้สองพาไปที่ม้าเมื่อกี้”
“ดี! ไม่ได้เมียคืนกูก็จะเอาลูกมันไปย่ำยีให้ยับเยิน พวกมึงเก็บข้าวของมีค่าไปให้หมด แล้วกลับไปเจอกันที่หมู่บ้านก่อนยามสาม”
.
โครม!
“โอ้ย!”
ร่างอวบอิ่มถูกโยนเข้าไปในห้องที่มืดสนิทอย่างแรง ถุงผ้าที่ครอบหัวถูกดึงออกจนเส้นผมยาวปลิวไสว เชือกที่พันธนาการทั้งมือและขาถูกตัดด้วยมีดคม ใบบัวขยับหนีชิดกำแพงไม้ เนื้อตัวสั่นเทาเหมือนลูกนกตกน้ำ เพราะไม่รู้ว่าตนเองจะต้องพบเจอกับอะไรอีก
ในตอนที่เธอกำลังนั่งร้องไห้ให้กับชะตาชีวิตอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีชายคนหนึ่งเข้ามาจับเธอมัดมือมัดขาและปาก ใช้ถุงผ้าครอบหัวจนมองไม่เห็นอะไร ก่อนจะแบกเธอขึ้นม้า แล้วสุดท้ายก็โยนเธอเข้ามาในห้องนี้
“อยู่ในนี้แหละ รอพี่ราชันมา”
“พี่คือใครหรือจ๊ะ” สาวน้อยถามเสียงสั่น “ละ แล้ว.. จับฉันมาทำไม”
“พ่อเอ็งไปทำอะไรไว้ล่ะ”
“พ่อหรือ” ใบบัวงุนงง เธอไม่มีพ่อมาตั้งแต่ห้าขวบ ถึงแม่จะมีพ่อใหม่แต่ก็เลิกรากันไปเมื่อปีก่อน
“ไอ้มิ่งอย่างไรเล่า หึ! เล่นกับใครไม่เล่น เสือกมาเล่นกับพี่ราชัน”
สาวน้อยฉลาดเฉลียว เธอเข้าใจทันทีว่าทุกคนกำลังคิดว่าเธอคือลูกจันทร์ ลูกสาวเพียงคนเดียวของกำนันมิ่ง ผู้ชายที่ซื้อเธอจากแม่เมื่อบ่าย
หมายความว่าตอนนี้เธอถูกใครก็ไม่รู้จับตัวมา และกำลังจะถูกข่มเหงฆ่าแกงเพื่อแก้แค้นที่กำนันมิ่งไปทำอะไรบางอย่างให้คนที่ชื่อราชันโกรธ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้มีส่วนรู้เห็น ไม่เกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้น แต่กลับกลายเป็นคนที่ต้องรับกรรมแทนคนทำผิด
ใบบัวหัวเราะแผ่วให้กับโชคชะตาที่แสนโหดร้าย ชีวิตเธอคงไม่แย่ไปกว่านี้แล้ว คืนนี้อย่างมากก็แค่ตาย และเธอจะไม่ดิ้นรนหนีอีกต่อไป...
ใบบัวนั่งกอดเข่าอยู่ในมุมเล็ก ๆ ของกระท่อม ผู้ชายที่พาเธอเข้ามาในนี้จากไปแล้ว ทิ้งไว้แต่เพียงความมืดมิด และอากาศที่เย็นยะเยือกเพราะฝนเริ่มโปรยปรายลงมาในช่วงเวลาที่ยังไม่รู้ชะตาชีวิต ใบบัวในวัยสิบแปดปีก็อดคิดถึงพ่อแท้ ๆ ไม่ได้ ความทรงจำเมื่อตอนอายุห้าขวบเลือนลางแต่กลับเต็มไปด้วยความสุข พ่อมักจะกอดเธอเสมอ แม้แต่วันที่หมดลมหายใจ พ่อก็ยังตระกองกอดเธอไว้ในอ้อมแขนไม่ยอมปล่อยถ้าพ่อยังอยู่ เธอคงไม่ต้องมาเจอกับเรื่องราวเลวร้ายแบบนี้ เพราะพ่อจะปกป้องเธอเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้เหตุใดพ่อถึงได้ทิ้งใบบัวไปเร็วนัก“พ่อจ๋า เดี๋ยวใบบัวก็จะได้ไปหาพ่อแล้วนะ”ใบบัวสะอื้นไห้ กอดตัวเองแน่นขึ้นเพราะความหนาวเหน็บ เธอสวมผ้าถุงเพียงตัวเดียว เนื้อตัวเย็นเฉียบและสั่นระริกแกร๊ก..แสงไฟสลัวจากด้านนอกสาดส่องเข้ามาเมื่อบานประตูไม้ไผ่เปิดออก หญิงสาวลืมตาขึ้นมอง เธอไม่เห็นอะไรนอกจากเงาทะมึนที่ใหญ่โตสูงเท่ากรอบประตู ยืนจังก้าอยู่ตรงหน้า“คะ ใคร.. พี่เป็นใครหรือจ๊ะ”ปัง!เจ้าของเงาดำไม่ตอบ แต่กลับปิดประตูเสียงดังจนกระท่อมสะเทือน สาวน้อยผวาเฮือก ตัวสั่นเทาเพราะความหวาดกลัวจับใจหรือว่าคน ๆ จะเป็นราชัน ผู้ชายที่ต้อ
ใบหน้าอัปลักษณ์ของหญิงสาวที่เข้าใจผิดว่าเป็นลูกสาวของศัตรูทำให้จอมโจรผงะถอยหลัง ใบบัวเห็นแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วกระถดตัวหนี มือที่สั่นระริกดึงผ้าถุงให้ปิดบังร่างกายท่อนล่างจนมิดชิด“มึงเป็นใคร!”เสียงเหี้ยมเกรียมเอ่ยถาม ความโกรธเกรี้ยวไม่พอใจทำให้สาวน้อยสะดุ้งโหยง ตัวสั่นงก ๆ อย่างน่าสงสาร“ฉะ.. ฉัน ฉันชื่อใบบัวจ้ะ”“กูไม่ได้อยากรู้ชื่อมึง! กูถามว่ามึงเป็นใคร ทำไมถึงไม่ใช่อีจันทร์”“ฉันก็.. ไม่รู้จ้ะ”“แม่ง!”ราชันสบถคำหยาบคายออกมายาวเหยียด ทั้งโมโหที่แผนการล่มไม่เป็นท่า ผสมปนเปกับความอยากของร่างกายเพราะยาดีที่กินเข้าไปออกฤทธิ์ท่อนเนื้อยาวใหญ่แข็งชันเครียดขึง ราชันเอื้อมมือลงไปบีบนวดหนัก ๆ หวังเพียงให้มันสงบลงบ้างแต่ก็ไม่เป็นผลจอมโจรหันไปมองหญิงสาวหน้าตาประหลาดอีกครั้ง เขาทำเป็นไม่สนใจใบหน้าขาวกระจ่าง ที่มีรอยแดงบริเวณแก้มซ้ายไปจนถึงหางตา ถ้าตัดรอยน่าเกลียดนั้นออกไปผู้หญิงคนนี้ก็ดูดีไม่หยอก อย่างน้อยก็มีผิวขาว ๆ และเนื้อตัวที่อวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือโดยเฉพาะสองเต้าตูม ๆ นั่นราชันอยากจนปวดไปทั้งท่อนลำ เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ขณะจ้องมองเนินอกอิ่มที่ถูกดันออกมาจากผ้าถุงเพราะเก็บความอว
ใบบัวตัวสั่นงั่นงก สวรรค์ที่ราชันพูดถึงคือที่ใดกัน ใช่ที่เดียวกับที่พ่อขึ้นไปอยู่หรือเปล่าเช่นนั้นก็หมายความว่าเธอจะต้องตายอย่างนั้นหรือ“พี่...”“หุบปาก”สาวน้อยรีบปิดปากฉับ กลัวว่ามือใหญ่ ๆ นั่นจะบีบคอหัก ช่างน่ากลัวเหลือเกินราชันกดท่อนเอ็นทาบกับเนื้อนุ่ม จัดท่าทางให้แท่งเนื้อได้สัมผัสกับความเนียนนิ่มแนบแน่น แล้วเริ่มขยับเอวซอยช้า ๆ“พี่”ท่อนเนื้ออุ่นจัดครูดไปกับเนินสาว ลำท่อนมันพองโตทั้งใหญ่ทั้งยาวจนดูน่ากลัว สีเข้มและขรุขระเพราะเต็มไปด้วยเส้นเลือดและเส้นเอ็น พอมันเสียดสีเข้ากับติ่งเนื้อน้อย ๆ ใบบัวก็ผวาเฮือก มือเล็กยกขึ้นคว้าและบีบกล้ามใหญ่ของราชันแน่น“อ๊ะ.. พี่”“เสียวหรือมึง”“สะ เสียวคืออะไรจ๊ะ อื้ออ”“อาา ให้ตาย”ราชันสบถ นี่กูนอนกับเด็กหรืออย่างไร ที่จริงอายุสิบแปดมันไม่เรียกว่าเด็กแล้ว ผู้หญิงส่วนมากออกเรือนตั้งแต่สิบห้าด้วยซ้ำเด็กคนนี้มันจะใสไปไหน ใสจนราชันนึกละอายใจที่รังแกเด็กมัน แต่จะให้หยุดก็คงไม่ได้ ยาที่กินเข้าไปก็ออกฤทธิ์ดีเสียจริง“เดี๋ยวก็รู้”ราชันตัดบท ก่อนจะโน้มตัวลงไปทาบทับร่างเล็กแต่อวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือ ตาจ้องมองเนินอกขาว ๆ ที่ล่อน้ำลาย ขาวแบบนี้หัวนมคงส
บรรยากาศลานหน้าเรือนของจอมโจรเงียบสนิท แม้แต่นกสักตัวยังไม่กล้าส่งเสียงร้อง ราชันจ้องมองใบหน้าอัปลักษณ์นิ่ง ใบบัวยกมือไหว้ค้าง น้ำตาคลอเต็มสองเบ้าตา สวยมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาเฉยชา สองยืนกระสับกระส่าย วิตกกังวลกว่าใบบัวที่กำลังจะตายเสียอีก“พี่ราชัน ฉันว่า..”“มึงหุบปากไปไอ้สอง! กูยังไม่ได้ลงโทษที่มึงทำงานพลาด”สองหุบปากฉับ ถึงมันจะไม่อยากให้ผู้หญิงแปลกหน้าต้องตาย แต่มันก็ไม่อยากตายแทนเหมือนกัน“เก่งนักนะมึง”ราชันทาบใบมีดคมกริบกับแก้มขาวนวลเนียน ฝั่งที่ไม่มีร่องรอยน่าเกลียดนั่น มาถึงตอนนี้ใบบัวเริ่มตัวสั่น น้ำตาที่คลอเบ้าร่วงหล่นเป็นทาง“ให้ใบบัวตาย ฮึก.. ดีกว่าต้องอยู่อย่างตายทั้งเป็น”“อย่างนั้นหรือ” ถามพลางกดมีดลง เนื้อแก้มขาวนวลบุ๋มลงตามรอยใบมีดใบบัวค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ กลั้นลมหายใจเตรียมรับความเจ็บปวดเจ็บเพียงครั้งเดียว แค่ครั้งเดียวก็จะได้หลุดพ้นจากชีวิตเลวร้ายนี้แล้วแต่ทว่า.. ไม่กี่อึดใจต่อมาใบมีดเย็น ๆ ก็ถอยห่างออกไป“แต่กูไม่ฆ่าคนว่ะ”พูดจบ มีดแหลมคมก็ถูกเก็บเข้าฝัก สองโล่งใจจนล้มลงไปกองกับพื้น“แต่ใบบัวไม่กลับไปนะจ๊ะ!”ถึงรอดตายได้แต่ใบบัวกลับไม่ดีใจสักนิด เธอขึ้นเสี
“ใบบัว”สองวิ่งตึก ๆ ตามหลังร่างอรชร ส่วนสูงของสองน้อยกว่าราชัน แต่ถึงอย่างนั้นใบบัวก็สูงถึงเพียงไหล่ของสองเท่านั้นกับราชันนั้นใบบัวสูงเพียงยอดอก ส่วนขนาดตัวก็เล็กจิ๋วจนราชันบังได้มิด ถึงแม้เธอจะไม่ได้ผอมบาง ออกจะมีน้ำมีนวลกว่าสาว ๆ หลาย ๆ คนด้วยซ้ำ แต่เมื่อเทียบกับร่างกายบึกบึนของราชัน เธอก็กลับกลายเป็นเพียงลูกกวางตัวจ้อย“มีอะไรหรือจ๊ะ”ใบบัวหันกลับไปตามเสียงเรียก มือจับกระชับผ้าคลุมไหล่ให้เรียบร้อย ตอนที่เข้าครัวเธอเจอผ้าขี้ริ้วสกปรกผืนหนึ่ง ด้วยความกระดากอายที่ต้องใส่ผ้าถุงตัวเดียวเดินไปเดินมาจึงใช้ผ้าขี้ริ้วผืนนั้นมาคลุมไหล่และเนินอกไว้“พี่ชื่อสองนะ อายุยี่สิบ ใบบัวอายุเท่าไร สิบห้าหรือยัง”“ใบบัวอายุสิบแปดแล้วจ้ะ”“หน้าเด็กมากเลย เอ้อ.. พี่ขอโทษนะที่จับใบบัวมา เมื่อคืนมันมืดมากก็เลยมองไม่ออก”“ไม่เป็นไรจ้ะ”ใบบัวอยากขอบคุณด้วยซ้ำ อย่างน้อย ๆ เธอก็ไม่ต้องตกเป็นของชายที่แก่คราวพ่อ และมีลูกสาวอายุพอกันกับเธออย่างกำนันมิ่ง“แล้วหน้าไปโดนอะไรมาล่ะนั่น”“อ๋อ...”ใบบัวยกมือขึ้นแตะรอยแดงขนาดใหญ่บนใบหน้า หากมองไกล ๆ อาจจะดูคล้ายปานแดงที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่ถ้าหากมองใกล้ ๆ จะรู้ทันที
ใบบัวอาศัยร่วมชายคาเดียวกันกับราชันมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว หน้าที่ของเธอที่ต้องทำเป็นประจำทุกวันคือทำอาหารให้ราชันทั้งสามมื้อ ทำความสะอาดบ้าน และซักเสื้อผ้าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาราชันไม่เคยพูดว่ากับข้าวฝีมือใบบัวอร่อย แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้ใจร้ายจนถึงขั้นเททิ้งให้ต้องใจหาย ทุก ๆ วันราชันจะออกไปสนามฝึกซ้อมเพื่อซ้อมดาบ ซ้อมเตะต่อยต่อสู้กับลูกน้อง จะมีแค่ใบบัวเท่านั้นที่อยู่ในเรือนนี้หมู่บ้านโจรไม่ได้เป็นแบบที่ใบบัวคิด ถึงจะเรียกว่าหมู่บ้านโจรแต่ก็แทบไม่มีการออกปล้นเลย ทุกคนอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้เหมือนคนทั่วไป ทำไร่ทำนา ปลูกผัก ปลูกผลไม้ เลี้ยงสัตว์ไว้กิน มีครอบครัว มีลูกหลานทุกคนนับถือราชันเป็นใหญ่ ราชันเหมือนเป็นประมุขของพวกเขา เป็นคนดูแลชาวบ้านทุกคน ใครจะทำอะไรต้องมาปรึกษาราชันก่อน ไม่ว่าจะเรื่องเพาะปลูก หรือแม้แต่เรื่องออกเรือนไปแต่งงาน ราชันเป็นคนออกกฎรวมถึงบทลงโทษทั้งหมด และทุกคนก็ต้องอยู่ในกฎอย่างเคร่งครัดรวมถึงตัวของราชันเองด้วย ผู้คนในหมู่บ้านมีไม่ถึงห้าสิบคน ส่วนมากเป็นผู้ชาย ผู้หญิงมีประมาณสิบคนเท่านั้นผู้หญิงในหมู่บ้านส่วนมากถ้าไม่อายุสามสิบขึ้นไปก็เป็นเด็กเล็กไปเลย คงจะมีแค่
“อ๊ะ.. นายท่านขา อย่าเพิ่งไปค่ะ”พิมพายกแขนขึ้นโอบกอดร่างกายกำยำไว้ หญิงสาวไม่ยอมปล่อยให้ราชันออกห่าง ใบหน้าสวยสมวัยอิ่มเอิบ ดวงตาฉ่ำเยิ้มเต็มไปด้วยความสุขสมที่ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน“ปล่อย”“นายท่าน พี่จ๋า.. อยู่กับพิมต่อนะคะ”“ไม่”“แต่พี่จ๋ายังอยากอยู่เลย” ว่าพลางเอื้อมมือลงไปชักรูดท่อนกายใหญ่อย่างชำนาญ “ดูสิ มันยังแข็งอยู่เลย ไม่ปล่อยออกมันจะทรมานนะพี่”“อย่า.. อืม”“พี่จ๋า ให้พิมรีดมันออกนะคะ”พิมพามีชั้นเชิงมากมาย หล่อนปลุกเร้าจนราชันอดทนไม่ไหว จอมโจรคิดว่าไหน ๆ ก็ออกมาแล้ว และคงอีกสักพักกว่าจะได้กลับเข้ามาในเมืองอีกก็ควรตักตวงให้คุ้ม จะได้ไม่คึกเวลาเห็นเด็กที่บ้าน“ไปเอาเครื่องป้องกันมา”“กี่อันดีคะ”“แล้วแต่”พิมพายิ้มรับ หล่อนลุกขึ้นนุ่งผ้าถุงกระโจมอกออกไปจากห้องทั้ง ๆ แบบนั้น ไม่กี่อึดใจก็กลับมาพร้อมยางสำหรับสวมใส่ป้องกันโรคและตั้งท้องสามอัน“เท่านี้.. พอไหมคะ”“อย่าถามมาก รีบมาขย่ม”พิมพาได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มหวาน หล่อนปลดผ้าถุงออกเผยให้เห็นเรือนร่างขาวผ่องอวบอิ่ม อกเป็นอก อวบใหญ่น่าขยำ เอวคอดกิ่ว สะโพกผาย ลีลาบนเตียงเด็ดดวงถูกใจราชัน แต่น่าเสียดายที่สองเต้านั้นมันหย่อนคล้อย ไม่
หมูป่าตัวใหญ่ถูกจับผ่าแล่ ทาเกลือแล้วย่างบนกองไฟกลางหมู่บ้าน ชาวบ้านทั้งลูกเด็กเล็กแดงมานั่งล้อมวงกันเพื่อรอลิ้มรสหมูป่า ส่วนคนที่ล่าหมูตัวใหญ่มาได้นั้นนั่งยิ้มแก้มปริหน้าบานยิ่งกว่ากระด้ง“ฉันเก่งไหมจ๊ะพี่ราชัน”“เออ!”ราชันตอบคำถามเดิมเป็นรอบที่สิบ ไอ้สองที่ถูกทำโทษหายเข้าป่าไปเป็นอาทิตย์ หายไปนานจนราชันคิดว่าถ้ามันไม่ตายก็คงหลงป่า หรือไม่ก็หนีไปแล้วเพราะไม่อยากจับหมูแต่พอพ้นวันที่เจ็ดไอ้สองก็กลับมาพร้อมหมูป่าตัวใหญ่บนหลัง เนื้อตัวมอมแมมสกปรกดูไม่ได้ แต่ชาวบ้านต่างพากันชื่นชมมันไม่ขาดปาก มีครอบครัวหนึ่งถึงขั้นอยากหมั้นหมายลูกสาวกับไอ้สอง แต่ราชันยังไม่อนุญาตเพราะเด็กคนนั้นเพิ่งอายุได้เพียงสามขวบ“พี่เก่งไหมจ๊ะใบบัว” สองหันมาถามสาวน้อยดวงตากวางบ้าง ราชันไม่รู้ว่าทั้งคู่ไปสนิทสนมกันตอนไหน เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยจนน่ารำคาญ“เก่งจ้ะ หมูป่าตัวใหญ่มากเลย”“ใช่หรือไม่เล่า! นี่กว่าพี่จะจับได้นะ ต้องซุ่มรอมันตั้งสามวันแหนะ”“พี่สองเก่งที่สุด”ราชันเดินหนีสองคนนั้นอย่างรำคาญ อีกคนก็อวดไปเรื่อย ส่วนอีกคนก็สรรเสริญเยินยอเหมือนไอ้สองมันไปกู้โลกมาได้ ไร้สาระ“พี่ราชันมานี่ ๆ ยาดองอันนี้ของดี กิน
หมู่บ้านกอบัวเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีประชากรราวห้าสิบครัวเรือน ชาวบ้านมีรายได้จากการค้าขายพืชผลทางการเกษตร นับว่าโชคดีที่ราชันได้ผืนดินตรงนี้มา เพราะมันอุดมสมบูรณ์และปลูกพืชผักผลไม้ได้ทั้งปี อากาศไม่ร้อนมาก และยังมีน้ำไหลผ่านแม้ในหน้าแล้ง ชาวบ้านจึงไม่เคยต้องอดยาก ทั้งยังนำผลผลิตออกไปขายสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้อีกด้วยหลังจากฝึกงานและสอบปฏิบัติผ่าน ราชันก็ขนลูกเมียกลับมายังหมู่บ้านทันที ใบบัวนั้นบ่นทุกวันว่าไม่ชอบเมืองหลวง คนเป็นผัวจึงไม่อยากโอ้เอ้อยู่ที่นั่นนานอยู่บ้านตัวเองมันดีกว่าเป็นไหน ๆ“ค่อย ๆ เดินคนดี” ฝ่ามือใหญ่โอบประคองร่างเมียรักอย่างเบามือ “อีกนิดเดียว อึ๊บ!”“ร้อน”เพียงแค่คำพูดเดียวราชันก็รีบหยิบพัดขึ้นมาโบกตรงหน้า สีหน้าหงุดหงิดของเมียรักดูผ่อนคลายขึ้นให้คนเป็นผัวได้เบาใจใบบัวเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อห้าเดือนก่อน ตอนนั้นเขาและครอบครัวย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ ได้เพียงสองเดือน เช้าวันหนึ่งใบบัวมีอาการอ่อนเพลียและหงุดหงิดง่าย อะไรไม่ถูกใจเพียงเล็กน้อยก็พร้อมจะโวยวายทุกเมื่อ คราแรกราชันคิดว่าเป็นเพราะอากาศหรือไม่ก็สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป จนกระทั่งอีกสามวันต่อมาใบบัวกลับอาการห
ใบบัวกลับบ้านมาพร้อมกับความโกรธและความเสียใจ ดีแค่ไหนที่ครานี้เธอไม่ได้พาลูกชายไปด้วย ไม่อย่างนั้นลูกคงเสียใจมากกว่าเธอเป็นร้อยเท่าพันเท่าที่ไม่ได้เจอหน้าพ่อหากไม่ใช่เพราะใบบัวรู้สึกแปลกใจกับจดหมายฉบับล่าสุด ที่ราชันบอกว่าไม่ต้องมาเยี่ยมหากันสักเดือนแล้วตัดสินใจนั่งรถไฟไปหา เธอก็คงกลายเป็นคนโง่งมที่ไม่รู้อะไรเลยต่อไป และคงไม่มีวันได้รู้ว่าราชันนั้นกำลังโกหกหลอกลวงกันถึงขั้นนี้ผู้ชายเฮงซวย!ป่านนี้คงมีความสุขกับรักใหม่ ผู้หญิงคนใหม่ไปแล้ว ปล่อยให้เธอรอคอยเหมือนคนโง่ตั้งสามปี ช่างเสียเวลาเสียจริงใบบัวนั้นไม่มีแม้สักวันจะเลิกรักราชัน ต่อให้ติดคุกติดตารางใบบัวก็ยังเฝ้ารอเสมอ จะสามปีสิบปีก็ยังรอไม่เปลี่ยนแปลง ใช่ว่าที่ผ่านมาจะไร้คนมาเกี้ยวพาราสี ทว่าเธอรักมั่นเพียงราชัน รอเพียงราชันคนเดียวไม่เคยหันไปทางอื่นแม้แต่เพียงหางตานี่หรือคือสิ่งที่คนจงรักภักดีแบบเธอได้รับตอบแทน“แม่จ๋าทำอะไร”“เก็บเสื้อผ้าจ้ะ”“แม่จ๋าจะไปไหนจ๊ะ”“แม่ไม่ได้ไปไหน” ดวงตากวางวาวโรจน์ เธอไม่ร้องไห้หรอก เธอไม่อยากเสียน้ำตาให้คนเฮงซวย “คนบางคนต่างหากที่ต้องไป”เรือนนี้เป็นเรือนของเธอ คนที่ต้องไปคือคนทรยศต่างหาก เธอไม่
“แม่จ๋า” เสียงใส ๆ ของลูกชายปลุกให้ใบบัวตื่นจากภวังค์ “ย้องไห้ทะมาย”มือเล็กพยายามเช็ดน้ำตาบนแก้มนวล เด็กชายเบะปากอยากจะร้องไห้ตามเมื่อเห็นน้ำตาของแม่“แม่เปล่าจ้ะ”“เด็กดี ต้อมม่ายโกหกน้า”ใบบัวหลุดหัวเราะกับคำพูดคำจาของลูกน้อย คชสารอายุเกือบสองขวบ อยู่ในวัยกำลังพูดกำลังจำ ไม่ว่าจะสอนอะไรก็เชื่อฟังทุกอย่าง“แม่คิดถึงพ่อ”"เดี๋ยวพ่อกาบมา" เด็กน้อยพูดตามที่แม่บอก เดี๋ยวพ่อก็กลับมาแล้ว แม่ใบบัวพร่ำบอกแบบนี้มาตลอด“ใช่จ้ะ เดี๋ยวพ่อก็กลับมาแล้ว”..หนึ่งปีต่อมาเวลาเดินไวจนน่าใจหาย ทว่ามันกลับยาวนานในความรู้สึกของทั้งคนที่รอ และคนที่ถูกคุมขัง ราชันอดีตจอมโจรนั่งเหม่อมองท้องฟ้าและนกที่บินไปมาด้วยความริษยา มันดูเป็นอิสระและมีความสุขกับการโบยบิน ต่างจากตัวเขาที่ต้องถูกจองจำในเรือนจำที่มีผู้คุมมากมายเขาคิดถึงใบบัว คิดถึงลูกชาย ไม่รู้ว่ายามนี้เมียรักจะทำอะไรอยู่ราชันไม่ได้พบใบบัวบ่อยเท่าไหร่นัก เพราะเขาถูกคุมขังที่เมืองหลวง ใบบัวที่อยู่ตอนเหนือของประเทศไม่สะดวกเดินทางบ่อย ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเมียรักก็มักจะนั่งรถไฟพาลูกมาเยี่ยมหาเดือนละครั้งเป็นอย่างน้อย รวมถึงส่งจดหมายมาหาอาทิตย์ละครั้งไม่เคยข
“พี่ราชันเองก็มีลูก ย่อมต้องเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่” เสียงสั่นเครือทั้งอ้อนวอนทั้งตำหนิอยู่ในที “เราไม่อาจอยู่แบบบ้านป่าเมืองเถื่อนได้ ลูกหลานเราต้องได้เรียน ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐ”ช่วงเกือบสองปีที่ผ่านมาหลังจากเปลี่ยนที่ตั้งของหมู่บ้าน ราชันก็ตัดสินใจยกเลิกวิถีชีวิตแบบโจร เขาและชาวบ้านใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป ปลูกข้าวปลูกผักเลี้ยงสัตว์ขายหารายได้เข้าหมู่บ้าน มีการติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก ไปมาหาสู่กัน หลายคนพบรักกับคนข้างนอกและพากลับมาสร้างครอบครัว จากที่มีชาวบ้านไม่ถึงร้อยคน วันนี้มีผู้อาศัยราวสี่สิบครัวเรือนหรือเกือบสองร้อยชีวิตแล้วทว่า หมู่บ้านที่เริ่มขยายใหญ่เป็นหมู่บ้านที่ยังไม่ได้รับการจัดตั้งตามกฏหมาย สวัสดิการจากรัฐยังเข้าไม่ถึง และหากยังไม่รีบจัดตั้งหมู่บ้านให้ถูกต้อง วันข้างหน้าพวกเขาอาจจะถูกไล่ที่โดยไม่เป็นธรรม นั่นคือสาเหตุที่พักนี้ราชันมักจะได้ยินประโยคพวกนี้จากชาวบ้านเสมอ และส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้มาอยู่ใหม่ที่ต้องการความเจริญมากกว่าวิถีเดิม ๆ ที่ไม่ต่างอะไรจากคนป่า“หากยื่นเรื่อง อดีตที่ฉันทำไว้คงถูกขุด”นี่เป็นเรื่องเดียวที่ทำให้ราชันยังคงลังเล หากจะจัดตั้งหมู่บ้านเรื่อ
ย่างเข้าเดือนที่เก้า ใบบัวมีอาการปวดเมื่อยมากขึ้นเพราะท้องที่ขยายใหญ่ เดิมทีร่างกายของเธอไม่ได้ผอมแห้งแต่ก็นับว่าเป็นผู้หญิงตัวเล็ก เมื่อต้องมาโอบอุ้มท้องขนาดใหญ่จึงรู้สึกเหนื่อยง่าย ปวดเนื้อปวดตัวเป็นประจำราชันคอยดูแลเมียรักอย่างดี เขาเปลี่ยนที่นอนให้เมียใหม่ ซื้อเบาะนั่งนุ่ม ๆ มาให้เมียนั่ง คอยบีบนวดไม่ห่าง ทำหน้าที่ผัวที่ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง เมียอยากได้อะไรราชันหามาให้ทุกอย่าง ใคร ๆ ก็บอกว่าใบบัวโชคดีที่ได้ผัวเข้าใจคนท้องอย่างราชันแต่ราชันกลับเถียงทุกครั้งว่าเป็นตัวเขาต่างหากที่โชคดี ใบบัวเสียสละเหลือเกิน ชายหนุ่มเห็นท้องที่ใหญ่ขนาดนี้ก็ได้แต่คิดว่าใบบัวหายใจออกหรือไม่ นอนหลับสนิทบ้างหรือเปล่า จะหนักแค่ไหนที่ต้องอุ้มเด็กคนหนึ่งไว้ตลอดเวลาก่อนท้องใบบัวจะเข้านอนทีหลังและตื่นก่อนราชันเสมอ แต่หลังจากเข้าเดือนที่เจ็ดใบบัวก็นอนมากขึ้น เธอเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำและตื่นสาย หน้าที่ภรรยาไม่สามารถทำได้อีกต่อไป แต่แทนที่ราชันจะรู้สึกไม่พอใจ เขากลับยินดีกินอาหารที่ไม่ถูกปากเพื่อให้เมียได้นอนพักผ่อนนานขึ้นกว่าเดิม“พี่รักใบบัวเหลือเกิน”ราชันจุมพิตปรางนวลเนียน นับวันความรักของเขายิ่งมากล้น ไม่มีท
“ค่อย ๆ นะ ค่อย ๆ เดินจ้ะใบบัว ไม่ต้องรีบ”ทันทีที่ร่างอุ้ยอ้ายปรากฎตัวสองก็รีบปรี่เข้าไปดูแลอย่างรวดเร็ว ทว่าใบบัวกลับส่ายหน้าเบา ๆ แล้วชี้ไปด้านหลัง“พี่สองช่วยไปดูพี่ราชันหน่อยได้ไหมจ๊ะ ตั้งแต่เช้ายังอ้วกไม่หยุดเลย”“ห้าเดือนกว่าแล้วนา ทำไมถึงยังแพ้หนักแบบนี้”ใบบัวตั้งท้องได้ห้าเดือนกว่าแล้ว ท้องสาวขยายใหญ่จนเริ่มเดินลำบาก ปกติในเวลานี้อาการแพ้ท้องจะเริ่มหายไป แต่ราชันที่รับหน้าที่แพ้ท้องแทนเมียกลับยังมีอาการเหมือนเดิมไม่ลดน้อยลงถ้าบอกว่าลูกแกล้ง ลูกคงแค้นมากจริง ๆ“อย่างนั้นพี่ไปดูพี่ราชันก่อนแล้วกัน”“จ้ะ”“ไม่ต้อง” พูดถึงราชัน ราชันก็มา ร่างกำยำยืนใช้สองมือค้ำยันกรอบประตูด้วยท่าทางโรยแรง “มึงดูใบบัวไปให้ดี อย่าให้สะดุดเชียว”“พี่สองไปดูแลพี่ราชันดีกว่า ใบบัวไม่เป็นอะไร”“สอง มึงดูแลใบบัวนั่นแหละ กูชินแล้ว”“แต่พี่ราชันหน้าซีดมากนะจ๊ะ”“พี่ไม่เป็นอะไรเลยใบบัว ห่วงตัวเองเถิด ถ้าใบบัวเป็นอะไรพี่คงขาดใจตาย”“เอ่อ..”สองที่เป็นคนกลางทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนมองสองผัวเมียที่ต่างคนต่างห่วงหากันจนโยนให้เขาไปดูแลอีกฝ่ายตาปริบ ๆ“อ่า เอาแบบนี้ดีกว่า ฉันดูแลพี่ราชัน ส่วนแม่มะลิก็ดูแลใบบัว”
“อะไรนะจ๊ะ”ใบบัวถามราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง เธอยกถ้วยข้าวต้มขึ้นดม แต่ก็ไม่พบความผิดปกติใด ๆไม่เห็นมีกลิ่นเหม็นเลย คนอื่น ๆ ก็กินได้ปกติ และดูท่าทางเอร็ดอร่อยมากด้วย แล้วทำไมผัวเธอถึงได้เป็นแบบนี้จู่ ๆ ความรู้สึกน้อยอกน้อยใจมากมายก็ตีพุ่งขึ้นมา ใบบัวเม้มริมฝีปากแน่น น้ำตาเม็ดโตไหลอาบแก้มให้ใครหลายคนตื่นตระหนกที่ตกใจกว่าใครคงไม่พ้นราชัน“ใบบัว อย่าร้อง อึก!” เพียงแค่ขยับเข้าใกล้เมียรักราชันก็ต้องรีบถอยหนี ดวงตาดุดันมองถ้วยข้าวในมือน้อยราวกับมองศัตรู“พี่ราชันป่วยหนักขนาดนี้ให้แม่อ่อนตรวจหน่อยเถิด” สองเห็นอาการไม่ดีจึงเสนอทางออก“กูไม่ได้เป็น.. อุ๊บ! อ้วก!”พูดได้ไม่ถึงครึ่งประโยคร่างกำยำก็วิ่งไปเกาะระเบียงแล้วปล่อยของเสียออกมาจนหมดไส้หมดพุง ใบบัวต้องกล้ำกลืนความน้อยใจเอาไว้ เธอวางถ้วยข้าวลงและเดินเข้าไปหาราชัน“พี่ราชัน”อดีตโจรหนุ่มสะดุ้งโหยง เขาหันกลับมามามองเมียด้วยสายตาหวาดระแวง และนั่นยิ่งให้ใบบัวรู้สึกเสียใจ เธอยื่นน้ำเย็น ๆ ให้ผัวล้างหน้าล้างปาก ก่อนจะถอยออกมาพร้อมน้ำตาที่ไหลไม่หยุด“ใบบัวจะไม่เข้าใกล้พี่”“ใบบัว ไม่ใช่แบบนั้น”“ใบบัวจะไปตามแม่อ่อนมาดู”พูดจบร่างน้อยก็รีบหันหล
ผ่านมาสองเดือนแล้วหลังแต่งงาน ใบบัวมีความสุขเหลือเกินที่ตัดสินใจให้โอกาสราชัน หลังแต่งงานอดีตจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่มีกิจวัตรที่ต้องทำไม่ให้ขาด คือเขาต้องเข้านอนพร้อมเมีย ตื่นนอนพร้อมเมีย กินข้าวพร้อมเมีย แม้งานจะยุ่งแค่ไหนราชันก็จะไม่ยอมพลาดช่วงเวลาเหล่านี้แม้แต่ครั้งเดียวราชันติดเมียมาก แม้แต่ตอนที่เมียต้องไปเรียนกับแม่อ่อนราชันยังแอบไปหาบ่อย ๆ ถึงจะถูกใบบัวดุแต่คนติดเมียกลับไม่เคยลดละความพยายาม อาศัยความหน้าหนาโผล่หน้าไปให้ใบบัวทำหน้าดุใส่วันละหลายครั้ง“ว่างนักหรือจ๊ะ”ใบบัวยืนจังก้า เท้าสะเอวตีหน้ายักษ์ใส่ผู้ชายหน้ามึนที่ลักลอบมาเกาะเรือนแม่อ่อนเพื่อแอบมองเธอ ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไป เจอหน้ากันเกือบตลอดเวลาไม่เบื่อกันหรืออย่างไร“เปล่าจ้ะ พี่แค่คิดถึงเมีย”ใบบัวกรอกตามองบน แรก ๆ เธอยอมรับว่าเขินอยู่บ้างกับถ้อยคำหวาน ๆ ทว่าพอนานไปก็เริ่มชิน ทุกวันนี้ความขวยเขินแทบไม่หลงเหลือแล้วราชันเกาะเรือนพร้อมยิ้มกว้างอวดฟันขาว แค่ได้เห็นหน้าใบบัวเขาก็อารมณ์ดีแล้ว นี่ถ้าหากราชันมีพวงหางมันคงสะบัดไปมาด้วยความสุขไม่ต่างจากหมาตัวโต ๆ“อ้อ พี่เอานี่มาให้” ราชันเอื้อมมือไปด้านหลัง หยิบดอกบัวสีขาวที่เก็บไว้มา
แม้จะเอื้อนเอ่ยคำอนุญาตออกไป ทว่าลึก ๆ แล้วร่างกายและจิตใจของใบบัวยังคงหวาดกลัว ความทรงจำครั้งสุดท้ายคือราชันสอดใส่เข้ามาอย่างรุนแรงไร้ความปราณี มันเจ็บแสบเจียนตาย ครั้งนั้นราชันเอาแต่ใจเหลือเกิน แม้เธอจะร้องไห้เขาก็ไม่หยุด ทั้งยังโจนจ้วงเข้ามาอย่างรุนแรง กระทำจนตัวเองสุขสมหลายครั้งหลายครา แต่ไม่มีสักคราที่ใบบัวจะสุขสมเช่นเดียวกัน“หากยังไม่พร้อม พี่จะไม่เร่งรัด”ราชันเห็นสีหน้าของเมียรักก็รู้ทันทีว่าเธอยังหวาดกลัวกับสัมผัสของเขา มันไม่ใช่ความผิดของใบบัวเลยที่จะไม่พร้อม ทุกอย่างมันเป็นเพราะเขาคนเดียวเขาเป็นคนสร้างบาดแผลไว้ในหัวใจที่แสนบริสุทธิ์ดวงนี้“ละ ลองก่อนได้ไหมจ๊ะ” ใบบัวร้องขอเสียงสั่น “หากไม่ไหว ใบบัวจะขอให้พี่หยุด”“พี่หยุดได้ตั้งแต่ตอนนี้ ใบบัวอย่าฝืนใจ พี่ไม่อยากให้ใบบัวต้องเจ็บปวดอีกแล้ว”“แต่ใบบัวอยากลอง ใบบัวอยากก้าวผ่านความกลัว อยากกลับมารู้สึกดีกับสัมผัสของพี่อีกครั้ง”“ใบบัว”ราชันครางเรียกเมีย ใบบัวใจเด็ดกว่าเขาเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องแผลที่ใบหน้า เรื่องที่เอาคืนเขา หรือแม้แต่วันนี้ราชันนั้นเทียบไม่ได้เลยกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้“นะจ๊ะ”โจรหนุ่มหยุดคิดเพียงอึดใจ ก่อนที