“เราจะไม่ไปไกลกว่านี้แล้วครับ” “ไรเนอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ขณะจับข้อมือทั้งสองข้างของนาตาลีโดยใช้มือเพียงข้างเดียวของเขา ข้อมือและเธอตัวเล็กมากเมื่อเทียบกับเขาไรเนอร์ได้พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเติมเต็มความปรารถนาของนาตาลี เขาปฏิเสธอย่างแน่วแน่ที่จะมีอะไรกับเธอไปมากกว่านี้ ครั้งแรกของเขากับเธอจะต้องไม่ใช่ในรถ และไม่ใช่ตอนที่เธอกำลังสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง มีโอกาสอีกมากมายที่จะดื่มด่ำความปรารถนาของเขาในอนาคต เมื่อเธอชัดเจนกับความรู้สึกของตัวเองและรู้ความหมายของมัน ไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบอะไร ที่สำคัญไรเนอร์ไม่ต้องการให้นาตาลีเสียใจกับการตัดสินใจใดๆ ของเธอตอนนี้นาตาลีดื้อกว่าที่ผมคิดไว้มาก เห็นได้ชัดจากแววตาว่าเธอไม่พอใจเมื่อได้ยินคำปฏิเสธของผม เธอต้องรู้จักอดทนและใช้ความคิดมากกว่านี้ ผมหวังว่าผมจะสอนเธอได้บ้างในขณะที่ยังอยู่ด้วยกัน...…“น้องชายคุณใหญ่และแข็งมาก… ฉันใช้ปากทำให้คุณได้มั้ย” ฉันทำเสียงที่เย้ายวนพร้อมก้มลงมองท่อนเอ็นเนื้อที่ใหญ่และชูชันของเขาก่อนจะสบตาเขาอีกครั้งความเป็นชายของเขาน่าจะใหญ่และยาวที่สุดที่ตั้งแต่ฉันเคยเห็นมา ทั้งใหญ่ทั้งสวย มันแข็งผงาดอย่างภาค
เวลาไม่เคยคอยใครรวมถึงตัวฉันด้วย การหลบหนีของฉันสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเมื่อเรากลับมาถึงคฤหาสน์ของลูเซียน มาเซราติสีแดงที่จอดอยู่ด้านหน้าเป็นสิ่งยืนยันว่าวันนี้จะจบลงด้วยหายนะ ถ้ารถคันนั้นจอดอยู่ เจ้าของรถก็ต้องอยู่ที่นี่เช่นกัน เจอกันอีกครั้งจนได้…แองเจล่า“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ คุณลูเชียนขอให้คุณกินอาหารร่วมกับเขาและ…คุณแองเจล่าค่ะ” สาวใช้รีบบอกทันทีที่ฉันก้าวเข้ามาทางประตูหน้า“มันดึกแล้ว พวกเขายังไม่ได้กินอาหารเย็นกันอีกเหรอ?” ฉันลองถามดู เผื่อว่าเรื่องแย่ๆ ที่ต้องเจออาจจะจบไปแล้ว“ไม่ค่ะคุณนาตาลี คุณลูเชียนสั่งให้ห้องครัวรอคุณกลับมาก่อนที่จะเสิร์ฟอาหาร ดังนั้น... รีบไปเถอะค่ะ” สาวใช้ตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เธอรู้ว่าข่าวนี้อาจจะทำให้ฉันอารมณ์เสีย ฉันไม่ตำหนิเธอเพราะเธอต้องบอกฉันตามหน้าที่"ขอบคุณมาก เธอช่วยจัดการกับของในรถได้มั้ย ไรเนอร์กับฉันจะได้ตรงไปที่ห้องอาหารเลย” ฉันสั่งก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องอาหารโดยไม่รีรอ ไม่มีประโยชน์ที่จะชะลอความตายของเราได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด…“นาตาลี! ฉันดีใจที่เธอมากินมื้อค่ำกับเราได้ ฉันมีข่าวดีจะบอกเธอหลายเรื่องเลย!” แองเจล่าลุกมากอดฉันเมื่อเดิ
**กริ๊ง กริ๊ง**ลูเซียนมองหน้าจอมือถือแล้วเริ่มขมวดคิ้ว หมายเลขที่ไม่ได้บันทึกไว้แต่จำเบอร์ได้ดีที่ปรากฎบนหน้าจอมือถือ มันมาจากหนึ่งในคนที่เขากลัวที่จะพูดคุยด้วยมากที่สุด เขาหายใจเข้าลึกๆ ก่อนรับสาย“ลูเซียน…” ผู้หญิงเสียงทุ้ม ที่ฟังดูเหมือนจะออกเหนื่อยแต่จริงจัง“…มาดามฟรานเชสก้า” ลูเซียนตอบพร้อมโค้งคำนับเล็กน้อย เขาทำตามนิสัยแม้ว่าอีกฝ่ายจะมองไม่เห็นเขาจากปลายสายก็ตาม“ไม่จำเป็นต้องเป็นทางการกับพี่สาวตัวเองหรอก ยินดีด้วยกับการแต่งงานครั้งที่สอง” ฟรานเชสก้าพูดช้าๆ อย่างชัดถ้อยชัดคํา“ขอบคุณมาก …” ลูเซียนตอบในขณะที่เขาสงสัยว่าเธอต้องการอะไรจากเขา ฟรานเชสก้าไม่เคยโทรหาเขาเว้นแต่ว่าเธอต้องการอะไร“ฉันกับลูกชายจะไปร่วมงานในวันสำคัญของเธออย่างแน่นอน แสดงความยินดีล่วงหน้ากับภรรยาใหม่ของเธอด้วย” ฟรานเชส ก้ากล่าวต่อ"ขอบคุณครับ ผมจะบอกเธอให้” ลูเซียนตอบด้วยน้ำเสียงเครียด ฟรานเชสก้ายังไม่พูดถึงวัตถุประสงค์ในการโทรครั้งนี้“เข้าประเด็นเลยแล้วกัน แซคอยากให้ให้นาตาลีเข้าร่วมงานรอบปฐมทัศน์สำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขา” ฟรานเชสกาเข้าเรื่อง"ได้ครับ ผมยินดีที่จะให้นาตาลีไปร่วมงานด้วย” ลูเซียนตอบด้
ฉันกำลังพักผ่อนอยู่บนเตียงหลังอาบน้ำเสร็จในห้องนอน ฉันบอกให้ไรเนอร์ให้กลับไปพักได้ วันนี้ฉันมีธุระบางอย่างที่ต้องจัดการและไม่อยากให้เขารู้ ฉันเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดนอน ชุดไหนนะที่ดูยั่วยวนที่สุด? ชุดลูกไม้สีแดงยาวหรือชุดลูกไม้สีดำสั้นดี? สีดำแล้วกันฉันสวมชุดนอนสั้นปิดถึงแค่ต้นขาของฉัน มันดูเหมือนใส่แค่เสื้อมากกว่า? ฉันส่องดูภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก ผมของฉันเปียกเล็กน้อยจากการอาบน้ำทำให้มันดูเป็นลอน เสื้อลูกไม้คอวีสีดำเผยให้เห็นหน้าอกและหัวนมของฉันอย่างชัดเจน เอาแบบนี้แหละ ไม่ต้องใส่กางเกงในเลยฉันหยิบไดร์เป่าผมออกมาแต่เอามันมาเป่าลมใส่หน้าผากจนแน่ใจว่าผิวของฉันจะรู้สึกร้อนเล็กน้อยเมื่อโดนสัมผัส จึงค่อยเรียกลอร่ามาที่ห้องของฉัน ขอโทษนะ ลอร่า เธอช่วยฉันเล่นละครเป็นเพื่อนฉันหน่อย…“คุณลูเซียนคะ! คุณนาตาลีมีไข้และอยากให้คุณไปดูค่ะ” ลอร่าบอกลูเซียนด้วยความตื่นตระหนก ขณะที่เธอโผล่พรวดเข้าไปในห้องนั่งเล่น“รออยู่นี่ก่อนนะแองเจล่า ผมต้องรีบไปดูนาตาลี ถ้าผมหายไปนาน คุณกลับไปก่อนก๋ได้นะ” ลูเซียนขอตัวทันที ก่อนออกจากห้องโดยไม่หันกลับมามองแองเจล่าแม้แต่น้อย“รีบไปเถอะค่ะคุณลู
“ฉันมีมารยาทพอ ฉันแค่จะบอกลาก่อนกลับ ความจริงฉันควรจะไปเยี่ยมนาตาลีด้วยซ้ำ? บอกมาซิว่าห้องของนาตาลีอยู่ไหน” แองเจล่าตะคอกใส่ลอร่า“ได้ค่ะคุณแองเจล่า!” ในที่สุดลอร่าก็ยอมแพ้ ถ้าเธอท้วงต่อไปเธอจะต้องมีปัญหากับแองเจล่าอย่างแน่นอน ในที่สุดลอร่าก็ต้องอธิบายทางไปห้องของนาตาลี…“ลูเซียน…โอ้…ลูเซียน! ดีมาก…ดีมาก!” ฉันกรีดร้องเสียงดัง รู้สึกว่าลิ้นร้อนของลูเซียนดันเข้าออกจากช่องรักของฉัน ตำแหน่งนี้ลิ้นของเขาทำให้ฉันรู้สึกดีมาก ฉันมองไม่เห็นเขาแต่มันกลับทำให้ฉันตื่นเต้นมากขึ้น มือของลูเซียนจับแก้มก้นของฉันแยกออกจากกันเพื่อให้เขาสามารถใช้ลิ้นเข้าถึงกลีบดอกไม้ที่เปียกชุ่มของฉันได้ดีขึ้น เขายังคงเลียและดูดน้ำรักของฉันต่อไป ฉันได้ยินเสียงกลืนน้ำดังมาจากด้านหลัง“อ๊าาา!! อื้อ หือ!!” ฉันร้องเสียงดังอีกครั้ง เมื่อเขาสอดนิ้วสองนิ้วเข้าไปในตัวฉันจากด้านหลัง เขาใช้นิ้วในขณะที่เลียและดูดปุ๋มกระสันที่บวมของฉันไปพร้อมกัน ฉันดันก้นไปข้างหลังและยกสูงขึ้นเพื่อให้ใกล้กับใบหน้าของเขา ฉันจะหลั่งเร็ว ๆ นี้ ช่องสวาทของฉันกระตุกถี่ขึ้นและน้ำรักของฉันก็ไหลออกมามากขึ้น รู้สึกได้ถึงน้ำรักของตัวเองรวมกับน้ำลายของลูเซีย
“อาร์!...อาร์!...ไรเนอร์!” ฉันตะโกนชื่อเขาเสียงดังจนเจ็บคอ ฉันทุบประตูของเขาอย่างแรงจนมือของฉันเจ็บมาก แต่ก็ยังไม่เท่ากับความเจ็บปวดที่เต้นตุบๆ ในหัวของฉัน ฉันจำไม่ได้ว่ามาที่นี่ได้ยังไง ถ้าเขาไม่ยอมเปิดประตูนี้เร็วๆ นี้... พวกเขาคงจับฉันได้! พวกเขาจะหาฉันเจอ! ร่างกายของฉันเปียกโชกไปด้วยเหงื่อและใบหน้าของฉันก็เปียกไปด้วยน้ำตา ได้โปรด คุณต้องเปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้!“นาตาลี…” ไรเนอร์พึมพำชื่อฉันออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นฉันยืนอยู่หน้าประตูฉันโผเข้ากอดเขาแน่นเมื่อเห็นเขา“ช่วยฉันด้วย…อาร์…” ฉันร้องไห้สะอึกสะอื้นในอกแกร่งของเขา เสียงของฉันแตกพร่าจนแทบจำไม่ได้ว่าเป็นเสียงของตัวเอง ฉันหอบอย่างหนัก มันยากที่จะพูดและยืนทรงตัวอยู่ได้…นาตาลีกำลังร้องไห้ มีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับตัวเธอในตอนนี้ เธอดูหวาดกลัวมาก หวังว่าจากสิ่งที่เธอกลัวจะไม่มีตัวตนอยู่จริง ร่างกายของเธอยังคงสั่นและร้องไห้อย่างหนัก เธอสวมเพียงชุดนอนและเท้าเปล่า เธอน่าจะวิ่งตรงมาจากห้องนอนของเธอ หวังว่าจะไม่มีใครเห็นเธอวิ่งไปรอบๆ กลางดึกในสภาพแบบนี้ผมลูบผมยุ่งๆ ของเธอเบาๆ ขณะที่กอดเธอแน่นขึ้นในอ้อมแขน ต้องทำให้เธอสงบลงก่อนที
พวกเราสามคนเป็นกลุ่มที่แปลกที่สุดในร้านบูติกสำหรับงานแต่งงานสุดหรูแห่งนี้ คนหนี่งเป็นว่าที่เจ้าสาว คนหนี่งเป็นว่าที่เจ้าบ่าว อีกคนเป็นลูกติดของเจ้าบ่าว วงเล็บคู่รักแบบลับๆ วันนี้ตามที่สัญญาว่าฉันจะช่วยแองเจล่าเลือกชุดแต่งงานในฝันเพื่อใช้เป็นแนวทางในการตัดเย็บชุดแต่งงานสุดหรูของเธอ แค่มองลูเซียนแวบเดียวทุกคนก็รู้ว่าเขาอยากจะไปอยู่ที่อื่นไม่ใช่ที่นี่ ส่วนตัวฉันกำลังยุ่งอยู่กับการคิดว่าจะทำอย่างไรให้วันนี้เป็นวันที่สนุกสนานสำหรับตัวเองมากที่สุดเนื่องจากแองเจล่าเป็นลูกค้าระดับ VVIP ทั้งร้านจึงถูกจองล่วงหน้าเพื่อให้บริการพวกเราโดยเฉพาะ หมายความว่าเรามีเวลาอยู่ที่นี่ทั้งวันเพื่อช่วยแองเจล่าเลือกชุด ผู้จัดการร้านและทีมงานทักทายเราอย่างอบอุ่นเมื่อเราเข้าไปถึง“คุณแองเจล่า เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณเลือกร้านเราเป็นคนเตรียมชุดแต่งงานสำหรับวันสำคัญของคุณ ขอแสดงความยินดีอีกครั้งค่ะ!” ผู้จัดการร้านวัยกลางคนกล่าวพร้อมกับส่งรอยยิ้มแบบสดใส“ขอบคุณมากค่ะ” แองเจล่าตอบ ขณะที่เธอเดินคล้องแขนลูเชียน“เราเตรียมชุดไว้ให้คุณลองมากมายค่ะ ฉันขออนุญาตแนะนำให้คุณเริ่มจากการลองชุดสไตล์ต่างๆ เพื่อดูว่าชุ
เซียนพาฉันไปที่ชั้นบนสุดของบูติกซึ่งมีพนักงานสองสามคนกำลังรอเราอยู่ ทั้งชั้นเต็มไปด้วยชุดแต่งงานที่สวยงามตระการตา อีกด้านหนึ่งเป็นห้องแต่งตัว เรามาที่นี่เพื่อช่วยเลือกชุดให้แองเจล่าไม่ใช่เหรอ?“ฉันอยากมีเวลาส่วนตัวกับลูกสาว ไม่ต้องห่วงเรื่องการลองชุด พวกเราจะจัดการกันเองได้” ลูเซียนบอกพนักงานอย่างเป็นกันเองหลังจากชำเลืองมองกันอย่างกระวนกระวายใจอยู่ครู่หนึ่ง พนักงานก็ตกลงที่จะปล่อยให้ลูเซียนกับฉันอยู่กันตามลำพัง“ใครลองชุด?ฉัน?" ฉันถามอย่างสงสัยพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ตัวเอง ที่นี่คือชุดแต่งงานทั้งหมดและฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เหลืออยู่ในห้องนี้“ใช่…เธอช่วยลองชุดแต่งงานหน่อย นี่เป็นเหตุผลเดียวที่อามาที่นี่ในวันนี้” ลูเซียนตอบขณะวางมือบนไหล่ของฉัน“ขอโทษนะคะ คุณหมายความว่ายังไง ฉันตามไม่ทัน เท่าที่ฉันรู้ ฉันยังไม่มีแพลนแต่งงานกับใคร… เร็ว ๆ นี้” ฉันตอบ ขณะที่ฉันส่ายหัวช้าๆ ด้วยความสับสน เป็นเพราะลูเซียนกำลังจะแต่งงาน ถึงตาฉันแล้วหรอ?“เธอพูดถูก…ซักวันหนึ่ง…” ลูเซียนกระซิบด้วยเสียงที่นุ่มนวลและเย้ายวนข้างหูของฉันซักวันหนึ่ง…อะไรนะ?เขาหมายความว่าอยากให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นเร็วๆ นี้เหร
“ฉัน…ฉันขอโทษที่ไม่ได้พูดแบบนี้มาก่อน…” ฉันเริ่มเสียงอ่อน สงสัยว่าทำไมต้องเสียงสั่นด้วย?เอ็ดเวิร์ดมองอย่างเงียบๆ เขารอให้ฉันพูดต่อ ฉันอยากทำให้มันถูกต้อง“อาเอ็ดเวิร์ด! ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้!” ฉันพูดอย่างหนักแน่น พร้อมกับจ้องตาเขา ดวงตาเขาเป็นประกายจากแสงอันอบอุ่นของน้ำพุ มันดูมีเสน่ห์มาก"…อะไรนะ?" เอ็ดเวิร์ดชะงักก่อนจะถามด้วยเสียงกระซิบ ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้คาดหวังคำขอบคุณจากฉันหลังจากผ่านมาแล้วสิบปีและหลายชั่วโมงหลังจากที่เขาบอกความจริงกับฉัน“ขอบคุณ…ที่ช่วยฉันในป่าวันนั้น ฉันตั้งใจจะบอกคุณก่อนหน้านี้ แต่... ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ฉันเลย... ลืม ขอโทษจริงๆ ค่ะ!” ฉันอธิบายอย่างรวดเร็ว เวลาตื่นเต้นฉันจะพูดตะกุกตะกักเอ็ดเวิร์ดเงียบไปชั่วครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมา ตอนนี้กลายเป็นฉันที่สับสน อะไรที่ทำให้เขาหัวเราะได้ขนาดนี้?หัวเราะเหมือนเด็กน้อยที่ร่าเริง เอ็ดเวิร์ดน่าทึ่งจริงๆ แม้ว่าเขาจะผ่านอะไรมามากมาย ยังสามารถก้าวไปข้างหน้า สร้างสถานที่ในโลกสำหรับตัวเขาเอง หัวเราะอย่างไร้กังวลและมีความสุขแบบนี้ การมองดูอาการเขาทำให้ฉันอมยิ้มตามไป“อาขำอะไรขนาดนั้น” ฉันถามอย่างสงสัย“ขอโทษ…ที่อาขำเพราะ…ม
“อาพูดจริงนะ อาเชื่อว่าทางเลือกที่ดีที่สุดของเธอคือแต่งงานกับอา ยิ่งเร็วยิ่งดี” เอ็ดเวิร์ดดูจริงจังมาก“อาบอกได้มั้ยว่าทำไม” ฉันถาม"ดึกมากแล้ว. เธอคงเหนื่อย เราค่อยคุยกันต่อพรุ่งนี้ดีกว่า” เอ็ดเวิร์ดพูดตัดบทแล้วรีบลุกจากโซฟาเดินไปที่ประตู“อาเอ็ดเวิร์ด…” ฉันเรียกชื่อเขาเบาๆ“ห้องนอนอาอยู่ที่สุดทางเดิน… เผื่อเธอต้องการอะไร” เอ็ดเวิร์ดพูดโดยไม่หันหลังกลับเขาจากไปก่อนที่ฉันจะนึกอะไรออก ตอนนี้ฉันควรทำยังไงดี?ทำตามคำแนะนำแล้วเข้านอนเลยอย่างนั้นเหรอ…ฉันรู้สึกแย่มากหลังจากนอนพลิกตัวอยู่บนเตียงไปมาหลายชั่วโมงแต่ทำยังไงก็หลับไม่ลง จิตใจกระสับกระส่ายกับข้อมูลที่เพิ่งรับรู้ คำพูดของเอ็ดเวิร์ดที่วนเวียนอยู่ในหัวทำให้ฉันแทบเป็นบ้า เหงื่อชุ่มตัว ทั้งเตียงและห้องทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่ความผิดของสถานที่ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวฉันเองที่ไม่สามารถควบคุมความเครียดได้ฉันคลำหาโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงในความมืด หน้าจอโทรศัพท์แสดงเวลา 03:45 น. รู้สึกเหนื่อยแต่ก็ยังตื่นอยู่ ชีวิตฉันว่างเปล่ามากในตอนนี้ ไม่มีอะไรต้องทำและไม่มีแผนการสำหรับอนาคต เกิดคำถามในใจว่าชีวิตฉันจะเป็นแบบนี้ไ
“นี่อาไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย” ฉันถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เขาเคยพูดกับฉันแบบนี้มาก่อน แต่มันจบลงไม่ค่อยดีนักแทนที่จะตอบคำถามฉัน เอ็ดเวิร์ดกลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพิมพ์ข้อความแทน เขากำลังทำอะไร?'คืนนี้นาตาลีจะค้างที่นี่ ไม่ต้องห่วง ฉันเริ่มต้นใหม่อย่างความยุติธรรมแล้วนะ...พี่ชาย’เอ็ดเวิร์ดกดปุ่มส่งก่อนจะหันไปหานาตาลีอีกครั้ง พร้อมส่งยิ้มอย่างไร้เดียงสาให้เธอ…**ก่อนหน้านั้น**"นี่คืออะไร!?" ลูเซียนตะโกนใส่หน้าน้องชาย พร้อมกับกระแทกสร้อยคอที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะ“อรุณสวัสดิ์!” เอ็ดเวิร์ดทักทายพี่ชายอย่างร่าเริง“เอ็ดเวิร์ด…” ลูเซียนเอ่ยชื่อด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“พี่มาที่นี่เพื่อถามฉันแค่นี้เองเหรอ?พี่ดูก็รู้?มันคือสร้อยคอ…พร้อมจี้เพชรรูปดาวแบบสั่งทำพิเศษ” เอ็ดเวิร์ดพูดด้วยรอยยิ้ม“เป็นของนายจริงๆ ด้วย” ลูเซียนพูดพร้อมกับหรี่ตาลง“ตอนนี้มันเป็นของนาตาลี ฉันให้เธอไปแล้ว พี่มาเพื่อถามเรื่องแค่นี้เองเหรอ?” เอ็ดเวิร์ดถามด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา“ทำไมนายถึงให้สร้อยคอเส้นนี้กับเธอ นายต้องการอะไร?" ลูเซียนถาม“ฉันมอบให้เธอเพื่อเตือนให้เธอซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ฉันไม่ได้ต้องการอะไรเป็นพิเศษ...มีปัญหาอะไร
ฉันนั่งอึ้งอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่าจะคิดหรือตอบยังไง ถ้าเอ็ดเวิร์ดคือคนที่ช่วยชีวิตและเป็นรักแรกของฉัน มันจะทำให้ความรู้สึกที่ฉันมีต่อลูเซียนเปลี่ยนไปมั้ย ฉันรู้สึกสับสนมากตอนนี้…“หลักฐานแค่นี้พอรึยัง” เอ็ดเวิร์ดเอ่ยปากถาม เขาวางหัวลงบนตักฉันแววตาเขาที่มองฉันทำให้นึกถึงแมวขี้เล่น“ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ว่าควรจะตอบอายังไง…” ฉันบอกตามความรู้สึกจริงๆ"ไม่เป็นไร มันค่อนข้างทำใจยาก เพราะสิ่งที่เธอเชื่อมาเป็นสิบปีไม่เป็นอย่างที่เธอเข้าใจ” เอ็ดเวิร์ดตอบอย่างเห็นอกเห็นใจ“อือ...” ฉันตอบแบบงง ๆรู้สึกสับสนเกินกว่าจะแยกแยะความรู้สึกของตัวเอง“เธอดูเหนื่อยๆ อยากถามคำถามอีกสองข้อตอนนี้เลยมั้ย?หรือเอาไว้วันหลัง…” เอ็ดเวิร์ดแนะนำ ศีรษะเขาที่หนุนอยู่บนตักให้ความรู้สึกอบอุ่นมากเรานั่งกันอยู่ในความเงียบ ฉันเงยหน้าขึ้นมองดาวที่ส่องแสงระยิบระยับและสงสัยว่าดาวพวกนั้นจะรู้สึกเจ็บปวดและหงุดหงิดเหมือนฉันมั้ย มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างเมื่อฉันรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดเป็นรักแรก ไม่ใช่ลูเซียน?มันจะทำให้ฉันรักลูเซียนน้อยลงรึเปล่า?หรือว่าฉันต้องรักเอ็ดเวิร์ดแทนเพราะเขาเป็นรักแรกของฉัน?ความรู้สึกมันเปลี่ยนกันง่ายๆ ได้ขนาดนั้นเ
“เป็นไปไม่ได้… ที่ฉันจำได้มันไม่ได้เป็นแบบนั้น” ฉันตอบด้วยความตกใจและสับสน“อาไม่โทษเธอ อย่างที่อาเคยบอกไปว่าเธอจะไม่เชื่ออาหรอก” เอ็ดเวิร์ดตอบพร้อมกับยักไหล่ราวกับว่าเขาไม่สนใจว่าฉันจะรับในสิ่งที่เขาพูดได้รึเปล่า“อารู้เรื่องนี้ได้ยังไง?อามีหลักฐานว่าเรื่องของอาเป็นความจริงเหรอ” ฉันถามอย่างจริงจัง“ลูเซียนไม่ได้ช่วยเธอไว้ เขาไม่เคยช่วยเธอ…” เอ็ดเวิร์ดพูดขณะที่สบตากับฉัน"ไม่จริง! ลูเซียนเป็นคนช่วยฉัน” ฉันตะโกนอย่างมั่นใจเพราะลูเซียนคอยช่วยฉันเสมอ“เขาบอกเธออย่างนั้นเหรอ?ตอนเธอถามว่าเขาช่วยเธอรึเปล่า… เขาตอบว่าไง” เอ็ดเวิร์ดถามกลับเขา…“เธอต้องขอบคุณผู้ชายคนนั้นที่ช่วยชีวิตเธอไว้ เธอรู้จักเขามั้ย เขามีหน้าตายังไง” เขาฟังดูเป็นคนที่วิเศษจริงๆ … ใช่มั้ย’คำพูดของลูเซียนกลับมาหาฉัน...“พี่ชายของอามีหลักการที่ชัดเจน เขาจะไม่พูดว่าเขาช่วยเธอทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำ ดังนั้นอาแน่ใจว่าเขาไม่เคยพูด เธอต่างหากที่คิดไปเองว่าเข้าไปคนช่วยเธฮ” เอ็ดเวิร์ดพูดช้าๆ เพื่อให้ฉันเข้าใจทุกอย่าง"อารู้เรื่องนี้ได้ยังไง?!" ฉันตะโกนใส่เอ็ดเวิร์ด พอกันทีกับทฤษฎีของเขา ทำไมเขาถึงบอกฉันตรงๆ ไม่ได้“นาตาลี ลูเซียนไม
“ราล์ฟเล่าอะไรให้คุณฟังบ้าง เขาชอบพูดไปเรื่อย อย่าไปสนใจล่ะ” เอ็ดเวิร์ดพูด ขณะพาฉันเดินไปตามทาง“เขาเป็นมิตรมาก ฉันชอบเขานะ เราจะไปที่ไหนกันคะ?" ฉันตอบขณะเดินไปกับเอ็ดเวิร์ด“มื้อเย็นกับดวงดาว” เอ็ดเวิร์ดตอบพร้อมชี้นิ้วไปด้วยในไม่ช้าเราก็ยืนอยู่ที่ด้านล่างบันไดที่ดูคดเคี้ยว มองขึ้นไปด้านบนบอกได้เลยว่าเราต้องเดินขึ้นไปสูงทีเดียว หรือว่าที่นี่คือหอดูดาวที่เขาพูดถึงก่อนหน้านี้?“นี่คือทางขึ้นไปหอดูดาว อาคิดว่าขึ้นบันไดดีกว่าใช้ลิฟต์” เอ็ดเวิร์ดตอบคำถามที่ยังไม่ได้ถามแล้วจับมือฉันเราเดินขึ้นบันไดเวียนไปด้วยกัน ไม่รู้ว่าเราต้องเดินขึ้นไปสูงแค่ไหน ขาที่ไม่แข็งแรงของฉันเริ่มล้า เอ็ดเวิร์ดชะลอความเร็วลงเพื่อรอฉัน เห็นได้ชัดว่าการเดินขึ้นครั้งนี้อยู่เหนือความสามารถของฉัน“อืม…อาไม่ได้มีความหมายอย่างอื่น แต่…ถ้าเธอต้องการ อาอุ้มเธอขึ้นไปได้นะ” เอ็ดเวิร์ดเสนออย่างเกรงใจระหว่างที่จ้องหน้าฉัน ตอนนี้หน้าฉันต้องแดงมากแน่ๆ ฉันเริ่มหมดแรงตั้งแต่เมื่อไหร่?สงสัยว่าต้องเดินขึ้นไปอีกนานแค่ไหน ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้งและตัดสินใจที่จะเดินต่อ"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเดินได้ ขอบคุณที่ถาม” ฉันกัดฟันยิ้มหลัง
“ขอแสดงความยินดีที่เธอชนะเกมนี้ ตามสัญญา อาจะคืนสิ่งนี้ให้กับเธอ” เอ็ดเวิร์ดพูดด้วยรอยยิ้มเขาค่อยๆ ใส่สร้อยจี้รูปดาวที่คอให้ฉัน สังเกตเห็นว่าโซ่ที่ขาดได้รับการแก้ไขแล้ว“ขอบคุณค่ะ” ฉันตอบสั้นๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี“มันเหมาะกับเธอ ตอนนี้ตาเธอเลือกเสื้อผ้าให้อา แล้วแต่งตัวให้อาด้วย” เอ็ดเวิร์ดเสนอ ขณะที่ชี้ไปที่เสื้อผ้าผู้ชายฉันเดินไปหาเสื้อผ้าให้เอ็ดเวิร์ด มีตัวเลือกเยอะจริงๆ เอาอะไรที่เรียบง่ายและผ่อนคลายเพราะเรากำลังจะไปทานอาหารเย็นกัน ฉันหยิบเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อน คาร์ดิแกนสีขาว และกางเกงสีน้ำตาลอ่อน เอ็ดเวิร์ดสามารถเลือกรองเท้าเองได้“มา ฉันจะแต่งตัวให้อาบ้าง” ฉันบอกเอ็ดเวิร์ดด้วยรอยยิ้ม ขณะยกเสื้อผ้าไปที่โซฟาเมื่อฉันเริ่มแต่งตัวให้เอ็ดเวิร์ด เขายืนนิ่งแต่เฝ้าดูทุกอิริยาบถของฉัน เขาช่วยขยับแขนและขาไปมา เหมือนฉันกำลังเล่นกับตุ๊กตาขนาดเท่าคนจริง ฉันคิดพร้อมหัวเราะเบาๆ กับตัวเอง เอ็ดเวิร์ดไม่พูดซักคำเหมือนเขาจะคิดอะไรอยู่ มันทำให้ฉันรู้สึกกังวลฉันใส่เสื้อให้เขาแล้วเริ่มติดกระดุม รู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้ละสายตาจากฉันเลย ฉันยิ้มให้เมื่อติดกระดุมเม็ดสุดท้ายเสร็จ"เสร็จแล้วค่ะ ฉันทำถูกรึ
น้ำอุ่นจากฝักบัวทำให้ผิวหนังและร่างกายที่กำลังอ่อนล้ารู้สึกดีขึ้นมาก ฉันอาบน้ำสระผมเพื่อผ่อนคลาย หยดน้ำที่กระทบกับผิวเปลือยเปล่า เสียงน้ำไหลทำให้รู้สึกสงบลง ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก อยากจะยืนพักอยู่ตรงนี้นานๆจู่ๆ ประตูห้องน้ำก็เปิดออก ฉันมั่นใจมากว่าฉันล็อกตอนเข้ามา แต่เดาได้ว่าไม่มีประตูในบ้านนี้ที่เจ้าของบ้านเปิดเข้าไม่ได้ ความจริงฉันไม่ควรแปลกใจเพราะคำว่า 'พื้นที่ส่วนตัวสำหรับนาตาลี' ไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของเอ็ดเวิร์ดแน่นนอน“นาตาลี…” เอ็ดเวิร์ดเรียกชื่อฉันอย่างร่าเริงเมื่อเขาโผล่หน้าเข้ามา ทั้งตัวเอ็ดเวิร์ดมีแค่ผ้าเช็ดตัวสีขาวพันรอบเอวเขาเท่านั้น"อาเข้ามาทำไม?!" ฉันกรีดร้องเสียงดัง ไม่คิดว่าในห้องน้ำเสียงจะก้องขนาดนี้ ฉันรีบเอามือปิดหน้าอก ขณะที่หันตัวเข้าหากำแพง“เธอทำเหมือนกับอาไม่เคยเห็นเธอเปลือยกายมาก่อน…” เอ็ดเวิร์ดพูดอย่างอารมณ์ดี"ฉันถามว่าอาเข้ามาทำไม?" ฉันถามซ้ำอีกครั้ง ทั้งที่อยากจะตะโกนไล่เขาออกไป!“ในเมื่อเธอเป็นคนเปลื้องผ้าอา อาเลยคิดว่าเธอควรรับผิดชอบด้วยการแต่งตัวให้อา” เอ็ดเวิร์ดพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“เกมนี้เป็นความคิดของอา ทำไมฉันต้องรับผิดชอบด้วย?” ฉันสวนกลับ“เธอพู
ไม่สามารถหยุดตัวเองไม่ให้ครางได้ นิ้วเขายังคงลูบไล้ฉันอยู่ตรงนั้น ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเปียกโชกอยู่ข้างล่าง นิ้วเขาเล่นกับปุ่มวิเศษอันบอบบาง ก่อนมืออีกข้างจะสอดนิ้วหนาสองนิ้วเข้าไปในช่องรักที่เปียกชื้น มันรู้สึกดีมาก ฉันร้องครวญครางและเอ็ดเวิร์ดก็เริ่มสอดนิ้วเข้าไปลึกในร่างกายฉัน“เหลือเวลาอีกเท่าไหร่…” ฉันเริ่มถามแต่พูดต่อไม่ได้ คำถามฉันถูกแทนที่ด้วยเสียงครวญคราง ร่างกายฉันสั่นสะท้านเมื่อเอ็ดเวิร์ดเริ่มใช้นิ้วแตะที่จุดจีสปอต“จนกว่าเธอจะเสร็จ…” เอ็ดเวิร์ดตอบจนกว่าฉันจะเสร็จ…คงไม่นานเกินไป เอ็ดเวิร์ดใส่นิ้วเข้าไปในตัวฉันเร็วขึ้นและแรงขึ้น อีกมือเขาบีบปุ่มกระสันอย่างต่อเนื่อง ฉันเรียกชื่อเขาเมื่อความเร่าร้อนเข้าครอบงำ หยุดส่ายสะโพกสู้นิ้วเขาไม่ได้ นิ้วเขาเข้าไปลึกมาก รู้สึกมหัศจรรย์เมื่อนิ้วเขาถูผนังช่องรักที่ยืดออก คิดว่าฉันกำลังจะหลั่งเร็วๆ นี้“เอ็ดเวิร์ด…ฉัน…” ฉันพูดระหว่างครางอย่างรุนแรงเอ็ดเวิร์ดค่อยๆ ถอนนิ้วออกจากช่องรักที่เปียกชื้น ฉันรู้สึกร้อนขึ้นภายในโพรงรัก แทนที่จะใช้นิ้วเขา เอ็ดเวิร์ดเอาลิ้นเข้าไปแทน ใบหน้าเขาฝังอยู่ที่หว่างขาฉัน เขาดูดและเลียไปรอบๆ ความร้อนของลิ้นเข