Chapter 13ม่านหมอก…“ฉันชอบเธอนะม่านหมอก” ฉันหันไปมองคุณพายุ เขาหันมาสบตาฉันไม่ต่างกัน ฉันไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี พอคุณพายุพูดแบบนั้นฉันรู้สึกตันไปหมด “เอ่อ…” ฉันอึกอัก ทำท่าทางกระอักกระอ่วนใจ ฉันไม่เคยคิดกับคุณพายุมากกว่าเจ้านายลูกน้องเลย ฉันเองก็คิดว่าเขาคงคิดเหมือนกันกับฉัน เพราะเขาไม่เคยเเสดงท่าทีอะไรว่าสนใจฉันเลย แต่พอคุณพายุมาสารภาพความจริงว่าชอบฉัน ฉันยิ่งไม่รู้จะพูดยังไง ฉันกับเขาก็พึ่งจะรู้จักกันได้เดือนเดียวเอง “ฉันไม่ได้บังคับให้เธอชอบฉัน แต่ฉันอยากให้เธอเปิดใจ ถ้าเธอยังไม่มีใคร ฉันอยากจะเป็นคนที่ได้ดูแลหัวใจเธอ” น้ำเสียงนุ่มนั้นเอ่ยออกมาเบา ๆ “คือหมอกรักผู้ชายอยู่คนหนึ่งค่ะ” ฉันตัดสินใจพูดมันออกมา คุณพายุมองหน้าฉันแล้วยิ้ม รอยยิ้มแสนอบอุ่นนั้น ทำให้ฉันรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย เขาเสมองไปทางอื่น ก่อนจะเงยหน้ามองพระจันทร์“ไอ้ปั้นจั่นใช่ไหม? “ เขาพูดแต่ก็ยังมองพระจันทร์อยู่ เสียงแมลงกลางคืนร้องขับกล่อม มันชวนฟังอยู่ไม่น้อย“คุณพายุรู้เหรอคะ?”“ใช่ แต่หมอกก็รู้ว่ารักคนที่เขาไม่รักเรามันเจ็บ” เขาพูดถูกรักคนที่เขาไม่รักเรามันเจ็บ ซึ่งฉันเจ็บมาหลายปีแล้ว“ค่ะ”
Chapter 14พายุ…เช้าตรู่ของอีกวัน ผมตื่นแต่เช้าแล้วเดินมาจากห้อง ผมเห็นม่านหมอกกำลังขับเจ้ารถหน้าตาประหลาด ๆที่ เขาเรียกรถสะลี้ หรือรถไถนาเดินตามพ่วงด้านหลังไว้ใส่ของ ข้างหลังรถมีหญ้าเต็ม เธอขับมาจอดข้าง ๆ คอกวัว ก่อนที่แม่และพ่อของเธอจะช่วยกันเอาหญ้าลงให้วัวกินผู้หญิงรูปร่างบอบบาง กลับทำผมทึ่งอยู่ทุกครั้ง เธอแกร่งและบู๊กว่าผู้หญิงที่ผมเคยรู้จัก ให้มันได้อย่างนี้สิ หญิงแกร่งผมชอบ แม่ของลูกผมในอนาคตเออ! ผมลืมบอกไป ม่านหมอกตัดหญ้าเก่งมาก ให้ตายเถอะ! ผมเป็นผู้ชาย ผมยังอายเลย“เดี๋ยวฉันช่วย” ผมรีบเดินเข้าไปช่วย มาอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ผมช่วยเท่าที่ผมช่วยได้แหละ ผมทำเป็นหลายอย่างแล้วนะครับเพราะมีหมอกกับน้ำค้างคอยสอน แต่ที่ยังไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ คือไปยิงหนังสติ๊กกับน้ำค้าง เมื่อวานพาผมไปยิงกิ้งก่า กระสุนพุ่งเกือบโดนเบ้าตาผม ถ้าผมไม่หลบคงได้เป็นไอ้บอดเป็นแน่“ไปกินน้ำกินท่ากันครับคุณพายุ” พ่อสุนทรพูดกับผม ในฐานะลูกเขยในอนาคต ผมรีบเดินตามหลังอย่างไวเลยครับ ท่านพาผมมานั่งที่แคร่ มือหยายกระด้างของท่านหยิบห่อบางอย่างออกมา มันเป็นเส้น ๆ มีใบไม้แห้ง ๆ อยู่ในห่อด้วย ผมมองท่า
Chapter 15ปั้นจั่น…ผมกวาดสายตาไปทั่วบริเวณ สายตาพลันเหลือบไปเห็นม่านหมอกนั่งอยู่ข้างๆไอ้พายุ ใจผมนี่เดือดปุดๆ ราวกับหม้อต้มน้ำที่กำลังเดือด ผมรีบปรี่เข้าไปหาเธอทันที ผมยืนจังก้าในขณะที่ทุกคนนั่งอยู่ หึหึ! ใครจะสน ในเมื่อผมจะเคลียร์กับม่านหมอก“แอบมาบ้านกับมันนี่เอง” ผมพูดเสียงห้วนกระด้าง ไม่ชอบใจเลยที่ได้เห็นเธออยู่กับมัน มันเป็นอะไรที่ขัดใจผมมาก ผมไม่ชอบ และไม่อยากให้ทั้งสองอยู่ใกล้กัน“จะพูดอะไร กรุณาให้เกียรติคุณพายุด้วยค่ะ” เธอพูดเสียงเรียบ อากัปกิริยายของเธอเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ทำไมผมถึงรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ใจ ทั้งที่ผมผลักไสเธอออกไปเอง เพราะเธอคิดกับผมมากกว่าเพื่อน แล้วตอนนี้ผมเป็นบ้าอะไรไป การกระทำของผมมันสวนทางกับคำพูดเมื่อก่อน ตอนนี้ผมกลับวิ่งโร่มาหาเธอเอง“กูมีเรื่องจะคุยกับมึงนะหมอก” “หุบปากแล้วกลับไป อย่ามายุ่งกับฉัน” สรรพนามที่เธอคุยกับผมก็เปลี่ยนไป แววตาห่างเหิน ไม่ใช่เพื่อนสนิทของผมเหมือนแต่ก่อนใช่สิ!... เธอไม่ใช่เพื่อนสนิทของผมแล้ว ความสัมพันธ์แบบนั้นมันสิ้นสุดลงตั้งแต่เธอคิดกับผมมากกว่าเพื่อน แต่ทำไมผมถ
Chapter 16ผมนี่นั่งหงอยเลยครับเมื่อเห็นท่าทางของทั้งสอง ม่านหมอกกับพายุดูมีความสุขมาก ผมรู้เจ็บที่ใจมาก บวกกับอาการปวดมือทันทำให้ผมรู้สึกปวดจนจะทนไม่ได้ “ปวดมากไหมคะ?” น้ำค้างเอ่ยถาม ส่วนแม่ของม่านหมอกกลับไปแล้ว“ปวดมากเลย” “เดี๋ยวน้ำค้างจะไปยืมรถจักรยานของป้าแจ่ม น้ำค้างจะพาไปส่งที่บ้าน ส่วนเรื่องจับปลาปล่อยให้คุณๆเขาทำไปเถอะ คุณปั้นจั่นเจ็บขนาดนี้ไปพักผ่อนอยู่ที่บ้านรอพวกเขากลับจะดีกว่า” น้ำค้างพูด ผมแม่งไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่าง“แบบนั้นก็ดีนะ ฉันอยู่คงจะช่วยอะไรไม่ได้หรอก รู้สึกเหมือนเป็นคนไร้ประโยชน์ยังไงก็ไม่รู้” ผมพูดเสียงเบาพร้อมกับเสมองไปทางอื่น ม่านหมอกยังคงยิ้มหัวเราะกับไอ้พายุ ผมอยากให้เธอยิ้มหัวเราะแบบนั้นกับผมอีกสักครั้ง ผมจะรู้สึกดีไม่น้อยเลยตอนนี้ผมรู้สึกห่อเหี่ยวในใจมาก แย่จัง! ไม่มีใครสนใจผมเลย ผมรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินมาก“หมอกอันนี้ปลาอะไร?” ไอ้พายุหัวเราะร่า ยกปลาขึ้น“ปลาอะไรค่ะ งูปลาต่างหาก คริคริ”“งูเหรอ ยึย!” ไอ้พายุเหวี่ยงงูปลาทิ้งแทบไม่ทัน ท่าทางของมันกลับสร้างรอยยิ้มให้กับคนรอบข้าง เฮ้อ! ผมนี่นั่งหน้าจ๋อยเลยครับ ไม่มีใ
Chapter 17ผมนั่งมองทุกคนกำลังวุ่นวายอยู่กับการทำคลอดลูกวัว รอยยิ้มเสียงหัวเราะเกิดขึ้นตลอดเวลา คนที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคน คือน้ำค้างเด็กแก่นแก้วแสนซนนั่นเอง“ตัวนี้ชื่ออะไรดีนะพี่หมอก”“ให้มันออกมาก่อนเถอะ” ผมมองใบหน้าขาวเนียนของม่านหมอก เธอหัวเราะอย่างสดใส ยามนี้มันช่างน่ารักเสียจริง“คลอดแล้ว” พ่อสุนทรพูดขึ้น ท่านดึงขาหน้าของลูกวัวเพื่อช่วยแม่วัวคลอด จนกระทั่งแม่วัวคลอดลูกวัวออกมาสำเร็จ“ตัวเมียค่ะ” ม่านหมอกพูดอย่างดีใจ น้ำค้างเองดูจะดีใจกว่าเพื่อนเลยครับตอนนี้ “ดีใจจัง” น้ำค้างพูดขึ้น “รอเอาน้องวัวด้วยนะ” เสียงพ่อสุนทรพูด ผมนั่งมองอยู่นานก่อนจะเดินขึ้นมาบนบ้าน ไม่มีใครสนใจผม ทุกคนไม่ชอบผม ผมคงไม่เหมาะกับที่นี่มั้ง“คุณปั้นไม่กินข้าวเหรอคะ”“ผมไม่หิวครับ” ผมพูดกับแม่ผ่องศรี ก่อนจะเดินเข้าห้องไปผมล้มตัวลงนอน พลางคิดอะไรไปเรื่อยใจผมมันอยู่ไม่สุขเลย มันกระวนกระวาย ผมผุดลุกผุดนั่งอยู่ในห้องอย่างหงุดหงิด ก่อนจะล้มตัวลงนอนที่นอนแบบเดิม ใจผมมันเปลี่ยนไป เหมือนความรู้สึกของผมตอนนี้ ความรู้สึกที่เคยมีต่อเพื่อนอย่างม่านหมอกมันไม
Chapter 18ปัง! ปัง!กระสุนพุ่งมาอีก 2 นัด ผมนี่ใจหายแว๊บเลยครับ ถึงกับโดดเหยงเลย ม่านหมอกกลับไม่ได้ตื่นกลัวอะไรสักนิด เธอยังคงร้องไห้แล้วก้มหน้าตัวเองลงมองพื้น “ไอ้ระยำ! มึงกล้ามากที่ทำกับลูกสาวกูแบบนี้” พ่อสุนทรประกาศกร้าว มองผมอย่างโกรธแค้น เอาละสิงานนี้ ผมไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแน่ ๆ “แต่เราไม่ได้ทำอะไรกันนะพ่อ” ม่านหมอกพูดเสียงสั่นเครือปนสะอื้นให้ตายเถอะ พูดแบบนั้นไปท่านก็ไม่เชื่อหรอกมันเป็นคำแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ท่านไม่ชอบขี้หน้าผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งรู้ว่าผมนอนกับลูกสาวท่าน รังสีอำมหิตเจิดจรัสเชียวครับ“มันจะถึงขั้นไหนแม่ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือ ถ้าเขาไม่รับผิดชอบหมอก แม่จะให้พ่อยิงเขาให้ตายเลย” แม่ผ่องศรี พูดเสียงห้วนจัด ฉิบหายไหม? จากคนที่ชอบผม กลับไม่ชอบผมเหมือนกัน“ปั้นจั่นไม่ได้รักหมอก หมอกเองก็กำลังคบอยู่กับคุณพายุ เราไม่จำเป็นต้องแต่งกันก็ได้นี่แม่ไม่จำเป็นต้องให้เขามารับผิดชอบหมอกก็ได้ ฮือ ๆ”“พูดราวกับเป็นผู้หญิงใจง่ายมากรักอย่างนั้นแหละ ต่อให้ลูกกับเขาไม่ได้มีอะไรกัน แต่ลูกนอนกับเขาแล้วม่านหมอก รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่นผู้คนเขาจะนินทาลูกขนา
Chapter 19ม่านหมอก…ฉันยืนตัวสั่น มองหน้าบูดบึ้งของผู้เป็นมารดา แม่ของฉันโกรธจัดมากตอนนี้ แต่จะให้ฉันทำอย่างไรล่ะ ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ให้กลับไปแก้ไขฉันคงทำไม่ได้“เลิกร้องไห้แล้วไปช่วยแม่เอาหญ้าให้วัว รอปั้นจั่นกลับมา จะได้คุยเรื่องนี้กันให้จบ ถ้าเขาไม่รับผิดชอบลูก รับรองเห็นดีแน่”“แต่กว่าที่ปั้นจั่นจะกลับมา ก็ไม่รู้ตอนไหน ยิ่งพ่อไล่ยิงขนาดนี้วิ่งเตลิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว” ฉันพูดเสียงสั่น ในใจอดหวั่นไม่ได้ เมื่อได้เห็นเขาวิ่งหน้าตั้งไป โดยที่มีบิดาของฉันตามไปติดๆ“ถ้าพ่อจะยิงจริงๆนะ พ่อคงไม่รอให้ปั้นจั่นวิ่งไปจนถึงนู่นได้หรอก” แม่ของฉันพูดขึ้นอีกครั้ง“พ่ออาจจะแค่ยิงพลาด ไม่อย่างงั้นท่านไม่วิ่งตามไปยิงซ้ำหรอก” ฉันพูดพลางปาดน้ำตา“แต่ถ้าไม่พลาดล่ะ” น้ำค้างพูดขึ้นแล้วปาดน้ำตา คงเสียใจที่คุณพายุกลับ เฮ้อ! ฉันก็สงสารคุณพายุมาก แต่พ่อแม่ฉันท่านต้องการปั้นจั่นรับผิดชอบฉัน“ไม่หรอกมั้ง” แม่ฉันว่าพลางทำหน้าหนักใจ“แม่แน่ใจเหรอ? ถ้าพ่อไม่เอาจริงคงไม่ไล่ยิงไปขนาดนั้นหรอก ถ้าพ่อไม่พลาดตอนไล่ยิงกันไปล่ะ” นั่นสิ! ถ้าไม่พลาดล่ะจะเป็นอย่างไร?“ไปกับแม่เร็วหมอก” แม่ของฉันพูดขึ้นแล้วเ
Chapter 20ปั้นจั่น…ผมจ้องใบหน้าหวานอย่างลืมตัว ริมฝีปากบางเล็กที่ผมเคยลิ้มลองรสชาติมันหวานมาก ผมรู้สึกติดอกติดใจอยากจะชิมผู้หญิงตรงหน้าไปหมดทั้งตัวภาพในวันก่อน ตอนที่อยู่ที่คอนโด มันยังตามหลอกหลอนติดตาตรึงใจผมจนไม่อาจลบเลือนได้ อันที่จริงผมไม่ใช่คนลามกนะ เรือนร่างของผู้หญิงผมก็เห็นมาเยอะ แต่ผู้หญิงตรงหน้าผมนี้กลับทำให้ผมจวนเจียนคลั่งตาย วันนั้นถ้าเธอไม่หลับไปเสียก่อน ผมคงขย้ำเธอจมเตียงไปแล้ว“ฉันไม่พิสูจน์อะไรทั้งนั้น ถ้านายบอกว่าไม่ได้ทำอะไรฉัน ก็คือไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นแหละ จะให้มาพิสูจน์อะไรล่ะนายบ้าหรือเปล่า?”“ยังไงเราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว พิสูจน์กันก่อนจะเป็นอะไรไป” ผมพูดจาหว่านล้อมคนร่างเล็กตรงหน้า ผมจะพูดตรงๆเลยนะ ผมรู้สึกอยากทำเรื่องอย่างว่ากับผู้หญิงตรงหน้าของผมตอนนี้“ไม่เอานายรีบอาบน้ำรีบล้างตัวเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปเอาชุดมาให้เปลี่ยน”“จะเปลี่ยนทำไม? ในเมื่ออีกไม่นานฉันก็ถอดอยู่ดี หมอกเองก็เหมือนกัน อีกไม่นานหมอกก็จะเปลือยเปล่าเหมือนกันกับฉันนี่แหละ”“บ้าน่า”“ไม่บ้า! ถ้าเราพิสูจน์เรื่องนั้นกัน เราจะเปลือยเปล่าทั้งคู่” สิ้นคำพูดของผม ม่านหมอกถึงกับหน้าแดงด้วยความเขินอา
วันเวลาผ่านไปอีก3เดือนค่ะ ฉันกลับมาใช้ชีวิตเป็นครอบครัวกับปั้นจั่นที่กรุงเทพโดยที่พ่อของฉันไม่ขัดข้องประการใดค่ะ ฉันมีความสุขมากๆเลยค่ะ ที่พ่อของฉันไม่เกลียดปั้นจั่นเหมือนแต่ก่อน ปั้นจั่นคงจะทำให้ท่านเห็นว่าเขายังมั่นคงกับฉัน เพราะเขาแสดงออกว่าเขารักฉันกับลูกตอนที่ไปบ้านพ่อแม่ฉันถึงแม้ว่าฉันกับเขาจะเลิกรากันไปถึง 10 ปีปั้นจั่นไม่มีใคร ฉันเองก็ไม่มีเหมือนกัน พ่อก็คงจะใจอ่อนให้เขา และสิ่งที่เขากระทำตลอดหลายปีที่ผ่านมาคือเขาไปหาอันนาอยู่เสมอ เขาไม่เคยรับผู้หญิงคนอื่นเข้ามาแทรกเลยความรักครั้งใหม่สดใสอีกครั้ง ฉันเลือกที่จะอภัยเพราะมันถึงเวลาที่ควรอภัยแล้ว เขาปรับปรุงตัวและไม่มีใคร ถึงมันจะเป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัย แต่ฉันก้าวผ่านและอภัยให้เขาแล้วฉันยังมั่นคง ไม่มีใครลืมรักแรกได้ ฉันไม่เคยลืมและไม่มีใคร ไม่ใช่ว่าตลอดระยะเวลา10ปีฉันเฝ้ารอเขานะคะ ฉันไม่ได้รอเขาหรอก แต่ฉันไม่สามารถรับใครเข้ามาในหัวใจได้ฉันรับน้ำค้างมาอยู่ที่บ้านแล้วนะคะ ถึงแม้ว่าตอนแรกเธอจะไม่อยากมา อิดออดมากเลยค่ะเพราะเธออยากอยู่ใกล้คุณพายุ แต่ในเมื่อฉันกลับมาอยู่กับปั้นจั่นแล้ว ฉันก็ไม่อยากให้น
ม่านหมอกเเสงแดดอุ่นๆแผ่เข้ามากระทบร่าง ฉันซุกหน้ากับอกแกร่งของปั้นจั่น อกที่คุ้นเคยอกนี้มันอุ่นมากเลยค่ะ อุ่นสุด ๆ เลยค่ะหลังจากที่จบศึกสวาทกันฉันก็หมดแรง คนที่นอนอยู่ข้างๆทั้งถึกทั้งทน ฉันถึงกับอ่อนเปลี้ยเพลียแรงฉันเงยหน้าจ้องใบหน้าคมคายของเขา ตอนนี้ปั้นจั่นหลับตาอมยิ้มที่มุมปากน้อยๆ เขาดูมีความสุขมากเลยค่ะ ซึ่งมันไม่ต่างจากฉันตอนนี้ ฉันมีความสุขมากที่ได้กลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันกับเขา ถึงแม้ว่าใจของฉันมันจะสับสน แล้วรู้สึกหวาดหวั่นกับสิ่งที่เขาทำ แต่ที่ผ่านมาเขาก็ได้พิสูจน์ให้ฉันได้เห็นว่า เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีจริงๆ“จ้องการแบบนี้มาขี่ม้ากันเลยดีกว่า” เขาพูดพร้อมกับ เปิดเปลือกตาขึ้นต้องมองฉัน ฉันนี่เขินหน้าดำหน้าแดงเลยค่ะ“บ้าน่า” ฉันค้อนใส่เบาๆก่อนจะค่อยๆคลายกอดเขา ฉันหยัดกายลุกขึ้นจากเตียงหมับ!“ว้าย!” ฉันกรีดร้องอย่างตกใจ ปั้นจั่นคว้าตัวของฉันเอาไว้ พร้อมกับฝังจมูกไปตามพวงแก้มของฉัน“กลิ่นตัวหมอกหอมจัง” เขาพูดจมูกก็เริ่มซุกไซร้ตามเนื้อตัวของฉัน ไม่นะ! ไม่ เรื่องบนเตียงตอนนี้ต้องพักก่อน มือของเขาเริ่มลูบไปตามเนื้อตัวของฉัน ยุกยิกเป็นหนวดปลาหมึกเชียวค่ะ“ไปอ
ปั้นจั่นTALKผมจูบหมอกเร่าร้อนราวทะเลเดือด จูบราวกับสูบวิญญาณเธอออกจากร่าง ผมประคองใบหน้าของหมอก จูบเน้นๆแล้วสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเธอม่านหมอกขัดขืนในตอนแรกพยายามผลักผมออก แต่ผมไม่ยอมหรอกครับ วันนี้ผมต้องได้เมียคืน พี่ชายพี่สาวพ่อแม่และทุกคนๆช่วยกันวางแผนขนาดนี้ผมต้องตีมึนเอาไว้ผมดันเธอไปชิดกำแพงในขณะที่จูบเธอไปด้วย มือของผมเลื่อนลงต่ำมาบีบเค้นที่อกอวบของเธอ มืออีกข้างก็ถลกกระโปรงแล้วสอดมือเข้าไปในแพนตี้ตัวจิ๋วม่านหมอกสะดุ้งทันทีที่มือผมสัมผัส ผมกดคลำลากตามร่องยาวปริ่มน้ำ ม่านหมอกพยายามต่อต้าน ร่างกายเธอเริ่มบิดไปมาผมกรีดนิ้วจนกระทั่งเจอเม็ดทับทิม“อ้ะ ...ปะ... ปั้นจั่น” ม่านหมอกครางเบาๆ พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดเมื่อปากเป็นอิสระ ผมทนมามากพอแล้ว ผมไม่ได้ปลดปล่อยมา10ปี และวันนี้ผมจะไม่ทน“หมอกจ๋า จั่นอยาก” ผมพูดเสียงกระเส่า รู้สึกต้องการเรื่องอย่างว่า แก่นกายของผมมันปวดหนึบจนแทบจะปริแตก มันผงาดชี้โด่พร้อมกับมีน้ำใสๆ ไหลเยิ้มออกมา“พะ... พอ... ยะ... หยุดสักที”“หยุดทำไม? นี่คือความสุขนะหมอก”“มะ... ไม่เอา พะ... พอ” ม่านหมอกพูดอยู่แค่นั้นวนไปมา ผมไ
“หมอกไปกรุงเทพก่อนนะพ่อ” ฉันเอ่ยกับพ่อสุนทรในขณะที่ท่านกำลังง่วนอยู่กับการสั่งงานลูกน้อง วันนี้ท่านให้คนมาทำถนนทางไปบ้านของฉันกับบ้านที่ปั้นจั่นเคยอาศัยอยู่ และคนงานกำลังฟังอย่างตั้งใจ“อันนารบเร้าให้พาไปหาพ่อมันละสิ”“ใช่ค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับมองแผ่นหลังของพ่อ พ่อไม่ชอบปั้นจั่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ท่านอาจจะไม่พอใจที่ฉันจะพาอันนาไปหาเขา“...”“พ่อคะ...” ฉันเม้นปากพร้อมกับเรียกท่าน“ไปเถอะ ผ่านมาหลายปีดีดักแล้ว หมอกมั่นคงกับมัน มันก็มั่นคงกับหมอก พ่อคงไม่ห้ามอะไรแล้ว เพราะที่ผ่านมามันก็พิสูจน์ตัวให้พ่อเห็นแล้ว”“ค่ะ”“รักคุณตาที่สุดเลยค่ะ” อันนาเช้าไปกอดพ่อสุนทร“รักเหมือนกันครับ ไปกับคุณแม่ก็บอกคุณแม่ให้ขับรถดีๆด้วยนะ”“ค่ะ”“ให้ไอ้วัดไปขับรถให้ไหม? ““ไม่เป็นไรค่ะ หมอกขับเองดีกว่า”“อืม รีบไปเถอะ เดี๋ยวพ่อคุยงานกับพวกคนงานก่อน”“ค่ะ”“รีบไปเถอะค่ะแม่”ฉันรีบพาบุตรสาวไปขึ้นรถจากนั้นก็ขับออกไปโดยที่มีสาวใช้คนสนิทตามไปด้วย“ ซื้อของฝากไปฝากคุณย่าด้วยนะแม่”“ได้จ้ะ” ฉันขับรถไปถึงร้านของฝากแล้วพาบุตรสาวไปเลือกของตามต้องการ“เอาไปเยอะๆเลยนะคะคุณแม่”“จ้า”ผ่านไปหลายชั่วโมง
ปั้นจั่นTALK“ปั้นจั่น เดือนนี้จะไปหาหมอกกับลูกใหม่?” แม่ผมเอ่ยถามขณะที่เดินเข้ามาในบริษัทพร้อมกับพี่สาวของผม“ผมอยากไปจะแย่แล้วครับแม่ คราวก่อนเหมือนหมอกจะใจอ่อนกับผมแล้ว ถ้าผมไปพูดหยอดเธอบ่อยๆ อีกไม่นานคงจะใจอ่อน” ผมเอ่ยกับมารดายิ้ม ๆ ก่อนจะก้มหน้าเซ็นเอกสารกองโตที่อยู่ตรงหน้า งานเยอะมาก เยอะสุด ๆ เลยครับ“เดี๋ยวแม่โทรไปชวนหมอกมาเที่ยวดีกว่า หลายปีแล้วนะที่หมอกไม่มากรุงเทพ แม่อยากให้หมอกมาอยู่กรุงเทพมาก ๆ อยากให้หลานมาเรียนที่นี่ด้วย”“หมอกก็คงปฏิเสธเหมือนทุกครั้งแหละครับ เฮ้อ!”“แต่แม่อยากให้หมอกกับแกคืนดีกันสักที”“ผมก็พยายามอยู่ครับ”“แกพยายามไม่มากพอนะสิ แม่อยากให้หมอกมาอยู่ที่นี่แล้ว” แม่ผมทำหน้าเศร้า“แกก็ช่วยทำให้ความฝันของแม่เป็นจริงหน่อยสิวะ” พี่ปั้นสิบเดินเข้ามา วันนี้วันอะไร ทำไมทุกคนถึงพร้อมใจกันมาหาผม“ทำยังไง?” ผมขมวดคิ้วเข้มชนกัน “มึงก็เอาม่านหมอกกับมาเป็นเมียมึงสิวะ ผ่านมาหลายปีแล้ว กูว่าม่านหมอกคงใจอ่อนแล้วแหละ” พี่ปั้นสิบเอ่ย“บ้าน่า หมอกโกรธกูจะทำยังไงล่ะ กูกลัวเธอโกรธ” ผมเอ่ย ผมกลัวหมอกโกรธจริง กลัวมากเพราะหมอกเป็นคนค่อนข้างใจแข็ง ถ้าได้โกรธผมเอง เธอคง
Chapter 60ฉันมองปั้นจั่นที่ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด ฉันรู้ว่าเขาเจ็บแต่ฉันต้องทำแบบนี้ ฉันต้องให้เขาออกไปจากชีวิตฉันตามที่เขาสัญญาเอาไว้ ฉันดูใจร้ายมากไหมคะ? ฉันต้องทำแบบนี้ ฉันต้องทำ มันต้องจบได้แล้ว “หมอก ฮึก” ปั้นจั่นร้องไห้สะอึกสะอื้นหัวใจของฉันเจ็บหนึบ ไม่มีวันไหนที่ฉันไม่รักเขา มันคือความรักที่มั่นคงมาก ฉันไม่สามารถเอาใครมาแทนเขาได้ และฉันไม่สามารถกลับไปหาเขาได้เหมือนกัน“กลับไปทำหน้าที่ลูกเถอะ กูจะบอกเขาว่ามึงเป็นพ่อ กูสัญญาจะดูแลเขาให้ดี”“ฮึก ๆ ฮื่อ ๆ” ฉันค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งบนเตียง ปั้นจั่นมองหน้าฉันด้วยสายตาเจ็บปวด เขาต้องเจ็บอยู่แล้ว การจากลามันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก เขาจูบที่หน้าผากลูกของฉันอย่างแผ่วเบา ก่อนจะส่งลูกให้แม่ของฉัน เขามองหน้าฉันแล้วเดินมาหาฉันหมับ!เขาสวมกอดฉันแล้วร้องไห้ออกมา ฉันร้องไห้ไม่ต่างกัน มันเจ็บนะคะที่ยังรักแต่ต้องจากกัน ฉันกอดตอบเขาอ้อมกอดนี้มันเคยเป็นเป็นของฉัน แต่มันเป็นเพียงอดีตแล้ว มันเจ็บนะคะที่ต้องจากทั้งที่ยังรัก แต่วันเวลาผ่านไปทุกความเจ็บปวดมันจะผ่านพ้นไป “ขอให้มึงโชคดี ไปทำหน้าที่ของมึงซะเถอะ” ฉันพูดเสียงส
Chapter 59ม่านหมอกTALKใครจะว่าฉันใจดำฉันก็ไม่สนหรอกค่ะ ฉันมีสิทธิ์ที่จะทำแบบนี้ ฉันมีสิทธิ์ที่จะรักตัวเอง การที่ไม่พาตัวเองไปเจ็บปวดมันดีที่สุดแล้ว ผู้หญิงอย่างเราถ้ามีรักดีก็จะมีแค่รักเดียวแต่ถ้ามันไม่ดีเราก็ขอเลือกรักตัวเองและก้าวไปข้างหน้าดีกว่าฉันจะไม่อยู่เพื่อคบกับใครคนไหนอีก แต่ฉันจะอยู่เพื่อลูก ฉันจะอยู่เพื่อเป็นแม่ที่ดีให้กับเขา ส่วนพ่อของลูกที่เคยกระทำเรื่องเลวทรามฉันจะปล่อยให้มันผ่านไปถ้าเขาอยากมาหาลูกฉันก็จะให้เขามา ฉันจะไม่กีดกันเขาแต่ขออย่างเดียวให้เขาเลิกพยายามที่จะเอาฉันกลับไปเป็นครอบครัวเดิมกับเขา เพราะมันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ทุกสิ่งทุกอย่างมันจบไปแล้วและมันไม่สามารถ กลับไปเป็นได้อีกฉันรักเขามากนะคะ แต่ฉันต้องเลือกแบบนี้ฉันไม่สามารถอยู่กับคนที่เคยหักหลังฉันได้ และผู้หญิงอย่างเรา ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องจมปลักดักดาน เราไม่จำเป็นต้องมีชีวิตคู่หรอกค่ะถ้าชีวิตคู่มันเฮงซวย เราใช้ชีวิตเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงดูลูกของเราให้มีความสุข และนั่นมันจะเป็นความสุขที่สุดของผู้หญิงอย่างเราฉันปฏิญาณกับตัวเองเอาไว้แล้วว่า ภายภาคหน้าต่อให้มีคนเข้ามาในชีวิตฉันอีก ฉันก็จะไม่แต่งงานก
Chapter 58ผมจ้องหน้าม่านหมอกน้ำตาคลอ เธอยื่นข้อเสนอแบบนี้มาผมควรทำอย่างไร ผมควรออกไปจากชีวิตของเธอตามที่เธอขอร้อง หรือผมควรยื้อเวลาออกไปให้นานกว่าเดิม“มะ... หมอก”“ถ้าทำไม่ได้ก็ไสหัวไป!” ม่านหมอกเอ่ยเสียงกร้าวจ้องมองผมด้วยแววตากระด้าง“หมอกอย่าต่อรองกับจั่นแบบนี้เลยนะ ให้จั่นไปกับหมอกด้วยนะ ฮึก” ผมพูดเสียงสั่นเครือ รู้สึกปวดหัวใจมากเลยครับ ผมอยากไปกับหมอกแต่ผมไม่อยากจากหมอกกับลูกไป ผมอยากดูแลอยากทำหน้าที่ผัวหน้าที่พ่อ ผมอยากชดใช้และแก้ตัวในสิ่งที่ผมทำผิดพลาด แต่เหมือนผู้หญิงตรงน่าจะไม่ให้โอกาสผมเลย“มึงอยากดูลูกมึง ทำไมมึงไม่ไปดูกับริสาผู้หญิงคนนั้นก็ท้องลูกของมึงเหมือนกัน ลูกของมึงไม่ได้มีแค่กับกูหรอก ลูกของมึงยังมีอยู่กับริสามึงไปดูแลซะเลิกมายุ่งวุ่นวายกับกูเสียที” เธอพูดเสียงสั่นพร้อมกับผินหน้าไปมองอย่างอื่น ผมรู้ว่าเธอเจ็บปวดและไม่สามารถเชื่อใจผมได้ ผมทำผิดจริง แต่ผมอยากได้โอกาสและผมจะไม่มีวันทำมันอีก“ที่ผ่านมาจั่นโง่เอง จั่นคิดว่าริสาท้องลูกของจั่นเพราะเธอเอาหลักฐานมายืนยัน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วเธอไม่ได้ท้องลูกของจั่น”“มึงรักมันมากไม่ใช่เหรอ? มึงก็ไปเลี้ยงดูมันสิ”“ห
Chapter 57ปั้นจั่นผมมองไปที่หน้าต่างอย่างเสียดาย ม่านหมอกปิดหน้าต่าง ไม่สนใจที่จะปรายตาผมเลยแม้แต่น้อย“เฮ้อ” ผมก้มหน้าก้มตาทำงานครับหลังจากม่านหมอกไม่สนใจ ในเมื่อผมต้องการที่จะง้อเธอผมก็ต้องทำงานให้ดีไม่อย่างนั้นตาสุนทรก็คงจะด่าผมเปิงครับ“เอาไม้ไผ่ไปผ่าให้หน่อย” คนงานอีกคนสั่งผม ผมรีบทำครับ แต่ติดปัญหาตรงที่ผมทำไม่เป็น“มันทำยังไงครับ?”“โอ้ยยยย พวกคนกรุงเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อจริง ๆ มาดูวิธีสิ จะได้ทำเป็น เขาจ้างมาทุกคนมาทำงาน นายจะมากินแรงคนอื่นไม่ได้หรอกนะจะบอกให้” ชายรูปร่างกำยำผิวพรรณหยาบกระด้างเลยพร้อมกับทำท่าทางไม่พอใจ เขาหยิบมีดขึ้นมา พร้อมกับทาไม้ไผ่ดังโป๊ะเลยครับ“ผ่ายาวเลยใช่ไหม?”“เออ รีบทำ จะมาทำเล่นๆแบบนี้ไม่ได้นะ มันเสียเวลาคนอื่น”“ครับ” ผมผ่าไม้ไผ่ตามที่เขาบอก และแน่นอนมันทำให้มือผมถูกคมของไม้ไผ่บาดมือจนเลือดสาดเลยครับ“ตายแล้วเลือดออก” ป้ามณีพูดเสียงดัง “ติดพาสเตอร์ก่อนเร็ว” ชายคนงานอีกคนรีบเอาพาสเตอร์มาเเปะแผลให้ผม อย่างน้อยทุกคนยังมีน้ำใจครับ“ทำอะไรก็ต้องระวังนะจะมาทำเล่นๆไม่ได้เดี๋ยวมือขาดไม่รู้ตัว การทำงานทุกอย่างมันต้องมีสติและระมัดระวัง” ผู้ชายฟันเหยินๆพูดกั