คฤหาสน์ พีรพัฒน์ แทนคุณเหล่ตามองมาริษาแวบหนึ่งอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหันกลับไปมองทางเบื้องหน้าต่อ ขณะขับรถเข้ามาภายในอาณาเขตตัวเอง มาริษาเอาแต่นั่งเงียบหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างรถตลอดทางที่ออกจากบ้านตุลา ปกติคนน้องจะพูดมากจนเขารู้สึกรำคาญ ทว่าตั้งแต่เมื่อวานเธอกลับวางท่ามึนตึงใส่เขา ไม่รู้เพราะเหตุใดแน่ชัด“วันนี้ฉันไปส่งเธอที่มหาลัยเอง” แทนคุณกัดฟันแน่น ก่อนจะเป็นฝ่ายเอ่ยก่อนอย่างพยายามใจเย็น ทั้งที่ภายในอกกระวนกระวายจนแทบอยากระเบิดอารมณ์ออกมา ขณะจอดรถนิ่งตรงทางเข้าคฤหาสน์หลังใหญ่“ค่ะ” มาริษาตอบรับน้ำเสียงเป็นปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือหน้าตาที่อมทุกข์ เธอปลดเข็มขัดนิรภัยออก แล้วเปิดประตูก้าวขาลงจากรถทันที โดยไม่รีรอแทนคุณหรือต่อบทสนทนาด้วยอย่างทุกครั้ง แม้กระทั่งใบหน้าหล่อ ๆ ยังไม่ปรายตามอง ทำให้แทนคุณยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ แต่ก็ไม่ได้เอาเรื่องอะไร“ยัยสา กลับบ้านน่าจะบอกพี่สักนิด” มาริษาเดินเข้าบ้านเป็นจังหวะที่มนัสรินทร์เดินลงบันไดมาถึงพอดี เธอจึงต้องชะลอฝีเท้าพลางปรายตามองใบหน้าพี่สาวเพียงนิด ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าพี่สาวพร้อมทั้งหลุบตามองต่ำ ณ เวลานี้เธอยังไม่อยากเจอหรือพูดคุยด้วยสักเท่า
“ยัยน้องหนู” แกรมมี่สะกิดเพื่อนสาวตัวเล็ก ระหว่างกำลังเดินบนฟุตบาททางเดินในรั้วมหาวิทยาลัย“หืม?” มาริษาชะลอฝีเท้าพลางเลิกคิ้วถามเพื่อนชายใจเป็นหญิง ดึงความสนใจจากจีน่า ซึ่งเดินอยู่ข้าง ๆ แกรมมี่พยักพเยิดหน้าไปข้างหน้า เพื่อให้มาริษามองตาม“…” มาริษาเลื่อนสายตามองไปตรงหน้า เจอกับร่างสูงเจ้าของใบหน้าหล่อสไตล์ไอดอลเกาหลี ดูดีมีเสน่ห์สามารถดึงดูดสาว ๆ เข้าหาได้ไม่ยาก แทนคุณอยู่ในชุดสูทสีดำ ยืนพิงหลังกับตัวรถสปอร์ตหรูสีฟ้าคันโปรด ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์เครื่องหรูในมือตรงถนนหน้าคณะนิเทศศาสตร์“สามียัยน้องหนูทั้งหล่อทั้งเท่ซะไม่มีอะ อยากได้แบบเนี่ยจัง” แกรมมี่พูดน้ำเสียงมีจริตจะก้านอย่างนึกอิจฉาเพื่อนสาวตัวเล็ก รวมถึงกลุ่มนักศึกษาสาวละแวกนั้นต่างมองชายหนุ่มตาเป็นมัน ทั้งซุบซิบมโนกันไปต่าง ๆ นานา“อยากได้ก็หาสิยะ” จีน่าเบ้ปากหมั่นไส้“ก็ถ้าหาได้จะพร่ำเพ้อพรรณนาอย่างนี้ไหมล่ะยะ”“ชิ~” จีน่าส่งเสียงอย่างไม่อยากเถียงต่อ ส่วนมาริษาเธอเม้มริมฝีปากเข้าหากัน มองไปยังเจ้าของใบหน้าหล่อแววตาเศร้า ทว่ากลับต้องหลบตาทันควัน เมื่อร่างสูงหันมองมา“…” แทนคุณเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง ครั้นเห็นเจ้าของแววตาสวย
พิษณุโลก“น้อง ๆ ครับ เราใกล้ถึงหมู่บ้านกันแล้ว ขอให้ทุกคนตรวจสอบสัมภาระของตัวเองให้ดีก่อนลงจากรถนะครับ” เสียงของรุ่นพี่ปีสี่ประกาศผ่านไมค์โครโฟน ปลุกนักศึกษาที่หลับพักสายตาระหว่างรอถึงจุดหมาย ให้ตื่นจากห้วงนิทรา“…” มาริษาค่อย ๆ ปรือตาขึ้นเพื่อปรับรับแสง ก่อนจะใช้หลังมือถูกขยี้เปลือกตาเบา ๆ อย่างงัวเงีย เธออยู่ในชุดลำลอง เสื้อยืดสีเขียว โลโก้ชมรม กลางเสื้อเป็นรูปโลกล้อมด้วยต้นไม้ และ กางเกงวอร์ม รองเท้าผ้าใบสีขาว เธอรวบผมหมัดทรงต่ำ ใบหน้าน่ารักราวกับสาวมัธยมต้นเป็นธรรมชาติทาผิวหน้าแค่ครีมกันแดด บนริมฝีปากอมชมพูเคลือบด้วยลิปมันเปลี่ยนสีเท่านั้น“ได้มองต้นไม้สีเขียวแบบนี้สบายตาจริง”“นั่นสิอยู่ในเมืองเห็นแต่ตึก” มาริษาหันมองวิวนอกหน้าต่างรถบัส ตามเสียงพูดของจีน่าที่นั่งติดกับหน้าต่าง ภายในหมู่บ้านรายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจี อากาศดีมากกว่าเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยมวลพิษมากมาย โดยเฉพาะฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ที่มักทำให้แสบตา แสบจมูก และ ส่งผลเสียต่อสุภาพ“…” รถบัสคันใหญ่ของมหาวิทยาลัยจอดสนิทเมื่อถึงจุดหมาย เหล่าบรรดานักศึกษาต่างทยอยลงจากรถ ไปต่อแถวรวมกลุ่ม เพื่อเดินทางไปร่วมเปิดพิธีตรงลานจัดกิจกร
“…” แทนคุณนั่งบนเก้าอี้พลาสติกท่าไขว่ห้างพลางกอดอก จ้องมองไปยังกลุ่มของมาริษานิ่งอย่างไม่ลดละ พวกเธอนั่งบนพื้นดินล้อมวงใต้ต้นไม้ใหญ่อยู่ไม่ไกลอย่างไม่ติดหรู ระหว่างพักเที่ยงเตรียมตัวเดินทางไปทำฝายชะลอน้ำในช่วงบ่ายทิมเดินเข้ามาโค้งศีรษะทำความเคารพผู้เป็นนาย ก่อนกล่าวรายงาน “ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเตรียมรถพร้อมแล้วครับนาย”“กูจะไปกับเมษา” ไม่ว่าเปล่าแทนคุณหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง เมื่อเห็นว่ามาริษาและเพื่อน ๆ ของเธอลุกขึ้น ก่อนจะเดินจ้ำเอ้าไปทันที โดยไม่รีรอคำตอบจากลูกน้องคนสนิท ซึ่งไม่ได้สร้างความแปลกใจให้กับทิม จากนั้นก็เดินเลี่ยงไปคนละทางกับผู้เป็นนาย“หืม?” มาริษาเลิกคิ้วขึ้นถาม เมื่อจีน่ากระตุกแขนเสื้อเป็นเชิงเรียก แล้วพยักพเยิดหน้าให้เธอมองตามสายตา พบว่าแทนคุณกำลังเดินตรงมาที่เธอ“ผัวมาตามแล้วยัยน้องหนู” แกรมมี่เอ่ยอย่างแซว ๆ ส่งผลให้แก้มใสมาริษาเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อจากความเขิน ไม่ถึงนาทีแทนคุณก็เดินมาหยุดตรงหน้า“มีอะไรอีกคะ?” มาริษาถามอย่างงอน ๆ แกรมมี่และจีนน่าต่างหันมองหน้ากันแล้วยิ้มอย่างมีความคิดเห็นตรงกัน เนื่องจากเมื่อครู่ ทั้งคู่แอบเห็นมาริษายิ้มท่าทางดูดีใจ ครั้นเห็นใบหน้
คฤหาสน์ พีรพัฒน์18:30 น.รถยนต์คันหรูสีดำขับเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่ ภายในรถเงียบสงัด จนได้ยินเสียงลมหายใจเป็นจังหวะของคนบนรถชัดเจน“ถึงแล้วครับนาย”“…” แทนคุณที่พิงหลังกับเบาะนั่งพักสายตา ค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมอง ครั้นได้ยินเสียงลูกน้องคนสนิท ขณะที่ล้อรถหยุดนิ่งอยู่กับที่ เมื่อปรับโฟกัสการมองเห็นได้ดี จึงหลุบตามองมาริษาบนตักแกร่ง เธอผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า หลังจากกลับจากทำกิจกรรมที่จังหวัดพิษณุโลก“ถึงบ้านแล้วเมษา” มือหนาเขย่าไหล่เล็กเบา ๆ ปลุกคนตัวเล็กให้ตื่นจากห้วงนิทรา “เมษาตื่น”“อื้อ~” คนขี้เซาขยับยู่ใบหน้าเข้าหากันพลางส่งเสียงในลำคอเบา ๆ เท่านั้น แต่ไม่ยอมลืมตาตื่น กลับซุกใบหน้าเข้าหาหน้าท้องอันแข็งเต็มไปด้วยลอนกล้ามแน่น ๆ หาความอบอุ่น สร้างรอยยิ้มเล็ก ๆ ให้แก่แทนคุณ“หึ” ริมฝีปากหยักได้รูปยกขึ้นเล็กน้อยด้วยความเอ็นดู ขณะเดียวกันประตูรถก็ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของลูกน้องคนสนิท“…” แทนคุณค่อย ๆ ยกศีรษะทุยเล็กขึ้นอย่างเบามือ แล้ววางบนเบาะนั่ง ก่อนจะกระเถิบตัวออกจากเบาะหลัง จากนั้นก็โน้มตัวซ้อนตัวมาริษาขึ้นสู่อ้อมแขนแกร่งในท่าเจ้าสาว พาเข้าบ้าน ปล่อยให้เธอได้หลับพักผ่อนอย่างเต็มที่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูจากคนด้านนอกดังขึ้นดึงมาริษาออกจากภวังค์ความคิด ใบหน้าน่ารักหันไปทางประตูห้องนอน เป็นจังหวะที่ประตูถูกผลักเข้ามาพอดีด้วยฝีมือของมนัสรินทร์ ในมือถือถาดข้าวต้มหมู“ตื่นนานแล้วเหรอยัยสา?”“ค่ะ” มาริษาเบนสายตาออกจากพี่สาว ผ่านมาตั้งหลายวัน แต่เธอยังมองหน้าพี่สาวตรง ๆ เหมือนอย่างเคยไม่ได้เสียที“คิดว่าสาน่าจะตื่นแล้ว พี่เลยเอาข้าวต้มหมูขึ้นมาให้น่ะ”“ขอบคุณค่ะ”“ไหนพี่เช็กดูหน่อยสิไข้ลดหรือยัง?” มนัสรินทร์วางถาดเข้าต้มบนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะหย่อนสะโพกนั่งบนเตียงนุ่ม เอื้อมแขนหวังใช้หลังมืออิงหน้าผากน้องสาวเพื่อตรวจวัดอุณหภูมิ แต่มาริษากลับพูดดักทางเสียก่อน ทำให้มนัสรินทร์ต้องหยุดชะงักค้างกลางคัน “สาดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ”“โกรธอะไรพี่หรือเปล่ายัยสา หลายวันมานี้พี่รู้สึกว่าเราพยายามหลีกเลี่ยงพี่ตลอด” ท่าทีของน้องสาวบ่งบอกอย่างนั้นราวกับมีเรื่องขุ่นเคืองใจ“…” มาริษาเงียบพลางหลุบตามองต่ำ ลังเลว่าจะพูดออกไปตรง ๆ ดีไหม ซึ่งเธอก็รู้สึกอึดอัดใจไม่น้อย“ว่ายังไงยัยสา?”“อะ…เออ พี่ยัง…ยังรักพี่แทนอยู่ไหมคะ?”“เอาตรง ๆ นะ พี่ยังพี่แทนอยู่ วันที่พี่แทนแต่งงานกับสาพี่ถึ
17:00 น. ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นดึงความสนใจจากหญิงสาวที่กำลังนั่งหวีผมหน้ากระจก ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง เธอจึงผุดตัวลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูทันที โดยไม่ปล่อยให้คนด้านนอกรอนาน“นายใหญ่ให้มาตามนายหญิงไปที่ห้องรับแขกค่ะ” สาวใช้ก้มหน้าพลางกุมมือกล่าวแจ้งตามคำสั่งของผู้เป็นนาย“ทำไมคะ?”“เพื่อน ๆ นายใหญ่มาเยี่ยมนายหญิงค่ะ”“เพื่อน?” มาริษาเลิกคิ้วขึ้นอย่างมีคำถาม จะว่าไปตั้งแต่เธอแต่งงานยังไม่เคยเจอเพื่อนคนพี่เลยสักครั้ง“ค่ะ คุณมิลินกับคุณหวานค่ะ”“…” ชื่อคุ้น ๆ มาริษาหลุบตามองต่ำอย่างใช้ความคิด แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกใบหน้าหญิงสาวทั้งสองไม่ออก“ค่ะ เดี๋ยวสาตามลงไปนะคะ” สาวใช้โค้งศีรษะรับคำสั่ง ก่อนจะเดินจากไป มาริษาเดินกลับเข้าห้องอีกครั้ง เมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยจึงลงไปข้างล่างตามคำเชิญ ด้วยชุดเอี๊ยมกระโปรงยีน ด้านในสวมใส่เสื้อสีขาวเปิดไหล่ผ้าชีฟอง ลำคอขาวประดับด้วยสร้อยสีเงินจี้รูปดาว ปล่อยผมสีดำลอนยาวเสวยในลุคน่ารัก สดใส“…” มาริษาหยุดเดินเมื่อใกล้ถึงห้องรับแขก เธอสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ เรียกความมั่นใจ ขณะหัวใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำด้วยความตื่นเต้น ไม่นานนักเธอก็ตัดสินใจเดินเข้าห้องนั
หลายวันต่อมา มหาวิทยาลัย T.U อินเตอร์“เลิกคลาสครับ Happy new year ล่วงหน้านะครับนักศึกษา เจอกันปีหน้า” อาจารย์ผู้สอนประกาศ จากนั้นเสียงเฮของเหล่าบรรดานักศึกษาดังขึ้นด้วยความดีใจ เนื่องจากมหาวิทยาลัยหยุดต่อเนื่องกันถึงห้าวัน“เย็นนี้ไปกินหมูกระทะกันไหมพวกแก” จีน่าเอ่ยชวนทันที หลังจากอาจารย์ผู้สอนเดินออกจากห้องเรียน เหล่าบรรดานักศึกษาคนอื่น ๆ ต่างก็เก็บสัมภาระของตัวเอง พูดคุยกันเสียงดังตามเคย “เอาสิ ไม่ได้กินนานแล้วเหมือนกัน”“พวกแกสองคนล่ะ ยังไง?” จีน่าเอ่ยถามมาริษาและฮยอนโดที่ยังไม่ได้ให้คำตอบ“อื้อ! ไปสิ”“อือ” ฮยอนโดเพียงครางเสียงตอบรับด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม“งั้นไปร้านเดิมเนอะ”“เค ๆ” ทุกคนต่างตอบรับ บ้างก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย เมื่อตกลงกันได้ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน โดยนัดเจอกันที่ร้านประมาณหกโมงเย็น@ร้านหมูกระทะ มาริษานั่งรถยนต์คูเปอร์มินิมาพร้อมกับจีน่า ที่เป็นเจ้าของรถและเป็นคนขับ ทั้งคู่ถึงที่นัดหมาย ด้วยชุดลำลองสบาย ๆ มาริษาสวมใส่เสื้อยืดสีเขียวอ่อนโอเว่อร์ไซซ์ กางเกงวอร์มขายาวสีดำ เธอมัดรวบผมขึ้นทรงหางม้า ปล่อยปอยผมข้างแก้มอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนจีน่าแต่งกายด้วยชุดเสื
สามปีต่อมา งานรับปริญญาภายในงานรับปริญญาบัตรพลุกพล่านไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งบัณฑิตจบใหม่ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องของแต่ละคณะ และ ญาติมิตรที่มาร่วมแสดงความยินดีกับลูกหลาน หรือ คนรู้จัก“สา” มนัสรินทร์ที่เห็นน้องสาวเป็นคนแรก เธอขานเรียกพลางโบกมือ ส่งสัญญาณว่าอยู่ทางนี้มาริษาอยู่ในชุดครุย ใบหน้าน่ารักถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางที่ค่อนข้างเข้มจัด สวยหวานราวกับเจ้าหญิง เธอโบกมือตอบรับพี่สาว รีบเร่งฝีเท้าเดินบนรองเท้าคัทชูตรงดิ่งเข้าไปหาบิดามารดาและ เพื่อนสนิทที่มาร่วมแสดงความยินดีในความสำเร็จของเธอ เธอเรียนจบหลังเพื่อน เพราะต้องดรอปเรียน เพื่อดูแลลูกสาวที่ตอนนี้อายุได้สามขวบเศษ“คูณแม่~” เจ้าของแก้มป่องราวกับลูกซาลาเปา ตากลมโต ฉีกยิ้มกว้างสดใส ตะโกนเรียกผู้เป็นแม่ ปล่อยมือจากผู้เป็นน้าสาว วิ่งเตาะแตะเข้าไปหามารดาด้วยความคิดถึง มาริษาย่อตัวลงอ้าแขนรับลูกสาว อุ้มขึ้นแนบอกฟอด~ มาริษาหอมแก้มป่องลูกสาวเจ้าของใบหน้าน่ารักฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึงและเอ็นดู ขณะเพื่อน ๆ และคนในครอบครัว ต่างก็เดินเข้ามาสบทบ ยกเว้นเสียแต่พ่อของลูกที่ติดงานด่วนที่ต่างประเทศไม่สามารถมาวันสำคัญของเธอได้“ยินดีด้วยนะสา” จีน่าพ
หนึ่งเดือนต่อมา @คฤหาสน์ พีรพัฒน์ “สบายขึ้นไหม?” บนเตียงขนาดคิงไซซ์แทนคุณกำลังนวดเรียวขาทั้งสองข้างของมาริษาบนตักแกร่งอย่างเบามือ เนื่องจากเธอมีอาการปวดเมื่อยบริเวณขาทั้งสองข้าง เพราะท้องใกล้คลอดขนาดใหญ่มหึมา ครั้นจะนอนหรือนั่งก็ขยับพลิกตัวลำบากไปหมด“ค่ะ~” น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยตอบเบา ๆ ด้วยความปวดขึ้นเรื่อย ๆ บริเวณอุ้งเชิงกราน จนน้ำตาเล็ด ถึงจะปวดไม่มากแต่ก็รู้สึกทรมานพอสมควร“ปวดท้องเหรอ?”“…” มาริษาพยักหน้าหงึก ๆ หยาดน้ำค่อย ๆ ไหลกลิ้งอาบแก้มใส มือบางกุมเข้าหากันแน่นอย่างอดทนกับอาการต่าง ๆ ของคนท้องใกล้คลอดที่ต้องเจอ เพื่อลูกคนแรกของเธอ“ทนอีกหน่อยนะ อีกไม่กี่วันเราจะได้เจอหน้าลูกกันแล้ว” แทนคุณเห็นความเจ็บปวดบนใบหน้ามาริษาก็ถึงกับน้ำตาคลอเบ้าด้วยความสงสาร นิ้วยาวเอื้อมไปเช็ดน้ำตาบนแก้มนุ่มอย่างปลอบประโลม“ให้พี่นวดต่อไหมหรือนอนพัก”“นวดค่ะ สารอให้อาการปวดหายไปอีกสักนิดค่อยนอน”“ครับ งั้นพี่ร้องเพลงให้เอาไหม?” แทนคุณฉีกยิ้มให้กำลังใจมาริษา ในเมื่อไม่สามารถรับเจ็บปวดแทนเธอได้ เขาขอเป็นคนสร้างพลังบวกและคอยอยู่เคียงข้างเธอไม่ไปไหนมาริษากะพริบตาปริบ ๆ สีหน้าไม่อยากเชื่อเท่าไหร่ มือ
หลายอาทิตย์ต่อมา คฤหาสน์ พีรพัฒน์ ดึก~“ฮึ ตัวเล็กถีบหน้าพ่อซะแรงเลยนะลูก” ภายในห้องนั่งเล่นคนที่กำลังเป็นพ่อคนแนบหูฟังเสียงเต้นหัวใจของลูกน้อยในครรภ์ของภรรยาตัวเล็กตรงโซฟาตัวยาว แต่แก้มสากกลับสัมผัสได้ถึงแรงดิ้นลูกน้อยในท้องค่อนข้างแรง ไม่รู้ว่าเป็นการทักทายหรือกลั่นแกล้งพ่อกันแน่ “ดูสิสาลูกเราดิ้นใหญ่เลย”แทนคุณเงยหน้าขึ้นกล่าวกับมาริษาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เป็นครั้งแรกที่ลูกในท้องดีดดิ้นอย่างซุกซน จนเห็นการเคลื่อนไหวเป็นคลื่น ๆ ตรงท้องป่องชัดเจน“สงสัยแกอยากออกมาเล่นกับพ่อเขาแล้วมั้งคะ” มาริษายิ้มปริ่มมีความสุขไปกับแทนคุณ แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเมื่อลูกในท้องดิ้นแรงเกินไปแต่เธอก็ยอมอดทน เธอท้องได้เจ็ดเดือนย่างเข้าเดือนที่แปด ท้องจึงโตตามอายุครรภ์ ไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างยากลำบากแทนคุณฉีกยิ้มดีใจใหญ่ทาบมือบนท้องป่องตรงจุดที่ลูกในท้องดีดดิ้น “เบา ๆ หน่อยนะครับ เดี๋ยวแม่เจ็บ”“ขออนุญาตค่ะ” ระหว่างนั้นสาวใช้ก็เดินเข้ามาโค้งศีรษะทำความเคารพผู้เป็นนายทั้งสอง ก่อนจะกล่าวรายงานในเวลาต่อมา “คุณหมอธัน คุณหวาน คุณเทวินแล้วก็คุณมิลินมาถึงแล้วค่ะ”“อือ” แทนคุณครางตอบรับสาวใช้ด้วยใบหน้าเรียบเฉย
เช้าวันต่อมา “อื้อ~” หญิงสาวบนเตียงนุ่มส่งเสียงครางในลำคอเบา ๆ อย่างรู้สึกตัวตื่น เมื่อถูกรบกวนการนอนหลับ สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างกำลังยุ่มย่ามตรงกลางความเป็นสาว จนรู้สึกเสียววาบไปทั่วทั้งร่าง มือบางขยุ้มผ้าปูเตียงโดยทันที ขณะที่สมองเริ่มกลับมาประมวลอีกครั้งแผล็บ แผล็บ แทนคุณตวัดปลายลิ้นสากเลียกลีบกุหลาบสวยที่ไม่ได้เชยชมมานานหลายเดือนอย่างละเมียดละไม กลืนกินน้ำหวานบนกลางความเป็นสาวราวกับของอร่อย เหลือบตาขึ้นมองมาริษาที่ยังไม่ลืมตา แต่มือบางกลับเอื้อมลงมาผลักศีรษะให้ออกห่างจากความหอมหวาน“ยะ…อย่า~” ใบหน้าน่ารักเหยเกด้วยความเสียวในรอบสี่เดือน จนต้องหนีบเรียวขาเข้าหาคนตรงกลางหว่างขา ผลักไสยังไงก็ไม่เป็นผล คืนดีกันได้ไม่ถึงวันคนพี่ก็ลักหลับเธอเสียแล้ว เป็นคืนแรกที่เธอตื่นสายและรู้สึกว่าได้หลับเต็มอิ่ม หากไม่ถูกปลุกเสียก่อนก็คงนอนเพลินจนไม่รู้ตื่นกี่โมง“น้ำเมียพี่ยังหวานเหมือนเดิมเลยนะ” เจ้าของใบหน้าหล่อเงยขึ้นไปสบตากับร่างเล็กที่ยังงัวเงียด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ แววตาหยาดเยิ้มเต็มไปด้วยความหื่นกามอย่างเห็นได้ชัด“คนลามก ออกไปเลยนะ! สาไม่อนุญาตให้พี่ทำอะไรกับร่างกายสาทั้งนั้น” วาจาหยาบโลนทำ
ภายในรถสปอร์ตหรูสีฟ้าตกอยู่ในความเงียบสงัดตั้งแต่ขับออกมาจากโรงพยาบาล xxx มีเพียงเสียงลมหายใจของคนสองคนที่พ่นออกมาเป็นจังหวะ แทนคุณทำหน้าที่ขับรถ หันมองมาริษาที่นั่งเงียบ หันหน้าออกหน้าต่างตลอดทางบ่อยครั้งด้วยความเป็นห่วง “หิวไหม เดี๋ยวพี่จอดเซ่เว่นข้างหน้า ลงไปซื้อของกินมาให้” “ไม่” น้ำเสียงห้วน ๆ ตอบกลับ บ่งบอกว่าคนตัวเล็กกำลังหงุดหงิด แทนคุณพยายามทำความเข้าใจกับอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของคนท้อง แม้ว่าค่อนข้างยากก็ตาม โดยนิสัยเป็นคนใจร้อนและขี้รำคาญ แต่ครั้งนี้เขาจะยอมทำเพื่อคนน้องและหัวใจตัวเอง “อือ ถ้าหิวหรืออยากเข้าห้องน้ำก็บอกพี่นะ” “…” คำตอบที่ได้กลับมาจากคนมาริษาคือความเงียบ เธอมองวิวนอกหน้าต่างรถ ตามทางส่วนมากเป็นบ้านคน และ ต้นไม้สลับกันไป ในหัวครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องตรวจ ยามที่นอนบนเตียงเพื่ออันตราซาวดูลูกในครรภ์เป็นวันแรก เธอเห็นหยดน้ำตาคนพี่หยดแหมะลงบนเตียง ขนาดที่หมอกำลังอธิบายอวัยวะต่าง ๆ ของลูกในท้อง เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นมุมอ่อนไหวของเขา บ้านสวนหวาน “ปลานึ่งมีทั้งโปรตีนทั้งโฟเลท สร้างเนื้อเยื่อให้กับร่าง
@บ้านสวน หวาน ปัง!ประตูรถกระบะถูกปิดเสียงดังด้วยฝีมือของหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ เธอเดินสะบัดตูดเข้าบ้านโดยไม่รอชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวขาเดินลงจากรถ“เปลี่ยนไปเยอะแฮะ” แทนคุณเหยียดยิ้มมุมปากอย่างเอ็นดู การกระทำน่าหงุดหงิดของมาริษา ไม่ได้ทำให้รู้สึกโกรธเลยสักนิดเดียว กลับมองว่าน่ารักเสียมากกว่า ถึงแม้ไม่ใช่มาริษาคนเดิมที่รู้จักก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยเธออยู่ก็ในสายตา เขาต้องทำให้เธอกลับมาเป็นมาริษาคนเดิมให้ได้“…” แทนคุณส่ายหน้าไปมา แล้วสาวเท้าเดินตามหลังมาริษาเข้าบ้าน แต่ไม่ทันได้เดินตามเข้าห้องนอน มาริษากลับปิดประตูใส่หน้าเสียก่อน ใบหน้าหล่อ ๆ แทบถูกประตูกระแทก“ฝากไว้ก่อนเถอะยัยตัวแสบ” นิ้วแกร่งชี้ย้ำ ๆ อย่างคาดโทษคนตัวเล็ก มุมปากกระตุกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง“ผู้ชายอะไรดื้อด้านเป็นที่สุด!” เจ้าของดวงตาสวยมุ่ยหน้าหงุดหงิดพลางหย่อนสะโพกนั่งบนเตียงนุ่มอย่างเจ็บใจพ่อของลูก แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของคนพี่ เขาดูใจเย็น พูดจาดีขึ้นเยอะ หากเป็นเมื่อก่อนพี่ไม้คงเละเป็นโจ๊ก “ทำไมใบหน้าดูซูบลงไปเยอะจัง”“…” ความสงสัยและความเป็นห่วงแทรกเข้ามาแทนที่ความโกรธ ใบหน้าน่ารักมีแ
เวลาต่อมา 20:30 น. ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูจากคนด้านนอก ทำให้หญิงสาวตัวเล็กอยู่ในชุดเดรสยาวสีครีมสะดุ้งด้วยความตกใจ เธอกำลังเก็บเอกสารสำคัญเข้าใส่กระเป๋าผ้าอย่างเร่งรีบ“เปิดประตูให้ฉันหน่อยเมษา” เสียงจากคนด้านนอก ทำให้มาริษายิ่งลนลาน จับเอกสารยัดเข้ากระเป๋าอย่างไม่เป็นระเบียบ ขณะที่คนด้านนอกยังขานเรียกชื่อ “เมษา”“ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป งั้นสาไปเองแล้วกัน” มาริษาหยิบโทรศัพท์ปุ่มกดยี่ห้อธรรมดาขึ้นมาต่อสายหาใครบาง รอสายไม่นานนักปลายสายก็กดรับสาย…“ครับคุณเมษา” “สากำลังไปนะคะ” “ระวังตัวด้วยนะครับคุณเมษา” “ค่ะ” มาริษากดวางสาย เธอรีบเดินจ้ำอ้าวไปเปิดประตูหน้าต่าง ยกเก้าอี้ตรงโต๊ะเครื่องแป้งวางบนพื้นหญ้าข้างหน้าต่าง ทำให้เสียงเบาที่สุด ซึ่งไม่สูงมาก หากเปรียบเทียบ ผู้ชายกระโดดข้ามได้สบาย ๆ“จิ๊!” แทนคุณส่งเสียงในปากอย่างหงุดหงิด ที่เรียกเท่าไหร่คนด้านในก็ไม่ยอมออกมาเปิดสักที ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะหมุนตัวเดินเลี่ยงไปทางอื่น และ กลับมาอีกทีพร้อมกับกุญแจสำรองที่ให้คนงานนำไปปั๊มเอาไว้อีกชุดแกรก“…” มือหนารีบไขกุญแจเปิดประตูห้องนอนของภรรยาตัวเล็กเข้าไปอย่างร้อนใจ แต่ภายในห้องนอนกลับ
หมับ!“อย่าเพิ่งไป” แทนคุณก้าวขายาวเข้าไปสวมกอดมาริษาที่กำลังจะเดินหนีจากด้านหลังแน่น พลางเกยปลายคางคมสันบนไหล่มน มาริษาดีดดิ้นพยายามแกะท่อนแขนแกร่งออกจากลำตัว แต่ก็ยากเหลือเกิน“ปล่อยนะ!”“ไม่ปล่อยจนกว่าเธอจะยอมฟังฉันอธิบาย”“ไม่จำเป็นค่ะ! สาไม่อยากฟังอะไรจากพี่อีกแล้ว”“งั้นฉันก็ไม่ปล่อย”“พี่แทน!” มาริษาเอี้ยวหน้ามองค้อนแทนคุณอย่างเอือมระอากับนิสัยเอาแต่ใจ ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่เคยเปลี่ยน แต่แทนคุณกลับตีหน้ามึนคลี่ยิ้มให้มาริษาอย่างไม่หวั่นเกรงกับแววตาดุของเธอ มองว่าน่ารักเสียมากกว่า“ปล่อยสาเดี๋ยวนี้” มาริษาพูดเน้นเสียงอย่างเป็นการขู่ ราวกับลูกแมวกำลังขู่เจ้าของฝ่อ ๆ แต่ไม่ได้ทำให้แทนคุณกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว“ฉันไม่ปล่อยเธอหลุดมือไปอีกแล้ว”ตึก! ตึก!หัวใจมาริษาเต้นถี่รัวไม่เป็นจังหวะเช่นเดียวกับหัวใจของแทนคุณที่เต้นแรงไม่ต่างกัน จนไม่รู้ว่าหัวใจใครเต้นแรงกว่ากัน เธอสัมผัสได้ถึงความคิดถึงปนความเศร้าจากน้ำเสียงอันแผ่วเบาของเขาชัดเจนกว่าทุกครั้งจนน่าประหลาดใจ“ฉันมีเรื่องอยากบอกกับเธอเยอะแยะไปหมดเลยนะเมษา” เมื่อเห็นร่างเล็กในอ้อมแขนนิ่งเงียบแทนคุณจึงพูดต่อตามความรู้สึกข
วันต่อมา “อือ~” หญิงสาวบนเตียงนุ่มส่งเสียงครางในลำคอเบา ๆ เมื่อรู้สึกตัวตื่นจากห้วงนิทราในช่วงเวลาเดิมเจ็ดโมงเช้า เธอลูบหน้าตัวเองหนึ่งครั้งเพื่อให้รู้สึกสดชื่นมากขึ้น ก่อนจะค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมองปรับโฟกัสสายตา มือบางปิดปากหาววอด ๆ อย่างง่วงนอน ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่งพิงหลังกับหัวเตียง มองไปที่นาฬิกาแขวนผนัง พบว่าเข็มสั้นชี้เลขเจ็ด เข็มยาวชี้เลขหก เป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่ง “จะมาอีกไหมนะ” มาริษาทำสีหน้าครุ่นคิดถึงพ่อของลูก เมื่อรู้สึกคันบริเวณดวงตาจึงใช้นิ้วเรียวถูเปลือกตาเบา ๆ ให้หายคัน ก่อนที่สมองจะประมวลผลเรื่องที่คิดสำเร็จ “คนดื้อรั้นอย่างพี่แทน ต้องมาอีกแน่ ๆ”เธอยอมรับเลยว่ากลัวใจตัวเองเป็นที่สุด กลัวใจอ่อนให้เขา… “แม่จะทำยังไงกับพ่อของลูกดีจ้ะลูกจ๋า” มือบางลูบหน้าท้องที่นูนป่องไปมาเบา ๆ อย่างคิดไม่ตก สักพักถึงได้ก้าวขาเดินลงจากเตียง เดินไปทำกิจวัตรประจำในห้องน้ำอย่างเคย “…” มาริษากลับออกมาจากห้องนอนด้วยชุดเดรสยาวสีครีมแขนสั้นผ้าลินิน ผมยาวสีดำสลวยถูกปล่อยแผ่กระจายเต็มแผ่นหลัง ใบหน้าน่ารักสวยเป็นธรรมชาติไร้ซึ่งเครื่องสำอาง มีเพียงสกิลแคร์ทาทั่วใบหน้า