หกชั่วโมงก่อนหน้า
“แกเคยเป็นเด็กทำงานในโฮสต์คลับใช่ไหม”
จินตวาตีพูดขึ้นลอย ๆ เมื่อเห็นปฏิกิริยาตื่นตกใจของอีกฝ่ายก็ยิ่งแน่ใจว่าข่าวที่ได้รับรู้มานั้นน่าจะถูกต้องแล้ว
“ไม่จริงนะครับพี่จินนี่ ผมไม่เคยทำงานแบบนั้น”
กวินภพปฏิเสธเสียงแข็ง หากแต่สายตากลับหลุกหลิกไม่กล้ามองสบตากับจินตวาตีตรง ๆ
“ตามที่ฉันรู้มา แกไม่ได้เป็นเด็กโฮสต์อย่างเดียว แกยังมีคนอุปการะด้วยนี่ และไม่ใช่แค่คนหรือสองคนด้วย มีคนให้ภาพกับคลิปแบบลับเฉพาะกับฉันมา รู้ไหมว่าภาพอะไร...ภาพตอนที่แกติดเบอร์ตองเจ็ดไว้ที่ขอบกางเกงใน กับคลิปที่แกเต้นตามโต๊ะลูกค้าด้วยกางเกงในตัวเดียวแล้วมีสาว ๆ สอดเงินเข้าไปในกางเกงในไงละ”
จินตวาตีรู้เรื่องนี้มาจากข้อมูลที่ธามไปสืบมาให้ ดังนั้นเธอจึงลองไปเลียบเคียงถามจากหนุ่มโฮสต์ที่สนิทกัน ตอนแรกฝ่ายนั้นดูเหมือนไม่อยากพูดอะไรมากเพราะเรื่องผ่านไปหลายปีแล้ว และเขาเองก็ไม่เคยเจอกวินภพตัวจริงสักครั้ง เคยแต่ได้ยินคนพูดกันในร้านเท่านั้นว่ากวินภพเคยทำงานที่นี่ ทั้งยังยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเรื่องจริง นอกจากนี้ย
กวินภพโกรธจนแทบคลั่ง ชายหนุ่มเดินมาถึงประตูรั้วหน้าบ้านที่จอดรถไว้ เขายืนนิ่งพลางคิดว่าไหน ๆ ชื่อเสียงของเขาก็ไม่มีเหลือแล้ว ทุกอย่างหายวับไปกับตาเพียงชั่วข้ามคืนเพราะคนเพียงคนเดียว ในเมื่อจินตวาตีต้องการให้เขาจมดิ่งลงใต้น้ำ เขาก็จะลากอีกฝ่ายลงไปด้วยคิดได้ดังนั้นชายหนุ่มจึงเดินกลับไปที่สระว่ายน้ำอีกครั้งอย่างเงียบเชียบ เขาเห็นจินตวาตีกำลังนอนหลับตาอยู่ที่เดิม เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้หลับแต่แค่พักสายตาเท่านั้น จึงโพล่งถามออกไปตามตรง“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้เป็นฝีมือพี่ใช่ไหม”จินตวาตีลืมตาขึ้นพลางถอนหายใจแผ่วก่อนตอบว่า“ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”“โกหก! พี่ต้องเป็นคนทำแน่ ผมไม่เคยมีเรื่องกับใครที่ไหน คนเดียวที่ผมมีเรื่องด้วยก็คือคุณพลอยหลานของพี่ พี่ไม่ชอบให้ผมไปยุ่งกับเขา พี่ก็เลยจัดการผมโดยไม่ให้ผมได้อยู่ในวงการอีกใช่ไหม”“ถ้าฉันทำจริงฉันก็จะยอมรับ แต่ถ้าไม่ได้ทำฉันก็จะไม่ยอมรับเด็ดขาด และถ้าเธอเชื่อไปแล้วว่าฉันเป็นคนทำ ฉันก็คงไม่มีอะไรจะพูดอีก ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว”พูดจบจิน
ตอนนี้เขาให้ปวีณาไปซื้ออาหารมาตุนไว้ และออกไปหาซื้อแว่นกรอบดำกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวราคาถูกมาให้เขาใส่ รวมถึงซื้อครีมรองพื้นสีเข้มมาด้วย เพราะเขาต้องเอาไว้ใช้ในการปลอมตัว โชคดีที่ตอนช่วงเช้าของที่นี่จะมีตลาดนัด อีกทั้งยังมีร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่ใกล้กับบังกะโลอีกด้วยแต่ถึงอย่างนั้น ลางสังหรณ์ของเขาก็บอกว่าเขาเหลือเวลาหลบหนีอีกไม่นานแล้วเสียงเคาะประตูห้องสองครั้ง กวินภพจึงเดินไปเปิดประตูเพราะรู้ว่าคนที่มาคือปวีณา เขาเห็นหญิงสาวถือข้าวของพะรุงพะรังเข้ามาในห้องจึงรีบเข้าไปช่วยถือ ปวีณาเดินไปนั่งพักอยู่บนเตียงพลางเอามือจับบั้นเอวของตัวเองแล้วบิดตัวเล็กน้อย ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นจึงอดรู้สึกผิดไม่ได้“ปวดหลังละสิ เดี๋ยวก้าวนวดให้ละกัน” พูดจบเขาก็ขึ้นเตียงไปนั่งซ้อนหลังของภรรยาแล้วลงมือนวดเบา ๆ“ก้าวกินข้าวก่อนเถอะ ไม่หิวหรือ ก้าวยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ”“ยังไม่หิว” เขาตอบสั้น ๆ หลังจากที่นวดไปพักหนึ่ง จู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นว่า“ปลา ถ้าก้าวถูกตำรวจจับแล้วติดคุก ปลาห้ามไปเยี่ยมก
“แล้วนี่แกจะทำยังไงต่อ จะแคนเซิลไม่ไปแล้ว หรือว่าตกลงไปตามแพลนเดิม”“นั่นดิ เอาไงดีวะนิ้ง อยากไปก็อยากไปนะ เพราะไปเปิดตลาดใหม่ แต่ถ้าไปแล้วงานของน้าจินนี่ทางนี้ล่ะใครจะช่วยดูแล อีกอย่างน้าจินนี่ก็ยังไม่ฟื้น ฉันคงทิ้งเขาไปไหนไม่ได้หรอก”“ถ้าไม่ไปแกจะโดนค่าปรับอะไรรึเปล่าล่ะ” นลินทราถามต่อ“ก็เสียค่าบูธที่จองไว้ให้เขาไปฟรี ๆ นั่นแหละ แล้วก็มีเงินค่าดำเนินการ ค่าประกันสินค้าตอนที่ขนส่งทางเครื่องบินนั่นอีกที่ต้องเสียไปฟรี ๆ เฮ้อ...ช่างมันเถอะ คราวนี้ไม่ได้ไปก็ไว้ไปคราวหน้าก็ได้ ฉันทิ้งน้าจินนี่ไม่ได้จริง ๆ”พลอยพัดชาคุยกับนลินทราอีกไม่นานก็วางสาย จากนั้นหญิงสาวจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำเพราะตั้งใจจะนอนแช่น้ำอุ่นสักครู่แล้วค่อยแต่งตัวลงไปเคลียร์งานที่ร้านพัดชา เจมส์หญิงสาวเอนศีรษะพิงขอบอ่างพลางหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย เมื่อคืนเธอได้นอนน้อยมาก ทั้งยังต้องตื่นแต่เช้าเพื่อหนีมาที่นี่อีก แต่น่าแปลกที่กลับไม่มีอาการอ่อนล้าหรือง่วงงุนเลยแม้แต่น้อยแต่แล้วจมูกของเธอก็ได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอันแสนคุ้นเคยอยู่ใกล้ตัว
วันต่อมา พลอยพัดชาย้ายกลับไปนอนที่บ้านใหญ่เพราะวันนี้มีนัดประชุมงานกับผู้ดูแลนักแสดงทุกคนที่อยู่ในสังกัดของจินตวาตี ซึ่งแต่ละคนนั้นรู้จักพลอยพัดชาเป็นอย่างดีกันอยู่แล้ว การพูดคุยและอธิบายงานจึงเป็นไปอย่างราบรื่น และงานดูแลศิลปินเหล่านี้พลอยพัดชาก็พอรู้มาจากผู้เป็นน้าบ้าง จึงไม่มีอะไรต้องกังวล มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่หญิงสาวยังไม่กล้าตัดสินใจ คือการเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าแบรนด์ต่าง ๆ รวมไปถึงค่าตัวของนักแสดงแต่ละคน“เขาสนใจให้นาน่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ครีมอาบน้ำหรือ แล้วพี่ส้มคิดว่าควรเรียกค่าตัวเท่าไร”พลอยพัดชาจำได้ว่านาน่า เป็นนักแสดงหน้าใหม่ในสังกัด ดังมาจากละครเรื่องหนึ่งที่ฉายทางโทรทัศน์ ทั้งยังเป็นละครเรื่องแรกของเจ้าตัวอีกด้วย แต่กลับโด่งดังเป็นที่รู้จักของแฟน ๆ เป็นอย่างมากส้มกางมือออกทั้งห้านิ้ว พลอยพัดชาจึงพยักหน้ารับรู้แล้วถามว่า“ราคานี้คือราคาที่น้าจินนี่เสนอให้เขาไปใช่ไหมคะ เพียงแต่เขาต้องเอาไปเสนอผู้บริหารอีกที”“ใช่ เสนอไปตั้งนานแล้วละ แต่เขาเพิ่งติดต่อมาเมื่อวานซืนนี้เอง สงสัยผู้บริหารเพิ่งอนุมัติ เขาบอกว่
ความอึดอัดราวกับมีบางสิ่งที่หนาและหนักกดทับลำตัวผสานไปกับอาการมวนท้องที่เริ่มตีตื้นขึ้นมาจากกระเพาะอาหาร ทำให้หัวคิ้วของพลอยพัดชาขมวดมุ่นอย่างไม่ชอบใจ อีกทั้งสิ่งที่หนาและหนักบนตัวนั้นก็ดูเหมือนกำลังเคลื่อนไหวไปมาอย่างเชื่องช้าอีกด้วยเธออยากลืมตามองให้ชัดว่าคืออะไรกันแน่ แต่เปลือกตาก็หนักอึ้งราวกับมีอะไรถ่วงไว้ รับรู้ได้แค่ว่าสิ่งนั้นมาซุกไซ้อยู่ตรงซอกคอ และหน้าอกก็ถูกบีบเคล้นหนักเบาสลับกันไปด้วยความมึนงงและสติที่ยังไม่กลับมาเต็มร้อย จึงทำให้หญิงสาวยังคิดอะไรไม่ออกจนกระทั่งได้ยินเสียงทุ้มของใครบางคน“อืม...นมสวยดีจริง ๆ”เสียงนี้ เสียงพี่ธามไม่ใช่หรือ!ในที่สุดพลอยพัดชาก็กลั้นใจพยายามฝืนลืมตาขึ้นมาจนได้ เธอเห็นเพียงศีรษะของผู้ชายคนหนึ่งกำลังก้มลงหยอกเย้ากับทรวงอกของตนอย่างย่ามใจ ครั้นพอเห็นใบหน้าด้านข้างของชายหนุ่มคนนั้น เธอก็ยิ่งมั่นใจว่าเป็นเขาไม่ผิดแน่ ธาม ศิวะเดชา ผู้ชายที่เธอแอบรักเขามานานหลายปี!ครั้นพอเริ่มมีสติ หญิงสาวก็ใช้เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดผลักคนตัวโตออกไปจากร่างของตนทันที จากนั้นก็กลิ้งตัวไปด้านข้างจนร่างตกลงไปกระแทกพื้น เธอไม่สนใจว่าร่างกายจะบาดเจ็บตรงไหนบ้าง รู้แต่ว่า
สามเดือนก่อนหน้าร่างโปร่งระหงในชุดทำงานเรียบหรูสีดำด้วยกางเกงแปดส่วนกับเสื้อสูทเข้ารูปพอดีตัว เสื้อตัวในเป็นสายเดี่ยวเน้นเนินอกสีแดงสด รับกันดีกับรองเท้าส้นสูงและกระเป๋าสะพายสีเดียวกัน ผมยาวสลวยรวบขึ้นเป็นหางม้า เปิดใบหน้าเรียวเล็กสวยจับตาให้แก่ผู้พบเห็นพลอยพัดชาเดินยิ้มบาง ๆ เข้าไปในลักซ์ แกรนด์ มิราจ โรงแรมหรูระดับห้าดาวย่านใจกลางเมือง จากนั้นก็ขึ้นลิฟต์ไปชั้นสามซึ่งเป็นสำนักงานสำหรับพนักงานและผู้บริหารของโรงแรมนี้เมื่อขึ้นไปถึง หญิงสาวเดินไปทางขวามือแล้วไปหยุดอยู่หน้าห้องที่มีป้ายติดเอาไว้ว่า “General Manager” หญิงสาวคลี่ยิ้มกว้างก่อนยกมือเคาะประตูสามครั้ง รอไม่นานนักผู้เป็นเจ้าของห้องก็เดินมาเปิดให้“พี่ธามขา เที่ยงแล้วนะไปกินข้าวกันเถอะ”ชายหนุ่มเจ้าของชื่อถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างไม่คิดปิดบัง ไม่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าหล่อเหลานั่น ไม่มีแม้กระทั่งแววตายินดีให้เห็น แต่เธอชินเสียแล้วกับปฏิกิริยาตอบรับของเขาที่เป็นแบบนี้“เธอฟังพี่พูดไม่รู้เรื่องรึไงพลอย พี่บอกแล้วไงว่าเที่ยงนี้พี่มีนัดแล้ว และเป็นนัดสำคัญด้วย” หัวคิ้วของธามขมวดมุ่นอย่างไม่สบอารมณ์“เวลาพลอยมาชวนพี่ทีไรพี่ก็พูดแบบนี้ท
“ความจริงแล้วราคาของพัดพารัดชามีหลายเรตค่ะ บางเม็ดก็แพงกว่าเพชรอีก บางเม็ดราคาก็อยู่ในระดับกลาง ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ย ทุกอย่างเราคุยกันได้นะคะ พลอยอยากให้คุณลูกค้าเลือกแบบหรือดีไซน์ที่ถูกใจก่อนดีกว่า ส่วนเรื่องราคาเราค่อยมาคุยกันทีหลังเนอะ” ประโยคหลังพลอยพัดชาทำทีเป็นเอามือป้องปากพูดเสียงเบาจนสองสาวที่เป็นลูกค้ายิ้มกว้าง“แต่เราชอบวงนี้นะ ดีไซน์สวยดี ดูมินิมอลน่ารักดีละ ขอดูวงนี้หน่อยได้ไหมคะ” ลูกค้าอีกคนหนึ่งพูดขึ้น“ได้ค่ะ วงนี้เป็นพิงค์แซฟไฟร์ ตัวพลอยจะอยู่ที่ 0.45 กะรัต เล่นไฟดีมากเลยนะคะวงนี้” พลอยพัดชาหยิบแหวนวงนั้นวางให้ลูกค้าบนถาดผ้าสักหลาด จากนั้นก็พูดต่ออีกว่า“ตัวเรือนเป็นพิงค์โกลด์ 18K ค่ะ เพชรที่บ่าข้างเป็นเพชรแท้น้ำ 98 นะคะ ไม่ใช่เพชร CZ แน่นอนค่ะ ถ้าใส่ไม่ได้หรือไม่พอดีกับนิ้วก็สามารถปรับไซซ์ได้ไม่มีค่าบริการ แต่อาจต้องรอสินค้าประมาณห้าวันซึ่งคุณลูกค้าจะมารับเองที่ร้าน หรือจะให้ทางเราส่งทางไปรษณีย์ไปให้ก็ได้”ในที่สุดพลอยพัดชาก็ขายแหวนพัดพารัดชากับพิงค์แซฟไฟร์ไปได้อย่างละวงรวมถึงสร้อยข้อมือพัดพารัดชาอีกหนึ่งเส้น หญิงสาวยิ้มแก้มแทบปริเพราะสินค้าสามชิ้นนั้นรวมราคาแล้ว
ทั้งพลอยพัดชา นลินทรา และกนกลดาเคยเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันมาก่อน นลินทราเองก็เคยเข้าประกวดเวทีต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกัน จึงทำให้สนิทสนมกับพลอยพัดชามาตั้งแต่นั้น ยิ่งการที่ตนได้มาเป็นดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงจากการแนะนำของพลอยพัดชาเพราะมีน้าเป็นแมวมองและผู้จัดการมือทอง ทั้งสองคนก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้น และก็ทำให้ทั้งคู่มีคู่ปรับคนเดียวกันนั่นคือกนกลดา“อ๋อ กลับมาแล้วหรือ หอบลูกหอบเมียกลับมาด้วยรึเปล่าล่ะ”น้ำเสียงของพลอยพัดชาไม่มีความตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อยเมื่อได้ยินชื่อของรพีพัฒน์ แฟนเก่าที่เคยคบหากันสมัยเรียนมหาวิทยาลัย“แกก็พูดไป พี่พัฒน์เขายังโสดย่ะ ฉันบังเอิญได้เจอพี่เขาตอนไปโชว์ตัวโพรโมตละครเรื่องใหม่ที่ห้างน่ะ เขาถามถึงแกด้วยนะ ถามใหญ่เลยล่ะว่าตอนนี้แกยังเปิดร้านจิวเวลรี่ที่เดิมรึเปล่า มีแฟนรึยัง ถามนั่นถามนี่สารพัด ฉันว่าพี่เขาดูดีกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยนะแก จะไม่ลองเป่าถ่านไฟเก่าให้คุขึ้นมาหน่อยหรือ”“ไม่ล่ะ แกก็รู้จักนิสัยฉันนี่ยายนิ้ง ถ้าฉันคิดหันหลังให้ใครแล้วฉันก็จะไม่หันกลับไปมองอีก”พลอยพัดชาตอบไปตามที่ตนคิด กับผู้ชายที่เคยหลอกลวงเพื่อคบซ้อนกับผู้หญิงอีกคน ผู้ชายที่โลเลไ
วันต่อมา พลอยพัดชาย้ายกลับไปนอนที่บ้านใหญ่เพราะวันนี้มีนัดประชุมงานกับผู้ดูแลนักแสดงทุกคนที่อยู่ในสังกัดของจินตวาตี ซึ่งแต่ละคนนั้นรู้จักพลอยพัดชาเป็นอย่างดีกันอยู่แล้ว การพูดคุยและอธิบายงานจึงเป็นไปอย่างราบรื่น และงานดูแลศิลปินเหล่านี้พลอยพัดชาก็พอรู้มาจากผู้เป็นน้าบ้าง จึงไม่มีอะไรต้องกังวล มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่หญิงสาวยังไม่กล้าตัดสินใจ คือการเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าแบรนด์ต่าง ๆ รวมไปถึงค่าตัวของนักแสดงแต่ละคน“เขาสนใจให้นาน่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ครีมอาบน้ำหรือ แล้วพี่ส้มคิดว่าควรเรียกค่าตัวเท่าไร”พลอยพัดชาจำได้ว่านาน่า เป็นนักแสดงหน้าใหม่ในสังกัด ดังมาจากละครเรื่องหนึ่งที่ฉายทางโทรทัศน์ ทั้งยังเป็นละครเรื่องแรกของเจ้าตัวอีกด้วย แต่กลับโด่งดังเป็นที่รู้จักของแฟน ๆ เป็นอย่างมากส้มกางมือออกทั้งห้านิ้ว พลอยพัดชาจึงพยักหน้ารับรู้แล้วถามว่า“ราคานี้คือราคาที่น้าจินนี่เสนอให้เขาไปใช่ไหมคะ เพียงแต่เขาต้องเอาไปเสนอผู้บริหารอีกที”“ใช่ เสนอไปตั้งนานแล้วละ แต่เขาเพิ่งติดต่อมาเมื่อวานซืนนี้เอง สงสัยผู้บริหารเพิ่งอนุมัติ เขาบอกว่
“แล้วนี่แกจะทำยังไงต่อ จะแคนเซิลไม่ไปแล้ว หรือว่าตกลงไปตามแพลนเดิม”“นั่นดิ เอาไงดีวะนิ้ง อยากไปก็อยากไปนะ เพราะไปเปิดตลาดใหม่ แต่ถ้าไปแล้วงานของน้าจินนี่ทางนี้ล่ะใครจะช่วยดูแล อีกอย่างน้าจินนี่ก็ยังไม่ฟื้น ฉันคงทิ้งเขาไปไหนไม่ได้หรอก”“ถ้าไม่ไปแกจะโดนค่าปรับอะไรรึเปล่าล่ะ” นลินทราถามต่อ“ก็เสียค่าบูธที่จองไว้ให้เขาไปฟรี ๆ นั่นแหละ แล้วก็มีเงินค่าดำเนินการ ค่าประกันสินค้าตอนที่ขนส่งทางเครื่องบินนั่นอีกที่ต้องเสียไปฟรี ๆ เฮ้อ...ช่างมันเถอะ คราวนี้ไม่ได้ไปก็ไว้ไปคราวหน้าก็ได้ ฉันทิ้งน้าจินนี่ไม่ได้จริง ๆ”พลอยพัดชาคุยกับนลินทราอีกไม่นานก็วางสาย จากนั้นหญิงสาวจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำเพราะตั้งใจจะนอนแช่น้ำอุ่นสักครู่แล้วค่อยแต่งตัวลงไปเคลียร์งานที่ร้านพัดชา เจมส์หญิงสาวเอนศีรษะพิงขอบอ่างพลางหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย เมื่อคืนเธอได้นอนน้อยมาก ทั้งยังต้องตื่นแต่เช้าเพื่อหนีมาที่นี่อีก แต่น่าแปลกที่กลับไม่มีอาการอ่อนล้าหรือง่วงงุนเลยแม้แต่น้อยแต่แล้วจมูกของเธอก็ได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอันแสนคุ้นเคยอยู่ใกล้ตัว
ตอนนี้เขาให้ปวีณาไปซื้ออาหารมาตุนไว้ และออกไปหาซื้อแว่นกรอบดำกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวราคาถูกมาให้เขาใส่ รวมถึงซื้อครีมรองพื้นสีเข้มมาด้วย เพราะเขาต้องเอาไว้ใช้ในการปลอมตัว โชคดีที่ตอนช่วงเช้าของที่นี่จะมีตลาดนัด อีกทั้งยังมีร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่ใกล้กับบังกะโลอีกด้วยแต่ถึงอย่างนั้น ลางสังหรณ์ของเขาก็บอกว่าเขาเหลือเวลาหลบหนีอีกไม่นานแล้วเสียงเคาะประตูห้องสองครั้ง กวินภพจึงเดินไปเปิดประตูเพราะรู้ว่าคนที่มาคือปวีณา เขาเห็นหญิงสาวถือข้าวของพะรุงพะรังเข้ามาในห้องจึงรีบเข้าไปช่วยถือ ปวีณาเดินไปนั่งพักอยู่บนเตียงพลางเอามือจับบั้นเอวของตัวเองแล้วบิดตัวเล็กน้อย ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นจึงอดรู้สึกผิดไม่ได้“ปวดหลังละสิ เดี๋ยวก้าวนวดให้ละกัน” พูดจบเขาก็ขึ้นเตียงไปนั่งซ้อนหลังของภรรยาแล้วลงมือนวดเบา ๆ“ก้าวกินข้าวก่อนเถอะ ไม่หิวหรือ ก้าวยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ”“ยังไม่หิว” เขาตอบสั้น ๆ หลังจากที่นวดไปพักหนึ่ง จู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นว่า“ปลา ถ้าก้าวถูกตำรวจจับแล้วติดคุก ปลาห้ามไปเยี่ยมก
กวินภพโกรธจนแทบคลั่ง ชายหนุ่มเดินมาถึงประตูรั้วหน้าบ้านที่จอดรถไว้ เขายืนนิ่งพลางคิดว่าไหน ๆ ชื่อเสียงของเขาก็ไม่มีเหลือแล้ว ทุกอย่างหายวับไปกับตาเพียงชั่วข้ามคืนเพราะคนเพียงคนเดียว ในเมื่อจินตวาตีต้องการให้เขาจมดิ่งลงใต้น้ำ เขาก็จะลากอีกฝ่ายลงไปด้วยคิดได้ดังนั้นชายหนุ่มจึงเดินกลับไปที่สระว่ายน้ำอีกครั้งอย่างเงียบเชียบ เขาเห็นจินตวาตีกำลังนอนหลับตาอยู่ที่เดิม เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้หลับแต่แค่พักสายตาเท่านั้น จึงโพล่งถามออกไปตามตรง“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้เป็นฝีมือพี่ใช่ไหม”จินตวาตีลืมตาขึ้นพลางถอนหายใจแผ่วก่อนตอบว่า“ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”“โกหก! พี่ต้องเป็นคนทำแน่ ผมไม่เคยมีเรื่องกับใครที่ไหน คนเดียวที่ผมมีเรื่องด้วยก็คือคุณพลอยหลานของพี่ พี่ไม่ชอบให้ผมไปยุ่งกับเขา พี่ก็เลยจัดการผมโดยไม่ให้ผมได้อยู่ในวงการอีกใช่ไหม”“ถ้าฉันทำจริงฉันก็จะยอมรับ แต่ถ้าไม่ได้ทำฉันก็จะไม่ยอมรับเด็ดขาด และถ้าเธอเชื่อไปแล้วว่าฉันเป็นคนทำ ฉันก็คงไม่มีอะไรจะพูดอีก ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว”พูดจบจิน
หกชั่วโมงก่อนหน้า“แกเคยเป็นเด็กทำงานในโฮสต์คลับใช่ไหม”จินตวาตีพูดขึ้นลอย ๆ เมื่อเห็นปฏิกิริยาตื่นตกใจของอีกฝ่ายก็ยิ่งแน่ใจว่าข่าวที่ได้รับรู้มานั้นน่าจะถูกต้องแล้ว“ไม่จริงนะครับพี่จินนี่ ผมไม่เคยทำงานแบบนั้น”กวินภพปฏิเสธเสียงแข็ง หากแต่สายตากลับหลุกหลิกไม่กล้ามองสบตากับจินตวาตีตรง ๆ“ตามที่ฉันรู้มา แกไม่ได้เป็นเด็กโฮสต์อย่างเดียว แกยังมีคนอุปการะด้วยนี่ และไม่ใช่แค่คนหรือสองคนด้วย มีคนให้ภาพกับคลิปแบบลับเฉพาะกับฉันมา รู้ไหมว่าภาพอะไร...ภาพตอนที่แกติดเบอร์ตองเจ็ดไว้ที่ขอบกางเกงใน กับคลิปที่แกเต้นตามโต๊ะลูกค้าด้วยกางเกงในตัวเดียวแล้วมีสาว ๆ สอดเงินเข้าไปในกางเกงในไงละ”จินตวาตีรู้เรื่องนี้มาจากข้อมูลที่ธามไปสืบมาให้ ดังนั้นเธอจึงลองไปเลียบเคียงถามจากหนุ่มโฮสต์ที่สนิทกัน ตอนแรกฝ่ายนั้นดูเหมือนไม่อยากพูดอะไรมากเพราะเรื่องผ่านไปหลายปีแล้ว และเขาเองก็ไม่เคยเจอกวินภพตัวจริงสักครั้ง เคยแต่ได้ยินคนพูดกันในร้านเท่านั้นว่ากวินภพเคยทำงานที่นี่ ทั้งยังยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเรื่องจริง นอกจากนี้ย
ธามปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่งทำการเก็บหลักฐานบริเวณสระว่ายน้ำ ส่วนเขาก็พาตำรวจอีกสองคนไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดในห้องทำงานเพื่อใช้คลิปเหล่านี้เป็นหลักฐานในการออกหมายจับกวินภพ“ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ เป็นดาราแล้วมาทำเรื่องแบบนี้ได้ น้องสาวผมชอบเขามากเลยนะ” ตำรวจนายหนึ่งดูคลิปนั้นแล้วได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเสียดายธามแค่นยิ้มเล็กน้อยพลางคิดในใจว่าตำรวจคนนี้ไม่ผิดที่คิดว่าดารานักแสดงทุกคนจะไม่มีคนไม่ดี เพราะภาพลักษณ์ของคนที่ทำอาชีพนี้เมื่อออกสื่อก็ต้องสร้างให้ตัวเองดูดีเพื่อเป็นแบบอย่างของสังคม ทั้งที่ความจริงแล้วบางคนนิสัยใจคออาจไปคนละทางกับภาพลักษณ์ที่แสดงออกมาเลยก็เป็นได้แต่สำหรับเขาแล้วไม่ว่าจะอยู่ในวงการไหนก็มีคนเลวปะปนอยู่ด้วยทั้งนั้น เพียงแต่คนหน้าตาดีมักได้โอกาสและได้ภาษีดีกว่าคนหน้าตาธรรมดา นี่เป็นสิ่งที่มีมาเนิ่นนาน แม้บางคนจะพร่ำพูดอยู่เสมอว่าไม่คบคนที่หน้าตา แต่พอถึงเวลาจริง ๆ สายตาก็มักจะมองไปที่คนหน้าตาดีกว่าก่อนเสมอ“คุณพอจะทราบเหตุจูงใจไหมครับ” ตำรวจนายหนึ่งหันมาถามเขา เขาจึงตีหน้าซื่อ ไม่รู้เรื่องใ
เขาโยนกระเป๋าเป้ที่ใส่เงินปึกใหญ่ไปไว้ด้านหลังซึ่งปวีณานั่งอยู่เพื่อให้เธอเก็บรวบรวมเงินสดเอาไว้ใช้สอยตอนที่ต้องหลบหนี เพราะคงไม่ดีแน่หากบัญชีของเขาต้องถูกอายัด ดังนั้นก่อนหน้านี้เขาจึงโอนเงินทั้งหมดของตนไปใส่ไว้ในบัญชีของปวีณา จากนั้นก็ไล่ถอนเงินสดออกมาเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เจอตู้เอทีเอ็ม“แล้วเราจะไปไหนกันดีละก้าว”หลังจากที่นั่งรถมาด้วยกันร่วมชั่วโมง ในที่สุดปวีณาก็เอ่ยปากพูดอีกครั้งหลังจากที่รับรู้มาว่าก่อนหน้านี้กวินภพไปทำอะไรมา“ตอนนี้เรามีเงินติดตัวเท่าไรแล้ว” กวินภพไม่ตอบแต่กลับถามไปอีกเรื่อง“เกือบห้าแสน”“งั้นเราคงต้องหาห้องเช่าสักห้องอยู่ไปก่อน ไปแถว ๆ ภาคใต้น่าจะดี”“ปลาคิดว่าก้าวจะขับไปทางภาคอีสานซะอีก”“ก็แค่หลอกตำรวจน่ะ เพราะเราถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มกันมาตลอดทาง เขาต้องเช็กแน่ว่าเราคงขึ้นไปภาคอีสาน แต่ความจริงเราวกรถกลับลงใต้”ปวีณาลอบถอนหายใจแล้วเอนหลังพิงเบาะรถ กวินภพทำอย่างนั้นกับจินตวาตีย่อมไม่พ้นข้อหาพยายามฆ่า ตอนนี้เธอได้แต่ภาวนาให้จินตวาต
เพียงแค่นั้น ความอบอุ่นจากในหัวใจก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายจนทำให้เธอรู้สึกว่านอกจากผู้เป็นน้าอย่างจินตวาตีแล้ว ก็ยังมีเขาอีกคนหนึ่งที่เธอพึ่งพาได้“พลอยอยากไปดูที่สระว่ายน้ำก่อนค่ะ” เธอบอกเขาเบา ๆ พลางชี้ไปยังสระว่ายน้ำที่อยู่ทางฝั่งขวาของตัวบ้านเมื่อทั้งสองคนเดินมาถึง พลอยพัดชาก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นน้ำสีแดงกองใหญ่อยู่บนพื้น ซึ่งหากแม่บ้านไม่บอกเอาไว้ก่อนหน้านี้เธอคงคิดว่าเป็นกองเลือดแน่นอน แต่ธามไม่รู้เรื่องนี้ เมื่อหันไปมองหน้าเขาจึงเห็นชายหนุ่มมีท่าทางอึ้งไป และมีสีหน้าไม่ดีนัก“เป็นไวน์ค่ะไม่ใช่เลือดหรอก พี่นวลบอกว่าขวดไวน์มันหกไหลลงมาบนพื้น แล้วก็มีแก้วไวน์แตกอยู่”พูดถึงตรงนี้หญิงสาวก็ก้มลงมองเศษแก้วที่กระจัดกระจายอยู่บริเวณนั้น เดาว่าตอนที่มีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลมารับตัวจินตวาตี คงจะเผลอเตะเศษแก้วไปบ้าง จึงคิดจะหยิบมากองรวมกันไว้คนอื่นจะได้ไม่เผลอเหยียบ แต่ธามรีบเอ่ยปากห้าม“อย่าไปแตะนะพลอย ถ้าน้าจินนี่ถูกทำร้ายจริง พี่ว่าตรงนี้ให้ตำรวจเขาจัดการดีกว่า ให้มันอยู่สภาพเดิมไปอย่างนี้แหละไม่อย่างนั้นหลักฐาน
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นกลางดึกสงัด ส่งผลให้คนที่นอนหลับอยู่บนเตียงสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ พลอยพัดชาเอื้อมหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะข้างเตียงมากดรับสายทันทีเมื่อเห็นว่าผู้ที่โทร. เข้ามาคือนวล แม่บ้านของบ้านใหญ่“ค่ะพี่นวล” พลอยพัดชาลุกขึ้นนั่ง รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอย่างบอกไม่ถูกเพราะไม่บ่อยนักที่แม่บ้านจะโทรศัพท์มาหากลางดึก“ว่าไงนะ! ได้ค่ะพลอยจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย”พลอยพัดชาเด้งตัวจากที่นอนแล้ววิ่งไปหาเสื้อผ้ามาสวมอย่างลวก ๆ จากนั้นก็คว้ากระเป๋าสะพายแล้ววิ่งออกจากห้องทันทีไม่ถึงครึ่งชั่วโมงพลอยพัดชาก็มาถึงโรงพยาบาล หญิงสาวรีบเดินเข้าไปถามกับเคาน์เตอร์ต้อนรับด้านหน้าเพื่อถามว่าแผนกฉุกเฉินไปทางไหน ครั้นพอได้คำตอบแล้วก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปทางนั้นอย่างไม่รอช้าเมื่อถึงหน้าห้องฉุกเฉิน แม่บ้านทั้งสองคนนั่งรออยู่ด้านนอก แต่ละคนเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก พลอยพัดชาจึงรีบเดินเข้าไปหา“พี่นวล พี่แป๋ม” แม้หญิงสาวจะบอกให้ตัวเองใจเย็น กระนั้นเสียงที่พูดออกไปก็ยังสั่นพร่า กระบอกตาร้อนผ่าวและใจหวิว ๆ จนมือสั่นไปห