“แค่ก ๆ” รวงข้าวยันตัวลุกนั่งพิงหัวเตียง มือบางยกขึ้นมาลูบหน้าตัวเอง รู้สึกอ่อนล้าจนหัวแทบระเบิด“กินข้าวกินยาซะ” อะเดลยกสำรับเข้ามา มีทั้งข้าวต้มและแผงยาจัดเตรียมไว้ครบถ้วน“...” รวงข้าวรับมาโดยดี ไม่ออกฤทธิ์เดชอะไรให้วุ่นวาย ยอมทำตามคำสั่งเพื่อพักฟื้นร่างกาย แล้วค่อยคิดหาตัวรอดจากที่นี่ใหม่“บอกนายไปตรง ๆ ว่าใครส่งเธอมา เผื่อนายจะเห็นใจ”“...” เธอไม่ตอบก้มจับช้อนตักข้าวเข้าปากแทน รู้ดีว่าชะตากรรมตัวเองไม่มีทางรอดจากที่นี่ นอกจากวิธีของตัวเองเท่านั้นร่างสูงใหญ่เข้ามาในคฤหาสน์หลังจากกลับจากด้านนอกพร้อมกับอดัมที่ประกบข้างตลอดเวลา อะเดลรับหน้าที่เฝ้าเหยื่ออย่างรวงข้าวเดินออกมารับเจ้านายที่หน้าบ้านเมื่อได้เวลา“เป็นไง” คริสเตียนถามนิ่ง ๆ“กินข้าวกินยาหลับไปแล้วครับ”“พยศบ้างไหม” เขาถามอย่างไม่ใส่ใจนัก“ไม่เลยครับ เอาแต่นิ่งเงียบเหมือนเดิม”“อืม” คำตอบของอะเดลทำเอาคริสเตียนแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ ในหัวคิดแผนทรมานเด็กสาวได้อีกครั้ง อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเจอวิธีเอาคืนอย่างที่หัวคิดได้เมื่อกี้ ยัยนั่นจะนิ่งเฉยได้สักกี่วันวันต่อมาแอ๊ดด~ ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกด้วยฝีมืออดัมอะเดล ส่วนเจ้านายอย่าง
กึก! “ทำไร!?” รวงข้าวก้มมองกุญแจที่ข้อมือตัวเอง ก่อนที่หัวกุญแจอีกข้างจะล็อกกับข้อมือหนาของอีกคน“...” คิ้วหนายักคิ้วกวน ๆ ไม่ได้สนใจสายตาพิฆาตนั่นเลยสักนิด“...” รวงข้าวลูบหน้าด้วยมืออีกข้างที่ยังเป็นอิสระ ตอนนี้เธอไม่สามารถขัดขืนอะไรได้เลย“ถ้าเธอไม่อยากทรมาน บอกฉันมาว่าใครส่งเธอมาล้วงคองูเห่าอย่างฉัน!!”“งูเห่าเหรอ...คิดว่างูเขียว”“...” คราวนี้คริสเตียนที่ได้ยินเต็มสองหู ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงจนกระชากร่างบางให้ลุกขึ้นตาม“เดี๋ยวคืนนี้เธอได้รู้แน่ว่างูอะไร!!” เขาเอ่ยเล็ดลอดทางไรฟัน ข่มอารมณ์ไม่ให้ปะทุตอนนี้“...” ใบหน้าหวานขมวดคิ้วไม่เข้าใจความหมายของคริสเตียนที่ต้องการจะสื่อออกมา“มานี่!!” ว่าแล้วก็กระชากให้รวงข้าวเดินตามออกจากห้องทำงาน สาวเท้ายาว ๆ โดยไม่คิดจะรอคนที่ขาสั้นกว่ารวงข้าวขยับขาตามร่างกายเพิ่งฟื้นจากไข้ก็กลับโดนคริสเตียนเริ่มแผนทรมานต่อทันที@ห้องอาหาร“ตักข้าว!”คริสเตียนออกคำสั่งแม่บ้านบริเวณนั้น ส่วนรวงข้าวหย่อนตัวลงนั่งเก้ากี้ถัดจากหัวโต๊ะ ไม่เข้าใจว่าเขาจะมาไม้ไหนกันแน่ จู่ ๆ ก็มาจับเธอมัดแล้วมานั่งร่วมโต๊ะเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้แทบจะฆ่ากันตาย รวงข้าวได้สต
หมับ!คริสเตียนเอื้อมมือดึงคางมนให้ก้มมองร่างกายของเขาเหมือนเดิม“จะหลบหน้าทำไม อยากมองก็มอง”“ปล่อย” รวงข้าวบอกเสียงแข็งแล้วสะบัดหน้าหนี“...” คริสเตียนยักไหล่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้“แล้วก็ไขกุญแจมือบ้า ๆ นี่สัก” ก่อนที่เธอจะเอ่ยสั่งเขาไป“เก่งนักก็เอากุญแจมือออกเองสิ” คริสเตียนเอ่ยจบพร้อมทำหน้ายักคิ้วยียวน ทำให้รวงข้าวพยักหน้าเบา ๆ มองหาบางอย่างในห้องน้ำ “คิดจะทำไร!!”“...” เธอไม่ตอบนิ่งเฉย“ฉันว่าคนที่กวนประสาทน่าจะเป็นเธอมากกว่า...ไม่ใช่ฉัน!!”“...” รวงข้าวไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดพวกนั้น ตอนนี้เธอต้องการเข็มหมุดหรือไม่ก็ลวดเหล็กแหลม ๆ สักอันเพื่อจะจัดการกับไอ้กุญแจบ้านี่สักที“มาอาบน้ำให้ฉัน” ว่าแล้วก็ดึงร่างบางให้เดินตามไปที่ใต้ฝักบัว“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ใช่ทาสนายนะที่จะได้ยอมทำตามทุกอย่าง”“ไม่ใช่ทาสแต่ก็เหมือนเพราะสถานะตอนนี้เธอคือ 'นักโทษ' ของฉัน!!” ร่างสูงเน้นย้ำชัดเจน“...” จนรวงข้าวต้องย่นจมูกด้วยความเจ็บใจ ทำไมเธอต้องมีสภาพอย่างนี้ด้วย เมื่อไหร่อิสระที่เธอตามหามันจะเกิดขึ้นกับชีวิตเธอบ้าง หรือต้องทนทรมานกับไอ้ผู้ชายเลว ๆ คนนี้ไปตลอด“ยืนนิ่งอยู่ทำไมล่ะ ถอดกางเกงให้ฉันสิวะ!!” คริสเตียน
“อื้อ!” รวงข้าวกอดคอคริสเตียนไว้แน่นเพราะกลัวจะตกลงไปนอนกับพื้น“กลัวเป็นด้วยเหรอ” เขาถามเมื่อโดนรัดคอแน่น“...” ทว่ารวงข้าวไม่ตอบ“หึ” ทำให้คริสเตียนหัวเราะกับสีหน้ารังเกียจพวกนั้น ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้เธออยู่ในกำมือเขาแท้ ๆ ยังกล้าจองหองอีกฝีเท้าใหญ่สาวเท้าไปยังเตียงระหว่างทางเขากระแทกอัดเข้าไปไม่หยุดยั้ง ยิ่งเดินยิ่งสอดเข้าไปลึกมากเท่านั้น ร่างบางเสียวสะท้านไปทั้งตัว เก็บอารมณ์บางอย่างที่คริสเตียนกระตุ้นแก่ร่างกายของเธอพรึ่บ!“อย่าคิดว่าที่ฉันทำแบบนี้เพราะพิศวาสเธอ...” เขาวางรวงข้าวบนเตียนโน้มตัวคร่อมไว้ ส่วนด้านล่างยังคงเชื่อมติดกันเหมือนเดิม“...ฉันแค่หาที่ระบายให้คุ้มกับเงินสามสิบล้าน!!” ร่างสูงเน้นย้ำชัดเจน เพื่อให้รวงข้าวรู้ตัวสถานะตัวเองก่อนจะคิดไปไกลเพราะเขาร่วมรักด้วย“...” รวงข้าวมองตาคมนิ่งไม่ได้คิดฝันเข้าข้างตัวเองอยู่แล้ว และที่เธอต้องทนรับความทรมานจากเขาเพราะสิ่งที่ตัวเองก่อไว้ต่างหาก ไม่ว่าจะอยู่ในกำมือคริสเตียนหรือพ่อเลี้ยงธนินมันก็ขุมนรกเหมือนกันคริสเตียนมองนัยน์ตาที่ไม่ฉายความรู้สึกใดออกมา เมื่อเห็นแบบนั้นยิ่งอยากจะกระตุ้นให้รวงข้าวเจอกับความดิบเถื่อนอย่างเจ็บปวด ไม่
รอยยิ้มผู้ชนะปรากฏบนใบหน้ารวงข้าวเมื่อข้อมือถูกไขกุญแจฝั่งคริสเตียนออกมาแล้วเปลี่ยนเป็นหัวเตียงแทน ร่างสูงตวัดขาลงจากเตียงสาวเท้าด้วยความหัวเสียหงุดหงิดที่โดยเอาคืนอย่างเจ็บแสบอารมณ์ค้างคาที่ต้องการปลดปล่อย อยากจะพ่นพิษใส่คนอวดดีแต่กลับต้องเปลี่ยนเป็นห้องน้ำตัวเองแทน เกิดมาเพิ่งจะเคยมานั่งช่วยตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ชีวิตเขาพร้อมที่จะมีผู้หญิงพลีกายให้ตลอดเวลา“ยัยตัวแสบ! เธอทำฉันเจ็บแสบมาก” เขาบ่นออกมามือหนากำแก่นกายแน่นพร้อมทั้งสาวไปมา ร่างกายร้อนรุ่มเพราะความต้องการและอีกส่วนคืออาการหัวร้อนของคนเสียหน้าพึ่บ!รวงข้าวค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นมองหาของแข็งขนาดเล็ก ๆ ภายในห้อง ขยับเคลื่อนไหวตัวอย่างช้า ๆ และเสียงเบาที่สุด ทว่าของพวกนั้นไม่ได้อยู่ในห้องนอนหรูเลย เธอทำได้เพียงเลื่อนตัวลงไปนอนใต้ผ้าห่มเหมือนเดิม ก่อนจะกระชับผ้าห่มคลุมร่างกายที่เปลือยเปล่าของตัวเองไม่ให้ไปล่อตาล่อความหื่นกามของคนระยำที่ชื่อคริสเตียนอีก แค่รอดคืนนี้ไปได้ก็โล่งใจมากพอแล้ว“ซื้ด!! อ่าส์!!” เสียงครางดังลั่นออกมานอกห้องน้ำ ส่งเสียงกระเส่าราวกับผ่านศึกหนักหน่วงหมับ! รวงข้าวยกมือขึ้นมาปิดหูตัวเองแน่น ไม่อยากได้ยินเสียงอุบา
ประเทศไทย (เชียงใหม่) “เมื่อไหร่พ่อเลี้ยงจะออกตามหารวงข้าว”“มันใช่กงการอะไรของมึงที่ต้องมายืนถามกูฮะ!! ไอ้ไดรฟ์!!” ชายวัยกลางคนเงยหน้ามองลูกน้องที่ชุบเลี้ยงตั้งแต่เกิดด้วยแววตาคาดโทษ“ผมไม่เข้าใจ พ่อเลี้ยงรู้ตั้งแต่แรกว่ามันอันตรายยังจะส่งข้าวไปอีกทำไม ถึงข้าวจะทำงานดีแต่ไม่ได้หมายความว่าจะสู้พวกมีอิทธิพลนั่นได้” ไดรฟ์ย้ำประโยคซ้ำ ๆ ไม่คิดจะสงบปากสงบคำอย่างกระทิง ในใจร้อนรนจนแทบระเบิดออกมาให้ได้“พูดอะไรกันอยู่เหรอคะ!? เสียงดังถึงหน้าบ้านเลย” เสียงหวาน ๆ เดินเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมเอ่ยถามทุกคนที่ยืนเครียดกันเรียงหน้ากระดาน มีก็แค่พ่อเลี้ยงธนินที่ไม่มีสีหน้าอาการสะทกสะท้านแต่อย่างใดกับบทสนทนาพวกนั้นนอกจากตกใจที่ได้เห็นลูกสาวคนเดียวปรากฏตัวในบ้าน“อ้าว ยัยหนู” พ่อเลี้ยงอึ้งไปทันที ไม่คิดว่าลูกสาวจะกลับจากเมืองนอกแบบไม่บอกไม่กล่าว“มะลิ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” กระทิงไม่รีรอเอ่ยถามออกไป“ลิเพิ่งมาถึงเมื่อคืนค่ะ” สาวร่างบางในวัยสิบแปดปีตอบกลับไปพร้อมทั้งหย่อนสะโพกนั่งลงข้างผู้เป็นพ่อ ทว่าสายตากลับจับจ้องไปที่ร่างสูงใหญ่อีกคนที่เอาแต่ยืนนิ่งไม่แสดงอาการใด ๆ“กลับมาทำไมไม่บอกพ่อ” พ่อเลี้ยง
“ขึ้นไป!!” เมื่อทั้งคู่มาถึงบนดาดฟ้าคริสเตียนก็ตะคอกให้คนที่เดินตามหลังทำตามคำสั่งทันที“จะพาฉันไปไหน” ร่างบางมองเครื่องบินเจ็ทและคริสเตียนสลับกันไปมา ไม่รู้ว่าเขากำลังจะเล่นตลกอะไรอีก ครั้งที่แล้วก็เอาเธอบินข้ามน้ำข้ามทะเลเอาตัวเธอมาประมูลแล้วการขึ้นเครื่องบินครั้งนี้จะเป็นอะไรอีก“ไปฆ่า” เขาตอบสั้น ๆ“...” รวงข้าวหันมองดังขวับ เธอรู้ว่ามันคือคำขู่เพราะถ้าเขาจะทำแบบนั้นคงไม่ปล่อยเวลามาถึงขนาดนี้ หากไม่ได้สิ่งที่ต้องการคนข้าง ๆ คงไม่ปล่อยเธอง่าย ๆ แน่“มองอะไร ขึ้นไปสิวะ!!” ว่าแล้วก็ผลักดันให้รวงข้าวถลาไปข้างหน้า“เสื้อผ้าฉันล่ะ” แต่เธอก็แข็งตัวกดข้อเท้าไว้เอ่ยถามสิ่งที่ต้องการออกไป“ไม่ต้องใส่” คริสเตียนตอบหน้าตาเฉย“...” รวงข้าวหน้าเหวอกับสิ่งที่ได้ยิน ดีแค่ไหนที่ตอนนี้ญี่ปุ่นไม่ใช่ฤดูหนาวไม่อย่างนั้นเธอคงแข็งตายไปซะก่อนแล้วหมับ! เมื่อรวงข้าวชักช้าคริสเตียนจึงตวัดแขนลากร่างบางให้ขึ้นเครื่องบินตามแรงกระชากของเขา ก่อนจะดันตัวให้ไปนั่งด้านในสุดแล้วคริสเตียนก็หย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ กั้นไม่ให้รวงข้าวคิดจะหนีออกห่าง“...” รวงข้าวเบี่ยงหน้าออกด้านข้างเลือกที่จะมองกระจกแทนไม่อยากหันมองคนใจร้
“อื้อ!” รวงข้าวรู้สึกตัวในช่วงหัวค่ำ ร่างบางขยับตัวเล็กน้อยก่อนที่จะลืมตาขึ้นมา“...” เธอค่อย ๆ ยันตัวลุกนั่งพิงหัวเตียง ตอนนี้รวงข้าวไม่ได้อยู่บนเครื่องบินอีกแล้วสายตาหวานมองรอบ ๆ ห้องคาดเดาว่าน่าจะเป็นที่พักที่ไหนสักเเห่งของคริสเตียน ร่างบางมองเสื้อเชิ้ตกางเกงขาสั้นที่ไม่รู้ว่ามาอยู่บนตัวของเธอตอนไหน. รู้แค่ว่ามันดีกว่าผ้าขนหนูเป็นไหน ๆ“อ้ะ!” ทว่าทันทีที่ตวัดขาลงจากเตียง เสียงใบหน้าหวานเหยเกขึ้นมาทันใด รวงข้าวก้มมองหว่างขาที่เจ็บแทบขยับตัวไม่ได้ ก่อนจะนึกถึงต้นเหตุที่ทำให้เธอตกอยู่ในสภาพแบบนี้ คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...คริสเตียน...แล้วเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ก็ฉายในสมองย้ำเตือนไม่ให้ลืมบางอย่างที่เกิดขึ้นคริสเตียนอุ้มรวงข้าวกลับไปนั่งที่เดิม ก่อนที่น้ำบางอย่างจะไหลย้อนออกมา เธอก้มมองด้วยความรู้สึกหลากหลายอารมณ์“ไม่ต้องกลัวท้อง ฉันไม่พลาดมีลูกกับเธอหรอก” ร่างสูงพูดออกมาอย่างไม่คิดอะไร แต่คนฟังกลับเจ็บจี๊ดทั้ง ๆ ที่ไม่ได้คิดอะไรกับคริสเตียนสักนิด แต่คำพูดที่เหมือนจะดูถูกทำให้อดที่จะรู้สึกบางอย่างไม่ได้“จา...จะทำไร” มือบางยันแผงหน้าอกไว้ทันที จู่ ๆ ก็จู่โจมเธออีกครั้งโน้มตัวขึ้นทับแล้ว
อาฟเตอร์ปาร์ตี้ หลังจากรวงข้าวตอบรับการแต่งงาน คริสเตียนก็เร่งงานภายในหนึ่งอาทิตย์เพื่อให้รวงข้าวสวมใส่ชุดเจ้าสาวได้สวยที่สุด ก่อนที่เจ้าตัวน้อยในท้องจะแสดงฤทธิ์เดชเผยให้ทุกคนได้เห็น“ไม่รู้จะมีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ทำไม” คริสเตียนบ่นออกมาเพราะเขาอยากเข้าหอเต็มทีแล้ว“คุณเคนตะรีเฟสมาครับ ผมไม่กล้าขัดเลยจัดตารางงานตามนี้” อดัมรายงานทันที“แล้วไหนคนที่อยากอยู่งานปาร์ตี้ที่สุด หายหัวไปไหนแล้ว” สายตาคมกวาดสายตามองหาน้องชายสุดแสบ ที่ปล่อยให้แขกในงานสนุกกันเอง ทั้ง ๆ ที่เป็นแขกของเคนตะทั้งนั้น“ผมเห็นขึ้นลิฟต์ไปสักพักใหญ่แล้วครับ” อะเดลเอ่ยตามที่เห็น“คัพเค้กไปตามพี่เคน บอกให้ลงมาในงานได้แล้ว” คางูยะนั่งฟังบทสนทนาของหลายชายคนโตก่อนจะบอกหลานสาวเพียงคนเดียวที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย“ทำไมต้องเป็นเค้กด้วยล่ะคะ” ทำเอาคัพเค้กถึงกับหน้าบึ้งตึง ย่นจมูกส่ายหน้าไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ง่าย ๆ“ไปเถอะเค้ก ในงานก็มีแต่เพื่อนไอ้เคน บอกให้มันมารับแขกหน่อย” เจ้าบ่าวป้ายแดงรีบเอ่ยอีกเสียง เหลือบมองเจ้าสาวเป็นระยะ ยิ่งชุดที่รวงข้าวสวมใส่เผยให้เห็นร่องอกขาวเนียน จนเขาแทบจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว“ลูกน้องพี่คริสก็มี ทำไมไม่ใช้บ
รวงข้าวทอดสายตามองตามนิ่ง ๆ เมื่อคริสเตียนเดินออกไปจากจุดนั้น“ตามผัวไปสิวะ ยืนเซ่ออยู่ทำไม” วิมลดันแผนหลังลูกสาวเพื่อกระตุ้นเตือน“...” ทว่ารวงข้างยังคงยืนเฉยเมย ลังเลว่าทุกอย่างคือความจริงใช่ไหม ไม่มีฉากบังหน้าอะไรตบตาเธออีก“อ้าวอีนี่ เอาใจผัวอะเป็นไหม คงไม่อยากให้ลูกในท้องไม่มีพ่อหรอกนะ” หญิงวัยกลางคนถึงกับเกาศีรษะ เบื่อหน่ายนิสัยเย็นชาเต็มที“...”“ไปสิวะ!!” ก่อนที่วิมลจะดันให้รวงข้าวยอมก้าวเท้าตามออกไปตึก!ตึก!“ปู่” คริสเตียนเอ่ยเรียกคางูยะไว้ ก่อนที่มาเฟียเฒ่าจะขึ้นเครื่องบินเจ็ทกลับไปซะก่อน “จะตามฉันออกมาทำไม ไม่ไปดูแลลูกเมียแกล่ะ” คางูยะไม่คิดจะหันกลับไปมอง ไม่ได้โกรธเคืองอะไรทั้งสิ้น แค่ไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัวเองสะสางไม่เสร็จ“ผมเข้าใจทุกอย่างที่ปู่ทำแล้ว ต่อไปผมจะเป็นคนสืบเรื่องนี้ จะไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่าอีก”กึก!“ต่อไปแกอย่าลืมนะ ว่าจุดอ่อนของแกคือลูกและเมีย” คางูยะหันมาบอกด้วยสีหน้าสลด“ครับ ผมจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด ก่อนรวงข้าวจะคลอด” เขาให้สัญญาและทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่พูด“...” มาเฟียเฒ่าพยักหน้า แล้วหมุนตัวกลับไปขึ้นเครื่องบินตามเดิมคริสเตียนยื
แม่!!” รวงข้าวมองหญิงวัยกลางคนที่เดินเข้ามาหยุดตรงหน้า พร้อมทั้งชายชราที่ยืนถือไม้เท้าแววตาดุดันพึ่บ! คริสเตียนปล่อยโอบกอดจากร่างบางแล้วหมุนตัวหันไปมองแขกใหม่ทันที“ปู่!!” ก่อนที่เขาจะเอ่ยอย่างตกใจ ไม่คิดว่าคางูยะจะตามมาได้เร็วขนาดนี้ และที่สำคัญกลับพาแม่รวงข้าวมาด้วย งานนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้“กลับบ้านกับฉัน...คริสเตียน!!” คางูยะกระแทกไม้เท้ากับพื้น น้ำเสียงเอ่ยสั่งเรียบ ๆ แต่ถึงเเม้จะนิ่งเรียบแต่แฝงด้วยอำนาจบางอย่าง“ไม่ครับ ผมจะกลับก็ต่อเมื่อปู่อนุญาตให้เราสองคนได้สร้างครอบครัวด้วยกัน” ร่างสูงไม่เพียงแต่เอ่ยแต่ยื่นมือลงไปจับมือบางไว้แน่น เขาพร้อมที่จะเผชิญทุกอย่างจริง ๆ และไม่คิดจะยอมเเพ้ง่าย ๆ“หึ ดีนี่ทำให้หลานที่เชื่อฟังฉันมาตลอดสามารถออกนอกลู่นอกทางได้ สมใจเธอแล้วสินะ” มาเฟียเฒ่าแสยะยิ้มมองใบหน้าหญิงสาวข้างๆหลานชาย“...” ทุกคนต่างเงียบเกรงกลัวอำนาจในกำมือคางูยะที่สามารถสั่งทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้า“เธอเคยรับปากกับฉันว่ายังไงฮะ!!” ก่อนที่คางูยะจะยื่นไม้เท้าเชยคางรวงข้าวให้เชิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคน“หยุดขู่เมียผมสักที เมื่อไหร่ปู่จะปล่อยให้พวกผมมีชีวิตที่เลือกเองบ้าง” คริ
แววตาคมเหลือบมองเด็กชายตัวเล็กผิวขาวที่กำลังนั่งเล่นรอเวลาทานอาหารเช้า คริสเตียนสาวเท้าเข้าไปหย่อนตัวนั่งข้าง ๆ จนทำให้ดวงตาใสบริสุทธิ์จับจ้องคริสเตียนตาแป๋ว“เมื่อไหร่คุณลุงจะกลับ” คิมหันต์วางของเล่นในมือ ขยับตัวออกเล็กน้อย เพราะรวงข้าวเตือนไม่ให้ยุ่งเกี่ยว“เลิกเรียกลุงได้แล้ว” คริสเตียนไม่พอใจนัก แต่ก็เก็บกลั้นเอาไว้“ก็คุณลุงแก่แล้วนี่ครับ”“เฮ้ย! เคยโดนหนังยางดีดปากไหมวะ” แต่แล้วคำพูดที่เอ่ยออกมา ทำเอาคริสเตียนตะคอกกลับไปเสียงเข้ม“น่ากลัว..ว่าแล้วทำไมแม่ข้าวถึงไม่รัก” คิมหันต์ฉีกยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังหน้าบึ้ง“รู้ได้ไงว่าแม่นายไม่รักฉัน อ้อ อีกอย่างต่อไปฉันต้องเป็นพ่อนาย ควรเปลี่ยนคำเรียกซะใหม่” เพราะหลังจากง้อรวงข้าวสำเร็จคงต้องรับคิมหันต์ไปเป็นลูกอย่างถูกกฎหมาย“ผมไม่อยากมีพ่อ แค่แม่ข้าวคนเดียวก็พอแล้ว” คิมหันต์ส่ายไปส่ายมาพร้อมทั้งกอดอกตัวเอง“ไม่ได้!! ถ้างั้นฉันจะไม่ให้นายเป็นลูกเมียฉันอีก” ถึงแม้จะมีน้องชายที่กวนประสาทถึงสองคน แต่ความอดทนเขาเริ่มจะหมดเต็มทีเมื่อต้องมานั่งต่อล้อต่อเถียงกับคิมหันต์“ขู่ผมเหรอ ผมไม่กลัวหรอก” คิมหันต์ยักคิ้วไม่ได้หวาดกลัวสักนิด“...” ทำเอาร่
“อะไรของคุณเนี่ย” รวงข้าวเงยหน้าถามด้วยความสงสัย จู่ ๆ คริสเตียนก็ลากเธอมาหลังต้นไม้“ไล่มันกลับไปเดี๋ยวนี้” ก่อนที่ร่างสูงจะเอ่ยเสียงเข้ม แววตาบ่งบอกชัดเจนว่าหมายถึงใคร“คุณก็เห็นว่าพี่ไดรฟ์ไม่กลับ”“งั้นพี่จัดการเอง” ว่าแล้วก็ปล่อยมือรวงข้าวเพื่อเดินกลับไปที่น้ำตกที่มีอดัมอะเดลค่อยเป็นเกราะคุ้มกันไม่ให้ไดรฟ์เข้าใกล้รวงข้าวได้“หยุดเลย คุณเองก็ควรจะกลับนะ ก่อนที่ปู่คุณจะตามมา” รวงข้าวรีบหยิบยกเรื่องนี้มาขู่ เพราะเชื่อว่าไม่นานคางูยะต้องทำอะไรสักอย่างแน่“รวงข้าว พี่ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ อายุก็เลขสามแล้วสร้างครอบครัวได้สบาย ๆ” ทำให้ร่างสูงหันมาเผชิญหน้ากับรวงข้าวอีกครั้ง แล้วเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง“แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่เหมาะกับคุณ” เธอก้มหน้าไม่สบตา ยังจำคำพูดคริสเตียนได้ทุกคำ“เอาอะไรมาวัดว่าไม่เหมาะ อย่าคิดแทนพี่”“อย่ามาพูดดีหน่อยเลย ฉันไม่มีวันหลงกลคุณอีกหรอก” ก่อนที่รวงข้าวจะเบี่ยงหน้าไม่อยากคุยกับคนเจ้าเล่ห์ต่อ“ข้าว...ฟังพี่อธิบายก่อน” คริสเตียนจึงตั้งใจจะอธิบายทุกอย่าง ถึงแม้สถานที่จะไม่อำนวยก็ตาม แต่ดีว่าเข้าใจผิดอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ“ข้าวไปกับพี่” ไดรฟ์เข้ามาเอื้อมมือดึงรวงข้าวอ
เช้าวันต่อมาตึกตึก...รวงข้าวเดินวนไปวนมารอบเตียงตั้งแต่หัวรุ่ง ครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอดจากร่างสูงนอกห้อง“เราจะให้เขารู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด” เธอลูบหน้าท้องตัวเองที่มีอีกหนึ่งชีวิต“แต่เราจะหนีเขายังไง แล้วไหนจะเรื่องแม่อีกล่ะ” ถ้าหากคางูยะรู้เรื่องที่คริสเตียนมาตามเธอที่นี่ แม่ของเธอจะเป็นอันตรายไหมคิดได้อย่างนั้นรวงข้าวจึงชะโงกหน้าผ่านทางหน้าต่างเพื่อหาทางแก้ปัญหา ก่อนจะเห็นบอดีการ์ดยืนอยู่รอบบ้าน“ขนมาเยอะขนาดนี้ ไม่รอดอีกแน่” เธอส่ายหน้าเหนื่อยล้ากับสิ่งที่เผชิญ ทำไมความสุขที่เกิดขึ้นในชีวิตเธอมันสั้นนิดเดียว เมื่อไหร่เธอจะมีความสุขกับเขาบ้าง“แม่ข้าว...ทำอะไร” คิมหันต์ลุกขึ้น ใช้นิ้วมือขยี้ดวงตามองรวงข้าวที่กำลังยืนดูบางอย่างนอกหน้าต่าง“เอ่อ..ตื่นแล้วเหรอคิม” ทำให้รวงข้าวหันกลับมาตามเสียง“ครับ”“...” เธอยิ้มจาง ๆ เมื่อใกล้เวลาต้องออกไปเจอร่างสูงในเวลาที่ไม่อยากเห็นหน้าแบบนี้“ว่าไงครับ แม่ข้าวไปทำอะไรที่หน้าต่าง” แต่แล้วคิมหันต์กลับถามสิ่งที่ยังไม่ได้คำตอบต่อ“เปล่า นอนต่ออีกไหม” รวงข้าวจึงเดินไปใกล้ ๆ พร้อมเอื้อมมือลูบศีรษะเด็กชายที่กำลังจ้องเธอตาแป๋ว“ไม่ล่ะครับ คิมออกไปด้า
ร่างสูงใหญ่ลงจากเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ใบหน้าซูบโทรมเริ่มจะมีความหวังขึ้นมาบ้าง เมื่อมองรอบ ๆ ที่เป็นดอยห่างไกลจากในตัวเมืองค่อนข้างมาก ความจริงที่นี่เขาเคยให้ลูกน้องมาตามหาแล้วครั้งหนึ่งแต่กลับไม่มีเบาะแสอะไรสักอย่าง ทว่าครั้งนี้เขารู้สึกถึงความหวังสุดท้าย รู้สึกถึงการรอคอยตลอดสามเดือนกำลังจะสมหวัง“มืดค่ำแบบนี้ แน่ใจนะครับว่าจะเข้าไปในบ้านหลังนั้นจริง ๆ ” อดัมถามออกมา กวาดสายตามองรอบ ๆ ที่ตอนนี้ ดึกเกินกว่าจะรบกวนคนในบ้าน“กูไม่รออะไรทั้งนั้น” คริสเตียนตอบพร้อมก้าวเท้าต่อไปตามที่ลูกน้องรายงานพิกัดคริสเตียนมองบ้านที่มีขนาดเล็ก ข้าง ๆ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ หากรวงข้าวอยู่ที่นี่จริง ปู่ของเขาก็เล่นได้แสบมาก ที่ปล่อยให้เมียเขาอยู่ตามลำพังท้ายหมู่บ้าน เห็นทีต้องเคลียร์บางอย่างกับปู่บ้างแล้วก๊อก ๆก๊อก ๆ“ใครครับแม่ข้าว” คิมหันต์ลุกขึ้นนั่งตามรวงข้าว เงยหน้าอย่างงัวเงีย“คิมนอนต่อเถอะ เดี๋ยวแม่ข้าวไปเปิดเอง”“ไม่เป็นไรครับ คิมไปเปิดเอง” ทว่าคิมหันต์ไม่ยอม กระโดดลงจากเตียงเพื่อไปทำหน้าที่แทนแม่บุญธรรม เพราะเข้าใจว่าเป็นยายตัวเองแอ๊ดดด~ดวงตาคมกวาดสายตาเข้าไปในตัวบ้านเมื่อมีคนเปิดประตูให้ ทว่า
สามเดือนผ่านไปอุ๊บ!แหวะ!“แม่ข้าว แม่ข้าวเป็นอะไร” คิมหันต์วิ่งเข้าไปยืนข้าง ๆ มองดูแม่บุญธรรมที่กำลังอาเจียนอย่างหนักตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา“เข้าบ้านไปก่อนคิม เดี๋ยวแม่ข้าวดีขึ้น จะตามเข้าไป” มือบางของรวงข้าวดันให้เด็กน้อยเข้าไปในบ้าน“ไม่เอา คิมอยากดูแม่ข้าว”“คิมหันต์!!” ทำให้รวงข้าวกดเสียงเรียกชื่อเพื่อไม่ให้แสดงความดื้อรั้นออกมา“ก็ได้ครับ” คิมหันต์หน้าจ๋อย เดินคอตกเข้าบ้านทันทีหญิงสาวมองดูเด็กชายผิวขาวจนลับสายตา มือบางยกขึ้นมาลูบหน้าอกตัวเอง ครุ่นคิดถึงอาการที่กำลังเป็นอยู่“ไม่จริงใช่ไหม” ก่อนที่รวงข้าวจะเลื่อนมือลงมาลูบหน้าท้องแบนเรียบอย่างสงสัย ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเพราะความเครียดเลยทำให้ประจำเดือนเคลื่อน ทว่าอาการที่เป็นอยู่มันฟ้องชัดว่าสิ่งที่กลัวมาตลอดกำลังจะเกิดขึ้น“เราจะทำยังไงดี” รวงข้าวแทบหมดแรง ไม่มีเรี่ยวแรงจะยืนต่อ ค่อย ๆ หย่อนตัวนั่งเก้าอี้ไม้หลังบ้าน ตั้งสติเพื่อแก้ปัญหาทุกอย่างตึก!ตึก!“รวงข้าว ไหวไหมบอกป้าได้นะ” แย้มยายของคิมหันต์เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ หลังจากที่คิมหันต์วิ่งไปตามที่กระท่อม“...” รวงข้าวส่ายหน้า จนปัญญากับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอไม่รู้จะรับ
เอี๊ยดดด!!“โธ่เว้ย ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ” คริสเตียนหักหลบพวงมาลัยเข้าข้างทางด้วยความโมโหที่วันนี้...วันทั้งวันไม่ได้เบาะแสอะไรสักอย่างก๊อกๆ...อดัมอะเดลขับรถตามหลังมาติด ๆ จึงจอดรถเพื่อลงไปหาเจ้านาย“นายครับกลับไปพักก่อนเถอะครับ หักโหมแบบนี้เดี๋ยวจะวูบเอาได้” เมื่อคริสเตียนลดกระจกรถลง อดัมเอ่ยด้วยความเป็นห่วง“พวกมึงตามกูมาทำไมวะ” แต่คริสเตียนกลับตะคอกใส่ มองลูกน้องสองคนอย่างไม่สบอารมณ์นัก แทนที่จะไปทำหน้าที่ตัวเองแต่กลับมาตามเขา โดยที่ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรสักนิด“ผมกลัวว่านายจะใจร้อนจนเป็นอันตราย” อะเดลเอ่ยขึ้นมาบ้าง ยิ่งตอนนี้เจ้านายหนุ่มไม่มีสติพอที่จะทำอะไรได้ ในใจยังคงวนเวียนแค่เรื่องเดียว ยิ่งหาไม่เจอยิ่งทำให้ความร้อนรุ่มปะทุออกมายากที่จะควบคุมปึง!!“มึงแช่งกูเหรอฮะ!!” คริสเตียนเปิดประตูลงจากรถเข้าไปกระชากคอเสื้ออะเดลทันที“ไม่ใช่อย่างนั้นครับนาย...ไอ้อดัม” มือหนาของอะเดลจับมือคริสเตียนไว้ ก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อคนข้าง ๆ เพื่อให้ทำไรสักอย่าง“ใจเย็น ๆ ก่อนครับนาย...”“...กูว่ามึงเข้าไปขับแทนนายเถอะ” ก่อนที่อดัมจะกระแทกไหล่ให้อะเดลหลบเข้าไปในรถ“มึงคิดว่านายจะยอมเหรอวะ”ทว่าอะเ