จากวันกลายเป็นสัปดาห์ สัปดาห์กลายเป็นเดือน จากแซคคนแปลกหน้า กลายมาเป็นแซคเพื่อนของฉัน โดยที่ฉันไม่ทันรู้ตัวเขากลายเป็นโลกของฉัน ฉันเริ่มได้ที่หนึ่งในการสอบเกือบทุกวิชาในครั้งต่อมา จากนั้นจึงได้ที่หนึ่งในการสอบทั้งหมดในรอบถัดไปไปตามคำพูดของเขา ถึงแม้เขาจะทั้งโดดเรียน ดื่มเหล้า เล่นเกมกับเพื่อน ใช้เวลาว่างมาสอนฉัน แซคยังคงได้อันดับหนึ่งในการสอบทั้งหมดของเขาด้วย“…แล้วถ้าเธอแทนค่านี้ด้วยค่า x เธอจะได้…” แซคอธิบาย ขณะชี้ที่หนังสือเรียนวันนี้คำพูดเขาลอยผ่านทะลุหัวฉัน ไม่มีสมาธิกับสิ่งใดและไม่เข้าใจอะไรเลยเป็นแบบนี้มาสักพักแล้วที่เราอยู่ด้วยกัน ฉันรู้สึกฟุ้งซ่านมาก แต่วันนี้แย่มาก กลิ่นของเขา น้ำเสียงของเขา ท่าทางของเขา เสื้อผ้าของเราที่เสียดสีกัน หัวใจเต้นแรงเมื่อเขาเข้ามาใกล้“นาตาลี…นาตาลี” แซคเรียกชื่อฉัน"คะ?ขอโทษ ฉัน...ไม่ค่อยมีสมาธิ นายพูดว่าอะไรนะ?" ฉันขอโทษขณะหันหน้าหนีเขา มองหน้าเขาไม่ได้ ทำไมเขานั่งใกล้จัง เขาอยู่ใกล้มากขนาดนี้ตลอดเวลาเลยเหรอ?ทำไมหัวใจฉันถึงเต้นเร็วจัง“นาตาลี…นาตาลี…” แซคเรียก ฉันรู้ว่าเขาต้องการให้ฉันหันกลับมา แต่ฉันไม่สามารถเผชิญหน้ากับเขาได้ จากนั้นก็รู้สึกถ
โรงเรียนเลิกในที่สุด ต้องรีบไปพบไบรอัน ฉันรบกวนเขาอยู่ จะปล่อยให้เขารอไม่ได้ ฉันวิ่งไปที่หลังโรงยิมและรู้สึกโล่งใจที่ไบรอันยังไม่มา หวังว่าไบรอันจะมาเพราะเขายังไม่ได้ตอบข้อความฉันเพราะเขาอาจจะยุ่งอยู่ ฉันควรจะพูดอะไรเมื่อเขามาถึงที่นี่?ฉันแค่สงสัยว่าแซคเป็นยังไงบ้าง เขาโกรธฉันเหรอ?ฉันควรจะทำยังไงให้เขากลับมาคุยกับฉันอีกครั้งมีคนเดินเข้ามาหาฉันจากด้านหลัง โอ้ ไบรอันมาแล้ว ฉันคิดขณะหันกลับไป“นาตาลี…อธิบายเรื่องนี้มา!” แซคพูดขณะหอบอย่างหนัก เขาวิ่งมาที่นี่หรอ?เดี๋ยวนะ ทำไมแซคถึงมาอยู่ที่นี่?ไบรอันอยู่ที่ไหน"ฮะ?แซค…คุณมาที่นี่ทำไม?ไบรอันอยู่ไหน?” ฉันถามด้วยความสงสัย มองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นไบรอัน“เธอถามถึงไบรอันทำไม” แซคทำหน้าบึ้ง เขาโกรธเหรอ?แค่ฉันสับสนที่ส่งข้อความถึงไบรอัน แต่แซคกลับโผล่มา“ฉันแค่สับสนนิดหน่อย เพราะฉันส่งข้อความถึงไบรอัน แต่ว่าเธอมาที่นี่แทน...” ฉันอธิบายอย่างใจเย็น“เธอส่งข้อความหาเขาทำไม เธอจะสารภาพความรู้สึกที่มีต่อเขาไช่มั้ย!” แซคตะโกน เห็นได้ชัดว่าเขากำลังโกรธมาก เขาหยิบโทรศัพท์ไบรอันออกมาและแสดงข้อความให้ฉันดู"ไม่! มันไม่ใช่แบบนั้น...” ฉันตอบ ไม่รู้จะอธิบายเรื่อ
แซคจูบปากฉันอย่างหิวกระหายอีกครั้ง มือเขาเริ่มนวดคลึงและขยี้หน้าอกฉันหนักกว่าเดิม รู้สึกเจ็บเล็กน้อย ฉันครางในลำคอ ขณะที่ขยับลิ้นฉันไปพร้อมกับลิ้นเขา มันรู้สึกดีมาก ร่างกายฉันรู้สึกเหมือนจะละลาย แซคเลื่อนลงมาดูดหัวนมอีกข้าง ในขณะที่มืออีกบิดหัวนมอีกข้างของฉันอย่างแรงฉันร้องเสียงหลงเมื่อรู้สึกว่าไฟฟ้าช็อตวิ่งจากหัวนมลงมาที่หว่างขา เกิดอะไรขึ้นในท้องส่วนล่างฉัน ขณะที่แซคดูดนมหนักขึ้น รู้สึกว่ามันมากไปจนฉันกรีดร้อง ฉันทนไม่ได้อีกต่อไปและกรีดร้องชื่อแซคออกมา จิตใจขาวโพลนและร่างกายฉันก็หมดเรี่ยวแรงนี่คือจุดไคลแมกซ์หรอ?ฉันนอนหงายบนเตียงในอ้อมแขนแซค หลังจากถึงจุดสุดยอดครั้งแรก“จุดสุดยอดครั้งแรกของเธอใช่มั้ย” แซคถามขณะยิ้มให้ฉัน ฉันพยักหน้าและยิ้มกลับ มันรู้สึกดีมากแซคแซคลุกขึ้นนั่ง เขาเริ่มถอดกระโปรงและกางเกงชั้นในออกจากสะโพกและขาฉัน ไม่นะ! เขากำลังทำอะไร?“ไม่…แซค…” ฉันท้วง นี่มันน่าอายยิ่งกว่า ถ้าเขาถอดเสื้อผ้าฉันออกมากกว่านี้ เขาจะเห็น...“ไม่ต้องกังวลนาตาลี ฉันจะทำให้เธอมีความสุขมากกว่านี้…” แซคตอบหลังจากที่เขาถอดเสื้อผ้าฉันออก ตอนนี้ฉันนอนเปลือยอยู่บนเตียงเขาเขาแกะมือฉันออกแล้วตรึง
แน่นอนว่าฉันไม่เคยเห็นของลับผู้ชายมาก่อน...ฉันส่ายหน้ามองดูมือที่วางอยู่บนหว่างขาเขา ฉันเดาลักษณะของมันได้จากการสัมผัส มันแข็งและใหญ่มากแถมยังกระตุกได้จากการโดนสัมผัส"เธออยากเห็นมั้ย?ฉันจะให้เธอดู…” แซคถาม ฉันพยักหน้าอย่างเงียบๆ ไม่สามารถละสายตาจากเป้าเขาได้แซคลุกขึ้นนั่งข้างเตียง“อยากลองถอดเสื้อผู้ชายครั้งแรกมั้ย” แซคพูดแซวพร้อมยิ้มให้“อืม…ค่ะ” ฉันตอบพร้อมรู้สึกประหลาดใจกับน้ำเสียงที่มุ่งมั่นของตัวเอง ราวกับเป็นการตบปากรับคำสำหรับภารกิจอันยิ่งใหญ่แซคหัวเราะแล้วลุกขึ้นยืนอยู่ข้างเตียง ฉันเดินตามไปติดๆ ก็แค่ถอดเสื้อผ้าเขา? โชคดีที่เขาไม่ได้ใส่สูทตัวนอกกับเนคไท ฉันตัดสินใจเริ่มต้นที่เสื้อเชิ้ตสีขาว ปลดกระดุมเม็ดบนสุด แล้วค่อยๆ ถอดเสื้อเขาออกว้าว…แซคหุ่นดีมาก…"เธอชอบมั้ย?" แซคแกล้งถาม ฉันพยักหน้า ขณะที่กอดเขาจนหน้าอกของเราแนบกัน ไม่เคยรู้มาก่อนว่าการที่เนื้อแนบเนื้อมันรู้สึกดีขนาดนี้ฉันเอื้อมมือลงไปปลดเข็มขัดก่อนรูดซิปลง มันน่าตื่นเต้นมาก ฉันหลับตาเพื่อตั้งสติก่อนจะถอดเสื้อผ้าเขาออกจนหมด ก่อนจะเริ่มมองร่างกายที่เหมือนหุ่นแกะสลักมาอย่างดี สายตาฉันหยุดอยู่ตรงแท่งเนื้อที่ตั้งตระหง่
“จำที่ฉันพูดได้มั้ย?ฉันจะทำให้เธอสวยที่สุดและเป็นที่ต้องการมากที่สุด… ไม่ใช่ว่าฉันดูถูกเธอนะ…” แซคอธิบาย ขณะที่เราจับมือและเดินเคียงข้างกันแซคมีถ่ายแบบวันนี้ เขาพาฉันไปพบเพื่อนที่เป็นสไตล์ลิสต์เพื่อให้เขาแนะนำการแต่งหน้าและทำผมให้ฉัน"ฉันคิดว่านาตาลีสวยอยู่แล้ว แต่การเลือกเมคอัพที่มีสีสันจะช่วยปรับลุคใหม่ให้เธอได้ ส่วนตัวแล้วฉันอยากจะแนะนำให้แต่งหน้าโทนสีทองกับชมพูสำหรับดวงตาและแก้ม ใช้อายไลเนอร์ช่วยเน้นดวงตาเธอด้วยก็ดีนะ” ช่างแต่งหน้าชื่อพิ้งกี้พูด ระหว่างที่เขา (หรือเธอ?) ชี้ไปในกล่องอุปกรณ์แต่งหน้าสารพัดอย่างเพื่อแสดงให้ฉันเห็นว่าเธอเชี่ยวชาญในเรื่องนี้“ฉันเห็นด้วยนะ แต่คิดว่าสีพวกนี้มันธรรมดาเกินไป ฉันอยากให้นาตาลีทาอายแชโดว์ด้วยสีที่สดใสกว่านี้ เช่น สีฟ้าอ่อน สีทอง สีเทอร์ควอยซ์ และทาแก้มโทนสีส้มมากกว่า จากนั้นค่อยทาลิป” แซคพูดแทรก ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าแซคชอบสีสดใสแบบนี้“ฉันเห็นด้วย นาตาลี อยากลองสีที่แซคเลือกมั้ย เดี๋ยวฉันจัดการให้เอง” พิ้งกี้เสนอด้วยรอยยิ้มที่ใจดี ฉันดีใจที่แซคมีเพื่อนดีๆ มากมายนอกโรงเรียนเช่นกัน“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” ฉันตอบอย่างร่าเริง อยากรู้ว่าฉันจะดูเป็นยั
“เป็นไปไม่ได้…คุณไม่เคยรักแม่ฉันเลยเหรอ!” ฉันอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เขาหลอกฉันมาตลอด?ทำไม“ฉันไม่เคยรักเธอ ฉันเคารพเธอมากและมันก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ แต่ฉันไม่เคยมีความรู้สึกรักเธอเลยแม้แต่นิดเดียว” ลูเซียนตอบอย่างตรงไปตรงมา“ไม่… ทำไมคุณถึงหลอกเธอ?เธอรักคุณมาก!” ฉันร้องไห้ ขณะที่พยายามปัดมือเขาออกจากไหล่ฉัน“ฉันไม่ได้หลอกเธอ! เธอเองก็ไม่เคยรักฉันเหมือนกัน แม่เธอกับฉัน เราไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกันเลย” ลูเซียนพยายามอธิบาย“แล้วทำไมคุณถึงแต่งงานกับเธอ ทำไมพวกคุณถึงแต่งงานกัน?ฉันคิดเสมอว่าคุณสองคนรักกันมาก ฉันมีความสุขมากเมื่อแม่แต่งงานกับคุณ” ฉันสวนกลับ เห็นได้ชัดว่าฉันกำลังตกใจและเสียใจ"ฟังดีๆ เรื่องนี้อาจทำให้เธอตกใจ แม่เธอตกลงแต่งงานกับฉันเพราะฉันสัญญากับแม่เธอว่าฉันจะดูแลเธอให้ปลอดภัยและเธอจะมีชีวิตที่มั่นคง” ลูเซียนอธิบายช้าๆ“ไม่…มันไม่จริง” ฉันพูดพร้อมกับส่ายหัวปฏิเสธ แม่ฉันมีความสุขที่ได้แต่งงานกับคนที่เธอรัก“แม่ของเธอไม่เคยรักฉันเลย แม้แต่ตอนที่เราอยู่ด้วยกัน ฉันก็ไม่เคยจับมือเธอ ไม่เคยแตะต้องเธอ และไม่เคยนอนกับเธอ” ลูเซียนกล่าวอย่างจริงจัง“สุดท้ายแม่ก็ตายโดยที่ไม่มีค
“ไม่…ไม่ใช่” ฉันรีบปฏิเสธเพราะคิดว่าไม่ได้รู้สึกแบบนั้นลูเซียนถอนหายใจ ขณะลุกจากที่นั่งและเดินเข้ามาหาฉัน“มองตาฉัน” เขาสั่ง ขณะหันเก้าอี้ไปทางเขา เขาใช้แขนทั้งสองข้างจับเก้าอี้ไว้ไม่ให้ฉันหนีไปไหน ฉันกลืนน้ำลายลงคอ“ยอมรับมาว่าเธอหึง เธอไม่ต้องการให้ฉันนอนกับแองเจล่าใช่มั้ย” ลูเซียนกระซิบข้างหูฉัน ก่อนจะเริ่มจูบฉันอย่างนุ่มนวลข้างแก้มไล่ลงมาที่คอด้านข้าง เขาพูดถูก ฉันไม่อยากให้เขานอนกับแองเจล่า“ไม่…ฉันไม่…” ฉันปฏิเสธอีกครั้ง ลูเซียนหัวเราะ ก่อนที่ริมฝีปากเขาจะงับปากฉันเบาๆ“ฉันเข้าใจแล้ว…” ลูเซียนพึมพำ ขณะที่ยังคงจูบฉันอย่างแผ่วเบาที่ริมฝีปาก ริมฝีปากที่อ่อนโยนเย้ายวนใจฉัน ฉันรู้สึกว่าหายใจลำบากมากขึ้น“ลูเซียน…” ฉันกระซิบชื่อเขา ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว“เธอเห็นใช่มั้ย แองเจล่ากับฉัน…ในห้องทำงาน เธอแอบดูเรามีเซ็กซ์กันใช่มั้ย” ลูเซียนถาม ขณะที่สบตาฉันวันนั้นเขาเห็นฉัน! ดวงตาฉันเบิกกว้างด้วยความตกใจ ทำไมเขาถึงพูดถึงเรื่องนี้?“เธอไม่จำเป็นต้องปฏิเสธ เธอรู้สึกยังไงที่เห็นฉันทำแบบนั้นกับคนอื่น อารมณ์เสีย?หึง?” ลูเซียนยังคงถามฉันต่อไป เขาพูดถูกใช่มั้ย?ฉันรู้สึกหงุดหงิดและหึงเมื่อคิ
“คร่อมฉันที นาตาลี” ลูเชียนออกคำสั่ง ขณะที่มือเขาช่วยยกเอวฉันขึ้นฉันทำตามคำสั่ง เราจูบกันอย่างเร่าร้อนต่อ มือเขาโอบกอดฉันไว้ รู้สึกได้ถึงความเป็นชายตั้งตระหง่านตรงจุดเปียกชื้นของฉัน มือเขาจับสะโพกฉันเลื่อนขึ้นลงทำให้ฉันรับรู้รูปร่างภายใต้ร่มผ้าที่กำลังถูไถกับร่องสวาทและปุ่มวิเศษ ฉันบดสะโพกเข้าหาเขาอย่างแรงโดยสัญชาตญาณ ดันหน้าอกที่บอบบางแนบกับหน้าอกเขา ขณะที่ร่างกายเราบดเบียดเข้าหากัน เสียงครวญครางและเสียงจูบเราดังไปทั่วห้องลูเซียนยกร่างฉันขึ้นเพื่อให้ฉันคุกเข่าเหนือเขา มือเขาลูบไล้ไปตามต้นขาด้านในตั้งแต่เข่าไล่ขึ้นไปถึงรอยแยกระหว่างขาฉัน ตอนนี้ฉันต้องเปียกมากแน่ๆ รู้สึกได้ถึงน้ำรักที่ไหลออกมาจากโพรงสวาทเปรอะไปถึงต้นขาตอนที่เขายกตัวฉันขึ้น“เธอเปียกมากแล้ว น้ำหล่อลื่นเธอไหลเยิ้มออกมาเลย…อ๊ะ อะไรเนี่ย?เธอไม่ได้ใส่กางเกงชั้นในนี่… ซนจริงๆ เธอเพิ่งบอกฉันว่าไม่ได้มาที่นี่เพื่อมีเซ็กซ์” ลูเซียนแหย่ ขณะที่นิ้วเขาทักทายกลีบดอกไม้ที่เปียกโชก เขาพูดถูก“ลูเซียน…อย่าแกล้งฉัน” ฉันพูดขณะที่หอบเพราะนิ้วหนาเขากำลังลูบช่องรักที่เปียกชื้นเพื่อกระตุ้นฉัน ช่องสวาทฉันบีบตัวแน่นและสั่นจากสัมผัสเขา ฉันร้
การทักท้วงจบลงทันทีเมื่อแซคจูบฉันต่อหน้าไรเนอร์ ฉันไม่สามารถผลักเขาออกไปได้ การใช้เวลาร่วมกันมาหลายปีทำให้ร่างกายและจิตใจฉันไม่สามารถต้านทานแซคได้ ฉันละลายในอ้อมแขนอันอบอุ่นของเขา ริมฝีปากและลิ้นร้อนๆ ยังคงหยอกเย้าในปาก ฉันเริ่มครางด้วยความพอใจเมื่อมือเขาลูบไล้สะโพกแซคปล่อยฉันในที่สุด ฉันหายใจไม่ออก รู้สึกอายในความอ่อนแอของตัวเองจนไม่กล้าสบตาไรเนอร์ ความผูกพันที่ฉันมีต่อแซคลึกซึ้งเกินกว่าใครจะเข้าใจ ฉันไม่แปลกใจเลยถ้าเรื่องระหว่างเรายังคงเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต แซคเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของฉัน“ฉันคิดถึงเธอมากเลยรู้มั้ย” แซคพูด เขากอดเอวฉันจากด้านหลังด้วยความรัก ชั่วขณะนึงฉันลืมไปว่าไรเนอร์ยังคงยืนดูพวกเราอยู่“ไรเนอร์ ฉัน…” ฉันอยากอธิบาย แม้ว่ายังไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี“เสียใจด้วยนะไรเนอร์ ไม่มีใครดีพอจะมาแทนที่ผมได้ แม้แต่คุณ” แซคพูด ก่อนถอนหายใจเสียงดังใส่ไรเนอร์“คุณแซค…คุณนาตาลีไม่ใช่ของเล่นของคุณ ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้…” ไรเนอร์พูดเสียงเข้ม“นาตาลี ไม่ใช่ของเล่น ผมเคยบอกคุณไปแล้วว่านาตาลีคือรักแท้ของผม คุณบอกให้ผมปล่อยเธอ…เรื่องนั้นผมเข้าใจ แต่ถามนาตาลีก่อนว่าเธอเต็มใจปล่อยผมไปมั้ย” แซคพูดอ
ไรเนอร์กับฉันเดินออกจากห้องทันเวลาเพื่อดูการเผชิญหน้าระหว่างพี่น้อง ได้แต่คิดว่านี่เป็นจังหวะเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ฉันยืนนิ่งโดยมีไรเนอร์ยืนอยู่ข้างๆ ระหว่างรอให้คำทักทายสั้นๆ นี้จบลง“นาตาลี!” เสียงของแซคเรียกชื่อฉันอย่างร่าเริงขัดจังหวะบรรยากาศตึงเครียด ถ้ามีผู้ชายที่ไม่เคยสนใจสถานการณ์รอบด้าน มักจะเป็นเจ้าชายแซคเสมอ“แซค” ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงดีใจพร้อมโบกมือให้เขาแซคแต่งตัวราวกับเจ้าชายในชุดเป็นทางการ ส่วนมาดามฟรานเชสก้าเหมือนราชินีแก่ผู้ชั่วร้ายยืนอยู่ข้างๆ ฉันกลืนน้ำลายพลางหลบสายตา ต่างจากแซคที่ไม่เคยกลัวแม่ของตัวเองและรู้วิธีรับมือกับเธอ ฉันรู้สึกตัวเล็กและไร้ค่าเหมือนเม็ดทรายเวลาอยู่ต่อหน้าเธอ“ลูเชียน…เอ็ดเวิร์ด” มาดามฟรานเชสก้าพูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม ระหว่างทักทายน้องชาย“มาดามฟรานเชสก้า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณมาร่วมงานแต่งของผม” ลูเซียนตอบอย่างเป็นทางการ ก่อนจะโค้งคำนับเล็กน้อย เนื่องจากมาดามฟรานเชสก้ามีศักดิ์เป็นพี่คนโต ปฏิกิริยาของลูเซียนดูสมเหตุสมผลมาก ฉันรีบโค้งคำนับตามลูเซียน ขณะที่ไรเนอร์โค้งตาม“แฟรงกี้ แฟรงเกนสไตน์! พี่เป็นยังไงบ้าง” เอ็ดเวิร์ดทักทา
“ฉันทำตามที่ครอบครัวและผู้อาวุโสต้องการมาโดยตลอด แลกเปลี่ยนกับการที่พวกเขาจะดูแลให้เธอปลอดภัย วันหนึ่งฉันจะกลายเป็นผู้อาวุโสและฉันจะปกป้องเธอเอง ไม่ว่าคนอื่นจะพูดยังไง ความปลอดภัยของเธอเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ฉันรักเธอ… และจะไม่ยอมสูญเสียเธอไปเหมือนที่ฉันสูญเสียแม่ของเธอ” ลูเซียนพูดอย่างจริงจัง ฉันไม่เคยเห็นลูเซียนเป็นแบบนี้มาก่อนฉันไม่รู้จะตอบยังไง เหตุผลที่ลูเซียนแสดงท่าทีปกป้องและหวงแหนฉันมากเกินไปเป็นเพราะกลัวที่จะสูญเสียฉันไป เขาเชื่อว่าฉันอาจได้รับบาดเจ็บ…หรือแย่กว่านั้น เขาเสียสละมากมายเพื่อแม่และฉัน ทำไม…'ฉันไม่เสียใจเลย ฉันมีสิ่งคุ้มค่าแก่การปกป้อง เธอเห็นมั้ย...เราทั้งคู่มีสิ่งที่อยากจะปกป้องและเป็นคำสัญญาที่เราต้องรักษา’ คำพูดของลูเซียนย้อนกลับมาหาฉันเขาสัญญาอะไรและกับใคร?“ลูเซียน…ฉัน…” ฉันเริ่มพูด; แต่ไม่แน่ใจว่าควรจะพูดอะไรกับเขาในสถานการณ์นี้“เธอต้องอยู่กับฉันต่อไป ตราบใดที่ฉันยังไม่แน่ใจว่าเธอมีความสุขและปลอดภัย ฉันจะไม่ปล่อยเธอไป” ลูเซียนพูดเสียงแข็งจนรับรู้ได้ว่าไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับการต่อรองหรือเจรจา“เธอดูสวยมาก…” ลูเซียนพูด ก่อนจูบปอยผมฉันในที่สุดวันแต่งงานก็มา
“มันไม่สำคัญหรอก …ยังไงเธอไม่กลับมาอีกแล้ว” ฉันตอบพร้อมกัดฟันแน่น“ฉันมีเรื่องอยากจะบอกเยอะมากนาตาลี เยอะจนไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนหรือจะบอกอะไรกับเธอก่อนดี เพราะเธอเจ็บปวดมามากพอแล้ว…” ลูเซียนสารภาพตามจริง ขณะมองไปทางทะเลอันมืดมิด"คุณหมายความว่ายังไง…?" ฉันถาม.ลูเซียนนั่งนิ่งคิดว่าจะเล่าให้ฉันฟังอย่างไรดี ในขณะที่ฉันแทบบ้าตาย“ลูเซียน…ได้โปรด…” ฉันอ้อนวอน พร้อมกับจับมือเขามาบีบ“มันจะทำร้ายเธอ…มากกว่าที่ทำร้ายฉันตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา” ลูเซียนพูด เขามองกลับมาที่ฉัน“ฉันพร้อมแล้ว…ช่วยบอกฉันที” ฉันพูดอย่างหนักแน่น"บางทีเธออาจจะเข้มแข็งพอแล้ว นาตาลี แม่ของเธอ…ถูกฆ่าตาย” ลูเซียนพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดแม่ของฉัน…ถูกฆ่าตาย?!เป็นไปไม่ได้ ฉันคิดระหว่างที่น้ำตาไหลอาบหน้า...“เป็นไปไม่ได้!” ฉันกรีดร้องพร้อมลุกขึ้นจากที่นั่ง“เสียใจด้วยที่ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง… ฉันก็รู้สึกแบบเดียวกับเธอตอนรู้เรื่องนี้” ลูเซียนตอบเบาๆ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่“ฉันอ่านข่าวการเสียชีวิตของแม่ฉันตั้งเยอะ มันเป็นข่าวใหญ่มากในตอนนั้น...แต่ไม่มีการพูดถึงการฆาตกรรมเลย ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ” ฉันพูดจำได้ว่าฉันตั
อาหารค่ำถูกเสิร์ฟตรงระเบียงกลางแจ้ง ดินเนอร์ใต้แสงเทียนริมทะเลที่มีลมพัดปะทะใบหน้าและเส้นผม บรรยากาศโรแมนติกไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ฉันนึกถึงคืนบนหอดูดาวที่เอ็ดเวิร์ดบอกความจริงเรื่องที่เขาเป็นคนช่วยฉันในป่าเมื่อหลายปีก่อน ฉันรู้สึกว่าคืนนี้ฉันอาจจะได้รู้ความจริงที่ซ่อนอยู่ซึ่งจะเปลี่ยนชีวิตฉันอีกครั้งบรรยากาศคล้ายกับมื้อค่ำที่ฉันทานกับเอ็ดเวิร์ดในครั้งนั้น รสชาติอาหารเหมือนทรายแห้งๆ บนลิ้น โชคดีที่ลูเซียนไม่อ้อมค้อม หลังจากที่สาวใช้ปล่อยให้เราอยู่ตามลำพัง ลูเซียนก็เริ่มพูดทันที“เล่าให้ฉันฟังหน่อยว่าก่อนที่ฉันจะเจอเธอกับแม่ ชีวิตเธอเป็นยังไงบ้าง…” ลูเซียนถามอย่างลังเล“ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้ล่ะ?ฉันคิดว่าแม่น่าจะเล่าให้คุณฟังหมดแล้ว” ฉันตอบ มันไม่ปกติที่เขาจะพูดเรื่องนี้ ถามเกี่ยวกับวัยเด็กของฉันให้ได้อะไร?“ใช่ แม่เธอเล่าแล้ว แต่ฉันอยากฟังจากปากเธอมากกว่า” ลูเซียนตอบหนักแน่น“คุณต้องการรู้อะไร…เป็นพิเศษ?” ฉันถามเขากลับ“สภาพความเป็นอยู่ของเธอสองคนเป็นยังไง?แม่ของเธอทำงานรึเปล่า เธอไปโรงเรียนแบบไหน เรื่องทั่วๆ ไป อะไรก็ได้ที่เธอนึกออก” ลูเซียนตอบ“ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงถามฉันเรื่องน
เรามาถึงบ้านพักริมทะเลซึ่งตั้งอยู่บนชายหาดส่วนตัวที่ลูเซียนเป็นเจ้าของ เราเรียกมันว่าบ้านพักแต่สุดท้ายแล้วมันก็คือคฤหาสน์ขนาดใหญ่อีกหลังหนึ่ง ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ถ้าลูเซียนไม่มีทายาท ฉันคงได้รับมรดกทั้งหมดของเขารวมถึงชายหาดส่วนตัวนี้ด้วยฉันนั่งอยู่บนผืนทรายในชุดบิกินี่สีแดง แหงนหน้ามองท้องฟ้าสีฟ้าสดใสพร้อมหรี่ตาลง ฉันควรจะสนุกกับการเดินทางครั้งนี้ แต่สิ่งเดียวที่คิดคือจะเริ่มคุยกับลูเชียนยังไงดี ทันใดนั้นทรายใต้ตัวฉันขยับระหว่างที่ลูเซียนนั่งลงข้างๆ ฉัน เรานั่งข้างกันโดยไม่พูดอะไร ยังคงมองออกไปยังทะเลด้านหน้า“ตื่นเต้นกับงานแต่งงานมั้ยคะ” ฉันล้อเล่น นึกไม่ออกว่าจะชวนคุยเรื่องอะไรดี“ใช่…แต่ด้วยเหตุผลอื่นที่เธอเดาไม่ถูก” ลูเซียนตอบพร้อมกับโอบหลังฉันและขยิบตาให้ ฉันหัวเราะเล็กน้อยเป็นคำตอบขณะเอนศีรษะซบไหล่เขา“ฉันไม่เดาดีกว่า…” ฉันตอบ ระหว่างถอนหายใจออกมาเรากลับไปมองดูทิวทัศน์รอบตัวอย่างเงียบๆ หวังว่าจะไม่ถูกแดดเผา มันคงเป็นเรื่องตลกถ้าเจ้าบ่าวผิวลอกในงานแต่งงาน“เธอคิดถึงอนาคตของเธอบ้างหรือยัง” ลูเซียนถาม สายตาเขายังคงจับจ้องที่ขอบฟ้าไกลทำไมเขาถึงถามเรื่องนี้?ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้
“อาร์…ฉัน…หยุดไม่ได้……ฉันเสร็จอีกแล้ว!” ฉันร้องออกมาเมื่อร่างกายสูญเสียการควบคุมอีกครั้ง มันรุนแรงมากจนทำให้ฉันกลัว ร่างกายสั่นสะท้าน ฉันเริ่มร้องสะอื้นอย่างเงียบๆ ระหว่างซุกหน้าลงบนผ้าห่ม“ผมใกล้เสร็จแล้วเหมือนกัน…ผมเสร็จแล้ว…นาตาลี!” ไรเนอร์ร้องครางราวกับสัตว์ป่า มันทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขมาก หัวมังกรขนาดใหญ่กระตุกรุนแรงก่อนที่น้ำกามร้อนพุ่งลึกเข้าไปในโพรงสวาท รู้สึกร้อนรุ่มภายในขณะที่น้ำรักอุ่นๆ ล้นทะลักออกมาเต็มมดลูก เขาดันแท่งร้อนดันเข้าออกเล็กน้อยทำให้น้ำกามกระฉูดในตัวฉันมากขึ้น มันรู้สึกมหัศจรรย์มากแต่เหมือนร่างกายฉันถูกใช้จนเกินขีดจำกัด“คุณยังโอเคอยู่มั้ย” ไรเนอร์กระซิบ เขาจ้องมองใบหน้าที่อ่อนล้าและร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรง แทบจะตั้งสติไม่อยู่ ฉันคงดูเหมือนตายไปแล้วเพราะตัวเองก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ“คุณคิดว่า…เป็นความผิดของใคร……?” ฉันพูดเบาๆ ระหว่างพยายามหายใจ“อย่าโทษผมเลย...คุณเป็นคนขอเองไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้…” ไรเนอร์ตอบพร้อมหัวเราะเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ ถอนท่อนร้อนออกจากช่องรักที่เปียกท่วมน้ำรักของเราไหลออกมาทันที เตียงของไรเนอร์ต้องเปรอะไปหมดแน่ แต่ฉันไม่มีเวลามากังว
“โอบขาคุณรอบสะโพกผม” ไรเนอร์สั่ง สมองฉันแทบจะไม่ทำงานในช่วงเวลานี้ ต้องใช้เวลาสักครู่เพื่อทำตามคำสั่งเขาอย่างช้าๆหลังจากโอบแขนรอบคอเขา ไรเนอร์ก็ค่อยๆ ยืนขึ้น มันน่าทึ่งมากที่เขาสามารถยกตัวฉันขึ้นมาได้ การที่ตัวเขาใหญ่กว่าฉันมากมันมีข้อดีอย่างนี้นี่เอง“ไม่ต้องห่วง ผมจะกอดคุณไว้…ผมไม่ปล่อยให้คุณหล่นแน” ไรเนอร์ยืนยัน มือขนาดใหญ่โอบประคองบั้นท้ายฉันไว้อยากจะบอกเขาว่าฉันไม่กลัวว่าจะตก แต่ฉันกลัวว่าช่องรักถูกฉีกออกจากกันเพราะความสุขที่เขากำลังมอบให้ฉัน รู้สึกได้ถึงท่อนร้อนที่แข็งเป็นหินของไรเนอร์ฝังลึกอยู่ในตัวฉัน ฉันหลั่งมาหลายครั้งแล้วแต่เขายังไม่ถึงจุดสุดยอดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผู้ชายคนนี้อึดเหลือเกิน…ฉันได้แต่พยักหน้ารับอย่างเงียบๆ พร้อมยิ้มให้เขาไรเนอร์ยิ้มกลับด้วยดวงตาสีฟ้าที่อ่อนโยนมาก ก่อนเขาจะดึงเจ้ามังกรยักษ์ออกจากโพรงสวาทแล้วดันมันกลับเข้าไปข้างในอีกครั้ง เขาทำอย่างนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าระหว่างที่จับสะโพกฉันไว้ในมือ ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้กระทั่งเคลื่อนไหวสะโพกหรือร่างกาย สิ่งที่ฉันทำได้คือสนุกไปกับมันและตะโกนเรียกชื่อเขาอย่างบ้าคลั่งระหว่างที่เขากระแทกโพรงสวาทอย่างแรงไม่
"คุณโอเคมั้ย?" ไรเนอร์ถามพร้อมกับจูบที่หน้าผากฉัน“ค่ะ…คุณอยู่ลึกมากข้างใน…” ฉันตอบพร้อมกับพยักหน้าช้าๆ ไม่สามารถหยุดตัวเองจากการสำลักความสุขตอนนี้ความเป็นลูกผู้ชายของเขายืดและเติมเต็มฉันอย่างที่สุด มันรู้สึกดีมาก ร่างทั้งร่างสั่นจนควบคุมไม่ได้ ฉันร้องครางออกมาเหมือนคนโดนผีสิง“คุณเพิ่งหลั่งตอนผมใส่มันเข้าไปรึเปล่า” ไรเนอร์ถามพร้อมกับหัวเราะออกมาร่างกายสั่นไม่หยุดระหว่างที่สะโพกยังอยู่ใต้ตัวเขา ช่องรักบีบรัดรอบแท่งร้อนอย่างบ้าคลั่ง ฉันเพิ่งหลั่งอย่างที่เขาพูดจริงๆ เพียงแค่เขาดันเข้ามาในตัวฉันอย่างนั้นเหรอ?ความคิดนี้ทำให้ฉันกลัวเพราะเราเพิ่งจะเริ่มกันเอง“…ผมจะขยับต่อแล้วนะ” ไรเนอร์พูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนขณะดึงสะโพกกลับไรเนอร์ดันหัวเห็ดขนาดใหญ่เข้ามาในตัวฉันอย่างช้าๆ ฉันใช้หลังมือปิดปากยับยั้งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดผสมกับความสุข มันเจ็บแต่ก็เริ่มรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน ไม่สามารถหยุดผนังช่องรักบีบรัดท่อนเอ็นเนื้อของเขาได้“พยายามผ่อนคลาย นาตาลี ช่องรักคุณบีบผมแน่นมาก… จนมันขยับยาก…” ไรเนอร์กระซิบ เขาจับต้นขาฉันแยกออกจากกันให้กว้างขึ้นกว่าเดิมฉันหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง พยายามผ่อนคลาย