“อืม…” ฉันครางออกมาเล็กน้อยระหว่างที่พยายามลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ รู้สึกว่าร่างกายหนักอึ้ง ฉันขยับตัวขึ้นนั่ง ภายในห้องมืดสนิด ตอนนี้มันคงดึกมากแล้ว ฉันคงหลับไปสักพักหลังจากที่ไรเนอร์พากลับมาที่ห้องนอน ฉันควรหามือถือก่อน คิดได้อย่างนั้นฉันก็เอื้อมมือคลำหาสวิทช์โคมไฟบนโต๊ะข้างเตียงจนเจอทันทีที่แสงโทนอุ่นสีส้มส่องสว่างขึ้น ฉันจึงรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่คนเดียว ไรเนอร์หลับอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง ช่วงตัวและศีรษะของเขาพาดอยู่บนเตียงใกล้กับขาของฉัน ส่วนแขนข้างนึงจับขาฉันอยู่เพื่อให้แน่ใจว่าฉันจะไม่ลุกจากเตียง ตอนนี้เขาดูเหมือนเด็กน้อยที่กำลังหลับอยู่ซึ่งตรงกันข้ามกับบุคลิกและขนาดตัวที่ใหญ่โต ฉันเดาว่าเขาอยู่ที่นี่ตลอดเวลาหลังจากที่พาฉันมา ฉันไม่ได้สวมชุดตัวเก่าแต่ถูกเปลี่ยนเป็นชุดนอน เขาน่าจะเป็นคนจัดการเช่นกัน ฉันหน้าแดงขณะที่คิดถึงเวลาที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เขาคงไม่ได้คิดอะไรหรอก แค่ทำหน้าที่บอดี้การ์ดกับพ่อบ้านเหมือนทุกครั้งไรเนอร์ยังคงหลับสนิท ฉันพยายามอย่างหนักกับการต้านทานความอยากที่จะสัมผัสผมสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งทำให้รู้ว่าเขาหล่อมาก ขนตายาวสีน้ำตาลแดง สีอ่อนกว่าเมื่
“คุณแซค” ลอร่ากล่าวทักทายแซคด้วยน้ำเสียงแปลกใจ วันนี้เขามาโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า ปกตินาตาลีจะเป็นคนไปหาแซคที่คฤหาสน์เอง เขาไม่ค่อยจะมาที่นี่ ถึงแม้สองคนจะนัดเจอกันล่วงหน้าก็ตาม“ฉันมาหานาตาลี” ก่อนจะเดินผ่านลอร่าเข้าไปในคฤหาสน์“คุณแซค! เดี๋ยวก่อนค่ะ…คุณนาตาลีไม่ค่อยสบาย กำลังพักผ่อนอยู่ค่ะ” ลอร่าพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก ไม่แน่ใจว่าทุกคนจะเดือดร้อนมั้ย ถ้าปล่อยให้แซคเข้ามา ลูเซียน ไม่ได้สั่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างชัดเจน…"ฉันรู้ ฉันเลยต้องหาเยี่ยมเธอไง จะไปทำอะไรก็ไปเถอะ” แซคพูดพร้อมเดินตรงไปที่ห้องนอนนาตาลีมันแปลกมากที่นาตาลีไม่ตอบกลับข้อความหรือรับโทรศัพท์มาหลายวันแล้ว ถ้าเธอไม่ได้ออกจากบ้านก็หมายความว่าเธอก็ไม่ได้ไปฝึกงานด้วยเช่นกันสาวใช้ซุบซิบกันไม่หยุดว่านาตาลีทะเลาะกับลูเซียนตอนมื้อค่ำ มันรุนแรงมากจนลูเซียนทำลายข้าวของบนโต๊ะอาหารซึ่งมันเป็นไปได้อยู่ นอกจากนั้นยังมีรายละเอียดอีกมากมายที่ดูไม่น่าเชื่อถือ ผมถึงต้องไปดูให้แน่ใจว่านาตาลีไม่เป็นไรอีกอย่าง ผมยังได้ยินว่านาตาลีมีบอดี้การ์ดประจำตัวแล้วด้วย ได้เวลาเจอชายผู้โชคดีแล้ว……**ก๊อกก๊อก**“ฉันเอง” เสียงตอบของคนที่ยืนอ
วันนี้ฉันได้รับอนุญาตให้ออกไปพบจิตแพทย์เกี่ยวกับฝันร้ายตามที่ลูเชียนนัดหมายไว้ให้ ลอร่าเลยมาช่วยฉันแต่งตัว เขาคงอารมณ์ดีขึ้นแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจอลูเซียนเลยตั้งแต่วันที่เราทะเลาะกัน แน่นอนว่าไรเนอร์จะไปกับฉันด้วย คิดอีกแง่ก็ยังดีกว่าไม่สามารถออกจากบ้านได้เลยลอร่าหยิบชุดผ้าฝ้ายสีขาวละมุนมาให้พร้อมกับเข็มขัดหนังสีน้ำตาลเส้นใหญ่ที่ดูเข้ากับชุด มันเหมาะกับความรู้สึกของฉันในวันนี้มาก หวังว่าวันนี้คงเป็นวันสบาย ๆ เหมือนกับชุดที่ใส่อยู่ ฉันรู้สึกประหม่าเล็กน้อยที่ต้องพบจิตแพทย์ มันอาจช่วยให้ฉันไม่ฝันร้ายอีกและหวังว่าอาการนี้จะรักษาให้หายไปได้"คุณพร้อมรึยัง?" ไรเนอร์ถามขณะเดินเข้ามาในห้องนอนฉันแปลกใจที่ไรเนอร์ไม่ได้สวมชุดบัตเลอร์ เขาสวมเสื้อยืดสีขาว แจ็คเก็ตทหารสีเขียวกับกางเกงยีนส์ เป็นครั้งแรกที่เห็นเขาในชุดลำลองแบบสบายๆ มันดูเหมาะกับเขามาก เพราะเขาตัวสูงเลยยิ่งดูดีเมื่อใส่กางเกงยีนส์“ทำไมวันนี้คุณใส่ชุดนี้ล่ะ” ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น“มีผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่าชุดพ่อบ้านแบบเต็มยศมันมากไปหน่อย เธอบอกผมว่าให้ปรับชุดให้เข้ากับงานที่เธอจะทำในแต่ละวัน คุ้นๆ มั้ยครับ?" เขาพูดพร้อมขยิบตาให้ฉัน
ในที่สุดช่วงเวลาการปรึกษากับหมอเกรตาก็สิ้นสุดลง ฉันกลับไปที่รถพร้อมกับไรเนอร์ เสียดายที่เธอไม่สามารถวินิจฉัยความฝันและให้คำตอบฉันได้ในทันที เพียงแต่บอกว่ามันอาจจะเป็นสิ่งที่เคยหรือไม่เคยเกิดขึ้นเท่านั้น ชีวิตจริงไม่เหมือนกับในหนังที่หมอสามารถตอบคำถามได้ทุกอย่างแล้วอย่างนี้ฉันจะรู้ได้ยังไงว่ามันเป็นแค่ความฝันหรือเป็นเรื่องจริงคำพูดของใครบางคน…สถานที่ที่ฉันเพิ่งไปมา…ฉันไม่สามารถหยุดคิดเกี่ยวกับสิ่งที่หมอพูดได้“นาตาลี…นาตาลี…” เสียงของไรเนอร์ทำให้ฉันสะดุ้งตื่นจากภวังค์“ขอโทษที เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ” ฉันถามด้วยความรู้สึกผิด“คุณยืนอยู่หน้าประตูรถได้พักนึงแล้ว ขึ้นรถมั้ย” ไรเนอร์หยอก หลังจากที่เปิดประตูรถให้ฉัน“ขอบคุณค่ะ…โทษทีฉันเบลอไปหน่อย” ฉันตอบเบาๆ"ไม่เป็นไร คุณมีเรื่องต้องคิดเยอะ อย่ากดดันตัวเองมากเกินไปล่ะ ถ้าเรื่องไหนที่มันหนักสมองนักก็ไม่ต้องไปนึกถึงมัน…” ไรเนอร์พูดพร้อมกับลูบหัวฉัน รอยยิ้มของเขาทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจ“เราจะกลับกันแล้วเหรอ?” ฉันถามด้วยน้ำเสียงเว้าวอนเพราะไม่ได้ออกมานอกบ้านมาหลายวันแล้ว“ก็…ไม่เชิง” เขาตอบขณะที่เคลื่อนรถเร็วขึ้น"เราจะไปไหนกันเหรอ?" ฉันอดซ่อน
“นาตาลี!” ฉันได้ยินไรเนอร์เรียกชื่อฉันตอนโผล่พ้นผิวน้ำแย่แล้ว ฉันแน่ใจว่าตอนนี้ฉันคงดูเหมือนลูกแมวที่กำลังจะจมน้ำสำหรับเขา“ฉัน…โอเค” ฉันตอบ ขณะที่สะบัดผมออกจากใบหน้าไรเนอร์เองก็เปียกโชกเช่นกัน แปลกตรงดูเขาไม่หงุดหงิดที่ต้องอยู่ในสถานการณ์นี้เพราะฉัน"ว่ายมาตรงนี้ จับขอบเรือไว้ ผมจะขึ้นไปก่อนแล้วจะช่วยดึงคุณขึ้น” ไรเนอร์พูดพอฉันว่ายเข้าไปใกล้ เขาใช้แขนมาโอบฉันไว้ ร่างกายของเขาอบอุ่นมากแม้น้ำจะค่อนข้างเย็น ไรเนอร์มองมาที่ฉันด้วยสายตาเป็นห่วง"คุณโอเคมั้ย?เจ็บตรงไหนรึเปล่า” เขาพูดพร้อมลูบผมฉันไปด้วย“ฉันไม่เป็นไร แล้วคุณล่ะ?" รู้ตัวอีกทีร่างกายของเราก็กำลังสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดไรเนอร์จับมือฉันเกาะกับข้างเรือ ก่อนจะดันตัวเองขึ้นไปบนเรืออย่างรวดเร็ว ว้าว! เขาแข็งแรงจริงๆ“ยื่นมือมา ผมจะดึงคุณขึ้น” เขาพูดพร้อมยื่นมือให้ฉันฉันทำตามอย่างว่าง่าย ครู่เดียวร่างกายของฉันก็ถูกดึงขึ้นไปบนเรือ“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” ฉันหยุดหัวเราะไม่ได้ เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นมันตลกมาก เราทั้งคู่เปียกปอนเหมือนวัยรุ่นหนุ่มสาวที่กำลังออกเดตกัน หลังไรเนอร์ดึงฉันขึ้น ฉันก็ล้มตัวนอนทับเขา ดิ้นไปรอบๆ ขณะยังคงหัวเราะต่อไป“ข
ไรเนอร์ถอดยกทรงของฉันออกโดยไม่โต้แย้งอะไร หลังจากนั้นเขาก็เปลื้องกางเกงชั้นในให้ ขณะที่ฉันช่วยยกสะโพกขึ้นจากเบาะรถเพื่อให้เขาถอดมันง่ายขึ้น ไรเนอร์เอื้อมมือไปเปิดประตูรถด้านข้าง เพื่อจะไปหยิบเสื้อผ้าที่อยู่ท้ายรถ ฉันรีบดึงเขากลับเพื่อให้พวกวเราหันมาเผชิญหน้ากัน“ไรเนอร์…” ฉันจับมือเขาวางบนหน้าอกฉันอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้มันเปลือยเปล่า หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามลมหายใจเข้าออก หัวนมตั้งชันถูกับมือของเขา ไรเนอร์เลิกต้านทานความรู้สึกของตัวเองแล้ว เขาใช้มือทั้งสองข้างลูบไล้หน้าอกที่เปลือยเปล่าของฉันอย่างรุนแรง อ่า…มันรู้สึกมหัศจรรย์มาก มือใหญ่ นิ้วยาวและหนามาก มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ร่างกายของฉันร้อนมาก รู้สึกเหมือนละลายจากสัมผัสของเขาฉันร้องออกมาเมื่อเขาบีบหัวนมทั้งสองข้างพร้อมกัน ถึงจะเจ็บเล็กน้อยแต่รู้สึกดีมาก ตอนนี้ช่องสวาทของฉันเปียกขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวน้ำรักต้องไหลเลอะเบาะรถแน่ ๆ“ผิวคุณสวยมาก หน้าอกคุณในมือผม รู้สึกดีมาก ๆ” ไรเนอร์เริ่มพูดสกปรกกับฉัน มันทำให้ฉันตื่นเต้นมากไรเนอร์โน้มตัวมาจูบฉันอย่างร้อนแรง ฉันแลบลิ้นออกมารับท่ารุกอันหิวโหยของเขา เขาดูดลิ้นฉันเบา ๆ ไรเนอร์จูบเก่งมา
“เราจะไม่ไปไกลกว่านี้แล้วครับ” “ไรเนอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ขณะจับข้อมือทั้งสองข้างของนาตาลีโดยใช้มือเพียงข้างเดียวของเขา ข้อมือและเธอตัวเล็กมากเมื่อเทียบกับเขาไรเนอร์ได้พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเติมเต็มความปรารถนาของนาตาลี เขาปฏิเสธอย่างแน่วแน่ที่จะมีอะไรกับเธอไปมากกว่านี้ ครั้งแรกของเขากับเธอจะต้องไม่ใช่ในรถ และไม่ใช่ตอนที่เธอกำลังสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง มีโอกาสอีกมากมายที่จะดื่มด่ำความปรารถนาของเขาในอนาคต เมื่อเธอชัดเจนกับความรู้สึกของตัวเองและรู้ความหมายของมัน ไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรีบอะไร ที่สำคัญไรเนอร์ไม่ต้องการให้นาตาลีเสียใจกับการตัดสินใจใดๆ ของเธอตอนนี้นาตาลีดื้อกว่าที่ผมคิดไว้มาก เห็นได้ชัดจากแววตาว่าเธอไม่พอใจเมื่อได้ยินคำปฏิเสธของผม เธอต้องรู้จักอดทนและใช้ความคิดมากกว่านี้ ผมหวังว่าผมจะสอนเธอได้บ้างในขณะที่ยังอยู่ด้วยกัน...…“น้องชายคุณใหญ่และแข็งมาก… ฉันใช้ปากทำให้คุณได้มั้ย” ฉันทำเสียงที่เย้ายวนพร้อมก้มลงมองท่อนเอ็นเนื้อที่ใหญ่และชูชันของเขาก่อนจะสบตาเขาอีกครั้งความเป็นชายของเขาน่าจะใหญ่และยาวที่สุดที่ตั้งแต่ฉันเคยเห็นมา ทั้งใหญ่ทั้งสวย มันแข็งผงาดอย่างภาค
เวลาไม่เคยคอยใครรวมถึงตัวฉันด้วย การหลบหนีของฉันสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเมื่อเรากลับมาถึงคฤหาสน์ของลูเซียน มาเซราติสีแดงที่จอดอยู่ด้านหน้าเป็นสิ่งยืนยันว่าวันนี้จะจบลงด้วยหายนะ ถ้ารถคันนั้นจอดอยู่ เจ้าของรถก็ต้องอยู่ที่นี่เช่นกัน เจอกันอีกครั้งจนได้…แองเจล่า“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ คุณลูเชียนขอให้คุณกินอาหารร่วมกับเขาและ…คุณแองเจล่าค่ะ” สาวใช้รีบบอกทันทีที่ฉันก้าวเข้ามาทางประตูหน้า“มันดึกแล้ว พวกเขายังไม่ได้กินอาหารเย็นกันอีกเหรอ?” ฉันลองถามดู เผื่อว่าเรื่องแย่ๆ ที่ต้องเจออาจจะจบไปแล้ว“ไม่ค่ะคุณนาตาลี คุณลูเชียนสั่งให้ห้องครัวรอคุณกลับมาก่อนที่จะเสิร์ฟอาหาร ดังนั้น... รีบไปเถอะค่ะ” สาวใช้ตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เธอรู้ว่าข่าวนี้อาจจะทำให้ฉันอารมณ์เสีย ฉันไม่ตำหนิเธอเพราะเธอต้องบอกฉันตามหน้าที่"ขอบคุณมาก เธอช่วยจัดการกับของในรถได้มั้ย ไรเนอร์กับฉันจะได้ตรงไปที่ห้องอาหารเลย” ฉันสั่งก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องอาหารโดยไม่รีรอ ไม่มีประโยชน์ที่จะชะลอความตายของเราได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด…“นาตาลี! ฉันดีใจที่เธอมากินมื้อค่ำกับเราได้ ฉันมีข่าวดีจะบอกเธอหลายเรื่องเลย!” แองเจล่าลุกมากอดฉันเมื่อเดิ
การทักท้วงจบลงทันทีเมื่อแซคจูบฉันต่อหน้าไรเนอร์ ฉันไม่สามารถผลักเขาออกไปได้ การใช้เวลาร่วมกันมาหลายปีทำให้ร่างกายและจิตใจฉันไม่สามารถต้านทานแซคได้ ฉันละลายในอ้อมแขนอันอบอุ่นของเขา ริมฝีปากและลิ้นร้อนๆ ยังคงหยอกเย้าในปาก ฉันเริ่มครางด้วยความพอใจเมื่อมือเขาลูบไล้สะโพกแซคปล่อยฉันในที่สุด ฉันหายใจไม่ออก รู้สึกอายในความอ่อนแอของตัวเองจนไม่กล้าสบตาไรเนอร์ ความผูกพันที่ฉันมีต่อแซคลึกซึ้งเกินกว่าใครจะเข้าใจ ฉันไม่แปลกใจเลยถ้าเรื่องระหว่างเรายังคงเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต แซคเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของฉัน“ฉันคิดถึงเธอมากเลยรู้มั้ย” แซคพูด เขากอดเอวฉันจากด้านหลังด้วยความรัก ชั่วขณะนึงฉันลืมไปว่าไรเนอร์ยังคงยืนดูพวกเราอยู่“ไรเนอร์ ฉัน…” ฉันอยากอธิบาย แม้ว่ายังไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี“เสียใจด้วยนะไรเนอร์ ไม่มีใครดีพอจะมาแทนที่ผมได้ แม้แต่คุณ” แซคพูด ก่อนถอนหายใจเสียงดังใส่ไรเนอร์“คุณแซค…คุณนาตาลีไม่ใช่ของเล่นของคุณ ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้…” ไรเนอร์พูดเสียงเข้ม“นาตาลี ไม่ใช่ของเล่น ผมเคยบอกคุณไปแล้วว่านาตาลีคือรักแท้ของผม คุณบอกให้ผมปล่อยเธอ…เรื่องนั้นผมเข้าใจ แต่ถามนาตาลีก่อนว่าเธอเต็มใจปล่อยผมไปมั้ย” แซคพูดอ
ไรเนอร์กับฉันเดินออกจากห้องทันเวลาเพื่อดูการเผชิญหน้าระหว่างพี่น้อง ได้แต่คิดว่านี่เป็นจังหวะเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ฉันยืนนิ่งโดยมีไรเนอร์ยืนอยู่ข้างๆ ระหว่างรอให้คำทักทายสั้นๆ นี้จบลง“นาตาลี!” เสียงของแซคเรียกชื่อฉันอย่างร่าเริงขัดจังหวะบรรยากาศตึงเครียด ถ้ามีผู้ชายที่ไม่เคยสนใจสถานการณ์รอบด้าน มักจะเป็นเจ้าชายแซคเสมอ“แซค” ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงดีใจพร้อมโบกมือให้เขาแซคแต่งตัวราวกับเจ้าชายในชุดเป็นทางการ ส่วนมาดามฟรานเชสก้าเหมือนราชินีแก่ผู้ชั่วร้ายยืนอยู่ข้างๆ ฉันกลืนน้ำลายพลางหลบสายตา ต่างจากแซคที่ไม่เคยกลัวแม่ของตัวเองและรู้วิธีรับมือกับเธอ ฉันรู้สึกตัวเล็กและไร้ค่าเหมือนเม็ดทรายเวลาอยู่ต่อหน้าเธอ“ลูเชียน…เอ็ดเวิร์ด” มาดามฟรานเชสก้าพูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม ระหว่างทักทายน้องชาย“มาดามฟรานเชสก้า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณมาร่วมงานแต่งของผม” ลูเซียนตอบอย่างเป็นทางการ ก่อนจะโค้งคำนับเล็กน้อย เนื่องจากมาดามฟรานเชสก้ามีศักดิ์เป็นพี่คนโต ปฏิกิริยาของลูเซียนดูสมเหตุสมผลมาก ฉันรีบโค้งคำนับตามลูเซียน ขณะที่ไรเนอร์โค้งตาม“แฟรงกี้ แฟรงเกนสไตน์! พี่เป็นยังไงบ้าง” เอ็ดเวิร์ดทักทา
“ฉันทำตามที่ครอบครัวและผู้อาวุโสต้องการมาโดยตลอด แลกเปลี่ยนกับการที่พวกเขาจะดูแลให้เธอปลอดภัย วันหนึ่งฉันจะกลายเป็นผู้อาวุโสและฉันจะปกป้องเธอเอง ไม่ว่าคนอื่นจะพูดยังไง ความปลอดภัยของเธอเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ฉันรักเธอ… และจะไม่ยอมสูญเสียเธอไปเหมือนที่ฉันสูญเสียแม่ของเธอ” ลูเซียนพูดอย่างจริงจัง ฉันไม่เคยเห็นลูเซียนเป็นแบบนี้มาก่อนฉันไม่รู้จะตอบยังไง เหตุผลที่ลูเซียนแสดงท่าทีปกป้องและหวงแหนฉันมากเกินไปเป็นเพราะกลัวที่จะสูญเสียฉันไป เขาเชื่อว่าฉันอาจได้รับบาดเจ็บ…หรือแย่กว่านั้น เขาเสียสละมากมายเพื่อแม่และฉัน ทำไม…'ฉันไม่เสียใจเลย ฉันมีสิ่งคุ้มค่าแก่การปกป้อง เธอเห็นมั้ย...เราทั้งคู่มีสิ่งที่อยากจะปกป้องและเป็นคำสัญญาที่เราต้องรักษา’ คำพูดของลูเซียนย้อนกลับมาหาฉันเขาสัญญาอะไรและกับใคร?“ลูเซียน…ฉัน…” ฉันเริ่มพูด; แต่ไม่แน่ใจว่าควรจะพูดอะไรกับเขาในสถานการณ์นี้“เธอต้องอยู่กับฉันต่อไป ตราบใดที่ฉันยังไม่แน่ใจว่าเธอมีความสุขและปลอดภัย ฉันจะไม่ปล่อยเธอไป” ลูเซียนพูดเสียงแข็งจนรับรู้ได้ว่าไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับการต่อรองหรือเจรจา“เธอดูสวยมาก…” ลูเซียนพูด ก่อนจูบปอยผมฉันในที่สุดวันแต่งงานก็มา
“มันไม่สำคัญหรอก …ยังไงเธอไม่กลับมาอีกแล้ว” ฉันตอบพร้อมกัดฟันแน่น“ฉันมีเรื่องอยากจะบอกเยอะมากนาตาลี เยอะจนไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนหรือจะบอกอะไรกับเธอก่อนดี เพราะเธอเจ็บปวดมามากพอแล้ว…” ลูเซียนสารภาพตามจริง ขณะมองไปทางทะเลอันมืดมิด"คุณหมายความว่ายังไง…?" ฉันถาม.ลูเซียนนั่งนิ่งคิดว่าจะเล่าให้ฉันฟังอย่างไรดี ในขณะที่ฉันแทบบ้าตาย“ลูเซียน…ได้โปรด…” ฉันอ้อนวอน พร้อมกับจับมือเขามาบีบ“มันจะทำร้ายเธอ…มากกว่าที่ทำร้ายฉันตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา” ลูเซียนพูด เขามองกลับมาที่ฉัน“ฉันพร้อมแล้ว…ช่วยบอกฉันที” ฉันพูดอย่างหนักแน่น"บางทีเธออาจจะเข้มแข็งพอแล้ว นาตาลี แม่ของเธอ…ถูกฆ่าตาย” ลูเซียนพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดแม่ของฉัน…ถูกฆ่าตาย?!เป็นไปไม่ได้ ฉันคิดระหว่างที่น้ำตาไหลอาบหน้า...“เป็นไปไม่ได้!” ฉันกรีดร้องพร้อมลุกขึ้นจากที่นั่ง“เสียใจด้วยที่ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง… ฉันก็รู้สึกแบบเดียวกับเธอตอนรู้เรื่องนี้” ลูเซียนตอบเบาๆ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่“ฉันอ่านข่าวการเสียชีวิตของแม่ฉันตั้งเยอะ มันเป็นข่าวใหญ่มากในตอนนั้น...แต่ไม่มีการพูดถึงการฆาตกรรมเลย ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ” ฉันพูดจำได้ว่าฉันตั
อาหารค่ำถูกเสิร์ฟตรงระเบียงกลางแจ้ง ดินเนอร์ใต้แสงเทียนริมทะเลที่มีลมพัดปะทะใบหน้าและเส้นผม บรรยากาศโรแมนติกไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ฉันนึกถึงคืนบนหอดูดาวที่เอ็ดเวิร์ดบอกความจริงเรื่องที่เขาเป็นคนช่วยฉันในป่าเมื่อหลายปีก่อน ฉันรู้สึกว่าคืนนี้ฉันอาจจะได้รู้ความจริงที่ซ่อนอยู่ซึ่งจะเปลี่ยนชีวิตฉันอีกครั้งบรรยากาศคล้ายกับมื้อค่ำที่ฉันทานกับเอ็ดเวิร์ดในครั้งนั้น รสชาติอาหารเหมือนทรายแห้งๆ บนลิ้น โชคดีที่ลูเซียนไม่อ้อมค้อม หลังจากที่สาวใช้ปล่อยให้เราอยู่ตามลำพัง ลูเซียนก็เริ่มพูดทันที“เล่าให้ฉันฟังหน่อยว่าก่อนที่ฉันจะเจอเธอกับแม่ ชีวิตเธอเป็นยังไงบ้าง…” ลูเซียนถามอย่างลังเล“ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้ล่ะ?ฉันคิดว่าแม่น่าจะเล่าให้คุณฟังหมดแล้ว” ฉันตอบ มันไม่ปกติที่เขาจะพูดเรื่องนี้ ถามเกี่ยวกับวัยเด็กของฉันให้ได้อะไร?“ใช่ แม่เธอเล่าแล้ว แต่ฉันอยากฟังจากปากเธอมากกว่า” ลูเซียนตอบหนักแน่น“คุณต้องการรู้อะไร…เป็นพิเศษ?” ฉันถามเขากลับ“สภาพความเป็นอยู่ของเธอสองคนเป็นยังไง?แม่ของเธอทำงานรึเปล่า เธอไปโรงเรียนแบบไหน เรื่องทั่วๆ ไป อะไรก็ได้ที่เธอนึกออก” ลูเซียนตอบ“ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงถามฉันเรื่องน
เรามาถึงบ้านพักริมทะเลซึ่งตั้งอยู่บนชายหาดส่วนตัวที่ลูเซียนเป็นเจ้าของ เราเรียกมันว่าบ้านพักแต่สุดท้ายแล้วมันก็คือคฤหาสน์ขนาดใหญ่อีกหลังหนึ่ง ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ถ้าลูเซียนไม่มีทายาท ฉันคงได้รับมรดกทั้งหมดของเขารวมถึงชายหาดส่วนตัวนี้ด้วยฉันนั่งอยู่บนผืนทรายในชุดบิกินี่สีแดง แหงนหน้ามองท้องฟ้าสีฟ้าสดใสพร้อมหรี่ตาลง ฉันควรจะสนุกกับการเดินทางครั้งนี้ แต่สิ่งเดียวที่คิดคือจะเริ่มคุยกับลูเชียนยังไงดี ทันใดนั้นทรายใต้ตัวฉันขยับระหว่างที่ลูเซียนนั่งลงข้างๆ ฉัน เรานั่งข้างกันโดยไม่พูดอะไร ยังคงมองออกไปยังทะเลด้านหน้า“ตื่นเต้นกับงานแต่งงานมั้ยคะ” ฉันล้อเล่น นึกไม่ออกว่าจะชวนคุยเรื่องอะไรดี“ใช่…แต่ด้วยเหตุผลอื่นที่เธอเดาไม่ถูก” ลูเซียนตอบพร้อมกับโอบหลังฉันและขยิบตาให้ ฉันหัวเราะเล็กน้อยเป็นคำตอบขณะเอนศีรษะซบไหล่เขา“ฉันไม่เดาดีกว่า…” ฉันตอบ ระหว่างถอนหายใจออกมาเรากลับไปมองดูทิวทัศน์รอบตัวอย่างเงียบๆ หวังว่าจะไม่ถูกแดดเผา มันคงเป็นเรื่องตลกถ้าเจ้าบ่าวผิวลอกในงานแต่งงาน“เธอคิดถึงอนาคตของเธอบ้างหรือยัง” ลูเซียนถาม สายตาเขายังคงจับจ้องที่ขอบฟ้าไกลทำไมเขาถึงถามเรื่องนี้?ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้
“อาร์…ฉัน…หยุดไม่ได้……ฉันเสร็จอีกแล้ว!” ฉันร้องออกมาเมื่อร่างกายสูญเสียการควบคุมอีกครั้ง มันรุนแรงมากจนทำให้ฉันกลัว ร่างกายสั่นสะท้าน ฉันเริ่มร้องสะอื้นอย่างเงียบๆ ระหว่างซุกหน้าลงบนผ้าห่ม“ผมใกล้เสร็จแล้วเหมือนกัน…ผมเสร็จแล้ว…นาตาลี!” ไรเนอร์ร้องครางราวกับสัตว์ป่า มันทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขมาก หัวมังกรขนาดใหญ่กระตุกรุนแรงก่อนที่น้ำกามร้อนพุ่งลึกเข้าไปในโพรงสวาท รู้สึกร้อนรุ่มภายในขณะที่น้ำรักอุ่นๆ ล้นทะลักออกมาเต็มมดลูก เขาดันแท่งร้อนดันเข้าออกเล็กน้อยทำให้น้ำกามกระฉูดในตัวฉันมากขึ้น มันรู้สึกมหัศจรรย์มากแต่เหมือนร่างกายฉันถูกใช้จนเกินขีดจำกัด“คุณยังโอเคอยู่มั้ย” ไรเนอร์กระซิบ เขาจ้องมองใบหน้าที่อ่อนล้าและร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรง แทบจะตั้งสติไม่อยู่ ฉันคงดูเหมือนตายไปแล้วเพราะตัวเองก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ“คุณคิดว่า…เป็นความผิดของใคร……?” ฉันพูดเบาๆ ระหว่างพยายามหายใจ“อย่าโทษผมเลย...คุณเป็นคนขอเองไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้…” ไรเนอร์ตอบพร้อมหัวเราะเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ ถอนท่อนร้อนออกจากช่องรักที่เปียกท่วมน้ำรักของเราไหลออกมาทันที เตียงของไรเนอร์ต้องเปรอะไปหมดแน่ แต่ฉันไม่มีเวลามากังว
“โอบขาคุณรอบสะโพกผม” ไรเนอร์สั่ง สมองฉันแทบจะไม่ทำงานในช่วงเวลานี้ ต้องใช้เวลาสักครู่เพื่อทำตามคำสั่งเขาอย่างช้าๆหลังจากโอบแขนรอบคอเขา ไรเนอร์ก็ค่อยๆ ยืนขึ้น มันน่าทึ่งมากที่เขาสามารถยกตัวฉันขึ้นมาได้ การที่ตัวเขาใหญ่กว่าฉันมากมันมีข้อดีอย่างนี้นี่เอง“ไม่ต้องห่วง ผมจะกอดคุณไว้…ผมไม่ปล่อยให้คุณหล่นแน” ไรเนอร์ยืนยัน มือขนาดใหญ่โอบประคองบั้นท้ายฉันไว้อยากจะบอกเขาว่าฉันไม่กลัวว่าจะตก แต่ฉันกลัวว่าช่องรักถูกฉีกออกจากกันเพราะความสุขที่เขากำลังมอบให้ฉัน รู้สึกได้ถึงท่อนร้อนที่แข็งเป็นหินของไรเนอร์ฝังลึกอยู่ในตัวฉัน ฉันหลั่งมาหลายครั้งแล้วแต่เขายังไม่ถึงจุดสุดยอดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผู้ชายคนนี้อึดเหลือเกิน…ฉันได้แต่พยักหน้ารับอย่างเงียบๆ พร้อมยิ้มให้เขาไรเนอร์ยิ้มกลับด้วยดวงตาสีฟ้าที่อ่อนโยนมาก ก่อนเขาจะดึงเจ้ามังกรยักษ์ออกจากโพรงสวาทแล้วดันมันกลับเข้าไปข้างในอีกครั้ง เขาทำอย่างนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าระหว่างที่จับสะโพกฉันไว้ในมือ ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้กระทั่งเคลื่อนไหวสะโพกหรือร่างกาย สิ่งที่ฉันทำได้คือสนุกไปกับมันและตะโกนเรียกชื่อเขาอย่างบ้าคลั่งระหว่างที่เขากระแทกโพรงสวาทอย่างแรงไม่
"คุณโอเคมั้ย?" ไรเนอร์ถามพร้อมกับจูบที่หน้าผากฉัน“ค่ะ…คุณอยู่ลึกมากข้างใน…” ฉันตอบพร้อมกับพยักหน้าช้าๆ ไม่สามารถหยุดตัวเองจากการสำลักความสุขตอนนี้ความเป็นลูกผู้ชายของเขายืดและเติมเต็มฉันอย่างที่สุด มันรู้สึกดีมาก ร่างทั้งร่างสั่นจนควบคุมไม่ได้ ฉันร้องครางออกมาเหมือนคนโดนผีสิง“คุณเพิ่งหลั่งตอนผมใส่มันเข้าไปรึเปล่า” ไรเนอร์ถามพร้อมกับหัวเราะออกมาร่างกายสั่นไม่หยุดระหว่างที่สะโพกยังอยู่ใต้ตัวเขา ช่องรักบีบรัดรอบแท่งร้อนอย่างบ้าคลั่ง ฉันเพิ่งหลั่งอย่างที่เขาพูดจริงๆ เพียงแค่เขาดันเข้ามาในตัวฉันอย่างนั้นเหรอ?ความคิดนี้ทำให้ฉันกลัวเพราะเราเพิ่งจะเริ่มกันเอง“…ผมจะขยับต่อแล้วนะ” ไรเนอร์พูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนขณะดึงสะโพกกลับไรเนอร์ดันหัวเห็ดขนาดใหญ่เข้ามาในตัวฉันอย่างช้าๆ ฉันใช้หลังมือปิดปากยับยั้งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดผสมกับความสุข มันเจ็บแต่ก็เริ่มรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน ไม่สามารถหยุดผนังช่องรักบีบรัดท่อนเอ็นเนื้อของเขาได้“พยายามผ่อนคลาย นาตาลี ช่องรักคุณบีบผมแน่นมาก… จนมันขยับยาก…” ไรเนอร์กระซิบ เขาจับต้นขาฉันแยกออกจากกันให้กว้างขึ้นกว่าเดิมฉันหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง พยายามผ่อนคลาย