แซคจูบปากฉันอย่างหิวกระหายอีกครั้ง มือเขาเริ่มนวดคลึงและขยี้หน้าอกฉันหนักกว่าเดิม รู้สึกเจ็บเล็กน้อย ฉันครางในลำคอ ขณะที่ขยับลิ้นฉันไปพร้อมกับลิ้นเขา มันรู้สึกดีมาก ร่างกายฉันรู้สึกเหมือนจะละลาย แซคเลื่อนลงมาดูดหัวนมอีกข้าง ในขณะที่มืออีกบิดหัวนมอีกข้างของฉันอย่างแรงฉันร้องเสียงหลงเมื่อรู้สึกว่าไฟฟ้าช็อตวิ่งจากหัวนมลงมาที่หว่างขา เกิดอะไรขึ้นในท้องส่วนล่างฉัน ขณะที่แซคดูดนมหนักขึ้น รู้สึกว่ามันมากไปจนฉันกรีดร้อง ฉันทนไม่ได้อีกต่อไปและกรีดร้องชื่อแซคออกมา จิตใจขาวโพลนและร่างกายฉันก็หมดเรี่ยวแรงนี่คือจุดไคลแมกซ์หรอ?ฉันนอนหงายบนเตียงในอ้อมแขนแซค หลังจากถึงจุดสุดยอดครั้งแรก“จุดสุดยอดครั้งแรกของเธอใช่มั้ย” แซคถามขณะยิ้มให้ฉัน ฉันพยักหน้าและยิ้มกลับ มันรู้สึกดีมากแซคแซคลุกขึ้นนั่ง เขาเริ่มถอดกระโปรงและกางเกงชั้นในออกจากสะโพกและขาฉัน ไม่นะ! เขากำลังทำอะไร?“ไม่…แซค…” ฉันท้วง นี่มันน่าอายยิ่งกว่า ถ้าเขาถอดเสื้อผ้าฉันออกมากกว่านี้ เขาจะเห็น...“ไม่ต้องกังวลนาตาลี ฉันจะทำให้เธอมีความสุขมากกว่านี้…” แซคตอบหลังจากที่เขาถอดเสื้อผ้าฉันออก ตอนนี้ฉันนอนเปลือยอยู่บนเตียงเขาเขาแกะมือฉันออกแล้วตรึง
แน่นอนว่าฉันไม่เคยเห็นของลับผู้ชายมาก่อน...ฉันส่ายหน้ามองดูมือที่วางอยู่บนหว่างขาเขา ฉันเดาลักษณะของมันได้จากการสัมผัส มันแข็งและใหญ่มากแถมยังกระตุกได้จากการโดนสัมผัส"เธออยากเห็นมั้ย?ฉันจะให้เธอดู…” แซคถาม ฉันพยักหน้าอย่างเงียบๆ ไม่สามารถละสายตาจากเป้าเขาได้แซคลุกขึ้นนั่งข้างเตียง“อยากลองถอดเสื้อผู้ชายครั้งแรกมั้ย” แซคพูดแซวพร้อมยิ้มให้“อืม…ค่ะ” ฉันตอบพร้อมรู้สึกประหลาดใจกับน้ำเสียงที่มุ่งมั่นของตัวเอง ราวกับเป็นการตบปากรับคำสำหรับภารกิจอันยิ่งใหญ่แซคหัวเราะแล้วลุกขึ้นยืนอยู่ข้างเตียง ฉันเดินตามไปติดๆ ก็แค่ถอดเสื้อผ้าเขา? โชคดีที่เขาไม่ได้ใส่สูทตัวนอกกับเนคไท ฉันตัดสินใจเริ่มต้นที่เสื้อเชิ้ตสีขาว ปลดกระดุมเม็ดบนสุด แล้วค่อยๆ ถอดเสื้อเขาออกว้าว…แซคหุ่นดีมาก…"เธอชอบมั้ย?" แซคแกล้งถาม ฉันพยักหน้า ขณะที่กอดเขาจนหน้าอกของเราแนบกัน ไม่เคยรู้มาก่อนว่าการที่เนื้อแนบเนื้อมันรู้สึกดีขนาดนี้ฉันเอื้อมมือลงไปปลดเข็มขัดก่อนรูดซิปลง มันน่าตื่นเต้นมาก ฉันหลับตาเพื่อตั้งสติก่อนจะถอดเสื้อผ้าเขาออกจนหมด ก่อนจะเริ่มมองร่างกายที่เหมือนหุ่นแกะสลักมาอย่างดี สายตาฉันหยุดอยู่ตรงแท่งเนื้อที่ตั้งตระหง่
“จำที่ฉันพูดได้มั้ย?ฉันจะทำให้เธอสวยที่สุดและเป็นที่ต้องการมากที่สุด… ไม่ใช่ว่าฉันดูถูกเธอนะ…” แซคอธิบาย ขณะที่เราจับมือและเดินเคียงข้างกันแซคมีถ่ายแบบวันนี้ เขาพาฉันไปพบเพื่อนที่เป็นสไตล์ลิสต์เพื่อให้เขาแนะนำการแต่งหน้าและทำผมให้ฉัน"ฉันคิดว่านาตาลีสวยอยู่แล้ว แต่การเลือกเมคอัพที่มีสีสันจะช่วยปรับลุคใหม่ให้เธอได้ ส่วนตัวแล้วฉันอยากจะแนะนำให้แต่งหน้าโทนสีทองกับชมพูสำหรับดวงตาและแก้ม ใช้อายไลเนอร์ช่วยเน้นดวงตาเธอด้วยก็ดีนะ” ช่างแต่งหน้าชื่อพิ้งกี้พูด ระหว่างที่เขา (หรือเธอ?) ชี้ไปในกล่องอุปกรณ์แต่งหน้าสารพัดอย่างเพื่อแสดงให้ฉันเห็นว่าเธอเชี่ยวชาญในเรื่องนี้“ฉันเห็นด้วยนะ แต่คิดว่าสีพวกนี้มันธรรมดาเกินไป ฉันอยากให้นาตาลีทาอายแชโดว์ด้วยสีที่สดใสกว่านี้ เช่น สีฟ้าอ่อน สีทอง สีเทอร์ควอยซ์ และทาแก้มโทนสีส้มมากกว่า จากนั้นค่อยทาลิป” แซคพูดแทรก ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าแซคชอบสีสดใสแบบนี้“ฉันเห็นด้วย นาตาลี อยากลองสีที่แซคเลือกมั้ย เดี๋ยวฉันจัดการให้เอง” พิ้งกี้เสนอด้วยรอยยิ้มที่ใจดี ฉันดีใจที่แซคมีเพื่อนดีๆ มากมายนอกโรงเรียนเช่นกัน“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” ฉันตอบอย่างร่าเริง อยากรู้ว่าฉันจะดูเป็นยั
“เป็นไปไม่ได้…คุณไม่เคยรักแม่ฉันเลยเหรอ!” ฉันอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เขาหลอกฉันมาตลอด?ทำไม“ฉันไม่เคยรักเธอ ฉันเคารพเธอมากและมันก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ แต่ฉันไม่เคยมีความรู้สึกรักเธอเลยแม้แต่นิดเดียว” ลูเซียนตอบอย่างตรงไปตรงมา“ไม่… ทำไมคุณถึงหลอกเธอ?เธอรักคุณมาก!” ฉันร้องไห้ ขณะที่พยายามปัดมือเขาออกจากไหล่ฉัน“ฉันไม่ได้หลอกเธอ! เธอเองก็ไม่เคยรักฉันเหมือนกัน แม่เธอกับฉัน เราไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกันเลย” ลูเซียนพยายามอธิบาย“แล้วทำไมคุณถึงแต่งงานกับเธอ ทำไมพวกคุณถึงแต่งงานกัน?ฉันคิดเสมอว่าคุณสองคนรักกันมาก ฉันมีความสุขมากเมื่อแม่แต่งงานกับคุณ” ฉันสวนกลับ เห็นได้ชัดว่าฉันกำลังตกใจและเสียใจ"ฟังดีๆ เรื่องนี้อาจทำให้เธอตกใจ แม่เธอตกลงแต่งงานกับฉันเพราะฉันสัญญากับแม่เธอว่าฉันจะดูแลเธอให้ปลอดภัยและเธอจะมีชีวิตที่มั่นคง” ลูเซียนอธิบายช้าๆ“ไม่…มันไม่จริง” ฉันพูดพร้อมกับส่ายหัวปฏิเสธ แม่ฉันมีความสุขที่ได้แต่งงานกับคนที่เธอรัก“แม่ของเธอไม่เคยรักฉันเลย แม้แต่ตอนที่เราอยู่ด้วยกัน ฉันก็ไม่เคยจับมือเธอ ไม่เคยแตะต้องเธอ และไม่เคยนอนกับเธอ” ลูเซียนกล่าวอย่างจริงจัง“สุดท้ายแม่ก็ตายโดยที่ไม่มีค
“ไม่…ไม่ใช่” ฉันรีบปฏิเสธเพราะคิดว่าไม่ได้รู้สึกแบบนั้นลูเซียนถอนหายใจ ขณะลุกจากที่นั่งและเดินเข้ามาหาฉัน“มองตาฉัน” เขาสั่ง ขณะหันเก้าอี้ไปทางเขา เขาใช้แขนทั้งสองข้างจับเก้าอี้ไว้ไม่ให้ฉันหนีไปไหน ฉันกลืนน้ำลายลงคอ“ยอมรับมาว่าเธอหึง เธอไม่ต้องการให้ฉันนอนกับแองเจล่าใช่มั้ย” ลูเซียนกระซิบข้างหูฉัน ก่อนจะเริ่มจูบฉันอย่างนุ่มนวลข้างแก้มไล่ลงมาที่คอด้านข้าง เขาพูดถูก ฉันไม่อยากให้เขานอนกับแองเจล่า“ไม่…ฉันไม่…” ฉันปฏิเสธอีกครั้ง ลูเซียนหัวเราะ ก่อนที่ริมฝีปากเขาจะงับปากฉันเบาๆ“ฉันเข้าใจแล้ว…” ลูเซียนพึมพำ ขณะที่ยังคงจูบฉันอย่างแผ่วเบาที่ริมฝีปาก ริมฝีปากที่อ่อนโยนเย้ายวนใจฉัน ฉันรู้สึกว่าหายใจลำบากมากขึ้น“ลูเซียน…” ฉันกระซิบชื่อเขา ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว“เธอเห็นใช่มั้ย แองเจล่ากับฉัน…ในห้องทำงาน เธอแอบดูเรามีเซ็กซ์กันใช่มั้ย” ลูเซียนถาม ขณะที่สบตาฉันวันนั้นเขาเห็นฉัน! ดวงตาฉันเบิกกว้างด้วยความตกใจ ทำไมเขาถึงพูดถึงเรื่องนี้?“เธอไม่จำเป็นต้องปฏิเสธ เธอรู้สึกยังไงที่เห็นฉันทำแบบนั้นกับคนอื่น อารมณ์เสีย?หึง?” ลูเซียนยังคงถามฉันต่อไป เขาพูดถูกใช่มั้ย?ฉันรู้สึกหงุดหงิดและหึงเมื่อคิ
“คร่อมฉันที นาตาลี” ลูเชียนออกคำสั่ง ขณะที่มือเขาช่วยยกเอวฉันขึ้นฉันทำตามคำสั่ง เราจูบกันอย่างเร่าร้อนต่อ มือเขาโอบกอดฉันไว้ รู้สึกได้ถึงความเป็นชายตั้งตระหง่านตรงจุดเปียกชื้นของฉัน มือเขาจับสะโพกฉันเลื่อนขึ้นลงทำให้ฉันรับรู้รูปร่างภายใต้ร่มผ้าที่กำลังถูไถกับร่องสวาทและปุ่มวิเศษ ฉันบดสะโพกเข้าหาเขาอย่างแรงโดยสัญชาตญาณ ดันหน้าอกที่บอบบางแนบกับหน้าอกเขา ขณะที่ร่างกายเราบดเบียดเข้าหากัน เสียงครวญครางและเสียงจูบเราดังไปทั่วห้องลูเซียนยกร่างฉันขึ้นเพื่อให้ฉันคุกเข่าเหนือเขา มือเขาลูบไล้ไปตามต้นขาด้านในตั้งแต่เข่าไล่ขึ้นไปถึงรอยแยกระหว่างขาฉัน ตอนนี้ฉันต้องเปียกมากแน่ๆ รู้สึกได้ถึงน้ำรักที่ไหลออกมาจากโพรงสวาทเปรอะไปถึงต้นขาตอนที่เขายกตัวฉันขึ้น“เธอเปียกมากแล้ว น้ำหล่อลื่นเธอไหลเยิ้มออกมาเลย…อ๊ะ อะไรเนี่ย?เธอไม่ได้ใส่กางเกงชั้นในนี่… ซนจริงๆ เธอเพิ่งบอกฉันว่าไม่ได้มาที่นี่เพื่อมีเซ็กซ์” ลูเซียนแหย่ ขณะที่นิ้วเขาทักทายกลีบดอกไม้ที่เปียกโชก เขาพูดถูก“ลูเซียน…อย่าแกล้งฉัน” ฉันพูดขณะที่หอบเพราะนิ้วหนาเขากำลังลูบช่องรักที่เปียกชื้นเพื่อกระตุ้นฉัน ช่องสวาทฉันบีบตัวแน่นและสั่นจากสัมผัสเขา ฉันร้
“ไปที่เตียงกันเถอะ” ลูเซียนกระซิบ ขณะที่ลุกขึ้นยืนและยกร่างฉันไปด้วยระหว่างที่เขาอุ้มฉันไปที่เตียง ฉันโอบขารอบสะโพก สองแขนคล้องรอบคอ มังกรยักษ์เริ่มแข็งขึ้นอีกครั้ง ฉันรู้สึกได้เพราะท่อนเอ็นเนื้อเขายังฝังลึกอยู่ภายใน พนันได้เลยว่าเราจะต้องมีอะไรกันอีกครั้ง ฉันใจสั่นด้วยความหวังเขาวางฉันลงบนเตียง ขณะที่นอนคร่อมฉันอยู่ ฉันโน้มหน้าเขามาจูบ สอดลิ้นเข้าไปในปากเพื่อชิมมันอีกครั้ง ลิ้นของเราพันกันจนรู้สึกดีมาก ฉันหยุดครางในปากเขาไม่ได้ ขาโอบรอบสะโพกเขาแน่นขึ้น รู้สึกว่าอาวุธเขาแข็งขึ้นและใหญ่ขึ้นในตัวฉัน“ขออีกครั้งนะนาตาลี อ้าขาเธอให้กว้างขึ้น” ลูเซียนสั่งพร้อมกางขาฉันให้อ้าออก“ฉันก็ต้องการคุณเหมือนกัน…” ฉันพึมพำเมื่อเห็นรอยยิ้มมีเสน่ห์ของเขาฉันได้ยินเสียงของเหลวของเรากระทบกัน ขณะที่ลูเชียนค่อยๆ ถอนแท่งร้อนออกจากช่องสวาท รู้สึกถึงน้ำรักที่ผสมกันของเราไหลออกมาจากกลีบดอกไม้ หยดลงบนผ้าปูที่นอน“ข้างในเธอคงน้ำท่วมอยู่ ถึงไหลเยิ้มออกมาขนาดนี้ พร้อมจะสนุกกันอีกรอบมั้ย” ลูเซียนถาม พร้อมใช้นิ้วแยกกลีบดอกไม้ด้านนอกออก เขาบีบคลึงปุ่มกระสันด้วยนิ้ว หมุนไปรอบๆ เพื่อส่งแรงกระตุ้นแห่งความสุขไปทั่วร่า
“เจ้าหญิง! อาคิดว่าเธอจะไม่โทรหาอาอีกแล้ว” เสียงร่าเริงของเอ็ดเวิร์ดทักทายฉันทางโทรศัพท์ ฉันไม่ได้พูดหรือเจอเขามาหลายสัปดาห์แล้ว"สวัสดีค่ะ. ฉันต้องการจะพบอา” ฉันพูดสั้นๆ ตรงเข้าประเด็น“อาจะไปรับเธอห้าโมงเย็น?ใช้ทางออกของอา” เอ็ดเวิร์ดตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง"ตกลงค่ะ. แล้วเจอกัน…” ฉันตอบเบาๆ ก่อนจะวางสายฉันตัดสินใจจะคุยกับเขาตรงๆ…ยังไม่ถึงห้านาทีที่ผมวางสายจากนาตาลี จุดสีแดงบนหน้าจอก็แสดงตำแหน่งของเธอในบริษัท ไม่มีเหตุผลที่เธอจะมาพบผมที่นี่เพราะผมจะไปรับเธออยู่แล้ว หมายความว่าจุดสีแดงบนหน้าจอต้องไม่ใช่นาตาลีแน่นอน“มาดูกันว่าปีศาจตัวไหนจะมาพบผมในวันนี้” เอ็ดเวิร์ดพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับยิ้มมุมปาก…ฉันผลักประตูลับที่ปลายอุโมงค์ใต้ดินที่มืดและเย็นออก ตอนนี้ฉันอยู่กลางป่าในสวน ฉันมาก่อนเวลานัดเล็กน้อย เขาคงยังมาไม่ถึงมั้ง ฉันคิดกับตัวเองขณะปิดประตูลับและอำพรางมันด้วยใบไม้แห้งฉันมาถึงทางออกอย่างปลอดภัย นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันใช้เส้นทางนี้โดยไม่มีเอ็ดเวิร์ด มันมืดและชื้นมาก รู้สึกขอบคุณที่ตลอดทางฉันไม่เจอแมงมุมหรือสิ่งมีชีวิตอย่างอื่น มองไปด้านนอกฉันเห็นรถปอร์เช่ 911 สีน้ำเงินเข้มจอดอยู
“ฉัน…ฉันขอโทษที่ไม่ได้พูดแบบนี้มาก่อน…” ฉันเริ่มเสียงอ่อน สงสัยว่าทำไมต้องเสียงสั่นด้วย?เอ็ดเวิร์ดมองอย่างเงียบๆ เขารอให้ฉันพูดต่อ ฉันอยากทำให้มันถูกต้อง“อาเอ็ดเวิร์ด! ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้!” ฉันพูดอย่างหนักแน่น พร้อมกับจ้องตาเขา ดวงตาเขาเป็นประกายจากแสงอันอบอุ่นของน้ำพุ มันดูมีเสน่ห์มาก"…อะไรนะ?" เอ็ดเวิร์ดชะงักก่อนจะถามด้วยเสียงกระซิบ ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้คาดหวังคำขอบคุณจากฉันหลังจากผ่านมาแล้วสิบปีและหลายชั่วโมงหลังจากที่เขาบอกความจริงกับฉัน“ขอบคุณ…ที่ช่วยฉันในป่าวันนั้น ฉันตั้งใจจะบอกคุณก่อนหน้านี้ แต่... ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ฉันเลย... ลืม ขอโทษจริงๆ ค่ะ!” ฉันอธิบายอย่างรวดเร็ว เวลาตื่นเต้นฉันจะพูดตะกุกตะกักเอ็ดเวิร์ดเงียบไปชั่วครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมา ตอนนี้กลายเป็นฉันที่สับสน อะไรที่ทำให้เขาหัวเราะได้ขนาดนี้?หัวเราะเหมือนเด็กน้อยที่ร่าเริง เอ็ดเวิร์ดน่าทึ่งจริงๆ แม้ว่าเขาจะผ่านอะไรมามากมาย ยังสามารถก้าวไปข้างหน้า สร้างสถานที่ในโลกสำหรับตัวเขาเอง หัวเราะอย่างไร้กังวลและมีความสุขแบบนี้ การมองดูอาการเขาทำให้ฉันอมยิ้มตามไป“อาขำอะไรขนาดนั้น” ฉันถามอย่างสงสัย“ขอโทษ…ที่อาขำเพราะ…ม
“อาพูดจริงนะ อาเชื่อว่าทางเลือกที่ดีที่สุดของเธอคือแต่งงานกับอา ยิ่งเร็วยิ่งดี” เอ็ดเวิร์ดดูจริงจังมาก“อาบอกได้มั้ยว่าทำไม” ฉันถาม"ดึกมากแล้ว. เธอคงเหนื่อย เราค่อยคุยกันต่อพรุ่งนี้ดีกว่า” เอ็ดเวิร์ดพูดตัดบทแล้วรีบลุกจากโซฟาเดินไปที่ประตู“อาเอ็ดเวิร์ด…” ฉันเรียกชื่อเขาเบาๆ“ห้องนอนอาอยู่ที่สุดทางเดิน… เผื่อเธอต้องการอะไร” เอ็ดเวิร์ดพูดโดยไม่หันหลังกลับเขาจากไปก่อนที่ฉันจะนึกอะไรออก ตอนนี้ฉันควรทำยังไงดี?ทำตามคำแนะนำแล้วเข้านอนเลยอย่างนั้นเหรอ…ฉันรู้สึกแย่มากหลังจากนอนพลิกตัวอยู่บนเตียงไปมาหลายชั่วโมงแต่ทำยังไงก็หลับไม่ลง จิตใจกระสับกระส่ายกับข้อมูลที่เพิ่งรับรู้ คำพูดของเอ็ดเวิร์ดที่วนเวียนอยู่ในหัวทำให้ฉันแทบเป็นบ้า เหงื่อชุ่มตัว ทั้งเตียงและห้องทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่ความผิดของสถานที่ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวฉันเองที่ไม่สามารถควบคุมความเครียดได้ฉันคลำหาโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงในความมืด หน้าจอโทรศัพท์แสดงเวลา 03:45 น. รู้สึกเหนื่อยแต่ก็ยังตื่นอยู่ ชีวิตฉันว่างเปล่ามากในตอนนี้ ไม่มีอะไรต้องทำและไม่มีแผนการสำหรับอนาคต เกิดคำถามในใจว่าชีวิตฉันจะเป็นแบบนี้ไ
“นี่อาไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย” ฉันถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เขาเคยพูดกับฉันแบบนี้มาก่อน แต่มันจบลงไม่ค่อยดีนักแทนที่จะตอบคำถามฉัน เอ็ดเวิร์ดกลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพิมพ์ข้อความแทน เขากำลังทำอะไร?'คืนนี้นาตาลีจะค้างที่นี่ ไม่ต้องห่วง ฉันเริ่มต้นใหม่อย่างความยุติธรรมแล้วนะ...พี่ชาย’เอ็ดเวิร์ดกดปุ่มส่งก่อนจะหันไปหานาตาลีอีกครั้ง พร้อมส่งยิ้มอย่างไร้เดียงสาให้เธอ…**ก่อนหน้านั้น**"นี่คืออะไร!?" ลูเซียนตะโกนใส่หน้าน้องชาย พร้อมกับกระแทกสร้อยคอที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะ“อรุณสวัสดิ์!” เอ็ดเวิร์ดทักทายพี่ชายอย่างร่าเริง“เอ็ดเวิร์ด…” ลูเซียนเอ่ยชื่อด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“พี่มาที่นี่เพื่อถามฉันแค่นี้เองเหรอ?พี่ดูก็รู้?มันคือสร้อยคอ…พร้อมจี้เพชรรูปดาวแบบสั่งทำพิเศษ” เอ็ดเวิร์ดพูดด้วยรอยยิ้ม“เป็นของนายจริงๆ ด้วย” ลูเซียนพูดพร้อมกับหรี่ตาลง“ตอนนี้มันเป็นของนาตาลี ฉันให้เธอไปแล้ว พี่มาเพื่อถามเรื่องแค่นี้เองเหรอ?” เอ็ดเวิร์ดถามด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา“ทำไมนายถึงให้สร้อยคอเส้นนี้กับเธอ นายต้องการอะไร?" ลูเซียนถาม“ฉันมอบให้เธอเพื่อเตือนให้เธอซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ฉันไม่ได้ต้องการอะไรเป็นพิเศษ...มีปัญหาอะไร
ฉันนั่งอึ้งอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่าจะคิดหรือตอบยังไง ถ้าเอ็ดเวิร์ดคือคนที่ช่วยชีวิตและเป็นรักแรกของฉัน มันจะทำให้ความรู้สึกที่ฉันมีต่อลูเซียนเปลี่ยนไปมั้ย ฉันรู้สึกสับสนมากตอนนี้…“หลักฐานแค่นี้พอรึยัง” เอ็ดเวิร์ดเอ่ยปากถาม เขาวางหัวลงบนตักฉันแววตาเขาที่มองฉันทำให้นึกถึงแมวขี้เล่น“ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ว่าควรจะตอบอายังไง…” ฉันบอกตามความรู้สึกจริงๆ"ไม่เป็นไร มันค่อนข้างทำใจยาก เพราะสิ่งที่เธอเชื่อมาเป็นสิบปีไม่เป็นอย่างที่เธอเข้าใจ” เอ็ดเวิร์ดตอบอย่างเห็นอกเห็นใจ“อือ...” ฉันตอบแบบงง ๆรู้สึกสับสนเกินกว่าจะแยกแยะความรู้สึกของตัวเอง“เธอดูเหนื่อยๆ อยากถามคำถามอีกสองข้อตอนนี้เลยมั้ย?หรือเอาไว้วันหลัง…” เอ็ดเวิร์ดแนะนำ ศีรษะเขาที่หนุนอยู่บนตักให้ความรู้สึกอบอุ่นมากเรานั่งกันอยู่ในความเงียบ ฉันเงยหน้าขึ้นมองดาวที่ส่องแสงระยิบระยับและสงสัยว่าดาวพวกนั้นจะรู้สึกเจ็บปวดและหงุดหงิดเหมือนฉันมั้ย มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างเมื่อฉันรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดเป็นรักแรก ไม่ใช่ลูเซียน?มันจะทำให้ฉันรักลูเซียนน้อยลงรึเปล่า?หรือว่าฉันต้องรักเอ็ดเวิร์ดแทนเพราะเขาเป็นรักแรกของฉัน?ความรู้สึกมันเปลี่ยนกันง่ายๆ ได้ขนาดนั้นเ
“เป็นไปไม่ได้… ที่ฉันจำได้มันไม่ได้เป็นแบบนั้น” ฉันตอบด้วยความตกใจและสับสน“อาไม่โทษเธอ อย่างที่อาเคยบอกไปว่าเธอจะไม่เชื่ออาหรอก” เอ็ดเวิร์ดตอบพร้อมกับยักไหล่ราวกับว่าเขาไม่สนใจว่าฉันจะรับในสิ่งที่เขาพูดได้รึเปล่า“อารู้เรื่องนี้ได้ยังไง?อามีหลักฐานว่าเรื่องของอาเป็นความจริงเหรอ” ฉันถามอย่างจริงจัง“ลูเซียนไม่ได้ช่วยเธอไว้ เขาไม่เคยช่วยเธอ…” เอ็ดเวิร์ดพูดขณะที่สบตากับฉัน"ไม่จริง! ลูเซียนเป็นคนช่วยฉัน” ฉันตะโกนอย่างมั่นใจเพราะลูเซียนคอยช่วยฉันเสมอ“เขาบอกเธออย่างนั้นเหรอ?ตอนเธอถามว่าเขาช่วยเธอรึเปล่า… เขาตอบว่าไง” เอ็ดเวิร์ดถามกลับเขา…“เธอต้องขอบคุณผู้ชายคนนั้นที่ช่วยชีวิตเธอไว้ เธอรู้จักเขามั้ย เขามีหน้าตายังไง” เขาฟังดูเป็นคนที่วิเศษจริงๆ … ใช่มั้ย’คำพูดของลูเซียนกลับมาหาฉัน...“พี่ชายของอามีหลักการที่ชัดเจน เขาจะไม่พูดว่าเขาช่วยเธอทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำ ดังนั้นอาแน่ใจว่าเขาไม่เคยพูด เธอต่างหากที่คิดไปเองว่าเข้าไปคนช่วยเธฮ” เอ็ดเวิร์ดพูดช้าๆ เพื่อให้ฉันเข้าใจทุกอย่าง"อารู้เรื่องนี้ได้ยังไง?!" ฉันตะโกนใส่เอ็ดเวิร์ด พอกันทีกับทฤษฎีของเขา ทำไมเขาถึงบอกฉันตรงๆ ไม่ได้“นาตาลี ลูเซียนไม
“ราล์ฟเล่าอะไรให้คุณฟังบ้าง เขาชอบพูดไปเรื่อย อย่าไปสนใจล่ะ” เอ็ดเวิร์ดพูด ขณะพาฉันเดินไปตามทาง“เขาเป็นมิตรมาก ฉันชอบเขานะ เราจะไปที่ไหนกันคะ?" ฉันตอบขณะเดินไปกับเอ็ดเวิร์ด“มื้อเย็นกับดวงดาว” เอ็ดเวิร์ดตอบพร้อมชี้นิ้วไปด้วยในไม่ช้าเราก็ยืนอยู่ที่ด้านล่างบันไดที่ดูคดเคี้ยว มองขึ้นไปด้านบนบอกได้เลยว่าเราต้องเดินขึ้นไปสูงทีเดียว หรือว่าที่นี่คือหอดูดาวที่เขาพูดถึงก่อนหน้านี้?“นี่คือทางขึ้นไปหอดูดาว อาคิดว่าขึ้นบันไดดีกว่าใช้ลิฟต์” เอ็ดเวิร์ดตอบคำถามที่ยังไม่ได้ถามแล้วจับมือฉันเราเดินขึ้นบันไดเวียนไปด้วยกัน ไม่รู้ว่าเราต้องเดินขึ้นไปสูงแค่ไหน ขาที่ไม่แข็งแรงของฉันเริ่มล้า เอ็ดเวิร์ดชะลอความเร็วลงเพื่อรอฉัน เห็นได้ชัดว่าการเดินขึ้นครั้งนี้อยู่เหนือความสามารถของฉัน“อืม…อาไม่ได้มีความหมายอย่างอื่น แต่…ถ้าเธอต้องการ อาอุ้มเธอขึ้นไปได้นะ” เอ็ดเวิร์ดเสนออย่างเกรงใจระหว่างที่จ้องหน้าฉัน ตอนนี้หน้าฉันต้องแดงมากแน่ๆ ฉันเริ่มหมดแรงตั้งแต่เมื่อไหร่?สงสัยว่าต้องเดินขึ้นไปอีกนานแค่ไหน ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้งและตัดสินใจที่จะเดินต่อ"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเดินได้ ขอบคุณที่ถาม” ฉันกัดฟันยิ้มหลัง
“ขอแสดงความยินดีที่เธอชนะเกมนี้ ตามสัญญา อาจะคืนสิ่งนี้ให้กับเธอ” เอ็ดเวิร์ดพูดด้วยรอยยิ้มเขาค่อยๆ ใส่สร้อยจี้รูปดาวที่คอให้ฉัน สังเกตเห็นว่าโซ่ที่ขาดได้รับการแก้ไขแล้ว“ขอบคุณค่ะ” ฉันตอบสั้นๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี“มันเหมาะกับเธอ ตอนนี้ตาเธอเลือกเสื้อผ้าให้อา แล้วแต่งตัวให้อาด้วย” เอ็ดเวิร์ดเสนอ ขณะที่ชี้ไปที่เสื้อผ้าผู้ชายฉันเดินไปหาเสื้อผ้าให้เอ็ดเวิร์ด มีตัวเลือกเยอะจริงๆ เอาอะไรที่เรียบง่ายและผ่อนคลายเพราะเรากำลังจะไปทานอาหารเย็นกัน ฉันหยิบเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อน คาร์ดิแกนสีขาว และกางเกงสีน้ำตาลอ่อน เอ็ดเวิร์ดสามารถเลือกรองเท้าเองได้“มา ฉันจะแต่งตัวให้อาบ้าง” ฉันบอกเอ็ดเวิร์ดด้วยรอยยิ้ม ขณะยกเสื้อผ้าไปที่โซฟาเมื่อฉันเริ่มแต่งตัวให้เอ็ดเวิร์ด เขายืนนิ่งแต่เฝ้าดูทุกอิริยาบถของฉัน เขาช่วยขยับแขนและขาไปมา เหมือนฉันกำลังเล่นกับตุ๊กตาขนาดเท่าคนจริง ฉันคิดพร้อมหัวเราะเบาๆ กับตัวเอง เอ็ดเวิร์ดไม่พูดซักคำเหมือนเขาจะคิดอะไรอยู่ มันทำให้ฉันรู้สึกกังวลฉันใส่เสื้อให้เขาแล้วเริ่มติดกระดุม รู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้ละสายตาจากฉันเลย ฉันยิ้มให้เมื่อติดกระดุมเม็ดสุดท้ายเสร็จ"เสร็จแล้วค่ะ ฉันทำถูกรึ
น้ำอุ่นจากฝักบัวทำให้ผิวหนังและร่างกายที่กำลังอ่อนล้ารู้สึกดีขึ้นมาก ฉันอาบน้ำสระผมเพื่อผ่อนคลาย หยดน้ำที่กระทบกับผิวเปลือยเปล่า เสียงน้ำไหลทำให้รู้สึกสงบลง ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก อยากจะยืนพักอยู่ตรงนี้นานๆจู่ๆ ประตูห้องน้ำก็เปิดออก ฉันมั่นใจมากว่าฉันล็อกตอนเข้ามา แต่เดาได้ว่าไม่มีประตูในบ้านนี้ที่เจ้าของบ้านเปิดเข้าไม่ได้ ความจริงฉันไม่ควรแปลกใจเพราะคำว่า 'พื้นที่ส่วนตัวสำหรับนาตาลี' ไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของเอ็ดเวิร์ดแน่นนอน“นาตาลี…” เอ็ดเวิร์ดเรียกชื่อฉันอย่างร่าเริงเมื่อเขาโผล่หน้าเข้ามา ทั้งตัวเอ็ดเวิร์ดมีแค่ผ้าเช็ดตัวสีขาวพันรอบเอวเขาเท่านั้น"อาเข้ามาทำไม?!" ฉันกรีดร้องเสียงดัง ไม่คิดว่าในห้องน้ำเสียงจะก้องขนาดนี้ ฉันรีบเอามือปิดหน้าอก ขณะที่หันตัวเข้าหากำแพง“เธอทำเหมือนกับอาไม่เคยเห็นเธอเปลือยกายมาก่อน…” เอ็ดเวิร์ดพูดอย่างอารมณ์ดี"ฉันถามว่าอาเข้ามาทำไม?" ฉันถามซ้ำอีกครั้ง ทั้งที่อยากจะตะโกนไล่เขาออกไป!“ในเมื่อเธอเป็นคนเปลื้องผ้าอา อาเลยคิดว่าเธอควรรับผิดชอบด้วยการแต่งตัวให้อา” เอ็ดเวิร์ดพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“เกมนี้เป็นความคิดของอา ทำไมฉันต้องรับผิดชอบด้วย?” ฉันสวนกลับ“เธอพู
ไม่สามารถหยุดตัวเองไม่ให้ครางได้ นิ้วเขายังคงลูบไล้ฉันอยู่ตรงนั้น ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเปียกโชกอยู่ข้างล่าง นิ้วเขาเล่นกับปุ่มวิเศษอันบอบบาง ก่อนมืออีกข้างจะสอดนิ้วหนาสองนิ้วเข้าไปในช่องรักที่เปียกชื้น มันรู้สึกดีมาก ฉันร้องครวญครางและเอ็ดเวิร์ดก็เริ่มสอดนิ้วเข้าไปลึกในร่างกายฉัน“เหลือเวลาอีกเท่าไหร่…” ฉันเริ่มถามแต่พูดต่อไม่ได้ คำถามฉันถูกแทนที่ด้วยเสียงครวญคราง ร่างกายฉันสั่นสะท้านเมื่อเอ็ดเวิร์ดเริ่มใช้นิ้วแตะที่จุดจีสปอต“จนกว่าเธอจะเสร็จ…” เอ็ดเวิร์ดตอบจนกว่าฉันจะเสร็จ…คงไม่นานเกินไป เอ็ดเวิร์ดใส่นิ้วเข้าไปในตัวฉันเร็วขึ้นและแรงขึ้น อีกมือเขาบีบปุ่มกระสันอย่างต่อเนื่อง ฉันเรียกชื่อเขาเมื่อความเร่าร้อนเข้าครอบงำ หยุดส่ายสะโพกสู้นิ้วเขาไม่ได้ นิ้วเขาเข้าไปลึกมาก รู้สึกมหัศจรรย์เมื่อนิ้วเขาถูผนังช่องรักที่ยืดออก คิดว่าฉันกำลังจะหลั่งเร็วๆ นี้“เอ็ดเวิร์ด…ฉัน…” ฉันพูดระหว่างครางอย่างรุนแรงเอ็ดเวิร์ดค่อยๆ ถอนนิ้วออกจากช่องรักที่เปียกชื้น ฉันรู้สึกร้อนขึ้นภายในโพรงรัก แทนที่จะใช้นิ้วเขา เอ็ดเวิร์ดเอาลิ้นเข้าไปแทน ใบหน้าเขาฝังอยู่ที่หว่างขาฉัน เขาดูดและเลียไปรอบๆ ความร้อนของลิ้นเข