พวกเราสามคนเป็นกลุ่มที่แปลกที่สุดในร้านบูติกสำหรับงานแต่งงานสุดหรูแห่งนี้ คนหนี่งเป็นว่าที่เจ้าสาว คนหนี่งเป็นว่าที่เจ้าบ่าว อีกคนเป็นลูกติดของเจ้าบ่าว วงเล็บคู่รักแบบลับๆ วันนี้ตามที่สัญญาว่าฉันจะช่วยแองเจล่าเลือกชุดแต่งงานในฝันเพื่อใช้เป็นแนวทางในการตัดเย็บชุดแต่งงานสุดหรูของเธอ แค่มองลูเซียนแวบเดียวทุกคนก็รู้ว่าเขาอยากจะไปอยู่ที่อื่นไม่ใช่ที่นี่ ส่วนตัวฉันกำลังยุ่งอยู่กับการคิดว่าจะทำอย่างไรให้วันนี้เป็นวันที่สนุกสนานสำหรับตัวเองมากที่สุดเนื่องจากแองเจล่าเป็นลูกค้าระดับ VVIP ทั้งร้านจึงถูกจองล่วงหน้าเพื่อให้บริการพวกเราโดยเฉพาะ หมายความว่าเรามีเวลาอยู่ที่นี่ทั้งวันเพื่อช่วยแองเจล่าเลือกชุด ผู้จัดการร้านและทีมงานทักทายเราอย่างอบอุ่นเมื่อเราเข้าไปถึง“คุณแองเจล่า เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณเลือกร้านเราเป็นคนเตรียมชุดแต่งงานสำหรับวันสำคัญของคุณ ขอแสดงความยินดีอีกครั้งค่ะ!” ผู้จัดการร้านวัยกลางคนกล่าวพร้อมกับส่งรอยยิ้มแบบสดใส“ขอบคุณมากค่ะ” แองเจล่าตอบ ขณะที่เธอเดินคล้องแขนลูเชียน“เราเตรียมชุดไว้ให้คุณลองมากมายค่ะ ฉันขออนุญาตแนะนำให้คุณเริ่มจากการลองชุดสไตล์ต่างๆ เพื่อดูว่าชุ
เซียนพาฉันไปที่ชั้นบนสุดของบูติกซึ่งมีพนักงานสองสามคนกำลังรอเราอยู่ ทั้งชั้นเต็มไปด้วยชุดแต่งงานที่สวยงามตระการตา อีกด้านหนึ่งเป็นห้องแต่งตัว เรามาที่นี่เพื่อช่วยเลือกชุดให้แองเจล่าไม่ใช่เหรอ?“ฉันอยากมีเวลาส่วนตัวกับลูกสาว ไม่ต้องห่วงเรื่องการลองชุด พวกเราจะจัดการกันเองได้” ลูเซียนบอกพนักงานอย่างเป็นกันเองหลังจากชำเลืองมองกันอย่างกระวนกระวายใจอยู่ครู่หนึ่ง พนักงานก็ตกลงที่จะปล่อยให้ลูเซียนกับฉันอยู่กันตามลำพัง“ใครลองชุด?ฉัน?" ฉันถามอย่างสงสัยพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ตัวเอง ที่นี่คือชุดแต่งงานทั้งหมดและฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เหลืออยู่ในห้องนี้“ใช่…เธอช่วยลองชุดแต่งงานหน่อย นี่เป็นเหตุผลเดียวที่อามาที่นี่ในวันนี้” ลูเซียนตอบขณะวางมือบนไหล่ของฉัน“ขอโทษนะคะ คุณหมายความว่ายังไง ฉันตามไม่ทัน เท่าที่ฉันรู้ ฉันยังไม่มีแพลนแต่งงานกับใคร… เร็ว ๆ นี้” ฉันตอบ ขณะที่ฉันส่ายหัวช้าๆ ด้วยความสับสน เป็นเพราะลูเซียนกำลังจะแต่งงาน ถึงตาฉันแล้วหรอ?“เธอพูดถูก…ซักวันหนึ่ง…” ลูเซียนกระซิบด้วยเสียงที่นุ่มนวลและเย้ายวนข้างหูของฉันซักวันหนึ่ง…อะไรนะ?เขาหมายความว่าอยากให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นเร็วๆ นี้เหร
“น้ำเธอเยอะมาก… มาดูว่าจะเอานิ้วอื่นเข้าไปได้มั้ย…” ลูเซียนพูด ก่อนสอดนิ้วที่สามเข้าไปในตัวฉัน รู้สึกว่าโพรงถ้ำของฉันถูกยืดออกมากขึ้น การมีสามนิ้วอยู่ข้างในทำให้ฉันรู้สึกตึงจนแน่นไปหมด ฉันเริ่มสนุกกับนิ้วของเขามากกว่าเดิม นิ้วของเขาถูจุดอ่อนไหวทำให้ฉันเข้าใกล้จุดสุดยอดมากยิ่งขึ้น ฉันใช้มือจับขาของฉันออกให้กว้างขึ้นสำหรับเขา ขณะที่ฉันแอ่นโยกขึ้นและลงตามนิ้วของเขาโอ้! เขาจะทำให้ฉันหลั่งเร็ว ๆ นี้!ไม่นานฉันรู้สึกว่าร่างกายของฉันเกร็งในขณะที่จุดสุดยอดกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว การมีนิ้วทั้งสามของเขาลึกเข้าไปในตัวนั้นมันเป็นการกระตุ้นมากเกินไป ร่างกายของฉันตอบสนองอย่างเร่าร้อน ฉันร้องเรียกชื่อเขาหลายครั้ง น้ำสวาทพุ่งออกมาจากโพรงรักของฉันจนเปรอะเปื้อนชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ ผู้จัดการร้านต้องไม่พอใจแน่“แย่แล้ว…เราทำชุดเปื้อน…” ฉันพึมพำ หลังจากผ่านจุดไคลแมกซ์อันเข้มข้น“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ฉันจะซื้อชุดนี้และชุดอื่นๆ ที่เธอชอบด้วย” ลูเซียนตอบ เขาจูบไรผมของฉันด้วยความรักลูเซียนกอดฉันด้วยความรักจากด้านหลังในความเงียบ ขณะที่ฉันพยายามหายใจ สิ่งต่อมาที่ฉันรู้ว่าลูเซียนไม่ได้อยู่ข้างหลังฉันอ
เมื่อถึงเวลาที่เราทั้งคู่แต่งตัวเสร็จ แองเจล่าก็ออกจากร้านไปแล้ว ไม่ต้องสงสัยโทรศัพท์มือถือของลูเซียนเต็มไปด้วยสายเข้าที่ไม่ได้รับ ฉันเห็นเขาเหลือบมองรายการสายที่ไม่ได้รับอย่างไม่ใส่ใจ ด้วยเหตุผลบางอย่างลูเซียนทำตัวเย็นชากับแองเจล่า ต่างจากตอนที่เขาแนะนำเธอให้ฉันรู้จักในฐานะคู่หมั้นของเขาในครั้งแรก เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องที่เราสามคนจะกลายเป็นครอบครัวเพื่อประโยชน์ของฉัน บลา บลา ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับฉัน แต่ฉันสงสัยว่าการแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้จะสร้างปัญหาให้กับลูเซียนรึเปล่า“เธอจำได้มั้ยว่าสัปดาห์หน้าเป็นวันอะไร” ลูเซียนถาม ขณะที่เรานั่งเคียงข้างกันบนหลังรถโรลส์รอยซ์ของเขา เขามองตรงไปข้างหน้าโดยไม่มองมาที่ฉัน“ฉันจะลืมได้ยังไง” ฉันตอบโดยที่ยังมองไปข้างหน้า“เธอจะไปกับฉันเหมือนเดิมมั้ย” เขาถาม“แน่นอนค่ะ” ฉันตอบฉันไม่เคยลืมหรอก วันพุธสัปดาห์หน้าเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของแม่ฉันวันครบรอบของแม่ทำให้ลูเซียนเสียใจอยู่เสมอ ครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน ฉันสงสัยว่าเขายังคงรักเธอแม้ผ่านเวลาไปนานแล้วมั้ย ฉันไม่แปลกใจถ้าเขายังรักเธออยู่ จริงๆ แล้วฉันคงเสียใจและโกรธมากถ้าเขาลืมเธอหรือเลิกรัก
“อืม…อืม…”ฉันมองเห็นมือผู้ชายเคล้นคลึงหน้าอกฉันอยู่จนฉันเผลอครางออกมาด้วยความสุขจากชายที่ไม่รู้จักกำลังบำเรอร่างกายฉัน มือของเขาบนผิวเปลือยเปล่าทำให้ร่างกายฉันร้อนขึ้น รู้สึกได้ถึงรอยจูบอันอบอุ่นที่คอ หน้าอก แล้วก็ไล่ลงมาตามท้องทำไมฉันถึงฝันถึงการมีเซ็กส์?หรือฉันไม่พอใจกับการร่วมรักกับลูเซียนโดยไม่รู้ตัว?ถึงรู้ว่านี่คือความฝันแต่ฉันก็ไม่สามารถหยุดหรือควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ขณะที่จูบของเขาเคลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ จนกระทั่งไปถึงจุดอ่อนไหวตรงหว่างขา ฉันรู้สึกร้อนและแฉะตรงนั้นมาก ลิ้นของเขาหยอกล้อก่อนสำรวจร่องรักร้อนของฉัน เขาดูดเม็ดแตงของฉันอย่างแรง ก่อนที่ลิ้นของเขาจะมุดเข้าไปในโพรงรัก...ลิ้นร้อนของเขาดันเข้าออกจากช่องสวาทของฉันเร็วขึ้น ร่างกายของฉันรู้สึกเหมือนถูกไฟไหม้ ...“อ่าาา!” ฉันตื่นขึ้นพร้อมเสียงครางสิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือขาของฉันถูกแยกออกจากกันและมีชายคนหนึ่งหมอบอยู่ระหว่างขาของฉัน!"ใคร…!" ฉันกรีดร้อง ก่อนที่เขาจะรีบเอามือปิดปากฉัน“อย่าร้อง อาเอง เจ้าหญิง” ชายคนนั้นกระซิบข้างหูฉันด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงสายตาของฉันค่อยๆ ปรับเข้ากับความมืด ฉันจำเจ้าของเสียงและใบหน้าของเขาที่
เอ็ดเวิร์ดพาฉันเข้าไปในห้องก่อนจะปิดประตูไม้บานใหญ่และล็อกมัน ฉันควรจะรู้สึกกลัวที่ต้องอยู่ตามลำพังกับเอ็ดเวิร์ดในห้องที่ไม่คุ้นเคย แต่แปลกที่ฉันกลับรู้สึกสบายใจและตื่นเต้นแทน ภายในห้องมืดและเย็น มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาจากหน้าต่าง ดูแล้วห้องนี้ต้องใหญ่มากแน่ๆ…เอ็ดเวิร์ดผละจากฉันไปชั่วขณะ ไม่นานไฟก็สว่างขึ้น แสงไฟแยงตาหลังจากอยู่ในความมืดเป็นเวลานาน เมื่อดวงตาปรับเข้ากับแสงได้ สิ่งที่ฉันเห็นทำให้ประหลาดใจจนพูดไม่ออก ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรแค่คิดว่าน่าจะเป็นห้องโล่งเย็นที่ว่างเปล่า ที่ไม่ได้ใช้งานมากว่าสิบปี สิ่งที่ฉันเห็นเหมือนห้องนี้ถูกหยุดไว้…ในการเวลาถ้ามีคนบอกฉันว่ามีนักเรียนมัธยมปลายอาศัยอยู่ที่นี่จนถึงเมื่อวาน ฉันคงเชื่อพวกเขาโดยไม่สงสัย ห้องยังดูสะอาดสะอ้าน ของทั้งหมดของเจ้าของห้องนี้ยังคงอยู่สภาพเดิม หนังสือมัธยมปลาย กระดาษ ปากกา และเครื่องเขียนอื่นๆ กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะไม้ ชุดนักเรียนมัธยมปลายกองรวมอยู่บนเตียงแจ็คเก็ตนักเรียนพาดอยู่บนพนักเก้าอี้ โปสเตอร์จากวงดนตรียอดนิยมเมื่อประมาณสิบปีที่แล้วติดอยู่บนผนัง ภาพถ่ายในกรอบรูป อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในยุคก่อนเช่นเครื่องเล่นซ
ฉันกอดเขาแน่นขึ้นโดยสัญชาตญาณ ปลอบโยนเขาเท่าที่ฉันจะทำได้ ผู้คนมักจะพูดว่าเอ็ดเวิร์ดเป็นอัจฉริยะ ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ“เมื่อเด็กชายเริ่มเป็นวัยรุ่น เขาต่อรองและพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องชีวิตของเขา เขาเรียนรู้วิทยาศาสตร์ขั้นสูงและทำงานวิจัยมากมายที่จะช่วยธุรกิจของครอบครัวโดยแลกกับการเรียนต่อมัธยมปลายตามปกติอยู่มาวันหนึ่ง พ่อของเด็กชายกับเหล่าผู้อาวุโสตัดสินใจที่จะขังเด็กชายไว้ในศูนย์วิจัยพิเศษของครอบครัว เมื่อไม่มีทางเลือก เด็กจึงตัดสินใจหนี มันทำให้เขาเจ็บปวดที่ต้องทิ้งพี่ชายและแม่ที่เขารักไว้ข้างหลัง แต่…” เอ็ดเวิร์ดเล่าเรื่องราวต่อด้วยน้ำเสียงเฉยเมย“เกิดอะไรขึ้นต่อ?” ฉันถามเบา ๆ ขณะเงยหน้ามองเอ็ดเวิร์ด“เมื่อพ่อและคนของเหล่าผู้อาวุโสมาถึงห้องนี้เพื่อรับเขา เด็กก็หายไปแล้ว หลายปีผ่านไปไม่ว่าจะพยายามหาแค่ไหนก็ไม่มีใครพบเด็กคนนั้น พ่อของเขาไม่สามารถเผชิญกับความจริงที่ว่าลูกที่ตั้งความหวังไว้จะไม่กลับมาอีก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็มีคำสั่งให้รักษาห้องของเด็กคนนั้นไว้ในสภาพเดิม” เอ็ดเวิร์ดตอบแม้ว่าพ่อของพวกเขาจะเสียชีวิตไปแล้ว ลูเซียนก็ยังคงสานต่อความปรารถนาขอ
“ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง ที่ต้องบอกความจริงว่าอาไม่มีส่วนในการสร้างสิ่งที่เธอกำลังจะได้เห็น คฤหาสน์หลังนี้เก่ามาก อาคิดว่ามันน่าจะสร้างในช่วงสงคราม คฤหาสน์แบบนี้จำเป็นที่จะต้องมีทางหนีลับ ปู่ของอาบอกเรื่องเส้นทางลับนี้ตอนอายังเป็นเด็ก ถึงแม้เขาจะไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่ามันอยู่ที่ไหนในห้องนี้ แต่มันไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเรารู้ว่าใครเป็นผู้สร้างคฤหาสน์เช่น วันเกิด หรือราศีของเขา” เอ็ดเวิร์ดอธิบาย ขณะที่เขาหยุดยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าตู้หนึ่งความอยากรู้อยากเห็นทำให้ฉันลงจากเตียงและไปยืนข้างเขา ฉันยังไม่เห็นว่าตู้เสื้อผ้าตู้นี้แตกต่างจากตู้อื่นยังไง“เขาเป็นคนราศีเมษ ถ้าเธอดูตรงนี้ให้ดี เธอจะเห็นสัญลักษณ์รูปดาวราศีเมษสลักอยู่ตรงนี้ มีสัญลักษณ์รูปดาวแบบอื่นที่ตู้ที่เหลือ แต่เขาเป็นคนราศีเมษ จึงต้องเป็นตู้นี้” เอ็ดเวิร์ดอธิบาย ขณะที่เขาชี้ไปที่รูปแกะสลักขนาดเล็กมากที่ด้านบนของตู้ ฉันหรี่ตาเพื่อพยายามดูภาพแกะสลักตามที่เขาบอกเหมือนกับมุกเก่าจากภาพยนตร์ เอ็ดเวิร์ดเปิดตู้เสื้อผ้าออก ข้างในเป็นชุดนักเรียนมัธยมปลาย พอดันเสื้อผ้าไปด้านข้าง เผยให้เห็นแผ่นไม้ด้านหลังของตู้เสื้อผ้า พอเอ็ดเวิร์ดเอาแผ่นไม้ออก
“ฉัน…ฉันขอโทษที่ไม่ได้พูดแบบนี้มาก่อน…” ฉันเริ่มเสียงอ่อน สงสัยว่าทำไมต้องเสียงสั่นด้วย?เอ็ดเวิร์ดมองอย่างเงียบๆ เขารอให้ฉันพูดต่อ ฉันอยากทำให้มันถูกต้อง“อาเอ็ดเวิร์ด! ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้!” ฉันพูดอย่างหนักแน่น พร้อมกับจ้องตาเขา ดวงตาเขาเป็นประกายจากแสงอันอบอุ่นของน้ำพุ มันดูมีเสน่ห์มาก"…อะไรนะ?" เอ็ดเวิร์ดชะงักก่อนจะถามด้วยเสียงกระซิบ ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้คาดหวังคำขอบคุณจากฉันหลังจากผ่านมาแล้วสิบปีและหลายชั่วโมงหลังจากที่เขาบอกความจริงกับฉัน“ขอบคุณ…ที่ช่วยฉันในป่าวันนั้น ฉันตั้งใจจะบอกคุณก่อนหน้านี้ แต่... ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ฉันเลย... ลืม ขอโทษจริงๆ ค่ะ!” ฉันอธิบายอย่างรวดเร็ว เวลาตื่นเต้นฉันจะพูดตะกุกตะกักเอ็ดเวิร์ดเงียบไปชั่วครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมา ตอนนี้กลายเป็นฉันที่สับสน อะไรที่ทำให้เขาหัวเราะได้ขนาดนี้?หัวเราะเหมือนเด็กน้อยที่ร่าเริง เอ็ดเวิร์ดน่าทึ่งจริงๆ แม้ว่าเขาจะผ่านอะไรมามากมาย ยังสามารถก้าวไปข้างหน้า สร้างสถานที่ในโลกสำหรับตัวเขาเอง หัวเราะอย่างไร้กังวลและมีความสุขแบบนี้ การมองดูอาการเขาทำให้ฉันอมยิ้มตามไป“อาขำอะไรขนาดนั้น” ฉันถามอย่างสงสัย“ขอโทษ…ที่อาขำเพราะ…ม
“อาพูดจริงนะ อาเชื่อว่าทางเลือกที่ดีที่สุดของเธอคือแต่งงานกับอา ยิ่งเร็วยิ่งดี” เอ็ดเวิร์ดดูจริงจังมาก“อาบอกได้มั้ยว่าทำไม” ฉันถาม"ดึกมากแล้ว. เธอคงเหนื่อย เราค่อยคุยกันต่อพรุ่งนี้ดีกว่า” เอ็ดเวิร์ดพูดตัดบทแล้วรีบลุกจากโซฟาเดินไปที่ประตู“อาเอ็ดเวิร์ด…” ฉันเรียกชื่อเขาเบาๆ“ห้องนอนอาอยู่ที่สุดทางเดิน… เผื่อเธอต้องการอะไร” เอ็ดเวิร์ดพูดโดยไม่หันหลังกลับเขาจากไปก่อนที่ฉันจะนึกอะไรออก ตอนนี้ฉันควรทำยังไงดี?ทำตามคำแนะนำแล้วเข้านอนเลยอย่างนั้นเหรอ…ฉันรู้สึกแย่มากหลังจากนอนพลิกตัวอยู่บนเตียงไปมาหลายชั่วโมงแต่ทำยังไงก็หลับไม่ลง จิตใจกระสับกระส่ายกับข้อมูลที่เพิ่งรับรู้ คำพูดของเอ็ดเวิร์ดที่วนเวียนอยู่ในหัวทำให้ฉันแทบเป็นบ้า เหงื่อชุ่มตัว ทั้งเตียงและห้องทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่ความผิดของสถานที่ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวฉันเองที่ไม่สามารถควบคุมความเครียดได้ฉันคลำหาโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงในความมืด หน้าจอโทรศัพท์แสดงเวลา 03:45 น. รู้สึกเหนื่อยแต่ก็ยังตื่นอยู่ ชีวิตฉันว่างเปล่ามากในตอนนี้ ไม่มีอะไรต้องทำและไม่มีแผนการสำหรับอนาคต เกิดคำถามในใจว่าชีวิตฉันจะเป็นแบบนี้ไ
“นี่อาไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย” ฉันถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เขาเคยพูดกับฉันแบบนี้มาก่อน แต่มันจบลงไม่ค่อยดีนักแทนที่จะตอบคำถามฉัน เอ็ดเวิร์ดกลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพิมพ์ข้อความแทน เขากำลังทำอะไร?'คืนนี้นาตาลีจะค้างที่นี่ ไม่ต้องห่วง ฉันเริ่มต้นใหม่อย่างความยุติธรรมแล้วนะ...พี่ชาย’เอ็ดเวิร์ดกดปุ่มส่งก่อนจะหันไปหานาตาลีอีกครั้ง พร้อมส่งยิ้มอย่างไร้เดียงสาให้เธอ…**ก่อนหน้านั้น**"นี่คืออะไร!?" ลูเซียนตะโกนใส่หน้าน้องชาย พร้อมกับกระแทกสร้อยคอที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะ“อรุณสวัสดิ์!” เอ็ดเวิร์ดทักทายพี่ชายอย่างร่าเริง“เอ็ดเวิร์ด…” ลูเซียนเอ่ยชื่อด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“พี่มาที่นี่เพื่อถามฉันแค่นี้เองเหรอ?พี่ดูก็รู้?มันคือสร้อยคอ…พร้อมจี้เพชรรูปดาวแบบสั่งทำพิเศษ” เอ็ดเวิร์ดพูดด้วยรอยยิ้ม“เป็นของนายจริงๆ ด้วย” ลูเซียนพูดพร้อมกับหรี่ตาลง“ตอนนี้มันเป็นของนาตาลี ฉันให้เธอไปแล้ว พี่มาเพื่อถามเรื่องแค่นี้เองเหรอ?” เอ็ดเวิร์ดถามด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา“ทำไมนายถึงให้สร้อยคอเส้นนี้กับเธอ นายต้องการอะไร?" ลูเซียนถาม“ฉันมอบให้เธอเพื่อเตือนให้เธอซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ฉันไม่ได้ต้องการอะไรเป็นพิเศษ...มีปัญหาอะไร
ฉันนั่งอึ้งอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่าจะคิดหรือตอบยังไง ถ้าเอ็ดเวิร์ดคือคนที่ช่วยชีวิตและเป็นรักแรกของฉัน มันจะทำให้ความรู้สึกที่ฉันมีต่อลูเซียนเปลี่ยนไปมั้ย ฉันรู้สึกสับสนมากตอนนี้…“หลักฐานแค่นี้พอรึยัง” เอ็ดเวิร์ดเอ่ยปากถาม เขาวางหัวลงบนตักฉันแววตาเขาที่มองฉันทำให้นึกถึงแมวขี้เล่น“ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ว่าควรจะตอบอายังไง…” ฉันบอกตามความรู้สึกจริงๆ"ไม่เป็นไร มันค่อนข้างทำใจยาก เพราะสิ่งที่เธอเชื่อมาเป็นสิบปีไม่เป็นอย่างที่เธอเข้าใจ” เอ็ดเวิร์ดตอบอย่างเห็นอกเห็นใจ“อือ...” ฉันตอบแบบงง ๆรู้สึกสับสนเกินกว่าจะแยกแยะความรู้สึกของตัวเอง“เธอดูเหนื่อยๆ อยากถามคำถามอีกสองข้อตอนนี้เลยมั้ย?หรือเอาไว้วันหลัง…” เอ็ดเวิร์ดแนะนำ ศีรษะเขาที่หนุนอยู่บนตักให้ความรู้สึกอบอุ่นมากเรานั่งกันอยู่ในความเงียบ ฉันเงยหน้าขึ้นมองดาวที่ส่องแสงระยิบระยับและสงสัยว่าดาวพวกนั้นจะรู้สึกเจ็บปวดและหงุดหงิดเหมือนฉันมั้ย มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างเมื่อฉันรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดเป็นรักแรก ไม่ใช่ลูเซียน?มันจะทำให้ฉันรักลูเซียนน้อยลงรึเปล่า?หรือว่าฉันต้องรักเอ็ดเวิร์ดแทนเพราะเขาเป็นรักแรกของฉัน?ความรู้สึกมันเปลี่ยนกันง่ายๆ ได้ขนาดนั้นเ
“เป็นไปไม่ได้… ที่ฉันจำได้มันไม่ได้เป็นแบบนั้น” ฉันตอบด้วยความตกใจและสับสน“อาไม่โทษเธอ อย่างที่อาเคยบอกไปว่าเธอจะไม่เชื่ออาหรอก” เอ็ดเวิร์ดตอบพร้อมกับยักไหล่ราวกับว่าเขาไม่สนใจว่าฉันจะรับในสิ่งที่เขาพูดได้รึเปล่า“อารู้เรื่องนี้ได้ยังไง?อามีหลักฐานว่าเรื่องของอาเป็นความจริงเหรอ” ฉันถามอย่างจริงจัง“ลูเซียนไม่ได้ช่วยเธอไว้ เขาไม่เคยช่วยเธอ…” เอ็ดเวิร์ดพูดขณะที่สบตากับฉัน"ไม่จริง! ลูเซียนเป็นคนช่วยฉัน” ฉันตะโกนอย่างมั่นใจเพราะลูเซียนคอยช่วยฉันเสมอ“เขาบอกเธออย่างนั้นเหรอ?ตอนเธอถามว่าเขาช่วยเธอรึเปล่า… เขาตอบว่าไง” เอ็ดเวิร์ดถามกลับเขา…“เธอต้องขอบคุณผู้ชายคนนั้นที่ช่วยชีวิตเธอไว้ เธอรู้จักเขามั้ย เขามีหน้าตายังไง” เขาฟังดูเป็นคนที่วิเศษจริงๆ … ใช่มั้ย’คำพูดของลูเซียนกลับมาหาฉัน...“พี่ชายของอามีหลักการที่ชัดเจน เขาจะไม่พูดว่าเขาช่วยเธอทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำ ดังนั้นอาแน่ใจว่าเขาไม่เคยพูด เธอต่างหากที่คิดไปเองว่าเข้าไปคนช่วยเธฮ” เอ็ดเวิร์ดพูดช้าๆ เพื่อให้ฉันเข้าใจทุกอย่าง"อารู้เรื่องนี้ได้ยังไง?!" ฉันตะโกนใส่เอ็ดเวิร์ด พอกันทีกับทฤษฎีของเขา ทำไมเขาถึงบอกฉันตรงๆ ไม่ได้“นาตาลี ลูเซียนไม
“ราล์ฟเล่าอะไรให้คุณฟังบ้าง เขาชอบพูดไปเรื่อย อย่าไปสนใจล่ะ” เอ็ดเวิร์ดพูด ขณะพาฉันเดินไปตามทาง“เขาเป็นมิตรมาก ฉันชอบเขานะ เราจะไปที่ไหนกันคะ?" ฉันตอบขณะเดินไปกับเอ็ดเวิร์ด“มื้อเย็นกับดวงดาว” เอ็ดเวิร์ดตอบพร้อมชี้นิ้วไปด้วยในไม่ช้าเราก็ยืนอยู่ที่ด้านล่างบันไดที่ดูคดเคี้ยว มองขึ้นไปด้านบนบอกได้เลยว่าเราต้องเดินขึ้นไปสูงทีเดียว หรือว่าที่นี่คือหอดูดาวที่เขาพูดถึงก่อนหน้านี้?“นี่คือทางขึ้นไปหอดูดาว อาคิดว่าขึ้นบันไดดีกว่าใช้ลิฟต์” เอ็ดเวิร์ดตอบคำถามที่ยังไม่ได้ถามแล้วจับมือฉันเราเดินขึ้นบันไดเวียนไปด้วยกัน ไม่รู้ว่าเราต้องเดินขึ้นไปสูงแค่ไหน ขาที่ไม่แข็งแรงของฉันเริ่มล้า เอ็ดเวิร์ดชะลอความเร็วลงเพื่อรอฉัน เห็นได้ชัดว่าการเดินขึ้นครั้งนี้อยู่เหนือความสามารถของฉัน“อืม…อาไม่ได้มีความหมายอย่างอื่น แต่…ถ้าเธอต้องการ อาอุ้มเธอขึ้นไปได้นะ” เอ็ดเวิร์ดเสนออย่างเกรงใจระหว่างที่จ้องหน้าฉัน ตอนนี้หน้าฉันต้องแดงมากแน่ๆ ฉันเริ่มหมดแรงตั้งแต่เมื่อไหร่?สงสัยว่าต้องเดินขึ้นไปอีกนานแค่ไหน ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้งและตัดสินใจที่จะเดินต่อ"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเดินได้ ขอบคุณที่ถาม” ฉันกัดฟันยิ้มหลัง
“ขอแสดงความยินดีที่เธอชนะเกมนี้ ตามสัญญา อาจะคืนสิ่งนี้ให้กับเธอ” เอ็ดเวิร์ดพูดด้วยรอยยิ้มเขาค่อยๆ ใส่สร้อยจี้รูปดาวที่คอให้ฉัน สังเกตเห็นว่าโซ่ที่ขาดได้รับการแก้ไขแล้ว“ขอบคุณค่ะ” ฉันตอบสั้นๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี“มันเหมาะกับเธอ ตอนนี้ตาเธอเลือกเสื้อผ้าให้อา แล้วแต่งตัวให้อาด้วย” เอ็ดเวิร์ดเสนอ ขณะที่ชี้ไปที่เสื้อผ้าผู้ชายฉันเดินไปหาเสื้อผ้าให้เอ็ดเวิร์ด มีตัวเลือกเยอะจริงๆ เอาอะไรที่เรียบง่ายและผ่อนคลายเพราะเรากำลังจะไปทานอาหารเย็นกัน ฉันหยิบเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อน คาร์ดิแกนสีขาว และกางเกงสีน้ำตาลอ่อน เอ็ดเวิร์ดสามารถเลือกรองเท้าเองได้“มา ฉันจะแต่งตัวให้อาบ้าง” ฉันบอกเอ็ดเวิร์ดด้วยรอยยิ้ม ขณะยกเสื้อผ้าไปที่โซฟาเมื่อฉันเริ่มแต่งตัวให้เอ็ดเวิร์ด เขายืนนิ่งแต่เฝ้าดูทุกอิริยาบถของฉัน เขาช่วยขยับแขนและขาไปมา เหมือนฉันกำลังเล่นกับตุ๊กตาขนาดเท่าคนจริง ฉันคิดพร้อมหัวเราะเบาๆ กับตัวเอง เอ็ดเวิร์ดไม่พูดซักคำเหมือนเขาจะคิดอะไรอยู่ มันทำให้ฉันรู้สึกกังวลฉันใส่เสื้อให้เขาแล้วเริ่มติดกระดุม รู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้ละสายตาจากฉันเลย ฉันยิ้มให้เมื่อติดกระดุมเม็ดสุดท้ายเสร็จ"เสร็จแล้วค่ะ ฉันทำถูกรึ
น้ำอุ่นจากฝักบัวทำให้ผิวหนังและร่างกายที่กำลังอ่อนล้ารู้สึกดีขึ้นมาก ฉันอาบน้ำสระผมเพื่อผ่อนคลาย หยดน้ำที่กระทบกับผิวเปลือยเปล่า เสียงน้ำไหลทำให้รู้สึกสงบลง ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก อยากจะยืนพักอยู่ตรงนี้นานๆจู่ๆ ประตูห้องน้ำก็เปิดออก ฉันมั่นใจมากว่าฉันล็อกตอนเข้ามา แต่เดาได้ว่าไม่มีประตูในบ้านนี้ที่เจ้าของบ้านเปิดเข้าไม่ได้ ความจริงฉันไม่ควรแปลกใจเพราะคำว่า 'พื้นที่ส่วนตัวสำหรับนาตาลี' ไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของเอ็ดเวิร์ดแน่นนอน“นาตาลี…” เอ็ดเวิร์ดเรียกชื่อฉันอย่างร่าเริงเมื่อเขาโผล่หน้าเข้ามา ทั้งตัวเอ็ดเวิร์ดมีแค่ผ้าเช็ดตัวสีขาวพันรอบเอวเขาเท่านั้น"อาเข้ามาทำไม?!" ฉันกรีดร้องเสียงดัง ไม่คิดว่าในห้องน้ำเสียงจะก้องขนาดนี้ ฉันรีบเอามือปิดหน้าอก ขณะที่หันตัวเข้าหากำแพง“เธอทำเหมือนกับอาไม่เคยเห็นเธอเปลือยกายมาก่อน…” เอ็ดเวิร์ดพูดอย่างอารมณ์ดี"ฉันถามว่าอาเข้ามาทำไม?" ฉันถามซ้ำอีกครั้ง ทั้งที่อยากจะตะโกนไล่เขาออกไป!“ในเมื่อเธอเป็นคนเปลื้องผ้าอา อาเลยคิดว่าเธอควรรับผิดชอบด้วยการแต่งตัวให้อา” เอ็ดเวิร์ดพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“เกมนี้เป็นความคิดของอา ทำไมฉันต้องรับผิดชอบด้วย?” ฉันสวนกลับ“เธอพู
ไม่สามารถหยุดตัวเองไม่ให้ครางได้ นิ้วเขายังคงลูบไล้ฉันอยู่ตรงนั้น ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเปียกโชกอยู่ข้างล่าง นิ้วเขาเล่นกับปุ่มวิเศษอันบอบบาง ก่อนมืออีกข้างจะสอดนิ้วหนาสองนิ้วเข้าไปในช่องรักที่เปียกชื้น มันรู้สึกดีมาก ฉันร้องครวญครางและเอ็ดเวิร์ดก็เริ่มสอดนิ้วเข้าไปลึกในร่างกายฉัน“เหลือเวลาอีกเท่าไหร่…” ฉันเริ่มถามแต่พูดต่อไม่ได้ คำถามฉันถูกแทนที่ด้วยเสียงครวญคราง ร่างกายฉันสั่นสะท้านเมื่อเอ็ดเวิร์ดเริ่มใช้นิ้วแตะที่จุดจีสปอต“จนกว่าเธอจะเสร็จ…” เอ็ดเวิร์ดตอบจนกว่าฉันจะเสร็จ…คงไม่นานเกินไป เอ็ดเวิร์ดใส่นิ้วเข้าไปในตัวฉันเร็วขึ้นและแรงขึ้น อีกมือเขาบีบปุ่มกระสันอย่างต่อเนื่อง ฉันเรียกชื่อเขาเมื่อความเร่าร้อนเข้าครอบงำ หยุดส่ายสะโพกสู้นิ้วเขาไม่ได้ นิ้วเขาเข้าไปลึกมาก รู้สึกมหัศจรรย์เมื่อนิ้วเขาถูผนังช่องรักที่ยืดออก คิดว่าฉันกำลังจะหลั่งเร็วๆ นี้“เอ็ดเวิร์ด…ฉัน…” ฉันพูดระหว่างครางอย่างรุนแรงเอ็ดเวิร์ดค่อยๆ ถอนนิ้วออกจากช่องรักที่เปียกชื้น ฉันรู้สึกร้อนขึ้นภายในโพรงรัก แทนที่จะใช้นิ้วเขา เอ็ดเวิร์ดเอาลิ้นเข้าไปแทน ใบหน้าเขาฝังอยู่ที่หว่างขาฉัน เขาดูดและเลียไปรอบๆ ความร้อนของลิ้นเข